“ทะ ที่นี่จริงเหรอพี่”
มิ้นหันไปถามพี่คนขับรถที่ยูร์ส่งมารับด้วยความไม่มั่นใจ เพราะร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มันมีขนาดใหญ่โตมากแถมรถแต่ละคันที่จอดที่นี่ก็มีแต่พวกรถที่คนรวยใช้ “ใช่ครับ มาครับผมจะพาไปส่งที่ห้องอาหาร VIP” “VIP? คุณเจ้านายของพี่คิดอะไรอยู่ถึงได้พาฉันมาที่นี่เนี่ย” มิ้นบ่นแต่ยังคงเดินตามพี่คนขับรถมาโดยดี เขาพาเธอมาหยุดอยู่ที่ประตูเลื่อนกระดาษแนวญี่ปุ่น แสงไฟจากข้างในแสดงให้เห็นเงาของคนตัวสูงที่นั่งรออยู่แล้ว พี่คนขับรถจึงขอตัวออกไปก่อน เธอจึงค่อยๆ เลื่อนประตูบานนั้นออกก่อนจะยิ้มแห้งให้กับยูร์ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่อย่างสบายใจ แต่แล้วเธอตรงตะลึงเมื่อหันไปเจออาหารชุดญี่ปุ่นแท้ๆ วางอยู่เต็มโต๊ะ ยัยมิ้น....อาหารแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เคยเห็นในทีวี อือหือแม่เจ้าน่ากินสุดๆ “มานั่งสิ มัวมองอะไร” “คะ? อ่อ” “นั่งตักฉันสิ.…” "คะ?" "มาสิ..." ระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปนั่งตรงข้ามกับยูร์ ยูร์ก็ดึงแขนเธอให้นั่งลงตรงตักเขาถึงมิ้นจะตกใจสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเอาใจเขาที่ร้านอาหาร แต่เธอก็ยังไม่กล้าจะโวยวายอะไรออกไปเพราะที่นี่ค่อนข้างเงียบถ้าเธอเสียงดังคนอื่นอาจจะคิดไม่ดีได้ “ต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอคะ ที่นี่มันร้านอาหาร...คุณไม่อายบ้างหรือไง” “จะอายใครละ....ฉันอยากให้เธอเอาใจนินี่ก็จะหมดวันแรกที่มีเธอแล้ว เสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม” 'สุดท้ายก็ยังพูดเรื่องเอาเงินซื้อฉันอยู่ดี' มิ้นบ่นในใจ “ค่ะ เข้าใจแล้วคุณอยากกินอะไรคะ?” “ถ้าตอบว่าอยากกินเธอคงไม่ได้ใช่ไหม” “ไม่ได้อยู่แล้วแหละ!” “ฮ่าๆ อย่างอนสิคะเด็กดี” ฟอด! ยูร์ทนความเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้าเล็กงอนไม่ไหวเลยจัดการฝังจมูกลงบนแก้มเนียนอย่างมันเขี้ยวยิ่งทำให้คนตัวเล็กเผลอตบเข้าที่ใบหน้ายูร์ด้วยความตกใจ แต่ก็เป็นการตบตอบแทนที่เขายังคงพูดเรื่องใช้เงินซื้อเธอมาอยู่ตรงนี้ เพี้ยะ! “โอ๊ย!” “ขะ ขอโทษมิ้นไม่ชินที่ต้องถูกคนที่ไม่ได้รักหอมอ่า ขอโทษ” มิ้นพูดจริงๆ เธอแค่อยากตบเขาเท่านั้นเอง “ฉันมีเวลากับเธอแค่สามวันช่วยแกล้งๆ รักกันหน่อยไม่ได้หรือไง หืม….” แทนที่คนโดยตบจะรู้สึกโกรธแต่เขากลับเอาคางที่เต็มไปด้วยไรนวดอ่อนๆ มาถูกเบาๆ ที่ต้นคอเธอเพื่อแกล้งแหย่ คนโดนกระทำถึงขั้นเอียงตัวหนีสุดตัวเพราะความรู้สึกจักจี้ “พะ พอค่ะไม่แกล้งมิ้นนะ....มิ้นหิวแล้ว” “งั้น....