หลังจากนั่งอยู่ในโซนวีไอพีของผับได้ไม่นาน ฟีนิกส์ก็พาหญิงสาวที่เขาหมายมั่นว่าจะเอากลับบ้านไปด้วยให้ได้กลับบ้านไปกับเขา โดยที่เขาแทบไม่ได้ดื่มอะไรเลยเพราะวันก่อนดื่มหนักไปแล้ววันนี้ก็เลยอยากพักร่างกายบ้าง
และไม่ลืมที่จะพาเข็มขาวหญิงสาวที่เขาพาเธอมาเปิดหูเปิดตากลับไปด้วย เพราะเขาจะไม่มีวันลืมคนอย่างเธอที่มีส่วนทำให้แม่เขาต้องฆ่าตัวตายไปได้เป็นอันขาด
“เลนิน”
และทันทีที่เดินมาถึงลานจอดรถ เขาก็เรียกหาลูกน้องคนสนิทในทันที เพื่อจะให้จัดการเรื่องบางเรื่องแทนเขา
“ครับนาย”
“มึงเปิดกระโปรงหลังรถให้คุณหนูเขาขึ้นไปนั่งสิ”
เรื่องที่จะให้ลูกน้องทำก็ไม่ได้อยากอะไร เพียงแต่ให้หาที่นั่งสำหรับลูกสาวนางแพศยาที่แย้งพ่อเขาไปจากแม่ของเขาได้นั่งกลับบ้านไปด้วย
เพราะขืนให้นั่งกลับไปด้านหน้ากับเขาด้วยก็เกรงว่าจะอึดอัด เดี๋ยวจะนั่งไม่สบายตัวก็จะมาหาว่าเขาดูแลไม่ดีเอาได้
“ครับนาย”
เลนินก้มหัวเล็กน้อยเพื่อรับคำสั่ง ก่อนจะหันไปกระชากแขนของหญิงสาวที่เอาแต่ยืนนิ่งๆ เกะกะอยู่ตรงหน้าเจ้านายของเขา
แล้วพาเธอไปยังด้านหลังของรถที่มีลูกน้องอีกคนเปิดฝากระโปรงรถรอเอาไว้พร้อมอยู่แล้ว
“ไปขึ้นรถกันเถอะ ผมอยากให้เราสองคนถึงบ้านกันใจจะขาดแล้ว อืม”
ส่วนมาเฟียหนุ่มเขาก็หันไปสนใจหญิงสาวที่พามาด้วยต่อด้วยการหอมแก้มเธอไปอีกสักฟอด แต่ในใจลึกๆ ก็ไม่อยากหอมเพราะเหมือนเครื่องสำอางบนใบหน้าของเธอจะติดปลายจมูกของเขาเข้าให้แล้วล่ะ สร้างความรำคาญเล็กๆ ให้เขาพอสมควร
“อืม ใจเย็นๆ หน่อยสิคะฟีนิกส์ อดใจรอไว้หน่อย”
เอียงใบหน้าหลบอย่างเขินอาย แต่ภายในใจกลับตีปีกเตรียมโผบินที่วันนี้จะได้กลับไปค้างคืนที่บ้านของเขาอีกสักครั้ง หลังจากไม่ได้ไปมานานแรมเดือนแล้ว
“คุณทำให้ผมแทบอดใจไม่ไหวอยู่แล้วรู้ตัวบ้างไหม อ่ะ อืม”
จากหอมแก้มเขาก็เปลี่ยนมาจุ๊บที่ลำคอเบาๆ เพื่อหลบเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าของเธอ แต่แล้วก็ต้องเจอกับกลิ่นน้ำหอมมากมายจนผละออกแทบไม่ทัน
“ฟีนิกส์”
แต่อีกคนก็หารู้ตัวไม่ ยังคงเอียงอายจนแทบก้าวขึ้นรถไปกับเขาไม่ถูกทาง
“ออกรถเร็วๆ สิวะ”
เสียงหนาเอ่ยสั่งลูกน้องเสียงดังลั่น เมื่ออยากกลับไปให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด อยากจะพาโบนิตาไปอาบน้ำพร้อมๆ กัน
แต่ทว่ารถหรูกลับไม่ยอมเคลื่อนตัวไปข้างหน้าสักทียังคงจอดแช่นิ่งเอาไว้ พร้อมกับมีลูกน้องของเขาเริ่มวิ่งไปวิ่งมาให้ได้เห็นผ่านสายตาของเขา
“เธอไม่ยอมขึ้นรถครับ”
แล้วสักพักเลนินก็มาเคาะกระจกรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลังของรถให้ฟัง เมื่อเรื่องที่เจ้านายสั่งออกไปเขาไม่อาจทำให้สำเร็จได้
“ก็จับยัดเข้าไปสิวะ”
