Share

7

last update Last Updated: 2025-09-04 15:39:48

เสียงแหบพร่าของคนป่วยขัดการสนทนา เขามองหญิงสาวที่รีบเข้าไปดูแลคนป่วย

มาอยู่ได้แค่สามเดือนยังพูดภาษาท้องถิ่นเก่ง เขียนอักษรได้งดงามมีเอกลักษณ์ ทำอาหารก็อร่อย แล้วยังปรนนิบัติพัดวีคนป่วยได้อย่างดีเยี่ยมอีก สตรีจากดินแดนแห่งนี้ช่างน่าพิสมัยนัก

“ท่านชาย ได้โปรดออกไปก่อนนะเจ้าคะ นางตัวร้อนมาก ข้าต้องเช็ดตัวให้นาง”

เขาได้สติจากเสียงของนาง รีบพยักหน้ารับอย่างเก้อเขินเพราะมัวแต่มองนางเพลินจนทำตัวเสียมารยาท

“อาลั่ว”

“พ่ะย่ะค่ะ” อาลั่วขานรับเสียงเบาอย่างหวาด ๆ

“บอกเพื่อนของเจ้าปิดปากเรื่องนี้ให้สนิท เข้าใจไหม”

“องค์รัชทายาท” อาลั่วชักสีหน้าเป็นกังวล

“อยากถูกตัดคอเหรอ”

“ไม่ขอรับท่านชาย”

ยิ้มอย่างพอใจเมื่อคำขู่ใช้ได้ผล “ดีมาก จำไว้ว่าข้าคือต้าเสิน” แล้วมองไปตามถนน “ทำไมอาสวงถึงช้านักนะ”

ร้านอาหารไหมทอง

“หลงจู๊”

“ว่าอย่างไร”

“วันนี้ซูวี่ไม่มาทำงานขอรับ”

“เมื่อคืนลี่ชุนเพ้อเพราะพิษไข้ต้องดูแลกันทั้งคืน วันนี้จึงขอลาหยุดเพื่อดูแลนาง” หลงจู๊บอกกับหัวหน้าคนครัวที่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนจะมาหาเรื่องหญิงสาวมากกว่ามารายงาน และเขาก็รู้ว่าจุดอ่อนของผู้นี้คือลี่ชุน “ข้าเลยอนุญาตให้นางหยุดงานดูแลลี่ชุนสามวัน ช่วงนี้เจ้าคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ”

“ตั้งสามวันเชียว!”

“หรือเจ้าจะให้ข้าตามนางมาทำงาน แล้วปล่อยให้ลี่ชุนนอนป่วยอยู่คนเดียวล่ะ จะเอาอย่างนั้นก็ได้นะ ข้าจะให้คนไปตามนางให้เดี๋ยวนี้แหละ”

“ไม่ต้องขอรับ” เสี่ยวหมานรีบปฏิเสธ แม้จะไม่ชอบใจนางมากเพียงใดก็มิอาจทำอะไรได้ เพราะนางหยุดงานเพื่อดูแลคนที่เขามีใจให้นั่นเอง

“อือ” หลงจู๊มองตามแผ่นหลังหนาที่เดินกลับไปหลังร้าน แล้วหันกลับมาสนใจกับการทำงานของคนงานส่วนหน้าร้านต่อ “อาเว่ย”

“ขอรับหลงจู๊” เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มตอบรับกระตือรือร้น

“กลางวันนี้เจ้าเอาอาหารไปให้ซูวี่กับลี่ชุนด้วยนะ”

“ขอรับ” แม้จะแปลกใจกับความเอาใจใส่เกินเหตุของหลงจู๊ แต่เสี่ยวเอ้อร์ก็รีบรับคำ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ปริปาก

คฤหาสน์ชิวเทียน

“อวี่กง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

รัชทายาทยื่นจดหมายที่ใส่ซองเอาไว้เรียบร้อยให้ขันทีคนสนิท

“ให้จี้เฟิงเอาจดหมายของข้าไปให้หมอหลวงและรอเอายากลับมาด้วย”

“พระองค์เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ” อวี่กงถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ดูไม่ออกเลยว่าพระองค์จะป่วย

