Share

แมวน้อยเสี่ยวหู่

Author: Yuyueyuan
last update Last Updated: 2025-05-22 08:50:31

เธอนั่งลงบนเก้าอี้ได้ไม่นานก็มีเสียง ‘ฟึบ’ ดังขึ้นบนโต๊ะ และ ‘เหมียว’ ดังตามมา

ที่เห็นตรงหน้าคือแมวน้อยขนฟูสีส้ม ตาโตหน้ากลมกำลังวางท่าเย่อหยิ่งจองหอง

“น่ารักจัง ขอจับหน่อยนะ” เถียนจิ้งหลานมือไปไวกว่าเสียง เธอเอื้อมมือออกไปหมายลูบหัวเจ้าแมวน้อย

“เถียนเฟย ระวังเพคะ” เซียงหรูร้องอย่างตกใจ

“แฟร่ ” แมวน้อยขนยาวปรายหางตามองมาทางเธออย่างไม่พอใจ

เถียนจิ้งหลานสะดุ้งชักมือกลับทันที มือบางยกขึ้นมาลูบอกปลอบขวัญตนเองแทน จากนั้นถลึงตาใส่แมวน้อย ส่งเสียงดุออกไป

“ตัวแค่นี้ขู่เก่งเชียวนะ แมวของผู้ใดกัน”

ขันทีที่ติดตามตอบว่า “แมวทรงเลี้ยงของฝ่าบาทพะย่ะค่ะ”

ได้ยินดังนั้นเถียนจิ้งหลานก็ลุกขึ้น ก้มตัวลงมองก้นแมวตัวนั้น

“ขนาดแมวยังเป็นตัวผู้” เธอเบะริมฝีปากเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “ข้าไม่รู้ชื่อเจ้า ตั้งชื่อเจ้าว่าการ์ฟีลด์ละกัน”

“คาเฟิน ชื่อแปลกดีนะเพคะ หรือให้หม่อมฉันไปถามชื่อเจ้าแมวตัวนี้ที่ตำหนักฝ่าบาทดีหรือไม่เพคะ”

“ไม่ต้องหรอก มีแค่ข้าเรียกชื่อนี้คนเดียวก็พอ” เถียนจิ้งหลานตอบพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาสัมผัสขนของแมวน้อยแทน

“เหมียว” เจ้าแมวส้มจ้องหน้าเถียนจิ้งหลาน ดวงตาแสดงออกให้เข้าใจได้ว่าไม่ชมชอบชื่อนี้ ว่าแล้วมันก็กระโดดลงจากโต๊ะ เดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี

เถียนจิ้งหลาน “?”

เธอนั่งรับลมชมทิวทัศน์โดยรอบสักพักก็เริ่มออกอาการเหม่อลอย นิ้วมือเรียวงามหมุนถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะกลับไปกลับมา

“เถียนเฟยจะรับขนมและน้ำชาไหมเพคะ”

เสียงที่ได้ยินฉุดเธอขึ้นจากภวังค์ สายตามองไปบนโต๊ะ เห็นลวดลายของโต๊ะเป็นตารางสี่เหลี่ยมเรียงกันหลายช่อง

เธอคิดถึงโต๊ะที่เคยเห็นในภพที่จากมา คิดว่าคงสามารถเดินหมากบนโต๊ะนี้ได้ มองสักพักก็เกิดความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา

‘ฉันต้องรีบฝึกวิชา ถ้าสำเร็จจะได้ไปเที่ยวให้ทั่วทุกรัฐ จากนั้นค่อยหาหนทางกลับยุคปัจจุบัน’

ซิ่วฟางเห็นเถียนเฟยไม่ตอบเลยถามซ้ำ “เถียนเฟยเพคะ จะรับ...”

