Share

บทที่ 4

Penulis: เคธี่
มุมมองของคาริสซ่า

ฉันตื่นขึ้นมาตอนราว ๆ หกโมงเย็น ฉันรีบลุกขึ้นแล้วไปอาบน้ำทันที ฉันทำกิจวัตรเสร็จแล้วรีบแต่งตัว ในตอนที่ฉันเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องพอดี ฉันรีบเปิดออกและเห็นสาวใช้อายุประมาณยี่สิบปลาย ๆ ในชุดยูนิฟอร์ม

“คุณคาริสซ่าคะ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ คุณเกเบรียลกับคุณนายมอยร่ารออยู่ที่ห้องอาหารแล้ว พวกท่านกำลังรอคุณอยู่ค่ะ” เธอกล่าว

“โอเคค่ะ ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็ช่วยอย่าเรียกฉันว่าคุณเลยนะคะ ฉันว่ามันเขินค่ะ แถมฉันคิดว่าเราอายุพอ ๆ กันด้วย” ฉันพูดอย่างยิ้ม ๆ “ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ?” ฉันถาม

“โอ๊ย ไม่ได้ค่ะ คุณนายมอยร่ากับคุณเกเบรียลคงไม่พอใจถ้าฉันไม่เรียกคุณว่าคุณ คุณเป็นภรรยาของคุณเกเบรียล เพราะงั้นเราควรเรียกคุณว่าคุณอยู่แล้วค่ะ” เธออธิบาย “แล้วฉันชื่อลิซ่า วอล์คเกอร์ค่ะ เป็นหนึ่งในสาวใช้ของบ้านนี้ ถ้าคุณต้องการอะไร บอกฉันได้เลยนะคะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม

ฉันยิ้มให้เธอและไม่ได้พูดอะไรอีก เราเริ่มเดินไปทางห้องทานอาหาร ขณะที่เดินไป ฉันก็มองไปรอบ ๆ พยายามจดจำส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่เราเดินผ่าน ฉันรู้สึกเหมือนอาจจะหลงทางได้ง่าย ๆ เพราะบ้านหลังนี้ใหญ่โตมาก แถมยังมีบันไดวนที่มีดีไซน์หรูหราอีกต่างหาก

ตอนที่เราไปถึงห้องอาหาร ฉันก็เห็นว่าป้ามอยร่า ลุงราล์ฟ และเกเบรียลซึ่งเป็นสามีของฉันรออยู่ที่นั่นแล้ว เรื่องนั้นทำให้ฉันอายเพราะดูเหมือนทุกคนกำลังรอฉันอยู่คนเดียว

“สวัสดีตอนเย็นค่ะ” ฉันทักทายพวกเขา “หนูขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนต้องรอ” ฉันพูดอย่างอาย ๆ พร้อมกับเลี่ยงที่จะมองไปทางเกเบรียล

“อ้าว มาแล้วเหรอลูก ไม่เป็นไรเลย แม่ไม่ได้บอกหนูว่าบ้านเรากินอาหารเย็นกันกี่โมงนี่นา แล้วอีกอย่าง แม่บอกหนูแล้วว่าจะให้สาวใช้ไปเรียกตอนถึงเวลากิน นั่งลงเถอะ เราจะได้เริ่มกินกัน” ป้ามอยร่าพูดกับฉันพร้อมรอยยิ้ม

“คาริสซ่านั่งข้าง ๆ สามีของหนูเลย เกเบรียลเลื่อนเก้าอี้ให้ภรรยาลูกด้วย” ลุงราล์ฟสั่งเกเบรียล

“จิ๊... เธอทำเองได้ครับพ่อ” เกเบรียลตอบอย่างหงุดหงิด

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำเองได้” ฉันพูดอย่างเขินอายกับพวกเขา และรีบเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง ลุงราล์ฟได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่พอใจในพฤติกรรมของลูกชาย

