ในวัยเด็กทั้งสองต่างเป็นเพียงเพื่อนสนิท เติบโตขึ้นกลายเป็นเพื่อนแนบสนิท คนหนึ่งผูกพันเกินเพื่อนจนอยากเป็นคนพิเศษ อีกคนลังเลไม่แน่ใจ เกิดความห่างเหิน เย็นชา สุดท้ายห่างหาย แยกย้าย กลับมาเจอกันอีกครั้ง กลายเป็นคนแปลกหน้า ที่มี เด็กน้อยคนหนึ่ง อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสอง :::::::::::::::::::::::::::: "ใจคอจะไม่พาฉันไปทำความรู้จักกับลูกชายเธอหน่อยเหรอ" "ไม่จำเป็นหรอก!" เธอตอบกลับเสียงห้วน แต่หลบสายตาคาดคั้นของเขา "อัย ฉันให้อภัยเธอได้นะ ที่เธอหักอกฉัน แต่เรื่องอื่นฉันไม่แน่ใจ!" "ทำไม ร็อกจะทำอะไร!" "เธอก็รู้ ที่ผ่านมา เธอเป็นข้อยกเว้นทุกอย่าง ที่ฉันไม่เคยทำอะไรร้ายๆ ใส่ ไม่ว่าเธอจะร้ายกับฉันแค่ไหน แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ถ้าเธอร้ายกับฉันก่อน ฉันก็ไม่ละเว้น!" ::::::::::::::::::::::::::::::
Lihat lebih banyakบทนำ
Friends with benefits
ภายในห้องพักอันกว้างขวางที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู เสียงเพลงร็อกดังกระหึ่ม เสียงเบสหนักๆ เหมือนจะประสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ พร้อมกับเสียงครางทุ้มและเสียงหวานใสของเด็กหนุ่มเด็กสาวคู่หนึ่งที่กำลังบรรเลงเพลงรักอย่างบ้าคลั่ง
ร่างเล็กกลมกลึงด้วยสัดส่วนอันน่าคลั่งไคล้ ด้วยเอวบาง ทว่าอกอวบอิ่มเกินตัว ถูกมือใหญ่เคล้าเค้นอย่างเมามัน ขณะที่เธออยู่ในท่าด็อกกี้ ท่อนล่างของเขาแนบชิดขยับเข้าหาอย่างเป็นจังหวะ
“ร็อก อื้อ อัยไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อา” เธอบอกเสียงสั่น พอๆ กับร่างที่กำลังสั่นสะท้าน เพราะแรงปรารถนาที่จะเดินไปถึงจุดหมาย ทว่าคนที่ควบคุมเกมรักนี้ เขาไม่เดินตามทางที่เธอต้องการ พอจะถึงจุดปลายทาง อีกฝ่ายกลับผละห่าง เธอกำลังจะร้องประท้วง เขากลับพลิกตัวเธอนอนหงาย วางขาบนบ่า แล้วดันสะโพกของเธอมาใกล้ใบหน้า ก่อนที่ริมฝีปากจะทาบจูบบนกลีบกุหลาบช้ำแดง และตวัดลิ้นไล้เลียเกสรฉ่ำน้ำอย่างเชื่องช้า
ร่างกลมกลึงบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน หวีดร้องแทบขาดใจ เมื่อเขาละเลงลิ้นลงไป สลับกับสอดเข้าไปในโพรงลึก
“ร็อก อือ อัย กำลังจะ อ๊ะ อา”
ลิ้นร้ายกาจนั้นตวัดลิ้นเลียไปทั่วกลีบงาม สอดเข้าไปในโพรงลึกขยับเข้าออก จนเธอหวีดร้องตัวสั่นเกร็งสะท้าน ปล่อยน้ำหวานออกมาให้เขาดูดดื่มชิมรสหวานอย่างคลั่งไคล้
เธอหอบหายใจเหนื่อยอยู่ไม่กี่นาที ก็ถูกจับนั่งบนตัก แล้วลิ้นร้ายกาจนั้นก็ตวัดเลียทรวงอกอวบของเธอ
อัยลินแหงนเงยใบหน้าขึ้นสูดปาก เรือนผมหยักยาวระถึงบั่นเอว มือใหญ่จับเอวเล็กเพื่อรับแกนกายของเขาอย่างถนัดถนี่ เธอขยับสะโพกตามเกมรักของเขาอย่างว่าง่าย
ลีลาควบม้าของเธอทำให้เขาผละออกจากทรวงอกอวบ ก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดปากครางเสียงพร่าอย่างเสียวซ่าน
“อัย อ่าห์ อืม ดีมาก โคตรดี กระแทกแรงๆ เลย อา...”
