“ทะ ที่นี่จริงเหรอพี่”
มิ้นหันไปถามพี่คนขับรถที่ยูร์ส่งมารับด้วยความไม่มั่นใจ เพราะร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มันมีขนาดใหญ่โตมากแถมรถแต่ละคันที่จอดที่นี่ก็มีแต่พวกรถที่คนรวยใช้ “ใช่ครับ มาครับผมจะพาไปส่งที่ห้องอาหาร VIP” “VIP? คุณเจ้านายของพี่คิดอะไรอยู่ถึงได้พาฉันมาที่นี่เนี่ย” มิ้นบ่นแต่ยังคงเดินตามพี่คนขับรถมาโดยดี เขาพาเธอมาหยุดอยู่ที่ประตูเลื่อนกระดาษแนวญี่ปุ่น แสงไฟจากข้างในแสดงให้เห็นเงาของคนตัวสูงที่นั่งรออยู่แล้ว พี่คนขับรถจึงขอตัวออกไปก่อน เธอจึงค่อยๆ เลื่อนประตูบานนั้นออกก่อนจะยิ้มแห้งให้กับยูร์ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่อย่างสบายใจ แต่แล้วเธอตรงตะลึงเมื่อหันไปเจออาหารชุดญี่ปุ่นแท้ๆ วางอยู่เต็มโต๊ะ ยัยมิ้น....อาหารแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เคยเห็นในทีวี อือหือแม่เจ้าน่ากินสุดๆ “มานั่งสิ มัวมองอะไร” “คะ? อ่อ” “นั่งตักฉันสิ.…” "คะ?" "มาสิ..." ระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปนั่งตรงข้ามกับยูร์ ยูร์ก็ดึงแขนเธอให้นั่งลงตรงตักเขาถึงมิ้นจะตกใจสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเอาใจเขาที่ร้านอาหาร แต่เธอก็ยังไม่กล้าจะโวยวายอะไรออกไปเพราะที่นี่ค่อนข้างเงียบถ้าเธอเสียงดังคนอื่นอาจจะคิดไม่ดีได้ “ต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอคะ ที่นี่มันร้านอาหาร...คุณไม่อายบ้างหรือไง” “จะอายใครละ....ฉันอยากให้เธอเอาใจนินี่ก็จะหมดวันแรกที่มีเธอแล้ว เสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม” 'สุดท้ายก็ยังพูดเรื่องเอาเงินซื้อฉันอยู่ดี' มิ้นบ่นในใจ “ค่ะ เข้าใจแล้วคุณอยากกินอะไรคะ?” “ถ้าตอบว่าอยากกินเธอคงไม่ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้อยู่แล้วแหละ!” “ฮ่าๆ อย่างอนสิคะเด็กดี” ฟอด! ยูร์ทนความเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้าเล็กงอนไม่ไหวเลยจัดการฝังจมูกลงบนแก้มเนียนอย่างมันเขี้ยวยิ่งทำให้คนตัวเล็กเผลอตบเข้าที่ใบหน้ายูร์ด้วยความตกใจ แต่ก็เป็นการตบตอบแทนที่เขายังคงพูดเรื่องใช้เงินซื้อเธอมาอยู่ตรงนี้ เพี้ยะ! “โอ๊ย!” “ขะ ขอโทษมิ้นไม่ชินที่ต้องถูกคนที่ไม่ได้รักหอมอ่า ขอโทษ” มิ้นพูดจริงๆ เธอแค่อยากตบเขาเท่านั้นเอง “ฉันมีเวลากับเธอแค่สามวันช่วยแกล้งๆ รักกันหน่อยไม่ได้หรือไง หืม….” แทนที่คนโดยตบจะรู้สึกโกรธแต่เขากลับเอาคางที่เต็มไปด้วยไรนวดอ่อนๆ มาถูกเบาๆ ที่ต้นคอเธอเพื่อแกล้งแหย่ คนโดนกระทำถึงขั้นเอียงตัวหนีสุดตัวเพราะความรู้สึกจักจี้ “พะ พอค่ะไม่แกล้งมิ้นนะ....มิ้นหิวแล้ว” “งั้น....หนูมิ้นจะกินอะไรดีคะ แซลมอนไหม?” “ค่ะ….” ยูร์คีบเนื้อแซลมอนมาคาบเอาไว้ที่ปาก ก่อนจะยื่นเข้าไปใกล้ๆ คนตรงหน้า เขาอยากจะเห็นเวลามิ้นเขินอีกสักหน่อยว่าจะน่าเอ็นดูขนาดไหน แต่แทนที่เธอจะคาบชิ้นแซลมอนจากปากเขาเธอกลับยื่นมือจะไปคีบชิ้นใหม่แทน ยูร์เลยจัดการรวบแขนทั้งสองข้างเธอไว้แน่นแล้วให้ปากที่แทรกด้วยแซลมอนไปประกบกับปากเธอไว้ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นดันชิ้นแซลมอนให้เข้าไปอยู่ในปากคนตรงหน้า “อร่อยไหมคะ?” มิ้นก้มหน้าเคี้ยวแซลมอนนิ่งไม่รู้ว่าที่เนื้อแซลมอนหวานนี่เป็นเพราะมันสดหรือเพราะที่เขาป้อนมันกันแน่ ตั้งแต่มีแฟนกับเขามาก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อนเลย “หน้าหนูตอนนี้นี่น่าฟัดจริงๆ เชียว” ยูร์กระซิบมิ้นด้วยเสียงแหบพร่า ต่อให้คนฟังใจแข็งแค่ไหนก็ต้องมีใจเต้นแรงเพราะคนตรงหน้าทั้งหล่อและมีเสน่ห์ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพราะข้อตกลงเธอคงอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้จีบเธอเข้าแล้วจริงๆ "ทานเยอะๆ สิคะ ทำไมทานน้อยอาหารไม่อร่อยเหรอ?" ยูร์ถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอยู่ๆ หญิงสาวก็หยุดนิ่งไปนั้นคงเป็นเพราะเธอกำลังเขินเขา เขาเลยจัดการคีบนู้นคีบนี่เข้าปากคนตัวเล็กไม่หยุดกะให้วันนี้พุงแตกกันไปข้างหนึ่ง กว่าจะทานข้าวเสร็จก็ดึกเพราะชายหนุ่มมัวแต่ออดอ้อนให้หญิงสาวป้อนนู่นนี่อย่างกับเด็กเลยทำให้กินเวลาไปนาน พอทั้งคู่ถึงคอนโดก็จัดการแยกกันทำธุระส่วนตัว ตามจริงยูร์อยากจะตามเข้าไปอาบน้ำพร้อมกันกับมิ้นด้วยซ้ำ แต่เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าเกิดได้เห็นเนื้อหนังขาวนวลแล้วคงอดใจจะรุกล้ำหญิงสาวไม่ได้ เลยแยกไปอาบน้ำห้องรับแขกดีกว่า "มิ้น? ทำไมไฟปิดหมดแล้วละ ล็อกห้องสะด้วย" เมื่อยูร์ออกจากห้องน้ำมาก็พบว่ามิ้นได้ทำการขังตัวเองไว้ในห้องสะแล้ว เธอคงคิดว่าจะได้นอนคนเดียวบนเตียงสบายๆ ละสิ แต่ชายหนุ่มไม่คิดแบบนั้นหรอก การนอนกอดร่างกายนุ่มๆ ทำให้หลับสบายจะตาย ว่าแล้วเขาก็เดินไปหยิบเอากุญแจสำรองมาเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นคือมิ้นกำลังอยู่ในสภาพชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้ เธอมีท่าทีตกใจก่อนจะรีบเอาเสื้อคลุมมาคลุมปิดแทบไม่ทัน ทำเอาอารมณ์ชายของคนที่มองพลุ่งพล่าน " ขะ เข้ามาทำไมคะ"หน้าแดง "ก็มานอน ....แต่ไม่คิดว่า...."ยูร์พูดพร้อมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ มิ้น ก่อนจะค่อยๆ ฝังจมูกลงบนแก้มหอม "ยะ อย่าสิ" "ไม่คิดว่าเธอจะใส่บราแบบที่ฉันชอบ....อ่อยฉันหรือไง" "หะ! เปล่าสักหน่อย ใครจะไปรู้กันละว่าคุณชอบแบบไหนหนูก็ใส่ของที่แม่บ้านเตรียมมา" "หืม...." "เดี๊ยวเดี๋ยว" ยูร์กดมิ้นให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะค่อยๆ ใช้มือลูบไล้ไปกับผิวเย็นที่เพิ่งจะผ่านน้ำมาหมาดๆ หญิงสาวได้แต่ดิ้นแล้วร้องห้ามเพราะกลัวจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นกับเธออีกเป็นครั้งที่สอง "หอม แล้วก็นุ่ม" "อย่าๆ ไหนคุณคุยกับหนูแล้วไง" "ก็ยังไม่ได้สอดใส่สักหน่อย" ม๊วบๆ มือเรียวจัดการรวบสองมือเล็กไว้เหนือหัว ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะดูดเข้าที่เนินอก เขาค่อยๆ ใช้ริมฝีปากลากผ้าที่ปกปิดออกเปิดเผยให้เห็นบราสีดำเต็มตา หน้าอกที่กำลังกระเพื่อมด้วยลมหายใจที่หอบถี่ยิ่งทำให้คนตัวใหญ่อยากจะดอมดมกลิ่นหอมของยอดดอกไม้ "ยะ อย่า" "ม๊วบๆ" "งือ อย่า!" ลิ้นอุ่นตวัดบนยอดอกตูมอย่างอดอยากอยู่เนิ่นนานจนหญิงสาวเริ่มคล้อยตามก่อนจะไล่พรมจูบขึ้นมาตามซอกคอ แก้ม แล้วมาหยุดที่ริมฝีปาก "อยากให้ต่อไหม" "....เอ่อ.