ลดกระจกของรถลงเพื่อให้มีช่องเพื่อสนทนากับลูกน้องได้ แล้วก็ตะคอกออกไปดังลั่นด้วยความไม่สบอารมณ์ที่ต้องมารอกับเรื่องไม่ใช่เรื่องแบบนั้น
“ผมไม่กล้าครับ”
เลนินเอ่ยสั้นๆ เมื่อไม่กล้าถูกตัวของหญิงสาวมากนัก แค่จับแขนของเธอเดินไปก่อนหน้านี้ก็นับว่ามากเกินพอแล้ว สำหรับผู้หญิงที่เจ้านายนั้นเคยพาขึ้นเตียงถึงสองสามรอบก่อนหน้านี้
“โธ่โว้ย เรื่องมากอะไรหนักหนาวะ”
ฟีนิกส์ก้าวลงจากรถด้วยความไม่พอใจราวกับไม่อยากจะไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช้ลูกน้องทำแทนอีกแต่กลับลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“หนูกลัว คุณอย่าส่งหนูเข้าไปในนั้นเลยนะคะ หนูขอร้องล่ะค่ะ ให้หนูกราบหนูไหว้คุณก็ได้”
เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาหา เข็มขาวก็รู้ตัวในทันทีเลยว่าตัวเธอเองนั้นจะต้องมีอันตรายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถึงกระนั้นการต้องเข้าไปภายในที่มืดและแคบแบบนั้นก็น่ากลัวเกินกว่าจะหนีเขาเข้าไปภายในนั้นได้
ทำเอาเธอที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทำได้แค่เพียงยกมือขึ้นไหว้เขา แล้วขอร้องอ้อนวอนเขา ทั้งที่ภายในใจก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ได้ใจดีกับเธอ เหมือนกับที่ใจดีกับคนอื่นๆ
“กูไม่ใช่พระหยุดไหว้เดี๋ยวนี้ เข้าไปในนั้นได้แล้ว”
คนตัวโตโมโหตวาดออกไปเสียงดังลั่น ก่อนจับร่างเล็กนั้นกดลงไปในกระโปรงหลังรถหรูของเขา
“ไม่ กรี๊ด”
คนตัวเล็กกรีดร้องด้วยความกลัวสุดเสียง แต่ทว่าก็ไม่อาจเรียกความปรานีได้จากเขา เธอกลับต้องเข้าไปอยู่ในที่ที่แคบจนไม่อาจขยับตัวได้ และก็มืดจนมองไม่เห็นแม้แต่ปลายมือของตัวเอง
“หนวกหูชะมัด ทำไมฟีนิกส์ต้องพานังนั้นมาด้วยก็ไม่รู้”
โบนิตาที่นั่งรออยู่ภายในรถถึงกับยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองอย่างนึกรำคาญ ที่ในช่วงเวลาดีๆ ของเธอแบบนี้แทนที่จะได้อยู่กับฟีนิกส์สองต่อสอง กลับต้องมาชะงักเพราะผู้หญิงคนนั้น
“เฮ้อ”
ฟีนิกส์เดินกลับมาขึ้นนั่งบนรถตรงที่เดิมของเขา พร้อมกับเสียงถอนหายใจดังลั่นรถเพื่อระบายความหงุดหงิดออกไป
“เรากลับบ้านกันได้หรือยังคะ”
โบนิตารีบขยับร่างกายที่ฉีดน้ำหอมมาเต็มขั้นเข้าไปอิงแอบซบไหล่คนตัวโตที่กลับเข้ามาในรถได้สักที หลังจากที่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับนางทาสคนนั้น
“ได้แล้วล่ะ ผมรับรองเลยว่าจะพาคุณกลับไปให้ถึงสวรรค์ของสองเรา”
จับร่างบางที่หอมฉุยไปทั้งตัวจนบางครั้งคิดว่ามันฉุนไปด้วยซ้ำขึ้นมานั่งบนตัก หวังลวนลามเธอไปตลอดทางเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดที่มันค้างคาให้ออกไปให้หมด