“แล้วหนูยังเรียนอยู่ใช่ไหม?” ป้ามอยร่าถามฉัน

“ค่ะคุณแม่ หนูมีเรียนวันจันทร์ค่ะ” ฉันตอบ

“ลูกอยู่ปีอะไรแล้วเรียนสาขาอะไร?” ป้ามอยร่าถาม

“หนูเป็นนักศึกษาปีสองค่ะ เรียนคณะบัญชี สาขาวิชาการบัญชี ที่มหาวิทยาลัยอีเดนค่ะ” ฉันตอบ

“เธอไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียนหรอก เพราะฉันเลี้ยงเธอได้” เกเบรียลแทรกขึ้นมาทันที

“ที่ว่าไม่ให้เธอไปเรียนแล้วที่มันหมายความว่ายังไง? เกเบรียล ลูกรู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา? ทำไมถึงไปห้ามไม่ให้ภรรยาไปเรียนล่ะ? การที่ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของลูกก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะมีสิทธิ์ห้ามไม่ให้เธอทำในสิ่งที่เธอต้องการได้นะ นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีเลย เกเบรียล ภรรยาของลูกอยากทำอะไรก็ให้เธอทำไปเถอะ... ให้เธอได้เรียนต่อ” ป้ามอยร่าตอบกลับทันควัน

ฉันมองป้ามอยร่าด้วยความประหลาดใจ ลึก ๆ แล้วฉันรู้สึกขอบคุณเธอมากเพราะฉันรู้สึกได้ถึงความเมตตาที่ป้ามอยร่ามีให้ เธอถึงกับปกป้องฉันจากลูกชายของเธอเองด้วยซ้ำ

“แม่ครับ เธอไม่จำเป็นต้องเรียนแล้ว เรียนไปจะมีประโยชน์อะไร? ผมอยากให้เธออยู่บ้านและช่วยงานบ้าน ความผิดเธอใหญ่โตขนาดนั้นก็สมควรโดนแบบนี้แล้ว” เกเบรียลกล่าว น้ำเสียงตอนที่เขาพูดฟังออกเลยว่ากำลังยับยั้งความโทสะไว้ขนาดไหน ฉันรีบก้มหน้าลง ระหว่างที่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

“ลูกไม่ได้แต่งงานกับเธอเพื่อให้มาเป็นคนรับใช้ในบ้านนี้นะเกเบรียล คาริสซ่าเป็นภรรยาของลูก เพราะฉะนั้นลูกควรปฏิบัติต่อเธอให้เหมาะสม เกเบรียลแม่รู้ว่าลูกโกรธคาริสซ่าในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อย่าให้มันกระทบกับการเรียนของเธอเลย ไม่ว่าลูกจะเห็นด้วยรึไม่คาริสซ่าก็จะได้เรียนต่อ” ป้ามอยร่าตอบ

“ขอโทษนะครับแม่ แต่คราวนี้ผมเป็นคนตัดสินใจ และถ้าแม่จะไม่เปลี่ยนใจ ผมคงต้องย้ายคาริสซ่าไปบ้านหลังอื่น แล้วผมก็จะได้ทำอย่างที่ผมต้องการ” เกเบรียลยืนกราน

“ลูกกล้าดียังไงถึงได้มาขู่แม่ตัวเองแบบนี้! เกเบรียล? ราล์ฟ คุณดูพฤติกรรมของลูกชายคุณสิ เขาเป็นลูกชายของเราจริง ๆ เหรอ?” ป้ามอยร่าโกรธมาก

“พอได้แล้ว เกเบรียล จะไม่มีใครออกจากบ้านหลังนี้ทั้งนั้นเว้นแต่พ่อจะอนุญาต ลูกไม่จำเป็นต้องพาภรรยาของลูกไปบ้านหลังอื่น พ่อรู้ว่าลูกคิดอะไรอยู่... ในตอนนี้ลูกจะต้องอยู่ที่นี่ ใครจะรู้ว่าลูกจะทำอะไรคาริสซ่าอีก” ลุงราล์ฟตอบ