“ร็อก อื้อ อัย ใกล้เสร็จอีกแล้ว อ๊ะ อ๊า”
“งั้นก็รับดีๆ นะ อืม อ่าห์” แล้วเขาก็เด้งสะโพกรับการขยับของเธอรัวเร็ว และไม่นานทั้งสองร่างก็พากันไปเกร็งสะท้าน กอดก่ายกันอย่างด้วยความสุขสม
นอนกอดกันอยู่เงียบๆ สักพัก กระทั่งลมหายใจหายหอบสะท้าน ฝ่ายชายก็เอ่ยขึ้นเสียงจริงจัง
“เราเปลี่ยนสถานะกันดีไหมอัย”
“เปลี่ยนทำไม แบบนี้ก็ดีแล้วนี่” อัยลินตอบเสียงเรียบ เหมือนเช่นทุกครั้งที่ถูกอีกฝ่ายถาม
“เรานอนด้วยกันมาเป็นปีแล้วนะ อัยไม่รู้สึกกับร็อกจริงๆ เหรอ” รชตก็อยากแน่ใจว่าอัยลินไม่ได้รู้สึกกับเขาเกินเพื่อนจริงหรือเปล่า
“รู้สึกสิ ร็อกเป็นเพื่อนสนิทของอัยนะ”
พอได้ยินคำตอบแบบนั้นเขาก็นิ่งเงียบไปเหมือนยอมรับสถานะ Friends with benefits ต่อไป
“อัยไปก่อนนะ มีเรียนน่ะ” แล้วเธอก็ลุกจากเตียงทั้งที่เนื้อตัวเปลือยเปล่า รีบเข้าไปในห้องน้ำ
ปล่อยให้เจ้าของห้องนอนถอนหายใจอย่างท้อแท้เพียงลำพัง
เขากับอัยลินเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม บ้านเธอกับเขาอยู่ห่างจากกันแค่ไม่กี่หลัง
พอมัธยมเขาก็ไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ ส่วนอัยลินเรียนโรงเรียนเดิมกระทั่งจบมัธยมปลาย
แต่ถึงจะเรียนคนละที่ทั้งสองก็ยังคบหาเป็นเพื่อน และเจอกันแทบทุกวันเช่นตอนเรียนประถม กระทั่งสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกัน
อัยลินสอบติดคณะมัณฑนาศิลป์ ส่วนเขาสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์
ตอนนี้เขากับเธออยู่ปีสองแล้ว แต่ความสัมพันธ์แบบ BWF นั้นมันเริ่มตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่ง
วันนั้นเขากับเธอดื่มฉลองสอบติดกับเพื่อนๆ หนักไปหน่อย จนเผลอมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่ตั้งใจ แต่พอรู้สึกตัวเขายอมรับว่ามันรู้สึกดีมากๆ จนเขาสำรวจความรู้สึกตัวเองอย่างแน่ใจว่าจริงๆ แล้วเขารักอัยลินมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มตอนไหนนั้นเขาไม่แน่ใจจริงๆ
แต่เมื่อคิดจะบอกความในใจ พร้อมกับรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนพลั้งเผลอ แต่อัยลินดันบอกเขาว่า
“ลืมมันไปเสียเถอะ คิดเสียว่าฝันไป แต่ถ้าร็อกลืมไม่ได้ ดึงดันจะรับผิดชอบเป็นแฟนอัย เราก็คงเป็นเพื่อนกันต่อไม่ได้”
ตอนนั้นเขายินยอมรับในสิ่งที่อัยลินต้องการ พยายามเป็นเพื่อนกันต่อไปเหมือนเดิม แต่มันก็ทำยาก อัยลินเองก็เช่นกัน อาจเพราะวัยที่ร้อนแรงในเรื่องเซ็กซ์ เราต่างทำเรื่องพลั้งเผลอกันอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็หยุดไม่ได้ กระทั่งผ่านมานับปี ทว่าที่เหมือนเดิมคือสถานะระหว่างกัน
เป็นเพื่อนเพื่อนสนิทที่แนบสนิทกันได้ในยามที่ความต้องการตรงกัน