หนูมิ้นจะกินอะไรดีคะ แซลมอนไหม?” “ค่ะ….” ยูร์คีบเนื้อแซลมอนมาคาบเอาไว้ที่ปาก ก่อนจะยื่นเข้าไปใกล้ๆ คนตรงหน้า เขาอยากจะเห็นเวลามิ้นเขินอีกสักหน่อยว่าจะน่าเอ็นดูขนาดไหน แต่แทนที่เธอจะคาบชิ้นแซลมอนจากปากเขาเธอกลับยื่นมือจะไปคีบชิ้นใหม่แทน ยูร์เลยจัดการรวบแขนทั้งสองข้างเธอไว้แน่นแล้วให้ปากที่แทรกด้วยแซลมอนไปประกบกับปากเธอไว้ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นดันชิ้นแซลมอนให้เข้าไปอยู่ในปากคนตรงหน้า “อร่อยไหมคะ?” มิ้นก้มหน้าเคี้ยวแซลมอนนิ่งไม่รู้ว่าที่เนื้อแซลมอนหวานนี่เป็นเพราะมันสดหรือเพราะที่เขาป้อนมันกันแน่ ตั้งแต่มีแฟนกับเขามาก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อนเลย “หน้าหนูตอนนี้นี่น่าฟัดจริงๆ เชียว” ยูร์กระซิบมิ้นด้วยเสียงแหบพร่า ต่อให้คนฟังใจแข็งแค่ไหนก็ต้องมีใจเต้นแรงเพราะคนตรงหน้าทั้งหล่อและมีเสน่ห์ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพราะข้อตกลงเธอคงอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้จีบเธอเข้าแล้วจริงๆ "ทานเยอะๆ สิคะ ทำไมทานน้อยอาหารไม่อร่อยเหรอ?" ยูร์ถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอยู่ๆ หญิงสาวก็หยุดนิ่งไปนั้นคงเป็นเพราะเธอกำลังเขินเขา เขาเลยจัดการคีบนู้นคีบนี่เข้าปากคนตัวเล็กไม่หยุดกะให้วันนี้พุงแตกกันไปข้างหนึ่ง กว่าจะทานข้าวเสร็จก็ดึกเพราะชายหนุ่มมัวแต่ออดอ้อนให้หญิงสาวป้อนนู่นนี่อย่างกับเด็กเลยทำให้กินเวลาไปนาน พอทั้งคู่ถึงคอนโดก็จัดการแยกกันทำธุระส่วนตัว ตามจริงยูร์อยากจะตามเข้าไปอาบน้ำพร้อมกันกับมิ้นด้วยซ้ำ แต่เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าเกิดได้เห็นเนื้อหนังขาวนวลแล้วคงอดใจจะรุกล้ำหญิงสาวไม่ได้ เลยแยกไปอาบน้ำห้องรับแขกดีกว่า "มิ้น? ทำไมไฟปิดหมดแล้วละ ล็อกห้องสะด้วย" เมื่อยูร์ออกจากห้องน้ำมาก็พบว่ามิ้นได้ทำการขังตัวเองไว้ในห้องสะแล้ว เธอคงคิดว่าจะได้นอนคนเดียวบนเตียงสบายๆ ละสิ แต่ชายหนุ่มไม่คิดแบบนั้นหรอก การนอนกอดร่างกายนุ่มๆ ทำให้หลับสบายจะตาย ว่าแล้วเขาก็เดินไปหยิบเอากุญแจสำรองมาเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นคือมิ้นกำลังอยู่ในสภาพชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้ เธอมีท่าทีตกใจก่อนจะรีบเอาเสื้อคลุมมาคลุมปิดแทบไม่ทัน ทำเอาอารมณ์ชายของคนที่มองพลุ่งพล่าน " ขะ เข้ามาทำไมคะ"หน้าแดง "ก็มานอน ....แต่ไม่คิดว่า...."ยูร์พูดพร้อมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ มิ้น ก่อนจะค่อยๆ ฝังจมูกลงบนแก้มหอม "ยะ อย่าสิ" "ไม่คิดว่าเธอจะใส่บราแบบที่ฉันชอบ....