Share

ตอนที่ ๑๒

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-21 20:53:40

ตอนที่ ๑๒

          ก๊อก! ก๊อก!

          พอเสียงเคาะประตูเงียบลง ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงร่าเริงสดใสของปภาดา

          “หมดเวลาสนุกแล้วสิ” หญิงสาวก้าวเข้ามาในห้องทำงานของบุลิน แต่ไม่พบกับคนที่เธอมาหา พบเพียงเพื่อนสนิทซึ่งเป็นน้องสามีด้วยนั้นกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน “ไอ้บุ้งน้องไนท์ล่ะ”

          “อยู่ในห้องน้ำ”

          สายตาของปภาดาสะดุดเข้ากับรอยยับย่นและรอยลิปสติกบนปกเสื้อของบุลินทันที เธอรู้ว่ามันต้องเป็นของนิศากรอย่างแน่นอน เพราะเธอเป็นคนให้ลิปสติกสีใหม่ในคอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์ตัวเองกับเจ้าตัวไปก่อนจะมาที่นี่และหญิงสาวก็ใช้มันทันที

          “ไอ้เลวบุ้ง นี่ในห้องทำงานนะมึง” ปภาดาเดินสับเท้าเข้าไปยืนกอดอกตรงหน้าเพื่อน

          บุลินเงยหน้าขึ้นพลางเท้าคางมองปภาดาที่กำลังมองตัวเองเหมือนเป็นคนร้าย “ไม่ต้องมาอิจฉาเลย เพราะอย่างพี่บีน่ะไม่กล้าทำอะไรตื่นเต้นแบบนี้ในห้องทำงานแน่ๆ”

          “ไอ้บุ้ง ไอ้บ้า!” คนที่เผลอจินตนาการถึงเรื่องไม่ควรที่จะเกิดในห้องทำงานแหวใส่อีกฝ่ายเสียงดังด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “เขาไม่ทำแบบมึงมันก็ดีอยู่แล้ว เกิดใครเปิดเข้ามาเห็นเข้าจะทำยังไง นึกถึงใจน้องเขาบ้างสิ อย่างน้องเขาน่ะคงไม่กล้าปฏิเสธมึงหรอก”

          “แต่ห้องทำงานกู ถ้าไม่อนุญาตก็ไม่มีใครเข้ามาโดยพลการนอกจากมึงเนี่ย”

          “โอ๊ย ถึงอย่างนั้นมึงก็ต้องมีสำนึกบ้างว่าไม่ควร”

          “คราวหน้าจะไม่ทำแล้วพอใจยัง” บุลินตัดบทเพื่อนด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเต็มใจ

          “กูไม่เชื่อมึงหรอก คราวหน้ากูจะไม่พาน้องเขามาอีก”

          “คราวหน้ากูก็จะไม่ให้ไนท์เขามาพร้อมมึง”

          “ไอ้บุ้ง มึงมาให้กูเขกหัวสักทีสิ!” ปภาดาทำท่าจะยื่นมือไปเขกหัวของเพื่อนจริงๆ อย่างที่พูด แต่เพราะเสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้ชะงักไปก่อน

          นิศากรที่เข้าไปจัดการความเรียบร้อยของเสื้อผ้าและทรงผมสะดุ้งเบาๆ เมื่อเห็นปภาดา เธอหลบตาอีกฝ่ายทันที

          ปภาดาหันไปค้อนใส่เพื่อน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น “น้องไนท์เรากลับบ้านไปเล่นกับตุ๊ต๊ะตุ้มตุ้ยกันดีกว่า หมาน่ารักๆ น่ะดีกว่าหมาที่ชอบเลียปากเจ้าของไม่เลือกที่นะคะ”

          “ขี้อิจฉา” บุลินเอ่ยลอยๆ

          “เออ...ไนท์กลับก่อนนะคะพี่บุ้ง” หญิงสาวมองทั้งสองคนอย่างงงๆ

          ปภาดาคว้าข้อมือของนิศากรได้ก็จูงคนร่างเล็กกว่าออกจากห้องทำงานของบุลินไปทันที แต่ก่อนไปก็ยังมีเสียงเอ่ยตามมา