แต่ก็มีเงื่อนไขระหว่างกัน ว่าหากคนใดคนหนึ่งมีแฟนหรือกำลังดูใจกับใครอยู่ สถานะเพื่อนนอนก็จบลง เหลือเพียงแค่เพื่อนสนิทเหมือนเดิม
หากวันนั้นมาถึงจริง รชตไม่มั่นใจว่าตนเองจะกลับไปเป็นเพื่อนกับอัยลินได้หรือเปล่า แต่วันนั้นยังมาไม่ถึง เพราะเขากับอัยลินไม่ได้คบหาหรือคุยกับใคร ตั้งแต่วันที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทั้งสองต่างก็ไม่เคยมีใคร
มีแต่เขากับเธอในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนสนิท เพื่อนนอน เหมือนคนในครอบครัวที่สามารถพูดคุยทุกอย่างกันได้
ไม่แปลกใช่ไหมที่เขาอยากจะมีสถานะคู่รักกับอัยลิน
แต่คำตอบที่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินคือ
‘เราต่างยังเด็กนะร็อก วันหนึ่งเราอาจเจอคนที่ใช่ และหากเราคบกันไปจริงๆ วันหนึ่งถ้ามันไม่ใช่อีกต่อไปขึ้นมา คิดว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหรอ ที่สำคัญอัยไม่แน่ใจว่าจะรักร็อกมากกว่าเพื่อนได้หรือเปล่า เราไม่อยากให้ความหวังร็อก คือเราไม่อยากให้เราคบกันเพราะว่าเรามีเซ็กซ์กันแล้ว ร็อกเข้าใจไหม’
ใช่ วันนั้นเขาเข้าใจ แต่ผ่านมานับปี ความรู้สึกของเขามั่นคงขนาดนี้ ตัวอัยลินเองก็แทบไม่เคยคบหาใคร นั่นมันไม่ได้บ่งบอกว่าเธอไม่ได้สนใจใครอื่น นอกจากเขาหรอกหรือ
เขาไม่เข้าใจเธอจริงๆ ก่อนจะหยุดความคิดทั้งหมดเกี่ยวกับอัยลินไว้แค่นั้น เมื่อได้ยินเสียงใสๆ ร้องบอก
“ไปแล้วนะ”
“อือ” ครางรับแค่นั้น มองกระทั่งร่างกลมกลึงในชุดนักศึกษาหายลับไปจากห้องพัก
เขาก็ลุกจากเตียงนอน เดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างเอื่อยเฉื่อย
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“ร็อก ลูกเป็นยังไงบ้าง” อัยลินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเป็นกังวล“ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก แต่ลูกต้องรักษาด้วยวิธีจี้คลื่นวิทยุ เพราะเป็นวิธีที่รักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ดีมาก เธอไม่ต้องกลัว การจี้คลื่นหัวใจไม่ใช่การผ่าตัด หมอจะสอดสายสวนขนาดเล็ก ผ่านทางหลอดเลือดดำหรือแดง นำทางสายสวนไปยังตำแหน่งของเซลล์หัวใจที่สร้างสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ และใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงหรือพลังงานความเย็น ในการจี้ทำลายเซลล์นั้น ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย และหมอที่ดูแลลูกเป็นหมอที่เก่งมากๆ” เขาบอกเพื่อให้เธอคลายกังวลตั้งแต่ลูกป่วย อัยลินก็หาข้อมูลเรื่องการรักษามาบ้าง การจี้คลื่นวิทยุไม่ใช่การผ่าตัด แต่คนเป็นแม่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ดี“ต่อไปนี้เรื่องลูกปล่อยให้เป็นธุระฉันแล้วกันนะ” ท้ายประโยคนั้นเขาบอกเสียงเข้ม แววตาที่มองเธอมีแววคาดโทษ“ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเรื่องลูก คือ...”