เมื่อเดินทางไปถึงยังบ้านแล้ว เขากับเธอจะได้สนุกกันได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาเล้าโลมให้มันนานนัก
“อืม อย่าทำให้โบผิดหวังก็แล้วกัน”
หญิงสาวคนสวยที่มีหน้ามีตาในวงสังคมเป็นฝ่ายเริ่มรุกหายพ่อมาเฟียตัวร้ายก่อน เธอนั้นจูบไปที่ต้นคอแกร่งของเขาเบาๆ เพื่อปลุกเร้าเขา
สองมือบางลูบไล้ไปตามลำตัวของเขาที่เต็มไปด้วยกล้ามแน่นๆ จนปลายมือนั้นจับไปโดนเม็ดกระดุมของเสื้อเชิ้ตของเขาเข้าจนได้ และเธอก็เริ่มปลดมันออก
“อืม”
มาเฟียหนุ่มครางเบาๆ ในลำคออย่างถูกอกถูกใจไปกับการสัมผัสอันแสนหวานของโบนิตา หญิงสาวที่เขามีใจให้กับเธอ
ปลายมือหนาเริ่มซุกซนตอบ ลูบไล้เข้าไปในเสื้อครอปตัวสั้นของเธออย่างช่ำชองหมายจะปลดเอาเสื้อชั้นในของเธอออก
พอดีกับจังหวะเวลาที่รถของเขามาจอดเทียบที่หน้าประตูบ้านของเขาพอดี และนั้นก็ทำให้ลูกน้องของเขาลงจากรถไปกันหมด และไปให้พ้นจากบริเวณนั้นไม่ยุ่งวุ่นวายกับเวลาแห่งความสุขของเจ้านาย
ฮือออ.....
เสียงร้องไห้จากด้านหลังของรถที่ดังไม่เคยเงียบ ก็เริ่มดังฟังชัดขึ้นเมื่อรถจอดนิ่งสนิทอยู่กับที่
“บนรถเหรอคะ อือ”
เสียงหวานเอ่ยถามออกไปอย่างขาดหายๆ ลมหายใจเริ่มติดขัดไปตามอารมณ์ที่กำลังถูกปลุกเร้า ด้วยมือหนาของเขากำลังบีบเคล้นสองเต้าอวบของเธออย่างมันมือทั้งที่ยังไม่ได้ปลดสายเสื้อชั้นในของเธอออกเลย
ดูเหมือนเขาจะใจร้อนจนห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่ได้ เธอคงได้เสียท่าเขาบนรถอีกตามเคยแน่ๆ
“อืม ตรงนี้แหละ”
โน้มร่างบางลงไปกับเบาะรถ ร่างหนาของเขาขึ้นคร่อมร่างบางนั้นอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาไล่งับริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน
ฮือออ….
เสียงร้องไห้ยังคงดังอยู่ และดังยิ่งขึ้นเมื่อความกลัวมันถาโถมเข้าหาเธอภายใต้ความมืดไม่หยุดหย่อน
เข็มขาวแทบจะสิ้นสติให้ได้อยู่แล้ว ถ้าเธอยังไม่หลุดพ้นไปจากตรงนี้
“เสียงนั้น”
โบนิตาสะดุดกับเสียงร้องห่มร้องไห้นั้นจนทำเอาเธอแทบหมดอารมณ์เลยก็ว่าได้ เพราะเสียงนั้นมันชวนให้ประสาทจะกินเธอจริงๆ
นางทาสคนนั้นของฟีนิกส์ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เธอมีความสุขง่ายๆ คงหาทางขัดขวางกระทั้งฟีนิกส์หมดอารมณ์กับเธอแน่ๆ
ยังไงคงต้องลากเขาขึ้นห้องให้ได้ก่อน ขืนอยู่ตรงนี้ทุกอย่างต้องพังไม่เป็นท่า
“เข้าไปในบ้านกันดีกว่า”
“อืม ไม่ต้องสนใจ”
เสียงร้องขอของโบนิตาไม่เป็นผล ฟีนิกส์ยังคงยืนกร้านที่จะอยู่บนรถนี้
เขาไม่มีอารมณ์จะย้ายที่ไปย้ายที่มาบ่อยๆ หรอกนะ เริ่มตรงไหนมันก็ต้องจบตรงนั้นสักน้ำหนึ่งก่อน
ฮือออ...
