Mag-log inปิติภัทรเหนื่อยมาแล้วทั้งวัน ปกติหากส่งแฟนสาวที่บ้านเรียบร้อยก็มักจะขับรถกลับไปพักผ่อนทันที แต่เพราะวันนี้มีนาราคอยชวนพูดชวนคุยอยู่ข้างๆ ความน่าสนใจของเธอจึงดึงดูดให้เขายอมเดินเข้าไปในบ้านแค่เพียงเพราะอยากดื่มน้ำสักแก้ว
“พี่เปรมอยากทานของว่างอะไรด้วยไหมคะ”
ถึงตอนนี้จะเกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่เพราะเห็นว่าแฟนหนุ่มอุตส่าห์แวะเข้ามาในบ้าน บงกชเพชรจึงถามอย่างใส่ใจ แค่นำน้ำเย็นมาเสิร์ฟเพียงอย่างเดียวกลัวว่าจะไม่พอ
“แต่นาราหิวค่ะ กินจากบนเครื่องแล้วไม่อิ่ม คิดถึงข้าวต้มหมูสับฝีมือของพี่บัวจัง แต่มันจะดูเยอะไปไหมอะคะ กลัวพี่บัวเหนื่อย” นาราเป็นคนตอบ ทำหน้าตาเกรงใจ
นับตั้งแต่บุพการีเสียชีวิต บงกชเพชรก็เป็นคนดูแลบ้านหลังใหญ่หลังนี้ด้วยตัวเอง ไม่จ้างแม่บ้านให้เปลืองเงินเปลืองทอง นั่นก็หมายความว่าหน้าที่ทำอาหารก็ต้องเป็นของเธอด้วย
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ทำให้ได้จ้ะ พี่เปรมจะทานพร้อมกับนาราเลยไหมคะ บัวจะได้จัดการให้สองที่เลย”
“อืม ก็ได้ครับบัว ยิ่งดึกก็ยิ่งหิวอยู่เหมือนกัน”
“งั้นรอแป๊บนึงนะคะ บัวจะรีบไปทำมาให้”
คล้อยหลังบงกชเพชรแค่อึดใจเดียว เรียวขาของนาราที่เคยแนบชิดสนิทกันก็ขยับแยกออกห่างจนมองเห็นแพนตี้สีขาว เธอโน้มตัวมาด้านหน้า ใช้แขนดันหน้าอกให้ชิดกันจนก้อนเนื้อขาวโพลนอวบอิ่มแทบทะลักออกมาจากเสื้อเกาะอกตัวสวย
ตอนนี้นาราคิดออกแล้วนะคะว่าอยากให้พี่เปรมเซ็นตรงไหน” ดวงตาคู่สวยพราวระยับยามจ้องมองใบหน้าหล่อเหลา
“ตรงไหนครับ” ปิติภัทรยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ก็… ตรงนี้ดีไหมคะ” นาราจิ้มนิ้วลงบนเนินอก “หรือว่าจะเป็นตรงนี้ดีนะ” ก่อนเลื่อนมือต่ำลงไปที่โคนต้นขาด้านในแล้วขยับขากว้างขึ้นอีก คราวนี้ไม่ใช้แค่แพนตี้ตัวน้อย แต่ดวงตาคมกริบกลับมองเห็น ‘ตรงนั้น’ เป็นกลีบร่องชัดเจน
สายตาของปิติภัทรจับจ้องอยู่ตรงนั้นแบบไม่วางตา เขาเคยเจอผู้หญิงให้ท่ามาก็มาก แต่ไม่เคยมีใครชัดเจนอย่างนารามาก่อน เอาตามตรงก็อึ้งอยู่เหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าเขาคือใครแต่เธอก็ยังกล้าพุ่งเข้าใส่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
“แลกไลน์กันไว้นะคะพี่เปรม เอาไว้วันไหนทางสะดวก นาราจะได้เอา… ลายเซ็นของพี่เปรมมาเป็นที่ระลึก” เธอเน้นหนักที่คำว่า ‘เอา’ สายตายั่วเย้าจนปิติภัทรถึงกับกลืนน้ำลายแรงๆ
“ได้สิครับ ว่าแต่นารามั่นใจแล้วใช่ไหมว่าอยากเอา… ลายเซ็นของพี่ ถ้าบัวรู้เข้า…” ชายหนุ่มมองไปทางห้องครัว กังวลว่าหากบงกชเพชรรู้เรื่องนี้แล้วทุกอย่างจะจบไม่สวย
“พี่บัวไม่ได้มีหูทิพย์ตาทิพย์นะคะ ถ้านาราไม่บอก พี่เปรมไม่พูด พี่บัวจะรู้ได้ยังไง” นาราหัวเราะอย่างมีจริต ก่อนจะขยับลุกขึ้น “นาราขอตัวไปดูพี่บัวในครัวก่อนนะคะ ถ้าสนใจแลกไลน์ก็เชิญตามสบายเลย นาราจะวางโทรศัพท์ไว้ตรงนี้”