“แน่นอนฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่ แต่ไว้คุยกันทีหลัง!” เขาบอกแค่นั้น แล้วหมุนกายจากไปรชตผู้เย็นชาได้กลับมาอีกครั้งอัยลินคุยโทรศัพท์กับพัทและพราวอยู่ครึ่งชั่วโมง ทั้งสองกำลังจะเดินทางมาเยี่ยมน้องเรนเธอนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเ
เรื่องของพ่อลูกชายหนุ่มทิ้งตัวบนเตียง ซึ่งห้องพักผ่อนเขาอยู่หลังห้องทำงานนั่นเอง เพิ่งประชุมกับคณะกรรมบริหารโรงพยาบาลเสร็จ ทั้งที่เขาเองก็บึ่งรถจากโรงพยาบาลที่ยังเป็นเรสสิเด้นซ์ด้านศัลยศาสตร์อยู่ชีวิตในแต่ละวันเหนื่อยแทบขาดใจ แต่หนทางสู่การเป็นศัลยแพทย์โรคหัวใจเด็กก็ยังอยู่อีกไกล แต่ก็ไม่ได้ท้อ แต่เพียงแค่อยากมีอะไรให้เยียวยาหัวใจที่เหนื่อยล้าบ้าง สักนิดก็ยังดีชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีสายเข้านับไม่ถ้วนที่เขาไม่ได้รับ แต่สายที่รอคอนั้นไม่มีเลย ทั้งที่คุยกันวันนั้นก็ผ่านมานับเดือนแล้วอัย เธอใจร้ายเกินไปแล้วนะ ใจคอจะไม่ให้ฉันเจอลูกเลยเหรอ!งั้นก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน!เขาคิดอย่างขุ่นเคืองทว่าเสียงริงโทนที่เขาตั้งไว้สำหรับใครบางคนก็ดึงขึ้น หัวใจเขากระตุก ยิ้มมุมปาก แล้วปล่อยให้เสียงนั้นดังต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งเสียงนั้นหายไปเองดังอยู่แบบนั้นสองครั้ง ครั้งที่สามเขาจึงกดรับสาย“ถ้าเธอโทร. มาช้ากว่านี้ฉันจะ...”“ร็อก ช่วยลูกด้วย ฮือๆ”“เกิดอะไรขึ้น!”“ลูกเป็นลมอีกแล้ว ฮือๆ”“ลูกใคร!”“ลูกของอัยไง และก็ลูกของร็อกด้วย!”รชตอยากให้อัยลินบอกว่าลูกของเธอนั้นเป็นลูกใคร แต่ไม่คิดว่าจะ
สามวันต่อมาขณะที่อัยลินกำลังชั่งใจว่าควรจะบอกรชตไปตรงๆ ว่าน้องเรนคือลูกชายของเขาดีหรือไม่ อีกฝ่ายก็มาปรากฎตัวในออฟฟิศของเธอในฐานะลูกค้า ที่ต้องการตกแต่งห้องพักภายในคอนโดฯ มิเนียม โดยเจาะจงมัณฑนากรที่ชื่ออัยลินเท่านั้น แม้ภาดล เจ้าของบริษัท 99 อินทีเรีย จะบอกเธอติดโปรเจกต์ของวรรณวิสาอยู่ก็ตาม“ผมรอได้ครับ บอกตรงๆ ผมติดใจการตกแต่งของคุณอัยก็จากเห็นห้องของคุณวิกกี้นี่แหละ”“อ๋อ แบบนี้นี่เอง ถ้าคุณร็อกรอให้อัยทำงานให้คุณวิกกี้เสร็จก่อนก็โอเคครับ” เพราะเรื่องอะไรจะต้องขัดใจลูกค้า ไม่ใช่ลูกค้าธรรมดาเสียด้วยสิ เพราะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของวรรณวิสา“ครับไม่มีปัญหา”แต่คนที่มีปัญหาคืออัยลิน เพราะเหมือนยิ่งอยากหนีให้ไกลห่าง แต่เขาดันขยับเข้ามาใกล้ ไหนจะเรื่องลูก ไหนจะเรื่องใจที่มันหวั่นไหวกับคนที่กำลังจะแต่งงานกับคนอื่นเธอจะทำยังไงดีเมื่อเขาล่ำลากลับ อัยลินอาสาเดินมาส่งเขาถึงลานจอดรถ“ร็อกจะทำอะไร!” เธอถามสีหน้าเคร่งเครียด“ก็จะแต่งห้องพักใหม่ไง ทำไมล่ะ หรือเธอไม่อยากให้ฉันเปลี่ยนอะไรในห้องนั้น” เขาพูดพร้อมยิ้มมุมปาก“ร็อก อย่าเฉไฉได้ไหม”“โอเค ไม่เฉไฉ แต่เธอน่ะกำลังทำแบบนั้นอยู่หรือเปล่า” เขา