…"มิ้นลังเลใจเพราะตัวเธอเองตอนนี้ก็รู้สึกต้องการเขาเข้าแล้ว แต่อีกใจก็กลัวเหลือเกิน กลัวจนอยากจะร้องไห้ "ยังไงสะ เราก็จบกันภายในสามวันนะ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอต้องการอะไร" "เราไม่ได้ตกลงในเรื่องนี้" มิ้นพูดพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจึงทำให้ยูร์ต้องหยุดการคุกคามไว้เพียงเท่านั้นถึงแม้เขาจะแอบหวังให้หญิงสาวยินยอมก็ตาม "เฮ้ออ….โอเคๆ เข้าใจแล้วงั้นนอน โอเคไหม" เขาไม่รอมิ้นตอบแต่จัดการถอดผ้าคลุมเธอแล้วอุ้มเธอมานอนบนเตียงดีๆ ตามด้วยตัวหนาของเขาที่นอนกอดเธอไว้ในสภาพนั้น "มัน....แข็ง โดนขา" "เดะมันก็อ่อนเอง" "....อ่อ" "หรือเปลี่ยนใจอยากช่วย?" "ไม่ๆ" มิ้นมุดหน้าซ่อนในผ้าห่มแก้เขิน วันนี้มิ้นรู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่ทั้งขี้เล่น เจ้าเล่ห์และอบอุ่น แถมยังไม่ข่มเหงผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายที่ดีเหมือนกันถึงแม้จะมือไม้ถึงไปหน่อยก็เถอะ ได้แต่หวังว่าเธอคงจะรอดเงื้อมมือเขาไปได้ครบสามวันนะ"มิ้นไม่ต้องห่วงนะ เรารักษาตัวก่อนเชื่อพี่"พี่ริลบอกขณะที่ฉันกำลังถูกพาออกจากห้องผ่าตัดเนื่องจากกระสุนปืนตัดผ่านเนื้อเยื่อจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นน่าเป็นห่วง ถึงพี่ริลจะพูดออกมาแบบนั้นฉันก็ยังทำได้แค่ร้องไห้ออกมามันทั้งตกใจกับภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเป็นห่วงความรู้สึกของคุณยูร์....ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่พร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกน้องและเงินทองแบบเขาจะต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดพวกนั้น เขาผ่านมันมาได้ยังไงนะ...."คุณยูร์เป็นยังไงบ้างพี่""เฟร์สบอกว่ากำลังพาเขามาหามิ้นที่นี่ ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างจะโอเค""พี่ริล....""ว่าไง?""เรื่องที่คุณยูร์พูดมันจริงเหรอคะ....""เรื่องของพ่อเขา....มันเป็นเรื่องจริงพ่อของเขาทำร้ายคนไว้มากมายรวมถึงแม่ของยูร์ด้วย วันที่พ่อเขาตายก็เป็นวันเดียวกับที่เขารู้เรื่องเลวๆ ของพ่อตัวเอง ถ้าพี่เป็นเขามันก็คงลำบากจริงๆ ที่จะตัดสินใจ เพราะยังไงสะพ่อของเขาก็เข้าออกคุกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาเลือกแบบนั้นคงคิดแล้วว่าพ่อตัวเองคงไม่มีวันกลับตัวได้ หลังจากวันนั้นเขาก็ปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำแบบที่พ่อเขาทำและจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น""ค
"ยามะ...."เจพึมพำออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนที่เขาจะดึงตัวฉันให้ไปหลบด้านหลัง ท่าทีนั้นทำให้ฉันรับรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายสำหรับเรา "พี่แกนี่ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ยังโง่! การที่มันพลาดปล่อยฉันหนีได้ก็เท่ากับว่ามันพร้อมตายเท่านั้นแหละ""คุณยูร์ไม่มีท่าพลาด""โอ! แม่สาวนี้ใครกัน? สอดเรื่องของผู้ใหญ่หรือว่าเมียไอ้ยูร์?"ยามะเดินตรงเข้ามาหาฉันพร้อมยกปืนขึ้นจ่อหัวเจให้หยุดอยู่กับที่ เจมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดไม่ต่างไปจากฉัน ให้ตายเถอะ!"