“พี่ส้มก็เป็นหลานป้าองุ่นเหมือนกัน ถ้าคุณเห็นแก่ป้าฉันจริงก็ไม่น่าจะทำให้หลานสาวของป้าเสียใจเลย”
“ใครเสียใจ? ส้มหวานเหรอ”
แววตาหยอกล้อหายวับไป ท่าทีเขาจริงจังขึ้นเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าคลิปนี้อาจมีคนเสียใจหรือเข้าใจผิด แต่มนิษาส่ายหน้า
“เปล่า พี่ส้มไม่ใช่คนงี่เง่าอะไรแบบนั้น แต่ฉันเองที่อยากรู้ ไม่ใช่เพราะฉันชอบคุณจนอยากได้มาเป็นพี่ชายอีกคนหรอกนะ แต่เพราะฉันไม่ชอบคุณมาก ๆ ต่างหาก ก็เลยอยากให้คุณยอมรับตรง ๆ ว่าคุณคบผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ส้มอยู่...คุณมีแฟนอยู่แล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่ครับ พี่โสดล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนเพื่อนผู้หญิงในคลิป ก็เพื่อนกันจริง ๆ เพื่อนสนิทมาก ๆ ด้วย”
“สนิทถึงขั้นถูกเนื้อต้องตัวกันขนาดนั้นเลยหรือไง”
“อืม ใช่”
ธีทัตไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เขาสบสายตากลมโตของ มนิษาก่อนเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“บางทีพี่กับเพื่อนก็ไม่ทันได้ระวังตัว ถ้ามะนาวไม่ชอบ คราวหน้าพี่จะระวังให้มากกว่านี้ก็แล้วกัน”
“นาวจะชอบหรือไม่ชอบไม่ได้เกี่ยวอะไรสักหน่อย”
“เกี่ยวสิ พี่ยังอยากเข้านอกออกในบ้านของมะนาวกับป้าองุ่นอยู่ ถ้าทำให้มะนาวเกลียดขี้หน้าก็คงไม่ดีเท่าไร”
หญิงสาวฮึดฮัด ทำไมน้ำเสียงของธีทัตถึงฟังดูใจเย็นจนน่าหงุดหงิดพิกล
“ถ้าฉันบอกว่าไม่อยากให้คุณไปมาหาสู่กับพี่ส้มอีกคุณจะว่ายังไง พี่ส้มเป็นคนดีมาก ดีที่สุด แถมยังเรียบร้อยอ่อนหวาน ไม่เหมาะกับผู้ชายเจ้าชู้รอบจัดอย่างคุณหรอกนะคุณธีทัต”
“พี่ว่ามะนาวก็ชมพี่เกินไป”
ธีทัตอดยวนไม่ได้
“พี่ยอมรับก็ได้ว่าพี่กับส้มหวานอาจจะแตกต่างกันมาก ใครเห็นก็คงคิดว่าพี่ไม่เหมาะกับส้ม ถ้าอย่างนั้นในความคิดของมะนาว พี่ต้องเหมาะกับสาว ๆ แบบไหนดีล่ะ แบบมะนาวพอได้ไหม”
“กรี๊ด อี๋ อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ อย่างคุณน่ะเห็นแค่เงาก็รู้แล้วว่าเจ้าชู้แน่ ๆ แต่คุณจะไปทำนิสัยแบบนี้กับใครก็เรื่องของคุณ แต่ต้องไม่ใช่กับพี่สาวของฉัน ฉันไม่อยากให้พี่ส้มต้องทุกข์ทรมานกับชีวิตแต่งงาน คุณเข้าใจใช่ไหม”
“แล้วทำไมมะนาวถึงคิดว่าพี่สาวจะไม่มีความสุขถ้าแต่งงานกับพี่ล่ะครับ”
“มันก็เห็นเห็นกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ฉันมั่นใจนะว่าคุณน่ะต่อให้แต่งงานแล้วก็คงจะหยุดหว่านเสน่ห์ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นคุณอย่าทำร้ายชีวิตพี่สาวฉันด้วยการแต่งงานกับพี่เลยนะฉันขอร้อง”
ธีทัตส่ายหน้า
“พูดจาใจร้ายกับพี่จังเลยนะ พี่ธีมั่นใจว่าเราสองคนแทบไม่เคยได้พูดคุยกัน แต่ทำไมมะนาวถึงตัดสินว่าพี่ธีแย่ถึงขนาดนั้น”
