เวลาของมื้อค่ำผ่านพ้นไป ไอรินขอตัวกลับคอนโดหลังจากอาหารทานอาหารค่ำเสร็จ เธอไม่ชอบนอนที่บ้านเพราะที่คอนโดมันใกล้และสะดวกกว่า หญิงสาวลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากห้องอาหารแต่ทว่าก็โดนมือเล็กของศศิวิมลจับไว้พร้อมกับเอ่ยเสียงหวาน
“ทำไมรีบกลับจังเลยละคะคุณไอริน”
ไอรินตวัดสายตาก้มมองมือเล็กที่กำลังจับข้อมือบางของเธออยู่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก พร้อมกับจับมือเล็กของศศิวิมลออกจากข้อมือเธอเบาๆ
“ฉันนอนที่นี่ไม่หลับ ยังไม่ชิน กลับไปนอนคอนโดดีกว่า”
“งั้นฉันเดินออกไปส่งนะคะ” ศศิวิมลเสนอตัวแสร้งทำเป็นคนดีใส่ไอริน ซึ่งไอรินก็ดูออกว่าเธอแค่อยากจะอยู่กันสองคนเพื่อพูดจาแย่ๆ ใส่เธออีกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาก็เท่านั้นแหละ
“ไม่ต้องหรอก”
“ไอริน” พิพัฒน์เอ็ดเรียกชื่อไอรินเบาๆ
“อยากจะออกไปส่งก็เชิญ”
ไอรินพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกไปจากห้องอาหารทันที ศศิวิมลเห็นอย่างนั้นก็รีบลุกก้าวเดินตามไอรินไปอย่างรวดเร็ว ไอรินหยุดอยู่บ้านประตูหันหลังกลับมาเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ของเธอทันที
“พูดมาตรงๆ ดีกว่าว่าต้องการอะไร ไม่ต้องมาแอ็บมันไม่เนียน”
“ดีใจไหมไอรินที่เธอกำลังจะมีน้อง” สาวอ่อนหวานกลายร่างเป็นนางมารร้ายขึ้นทันทีที่อยู่กันสองคน
“...” ไอรินไม่ตอบกลับอะไรกอดอกมองการกระทำของศศิวิมลอย่างเอือมระอา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ ตั้งแต่เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้เธอก็ตีสองหน้ามาโดยตลอด
“ทำใจไว้หน่อยนะ พอเขาคลอดออกมา เดี๋ยวเธอก็กลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ๆ”
“เลิกดูละครหลังข่าวได้แล้วนะ จะได้เลิกเล่นบทตัวร้ายประสาทเสียสักที”
“นี่ เธอจำไว้เลยนะ ว่าทุกอย่างที่เป็นของเธอสักวันมันต้องกลายเป็นของลูกฉัน”
“อยากทำอะไรก็ทำ ขอตัว”
ไอรินหันหลังกลับตั้งท่าจะเดินออกไปจากคฤหาสน์ แต่ทว่าก็มีเสียงของหล่นแตกดังขึ้นทำให้ไอรินต้องหันหลังกลับไปมองอย่างตื่นตกใจ
เพล้งง!
“กรี๊ดดดดด”
ศศิวิมลร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นพร้อมกับร่างเล็กของเธอไปกองอยู่ที่พื้น ส่วนข้างๆ กายศศิวิมลก็มีเศษแจกันแตกเกลื่อนเต็มพื้น
“ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย!” ไอรินตะโกนเสียงดังใส่คนร่างเล็กที่กองอยู่ที่พื้น
“ฮึกๆๆ คุณไอรินอย่าทำฉันเลย” ศศิวิมลแสร้งบีบน้ำตาน่าสงสารเหมือนเป็นคนโดนกระทำทั้งๆ ที่เธอทำตัวเอง
“ไอริน! ทำอะไร!!”