เกเบรียลไม่ได้โต้ตอบกับสิ่งที่พ่อเขาพูด เขาให้ความเคารพพ่อมาก เพราะฉะนั้นถึงแม้จะขัดกับความตั้งใจของเขา เขาก็ไม่ตอบโต้ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลุกขึ้นและขอตัวออกไปข้างนอกสักพักหนึ่ง ใบหน้าของเขาแสดงออกชัดเลยว่ากำลังข่มความโกรธอย่างหนัก แต่เขาทนเพราะเห็นแก่หน้าพ่อแม่ตัวเอง

“อย่าสนใจสามีของหนูเลยนะลูก เราจะดูแลเรื่องเรียนของหนูเอง ยังไงหนูก็จะเรียนจนจบต่อให้สามีของหนูจะไม่เห็นด้วยก็ตาม” ป้ามอยร่ากล่าวอย่างอ่อนโยน

“มาเถอะ เรามากินข้าวกัน อย่าไปสนใจเกเบรียลเลย เดี๋ยวสุดท้ายเขาก็จะยอมรับทุกอย่างได้เอง แต่ตอนนี้ช่างเขาเถอะ หนูสนใจแค่ตัวหนูเองก็พอ... โดยเฉพาะเรื่องเรียน” ลุงราล์ฟกล่าว

“ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณนะคะพ่อ” ฉันพูดกับพวกเขาพร้อมรอยยิ้ม ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะยอมรับฉันมากขนาดนี้ นิสัยของพวกเขาต่างจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของฉันมาก

……

เรากินอาหารเย็นเสร็จแล้ว และตอนนี้ฉันก็อยู่ในห้อง กำลังเตรียมตัวเข้านอน

ฉันรู้สึกขอบคุณพ่อแม่สามีที่ใจดีกับฉันขนาดนี้ พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะดูแลเรื่องเรียนของฉันด้วย ซึ่งนั่นทำให้ฉันยิ่งรู้สึกขอบคุณ ราอูลจะเป็นคนไปรับและส่งฉันที่มหาวิทยาลัย ซึ่งฉันค้านหัวชนฝาแล้ว แต่ป้ามอยร่าก็ไม่ยอม เพราะพวกเขาไม่อยากให้ฉันลำบาก

แถมพวกเขายังให้เงินสดเป็นปึก ๆ สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของฉันด้วย มันมาพร้อมกับบัตรเอทีเอ็มที่เป็นชื่อของฉันแล้ว ถึงฉันจะกระดากเกินกว่าจะรับมันไว้ แต่ป้ามอยร่าก็ยืนกรานแบบนั้น

ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้ถือเงินจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาให้เงินสดฉัน ห้าหมื่นบาทพร้อมกับบัตรเอทีเอ็มที่ฉันไม่รู้ว่ามีเงินอยู่อีกเท่าไหร่ ฉันคงจะต้องลองดูตอนไปธนาคาร นี่พวกเขารวยขนาดนั้นเลยเหรอ?

ป้ามอยร่าบอกว่าพวกเขามักเดินทางไปต่างประเทศกันบ่อย ๆ และฉันควรจะเตือนพวกเขาเมื่อเงินค่าใช้จ่ายหมดแล้ว แต่ลึก ๆ ในใจ ฉันกลับคิดว่าเงินที่พวกเขาให้มาต่อให้ใช้ยันเรียนจบก็คงจะเกินพอ

ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขาใจดีกับฉันมาก ไม่ได้ปฏิบัติต่อฉันเลวร้ายอะไรเลย วิธีที่ป้ามอยร่าและลุงราล์ฟปฏิบัติต่อฉันนั้น ต่างจากครอบครัวแท้ ๆ ของฉันมาก

……

ฉันเผลอหลับไปแล้ว ตอนที่สะดุ้งตื่นเพราะมีใครบางคนอยู่ในห้อง โคมไฟข้างเตียงของฉันเปิดอยู่ และฉันก็เด้งตัวขึ้นนั่งทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ในห้องของฉัน