ยังพูดจบไม่จบก็ได้ยินเสียงของเถียนจิ้งหลานตอบกลับมา

“ข้าไม่ดื่มชา กลับตำหนักกันเถอะ” ร่างเล็กของเธอวิ่งกลับอย่างรวดเร็ว

นางกำนัลและขันทีต่างงุนงง เถียนเฟยเป็นอะไรทำไมถึงรีบร้อนเพียงนั้น

ภายในตำหนักซินหยวน เวลานี้เต็มไปด้วยเทียนที่ถูกจุดขึ้นมาอย่างสว่างไสว เถียนจิ้งหลานนั่งทบทวนวิชาทั้งทางความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมและจากตำราที่มี พร้อมกับบรรจงหยิบเข็มทิศที่ซือฝุส่งให้มาดู

“หากข้าฝึกวิชาแล้วสลบไม่ได้สติครบสามวัน ค่อยแจ้งเฉิงกงกงให้กราบทูลฝ่าบาท บอกว่าข้าไม่ได้เป็นอะไร ไม่นานก็ฟื้น แล้วก็แจ้งซือฝุให้รีบมาช่วยข้าด้วย”

เธอสั่งเสียกับเหล่านางกำนัลไว้ เพราะตอนนี้เป็นเพียงมือสมัครเล่น จะสำเร็จอย่างงดงามตั้งแต่ครั้งแรกแทบเป็นไปไม่ได้

เถียนจิ้งหลานนำเทียนมาเรียงเป็นเหมือนค่ายกลเลียนแบบในตำรา ส่วนเข็มทิศคิดเองว่าน่าจะวางไว้ตรงกลางของค่ายกลเทียน จากนั้นค่อยๆตั้งสมาธิและท่องวิชา พลังปราณค่อยๆทำให้เข็มทิศหมุนเป็นวงกลมทิศทางตามเข็มนาฬิกา แต่จู่ๆก็กลายเป็นหมุนทวนเข็มนาฬิกา เร็วขึ้นๆแล้วก็หยุดหมุนไปเสียดื้อๆ

โครม! เถียนจิ้งหลานล้มลงหมดสติอีกรอบ ที่เธอล้มเหลวในครั้งนี้เพียงเพราะว่าเธอเผลอผวนคำขณะท่องวิชา

‘อืม ตรงนั้นแหละ กำลังสบาย ลูบอีกๆเกาอีกๆ เอ๊ะ ใครมาลูบหัวเกาคางฉันเนี่ย ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงซะแล้ว’

เถียนจิ้งหลันค่อยๆลืมตามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือบุรุษรูปงาม อายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ปี ใบหน้าเนียนขาวดั่งหยกมันแพะ คางเรียวรับกับรูปหน้า คิ้วหนาเรียงเส้นสวยงาม ดวงตาหงส์มีกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ นัยน์ตาสีน้ำตาลเปล่งประกาย จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากชมพูอ่อนอวบอิ่มกำลังดี ฝ่ามือเรียวยาวกำลังลูบหัวเธออยู่

เมื่อตั้งสติได้เธอถึงรู้สึกถึงความแปลกประหลาดที่ชายผู้นี้ดูตัวใหญ่กว่าเธอมาก ยังไม่รวมถึงการที่มาลูบหัวเธออย่างไร้มารยาท

“จ้องเจิ้นแบบนั้นทำไมเสี่ยวหู่” บุรุษรูปงามถามด้วยใบหน้าสงสัย

เถียนจิ้งหลานตอบไปว่า “เจ้าน่ะสิเป็นใคร ใครคือเสี่ยวหู่”

แต่เสียงที่ได้ยินจากปากตัวเองคือ “เหมียวๆๆๆ”

ด้วยความตกใจ เธอจึงลองพูดอีกรอบ “เหมียวๆๆๆ”

‘ไอหยา ฉันมาสิงอยู่ในร่างแมว ในวังนี่มีแมวกี่ตัวนะ และแมวตัวนี้ของผู้ใดกัน’

สมองยังไม่ทันประมวลผลอะไร แขนทั้งสองข้างก็ถูกบุรุษรูปงามจับกางออก จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงมาซุกที่พุงน้อยๆ

