Home / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / คุณหมอรถแห่

Share

คุณหมอรถแห่

Author: ลลนล
last update Last Updated: 2025-11-07 12:16:16

เสียดายที่กิดากานต์สะบัดหน้าหนีไม่ได้เหมือนทุกครั้ง คนคอแข็งทื่อที่หมดอารมณ์จะต่อกรกันเป็นเด็กๆ ก็หมุนตัวไปอีกทาง เพื่อที่จะเริ่มงานในเช้าวันใหม่ได้อย่างขมุกขมัว

ปล่อยทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความรู้สึกห่วงใยมากขึ้นไปอีก...จริงๆ แล้ว ตั้งแต่ที่เลิกกัน ปริญญ์ก็ค่อยๆ คายความเป็นตัวตน แล้วกลืนเอาความหลากหลายของกิดากานต์มาเป็นตัวเอง

เธอเริ่มฟังเพลงลูกทุ่งได้เพราะขึ้นมานานหลายปีแล้ว และเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าหลงคิดว่าพวกเพลงเหล่านั้นคือสิ่งที่เข้ามาทดแทนคนรักเก่า

และที่สำคัญที่สุด คือมันไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เราเลิกกัน...

นับจากนี้ ไม่ว่ากิดากานต์จะจิกกัดกันเรื่องเก่าๆ มากขนาดไหน เธอก็จะพยายามไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เธอห่วงใยจนต้องรีบรับปากบ๊อบบี้ในทันที ก็เพราะสิ่งที่กิดากานต์ชื่นชอบ มันล้อมรอบไปด้วยหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มแตกสาว และหนุ่มฉกรรจ์ พวกเขาให้เหตุผลว่าเพื่อไปคุ้มครอง คุณหมอรถแห่ ฉายาที่ไม่ใกล้กับบุคลิกที่คนทั่วไปพบเห็น

แต่นั่นคือตัวตนที่กิดากานต์ไม่กล้าเปิดเผยกับปริญญ์มาก่อน อยู่ที่นี่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ คุณหมอรถแห่คงมีความสุขมากสินะ แล้วใครจะกล้าทำลายความสดใสนั้นลงคอล่ะ

ไม่คิดว่าการกลับมาครั้งนี้ของปริญญ์ มันจะทำให้กิดากานต์อึดอัดทรมานได้เสียขนาดนี้ แรกเริ่มเหมือนเธอจะคิดเอาเองว่าน่าจะเอาอยู่ แต่ตอนนี้ที่เป็นอยู่ ไม่ต่างกับเผลอแกะสะเก็ดแผลที่ยังไม่หายสนิท แล้วเลือดมันก็ไหลซึมออกมาอีกรอบ

กว่าเธอจะกล้าเผยตัวตนกับคนที่นี่ ก็ใช้เวลาอยู่ตั้งหลายปี ทำไมความชอบของเธอ จะต้องเป็นความน่ารำคาญของคนอื่น ซึ่งคนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครเลย แต่เป็นคนที่เธอเคยรักมากที่สุดอีกต่างหาก

คนบ้าอะไร เราก็ฟังของเราอย่างนี้มาตั้งนาน แต่บทอยากจะเลิกก็ยกมันมาเป็นข้ออ้าง แล้วทีตัวเองเอาผู้หญิงมาอยู่บนเตียงที่เราเคยนอนด้วยกันทุกคืน กิดากานต์เจ็บเจียนตาย หลับหูหลับตาว่าไม่ใช่เรื่องจริง ยอมเป็นคนโง่ ให้เขาฉีกทึ้งหัวใจเป็นว่าเล่น

แล้วต้องยอมรับกับตัวเองได้อย่างไม่อาย ว่าอยู่ไม่ได้หากไม่มีปริญญ์อยู่เคียงข้าง ทั้งๆ ที่เขาสุดแสนที่จะเหยียบย่ำ ถือสายคุยกับคนอื่นต่อหน้า คล้ายๆ ว่าแฟนเด็กจะทำทุกวิถีทางที่จะไล่เธอออกจากความสัมพันธ์ แต่เธอก็ยังจะทนอยู่ เพราะบางขณะ แววตาอันแสนดื้อรั้นนั้น มันเต็มไปด้วยความรักความห่วงหา หากแต่บางคราวมันก็สลับไปเป็นไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด

รักมาก และทนมาก เพราะคิดไม่ออกเลยว่า หากเลิกกันแล้วจะทำยังไงกับชีวิตต่อไป หรือเป็นเพราะเธอคิดเองไม่ได้ ปริญญ์เลยเป็นฝ่ายตัดสินให้อย่างเด็ดขาด