“เ…เกเบรียล?” ฉันพูดอย่างตกใจกลัว ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้ยังไง เพราะฉันจำได้ว่าตัวเองล็อกประตูก่อนนอน

“หึ! เธอมีความสุขไหม? แผนทรมานเธอของฉันพังไม่เป็นท่าเพราะแม่มาขวางไว้แบบนี้” เขากล่าว เขาจับคางของฉันแน่นและเชยคางฉันขึ้น

ฉันได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขา และสิ่งที่เขาทำก็ทำให้ฉันเจ็บปวด

“เก... ขอร้อง...” ฉันกำลังจะพูด แต่เขาก็ตัดบทฉันทันที

“หยุดเรียกฉันแบบนั้นนะ นางแพศยา” เขาด่า แล้วก็ผลักฉันจนล้มลงไปบนเตียง ฉันลุกขึ้นอีกครั้งและนั่งลงที่ขอบเตียง

“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ เพราะงั้นอย่ามาเรียกฉันแบบนั้น ถ้าเธอคิดว่ามีแม่อยู่ที่นี่แล้วเธอจะรอด เธอคิดผิดแล้ว” เขาเอาหน้ามาจ่อใกล้หน้าฉันและจ้องมองฉันด้วยสายตาดุดัน

“ฉันหาทางได้แน่… เธอรู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันกับอาร่าเจ็บปวดแค่ไหน? เธอคือต้นเหตุที่ทำให้อาร่าเลิกกับฉัน” เขากล่าวอย่างโกรธเคือง

“เก... เกเบรียล... ฉันขอโทษ ฉันก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน... ฉันก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว ฉันเพิ่งตื่นขึ้นมาก็เจอคุณนอนอยู่ข้าง ๆ แล้ว” ฉันพูดทั้งน้ำตา

“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ? ไม่ คาริสซ่า อาร่าบอกฉันว่าเธอแอบมีใจให้ฉันมานานแล้วนี่... เพราะงั้นเธอถึงได้หาทางทำให้เราเลิกกัน” เขาโกรธจัด

“เธอใส่อะไรลงในเครื่องดื่มของฉัน? ทำไมฉันถึงตื่นขึ้นมาในห้องของเธอ...? คาริสซ่าตอบฉันมา” เกเบรียลซักไซร้พร้อมกับเขย่าไหล่ของฉัน ไหล่ของฉันถูกเขาจับแน่นจนเจ็บ

คำถามของเขาทำเอาฉันพูดไม่ออก “ฉันไม่รู้... เชื่อฉันเถอะนะ... ฉันเองก็แปลกใจว่าทำไมเราไปอยู่ในห้องนั้น... แล้วไปลงเอยบนเตียงด้วยกันได้... ฉันเองก็สับสนไม่แพ้คุณเลยนะ เกเบรียล” ฉันตอบ

ฉันสังเกตเห็นว่าเขาชะงักไป แต่หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเขาก้กลับมาดุดันอีก “เธอโกหกน่ะสิ! ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือเธอ และเธอจะต้องเสียใจที่ทำแบบนั้นลงไป”

เขาปล่อยไหล่ของฉันและหันหลังให้ ฉันนึกว่าเขาจะออกไป แต่จู่ ๆ เขาก็หันหน้ามาหาฉันและฉีกยิ้มเยาะ

“ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของฉันแล้ว บางทีเราควรจะนอนด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย อีกนัยคือเธอควรจะทำตามหน้าที่ของภรรยาซะ” เขากล่าวอย่างยิ้มเยาะอีกครั้ง

“อะไรนะ? นี่คุณหมายความว่ายังไง?” ฉันถามด้วยความสับสน แต่ทันใดนั้นเขาก็ผลักฉันลงกับเตียงและทิ้งน้ำหนักลงมาบนตัวฉัน