“นาว...ฉันก็ไม่ได้กล่าวหาคุณลอย ๆ นี่ แต่ฉันมีหลักฐานอย่างเช่นคลิปในโทรศัพท์นี้ไง อีกอย่างนะไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสังคมคนดังอย่างคุณน่ะมันก็ไม่ใช่ความลับอะไรไม่ใช่หรือ แต่คุณจะใช้ชีวิตยังไงฉันไม่เคยสนใจเลยถ้าไม่เพราะป้าองุ่นพยายามจับคู่คุณให้กับพี่ส้ม”
“ก็แล้วทำไมไม่ให้ส้มหวานปฏิเสธเองล่ะครับ”
“พี่ส้มเป็นคนหัวอ่อนใจอ่อน ป้าองุ่นพูดอะไรพี่ก็ไม่เคยเถียง ไม่เคยขัดใจ แต่ถ้าคุณจะกรุณาเป็นฝ่ายปฏิเสธเสียเอง มันก็คงจะง่ายกว่าเพราะจะว่าไปคนเท่ ๆ คูล ๆ อย่างคุณก็คงไม่ยอมให้ใครบังคับคลุมถุงชนหรอก จริงไหม”
มนิษากัดฟันชมเขา เผื่อว่าธีทัตจะตกหลุมพราง
“อืม...ที่มะนาวพูดมาก็ฟังดูมีเหตุผลนะ”
ชายหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ แกล้งกอดอก ลูบคาง สีหน้าครุ่นคิด
“เอาไว้พี่จะลองเก็บไปคิดดูแล้วกันว่าจะเอายังไง เพราะว่าแม่ของพี่กับน้าองุ่นเขาสนิทกันมาก แล้วเขาทั้งคู่ก็หวังไว้เยอะ พี่ธีไม่อยากให้ผู้ใหญ่ผิดหวัง เอาไว้จะลองคิดดูว่ามีหนทางอะไรที่ละมุนละม่อมแล้วดีต่อทั้งสองฝ่าย...”
“คุณพูดจริงนะ”
มนิษามองอย่างคลางแคลง เธอเตรียมตัวมาโต้เถียงเต็มที่ ไม่คิดว่าเขาจะยอมง่าย ๆ แบบนี้
“จริงสิ จริงที่บอกว่าจะกลับไปคิดดูก่อน ยังไม่ได้รับปากอะไร เอาล่ะ สรุปว่าเรื่องนี้จบแล้วนะ นี่ก็กำลังจะเที่ยง มะนาวมีนัดหรือยัง พี่จะออกไปหาอะไรกินอยู่พอดี ไปกินอะไรด้วยกันไหม”
มนิษานิ่งไปนิดก่อนจะเบ้ปาก
“เชิญตามสบายเถอะ ฉันหวังว่าคงจะไม่ได้พบคุณอีกนะคะ ขอบคุณมาก”
พูดจบก็เดินฉับ ๆ ตัดสนามหญ้าออกไป
ธีทัตมองส่งด้วยสายตาพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ
มนิษาพูดถูกอย่างหนึ่ง นั่นคือเขากับพี่สาวของเธอแทบจะยังไม่รู้จักกัน แม้ว่าแม่ของเขากับป้าของสองสาวจะสนิทกันมาเกือบทั้งชีวิต แต่แม่ก็ส่งธีทัตไปเรียนต่อเมืองนอกตอนอยู่ชั้นไฮสกูล เมื่อกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทยเขาก็ขลุกอยู่แต่กับกลุ่มเพื่อน จึงไม่ได้สนิทชิดใกล้กับสริดาและมนิษา หากสองสาวจะรู้สึกต่อเขาเสมือนคนแปลกหน้าก็ไม่แปลกอะไร
แต่การที่คนเป็นน้องสาวออกตัวแรงแสดงอาการต่อต้านอย่างเต็มตัวแบบนี้ ทำให้ธีทัตนึกสนุกและอยากกวนประสาทเธอขึ้นมาเสียเฉย ๆ
ครั้งแรก ๆ เขาแวะเวียนไปทักทายสริดาด้วยมารยาทเพราะไม่อยากขัดใจแม่และเกรงใจน้าองุ่น
ครั้งต่อ ๆ มาเขาแวะไปด้วยความเต็มใจเพราะคนงานแทบทุกคนในบ้านนั้นคุยสนุกและสริดาก็เป็นคนน่ารัก จิตใจดี เป็นเหมือนน้องสาวที่เขาไม่เคยมีแต่ฝันอยากมีมาโดยตลอด แปลกที่เขาก็สัมผัสได้เช่นกันว่าสริดาก็รู้สึกกับเขาเหมือนเป็นพี่ชาย ธีทัตจึงสะดวกใจที่จะได้แวะไปบ้านนั้นตามสมควร แต่มนิษากลับคอยแต่จะจ้องเขาด้วยตากลมที่ลุกวาบ ๆ เหมือนอยากสิงร่างแล้วแหกตับเขาอยู่ตลอดเวลา...