อ่อยฉันหรือไง" "หะ! เปล่าสักหน่อย ใครจะไปรู้กันละว่าคุณชอบแบบไหนหนูก็ใส่ของที่แม่บ้านเตรียมมา" "หืม...." "เดี๊ยวเดี๋ยว" ยูร์กดมิ้นให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะค่อยๆ ใช้มือลูบไล้ไปกับผิวเย็นที่เพิ่งจะผ่านน้ำมาหมาดๆ หญิงสาวได้แต่ดิ้นแล้วร้องห้ามเพราะกลัวจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นกับเธออีกเป็นครั้งที่สอง "หอม แล้วก็นุ่ม" "อย่าๆ ไหนคุณคุยกับหนูแล้วไง" "ก็ยังไม่ได้สอดใส่สักหน่อย" ม๊วบๆ มือเรียวจัดการรวบสองมือเล็กไว้เหนือหัว ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะดูดเข้าที่เนินอก เขาค่อยๆ ใช้ริมฝีปากลากผ้าที่ปกปิดออกเปิดเผยให้เห็นบราสีดำเต็มตา หน้าอกที่กำลังกระเพื่อมด้วยลมหายใจที่หอบถี่ยิ่งทำให้คนตัวใหญ่อยากจะดอมดมกลิ่นหอมของยอดดอกไม้ "ยะ อย่า" "ม๊วบๆ" "งือ อย่า!" ลิ้นอุ่นตวัดบนยอดอกตูมอย่างอดอยากอยู่เนิ่นนานจนหญิงสาวเริ่มคล้อยตามก่อนจะไล่พรมจูบขึ้นมาตามซอกคอ แก้ม แล้วมาหยุดที่ริมฝีปาก "อยากให้ต่อไหม" "....เอ่อ.…"มิ้นลังเลใจเพราะตัวเธอเองตอนนี้ก็รู้สึกต้องการเขาเข้าแล้ว แต่อีกใจก็กลัวเหลือเกิน กลัวจนอยากจะร้องไห้ "ยังไงสะ เราก็จบกันภายในสามวันนะ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอต้องการอะไร" "เราไม่ได้ตกลงในเรื่องนี้" มิ้นพูดพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาจึงทำให้ยูร์ต้องหยุดการคุกคามไว้เพียงเท่านั้นถึงแม้เขาจะแอบหวังให้หญิงสาวยินยอมก็ตาม "เฮ้ออ….โอเคๆ เข้าใจแล้วงั้นนอน โอเคไหม" เขาไม่รอมิ้นตอบแต่จัดการถอดผ้าคลุมเธอแล้วอุ้มเธอมานอนบนเตียงดีๆ ตามด้วยตัวหนาของเขาที่นอนกอดเธอไว้ในสภาพนั้น "มัน....แข็ง โดนขา" "เดะมันก็อ่อนเอง" "....อ่อ" "หรือเปลี่ยนใจอยากช่วย?" "ไม่ๆ" มิ้นมุดหน้าซ่อนในผ้าห่มแก้เขิน วันนี้มิ้นรู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่ทั้งขี้เล่น เจ้าเล่ห์และอบอุ่น แถมยังไม่ข่มเหงผู้หญิง เขาเป็นผู้ชายที่ดีเหมือนกันถึงแม้จะมือไม้ถึงไปหน่อยก็เถอะ ได้แต่หวังว่าเธอคงจะรอดเงื้อมมือเขาไปได้ครบสามวันนะ“เป็นอะไรไปน่ะมิ้น เห็นเงียบไปตั้งแต่งานแถลงข่าวแล้ว”“....อ่อ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะพี่ไพริน เดี๋ยวมิ้นขอไปห้องน้ำสักครู่นะคะ”มิ้นเดินมาเข้าห้องน้ำห้างด้วยความรู้สึกเหม่อลอย ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดีในใจก็อยากจะลาออกแล้วหนีไปสะให้ไกลจากคนเลวคนนั้นอีกใจก็กลัวพี่ริลจะเสียหน้าที่อุตส่าห์ฝากเธอเข้ามาทำงาน ถ้าจะบอกว่าเขาจำเธอไม่ได้จากเหตุการณ์เมื่อครู่มันคงไม่ใช่เขาตั้งใจมองเธออย่างชัดเจน ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเธอจะปลอดภัยกึกๆเสียงล็อกประตูห้องน้ำเรียกความสนใจเธอให้หันไปมอง ชายหนุ่มรูปร่างคุ้นตาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ณ วินาทีนั้นเธอเหมือนดั่งลมหายใจขาดหายเธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูกเขาแอบตามมาตอนไหนกัน!!