เมื่อปิติภัทรไม่พูดอะไร นาราก็ทำทีเป็นเดินผ่านเขา หมายจะเดินไปทางห้องครัว แต่ก็ไม่ลืมแกล้งทำเป็นสะดุดเท้าตัวเองจนล้มนั่งลงไปบนตักเขาแล้วอุทานเบาๆ ราวกับไม่ตั้งใจ
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”
“เอ่อ… ไม่เป็นไรครับ” คนเจ้าชู้อย่างปิติภัทรเจอแบบนี้เข้าก็ประหม่าอยู่เหมือนกัน
“แหม แข็งปั๋งเลย” ร่างบอบบางขยับลุกขึ้นแล้วแซวเขายิ้มๆ “นาราหมายถึงตักอะค่ะ กล้ามเนื้อพี่เปรมแข็งแรงดีมาก ไม่อยากคิดถึงตอนที่… ออกกำลังกายเลย ทรงนี้คงฟิตน่าดู”
นาราหัวเราะน้อยๆ ทิ้งสายตามองเขาก่อนจะเดินนวยนาดแยกตัวไป ปิติภัทรคลี่ยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ที่มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัว มองสมาร์ตโฟนราคากว่าครึ่งแสนที่วางอยู่ตรงหน้าแล้วหยิบมันขึ้นมาแบบไม่ลังเล จัดการแอดไลน์รวมทั้งยิงเบอร์ของเธอไปที่เครื่องของเขาด้วย
แต่สิ่งที่ทำให้ปิติภัทรถึงกับตาลุกวาวและอึดอัดตรงเป้ากางเกงยิ่งกว่าเดิม นั่นก็คือภาพถ่ายวาบหวิวที่มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือของนารา ใจของเขาเต้นรัวราวกับตีกลอง ในตอนที่เลื่อนไปเห็นภาพเปิดเปลือยทั้งร่างกายของเธอ นาราสวยไปทุกอณู เซ็กซี่บาดใจจนเกินจะหักห้ามได้
เอาเถอะ… ถือว่าทิ้งท้ายก่อนแต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนก็แล้วกัน สาวหัวนอกอย่างนาราคงผ่านอะไรมาเยอะ เธอไม่ซีเรียสกับความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวหรอก และแม้ว่านาราจะได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของบงกชเพชร แต่ก็เป็นพี่น้องต่างสายเลือดกัน ไม่มีความเกี่ยวพันกันแต่อย่างใด
คงไม่เสียหายอะไรนัก หากปิติภัทรจะลองชิมทั้งพี่ทั้งน้อง
หลังจบข้าวต้มมื้อดึก ปิติภัทรก็แยกตัวกลับบ้าน ปล่อยให้สองสาวได้มีเวลาพูดคุยกันให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี แม้วันนี้จะเหนื่อยล้าจากงานมาแค่ไหน แต่บงกชเพชรก็ยังมองเห็นนาราสำคัญกว่าสิ่งใดเสมอ เธอช่วยจัดแจงนำเข้าของออกจากกระเป๋าเดินทาง บางส่วนแยกใส่ตะกร้า ส่วนที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ก็นำมาจัดเรียงเอาไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง
“นาราไม่มีอะไรมาฝากนะพี่บัว ขี้เกียจขน” นาราเดินออกมาจากห้องน้ำ มือทั้งสองยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำออกจากเรือนผมในตอนที่เดินไปนั่งไขว่ห้างอยู่ปลายเตียง
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ต้องการของฝากอะไร แค่เห็นนารากลับมาพี่ก็ดีใจแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องเหงาอีก”
“แล้วนี่พี่บัวไม่ได้จ้างแม่บ้านไว้เลยเหรอ”
“พี่ไม่ได้จ้างมาสามปีแล้ว บ้านหลังนี้มีพี่แค่คนเดียวก็เลยไม่จำเป็นต้องมีแม่บ้าน พวกงานบ้านงานเรือน เวลาว่างจากงาน พี่ก็ทำเองหมด”