แต่ในขณะนั้น กิดากานต์ก็ด้านมากพอที่จะเลิกฟังเพลงที่น่ารำคาญหูเขาเพื่อเอาใจ แต่มันก็ไม่สำเร็จ เพราะแม้เธอจะพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเท่าใด สายตาแข็งกระด้างอย่างเอือมระอาของปริญญ์ มันก็ฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น

และวันนี้เธอก็วนกลับไปเจ็บใหม่อีกครั้ง เพลงที่เคยเปิดฟังคลอเบาๆ เวลาทำงานอยู่ในห้องเพียงลำพัง กลับโดนเมินเฉยอย่างตั้งใจ

ข้อมูลจากด้านนอก ถูกส่งผ่านระบบเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่กิดากานต์กำลังนั่งอยู่หน้าจอ แต่ละข้อมูลละเอียดยิบ ไม่มีช่องโหว่ให้ต้องหงุดหงิดใจ เธอชอบทำงานร่วมกับปริญญ์ เพราะเคยเป็นทั้งคนสอนและพากันเรียนรู้เคสยากๆ มาด้วยกันหลายปี

แต่พอข้อมูลที่ทยอยส่งเข้ามาเริ่มนิ่ง หญิงสาวที่แผลใจยังไม่สมานก็เอื้อมมือไปกดเปิดเพลงเศร้าๆ ช้ำๆ ของศิลปินคนโปรด ที่เพียงแค่ได้ยินอินโทรบรรเลง อินเนอร์ของคนที่ช้ำไม่สร่างซา ก็ดึงเอาไหล่บางงองุ้มหดหู่

ดวงตาเลื่อนลอยรอความเคลื่อนไหวที่หน้าจอ เพื่อรอการรายงานเคสในลำดับถัดไป หากแต่แล้ว อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“ค่ะ...”

รับคำด้วยน้ำเสียงแห้งแล้ง และต้องรีบเด้งมือไปกดปิดเพลงทันทีที่ใครบางคนโผล่เข้ามาอีกแล้ว ซึ่งท่าทีอันเลิ่กลั่กเช่นนั้น มันทำให้ใจคนมองอ่อนยวบยาบ รู้สึกผิดจนอยากจะถอยหลังกลับ แต่เพราะเจ้าของห้องที่เปลี่ยนทีท่าได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก็ทำให้ปริญญ์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“มีอะไร”

“คือ...คีย์มาคิดดีๆ แล้วว่า”

“เกี่ยวกับเรื่องงานมั้ย” กิดากานต์ถามแทรกขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

“เกี่ยวค่ะ”

“ได้...งั้นก็พูดมา”

“ถ้าคีย์ไม่ไปรถแห่ มันจะทำให้พี่สนุกขึ้นจริงๆ เหรอคะ”

“ควรพูดเวลางานแบบนี้มั้ย ถ้าจะมาเคาะประตูสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วมาพล่ามอะไรบ้าๆ ทีหลังจะไม่อนุญาตแบบนี้แล้วนะ”

“แล้วเรื่องรับน้องใหม่ ไม่เกี่ยวกับงานเหรอคะ”

“เค้าเรียกว่ากิจกรรมนอกเวลางานรึเปล่า”

“คีย์เรียกมันว่า งานสานความสัมพันธ์ค่ะ พี่เคยสอนคีย์มาอย่างนั้น”

อีกคราวที่กิดากานต์สามารถหัวเสียขึ้นมาได้ แต่จะให้เคืองก็ใช่เรื่อง เพราะเธอเคยสอนรุ่นน้องมาอย่างนั้นจริงๆ

“โอเค งานก็งาน และมันไม่สนุกแน่ ถ้ามีใครบางคนไม่ศรัทธาในศิลปะแขนงนั้นปะปนอยู่ใกล้ๆ”

“แต่คีย์มีข้อแลกเปลี่ยน”

“................................”