“แค่เอามาเผื่อ ๆ ไว้เท่านั้น เผื่อคนของเราเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้มียารักษาได้ทันท่วงที”

“เรื่องนั้นพระองค์ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อบ้านเถอะ”

“พ่อบ้านมีงานต้องทำเยอะแยะ แค่ข้ากับเจ้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ก็เพิ่มภาระใหญ่หลวงให้เขามากแล้ว เรื่องแค่นี้ช่วยได้ข้าก็อยากช่วย”

ที่นี่คือตำหนักส่วนตัวของพระมารดา อยู่ห่างจากวังหลวงไปทางทิศเหนือประมาณหนึ่งร้อยลี้ ตอนที่พระนางยังมีชีวิตอยู่พระนางทรงโปรดที่นี่มาก ๆ และเขาก็มักจะมาพักอยู่บ่อย ๆ เพื่อรำลึกถึงพระนาง และใช้เวลานี้สืบดูทุกข์สุขของราษฎรไปด้วย “รีบไปสิ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ก๊อก ๆ ๆ

“แม่นาง”

ซูวี่หยุดมือที่กำลังเช็ดตัวให้คนป่วย มองบานประตูที่มีคนมาเคาะเรียกในยามวิกาล

“ใคร”

“อาสวง”

คำตอบของคนด้านนอกทำให้นางรีบวางผ้าเช็ดตัวลงในอ่างแล้วไปเปิดประตูให้เขา

“อาสวง เข้ามาก่อนสิ”

“ไม่เป็นไรแม่นาง ข้าแค่แวะเอายามาให้ตามคำสั่งของท่านชายเท่านั้น” นายทหารหยิบยาในอกเสื้อยื่นให้หญิงสาว

“ขอบคุณ ฝากบอกท่านชายด้วยว่าข้าขอบคุณท่านมาก ๆ” กล่าวอย่างซาบซึ้ง

“ท่านให้ถามว่าอาการของนางเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไข้ลดลงบ้างแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้นเลย”

“ท่านชายสั่งมาว่าถ้าไม่ดีขึ้นให้เปลี่ยนมาใช้ยาตัวนี้ เพราะตรงกับอาการป่วยของนาง รายละเอียดการใช้ยาเขียนกำกับเอาไว้ในห่อเรียบร้อยแล้ว”

“เจ้าค่ะ ฝากขอบคุณท่านชายอีกครั้ง น้ำใจครั้งนี้ข้าจะไม่ลืมเลย” หญิงสาวที่หลงยุคมาไกลถึงสี่ร้อยปีโค้งศีรษะให้อีกฝ่าย

อาสวงโค้งศีรษะกลับไป “อย่าได้เกรงใจ ข้าแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”

“ฝากบอกท่านด้วยว่าถ้ามีโอกาสข้าจะไปขอบคุณท่านด้วยตัวเอง”

“ข้าจะบอกท่านให้” อาสวงรับคำหญิงสาว คุยด้วยอีกไม่กี่ประโยคก็กล่าวลา

หลังจากอาสวงกลับไปแล้วซูวี่ก็รีบแกะห่อยา อ่านรายละเอียดที่แนบมาด้วยอย่างถี่ถ้วน ทำตามทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง แล้วเฝ้ารอดูอาการของคนป่วยอย่างใกล้ชิด หลับบ้างตื่นบ้างแต่ก็สังเกตอาการด้วยความห่วงใย

ผ่านไปค่อนคืนก็รู้สึกใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่ออาการเพ้อเพราะพิษไข้ของคนป่วยสงบลง ตัวเย็นลงจนเป็นปกติ ไม่บ่นหนาวบ่นร้อนให้ได้ยินอีก

“อือ”

เสียงครางของคนป่วยทำให้ซูวี่ที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งตื่น รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เป็นอย่างไรบ้างลี่ชุน”

“น้ำ ขอน้ำดื่มหน่อยพี่ซูวี่” คนป่วยร้องขอน้ำดื่มด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

ซูวี่รีบลุกไปรินน้ำร้อนที่อุ่นเอาไว้ตลอดให้หญิงสาวได้ดื่ม “เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”

“อือ ดีขึ้นมากเลย”