“เธอรู้ดีว่าฉันหมายความว่ายังไง คู่สามีภรรยาจะทำอะไรกันในห้องนอนล่ะ?” เกเบรียลกระซิบกับฉัน

มันทำฉันขนลุกซู่ ใช่ ฉันมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขา... ฉันเคยชอบเขามาก่อน แต่ฉันจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราอีก ฉันจะละทิ้งมโนธรรมของตัวเองไปไม่ได้ ฉันรู้ว่าเขารักอาร่า และฉันไม่อยากเป็นของเล่นของเขา

“ไม่ ฉันไม่ทำ” ฉันพูดพร้อมกับผลักเขาออก แต่เขาแข็งแรงเกินไป เขาทับฉันจนไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

“ต้องทำสิ คาริสซ่า เธอจะต้องทำหน้าที่บนเตียงในฐานะภรรยา” ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงมือของเขาที่อยู่ใต้เสื้อนอนของฉัน ฉันสวมเสื้อและกางเกงขายาวตอนนอน การกระทำของเขาทำเอาฉันสะดุ้ง

“ไม่นะ เกเบรียล ไม่เอา เห็นใจฉันเถอะนะ ฉันไม่อยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอีก” ฉันวิงวอนเขา คนแข็งแรงอย่างเขา ถ้าต้องการยังไงเขาก็ทำได้

ฉันครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงมืออีกข้างของเขาที่กำลังบีบหน้าอกของฉัน มันเจ็บ นั่นยิ่งทำให้ฉันตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม มืออีกข้างของเขากำลังพยายามถกเสื้อของฉันขึ้นอย่างแรง

แต่ฉันจะไม่ยอมให้ระหว่างเรามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก ถ้ามันเคยเกิดอะไรขึ้นจริง... แล้วทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ... คืนนั้นระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ฉันพยายามผลักเขาออกในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับการกระทำของเขา ฉันไม่อยากทำแบบนี้เลยจริง ๆ ฉันทำไม่ได้เพราะฉันรู้ว่าเขาไม่ได้รักฉันเลย ฉันทั้งข่วนแขนทั้งทุบหน้าอกของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง หวังให้เขาหยุดการกระทำ

ตอนนั้นเองที่เขามองฉันอย่างหงุดหงิด “อะไรกัน คาริสซ่า? เธอยังมีอะไรให้หวงอีก? ฉันได้ทุกอย่างจากตัวเธอแล้ว ละครฉากนี้ของเธอ มันช่าง... น่าขยะแขยงจริง ๆ ฉันรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการ เธอถึงได้มาหลอกฉันไง” เขากล่าวเยาะเย้ยก่อนที่จะลุกออกจากตัวฉันไป

ฉันร้องไห้เพราะคำพูดของเขา ฉันรู้ว่าไม่ว่าฉันจะอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงเขาก็ไม่เชื่อ ฉันถึงได้แต่เงียบและร้องไห้

“บ้าเอ๊ย! ไร้สาระเป็นบ้า! ร้องไห้ไปเถอะ! แสดงละครอยู่ได้ คราวหน้าอย่ามาเล่นละครใส่ฉันอีก ไม่งั้นเธอไม่รอดแน่ คราวหน้าเธอต้องทำหน้าที่บนเตียงในฐานะภรรยาซะ! อย่างน้อยฉันก็จะแก้แค้นเธอด้วยวิธีนั้นได้! ไม่ต้องห่วงแล้วเธอจะสนุกกับมันไปเอง แต่ตอนนี้ฉันหมดอารมณ์แล้ว! เวรเอ๊ย!” พูดจบเขาก็จากไป

พอเกเบรียลจากไปแล้ว ร่างกายของฉันก็สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฉันนั่งขดตัวอยู่ตรงมุมห้อง พยายามปลอบตัวเอง