          “ไนท์พี่ลืมบอก วันนี้ลิปสติกสีใหม่เข้ากับเธอมากเลยนะ”

          นิศากรที่เพิ่งเข้าไปเติมลิปสติกในห้องน้ำเขินขึ้นมาทันที แถมยังเพิ่งรู้ตัวด้วยว่าตัวเองยังไม่ได้เช็ดรอยเปื้อนบนคอกับปกเสื้อของชายหนุ่ม วันนี้ไม่น่ามาเลย คราวหน้าจะไม่มาอีกแล้ว เธอบอกกับตัวเอง

          หลังจากหญิงสาวทั้งสองคนจากไปแล้ว บุลินก็ยกโทรศัพท์ภายในขึ้นมาต่อสายไปยังเลขาซึ่งนั่งทำงานอยู่อีกห้องหนึ่ง

          “อีกเดี๋ยวมีประชุมใช่ไหม นายช่วยหาเสื้อเชิ้ตมาให้ฉันเปลี่ยนหน่อย พอดีฉันทำกาแฟหกใส่จนเลอะเสื้อ” พอสั่งเสร็จแล้วบุลินก็เอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยความสบายใจ

          รออยู่ครู่ใหญ่เลอศิลป์ก็แจ้งว่าจะเอาเสื้อเข้ามาให้ บุลินจึงถอดเสื้อเชิ้ตตัวที่ใส่อยู่ออกก่อนอีกฝ่ายจะเข้ามายังห้องทำงานของตน

          “อ้าว เปื้อนเยอะเลยเหรอครับ ถึงกับต้องถอดรอเลย แล้วมันลวกผิวหรือเปล่า” เลอศิลป์เอ่ยปากถามด้วยความสงสัยปนห่วงใย

          “เปล่า นายไปทำงานเถอะ” บุลินรับเสื้อเชิ้ตมาสวมทันที

          “แล้วเสื้อตัวที่เปื้อนจะให้ผมเอาไปส่งซักให้ไหมครับ”

          “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเอากลับไปซักที่บ้านเอง”

          “ครับๆ งั้นผมไปทำงานต่อแล้วนะครับ”

          “อือ” บุลินรับคำเบาๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมองอีก เลอศิลป์มองท่าทางเหมือนยุ่งๆ ของเจ้านายอย่างงงๆ ทำไมวันนี้ดูขยันกว่าปกติ

          ไหนๆ ก็ออกมาข้างนอกทั้งที สองสาวจึงเลือกไปนั่งเล่นในร้านของหวานก่อนจะกลับ แล้วนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อย

          “พี่บุ้งแต่ก่อนนิสัยไม่ดีเหรอคะ”

          ปภาดาที่กำลังตักสตรอว์เบอร์รีบนแพนเค้กเข้าปากเลิกคิ้วสูง พอกลืนทุกอย่างลงคอแล้วจึงได้เอ่ยถาม “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ”

          “พี่บุ้งเคยบอกว่า ถ้าไนท์ได้เจอพี่บุ้งตอนนั้นคงไม่ชอบพี่บุ้งแน่ๆ”

          “ก็มันเลว”

          “ถึงขั้นนั้นเลยเหรอคะ”

          ปภาดาหัวเราะกับอาการตาโตของอีกฝ่าย “พี่แค่ใส่อรรถรสเข้าไปค่ะ ไม่เลวขนาดนั้นหรอก ก็แค่คบผู้หญิงไปเรื่อยเปื่อย ใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไป ตอนนั้นในใจมันมีแค่เรื่องแข่งรถเท่านั้นแหละ ผู้หญิงก็แค่สีสันในชีวิตแก้เบื่อเป็นบางเวลา แต่รายชื่อผู้หญิงที่เคยคบก็ยาวเป็นหางว่าวอยู่เหมือนกัน จะว่าเข้าข่ายเจ้าชู้ก็...เออ...มันก็คบทีละคนอยู่นะ ไม่เคยคบซ้อนหรือมีกิ๊ก เพียงแต่คนหนึ่งมันไม่ค่อยนาน ชื่อเสียงคนก็รู้กันทั่ว ผู้หญิงก็ยังเข้ามาไม่ขาด คงเพราะหน้าตากับฐานะด้วยนั่นแหละ แล้วก็มันมีจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงชอบหลงเข้ามา”