“อย่าโกหกข้านะ ปวดตรงไหน มีอาการอย่างไรเจ้าต้องบอกข้ามาตรง ๆ นะลี่ชุน”

“ข้าดีขึ้นจริง ๆ พี่ซูวี่ ยังปวดเนื้อปวดตัวและเจ็บคออยู่แต่ก็ไม่รู้สึกปวดหัว ไม่จับไข้แล้ว”

“ไม่ต้องพูดแล้ว พูดไปก็ยิ่งเจ็บคอ นอนพักให้มาก ๆ ดื่มยาทุกมื้อเดี๋ยวก็หาย”

คนป่วยค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอน มองหญิงสาวที่คอยดูแลในยามป่วยไข้อย่างใกล้ชิดด้วยความซาบซึ้ง

“ขอบคุณที่ดูแลข้าอย่างดีนะพี่ซูวี่”

“เลิกพูดแล้วก็นอนพักซะ จะได้หายไว ๆ ถ้าเจ้ายังไม่หายป่วยข้าคงจะป่วยตามเจ้าไปอีกคนแน่ แล้วพอถึงเวลานั้นจะไม่มีใครดูแลเจ้านะ”

“อือ”

และแล้วคำพูดของนางก็เป็นจริง หลังจากนั้นสามวันอาการป่วยของลี่ชุนก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่อาการของนางกลับทรุดหนักยิ่งกว่าตอนที่ลี่ชุนป่วยเสียอีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ้าสาวมังกร   12

    “พี่ซูวี่” นางจับมือนุ่มมาบีบ “ข้าซาบซึ้งใจมากนะที่พี่เป็นห่วงเป็นใยข้าแบบนี้ แต่ข้าโตจนออกเรือนได้แล้ว เชื่อเถอะว่าข้าดูแลตัวเองได้ และข้าก็ไม่อยากออกจากงานด้วย.. ตั้งแต่พ่อแม่ข้าตายข้าก็ทำงานที่ร้านอาหารไหมทองมาตลอด ตอนนั้นข้ายังเด็กนัก แต่หลงจู๊ก็ใจดีรับข้าเอาไว้ ตลอดเวลาหกปีมานี้เขาเมตตาข้ามากเหลือเกิน ข้าจึงอยากทำงานอยู่กับเขามากกว่า พี่เข้าใจข้าใช่ไหม”“อือ ตามใจเจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้าอยู่แล้วมีความสุขข้าก็ไม่ขัด”“ขอบคุณที่เข้าใจ”“แต่คืนนี้เจ้าต้องนอนที่นี่ก่อนนะ รอข้าหายดีแล้วค่อยย้ายกลับไป”“อือ”วันต่อมาที่ร้านอาหารไหมทอง“หลงจู๊”“มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ”“เจ้าค่ะ”หลงจู๊หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเก็บบัญชีที่กำลังตรวจทานใส่ลิ้นชัก แล้วเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับหญิงสาวที่สั่งให้เสี่ยวเอ้อร์ไปตามตัวมาพบ“อาการของซูวี่เป็นอย่างไรบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ”“

  • เจ้าสาวมังกร   11

    “ข้าไม่มีเงินมากมายพอจะใช้หนี้ท่านชายได้หรอก” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายาที่นำมารักษาเธอนั้นดีเพียงใด รวมถึงที่อยู่อาศัยอันโอ่อ่านี่อีกล่ะ ถ้าเป็นยุคสองพันที่เธอจากมาก็เปรียบเสมือนห้องพักในโรงแรมระดับห้าดาวเลยแหละ “แต่ถ้าท่านชายยอมให้ข้าไปทำงานก่อนแล้วมาผ่อนใช้ให้ทีหลัง ข้าก็ยินดีจะผ่อนใช้ให้จนครบทุกตำลึง”“เงินข้ามีเยอะแล้ว ข้าไม่อยากได้หรอก”“แล้วท่านชายอยากได้อะไรเจ้าคะ”“อยากได้เจ้า”“หา!” หญิงสาวตาเหลือกโต สองมือกอดตัวเองไว้แน่น มองไปที่บานประตูที่ปิดสนิทด้วยใจที่เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวเห็นอาการของนางเขาก็หัวเราะเสียงดังด้วยความขบขัน อยากจะแกล้งแต่ก็กลัวทำให้นางลนลานจนไม่กล้าไว้ใจเขา“เจ้ากำลังคิดไปไกลมากนะแม่นาง”สุวิมลเห็นเขาหัวเราะก็ค่อยคลายใจ กลับมาทำตัวปกติ“คราวหน้าท่านก็ควรพูดให้กระจ่างกว่านี้” นางพูดกระอ้อมกระแอ้ม รู้สึกอายกับความคิดที่เลยไปไกลของตนเอง“ข้ายังพูดไม่ทันจบเจ้าก็โวยวายขึ้นมาก่อน” เขาแกล้งโยนควา