ฉันกลัวจนน้ำตาไหลอาบหน้า ฉันรู้ว่าเขาจะทำตามที่ขู่เอาไว้ได้แน่ ‘แล้วฉันจะทำยังไงดี? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉัน? ฉันไม่มีใครที่จะระบายปัญหาของฉันให้ฟังได้ด้วยซ้ำ ฉันยังไม่อยากบอกเรื่องนี้กับเพื่อน ด้วย พวกเขาต้องช็อกแน่ ๆ’
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 30

    “คุณคาริสซ่าเหรอครับ? เธอยังไม่กลับเลยครับ นายหญิงมอยร่าเป็นห่วงมาก ท่านรอคุณคาริสซ่าตลอดทั้งเย็นเลยครับ” การ์ดหน้าประตูตอบ“หมายความว่าไง เธอยังไม่กลับเหรอ? เธอออกไปตอนไหน?” ผมถามด้วยความรู้สึกตึงเครียด“ผมไม่แน่ใจครับคุณเกเบรียล การ์ดช่วงกะเช้าก็ไม่เห็นคุณคาริสซ่าออกไป แต่พวกเราตรวจสอบภาพบันทึกกล้องวงจรปิดแล้วครับ กล้องหน้าประตูจับภาพไว้ตอนที่คุณคาริสซ่าออกไปตอนบ่ายสองครับ”"เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก” ผมตอบสั้น ๆ แล้วเดินออกมาผมเดินตรงไปที่บาร์ส่วนตัวของคฤหาสน์แล้วเทเครื่องดื่มแรง ๆ ผมเป็นห่วงคาริสซ่า นี่มันดึกแล้วแต่เธอยังไม่กลับมาเลย ผมก็เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเธอไม่มีแม้แต่เสียงสัญญาณรอสายด้วยซ้ำ มีแต่เสียงข้อความอัตโนมัติดังขึ้นเลยในทันที“โธ่เอ๊ย… คาริสซ่า เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่?” ผมพึมพำท่ามกลางความเงียบ ความกังวลตอนนี้กลายเป็นความหวาดกลัวอันเย็นเยียบในใจของผมผมเลื่อนดูรายชื่อในโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาอารอนผู้ช่วยมือขวาของผม เสียงรอสายดังขึ้นสามครั้งก่อนที่เขาจะรับ และเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความงัวเงีย"ครับ คุณเกเบรียล มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?” เขาพูดอย่างสุภา

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 29

    มุมมองของเกเบรียลผมอยู่ที่บาร์ยอดนิยมแห่งหนึ่งที่เป็นของไคล์ เฮอร์นันเดซ เขาเป็นเพื่อนของผมและเป็นนายแบบชื่อดังด้วยตอนนี้ผมอยู่กับพวกแอนดี้ โลเปซ, ไคซ์ คิงและโจนาธาน ทุกคนร่ำรวยพอ ๆ กัน มีแค่มาร์คที่ไม่ได้มาเพราะเขาบอกว่ายุ่งมากผมดื่มเครื่องดื่มของตัวเองจนหมด ระหว่างนั้นเพื่อน ๆ ก็เล่นหยอกล้อกัน หัวเราะเหมือนเด็ก ๆ และคุยกันเรื่องไร้สาระสารพัดผมแทบไม่ได้ร่วมวงด้วยเลยเพราะอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ความคิดของผมวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องของคาริสซ่าตลอดเวลา ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ตอนนี้ผมควรดีใจจนลิงโลดแล้วสิ แผนของผมมันได้ผลแล้วแท้ ๆอาร่ากลับมาแล้ว อนาคตที่เราฝันไว้ร่วมกันก็อยู่แค่เอื้อม แล้วทำไมผมถึงรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้? ทำไมเรื่องของคาริสซ่าถึงทิ่มแทงผมขนาดนี้? ผมต้องยอมรับว่า…ผมเคยมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอจริง ๆแล้วทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นคนที่ทำผิดเสียเอง? ทุกความทรงจำที่เห็นรอยน้ำตาของเธอมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในอก สัญชาตญาณแรกของผมคืออยากดึงเธอเข้ามากอดแต่ผมกลับไม่ได้ทำแบบนั้นผมต้องทำให้เธอเชื่อว่าผมไม่สนใจเธอ ว่าเมื่อปีก่อนผมเป็นฝ่ายที่ถูกทำร้าย ผมต้องพิสูจน์ว