“แต่ต่อไปต้องมีแล้วนะ บ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ นาราไม่ถนัดเรื่องงานบ้านหรือทำกับข้าว เวลาที่พี่บัวไปทำงาน แล้วใครจะคอยรับใช้นารา” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่เห็นพี่สาวทำตัวสมถะทั้งที่ทรัพย์สินส่วนตัวจากมรดกก็ยังมีเก็บเอาไว้อีกมากมาย ต่างจากเธอที่ถลุงใช้ไปจนหมดแล้ว
“เอางั้นเหรอ”
“เอางั้นแหละพี่บัว อยากเห็นน้องสาวลำบากหรือไง”
นิธิโชติเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีน้ำตาลและกางเกงสแล็กส์สีขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนเพราะมีเชื้อสายจากฝั่งยุโรปยาวละต้นคอ ด้านหน้าแสกกลางและแต่งเป็นทรงคอมม่ายอดนิยม ใบหน้าขาวกระจ่างใสมีเครื่องหน้าที่พอดีและลงตัวอย่างเหมาะเจาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่แปลกที่บงกชเพชรจะจำได้ว่าเขาคือคนที่เดินชนเธออย่างแรงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา“อ้าว! ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอคะ” ปรางทิพย์ถาม“พี่รู้จักคุณบัว แต่คุณบัวยังไม่รู้จักพี่หรอก พอดีเมื่อคืนตอนไปจัดการเรื่องเค้กที่งานแต่ง พี่รีบร้อนจนเดินชนคุณบัวเข้าซะเต็มแรงเลย คุณบัวก็เลยจำพี่ได้ ใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มตอบคำถามของภรรยาเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปถามบงกชเพชร“ใช่ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี“อ๋อ! งั้นก็ถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันนะ นี่บัว… เป็นเพื่อนสนิทของปรางเองค่ะพี่เหนือ แล้วนี่พี่เหนือนะบัว เขาเป็นเจ้าของร้านเค้กแต่งงานที่ดังที่สุดในตอนนี้ แล้วก็เป็นเพื่อนรักของพี่กรด้วยจ้ะ”“ผมนิธิโชตินะครับ จะเรียกว่าพี่เหนือเหมือนอย่างที่ปรางเรียกก็ได้” นิธิโชติยิ้มพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า บงกชเพชรลังเลเล็กน้อยก่อนจะ
ตอนที่เดินออกมาจากบริษัททั้งคู่เพียงแค่เดินควงแขนกัน แต่พอไปถึงลานจอดรถแล้วมือของปิติภัทรกลับเลื่อนลงมาโอบเอวบางอย่างสนิทสนม เขาต้องการดูท่าทีของนาราเสียก่อนว่าเป็นในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังอยู่แล้วแน่นอนว่านอกจากจะไม่ผลักไส นารายังวาดมือออกไปโอบเอวของชายหนุ่มคืนด้วย อาการวิงเวียนเหนื่อยล้าที่แสดงออกต่อหน้าพี่สาวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวด้วยความพอใจ“นาราเหนื่อยจัง อยากนอนบนเตียงนุ่มๆ ไม่รู้ว่าจะหลับหรือเปล่า ยังไม่ค่อยชินกับเวลาของเมืองไทย คงต้องปรับอีกสักระยะเลยค่ะ แต่ตอนนี้ง่วงจริง คิดว่าคงหลับไม่ยาก”“ถ้าอยากหลับง่ายขึ้นลองหาคนช่วยลูบหลังให้สิ รับรองว่าแค่ไม่กี่นาทีก็หลับสนิท บัวเองก็ชอบให้พี่ลูบหลังให้เหมือนกัน” ชายหนุ่มแสร้งหยอด“ลูบหลังอย่างเดียวเหรอคะ?” เธอบิดริมฝีปากยิ้มเยาะ“ถ้าหมายถึงเรื่องอย่างว่าเลิกคิดไปได้เลยครับ บัวเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว พี่ไม่เคยได้อะไรมากไปกว่าก็กอดจูบ ที่บอกว่าเคยลูบหลังให้ก็มีโอกาสน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ็บป่วย บัวแทบไม่ยอมให้พี่เข้าไปยุ่งในห้อง”“ตายแล้ว! แบบนี้พี่เปรมก็แย่น่ะสิคะ มีแฟน