แววตาของคนถูกต้อน จ้องใบหน้าที่เคยหลงใหลด้วยความรู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปอีก

“ตอบคีย์มาคำถามหนึ่ง จะตอบยังไงก็ได้ ขอแค่เป็นความจริง แล้วคีย์จะไปยกเลิกนัด”

“เล่นอะไรของเธอ”

“พี่แต่งงานรึยังคะ”

ไม่จำเป็นต้องอารัมภบทใดอีก สาวแว่นดำเชิดหน้าถามด้วยหัวใจที่เต้นถี่ ไม่ต่างกับตอนที่ลุ้นว่าอีกคนจะรับรักหรือเปล่า เหตุการณ์ครั้งนี้กับครั้งนั้นไม่ได้ใกล้เคียง แต่เหงื่อที่ซึมเต็มฝ่ามือ มันคือความรู้สึกเดียวกันเด๊ะๆ

“ตอบแบบไหนก็ได้เหรอ” กิดากานต์ถามพร้อมรอยยิ้มเยาะ

“เอาความจริงค่ะ”

“จะอยากรู้ไปทำไม”

“ก็คิดว่า ปูนนี้แล้ว แค่อยากรู้ความเป็นอยู่ว่าสบายดีมั้ย อะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ” ปริญญ์พูดข้างๆ คูๆ

“จะแต่งไม่แต่ง ไม่ใช่เรื่องของเธอ คนแถวนี้ยังไม่มีใครคิดที่จะถามกันสักคน” กิดากานต์บอกแล้วก็หันกลับไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง

“ถ้าแต่งแล้วก็จะยินดีด้วยค่ะ”

“ยินดีจริงๆ เหรอ” พี่สาวตวัดสายตามาถามด้วยน้ำเสียงจิกกัดกันอยู่ในที

“พี่ควรต้องมีคนดูแล”

“ไม่ก้าวก่ายกันสิ”

“แต่คีย์เพิ่งเลิกกับแฟน เอ่อ...อันนี้แค่พูดลอยๆ น่ะ”

“รถไฟชนกัน หรือซ้อนสามซ้อนสี่กันเหรอ อย่าหักโหมให้มันมาก เฮ้อ...ที่เคยแช่งไว้ มันได้ผลจริงๆ นะเนี่ย” กิดากานต์พูดพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ไม่อยากให้สมหวังกับใคร เพราะอยากให้รักแค่พี่คนเดียวเหรอ”

“การคบกับเธอ มันเหมือนตกอยู่ในนรก ใครจะอยากก้าวขาเข้าไปอีก”

“ร้องเสียงหลงเลย นรกมันร้อนอ่ะเนอะ”

“อ้อ ถ้าอยากจะอยู่ในห้องนี้ก็เชิญเลยนะ พอดีมีเรื่องอื่นต้องไปทำ” กิดากานต์บอกแล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน ถ้าไม่ตัดจบก็รังแต่จะเข้าตัวเปล่าๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพรงพ่าย   ออกมาหาได้มั้ย

    “ไม่ไปได้ยังไงคะป๊า ตั๋วเค้าก็จองให้หมดแล้ว แล้วอูนก็แค่ไปช่วยงาน ยังไม่ได้ย้ายสักหน่อย”“หนูไม่ต้องมาใช้คำว่าสักหน่อยกับป๊า แค่หนูป่วยแค่นิดเดียว หัวใจป๊าก็เจ็บปวด...”พูดยังไม่ทันจะจบ ลูกสาวขี้วีนก็สวนกลับทันที“อย่ามาลิเกค่ะป๊า”“ป๊าไม่ได้ลิเก แต่คราวนี้ป๊ายอมไม่ได้”“ก็บอกแล้วว่าแค่ไปช่วยงาน”“อูนเอาคำว่าแค่ช่วยงานมาอ้างให้ป๊าตายใจ ไปลาออกเลย ลูกสาวคนเดียวป๊าเลี้ยงได้ ไม่ต้องทำงานเป็นหมอแล้ว ป๊านอนไม่หลับสักวันเพราะเรื่องหนูนี่แหละ”“ป๊าลองเป็นช้างสิ ถ้าป่วยมาแล้วไม่มีหมออย่างอูน ป๊าจะรู้สึก”“หนูอย่ามาแช่งป๊านะ”“ไม่ได้แช่ง แต่ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่เลี้ยงหนูมาให้รักสัตว์ ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่ชอบช้างมากที่สุด หนูก็เดินตามทางที่ป๊าเคยขีดไว้ให้แล้วไง หนูจะสี่สิบแล้ว หนูถึงขอให้เลิกยุ่งกับชีวิตหนูสักที”“ก็หนูทำตัวน่าเป็นห่วง ให้ตายยังไงป๊าก็ไม่ยอมให้หนูไปลำปาง”“งั้นป๊าก็ต้องช่วยหนูแล้ว