  • เจ้าสาวมังกร   10

    “เรื่องนี้ข้าขอไม่ตอบ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าแม้แต่น้อย” หมอหลวงเลี่ยงที่จะตอบ คิดว่าคงต้องระวังสตรีผู้นี้เอาไว้ให้มากขึ้น“เกี่ยวสิ ในเมื่อคนที่เจ้าไปพบคือคู่หมั้นคู่หมายของข้า”“เอาไว้แม่นางเถียนเถียนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระคู่หมั้นแล้วข้าจะตอบคำถามของเจ้าทุกคำถาม แต่ตอนนี้ข้าขอยืนยันคำเดิม ข้าต้องไปทำงานแล้ว” หมอหลวงหญิงโค้งศีรษะให้สตรีตรงหน้าเล็กน้อยก่อนเดินจาก“เจ้าก็เป็นได้แค่หมอหญิงเท่านั้นแหละ ตำแหน่งอื่นที่สูงกว่านั้นอย่าได้หวังว่าจะข้ามหัวข้าไปได้”จิงเจ๋อร์หยุดเดินแล้วหันไปมองหญิงสาวทางด้านหลัง โค้งศีรษะลงเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรแม้จะถูกเข้าใจผิด อยากจะบอกกับนางเหมือนกันว่าตำแหน่งนั้นไม่เคยคิดอาจเอื้อม และมั่นใจว่านางก็ไม่มีสิทธิ์ได้แตะเช่นกัน แต่จะพูดไปทำไมให้เปลืองน้ำลาย สู้เก็บเอาไว้หัวเราะทีหลังสะใจกว่าร้านอาหารไหมทอง“อาจาง” เสี่ยวหมานเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนร่วมงานที่กำลังกินข้าวกลางวันอยู่กับภรรยา“มีอะไรเหรอเสี่ยวหมาน”

  • เจ้าสาวมังกร   9

    ณ ด้านหนึ่งของคฤหาสน์ชิวเทียนในยามวิกาล“ข้าไม่เข้าใจองค์รัชทายาทเลย ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น”“มันเป็นความต้องการของพระองค์ เราก็แค่ทำตาม”“แต่มันไม่ถูกต้องนะจี้เฟิง”“แล้วมันผิดตรงไหนล่ะอวี่กง” องครักษ์มาดเข้มถามเพื่อนที่โตมาด้วยกัน“เจ้าเข้าข้างองค์รัชทายาทเกินไปแล้วนะจี้เฟิง” ขันทีหนุ่มแสดงความหงุดหงิด“หรือจะให้ข้าเข้าข้างเจ้าล่ะ ข้าไม่โง่หรอกนะ” จี้เฟิงโต้เสียงเรียบ มุมปากแสยะยิ้มพร้อมกับสายตายียวนแบบที่คนอื่น ๆ ไม่มีโอกาสได้เห็น“ใช่สิ ข้ามันไม่สำคัญพอเท่าองค์รัชทายาทหรอก”“หึ” องครักษ์มาดเข้มอมยิ้มละมุน “ความสำคัญต้องไล่ตามลำดับสิ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเจ้ากับแม่นางผู้นั้น.. ข้าก็คงเลือกนางก่อนเจ้าอยู่ดี”อาการอมยิ้มพิมพ์ใจขององครักษ์หนุ่มทำให้ขันทีหน้ามนไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่“เจ้าเป็นเพื่อนข้านะจี้เฟิง เห็นนางสำคัญกว่าข้าได้อย่างไร”“เพราะเป็นเพื่อนไงถึงได้รู้ว่าเพื่อนข้าพอมีวิ