น่าสงสารเจ้ามะนาวต้นเล็กเสียเหลือเกิน อุตส่าห์มาถึงนี่เพราะอยากกีดกันเขาออกจากชีวิตของพี่สาวตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไปในทางตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
หญิงสาวขมวดคิ้ว เมื่อจอดรถไว้หน้ารั้วบ้านก็ต้องทำใจอยู่สักพักกว่าจะยอมลงจากรถศรัณส่งยิ้มอบอุ่นหล่อเหลามาให้ มือประคองช่อกุหลาบช่อใหญ่ไว้ด้วย เธอจ้องดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่หลายดอกที่ถูกจัดอย่างประณีต ไม่ใช่เพราะประทับใจแต่เพราะไม่อยากจะมองหน้าเจ้าของช่อดอกไม้ตรง ๆ“น้องส้ม...พี่คิดถึงส้มจังเลยครับ”ศรัณเอ่ยเสียงนุ่มพลางยื่นช่อกุหลาบให้หญิงสาวที่เขาตั้งใจมาหา แต่หนนี้สริดาไม่แม้แต่จะรักษาน้ำใจด้วยการรับไว้“คราวก่อนส้มพูดชัดแล้วนะคะว่าไม่อยากให้พี่โซ่กลับมาที่นี่อีก”“พี่รู้ แต่พี่คิดถึงส้มมากเกินไป หลายวันมานี้พี่แทบไม่มีสมาธิทำงานเลยนะครับ...ในหัวพี่คิดถึงแต่เรื่องของส้มตลอดเวลา ว่าต้องทำยังไงส้มถึงจะเชื่อว่าพี่รักแล้วก็จริงจังกับส้มจริง ๆ”สริดาถอนหายใจ เหลือจะเชื่อจริง ๆ ผู้ชายคนนี้“กลับไปเถอะค่ะ อย่าให้ส้มต้องไล่ซ้ำซากเลย ส้มเหนื่อย...”“พี่จะกลับแต่อยากให้ส้มรู้ว่าเมียพี่...ภรรยาตามกฎหมายคนนั้น เขายินดีหย่าให้พี่แล้ว อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมียมานานหลายปีแล้ว ที่ทนอยู่ก็เพราะลูก แต่ตอนนี้เขายอมรับแล้วว่าเขาก็ไม่อยากแกล้งพี่อีกต่อไป เขาจะหย่าให้ครับ”“ถ้าอย่างนั้น
วันพระใหญ่ สริดากับองุ่นออกไปทำบุญที่วัดตั้งแต่ตอนกลางวัน คนเป็นป้ายังคงรู้สึกผิด แม้หลานสาวบอกให้ลืมมันไปได้แล้วก็ตาม“กรวดน้ำไปเยอะ ๆ เลยนะลูก พวกเจ้ากรรมนายเวรมันจะได้ไม่มารังควานเราอีก”องุ่นบอกหลานสาว สริดาอดยิ้มขันไม่ได้โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ป้าขอน้ำมนตร์จากหลวงพ่อ เพื่อจะมาผสมน้ำอาบ ไล่เสนียดจัญไรออกจากชีวิต“นายคนนั้นมันติดต่อเรามาอีกไหมส้มหวาน”หลังจากไม่ได้เอ่ยชื่อศรัณมานาน องุ่นก็เลียบเคียงถามจนได้ สริดาอยากปิดเรื่องที่เขาแวะมาที่บ้านหลายวันก่อนแต่ก็ตัดสินใจบอกความจริงไป“เวรกรรม ยังกล้ามาอีกหรือนี่ มันมาเซ้าซี้ตอแยอะไรอีกได้ แล้วได้แจ้งตำรวจหรือเปล่าลูก”“เขายังไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะป้าหงุ่น ไม่ต้องห่วงนะคะ”สริดารีบบอก“ป้าหงุ่นอย่าเพิ่งบอกน้องนะคะ แค่เลี้ยงทิวลิป มะนาวก็น่าจะวุ่นพออยู่แล้ว”“อืม ป้าไม่บอกหรอก แต่ส้มก็อย่าประมาทนะลูก บอกคนงานให้เฝ้าบ้านกันดี ๆ แล้วถ้ามันกลับมาอีกก็โทรแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกไปเลย”“ค่ะป้าหงุ่น”สริดารับคำเพื่อให้ผู้อาวุโสสบายใจ เอาไว้ถ้าศรัณยังไม่ยอมเลิกราจริง ๆ ตอนนั้นเธอค่อยใช้ไม้แข็งกับเขาอย่างที่ป้าบอกก็แล้วกัน**“เมื่อไรจะหายเห่อลูกสักที ใจคอ