อย่ายุ่งกับผู้หญิง""คุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นอยู่กับไอ้บ้านั้น เมียไอ้ยูร์สินะ""ใช่...."ปัง! "มิ้น!"กรี๊ด! ปวด....ปัง!ทันทีที่ฉันบอกสถานะตัวเองออกไปลูกกระสุนเหล็กก็ถูกยิงเข้าที่ต้นขาของฉันทันทีความเจ็บปวดมากมายนี่ทำให้ฉันต้องทรุดตัวล้มลง เจพยายามจะวิ่งตรงเข้ามาช่วยกลับถูกยามะยิงเข้าที่ขาอีกคนจนทรุดตัวล้มลงข้างๆ ความปวดที่แสนทรมานนี่ทำให้ฉันไม่มีแม้แต่แรงจะพูดอะไรออกไปทำได้แค่เพียงมองยามะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น"มะ มิ้น""เจ อย่าขยับมากสิ"ฉันพยายามหันไปบอกเจที่กำลังลากขาที่บาดเจ็บมาหาฉัน ตอนนี้ยิ่งเห็นเลือดที่ไหลออกมาจนเต็มขา
: ยูร์ ปวดหัวชะมัด.... ไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นเลยวันนี้ทำให้ผมต้องลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายสักหน่อย พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกับเจนอนสลบไสลกันอยู่ที่พื้นอย่างน่าอนาถ พอมองสำรวจไปรอบห้องก็กลับไม่เห็นร่างเล็กของเมียสาวแต่ผมจำได้นะว่าเมื่อคืนมิ้นไปตามผมกับเจถึงร้านแถมกระชากหัวผมอีกคงจะโกรธมากแน่ๆ แต่นี่พระอาทิตย์ก็จะตกอยู่แล้วทำไมยังไม่ยอมกลับห้องอีกตืด! ไม่รับสาย....นี่กล้าตัดสายเลยเหรอ โกรธขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย....ก็แค่กลับบ้านช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเองผมลองกดโทรศัพท์โทรออกไปหามิ้นอีกครั้งก็ยังพบว่าเธอตัดสายผมอีกแล้ว ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ"นายครับ นายครับ""ว่าไง"ผมหันไปถามลูกน้องที่วิ่งเข้ามาหน้าตื่นด้วยน้ำเสียงขุ่น"ยามะ ยามะหนีไปได้ครับ""หึ....": มิ้นณ สนามยิงปืนฉันมองสำรวจไปทั่วสนามบินกว้างที่เงียบเฉียบ....นี่มันน่ากลัวสุดไปเลย พี่ริลพาฉันเดินเข้าไปอีกด้านในจะมีเป็นล็อกของใครของมันและเป็นลานกว้างยาวที่มีเป้ากระดาษอยู่ไกลๆ ฉันหันไปมองพี่ริลที่หยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกของตัวเองและเริ่มเช็คมันอย่างเป็นงาน ....ท่าทางที่พี่ริลสำรวจปืนนี่มันช่างจริงจังจนน่ากลัวถึงว่าทำไมคนเจ้าชู
ฉันนั่งเฝ้าสองร่างที่ยังคงนอนสลบไสลอยู่บนพื้น เมื่อคืนกว่าจะยอมกลับกันมาได้ก็ต้องใช้เด็กตั้งหลายคนแบกมาแล้วนี่ก็จะตะวันตกดินอีกรอบแล้วเจกับคุณยูร์ยังไม่มีทีท่าจะตื่นเลย"ให้ตาย โมโหชะมัด!""คุณมิ้นครับ""ว่าไง! อุ้ย ขอโทษค่ะ"ฉันที่กำลังโมโหเผลอตะโกนใส่คนที่เข้ามาเรียก พอนึกได้ก็รีบยกมือไหว้ใหญ่เพราะเขาแก่กว่าฉันอยู่หลายปี"ไม่เป็นไรครับ มีคนมารออยู่ด้านล่างครับ""ใครคะ?""เขาแจ้งว่าชื่อริล""....ขอบคุณมากค่ะ ยังไงฝากดูสองคนนี้ด้วยนะคะ""ครับ"ฉันยิ้มให้ก่อนจะรีบลงมายังห้องรับรองชั้นหนึ่งของโรงแรม ถ้าให้ฉันเดาพี่ริลคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วตอนนี้คงกำลังโกรธฉันไปมากกว่าเดิมอีก นี่ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันพี่ริลก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ฉันเลย.... "พี่ริล"เมื่อเห็นพี่สาวฉันก็ตรงเข้าไปกระโดดกอดอย่างไม่อาย พี่ริลยอมมาคุยกับฉันแล้ว "นั่งคุยกันดีๆ ก่อน โตแล้วนะ""หนูคิดถึงพี่ พี่ไม่รับโทรศัพท์มิ้นเลย"พี่ริลดึงฉันให้ไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวก่อนหน้านี้"นี่มันอะไรมิ้น""มันเป็นการโปรโมตของคุณยูร์เขาน่ะค่ะ ไม่มีอะไร""พี่รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นี้ ยูร์โดนขู่ใช่ไหม?""เ