  • เจ้าสาวมังกร   8

    สามวันต่อมาร้านอาหารไหมทอง“คารวะท่านชาย” หลงจู๊กล่าวต้อนรับลูกค้าคนสำคัญอย่างนอบน้อม “วันนี้มาคนเดียวเหรอขอรับ”“อือ วันนี้ดูวุ่นวายนะ” ต้าเสินชวนหลงจู๊สนทนาขณะกวาดสายตามองลูกค้าที่ค่อนข้างแน่นร้าน“ขอรับ ช่วงนี้จะมีเรือขนส่งสินค้าจากต่างแดนมาเทียบท่าค่อนข้างเยอะ ร้านของเราก็เลยคึกคักเป็นพิเศษ”“กิจการดีแบบนี้น่าชื่นใจแทนเจ้าของนะ”“ขอรับ” หลงจู๊รับคำพร้อมรอยยิ้มที่มีเพียงเขาที่เข้าใจ “วันนี้ท่านชายต้องการนั่งที่ไหนดีขอรับ ชั้นล่างหรือชั้นบน”“ที่นั่งเดิมยังว่างหรือไม่”“ต้องขออภัยขอรับ วันนี้ลูกค้าของเราเยอะมาก ที่นั่งก็เหลือน้อยเต็มที”“ถ้าอย่างนั้นข้านั่งข้างล่างก็ได้”“เชิญท่านชายทางนี้ขอรับ” หลงจู๊ผายมือเชื้อเชิญและเดินนำเขาไปด้วยตนเองจนกระทั่งถึงโต๊ะนั่งในมุมที่ค่อนข้างสงบ “อีกสักครู่ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อร์มารับรายการอาหารนะขอรับ”“เจ้ารับไปเลยก็ได้ ข้าต้

  • เจ้าสาวมังกร   7

    เสียงแหบพร่าของคนป่วยขัดการสนทนา เขามองหญิงสาวที่รีบเข้าไปดูแลคนป่วยมาอยู่ได้แค่สามเดือนยังพูดภาษาท้องถิ่นเก่ง เขียนอักษรได้งดงามมีเอกลักษณ์ ทำอาหารก็อร่อย แล้วยังปรนนิบัติพัดวีคนป่วยได้อย่างดีเยี่ยมอีก สตรีจากดินแดนแห่งนี้ช่างน่าพิสมัยนัก“ท่านชาย ได้โปรดออกไปก่อนนะเจ้าคะ นางตัวร้อนมาก ข้าต้องเช็ดตัวให้นาง”เขาได้สติจากเสียงของนาง รีบพยักหน้ารับอย่างเก้อเขินเพราะมัวแต่มองนางเพลินจนทำตัวเสียมารยาท“อาลั่ว”“พ่ะย่ะค่ะ” อาลั่วขานรับเสียงเบาอย่างหวาด ๆ“บอกเพื่อนของเจ้าปิดปากเรื่องนี้ให้สนิท เข้าใจไหม”“องค์รัชทายาท” อาลั่วชักสีหน้าเป็นกังวล“อยากถูกตัดคอเหรอ”“ไม่ขอรับท่านชาย”ยิ้มอย่างพอใจเมื่อคำขู่ใช้ได้ผล “ดีมาก จำไว้ว่าข้าคือต้าเสิน” แล้วมองไปตามถนน “ทำไมอาสวงถึงช้านักนะ”ร้านอาหารไหมทอง“หลงจู๊”“ว่าอย่างไร”“วันนี้ซูวี่ไม่มาทำงานขอรับ”“เมื่อคืนลี่ชุนเพ้อเพราะพิษไข้ต้องดูแลกันทั้งคืน วันนี้จึงขอลาหยุดเพื่อดูแลนาง” หลงจู๊บอกกับหัวหน้าคนครัวที่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนจะมาหาเรื่องหญิงสาวมากกว่ามารายงาน และเขาก็รู้ว่าจุดอ่อนของผู้นี้คือลี่ชุน “ข้าเลยอนุญาตให้นางหยุดงานดูแลลี่ชุนสามวัน ช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status