หลังจากออกไปนั่งรอที่ห้องรับรองได้ไม่ถึงห้านาที นาราก็หงุดหงิดมากเสียจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ ที่ยอมแหกตาตื่นแต่เช้ามาแบบนี้ก็เพราะต้องการใกล้ชิดกับปิติภัทร แต่ปรากฏว่าไม่มีช่องให้เธอได้แทรกเข้าไปเลย บงกชเพชรเอาแต่เกาะชายหนุ่มแจ ตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา“เป็นอะไรหรือเปล่าครับนารา” ปิติภัทรถาม“นาราเหนื่อยค่ะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม” ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายถามก่อน เธอจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รีบยกนิ้วขึ้นแตะขมับและปรับสีหน้าที่ฉุนเฉียวให้เปลี่ยนเป็นอ่อนแอ“อยากได้ยาดมหรือดื่มอะไรหน่อยไหมจ๊ะ”บงกชเพชรที่นั่งอยู่ติดกันกับแฟนหนุ่มรีบขยับเข้าไปดูอาการน้องสาว ยกมือขึ้นอังหน้าผากก็พบว่าไม่มีไข้ แต่สีหน้าของนาราดูค่อนข้างย่ำแย่“ไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ นาราอยากนอนมากกว่า ขอโทษนะคะที่มาด้วยแล้วก็ยังทำตัวเป็นภาระ นาราก็แค่อยากมีส่วนช่วยเรื่องงานแต่งของพี่บัว”“ไม่ต้องขอโทษหรอก นาราหวังดีกับพี่นี่นา เอาแบบนี้ดีไหม นารากลับไปพักผ่อนก่อน เรื่องเค้กไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากมาย เดี๋ยวพี่จัดการเองก็ได้จ้ะ”“แล้วจะให้นารากลับยังไงล่ะคะ ถ้าเป็นแท็กซี่ นาราไม่กล้านะ ไม่รู้ว่าเขาจะพาอ้อมหรือพาเปลี่ยนเส้นทางไปไหนหรือเปล่
ในฐานะที่ปรางทิพย์รับช่วงการทำงานเป็น Flower Decoration ต่อจากมารดามามากกว่าห้าปีแล้ว ประสบการณ์จึงไม่น้อยหน้าใคร ความพิถีพิถันของเธอทำให้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ยิ่งมีสามีอย่างปกรณ์คอยช่วย งานก็ยิ่งราบรื่นประสบความสำเร็จงานตกแต่งดอกไม้ในงานแต่งงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้วันสำคัญของคู่บ่าวสาวออกมาในคอนเซปต์ที่ต้องการ ที่สำคัญ…. ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังสามารถสื่อถึงเรื่องราวของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรายละเอียดของงานเมื่อทุกคนเดินเข้าไปในห้องประชุมแล้วแยกย้ายกันนั่งลงเรียบร้อย พนักงานก็นำของว่างและน้ำผลไม้มาเสิร์ฟให้ ปกรณ์จัดแจงเรื่องการเปิดสไลด์ให้ว่าที่บ่าวสาวได้ชมรายละเอียดและเลือกสรรค์สิ่งที่ต้องการตามคอนเซปต์ที่เคยให้ไว้ว่าตรงตามใจหรือเปล่า“สำหรับงานแต่งของเพื่อนรักอย่างบัวต้องเป็นแพ็กเกจลักชูรี่เท่านั้น ตามที่คุยกันไว้ ธีมของงานจะเป็นสีขาว สีเงินและสีทอง ในแพ็กก็จะมีในส่วนของแบ็กดรอป ไม้กระดาน ตกแต่งดอกไม้ประดิษฐ์ มีพรมปูด้านหน้า มีป้ายชื่อบ่าวสาว แล้วในส่วนของมุมแกลลอรี่จะมี Photo box มีตกแต่งดอกไม้ให้ตามธ