  • เพรงพ่าย   ใช้ของด้วยกัน

    “กวนประสาท...ฮือ ทำไงดี เด็กต้องตกใจแน่ๆ ตาพี่แดงไปหมดเลย”ว่าแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด มันก็ดันมาเกิดกลางทาง และหากจะพากันไปทั้งสภาพนี้ มันคงแย่พอๆ กับการไม่ไปร่วมขบวน ดังนั้นคนทั้งคู่เลยพากันกลับไปล้างหน้าที่บ้านอีกรอบ“แว่นคีย์ที่พี่เคยซื้อให้อยู่ไหนอ่ะ ใส่อันนั้นพรางตาได้ดีนะ” ปริญญ์บอกคนที่ยืนล้างหน้าอยู่ในครัว“อยู่บนห้องอ่ะ หยิบให้หน่อย”และเมื่อปริญญ์เดินกลับลงมาอีกครั้ง เธอก็เดินเข้าไปสวมกอดผ่านแผ่นหลังกันไปอย่างอ่อนโยน“เลิกเกลียดคีย์เรื่องเพลงน้า”“คนพูดน่ะพูดง่าย”“คีย์ขอโทษ ตอนนี้คีย์อยากเห็นคุณมีความสุข เพลงพวกนั้นมันแค่ข้ออ้างของคนปากเสีย ไม่ได้ขอให้คุณให้อภัยนะคะ แต่อยากให้เข้าใจว่า มันไม่ใช่สิ่งที่คีย์คิดจริงๆ เพราะเพลงที่คีย์ไม่ชอบจริงๆ อ่ะคือเพลงเพื่อชีวิต พี่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่เราคบกันแรกๆ”“ไม่ใช่แค่นี้ใช่มั้ยที่โกหกพี่”“มันนานมากแล้วอ่ะ จำไม่ค่อยได้...”“แล้วที่ทำน่ะ เพราะเข้าใจว่าพี่ยังรั

  • เพรงพ่าย   รู้ใจ

    จริงดั่งที่เข้าใจมาตลอด ยิ่งปริญญ์พยายามทำให้อีกคนเจ็บมากเท่าใด แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บยิ่งกว่า เธอมองเห็นความอ่อนล้าเหล่านั้นก็อยากจะโผเข้าไปกอด แต่หากจะทะเล่อทะล่าแสดงออกไปเช่นนั้น คนที่มีปมแน่นในใจ คงไม่ยอมเปิดใจให้กันง่ายๆเธอเลยทำได้แค่แสร้งทำเป็นว่าไม่เข้าใจ หญิงสาวไม่พูดอะไร นอกจากการเดินเข้าไปหา แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอนหนุนตักคนที่รักสุดหัวใจนั้นไปเงียบๆ“อืมม์...คีย์คะ คือจริงๆ ไม่ต้องพาไปก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปเองก็ได้”นั่นไงล่ะ ปริญญ์คิดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าจะต้องได้ยินอะไรแบบนี้ ดังนั้นจากที่เคยนอนหงาย ก็ค่อยๆ พลิกตัวเข้าไปกอดกันเอาไว้เพียงหลวมๆ ศีรษะได้รูปทำท่าส่ายหน้า ไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น ก่อนจะงึมงำบอกออกมาว่า“ของีบสักห้านาทีนะ แค่ห้านาที หมดเวลาแล้วปลุกเลย”“เหนื่อยเหรอคะ”“ค่ะ ปีนขึ้นปีนลง มาหลายตัวด้วย”“ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปช่วย”“ถึงพี่อยู่คีย์ก็ไม่ยอมให้พี่ทำหรอก”“งั้นนอนพักดีกว่ามั้ย ไม่ต้องไปหรอกเนาะ”“ไม่เอา ขอแค