พิพัฒน์ได้ยินเสียงดังโวยวายจึงรีบวิ่งออกมาดู เขาพบกับร่างของศศิวิมลที่นั่งกองอยู่ที่พื้นข้างตัวมีแจกันตกแตกอยู่กับไอรินที่ยืนมองด้วยสายตาแข็งกร้าวอยู่ ไม่ต้องเดาเขาก็พอจะรู้ว่าไอรินทำอะไร
“ทำไมยังไม่เลิกทำนิสัยแบบนี้อีกไอริน! มลเขาท้องอยู่นะ” พิพัฒน์รีบตรงเข้ามาประคองศศิวิมลที่กำลังร้องห่มร้องไห้อยู่ให้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
“เจ็บตรงไหนไหมมล”
“ฮึกๆ ไม่ค่ะ” ศศิวิมลก้มหน้าก้มตาสะอึกสะอื้น
“รินไม่ได้ทำ” ไอรินเอ่ยเสียงแข็ง
“ไม่ได้ทำอะไรห๊ะ!! ก็เห็นอยู่ว่าแกทำเนี่ยยังจะปากแข็งอีกหรอ”
“ก็รินบอกว่ารินไม่ได้ทำไง! ทำไมพ่อไม่เคยเชื่อรินบ้าง ทำไมพ่อเอาแต่ตัดสินริน ทำไมถึงไม่เคยถามรินบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น!!”
ไอรินหมดความอดทนตะโกนเสียงดังสนั่นใส่พิพัฒน์และศศิวิมล พ่อไม่เคยถามเธอเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อ 7 ปีที่แล้วก็เช่นกัน เหตุการณ์ในวันนั้นก่อนที่เธอจะโดนเนรเทศไปอยู่คนเดียวที่ต่างประเทศ ก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน ไอรินและศศิวิมลมีปากเสียงกันแล้วเธอก็แกล้งกระโดดน้ำลงไปจนเกือบจมน้ำ จากนั้นพ่อของเธอก็เข้ามาช่วยศศิวิมลไว้และต่อว่าไอรินอย่างหนักถึงขั้นไล่ให้ไปอยู่คนเดียวที่ต่างประเทศเพราะต้องการดัดนิสัยของไอริน
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะไอริน”
“ทำไมรินจะขึ้นเสียงไม่ได้ พ่อมันก็ดีแต่เชื่อเมียพ่อนั่นแหละ ระวังไว้เถอะสักวันพ่อจะเสียใจเพราะความไม่รู้จักพอของพ่อเองนั่นแหละ” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าบิดาเพื่อระบายความอัดอั้นที่มีทั้งหมดออกไป เธอพยายามอดทนอย่างหนักเพราะเธอไม่อยากต้องไปอยู่คนเดียวอีก แต่คราวนี้เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ไอริน!!” สติสตังของพิพัฒน์ขาดผึงมือใหญ่ตบลงบนแก้มซ้ายขาวเนียนอย่างรุนแรงจนใบหน้าสวยสะบัดไปตามแรงของเขา
เพี๊ยะ!!
ไอรินยกมือขึ้นมาจับแก้มโดยอัตโนมัติเธอรู้สึกหน้าชาไปชั่วขณะ ตั้งแต่เกิดมาพ่อไม่เคยทำร้ายร่างกายเธอขนาดนี้ ดวงตากลมโตมองจ้องพิพัฒน์ด้วยความโกรธเคือง
“ริน พ่อ...”
พิพัฒน์มือสั่นระริกเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ไอรินหันหลังเดินจ้ำอ้าวออกไปจากบ้านโดยไม่หันหลังกลับมามองใครอีกเลย
ร่างอรชรขับรถสปอร์ตคันหรูพุ่งออกจากคฤหาสน์เต็มความเร็ว ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาไหลเอ่อล้นออกมาแต่ไอรินก็พยายามข่มมันไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
รถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนมาจนถึงลานจอดรถของผับหรู ไอรินลงจากรถมาด้วยท่าทางมาดมั่นและตรงเข้าไปในผับอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้สนใจสายตาของเหล่าชายหนุ่มที่มองมาเท่าไหร่นักเพราะตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาสนใจใครทั้งนั้น
ร่างบางก้าวเดินมานั่งลงตรงเคาน์เตอร์บาร์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง บาร์เทนเดอร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“รับอะไรดีครับ”
“มาร์การิต้า” ไอรินตอบเสียงราบเรียบ
“ครับ”
เวลาผ่านไปไม่นานมาร์การิต้าสีมะนาวในแก้วแชมเปญคูเป้วางลงตรงหน้าของไอริน หญิงสาวคว้าแก้วมากระดกจนเกือบหมดแก้ว ไอรินถอนหายใจยาวพร้อมกับมือบางยกขึ้นมาสบัดผมอย่างหงุดหงิด
เสียงเพลงในผับหรูดังกระหึ่มอย่างสนุกสนาน แต่ร่างเล็กกลับรู้สึกไม่ได้สนุกเหมือนดั่งเช่นเพลงที่กำลังเปิดอยู่เลย ไอรินเอาแต่ครุ่นคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น มือบางยกแก้วกระดกอย่างต่อเนื่องจนหมดไปหลายต่อหลายแก้ว จนร่างแบบบางเริ่มโอนเอนนั่งไม่ไหวแล้ว
หญิงสาวรู้ตัวว่าตัวเองเริ่มจะเมามากแล้วเธอจึงเช็กบิลจนเสร็จสรรพ แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ทว่าในจังหวะนั้นเองเธอก็ยืนไม่ไหวจะล้มลงกับพื้นแต่ก็มีมือหนามาประคองเธอไว้ก่อน
“ไหวไหมครับคนสวย” เสียงชายแปลกหน้าเอ่ยถาม
“ปล่อย” ไอรินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับเอ่ยเสียงแข็งกระด้าง
“มาคนเดียวหรอครับ เมาขนาดนี้จะกลับคนเดียวไหวหรอ”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันบอกให้ปล่อยไง!”