“กรี๊ดๆๆ” เสียงกรี๊ดที่ไม่เป็นเสียงกรี๊ด ทำให้ผู้คนได้ยินเป็น “เหมียวๆๆ”

เถียนจิ้งหลานโวยวายไม่หยุด แม้ผู้คนจะฟังเสียงแมวไม่ออกก็ตาม

“สาวน้อยบริสุทธิ์อย่างฉันถูกกินเต้าหู้  โดนฟัดพุง แง ไอ้ผู้ชายบ้า ผู้ชายโรคจิต ชีวิตคิดแต่จะแกล้งแมวหรือไง”

“ขันทีอันพาเสี่ยวหู่ไปอาบน้ำด้วย” บุรุษรูปงามเอ่ยขึ้น จากนั้นหันมาจ้องหน้าแมวน้อย

“เจ้าไปแอบซนที่ตำหนักไหนมา กลิ่นหอมจนเหม็น”

เถียนจิ้งหลานหยุดดิ้น หมั่นไส้ในใจ

‘แหม แค่กลิ่นน้ำหอมก็ไม่ชอบ เรียกแทนตัวเองว่าเจิ้นอีก รู้แล้วล่ะว่าผู้ชายคนนี้คือใคร โอรสมังกรเลิกคิดได้เลย เลี้ยงลูกแมวไปละกัน’

ขันทีอัน ชื่อเต็มว่าอันหย่วนหัง เป็นขันทีน้อยรูปร่างค่อนข้างอ้อนแอ้นบอบบาง หน้าตาตามแบบฉบับหนุ่มน้อยจิ้มลิ้มน่ารัก เดินค้อมหลังนอบน้อมเข้ามาอุ้มเสี่ยวหู่อย่างเบามือ

‘อุ้ย หน้าตาดีจัง น่ารักมาก’ เถียนจิ้งหลานเห็นความงามของขันทีน้อยก็เคลิ้มไปครู่หนึ่ง ก่อนนึกถึงเรื่องสำคัญว่าต้องอาบน้ำ

“น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ถ้าน้ำเย็นข้าไม่อาบนะ”  “แง๊วๆๆ”

ฮ่องเต้เลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน

“เจ้าบ่นอะไรของเจ้า ทำเป็นแมวเพศเมียขี้บ่นไปได้ อาบน้ำเสร็จเจิ้นถึงจะให้กินอาหาร”

‘หวังว่าสมัยนี้คงไม่มีอาหารเม็ดนะ ฉันเพิ่งลิ้มรสอาหารชาววังไปไม่กี่มื้อเอง ต้องมากินอาหารแมวซะแล้ว น่าอนาถนัก’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ปลดอาภรณ์

    เมื่อไปถึงตำหนักยวี่กวง ขันทีอันก็ได้พบกับมหาเสนาบดีเหยาซวี่เหยียนกับฮูหยินใหญ่เดินสวนออกมา“เจ้าเป็นขันทีตำหนักของฮ่องเต้หรือ” เหยาซวี่เหยียนจ้องหน้าขันทีอันหน้าตาเคร่งเครียด“ขอรับ” ขันทีอันก้มหน้ากล่าวตอบด้วยความนอบน้อมฮูหยินใหญ่เหยาเห็นถาดที่มีผ้าคลุมอยู่ในมือของขันทีอัน ก็แสดงอาการดีใจ ริมฝีปากยกยิ้มแล้วพูดว่า “อย่างน้อยฮ่องเต้ก็ยังเอาใจใส่พระสนมบ้านเรา”มหาเสนาบดีเหยาไม่รอช้า ดึงขันทีอันเข้ามาใกล้ตัวแล้วกระซิบ“ถ้าเจ้าช่วยพูดให้ฮ่องเต้มาหาเหยาเฟยบ่อยๆ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม”ขันทีอันเม้มริมฝีปากไม่ให้เบ้ปากออกมาให้ถูกสังเกตได้ ก่อนกล่าวด้วยความสงบนิ่ง“ข้าน้อยไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงในการพูดและแสดงความคิดเห็นกับฮ่องเต้เท่าใดนัก คงไม่สามารถช่