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 28

    “คุณหมอแอสเตอร์ ผมมีเรื่องอยากขอร้องครับ” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณช่วยเก็บข้อมูลการรักษาของคาริสซ่าไว้เป็นความลับได้ไหมครับ? รบกวนช่วยอย่าบันทึกการรับรักษาของเธอในแบบที่คนภายนอกสามารถเข้าถึงได้ หรือแม้แต่ในระบบภายในก็ด้วย ช่วยอย่าใส่ชื่อของเธอลงในฐานข้อมูลได้ไหมครับ?”“คุณโรนัลด์ นั่นอาจจะเกินไปนะครับ แถมยังเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงพยาบาลด้วย” หมอแอสเตอร์ตอบ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสิ้นหวังที่พลันก่อตัวขึ้นในสายตาของโรนัลด์ ท่าทีของเขาจึงนุ่มนวลขึ้น “แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ผมจะดูให้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างแล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะไปเสนอพูดคุยกับฝ่ายบริหารเองครับ”"ขอบคุณครับ คุณหมอแอสเตอร์ ถ้างั้นผมขอฝากความหวังไว้กับคุณหมอด้วยนะครับ ช่วยยื้อเวลาชีวิตเธอให้นานขึ้นทีเถอะนะครับ"“นั่นเป็นเรื่องที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับ คุณโรนัลด์ ด้วยแรงศรัทธาต่อพระเจ้า ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้นะครับ” คุณหมอแอสเตอร์ตอบเช่นนั้นเวลาหนึ่งทุ่ม คาริสซ่าถูกย้ายไปยังห้องส่วนตัว เธอยังคงหมดสติ สายให้น้ำเกลือและสายเครื่องแสดงผลพันร่างเล็กจนยุ่งเหยิง หน้ากากออกซิเจนครอบปากและจมูกของเธอ เสียงฟ่อเป็นจังห

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 27

    ร็อกซี่พุ่งพรวดผ่านประตูอัตโนมัติของโรงพยาบาลเข้ามาด้วยสภาพหายใจหอบ เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นโรนัลด์อยู่ตรงพื้นที่รอสำหรับผู้มาเยี่ยม เธอก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยท่าทีตระหนกกังวล"โรนัลด์" เธอเอ่ยเรียกแล้ววิ่งเข้าไปหาเขา "เกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นอะไร?""คาริสซ่าน่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและตึงเครียด “เธอเป็นลมไป ตอนที่อยู่สวนสาธารณะ เธอโทรมาหาฉัน ร้องไห้สะอึกสะอื้น… แทบจะพูดไม่เป็นคำ พอฉันไปถึง เธอก็เป็นลมล้มใส่ฉันแล้ว”ดวงตาของร็อกซี่พร่ามัวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ ความหวาดกลัวเย็นเยียบแล่นลงสู่ท้องน้อย เธอรู้ว่าคาริสซ่าใจสลาย แต่ถึงขั้นเป็นล้มพับไปแบบนี้เลยหรือ? คนคนหนึ่งจะทนไหวได้มากแค่ไหนกันเชียว“ฉันก็เลยขับรถพาคาริสซ่าตรงมาที่นี่” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียดเจือความกังวลที่มิอาจควบคุมได้ เขาเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย “หมอยังตรวจหล่อนอยู่เลย พระเจ้า ร็อกซ์ เธอต้องเห็นคาริสซ่า… หล่อนตัวซีดอย่างกับศพเลย”"อะไรนะ?" ร็อกซี่พรวดออกมาเบา ๆ เธอรู้สึกสับสนไปหมด “แต่คาริสซ่าไม่เคยมีปัญหาสุขภาพเลยนะ ต้องเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เห็นเมื่อวานจนรับไม่ไหวแน่”“ฉันเองก็ไม่รู้” โรนัลด์