“ไม่เอาหน่าา พี่ไปส่งไหม”
“นี่! อย่ามายุ่งกับฉัน”
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยขึ้น
“คะ..คุณคาเดน” ชายหนุ่มที่กำลังโอบประคองไอรินอยู่เอ่ยเสียงตะกุกตะกักทำให้ไอรินหันไปมองตามเสียงทุ้มทรงพลังนั่น
เวลาผ่านพ้นไปจวบจนถึงเวลาของอาหารค่ำ ชายหนุ่มจัดเตรียมดินเนอร์ส่วนตัวสุดแสนจะหรูหราไว้ให้หญิงสาวที่ริมชายหาด แสงไฟสลัวๆ เป็นทางเดินตั้งแต่ลงจากบ้านพักมาจนถึงโต๊ะอาหารที่มีอาหารทะเลมากมายหลากหลายอย่างวางเต็มโต๊ะไปหมด“นี่คุณเตรียมไว้เพื่อเราเลยเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามชายหนุ่ม“ใช่”“ขอบคุณนะคะ”“เรื่องแค่นี้จะขอบคุณทำไมละไอริน มากกว่านี้ผัวก็ให้ได้”“รินขอบคุณสำหรับทุกเรื่องค่ะ ขอบคุณที่ดูแลเอาใจใส่รินเป็นอย่างดีนะคะ”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะผัวทำอะไรก็ต้องหวังผลตอบแทนอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองจ้องไปที่หน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาว“คนบ้า กินข้าวกันเถอะค่ะ..รินหิวแล้ว”“หึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจกับท่าทางของหญิงสาวทั้งสองคนนั่งลงบนเก้าอี้และค่อยๆ ทานอาหารที่เชฟฝีมือดีรังสรรค์มาให้พวกเขากันอย่างช้าๆสองชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่มื้อค่ำสุดโรแมนติกผ่านพ้นไป คาเดนและไอรินก็กลับเข้ามาในบ้านพักส่วนตัวสุดหรูหราทันทีไอรินก้มๆ เงยๆ เก็บเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเดินทางเพื่อที่จะแขวนที่ราวในตู้เสื้อผ้า ส่วนคาเดนนั้นก็เอาแต่นั่งมองภรรยาคนสวยอยู่ตรงปลายเตียงด้วยสายตาหื่นกระหายมาเฟียหนุ่มนั่งมองร่างบางอ
@เกาะพีพี กระบี่สองสามีภรรยากำลังนั่งเรือสปีดโบ๊ทจากโรงแรมที่ภูเก็ตของเขามายังเกาะพีพี เมื่อคืนพวกเขามาถึงภูเก็ตก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งวันแล้วเนื่องจากพวกเขาขับรถมาจึงต้องนอนพักที่โรงแรมของมาเฟียหนุ่มก่อน ครั้นจะให้นั่งเครื่องบินมาเขาก็เป็นห่วงภรรยาที่กำลังท้องกำลังไส้อยู่ไอรินค้างคาใจเรื่องของสกาย เธอจึงถามคาเดนอีกครั้งและได้คำตอบว่าชายหนุ่มขังเธอไว้ที่คุกใต้ดินที่มืดสนิทแต่มีคนคอยส่งข้าวส่งน้ำให้เธอทุกวัน ไอรินรู้สึกสงสารเธอจับใจจึงคุยกับสามีให้ปล่อยตัวเธอไปแล้วส่งเธอกลับไปที่บ้านให้พ่อของเธอ ซึ่งคาเดนไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมให้ศรีภรรยา แต่ทว่าไม่นานพวกเขาก็ได้ข่าวว่าสกายเป็นโรคจิตเภทขั้นรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เรือสปีดโบ๊ทก็มาจอดสนิทที่ท่าเรือของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับทะเลสีฟ้าคราม ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็พอจะรู้จักกับเจ้าของโรงแรมแห่งนี้เช่นกัน โรงแรมหรูที่ชายหนุ่มเลือกเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของเกาะนี้ มีทั้งบ้านพักส่วนตัวที่อยู่กันหลายคนและเป็นห้องพักที่อยู่บนอาคารสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันแค่สองสามคนร่างอรชรสวมชุดมินิเดรสส