          “...” นิศากรฟังอย่างตั้งใจ

          “ตอนเจอครั้งแรกมันดูขรึมแล้วก็เย็นชาใช่ปะล่ะ” ผู้ฟังพยักหน้าว่าใช่ “แล้วแต่ก่อนลุคส์มันก็ดูแบดบอยๆ แถมเป็นนักแข่งรถอีก กร้าวใจผู้หญิงจะตายไป”

          นิศากรนึกภาพตาม...สำหรับเธอไม่รู้สึกว่ากร้าวใจเลย

          “แต่มันดันเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายผิดคาด ผู้หญิงที่เข้าหาก็เลยชอบคิดว่าเพราะว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นแน่ๆ จากนั้นก็ติดกับดักไอ้บุ้งมันแล้ว”

          “แล้วไม่มีคนที่พี่บุ้งเขารู้สึกจริงจังด้วยบ้างเหรอคะ”

          “อะๆ นี่คำถามแบบท็อปซีเครตเลยนะคะ ต้องมีค่าเปิดปากด้วยแล้วมั้ง”

          “...แล้วพี่ปอนด์อยากได้อะไรคะ”

          ปภาดายิ้มเจ้าเล่ห์ “บอกพี่มาหน่อยสิว่ารู้สึกยังไงที่ถูกไอ้บุ้งจับกินในห้องทำงาน”

          คนถูกถามหน้าแดงขึ้นมาทันที “พี่ปอนด์...รู้เหรอคะ!”

          “พี่กับไอ้บุ้งโตมาด้วยกันนะ แค่อ้าปากก็เห็นไปถึงลิ้นไก่ อีกอย่างน้องไนท์รุนแรงไปนะคะ ขยุ้มเสื้อมันจนยับขนาดนั้น แล้วไหนจะรอยลิปสติกตรงปกเสื้อกับคออีก”

          “ไนท์ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันยับนะคะ ตอนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง” พอพูดจบหญิงสาวก็รู้สึกอายหนักกว่าเดิม

          ปภาดาหัวเราะกับท่าทางร้อนรนของนิศากร ถ้าเทียบกับอีกคน นั่นนิ่งอย่างกับหิน ต่อให้ตัวเธอบังเอิญโผล่พรวดเข้าไปเห็นก็คงจะไม่รู้สึกอะไร

น่าสงสารเด็กน้อยจริงๆ ที่ถูกแกล้งแบบนี้

“เล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ เรื่องคนที่มันเคยจริงจังด้วยน่ะ”

“...” นิศากรนิ่งฟังอย่างตั้งใจ

“ก็สวยนะ เป็นนางแบบดังคนหนึ่งเลย มันเข้าไปจีบเขาเพราะหมั่นไส้คนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าคนหนึ่งที่ตามจีบนางแบบคนนั้นอยู่ก่อน ผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องมันคบผู้หญิงไปทั่วก็เลยไม่รับรักง่ายๆ แต่ไปๆ มาๆ ไอ้บุ้งก็ดันชอบเขาเข้าจริงๆ เพียงแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นมีคนที่ตัวเองชอบอยู่ก่อน ไอ้บุ้งก็ไม่ตัดใจเพราะพวกเขายังไม่ได้คบกันน่ะ พี่ว่าตอนนั้นผู้หญิงเขาก็ลังเลนะ แล้วก็เริ่มมีใจให้ไอ้บุ้งด้วยแหละ ที่มันขับรถออกไปอย่างหุนหันพลันแล่นก็เรื่องผู้หญิงคนนี้นี่แหละ ทั้งสองคนทะเลาะกันน่ะ มันก็เลยจะไปหา”

“แล้วก็ประสบอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”

ปภาดาพยักหน้า “เขามาเยี่ยมไอ้บุ้งครั้งหนึ่งนะ แล้วก็ไม่มาอีกเลย พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่พี่คิดว่าเพราะเขารู้สึกผิดกับไอ้บุ้งนั่นแหละ เลยไม่มาอีก”

“แล้วตอนนี้เขา...”