เสียงร้องไห้ยังคงดัง และมันก็ดังชัดขึ้นอีกเมื่อคนทั้งสองในรถเงียบเสียงสนทนาและเสียงครางลง
“โธ่โว้ย”
ทำเอามาเฟียหนุ่มถึงกับหมดอารมณ์ขึ้นมาในทันที ไม่อาจฝืนต่อไปได้ไหว
ผละออกจากร่างบอบบางของโบนิตา แล้วเปิดประตูลงไปจากรถหรูของเขา
“ส่งคุณโบนิตากลับบ้านให้เรียบร้อย”
เรียกหาลูกน้องเสียงดังลั่น ให้ส่งโบนิตากลับบ้านโดยด่วน เพื่อไม่ให้เธอมาเกะกะเขาในตอนที่เขาจะต้องจัดการกับผู้หญิงที่กล้าดีมาขัดขวางความสุขของเขา
“ครับนาย”
“ฟีนิกส์คะ ทำไมล่ะคะ”
โบนิตาที่กำลังแต่งตัวให้กลับมาเรียบร้อยตามเดิม รีบกระโดดลงมาจากรถเมื่อได้ยินคำสั่งของเขา
เธอไม่ได้อยากจะกลับบ้านซะหน่อย คืนนี้เธออยากจะค้างคืนกับเขาถึงได้ตอบรับนัดของเขามานี่ไง
“กลับไปก่อน แล้วเราค่อยนัดเจอกันวันหลัง”
เสียงหนาออกคำสั่งใส่หญิงสาวที่เขานัดเดทด้วย ราวกับเธอเป็นลูกน้องคนหนึ่งของเขา
“ค่ะ”
โบนิตาไม่ได้เต็มใจอยากจะกลับบ้านก็จำต้องยอมทำตาม ไม่อาจขัดคำสั่งของมาเฟียอย่างฟีนิกส์ได้ เพราะนั้นอาจหมายถึงเธออาจจะไม่ได้กลับมาหาเขาอีก
ก็รู้ๆ กันอยู่มาเฟียอย่างพวกเขาชอบผู้หญิงอยู่ในโอวาทจะตายไป เธอก็จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้หญิงที่เขาชอบแบบนั้นซะด้วยสิ
“ลงมา”
ร่างหนาเดินไปยังด้านหลังของรถ แล้วเปิดกระโปรงด้านหลังของรถขึ้น ก่อนจะลากตัวแม่ตัวดีที่ทำเอาเขาอารมณ์เสียออกมาจากด้านในนั้น
“ฮือออ”
เข็มขาวเมื่อถูกพาตัวออกมาได้แล้วจากภายในนั้นที่แสนมืดสนิท ร่างเล็กก็ฟุ๊บตัวลงนั่งกับพื้นแล้วปล่อยโฮออกมาอีกรอบเพื่อระบายความกลัวในใจออกไป
“มารยามากใช่ไหม ได้เดี๋ยวกูจะทำให้มารยาไม่ออกเลย มานี้”
คนตัวโตโน้มตัวลงไปหาคนตัวเล็กที่กำลังทำท่าน่าสงสารนั่งกองอยู่กับพื้นคอนกรีตหน้าบ้านของเขานั้น กระชากร่างบางนั้นขึ้นมาจากพื้นด้วยความรุนแรงไร้การทะนุถนอมใดๆ
ฉุดกระชากลากถูเธอในแบบที่ชอบทำ เพื่อให้เกิดความสะใจกับตัวเอง ไม่สนว่าเธอจะรู้สึกยังไง
“คุณจะทำอะไร ปล่อยหนูนะ”
เสียงหวีดร้องยังคงดังไม่ขาดสายจากริมฝีปากเล็กๆ ของเข็มขาว เพื่อหวังจะหลุดพ้นไปจากเงื้อมมือหนาๆ ของมาเฟียหนุ่ม
“ไม่ต้องแหกปาก เก็บเสียงมึงเอาไว้ใช้ตอนกูขย่มมึงเถอะ”
เขาเหวี่ยงร่างบางที่กรีดร้องจนเขาแสบแก้วหูไปหมดแล้วกลับเข้าไปภายในรถหรูของเขาที่มันแสนกว้างขวางพอจะให้เขาทำอะไรกับเธอก็ได้
“ไม่นะ ฮือออ คุณได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะ”
หญิงสาวทั้งพยายามจะออกจากรถคันนั้นให้ได้ และก็ทั้งส่งเสียงร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวปีศาจร้ายอย่างเขา
“เธอไม่มีสิทธิ์มาร้องขออะไรทั้งนั้น เพราะทั้งชีวิตของเธอมันเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
เขาผลักไสเธอกลับเข้าไปในรถอย่างไม่มีความปรานี ก็เหมือนกับที่เธอและก็แม่ของเธอทำกับแม่ของเขามันก็ไร้ความปรานีเหมือนกันนั่นแหละ จนแม่เขาตรอมใจเธอ
เธอมันก็สมควรแล้วที่จะโดนอะไรแบบนี้ ซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะตาย
“ไม่ กรี๊ด”
เสียงกรีดร้องยังคงดังออกมาจากปากเล็กๆ ที่หญิงสาวที่ไม่อาจต่อต้านความร้ายกาจของเขาเอาไว้ได้ แม้เธอจะพยายามสุดกำลังแล้วก็ตาม
“อืม”
ร่างหนาโน้มตัวลงทาบทับไปบนร่างบางอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห ซุกซบใบหน้าลงหาอกอวบที่ขนาดกำลังพอดีมือขย้ำของเธอ
โดยมีสองมือช่วยกันกระชากเสื้อยืดเนื้อผ้าบางๆ ของเธอจนขาดวิ่นติดมือออกมา ให้ได้เห็นสองเต้าอวบภายใต้เสื้อชั้นในอย่างชัดเจน
“ใครโทรมาวะ”ฟีนิกส์ที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างออกรสจนเริ่มออกอาการเมามายเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกน้องที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเขานักด้วยความหงุดหงิดเมื่อหูของเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามารบกวนในช่วงที่กำลังกินเหล้าอย่างเพลิดเพลินนี้“นายใหญ่ครับ”เลนินรีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้านายที่ถูกวางคว่ำหน้าอยู่ไม่ไกลจากมือเขานักขึ้นมาดูว่ามีใครโทรเข้ามา แล้วก็รีบรายงานออกไป“โทรมาจนได้สินะ”สายตาคมทอดมองไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของตัวเองที่แทบไม่เคยใช้งานมันเลย นอกเสียจากสั่งงานลูกน้องแววตาแห่งความคิดถึงถูกฉายออกมาเล็กน้อยก่อนจะถูกเก็บซ่อนไปด้วยแววตาเย็นชาของคนไร้ความรู้สึกอย่างเขา“โทรมาแบบนี้คงอยากเห็นหน้าลูกเลี้ยงสุดที่รักนั้นสินะ”แล้วเขาก็กลบเกลื่อนความรู้สึกของคนเป็นลูกอย่างเขาด้วยคำพูดที่มันแสนประชดประชันนั้น“นายใหญ่วางสายไปแล้วครับ”ลูกก็ทำได้แค่รายงานสถานการณ์ทุกอย่างออกไป ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ เพราะต่างร่วงรู้กันดีว่าเจ้านายนั้นแท้จริงแล้วต้องการอะไรกันแน่“มึงไปลากคุณหนูนั้นมา แล้วตามกูไปที่ห้องนั่งเล่น”มาเฟียหนุ่มลุกเดินออกจากตรงที่เขาใช้นั่งกินเหล้าไปอย่างรวดเร็
“เธอหมดลมหายใจแล้วครับนาย”เลนินเห็นร่างนั้นแน่นิ่งไปก็เข้ามาตรวจดูลมหายใจ เพราะเขาก็เห็นกับตามาโดนตลอดว่าเจ้านายเขาจับเธอกดน้ำไปก็ตั้งหลายรอบ รอบละนานสองนาน“มึงว่าอะไรนะ ตายแล้วงั้นเหรอวะ”หันไปมองร่างเล็กๆที่นอนแน่นิ่งอยู่ขอบสระในทันที มองดูไม่วางตาและไม่เชื่อว่าเธอจะตายง่ายขนาดนั้น“ครับนาย”เลนินยืนยันคำตอบของเขาอีกครั้งด้วยการพยักหน้าเบาๆ“ปั๊มหัวใจมันขึ้นมาสิวะ”เสียงหนาสั่งดังลั่นส่วนทางกับท่าทีนิ่งสงบของลูกน้องตรงหน้า“ผมไม่กล้าเตะเธอครับ”แต่ลูกน้องกลับไม่รับคำสั่งนั้น เพราะผู้หญิงที่นอนกับเจ้านายแล้วเขาไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวเธอ ลูกน้องอย่างเขาไม่ควรใช้ผู้หญิงร่วมกับเจ้านาย ของเจ้านายก็คือของเจ้านาย ลูกน้องไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว“ไอ้พวกเวร”ฟีนิกส์ด่ากราดลูกน้องหลายคนที่ยืนเรียงหน้ากันอยู่แถวๆนั้นด้วยความโมโห พร้อมกับรีบขยับตัวเข้าไปหาร่างเล็กๆนั้นด้วยความว่องไว “ฟื้นสิวะ ฟื้นขึ้นมาสิ”แล้วเป่าลมจากปากของเขาเข้าไปในปากของเธอ สลับกับปั๊มไปที่หน้าอกของเธอตรงจุดที่มีไว้ช่วยชีวิตทำวนเวียนไปมาด้วยความร้อนรนท่ามกลางสายตาของลูกน้องที่ยืนจ้องเจ้านายอย่างเขาตาไม่กะพริบกันเลยทีเดียว