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่วิศวินต้องกลับออสเตรเลีย จากสนามบินเชียงใหม่ชายหนุ่มต้องไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ เขาไม่ได้ให้ใครมาส่งนอกจากลูกพี่ลูกน้อง“แล้วจะกลับมาอีกเมื่อไร”ธีทัตถาม วิศวินหัวเราะ“ฉันยังอยู่ไม่จุใจนายอีกเหรอ นี่ก็อยู่จนแม่นึกว่าฉันจะกลับมาอยู่เชียงใหม่แล้วนะ”“ก็ถาม ๆ ดู เผื่อว่าหนนี้มีอะไรจูงใจให้นายกลับมา”ธีทัตเอ่ยทีเล่นทีจริง“ตกลงแกกับส้มหวานนี่มันยังไงวะ”“ก็ไม่ไงนี่”วิศวินทำเป็นง่วนกับการตรวจเช็คความเรียบร้อยของกระเป๋าและตั๋วโดยสาร“ส้มหวานก็น่ารักดี คุยด้วยแล้วสบายใจ... น่าเห็นใจเขาที่เจอผู้ชายที่ไม่ดี”“ก็เพราะผู้ชายดี ๆ มันไม่กล้าจีบน่ะสิ ไอ้พวกไม่ดีเลยเอาไปกินเสียหมด”“มันก็ต้องมีคนดี ๆ หลงเหลือบ้างล่ะน่า... คนที่ใช้ชีวิตอยู่ใกล้กับเขาได้ ดูแลเขาได้...”วิศวินเอ่ยเบา ๆ เหมือนตั้งใจจะพูดกับตัวเองถ้าเป็นเมื่อก่อนธีทัตอาจจะยุให้ลูกพี่ลูกน้องเดินหน้าสานสัมพันธ์กับสริดาให้รู้แล้วรู้รอดและเขาจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้ด้วยอีกแรง แต่หลังจากผ่านเรื่องอะไรต่อมิอะไรมาทั้งร้ายและดี ชายหนุ่มพ่อลูกอ่อนจึงคิดว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติโดยตัวเขาเองไม่ต้องเข้าไปยุ่งจะดีกว่า
ระหว่างรอธีทัตซื้ออาหารอีสานมาสมทบ สริดาเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มอีกสองสามเมนูเพราะป้าองุ่นก็จะมาร่วมโต๊ะด้วยเช่นกัน“มะนาวไปนั่งดูทีวีรอพี่ข้างนอกไป จะมานั่งทำไมในครัว”เธอบอกน้องสาว มนิษาบ่นอุบอิบแต่ก็ยอมหยิบข้าวต้มมัดที่นึ่งสุกแล้วใส่จานเดินออกจากครัว ปล่อยให้พี่สาวกับนิดหน่อยช่วยกันล้างผักหั่นผักกันไป นาทีต่อมาวิศวินก็เดินพับแขนเสื้อเข้ามา“พี่วิน จะรับอะไรหรือคะ”“เปล่าครับ พี่จะมาช่วยเป็นลูกมือน่ะ”“ขอบคุณนะคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ส้มกับนิดหน่อยทำสองคนก็ไหว พี่วินไปนั่งคุยกับมะนาวเถอะค่ะ”“มะนาวก็ไล่พี่มาช่วยส้มเหมือนกัน” วิศวินอ้างส่งเดช “ให้พี่ช่วยเถอะครับ พี่ทำครัวเป็นนะ”“จริงหรือคะ”เป็นนิดหน่อยที่ถาม ชายหนุ่มพยักหน้ายืนยันพลางเดินไปหยิบมีดทำครัวขึ้นมาหนึ่งเล่ม“ให้พี่หั่นผักให้ดูไหมล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าโม้”สริดาเกรงใจแต่ก็ยอมหลีกทางให้ และฝีมือหั่นผักด้วยความเร็วและเนี้ยบระดับพ่อครัวมืออาชีพก็ทำให้สองสาวอ้าปากค้าง“โอ้โห...อย่างกับที่เขาแข่งทำอาหารในโทรทัศน์แน่ะพี่ส้ม”นิดหน่อยร้องอย่างตื่นเต้น วิศวินหัวเราะเบา ๆ“ตอนพี่จบไฮสกูล...หมายถึงม.ปลายน่ะ พี่ไปเรียนเป็นเชฟอยู่เกือบสามปีเ