สามอาทิตย์ต่อมา…พิธีวิวาห์สุดอลังการถูกจัดขึ้นในโบสถ์ของตระกูลแคสเซียสอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยเม็ดเงินมหาศาลของมาเฟียหนุ่มสุดหล่อเหลา มาเฟียหนุ่มพาไอรินไปพบกับครอบครัวอย่างเป็นทางการเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วพร้อมกับบอกพวกท่านว่าไอรินกำลังตั้งครรภ์อยู่ หญิงสาวได้มีการขอโทษขอโพยผู้ใหญ่จากใจจริงที่เธอทำอะไรลงไปโดยไม่คิดจนทำให้ตระกูลของแคสเซียสเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ทว่าบิดามารดาของคาเดนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองไอรินแต่อย่างใดแขกเหรื่อที่มาร่วมงานก็ล้วนเป็นไฮโซ นักธุรกิจ ที่แต่งกายหรูหราสวมเครื่องเพชรเม็ดโตให้สมกับฐานะเพื่อโอ้อวดกัน ตรีมงานในวันนี้เป็นโทนสีขาวฟ้า แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายจึงเลือกสรรเสื้อผ้าให้เข้ากับตรีมงานเช่นกันร่างอรชรสวมชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวสะอาดตาราคาหลายล้าน ดีไซน์แบบผ้าชีทรูบางคล้องคอกับแขนยาว กระโปรงหางปลายาวรัดรูปเห็นส่วนโค้งเว้าของเอวคอดกิ่งได้อย่างชัดเจน ผมยาวดกดำถูกเกล้าผมมวยต่ำ ปล่อยเส้นผมให้ดูฟุ้งเล็กน้อยพร้อมกับติดเครื่องประดับที่เป็นเพชร เป็นทรงผมที่ดูเรียบง่ายแต่เพิ่มความละมุนให้กับใบหน้าเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เสียงไวโอลินบรรเลงขึ้นเบาๆ ทำใ
หลายวันผ่านไป มาเฟียหนุ่มและไอรินย่างกรายเข้ามาภายในบริษัทของพิพัฒน์เพื่อเรียนเชิญเพื่อนรักอย่างแพรวาไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งของพวกเขา โดยมีบอดี้การ์ดร่างกำยำหลายคนเดินตามหลังมาติดๆพวกเขาเดินตรงไปยังแผนกดีไซน์อย่างรวดเร็ว ไอรินเข้ามาถึงแผนกก็เห็นเพื่อนรักกำลังยุ่งกับการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ที่ต้องรีบทำให้เสร็จเพราะต้องเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้ อาการแพ้ท้องของชายหนุ่มเริ่มดีขึ้นเพราะเขาจับว่าที่เจ้าสาวกินอยู่ทุกวัน หากวันไหนไม่ได้กินหญิงสาวเขาก็จะรู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วกอยู่ตลอดทั้งวันเลย “ยุ่งอยู่ไหมจ๊ะแพร” ไอรินเอ่ยถามแพรวาเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนรักจึงเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่กำลังวาดออกแบบเค้าโครงอยู่ “ริน..คุณคาเดนสวัสดีค่ะ” แพรวาวาดดินสอลงที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว “ครับ” คาเดนตอบกลับสั้นๆ “คุณเซนต์สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” แพรวาชะเง้อหน้าไปมองบอดี้การ์ดคนสนิทของคาเดนที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้านาย “สวัสดีครับคุณแพรวา” เซนต์ส่งยิ้มอบอุ่นกลับไปให้เจ้าหล่อน “มากันได้ไงคะเนี่ย มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” แพรวาเอ่ยถามต่อ “พอดีว่ารินจะขอให้แพรไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้รินหน่อยได้ไหม”