“เป็นอะไรไป ลืมกันแล้วหรือไง”ชายตรงหน้าเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ จนเธอจำเป็นต้องถอยหลังไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็ติดเข้ากับผนังสะแล้วเมื่อเขาเห็นเธอกลัวก็ยิ่งรู้สึกได้ใจเลยแกล้งใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปทั่วใบหน้าอย่างๆ ยั่วยวน“กลัวฉันเหรอ ฉันใจดีมากนะเธอก็รู้….”หญิงสาวยังคงหลับตานิ่งถึงแม้ในใจอยากจะผลักคนตรงหน้าให้ออกไปพ้นๆ แต่กลัวว่าถ้าทำแบบนั้นเขาจะโมโห
ยูร์เมื่อเห็นร่างเล็กสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวก็ยิ่งได้ใจ ในเมื่อพูดกันดีๆ แล้วไม่ได้คำตอบก็คงต้องใช้วิธีนี้เขากัดเข้าที่ซอกคอขาวเบาๆ ไปมาโดยไม่สนเสียงร้องห้ามของคนตรงหน้ายิ่งเธอร้องเขายิ่งชอบและเพิ่มแรงกัดลงไปอีก“พูดมา….”“หยุด! หยุด”หญิงสาวร้องห้ามดังลั่นเมื่อชายหนุ่มสอดมือเข้ามาใต้ลำตัวเธอเพื่อตั้งใจจะปลดพันธนาการแต่ไม่เกินเสี้ยววินาทีเขากลับทำมันสำเร็จอย่างง่ายดายจนหญิงสาวได้แต่ทึ่งตอนนี้เธอลังเลใจแล้วว่าจะบอกไปตามตรงดีไหมเรื่องที่เธอแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์ แต่ถ้าบอกเขาไปตอนนี้แล้วเขาโกรธเธอมากกว่าเดิมจะเป็นอย่างไร“อยากให้ฉันจูบซอกคอขาวๆ นี่มากสินะ ถึงได้ไม่ยอมพูดออกมาสักที จริงๆ ถ้าอยากอะไรกับฉันก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งยั่วโมโหให้มันเสียเวลาหรอกเพราะฉันพร้อมสนองอยู่แล้ว”“ไอ้บ้า! ฉันไม่คิดต่ำๆ แบบนั้นหรอก! โอ็ย!”เมื่อเธอกำลังจะเตะเข้าที่ขาของคนที่คร่อมเขากลับใช้ขาข้างนั้นพลิกหนีแล้วใช้เข่ากดลงที่ขาอ่อนเธออย่างแรงจนรู้สึกปวดด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่าทำให้เธอไม่ต่างจากการถูกล็อก แต่ถึงแบบนั้นริมฝีปากอุ่นของเขาก็ยังคงทำหน้าที่พรมจูบไปทั่วใบหูอย่างไม่หยุดจนเธอแทบสติหลุด“ฉันได้ยินคุณคุยโ