“แต่งงานมีลูกไปแล้วจ้า ลูกตั้งสามคนแน่ะ ตอนนี้ก็ดูมีความสุขดี ไม่ต้องห่วงเรื่องแฟนเก่าจะกลับมาขอคืนดีหรอก อีกอย่างตอนนี้ไอ้บุ้งก็ติดน้องไนท์แจเลย”

“มะ...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งคะ”

“เหรอ” ปภาดาลากเสียงสูง

“พี่บุ้งก็แค่อยู่กับไนท์แล้วสบายใจ แถมยังเห็นไนท์เป็นลูกหมาด้วย”

“หือ”

“ช่วงที่เริ่มกลับมาทำงานใหม่ๆ น่ะ พี่บุ้งเหนื่อยมากค่ะ ก็เลยละเมอออกมา เหมือนลูกหมาเลย ลูกหมาตัวเล็กๆ”

“...” ปภาดาได้แต่เลิกคิ้ว

“คิดอยู่หลายวันว่าอะไรเหมือนลูกหมา ตอนเห็นพี่บุ้งลูบหัวตุ๊ต๊ะกับตุ้มตุ้ยเล่น ก็เลยเหมือนจะคิดออก แล้วพอตอนพี่บุ้งลูบหัวไนท์บ้างก็เลยคิดว่าลูกหมาที่ละเมอออกมาต้องเป็นไนท์แน่ๆ”

ปภาดายกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ “น้องไนท์คิดมากไปหรือเปล่าคะ”

“แล้ว...จะให้คิดถึงอะไรอย่างอื่นอีกเหรอคะ เพราะปกติพี่บุ้งก็ไม่เคยลูบหัวพี่ศิลป์ ก็เห็นลูบแต่หัวไนท์กับตุ๊ต๊ะตุ้มตุ้ย” หญิงสาวแน่ใจ “พอลูบหัวเสร็จก็จะบอกว่าน่ารัก”

“โอ๋ๆ จะว่าไปน้องไนท์ก็เหมือนจริงๆ นั่นแหละ ไอ้บุ้งก็ช่างคิดไปได้” อดยื่นมือไปลูบหัวของหญิงสาวที่ออกจะตัวเล็กกะทัดรัดไม่ได้เลย

“พี่ปอนด์ก็...” นิศากรบ่นอุบอิบ แต่ไม่ได้ปัดมือของปภาดาออกจากศีรษะตัวเอง

“ดีใจนะที่มันได้แต่งกับน้องไนท์ มันกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นตั้งเยอะ” ปภาดายิ้มละไม “แถมนิสัยก็เหมือนจะดีขึ้นนิดหนึ่ง”

หญิงสาวไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้บุลินกลับมามีชีวิตชีวาตามที่ปภาดาพูด แต่อย่างน้อยเธอก็อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งอย่างแน่นอน นิศากรได้แต่อมยิ้มและกินขนมหวานต่ออย่างมีความสุข

หลังจากวันที่นิศากรไปหาเขาที่บริษัทและเอาข้าวกลางวันไปให้บุลิน นับแต่นั้นมาทุกเช้าเธอก็จะทำอาหารใส่กล่องให้เขาถือไปกินกลางวันที่ทำงานด้วย แต่เช้าวันหนึ่งเธอก็พลาด...

          นิศากรบอกกับตัวเองแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่มาห้องทำงานของบุลินอีก แต่เธอดันตื่นสายมากเพราะปั่นงานแทบทั้งคืน เนื่องจากก่อนหน้านั้นมัวแต่วาดภาพสีน้ำเล่นจนเพลิน พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คเชนทร์โทรมาทวงถามว่างานไปถึงไหนแล้ว พอใกล้เดดไลน์เธอถึงได้รีบลงสีภาพการ์ตูนพวกนั้นจนหูตั้ง นั่งจ้องหน้าจอจนตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ระบบการทำงานของเธอเปลี่ยนไปจนเละเทะแบบนี้ อาจจะตั้งแต่ไม่ต้องทำงานแบบหลบๆ ซ่อนๆ แล้วละมั้ง จะเอาออกมาทำตอนไหนก็ได้ เลยตามใจตัวเองจนเกินไป อยากวาดอะไรก็วาด อยากทำอะไรก็ทำ

พอตื่นมาไม่เห็นเจอบุลิน แต่เจอกับกระดาษโน้ตที่เจ้าตัวแปะทิ้งไว้ที่หน้าตู้เย็นว่า ‘พี่จะรอข้าวกลางวันนะครับ’ เธอถึงได้มาที่นี่อีกครั้ง หลังจากไม่ได้มาตั้งเป็นเดือนแล้ว

หญิงสาวเคาะประตูสองสามทีเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอมาแล้ว ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป บุลินเงยหน้าขึ้นมองเธอ เขาหัวเราะออกมาทันที

“หัวเราะอะไรคะพี่บุ้ง”

บุลินพับหน้าจอแล็ปท็อปลง “มาหาพี่ตรงนี้หน่อยสิ”

นิศากรเดินไปหยุดข้างตัวชายหนุ่มตามที่เขาเรียก บุลินเอื้อมมือไปดึงเบาๆ ร่างเล็กบอบบางก็นั่งลงมาบนตักของเขา ถุงผ้าที่ใส่กล่องข้าวเกือบจะหลุดจากมือ

“พี่บุ้ง!”

“ไม่ใส่กระโปรง แต่ใส่เอี๊ยมหมีมาแทนนี่คิดว่าจะรอดเหรอ” บุลินหัวเราะเสียงเบาข้างใบหูของภรรยาตัวเล็กของเขา “แค่ดึงเอี๊ยมออกจากตัวเธอง่ายจะตายไปครับ”

หญิงสาวเอี้ยวตัวไปทุบไหล่ชายหนุ่ม “เดี๋ยวเสื้อพี่ก็ยับอีกหรอก”

บุลินเลิกคิ้ว “คราวก่อนเพราะหันหน้าหาพี่ คราวนี้จะให้เธอหันหน้าไปทางโต๊ะ”

“พี่บุ้ง พี่พูดอะไรเนี่ย” นิศากรยกมือขึ้นปิดปากสามีทันที หน้าของเธอร้อนไปหมดแล้ว

“หน้าแดงแบบนั้น กำลังจินตนาการอยู่เหรอครับ” บุลิน

ยกมือขึ้นลูบหัวของหญิงสาว

“เลิกแกล้งไนท์ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นวันหน้าจะไม่ทำข้าวกลางวันให้แล้วนะคะ” หญิงสาวขู่ แต่อีกฝ่ายเหมือจะไม่กลัวเลยสักนิด

“กล้า”

เสียงรูปซิปจากด้านหลังทำให้นิศากรต้องรีบตะครุบมือของชายหนุ่มไว้ทันที แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ กับใบหน้าเจื่อนๆ “ไม่กล้าค่ะ”

ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ ขำจนต้องซบหน้ากับบ่าเล็กของหญิงสาวเพื่อพักเหนื่อย “วันนี้พี่เบื่อจะแย่แล้ว ขอบคุณครับที่มาหาตามที่ขอ คลายเครียดไปได้ตั้งเยอะ”

นิศากรหันไปยกมือขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่ม ซบหน้าลงกับลำคอหอมกรุ่น เธอชอบกลิ่นหอมของชายหนุ่มมากจริงๆ

“สู้ๆ นะคะพี่บุ้ง ไนท์คงช่วยอะไรพี่ไม่ได้นอกจากทำกับข้าวให้พี่กิน”

“ไนท์ช่วยพี่ตั้งเยอะครับ พี่...”