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ชื่อว่าการ์ฟีลด์

    กว่าจะกลับถึงตำหนักซานสุ่ยก็ใช้เวลาเกือบสองก้านธูป ขันทีหนุ่มน้อยก็อุ้มแมวส้มขนฟูฝ่าบรรดาองครักษ์เข้าตำหนัก‘ทำมาเป็นมอง เรื่องประหลาดในวังเคยจะสนใจบ้างไหม’ เถียนจิ้งหลานเหลือบตามองเหล่าองครักษ์แล้วก็ได้แค่คิดแต่ไม่กล้าพูดออกมาเมื่อเข้ามาถึงห้องที่ฮ่องเต้ใช้บรรทม เธอก็ปล่อยเสี่ยวหู่ลงบนเก้าอี้ ดวงตาหงส์ของฮ่องเต้หรี่มองมาที่คนและแมว“เช็ดตัวทำความสะอาดขนด้วย” เสียงเย็นชาเอ่ยสั่งขันทีอัน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนโยนกล่าวกับเสี่ยวหู่“เจ้าตัวแสบไปดื้อที่ไหนมาอีก น่าตีนัก”ขันทีอันได้ยินเช่นนั้นจึงเพิ่มแรงเช็ดขนเสี่ยวหู่ด้วยความหมั่นไส้ แมวส้มรู้สึกไม่สบายตัวเลยอ้าปากงับไปที่มือข้างที่ถูกอุ้มและกระโจนออกจากอ้อมแขนด้วยความตกใจไม่ทันตั้งตัว ขันทีอันคว้าขาหลังของเสี่ยวหู่ที่กำลังกระโดดไปหาฮ่องเต

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ตำหนักเหมันต์

    ยามเซิน (15.00 – 16.59 น.)ขันทีอันยังไม่ทันได้ก้าวพ้นธรณีประตูของตำหนักเหอเซิ่งก็ได้ยินเสียงของฮ่องเต้กับราชครูหม่าคุยกันค่อนข้างดัง‘เมื่อวานก็มา วันนี้ก็มา หรือราชครูเกิดหวงฮ่องเต้ขึ้นมากันนะ’ คิดแล้วก็เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างขันทีเซี่ยงรอปรนนิบัติฮ่องเต้“ท่านเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องของเจิ้นมากไปแล้ว” เสียงขุ่นมัวของฮ่องเต้แสดงถึงความไม่พอพระทัย“กระหม่อมทำทุกอย่างเพื่อฝ่าบาทและบัลลังก์มังกรนะพะย่ะค่ะ” ราชครูหม่าโต้แย้งขึ้นมาทันที“หวังดีด้วยการให้เจิ้นไปค้างอ้างแรมกับพระสนมทุกคน ท่านทำเหมือนไม่รู้จักเจิ้น”“เพราะรู้จักดีถึงต้องทำเช่นนี้พะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทห่วงบ้านเมือง กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทสุดความสามารถไม่เสียดายชีวิต หากห่วงบัลลังก์ กระหม่อมจะช่วยปกป้อง หากห่วงสมบัติในท้องพระคลั

