แชร์

บทที่ 49

ผู้เขียน: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 49

สวีเหยียนซีเงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้นก็รู้ละอายใจขึ้นมา

ก่อนจะจดทะเบียนสมรสเธอเคยจินตนาการถึงชีวิตคู่หลังแต่งงานที่สวยงามกับฉินเซียวและการที่ได้อยู่ห่างจากตระกูลสวี ส่วนเรื่องงาน เธออาจจะถูกกฎระเบียบของตระกูลสวีซึมซับจนไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อฉินเซียวบอกให้เธอเป็นแม่บ้านเต็มเวลา เธอก็ยอมตกลงทันที

ตอนนี้พอจ้าวจวิ้นโจวถามขึ้นแบบนี้ เธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวขนาดไหน

ผ่านไปสักพักใหญ่ จ้าวจวิ้นโจวจ้องมองเธอที่กำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้นอีก “ถ้ามองในแง่หนึ่ง ผมคิดว่าคุณควรจะขอบคุณสวีหว่านหนิงและฉินเซียวนะ ถ้าไม่มีพวกเขา บางทีชีวิตนี้พรสวรรค์ที่คุณมีอาจจะถูกซ่อนไว้ไปตลอดเลยก็ได้”

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องกลับไปขอบคุณพวกเขาแล้วล่ะ”

จ้าวจวิ้นโจวฟังแล้วรู้สึกพอใจมาก “นี่คุณคิดว่าผมล้อเล่นอย่างนั้นเหรอ?”

“ฉันดูไม่ออกเลยว่าคุณกำลังล้อเล่นอยู่” เธอเข้าใจความหวังดีของจ้าวจวิ้นโจว ที่เป็นเหมือนให้กำลังใจ นอกจากโหยวฉีแล้ว เขาเป็นคนที่สองที่ให้กำลังใจเธอ

“เดี๋ยวให้ฟางห่าวส่งแบบร่างฉบับนี้ให้ประธานเหมาเลย”

“ไม่ต้องแก้ไขอะไรเลยเหรอคะ?”

“ไม่ต้อง” จ้าวจวิ้นโจวลุกขึ้น “ทานข้าวหรือยัง?”

“ยังค่ะ”

“ไปกัน”

จากนั้นพวกเขาสามคนก็เดินไปที่ร้านอาหารของโรงแรมพร้อมกัน

ในเวลานี้ที่ร้านอาหารคนไม่ค่อยเยอะเท่าไร พวกเขาเข้าไปนั่งไม่นานก็ได้ทานอาหารกันแล้ว สวีเหยียนซีนั่งทานอาหารเงียบ ๆ และคอยฟังฟางห่าวที่ใช้โอกาสนี้รายงานงานบางส่วนในช่วงบ่ายนี้ให้จ้าวจวิ้นโจวฟัง

จนกระทั่งพูดถึงเรื่องแปลภาษา จ้าวจวิ้นโจวกะพริบตา “ผมจำได้ว่าคุณพูดภาษาตุรกีได้”

แววตาของสวีเหยียนซีสะท้อนความตกใจเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าแม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้

เรียนภาษาที่คนใช้กันน้อย นั่นคือคอร์สเรียนที่สวีเหยียนเช่อเคยสมัครให้เธอ เพราะว่าบริษัทมักจะทำงานร่วมกับลูกค้าต่างประเทศบ่อย ๆ และจะต้องวุ่นวายในการเชิญล่ามอยู่เป็นประจำ สวีเหยียนเช่อหวังว่าหลังจากเธอเรียนแล้วจะสามารถช่วยงานได้บ้าง ดังนั้นเธอจึงไปเรียน

“อืม”

“เดี๋ยวมาที่ห้องผม เอกสารฉบับนั้นคุณมาแปลให้หน่อย” จ้าวจวิ้นโจวพูดประโยคนี้จบแล้วพูดต่ออีกว่า “ถือว่าเป็นเงินโอทีพิเศษ”

เธอกำลังคิดจะพูดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นไร อยู่ดี ๆ ก็มีเงาของอีกคนแทรกเข้ามา ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เธอ “สวีเหยียนซี——!”

ฟางห่าวตกตะลึง

ส่วนจ้าวจวิ้นโจวก็หน้าบึ้งตึงไปแล้ว

เหมาเจียนั่วทำตัวเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิท มาคว้าแขนของสวีเหยียนซีไว้ “เมื่อกี้ฉันขึ้นไปเคาะประตูห้องเธอมาแล้ว แต่ไม่มีคนเปิด ตอนแรกฉันก็กะว่าจะไปแล้ว แต่อยู่ ๆ ก็คิดว่ามาเสี่ยงดวงที่นี่เอาสักหน่อยแล้วกัน คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย”

ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อนสายตาแวบแรกของเธอก็คงจะไปจับจ้องอยู่ที่จ้าวจวิ้นโจว

แต่ตอนนี้ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยสวีเหยียนซี

กลิ่นแบบนี้มันไม่ถูกต้อง... ฟางห่าวบ่นพึมพำในใจ

สวีเหยียนซีก็ถูกการปรากฏตัวของเธอทำให้ตกใจ “คุณเหมามาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“ก็คืนเงินให้เธอไง แล้วก็อยากมาคุยกับเธอด้วย” ระหว่างที่พูด เหมาเจียนั่วก็ยกจานสปาเกตตีของสวีเหยียนซีขึ้น แล้วหันไปยิ้มให้จ้าวจวิ้นโจว “ประธานจ้าวคะ ขอยืมตัวสวีเหยียนซีสักครู่นะคะ ขอบคุณค่ะ”

เธอไม่ได้สนใจว่าจ้าวจวิ้นโจวจะพูดอะไร แค่หันไปอย่างเร่งรีบ “สวีเหยียนซี รีบมาเร็ว พวกเราไปนั่งตรงนั้น”

สวีเหยียนซีทำได้เพียงลุกขึ้น “ท่านประธานจ้าวคะ ฉันขอตัวไปตรงนู้นก่อนนะคะ”

หางตาของจ้าวจวิ้นโจวกระตุกขึ้นเล็กน้อย

ฟางห่าวต้องการทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง เขาจึงแกล้งทำเป็นถอนหายใจออกมา “ความรู้สึกของผู้หญิงมันมักจะมาแปลก ๆ แบบนี้ล่ะครับ”

เมื่อพูดจบ ดวงตาของจ้าวจวิ้นโจวที่เหมือนกับเข็มก็จ้องมาที่เขา “แปลกขนาดไหน?”

“แปลกจนไม่น่าเชื่อครับ” ฟางห่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่คาดเดายาก

“...”

เหมาเจียนั่วเห็นว่าเธอกินแค่สปาเกตตีเลยเอ่ยถามขึ้นว่า “จ้าวจวิ้นโจวขี้งกขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงให้เธอกินแค่นี้?”

“เปล่าค่ะ ฉันอยากกินแค่นี้เอง”

“ถ้าอย่างนั้นกระเพาะเธอก็เล็กเกินไปแล้ว” จู่ ๆ เหมาเจียนั่วก็ควักโทรศัพท์ออกมาเร่งเธอ “สวีเหยียนซี พวกเราแลกไลน์กันเถอะ ฉันจะโอนเงินให้เธอ”

“ไม่ต้องคืนหรอก” เพราะว่ายังไงเงินค่าเหล้าพวกนั้นก็คิดที่จ้าวจิ่นโจวอยู่แล้ว เธอไม่ต้องเสียเงินสักบาท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status