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูทำให้นิศากรสะดุ้ง เธอรีบลุกจากตักของบุลินไปยืนข้างเก้าอี้ทันที

“อ้าว น้องไนท์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เลอศิลป์ทักทายหญิงสาว แต่สายตากลับเหล่บุลินเล็กน้อย เพราะเจ้าตัวเคยสั่งว่าถ้านิศากรมาหาห้ามใครเข้ามารบกวน แม้กระทั่งเลขาอย่างเขา

“ไนท์ไปหาพี่ศิลป์แล้วค่ะ แต่เมื่อกี้พี่ศิลป์ไม่อยู่ที่โต๊ะ ก็เลยเดินเข้ามาที่ห้องพี่บุ้งเลย” หญิงสาวรีบบอก

“มีอะไร”

“จริงๆ มันใกล้ถึงเวลาพักแล้ว พี่บุ้งพักก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมมาใหม่” เลอศิลป์หมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของบุลินไปทันทีที่พูดจบ

“พี่บุ้งเห็นไหมคะ ถ้าเมื่อกี้พี่ทำอะไรไนท์อยู่ พี่ศิลป์ต้องเข้ามาเห็นแน่ๆ”

“ความผิดเธอนะที่ไม่ได้แจ้งเขาก่อนจะเข้ามาหาพี่ เพราะพี่เคยบอกศิลป์ไปแล้วว่าถ้าเธอมาหาพี่ห้ามใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด แม้แต่ตัวของเขาเองน่ะ”

“...” นิศากรได้แต่กะพริบตาปริบๆ ที่อยู่ๆ ตัวเองก็เป็นคนผิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เอาเป็นว่าถ้าอยากทำเรื่องตื่นเต้นขึ้นมาอีก พี่จะเดินไป

ล็อกประตู จะได้ไม่กังวลดีไหมครับ ส่วนตอนนี้มากินข้าวกันเถอะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน “พี่หิวแล้ว”

หญิงสาวรู้ว่าเขาแกล้ง ยิ่งพยายามสู้ บุลินก็ดูเหมือนจะสนุกที่ได้แกล้งมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าไม่ขัดอะไรบ้างเลย ก็จะยิ่งไปกันใหญ่

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี

    ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี บุลินนอนมองคุณแม่ของลูกสาวทั้งสองซึ่งยังหลับสนิท เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของลูกๆ รวมถึงของเขาด้วย เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อเข้าครัวทำมื้อเช้าให้กับทุกคน เธอปรือตาขึ้นมองสามี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองนิ่งๆ เท่านั้น บุลินอดใจไว้ไม่ไหวจึงยื่นหน้าไปจูบหนักๆ ลงบนหน้าผากของคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูกสาวคนโตนอนหลับอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ ส่วนคนเล็กไปนอนค้างกับบวรและปภาดา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงมีเพียงกันและกันอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นยามเช้าที่แสนเย้ายวนใจ “น้องไนท์ถุงยางอนามัยหมดแล้ว” บุลินก้มลงกระซิบ มือก็ลากไล้ไปตามเอวของหญิงสาวที่ขยับขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเพราะผ่านการเป็นคุณแม่มาแล้ว นิศากรพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาอมยิ้ม “ถ้าไม่ใช้ก็อาจจะท้องอีกนะครับ” คนฟังขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินอีกประโยคสติก็เริ่มแจ่มชัด “พี่บุ้งอยากมีอีกคนเหรอคะ” “เจ้าขาก็โตแล้ว จันทร์เจ้าก็ถูกพี่บีแย่งไป เหงาน่ะไม่มีใครให้อุ้มเลย” “ลูกมากจะยากจนนะคะ” นิศากรหัวเราะคิกคัก