ติภัทรมาที่บ้านของบงกชเพชรตั้งแต่แปดโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดกับ ‘ปรางทิพย์’ เพื่อนสาวคนสนิทของบงกชเพชรที่ เป็นเจ้าของร้านดอกไม้งานแต่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ พิธีแต่งงานจะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงจำเป็นต้องเริ่มวางแผนและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม“พี่เปรมทานอะไรมาหรือยังคะ”“พี่เรียบร้อยมาแล้วครับ บัวล่ะ”“บัวทานครัวซองกับกาแฟไปแล้วค่ะ เราจะไปกันเลยไหมคะ เห็นว่าวันนี้ปรางนัดกับเจ้าของร้านเค้กงานแต่งเอาไว้ด้วย เราจะได้คุยเรื่องเค้กไปพร้อมกันเลย”“ไปครับ” เจ้าของร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปใกล้ ก้มลงจุมพิตข้างแก้มเบาๆ อย่างเอาใจ ว่าที่เจ้าสาวของเขาไม่ได้แต่งตัวสวยหรูเหมือนเวลาที่ต้องไปทำงาน วันนี้แต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์โอเวอร์ไซซ์สีซีด ต่างจากคนที่กำลังเดินตามมาด้านหลังนาราสวมเดรสคอเหลี่ยมแขนพองสีเหลืองอ่อนที่สั้นเพียงต้นขา ผมยาวสลวยที่เคยปล่อยสยาย เช้านี้มัดรวบสูงเป็นพวงหางม้าและปล่อยปอยหวานระอยู่ข้างแก้ม แต่งหน้าด้วยโทนสีส้มจาง ดูไม่แรงเท่าเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้สวยน้อยลงเลยปิติภัทรคลี่ยิ้ม กวาดสายตามองคนที่สวยหรูไปทั้งตัวด้วยความประทับใจ นึกว่าเธอจะลงม
“โอเคๆ เอาไว้พี่จะลองโทรไปหาป้าผินดูนะว่าแกยังว่างอยู่หรือเปล่า ตอนนั้นที่แกลาออกไปก็เห็นบอกว่าจะกลับไปทำไร่ที่ต่างจังหวัด”“โอ๊ย! พวกคนเก่าๆ แก่ๆ ไม่ต้องไปจ้างมาหรอก เดี๋ยวนาราหาคนใช้คนใหม่เอง แต่พี่บัวต้องเป็นคนจ่ายเงินเดือนนะ นาราเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย ยังไม่มีอารมณ์หางานทำหรอก”ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์ แต่เรื่องการทำงานไม่เคยอยู่ในหัวของคนอย่างนาราเลยต่างหาก ตอนอยู่ต่างประเทศเธอก็มีคนคอยเลี้ยงดู จนกระทั่งเมียของอีกฝ่ายจับได้นั่นแหละถึงต้องรีบบินหนีกลับเมืองไทย แล้วเรื่องเรียนเธอก็จบแค่ไฮสกูลเท่านั้น ไม่ได้เรียนต่อปริญญาอย่างที่หลอกให้บงกชเพชรส่งเสีย“ได้สิ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เอาไว้พักจนหายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยหางานทำก็ได้” บงกชเพชรจัดเรียงของบนโต๊ะเครื่องแป้งเสร็จพอดี เธอหันมายิ้มให้กับน้องสาว เห็นอีกฝ่ายยังคงเช็ดผมอยู่จึงเดินเข้าไปแย่งผ้ามาถือไว้ แล้วค่อยๆ ซับน้ำออกจากผม“นาราถามอะไรหน่อยสิพี่บัว”“หืม ว่าไงจ๊ะ”“ทรัพย์สมบัติที่คุณพ่อคุณแม่ยกให้พี่บัว พี่บัวใช้หมดไปแล้วหรือยัง”“ยัง มันเยอะแยะขนาดนั้น พี่จะใช้หมดได้ยังไง”“แซะนาราเหรอ?” คนที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมอง“เปล่า