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากศรัณกลับไปกับครอบครัวของเขาในวันนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาเองก็ไม่กล้าโผล่กลับมาให้เห็นหน้าอีก ทำเพียงส่งข้อความมาขอโทษสริดาและบอกว่าจะกลับมาอธิบายทุกอย่างทีหลัง“ส้มหวานเป็นไงบ้างวะไอ้ธี”วิศวินถามธีทัตหลังผ่านงานหมั้นไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ เพราะตั้งแต่วันนั้นเขาก็ยังไม่ได้เจอสริดาเลย ครั้นจะไปหาเธอที่บ้านหรือส่งข้อความไปก็ไม่แน่ใจว่าจะยิ่งทำให้เธอไม่สบายใจหรือเปล่า“เห็นมะนาวบอกว่าก็ยังสบายดีนะ อาจมีโกรธบ้างแต่รวม ๆ ก็เหมือนทำใจได้”“แปลก แล้วจะเอายังไงต่อกับผู้ชายคนนั้น ครอบครัวเขา เมียเขา จะมาเอาเรื่องอะไรอีกไหม”วิศวินยังถามต่อด้วยความเป็นห่วง ธีทัตส่ายหน้า“เท่าที่รู้ ทางนั้นไม่ได้ติดต่ออะไรมาอีก คงไม่อยากยุ่งกับเราเหมือนกัน มีแต่เมียฉันนี่ล่ะที่ร่ำ ๆ จะไปเอาเรื่องนายศรัณให้ได้ นี่ฉันขอไว้ว่าอย่าเพิ่งต่อความยาวสาวความยืด ไม่อย่างนั้นป่านนี้มะนาวตัวดีบุกศาลากลางแล้ว แม่เจ้าประคุณกะจะไปบู๊ทั้ง ๆ ที่ท้องโย้อยู่นั่นแหละ”ธีทัตหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่ก็พอเข้าใจว่าถ้าผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนมาเจอสถานการณ์แบบนี้ก็คงจะขำไม่ออก นึกแล้วก็โชคดีจริง ๆ ที่น้อง
“ส้มครับ...ไม่ว่าใครจะพูดอะไร พี่อยากให้ส้มเชื่อใจพี่นะครับ”“ส้มไม่เข้าใจค่ะ”“พี่รักส้มนะ รักจริง ๆ แล้วพี่จะอธิบายทุกอย่างให้ฟังทีหลัง”“อธิบายเรื่องอะไรคะ พี่โซ่พูดให้ชัด ๆ ได้ไหม ส้มงงไปหมดแล้ว”แต่ศรัณไม่มีเวลาอธิบายเพราะหฤทัยจูงมือพี่สะใภ้ก้าวอาด ๆ มาหา ชายหนุ่มหน้าซีดเป็นกระดาษ อุรัศยามองสามีที่สวมใส่ชุดไทยประยุกต์หล่อเหลาจัดเต็มแถมยังยืนเคียงข้างหญิงสาวอีกคนแต่งตัวโทนเดียวกัน มองปราดเดียวก็รู้ว่าสถานะของสองคนนี้คืออะไร...สริดาผงะไปเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวที่เธอยังไม่รู้จักจู่ ๆ ก็สะอื้นเสียงดัง น้ำตาร่วงพรู มารดาของศรัณโอบกอดหญิงสาวคนนั้นไว้ ส่วนผู้หญิงอีกคนที่ดูอ่อนวัยที่สุด กำลังจ้องเธออย่างรังเกียจ“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ”“ที่ถามนี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอ...”“ซ่า เดี๋ยวพี่พูดเอง”ศรัณพยายามปรามน้องสาว แต่ถึงตอนนี้แม้แต่ช้างก็ฉุดหฤทัยไม่อยู่แล้ว“จะพูดอะไร จะบอกเมียน้อยพี่หรือไงว่าที่กำลังร้องไห้อยู่นี่คือเมียตัวจริง เมียหลวง!”มีเสียงอุทานและฮือฮารอบข้างดังขึ้นเบา ๆ สีเลือดเผือดหายไปจากใบหน้าของสริดาทันที“ส้ม ฟังพี่ก่อนนะครับ...”เป็นอีกครั้งที่ศรัณยังไม่มีโอกาสได้แก้ตัว เพราะมนิษาท