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง

    ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง ลูกสาวคนโตวัยเกือบเจ็ดขวบกว่านั้นไม่เคยมาขอนอนด้วยอีกเลยตั้งแต่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองส่วนลูกสาวคนเล็กที่อายุเพิ่งครบห้าปีก็แทบจะไปนอนกับบวรและปภาดาวันเว้นวัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงมีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนอยู่มาก นิศากรหวีผมเรียบร้อยแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปหาสามีที่กำลังอ้าแขนรอ เธอซบหน้ากับอกของชายหนุ่มพลางหายใจเอากลิ่นหอมจากกายสามีเข้าเต็มปอด “มีอะไรครับ” บุลินเอ่ยถามเพราะรู้สึกได้ถึงอาการกังวลใจของภรรยา “เดย์บอกว่าคุณพ่ออยากเจอไนท์ค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับแน่นขึ้น “อยากเจอหรือเปล่าครับ” เธอพยักหน้า “เดย์บอกว่าคุณพ่อกังวลมากและคิดอยู่นานว่าจะเจอไนท์ดีหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจ “ไนท์จะเริ่มต้นใหม่กับคุณพ่อได้ไหมคะ มันจะราบรื่นหรือเปล่า” “ยังไงก็มีเจ้าขากับจันทร์เจ้าอยู่นะครับ คุณพ่อเอ็นดูสองคนนั้นจะตายไป” บุลินพาลูกสาวทั้งสองคนไปเยี่ยมชัยกรอย่างน้อยเดือนละครั้ง “ลูกต้องช่วยให้บรรยากาศระหว่างเธอกับท่านเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” “ไนท์ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” “ยังไงก็

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดุจจันทรา

    ตอนพิเศษ ดุจจันทรา ดุจจันทราหรือน้องจันทร์เจ้าของทุกคน ลูกสาวคนที่สองของบุลิน เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ทำเอาทุกกังวลใจกันไปหมด แต่หลังจากออกจากตู้อบมาแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงดี เพียงแต่เจ้าตัวกลับติดบวรมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างบุลินเสียอีก ดังนั้นจึงกลายเป็นพ่อบี พ่อบุ้งไปโดยปริยาย “พรุ่งนี้จันทร์เจ้าจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก พี่บีจะไปส่งลูกไหมคะ” ปภาดาซึ่งนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก หันมาถามสามีเมื่อเห็นว่าเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ว “พี่ว่าจะไม่ไปหรอก” บวรรับหวีมาจากมือของปภาดาแล้วช่วยแปรงผมให้อย่างเบามือ “อ้าวทำไมล่ะ ลูกไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ ไอ้บุ้งก็บอกว่าต้องลองไปสัมผัสดู ครั้งเดียวในชีวิตเลยที่ลูกจะมีวันนี้” ปภาดาฟังประสบการณ์ครั้งแรกของบุลินที่ไปส่งดั่งบุหลันลูกสาวคนโตแล้วตื่นเต้นอยากไปบ้าง “ไม่อยากเห็นน้องจันทร์เจ้าร้องไห้น่ะค่ะ” “โอ๊ย พ่อบี น้องจันทร์เจ้าเก่งจะตายไป ไม่ร้องหรอก” “ต้องร้องแน่ๆ ไม่มีเด็กคนไหนไม่ร้องหรอก ขนาดไอ้บุ้งยังร้องไห้จ้าอยู่เป็นอาทิตย์ๆ” ปภาดาหัวเราะคิกคัก “ปอนด์จำได้ ร้องจนปอนด์รำคาญ แต่เด็กที่ไม่

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน

    ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน “เจ้าขาคนดีของพ่อบุ้ง ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” บุลินถูกภรรยาวานให้มากล่อมลูกสาวคนโตที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน ชายหนุ่มเท้าคางนอนตะแคงอยู่ข้างลูกสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนิ่ง แม้ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำ “ลืมทำการบ้านหรือเปล่า กลัวคุณครูดุก็เลยไม่อยากไปโรงเรียนเหรอครับ” บุลินพยายามคาดเดาเหตุผลที่ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน “หรือว่าถูกใครแกล้ง” พอพูดออกไปเขาก็ขมวดคิ้ว เท่าที่ผ่านมาไม่มีเด็กกล้ารังแกลูกเขาหรอก เคยทำคนที่มาแกล้งจนฟันน้ำนมหักเลยด้วยซ้ำ เหตุผลนี้คงไม่ใช่ “เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามีอะไรก็จะบอกพ่อบุ้ง เจ้าขาก็รู้ว่าพ่อเก็บความลับเก่งที่สุดเลย” คนร่างจิ๋วภายใต้ผ้าห่มขยับตัวยุกยิก บุลินใจชื้นที่ลูกสาวมีปฏิกิริยาสักที เขารอคอยอย่างอดทนให้ลูกสาวออกมาคุยกันดีๆ แต่แล้วกลับนิ่งไปอีก “เอ๊ะ หรือว่าจริงๆ แล้วป่วย” บุลินพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวของลูกสาว “พ่อหนูไม่ได้ป่วยนะ” น้ำเสียงเล็กๆ ที่ตอบกลับมานั้นฟังอู้อี้ “แล้วทำไมไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” “ก็มัน...เสียใจ เจ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๓