ตืดๆ ตืดๆ“อืมม”เสียงโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูนักดังขึ้นปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อเธอมองไปที่ชายหนุ่มข้างกายก็ดูเหมือนว่าเขายังไม่มีท่าทีจะตื่น ตืดๆ ตืดๆเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเป็นเวลานานดูเหมือนตอนนี้จะเรียกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ได้สักที เมื่อเธอเห็นอย่างนั้นก็รีบทำท่าทีเป็นยังหลับชายหนุ่มเมื่อตื่นแล้วก็หันมามองหญิงสาวข้างกายด้วยความเอ็นดูเขาเอื้อมมือมาลูบผิวแก้มนุ่มของหญิงสาวเบาๆ ก่อนเอื้อมมือจับโทรศัพท์มารับ“ว่าไงคะน้า”(ฉันท้องงงงงงงง)“หะ! จริงเหรอ เธอท้องแล้วสุดยอดไปเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น(มาหาฉันที่โรงพยาบาลนะ ฉันจะส่งที่อยู่ให้รีบมานะ)“ได้ๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”ด้วยความเงียบทำให้เธอได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ในใจจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่กลั้นอารมณ์ไว้รอให้ชายหนุ่มออกไปก่อนเธอแอบมองชายที่กำลังรีบลุกแต่งตัวอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยความดีใจไม่มีท่าทีรู้สึกผิดต่อภรรยาเขาแม้แต่น้อยทั้งที่คืนก่อนเธอกับเขาเพิ่งจะมีความสัมพันธ์กัน....แถมเขายังไม่รู้สึกผิดต่อเธอที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นผู้หญิงที่ยุ่งกับสามีคนอื่น …..จุฟ! ระหว่างที่หลับตาเธอรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นทาปลงมาบนแก้ม นั้นยิ่งทำ
เพลง! เสียงแก้วที่ถูกปาลงพื้นดังขึ้นยิ่งทำให้หญิงสาวตัวสั่นเธอก้มหน้านิ่งเพื่อหลบสายตาอำมหิตที่ถูกส่งมาจากคนตัวสูง“เธอกำลังหยามฉันนะ ….”เขากดเสียงลงต่ำแล้วเดินเข้ามายืนต่อหน้าเธอในระยะประชิด ก่อนใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปมาข้างแก้มเธอเบาๆ แต่มันกลับทำให้รู้สึกกลัวจนหายใจไม่ออกในสมองของเธอตอนนี้คิดเพียงแค่ต้องการให้ผู้ชายตรงหน้าสงบลงและให้เรื่องจบลงด้วยดีเท่านั้น....ฉันจะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดี....นึกได้ว่าเขาแท้จริงแล้วดูเป็นคนใจอ่อนเละขาดความอบอุ่นเธอจึงค่อยๆ รวบรวมความกล้าที่มีตรงเข้าไปกอดเอวเขาไว้ด้วยตัวที่สั่นท้าวถึงแม้จะกลัวมากแต่เรื่องนี้เธอต้องเดิมพัน“ฉันไม่ได้ต้องการจะหยามคุณ เพียงแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบ ฉันไม่ต้องการเจอเขาและไม่ต้องการจดจำ ไม่อยากให้คุณทำผิด”“....”“ฉันเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น ถ้าคุณใจร้ายคุณคงไม่เลือกที่จะช่วยฉันในวันนั้นทั้งที่ฉันเป็นใครคุณก็ไม่รู้จัก ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนดีมากเพราะอย่างนั้นฉันถึงไม่อยากให้คุณทำอะไรผิดๆ”