สามวันผ่านไป…มาเฟียหนุ่มพาไอรินมาลองชุดแต่งงานที่ห้องชุดสุดหรูหราโทนสีขาวสะอาดตาทั้งร้าน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันจวบจนเวลาผ่านไปเกือบถึงห้าโมงเย็น เมื่อพวกเขาลองชุดจนได้ชุดที่พอใจแล้ว ชายหนุ่มก็พาไอรินมายังคฤหาสน์อัครเมธาสกุลต่อคาเดนได้ติดต่อไปหาบิดาและมารดาของตัวเองเรื่องที่ไอรินตั้งครรภ์และพวกท่านก็ดีใจมากต้องการให้จัดงานแต่งโดยเร็วที่สุด ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูสีดำเงาก็เข้ามาจอดสนิทลงที่ลานจอดรถของคฤหาสน์หรูอย่างช้าๆชายหญิงเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ก็พบกับพิพัฒน์กำลังนั่งจิบชาอยู่คนเดียวบนโซฟาตัวใหญ่ “พ่อไม่ได้ไปทำงานหรอคะวันนี้” ไอรินเอ่ยถามทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง “พ่อกลับมาไวนะ” พิพัฒน์วางแก้วน้ำชาในมือลงพลางตอบกลับลูกสาว “เป็นไงบ้างละวันนี้ไปลองชุดแต่งงานกันมาเป็นไงบ้าง” ชายแก่ถามต่อ “รินชอบใส่ชุดเกาะอกค่ะ แต่คุณคาเดนไม่ชอบให้ใส่เกาะอก แต่ก็ได้ชุดที่ถูกใจแล้วละค่ะ” “ก็ชุดเกาะอกมันโป๊เกินไป” เสียงทุ้มของคาเดนเอ่ย “ดีแล้วละลูก อย่าแต่งตัวโป๊มากสิ ผู้ชายยังไงก็ต้องหวงเมียเป็นธรรมดา” พิพัฒน์เสริมต่ออย่างเข้าข้างว่าที่ลูกเขยสองคนชายหญิงเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ตรงข้ามกับพิ
เวลาผ่านไปจวบจนพลบค่ำของวัน มาเฟียหนุ่มกำลังจะพาไปหญิงสาวกลับเพนท์เฮาส์ ไอรินจึงขอตัวไปเก็บของบนห้องก่อน หญิงสาวใช้เวลาเก็บของที่จำเป็นไม่นานเพราะเสื้อผ้าของเธอคาเดนบอกว่าเขายังเก็บไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง หลังจากเก็บของเสร็จไอรินก็เปิดประตูห้องนอนออกมา และก็พบกับศศิวิมลที่กำลังยืนรอเธออยู่ด้วยแววตาท่าทางไม่เป็นมิตรเหมือนดั่งเช่นทุกครั้งเวลาพวกเธออยู่กันสองต่อสอง “มีอะไร” ไอรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “อย่าคิดนะว่าตัวเองท้องแล้วทุกอย่างจะต้องตกเป็นของเธอ” เจ้าหล่อนยืนกอดอกเอ่ยด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ “ฉันหรือเธอกันแน่ที่คิดแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นของครอบครัวฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว มีแต่เธอนั่นแหละที่คิดจะมาชุบมือเปิบไปง่ายๆ” ไอรินเอ่ยพลางเดินไปเผชิญหน้ากับศศิวิมลทำให้เจ้าหล่อนหายใจออกแรงด้วยความโมโห ก่อนที่พวกเธอจะมีปากเสียงกันต่อก็มีเสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยขึ้นมาก่อน “ไอริน” มาเฟียหนุ่มสองมือล้วงกระเป๋าค่อยๆ ก้าวเดินมาใกล้ๆ ไอริน ศศิวิมลจึงแสร้งทำสีหน้าปกติ “คุณคาเดน ขึ้นมาทำไมคะ” ไอรินเอ่ย “เห็นขึ้นมานานแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ รินเก็บของเสร็จแล้วไปกันเถอะค่ะ” หญิงสาวเดินไปคล