    ตอนที่ ๒๓ ถึงคนเป็นพ่อจะยังไม่หายดีและยังไม่พร้อมเจอกับนิศากร แต่เรื่องที่ยอมให้อยู่กับบุลินได้อย่างเดิมก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านอารมณ์ของชัยกรไปในทางที่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับอารมณ์เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียดของอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว พอเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปด้านในโดยมีมือของบุลินที่กอบกุมมือเธออยู่ ก็พบว่าทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเธอ รวมทั้งน้องสาวฝาแฝดอย่างทิพากรด้วย ซึ่งวันนี้ถูกแต่งหน้าจนสวยกว่าทุกที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปภาดาอย่างแน่นอน นิศากรเดินเข้าไปหาแสงรุ้งเป็นคนแรก หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” แล้วจับมือของหญิงสาวมาบีบเบาๆ “จากนี้ต่อไปก็ขออย่าให้มีอะไรมาพรากเธอไปจากหลานชายฉันอีกเลย” “คงไม่มีแล้วค่ะ ยกเว้นพี่บุ้งจะเบื่อไนท์” “ไม่มีวันนั้นหรอกน่า” บุลินแทรกขึ้นมาทันที “ย่าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” หญิงชรายังคงไม่ยอมปล่อยมือของคนอ่อนวัยกว่าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วคราวนี้ฉันก็จะไม่ยอมแน่” “นั่นสิ คราวนี้ไม่มีใครยอมหรอกนะน้องไนท์” ปภาดาเบ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๒

    ตอนที่ ๒๒ “เราว่าเนื้อเรื่องดูสดใสขึ้นนะ” คเชนทร์ที่ได้รับอนุญาตให้อ่านพล็อตของเพื่อนก่อนใครให้คำวิจารณ์กับเพื่อนสนิท นิศากรยิ้มจนตาหยี “ดีกว่าเดิมใช่ไหม” “เราก็คิดว่าดีกว่าเดิมนะ เหมาะกับลายเส้นน่ารักๆ ของเธอด้วย แถมพระเอกนิสัยสามีแห่งชาติขนาดนี้ เขียนให้เป็นแนวรักไปเลยน่าจะผ่านนะ” เพราะว่าพล็อตคราวก่อนไม่ผ่านจึงต้องมาปรับกันใหม่ “แล้วนี่ อยู่คนเดียวโอเคใช่ไหม” “โอเค เราอยู่ได้ไม่ต้องห่วง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พี่บุ้งมาหาทุกสองสามวันเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่” คเชนทร์ได้ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อนึกถึงสามีของเพื่อนที่หย่ากันเพราะความจำเป็น แต่ทั้งสองยังรักกันดีจนเขาอดอิจฉาไม่ได้พอคิดถึงแฟนที่เพิ่งเลิกกันไปก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง “เอ๊ะ นั่นน้องสาวเธอหรือเปล่า” นิศากรหันหน้าไปตามสายตาของคเชนทร์ ก็พบว่าทิพากรเดินเคียงมากับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางดูดีมากคนหนึ่ง เธอจำได้ว่านั่นคือยามที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลของโรงแรมบุลินซึ่งทำให้ยอดจองช่วงหนึ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอเนี่ย” นิศากรเลิก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status