  • เพรงพ่าย   ถ้ายังรักกัน

    และยิ่งกิดากานต์ปฏิเสธกันเท่าใด อีกคนก็ยิ่งอยากฟาดกันให้ราบคาบเสียแต่ตอนนี้ หญิงสาวเอาแต่ยืนหายใจฟืดฟาด จ้องหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้น“ก็บอกว่าจะเข้าไปส่งไง”“ก็แล้วจะเข้าเมืองไปทำไม”“จะไปส่งเมียตัวเองมันผิดตรงไหน”“เมียไหนกันแน่ ที่แน่ๆ พี่ยังไม่ใช่เมียเธอ ยัยเด็กคนไหนล่ะที่อยากไปหา มันไม่ใช่แค่อยากไปส่งพี่หรอก”และนี่ก็กลายเป็นการยืนยันว่า พวกเธอยังคงไม่เชื่อใจกันอย่างชัดเจน“ไม่อยากเป็นแล้วเหรอ ไหนเมื่อคืน...”พูดยังไม่ทันจบ อีกคนก็ทุบกำปั้นลงไหล่กันไม่เบานัก“เลิกพล่ามถึงตอนนั้นได้ป่ะ”“ความจริงคนเรามันออกมาตอนนั้นไม่ใช่เหรอ”“แล้วมันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อเธอไม่ได้ต้องการฉันจริงๆ”“.........................”เมื่อไม่อยากจะเถียง ปริญญ์ก็ทำเพียงยิ้มเยาะใส่หน้า เป็นท่ากวนประสาทที่อีกฝ่ายอยากจะตะโกนใส่หน้าให้สุดเสียง“ไม่ต้องด้อยค่ากันถึงขนาดนั้นก็ได้”“เปล่

  • เพรงพ่าย   รู้เป็นคนสุดท้าย?

    “มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ นะอูน”“นี่คีย์เค้าคิดว่าอูนกลับไปมีอะไรกันกับพี่แทคงั้นเหรอคะ ป้าขา...เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นะคะ” กิดากานต์พูดเสียงแหบแห้งออกมาจากใจที่อ่อนล้า“ป้าจะไม่ลงรายละเอียดนะ ให้คุยกันเอง”“ไม่ได้มีจริงๆ นะคะ”“ไปคุยกันเอาเอง เพราะเจ้าปริญญ์มันก็ไม่ฟังใคร มันเชื่อที่ตามันเห็น”“ก็หนูอธิบายเค้าตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ได้ทำๆ ถึงว่าสิ พอพูดถึงพี่แทคเมื่อไหร่แล้วคีย์จะกลายเป็นคนบ้าไปเลย”หลังจากวางสาย กิดากานต์ก็เพิ่งจะมานั่งคิดทบทวนว่า ปริญญ์เริ่มเปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายกันตั้งแต่เมื่อไร และก็ถึงกับน้ำตาซึมว่ามันเกิดหลังจากสาเหตุนั้นจริงๆ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอมั่นใจว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้กฤษกรจะทรงแบดดูกินไม่เลือกในเวอร์ชั่นผู้ชาย แต่เขาจะให้เกียรติเธอเสมอ จนกระทั่งตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขายังดีอยู่ ก็เพราะเขาไม่เคยหาจังหวะรังแกกันเลยสักครั้งแต่แล้วในขณะที่นั่งไล่เรียงไทม์ไลน์อย่างรวดเร็ว พลันอีกหนึ่งความสงสัยก็ผุดขึ

  • เพรงพ่าย   ไม่แฟร์

    “โอเค คีย์อาจจะขอผิดเวลา แต่ขอให้มั่นใจกับอะไรกว่านี้อีกสักหน่อย คีย์จะกลับมาขอคบอีกครั้ง”“มั่นใจเรื่องอะไรคะ”“ไว้ถึงเวลาแล้วจะบอกค่ะ”“เรื่องที่พี่เคยถามน่ะเหรอ”ทันทีปริญญ์ก็แสยะยิ้มเครียดออกมา ทำเอาอีกคนยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก“นอนเถอะ...จะได้หายเร็วๆ ไว้หายแล้วค่อยคุยกัน”“ค่ะ”แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกัน เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่มีใครกล้าตั้งมันขึ้นมาเป็นคำถาม...ตั้งแต่ที่ปริญญ์เดินเข้ามาจุ๊บหน้าผากก่อนออกไปทำงาน กิดากานต์ก็กลับไปเป็นคนคลั่งรักได้อย่างเงียบๆ สมองมันแล่นแปลบปลาบ ฉายแต่ภาพซ้ำๆ ที่ทำเอานอนหน้าร้อนเป็นสีระเรื่อปริญญ์เป็นเพียงคนเดียวในชีวิต ที่รู้จักร่างกายเธอดียิ่งกว่าผู้ใด การเคลื่อนไหวอย่างรู้ใจและแสนจะช่ำชอง มันพร้อมจะหลอมละลายกายที่เกร็งสั่น ให้ปวดมวนไปทั่วร่างด้วยความกำซาบฝ่ามือเจ้าเล่ห์ปาดฉวัดเฉวียนเฉียดผ่าน แต่ไม่แตะต้องเพชรเม็ดงามที่ฉ่ำลื่นจนเจ้าตัวต้องถอนหายใจซ้ำซากด้วยความอึดอัด เพราะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status