ตืดๆ‘1ข้อความ’“นี่มัน….จริงอย่างที่คิด”เมื่อได้รับวิดีโอจากลูกน้องความรู้สึกร้อนรนก็พลุ่งพล่านไปทั่วตัว จนแอบนึกเสียดายที่วันเกิดเหตุวันนั้นเขาสั่งสอนไอ้บ้านั้นน้อยไปสักหน่อยจนมันกล้ากลับมาทำร้ายมิ้นอีก“จับตัวมา”ชายหนุ่มส่งข้อความเสียงให้ลูกน้องก่อนจะเช็ดจีพีเอสรถของตัวเองว่าตอนนี้หญิงสาวอยู่ที่ไหนยังอยู่ที่เดิม….ดีจัดการอะไรได้ง่ายหน่อยจริงๆ เขานั้นน่ากลัวกว่าที่คนภายนอกจะคิด ….ด้วยความที่พ่อของเขาเคยเป็นมาเฟียใหญ่และมักจะใช้ความรุนแรงให้เขาได้เห็นเสมอทำให้ลึกๆ แล้วเขาเองก็เป็นคนชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาไม่ใช่น้อย เรียกได้ว่ามันเป็นข้อเสียของเขาข้อใหญ่เลยละส่วนมากแล้วเขามักจะสั่งสอนให้แค่เจ็บตัวแต่ไม่ถึงตาย เพราะเขาเองก็ยังมีความเป็นคนอยู่และเขาก็ยังรักความถูกต้องลูกน้องที่มีทั้งหมดตอนนี้ก็เป็นลูกน้องเก่าของพ่อที่คิดกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดี แต่ถ้าใครยังคิดค้าขายสิ่งไม่ดีอยู่เขาก็จะมีวิธีการทำให้คนพวกนั้นจำยอมต้องเลิกทำเรื่องพวกนั้นและยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวความเลวร้ายที่พ่อของเขาเคยทำเอาไว้มันยังคงคอยหลอกหลอนเขาอยู่ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น....วันที่พ่อถูกวิสามัญมันยังคงวน
เห้ออออ หายใจโล่งสักทีต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วอีกไม่กี่เดือนฉันก็เรียนจบแล้วคงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วละ“เอ๊ย!” อยู่ๆ หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าริลรุ่นพี่ที่ให้เธอเช่าบ้านจะมาเยี่ยมเธอในวันนี้ปกติแล้วรุ่นพี่จะแวะเอาของใช้ของกินมาให้เธอบ่อยๆ รุ่นพี่ดูแลเธอดีมากเหมือนเธอเป็นพี่น้องกันจริงๆ คงเป็นเพราะต่างคนต่างเคยใช้ชีวิตมาตัวคนเดียวทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจกันมากเราสองคนเลยเหมือนพี่น้องแท้ๆ ถ้ามีปัญหาที่เธอไม่สามารถหาทางออกได้ริลจะไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยแก้ปัญหาเลยอย่างเช่นบ้านหลังนี้....ก่อนหน้านี้เธอเคยมีบ้านเป็นของตัวเองแต่เพราะถูกผู้ชายที่รักหลอกให้ใช้หนี้แทน เธอจึงจำเป็นต้องขายบ้านหลังนั้นแล้วมาขอเช่าบ้านริลพอดีกับช่วงที่ริลจะย้ายไปอยู่กับแฟนบ้านหลังนี้จึงจะต้องว่างอยู่แล้ว ริลเลยขอคิดค่าเช่าเป็นการดูแลบ้านหลังนี้แทนการจ่ายเงินเพื่อเป็นการช่วยมิ้นประหยัดทางอีกทาง“อะไรครับ? ”“พาฉันไปที่ที่หนึ่งก่อนได้ไหมคะ พอดีฉันนัดพี่สาวไว้”“แต่เรื่องนี้เจ้านายยังไม่ทราบ”“เดี๋ยวฉันจะบอกเขาเองค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”:ยูร์(เจ้านายครับ)“ว่ายังไง”(คุณมิ้นให้ผมมาส่งที่บ้านหลังหนึ่ง น่าจะเป็นบ้านของเธอ เธ