: มิ้นฉันเดินกระวนกระวายทั่วห้องตั้งแต่ช่วงบ่ายที่คุณยูร์ออกไปจัดการเรื่องคุณแฟรงค์ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วคุณยูร์ยังไม่โผล่หัวกลับมาเลยทั้งๆ ที่ลูกน้องก็บอกฉันว่าเคลียร์จบแล้ว.... หรืออันที่จริงพวกนั้นจะโกหกฉันเพราะกลัวฉันเสียใจ ไม่นะคุณยูร์คงไม่เป็นอะไรหรอกเพราะเขาเก่งนี่เขาเก่งมากแล้วทำไมตอนนี้ยังไงกลับมาอีกละ"ฉันต้องไปถามให้รู้เรื่อง"ฉันเปิดประตูออกมาแล้วเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อชายชุดดำที่ยื่นเฝ้าหน้าประตูอยู่ให้ก้มลงมาสบตาฉัน ตอนนี้แม้แต่ปืนที่เหน็บอยู่ฉันก็ไม่กลัวแล้วฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณยูร์หายไปไหน"คุณมิ้นครับ ทำอะไรครับ!""คูณยูร์อยู่ไหน!""กำลังไปจัดการเรื่องพี่แฟรงค์ไงครับ""จัดการอะไรนานขนาดนี้ไปตามเจ้านายกลับมาเลยนะ! มันกี่โมงแล้วเนี่ยไม่รู้เวลาล่ำเวลาเลย หรือจริงๆ แล้วเจ้านายพวกนายบาดเจ็บแล้วไม่ยอมบอกฉัน พูดความจริงมาเลยนะ""คุณมิ้นครับ อย่าทำแบบนี้ ย๊ากกก!"ด้วยความโกรธทำให้ฉันดึงเนกไทคนตรงหน้าให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนคนตัวสูงร้องโวยวาย ตอนนี้ชายชุดดำหลายคนเข้ามามุ่งเราไว้แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามฉัน ทุกคนเอาแต่ส่งเสียงร้องห้ามกันระงมแต่ฉันก็ยังคงดึงมันให้แน่นขึ
: เจ หลังจากพวกเราจัดการส่งพี่แฟรงค์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเครือของพี่ยูร์เสร็จ เขาก็พาผมมาบาร์ลับแห่งหนึ่งใกล้กับคอนโดโดยให้เหตุผลว่าอยากคุยเรื่องสำคัญ....ระหว่างทางเข้ามามันทั้งเงียบและเปลี่ยวจนผมแอบคิดว่าพี่อาจจะยังสงสัยในตัวผมจนต้องพามาซ้อมหรือเปล่าแต่พอมาถึงหน้าร้านกลับว่ามันเป็นบาร์เหล้าจริงๆ ....ฮูววว... ใจหายหมดผมแอบมองพี่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างกันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้เขามีท่าทีนิ่งเงียบและเคร่งขรึมจนผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขายังคงกระดกเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ อย่างเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีผมอยู่ตรงนี้ผมมองเขาเป็นเหมือนที่พึ่งพาเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากจะทำให้เขาหงุดหงิดใจจึงได้แต่นั่งดื่มไปเงียบๆ เช่นกัน"เล่ามา....""ครับ?""เล่าเรื่องของนายมา....ทำไมถึงมาที่นี่"ผมก้มหน้านิ่งแล้วยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว ถึงมันจะขมแต่มันคงช่วยให้ผมมีความกล้า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่พี่จะได้รู้จักผมมากขึ้น"ผมเกิดมาเพราะความผิดพลาด....ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น แต่เมื่อผมเกิดมาพ่อก็พยายามจะฆ่าผมจนแม่กับผมไปซ่อนตัวไว้หลายปี แต่ในที่สุดเขาก็หาผมเจอจนได้เขาทำข้อ