“ไปได้ไกลหรือยัง”ถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับหน้าตาเรียบเฉยแทบไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย ก็เพราะพอจะเดาทางผู้หญิงแพศยานั้นออก“ยังครับ อยู่แค่ปากซอยแค่นี้เองครับ”“ส่งคนออกไปวิ่งไล่สักคนสองคน แต่ไม่ต้องจับกลับมา ให้วิ่งจนเหนื่อย”และเขาก็มีแผนสำหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้วกับคนที่กล้ามาลองดีกับมาเฟียอย่างเขา เธอจะได้สนุกกับการหนีอย่างเต็มที่แน่นอน“ไอ้เออร์วาน ไปตามคุณหนูกลับบ้านมาสิ”ฟีนิกส์ปล่อยให้คนอยากหนีวิ่งเล่นไปได้สักพัก ก็เรียกหาลูกน้องผู้เป็นมือซ้ายที่หน้าโหดกว่าเลนินไปจัดการกับเธอ“เลนินมึงไปยกเหล้ามา”ส่วนเขานั้นก็เรียกหาเหล้ามาดื่มฆ่าเวลาที่ลูกน้องจะไปพาตัวเธอกลับมารับโทษที่กล้าดีวิ่งหนีคนอย่างเขาไป ทั้งที่เขาสั่งเธอแล้วว่าอย่าคิดทำอะไรแบบนั้นไม่เชื่อฟังก็ต้องเจอดีกลับไปบ้าง ครั้งต่อไปจะได้ไม่คิดลองดีกับมาเฟียอย่างเขาอีก“ครับนาย”ลูกน้องทั้งสองแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ไม่มีใครเกี่ยงงานกับใคร เพราะถ้าใครกล้าทำแบบนั้นต่อหน้าเจ้านายเท่ากับพร้อมตายไม่พร้อมจะทำงานแล้วเลนินหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเหล้าตามที่เจ้านายสั่ง จัดเสิร์ฟในทันทีเพื่อไม่ให้เจ้านายต้องร
“กินซะ”เสียงเลนินเอ่ยดังมาแต่ไกลพร้อมกับมือข้างที่ว่างเอื้อมมาเปิดประตูออก โดยที่มืออีกข้างถือของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อถุงใหญ่ที่สามารถทำให้คนตัวเล็กอิ่มท้องได้ทั้งวันพอเปิดประตูห้องออกจนกว้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กวาดสายตามองดูไปรอบๆห้องตามประสามือขวาของมาเฟียที่มีนิสัยชอบสังเกต ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ก่อนจะโยนถุงใบนั้นใส่หน้าคนตัวเล็กที่ถูกขังเอาไว้ภายในห้องนอนของเธอแล้วปิดประตูลง กักขังเธอไว้ตามคำสั่งของเจ้านายตามเดิม“คุณคนส่งข้าวยังอยู่ไหมคะ”เข็มขาวเอ่ยเรียกคนด้านนอกที่เพิ่งจะปิดประตูใส่หน้าของเธออย่างไม่รู้จักชื่อแซ่ของเขา เธอไม่เคยกล้าเอ่ยถามชื่อของพวกเขาเลย ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือว่าในตอนนี้ ด้วยเกรงว่าพวกเขาอาจไม่พอใจและคิดทำร้ายเธอกลับก็เป็นได้“มีอะไร”เลนินที่มักจะอยู่ตรงบริเวณแถวๆหน้าห้องของหญิงสาวอยู่แล้วเอ่ยถามกลับไป ไม่ใช่เพราะความหวังดีเพราะเขาไม่มีนิสัยข้อนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเป็นหน้าที่ของเขาก็มันไม่ได้มีใครหน้าไหนในบ้านหลังนี้หนิ่ มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขานั่นแหละถูกแล้ว และมันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด“หนูขอออกไปข้างนอกสักสิบนาทีได้ไหม หรือแค่ห