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   หอมกลิ่นดอกท้อ

    มาถึงตำหนักซินหยวนก็เข้าช่วงปลายของยามซวี (19.00 – 20.59 น.) เหล่าขันทีและนางกำนัลในตำหนักล้วนทราบว่าฮ่องเต้จะเสด็จมาตั้งแต่เย็น ถึงอย่างนั้นก็ยังงุนงงกันอยู่“ถวายพระพรฝ่าบาท” เหล่าขันทีและนางกำนัลต่างกล่าวรับเสด็จพร้อมกัน“เถียนเฟยอยู่ห้องไหน คืนนี้เจิ้นจะค้างที่นี่” ฮ่องเต้กล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา“หม่อมฉันจะนำเสด็จเองเพคะ” เสียงหวานของโหรวม่านดังขึ้น พร้อมกับส่งสายตาให้กับซิ่วฟางและเซียงหรูให้ตามไปด้วยกันเมื่อถึงห้องบรรทมของเถียนเฟย โหรวม่านกับซิ่วฟางก็ยืนหลบมุมภายในห้องรอรับสั่งของฮ่องเต้ ส่วนเซียงหรูกับเนี่ยนเหวินก็ยกถาดของว่างและน้ำชาเข้ามาถวายแก่ฮ่องเต้ฮ่องเต้กวาดสายตามองไปทั่วห้องเห็นพระสนมร่างเล็กนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็เอ่ยขึ้นว่า “นำเสื้อคลุมขนสัตว์ของเถียนเฟยมาให้เจิ้น แล้วพวกเจ้าก็ออกไปได้” พลัน

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ผู้น่าสงสัย

    หลังจากออกว่าราชกิจที่ท้องพระโรง ฮ่องเต้และราชครูหม่าก็ไปยังห้องทรงงาน ณ ตำหนักหย่งฟู่“เรื่องที่ฝ่าบาทให้กระหม่อมสืบได้ความว่าท่านมหาเสนาบดีเหยาอยากอุ้มหลาน เลยสั่งให้เหยาเฟยใกล้ชิดกับฝ่าบาทเพิ่มขึ้นพะย่ะค่ะ ”“เจ้าคิดว่าสาเหตุมีเพียงเท่านี้หรือ” ฮ่องเต้ถามกลับด้วยความคลางแคลงใจ“แค่นี้จริงๆพะย่ะค่ะ เรื่องอื่นๆ ล้วนไม่มีสิ่งใดน่าสงสัย มิต้องทรงวิตกกังวล เรื่องสำคัญสำหรับฝ่าบาทในตอนนี้คือให้กำเนิดองค์รัชทายาทได้แล้วพะย่ะค่ะ”ราชครูหม่าทำมือประสานกันค้อมตัว หลบสายตาขณะกล่าวตอบฮ่องเต้ เขาก้มหน้าแล้วกล่าวต่อ“กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาทควรต้องใช้เวลาในยามค่ำคืนกับพระสนมได้แล้วพะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อความมั่นคงของพระราชบัลลังก์และความสงบของรัฐต้าเซี่ยได้”“เจ้าอย่ารวบรัดเจิ้น เจิ้นยังไม่อ

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ขันทีน้อย

    “เสี่ยวหู่ เจ้านี่เก่งนะ ทำให้เหยาเฟยอุ้มมาส่งด้วยพระองค์เองได้”ฝ่ามือเรียวของขันทีอันกึ่งขยี้กึ่งนวดคลึงบนลำตัวและขนของเสี่ยวหู่‘สบายสุดๆ มันแปลกตรงไหนกัน’ “เหมียวๆๆ”ขันทีอันเห็นการตอบกลับของเสี่ยวหู่ก็พูดต่อ“ปกติเหยาเฟยแทบไม่ออกนอกเขตตำหนัก ถ้าไม่มีรับสั่งจากไทเฮาหรือฮ่องเต้ ขนาดสวนดอกไม้ยังไม่ค่อยไปเลย”“เหยาเฟยเป็นพวกอินโทรเวิร์ตหรือนี่ ” “เหมียวๆๆๆ”ขันทีอันมือหนึ่งตักน้ำอุ่นมาค่อยๆรดบนตัวของเสี่ยวหู่ มืออีกข้างค่อยๆลูบน้ำบนขนออก พลางกระซิบเบาๆ “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าก็อย่าไปบอกใครนะ”‘เรื่องนี้ขันทีกับนางกำนัลในวังก็น่าจะรู้มั้ย ความลับตรงไหนกัน’“ได้ๆ ข้าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status