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 26

    ปลายนิ้วของคาริสซ่าจับปากกา มือของเธอสั่นเทา เธอเขียนชื่อตัวเองลงตรงบรรทัดนั้นแต่ตัวอักษรกลับเลือนรางด้วยน้ำตาที่เปื้อนบนกระดาษเกเบรียลรวบรวมเอกสารขึ้นมาใส่กลับเข้าไปในซองโดยไม่พูดอะไรเลย เขาหันหลังเดินออกไปแต่ดวงตาของเขาและเธอกลับสบกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเขาจะเดินออกไปจริง ๆความเงียบหลังจากที่เขาออกไป ช่างชวนอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก คาริสซ่านั่งอยู่บนขอบเตียง ในห้องกว้างนั้นมีเพียงเสียงของเธอที่กำลังสะอื้นไห้และหายใจอย่างกระเสือกกระสน ราวกับบรรยากาศภายในห้องถูกแทนที่ด้วยความโศกเศร้ามหาศาลในที่สุด สัญชาตญาณอันเยือกเย็นก็ผลักให้เธอลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ผู้หญิงในกระจกช่างดูแปลกหน้า ดวงตาของเธอแดงก่ำ ใบหน้าซีดและเป็นปื้นแดง หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตา ฝืนหายใจด้วยร่างกายที่สั่นเทาหลังจากตั้งสติได้ เธอก็คว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเหม่อลอยเธอเคลื่อนตัวไปตามโถงกว้างใหญ่ของคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเลย บรรดาคนรับใช้กำลังยุ่งง่วนกันอยู่ พวกการ์ดก็คอยสอดส่องดูแลบริเวณนอกคฤหาสน์ ไม่ใช่ภายในคฤหาสน์ที่กำลังพังทลายลง เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน รู้เพียงว่าเธ

  • รักแท้ของเศรษฐีพันล้าน   บทที่ 25

    มุมมองของคาริสซ่า เสียงเคาะเบา ๆ ปลุกฉันจากการหลับ ฉันฝืนลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นลิซ่า หนึ่งในแม่บ้านยืนอยู่ที่โถงทางเดิน“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะคุณคาริสซ่า คุณผู้หญิงมอยร่าให้มาแจ้งว่าว่าอาหารค่ำพร้อมแล้วค่ะ” เธอกล่าว สายตาเธอจ้องมองใบหน้าฉันเนิ่นนาน และฉันก็รู้ว่าเธอเห็นอะไร ดวงตาที่บวมเป่ง ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงไงล่ะ“ช่วยบอกท่านว่าฉันยังไม่หิวได้ไหมคะ? ฉันเพิ่งทานอาหารที่ห้างกับร็อกซี่มาเอง” ฉันขอร้องเธอ คำพูดติดอยู่ในลำคอ น้ำเสียงฟังดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“ได้ค่ะ” เธอตอบอย่างอ่อนโยน แล้วหันหลังเดินจากไปฉันกลับไปที่เตียง ความเงียบของห้องกดดันฉัน จิตใจของฉันกลวงโบ๋ ฉันจำเป็นต้องเจอเกเบรียล เราต้องคุยกัน……แสงยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่าน ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของเตียงถูกปล่อยทิ้งไว้ ความว่างเปล่านั้นทำให้เจ็บปวดทั้งกายใจความริษยาเต้นเร่าอยู่ในท้องฉัน ในใจเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้นภาพหนึ่ง คือภาพที่เกเบรียลอยู่กับอาร่าเป็นเพราะวันนั้นมอยร่ากับราล์ฟออกไปข้างนอกกัน จึงไม่มีใครสังเกตเห็นความทุกข์ของฉัน คนงานเดินไปเดินมาในบ้านโดยไม่ได้รับรู้อะไร เว้นแต่ลิซ่าที่ตอบรับคำขอของฉันอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status