“ครับนาย”ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเพราะไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาต้องตายเลนินลูกน้องผู้เป็นมือขวาของมาเฟียอย่างฟีนิกส์พอได้รับคำสั่งของเจ้านายมาแล้วทุกข้อ ก็พาตัวหญิงสาวเข้าไปขังเอาไว้ในห้องนอนของแขก ปิดประตูลงกลอนล็อกอย่างแน่นหนา มีคนเฝ้าทั้งด้านในด้านนอก“หนูคิดถึงแม่กับคุณลุงจังเลย หนูอยากตามแม่กับคุณลุงไปอยู่ที่นั่นจังเลย”ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้องภายในห้องที่เธอไม่ได้คุ้นชินหรือรู้จักเลยแม้แต่น้อย เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนปากก็พร่ำบ่นถึงคนที่เธอนั้นคิดถึงสุดหัวใจของเธอ และอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งถ้ายังมีโอกาสนั้นอยู่กอดตัวเองแล้วร้องไห้เบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังออกไป กลัวว่าคนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน กลัวว่าเขาคนนั้นที่เธอเคยหลงคิดว่าใจดีจะเข้ามาทำร้ายเธออีก“หนูจะไม่ยอมแพ้ หนูจะอยู่จนกว่าวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง”เข็มขาวผล็อยหลับไปด้วยอาการหมดแรงจากการร้องไห้ที่เรียกได้ว่าหนักหนาจนตาบวม เธอตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันหรือคงเป็นเวลาเที่ยงวันได้แล้วมั้งจากการที่เธอนั้นคาดเดาด้วยตัวเองหอบร่างกายที่เต็มไปด้วยความหิวโหยเข้าไปภายในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนที่เธอถูก
“ไม่ กรี๊ดดดดดเสียงเล็กๆ กรีดร้องดังลั่นด้วยความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างเล็กๆ ดิ้นพล่านแทบจะตกลงไปอยู่ด้านล่างของรถ“แหกปากเข้าไป อย่าหยุดร้องล่ะ”มือหนาดึงถึงเสื้อผ้าของเธอที่เหลือติดตัวอยู่ไม่กี่ชิ้นออกอย่างไร้ความปรานี เพียงชั่วอึดใจเดียวของคนเอาแต่ใจอย่างเขา ร่างเล็กๆ นั้นก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาเปิดเผยเรือนร่างที่ติดว่าผอมไปนิดต่อหน้าเขา อย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้นให้เกะกะลูกนัยน์ตาที่เขาก็ไม่ได้สนใจพิศมองนานนัก แต่กลับงัดเอาความใหญ่โตออกมาจากภายในกางเกงแทน“อ้าส์”แล้วเสียบแทงความใหญ่โตคับเต็มกำมือของตัวเองนั้นเข้าไปในช่องทางคับแคบของเธอดันเข้าไปอย่างรุนแรง นำพาความใหญ่โตเข้าไปในตัวเธอจนสุดความยาวอย่างเอาแต่ใจ“ฮืออ ออกไปให้พ้นนะ”เสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดของหญิงสาวหายเข้าไปในลำคอ เธอเจ็บจนร้องไม่ออกอีกต่อไปแล้วมีเพียงหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มขาวเท่านั้นที่ยังคงไหลออกมาต่อสู้กับความเจ็บปวดที่มันถาโถมเข้ามาหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีวันจบสิ้นนั้น“ถุย”ถ่มน้ำลายใส่ท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองที่เชื่อมติดกับร่างกายของหญิงสาวเพื่อเติมน้ำหล่อลื่นขยับสะโพกแกร่งเข้าหาเธอช้าๆ เพื่