อย่าให้ต้องร้าย!อัยลินนั่งครุ่นคิดด้วยใจสับสนหลังกลับมาจากห้องพักของวรรณวิสา ส่วนลูกชายนั้นหลังจากทำการบ้านเสร็จ เจ้าตัวกำลังนั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรด“เป็นอะไรทำหน้าเครียด” พราวที่เพิ่งออกมาจากห้องนอนตนเองเดินมานั่งข้างๆ อัยลินอัยลินยังนิ่งเงียบ เพราะไม่แน่ใจว่าควรบอกเพื่อนหรือเปล่า“น่า มีอะไรก็บอกมาเหอะ หรือได้แก้งาน แต่ไม่น่าจะเป็นงั้น เพราะอีกแค่สิบเปอร์เซ็นงานก็เสร็จแล้ว หรือว่าที่เจ้าบ่าวเขาไม่พอใจการตกแต่งห้องหอ” พราวไม่กล้าเอ่ยชื่อว่าที่เจ้าบ่าวคนนั้นตรงๆ กลัวกระทบใจอัยลิน“ไม่ใช่”“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ”“ก็...” สุดท้ายก็ต้องเล่า เพราะทนความคาดคั้นของพราวไม่ไหว อีกอย่างเธอก็ต้องการคำปรึกษา“โอ๊ย ถึงขั้นที่เขารู้ว่าน้องเรนไม่ใช่ลูกพี่พัท ก็คงต้องบอกความจริงเขาแล้วไหม”“แต่ว่าเขากำลังจะแต่งงานนะ ถ้าบอกไป มันอาจทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า”“ทำไม แกคิดว่าหากเขารู้ว่าแกมีลูกกับเขา เขาจะเลิกกับคุณวิกกี้มาอยู่กับแกเหรอ”“เปล่า ฉันไม่คิดแบบนั้น” คนอย่างรชต ไม่ใช่คนจะหวนกลับมางอนง้อคนที่ทำให้เจ็บปวดมาก่อน“แล้วคิดแบบไหน”“ถ้าบอกเขา คุณวิกกี้ก็น่าจะรู้ คิดดูสิผู้หญิง
รชตรอจังหวะที่จะเข้าไปคุยกับอัยลิน กระทั่งเห็นวรรณวิสาเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง เขาจึงเดินเข้าไปหา อัยลินซึ่งกำลังคุยกับคนงานคนหนึ่ง ส่วนอีกห้าคนกำลังยุ่งกับงานตนเองรชตยืนอยู่ตรงประตูห้อง รอให้เธอคุยกับคนงานเสร็จ รชตพยักหน้าเรียก เธอจึงเดินมาหาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อไม่ให้การพูดคุยเป็นจุดสนใจของคนงาน“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ เลิกงานแล้วไปเจอกันที่บ้านของฉัน”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะ” อัยลินปฏิเสธทันควัน“ฉันมีเรื่องจะถามเธอจริงๆ นะ”“ถ้าเป็นเรื่องในอดีต มันไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว เผื่อร็อกยังไม่รู้ ฉันมีลูกกับพี่พัทแล้ว”“แน่ใจเหรอว่าเป็นลูกเขา”คำพูดของรชตทำให้อัยลินนิ่งงัน ทว่าแววตาหวาดหวั่นของเธอก็ทำให้จุดยิ้มมุมปาก เขารู้จักอัยลินมาตั้งแต่ยังเด็ก ปฏิกิริยาผิดปกติของเธอนั้นไม่ได้รอดพ้นสายตา“ใจคอจะไม่พาฉันไปทำความรู้จักกับลูกชายเธอหน่อยเหรอ”“ไม่จำเป็นหรอก!” เธอตอบกลับเสียงห้วน แต่หลบสายตาคาดคั้นของเขา“อัย ฉันให้อภัยเธอได้นะ ที่เธอหักอกฉัน แต่เรื่องอื่นฉันไม่แน่ใจ!”“ทำไม ร็อกจะทำอะไร!”“เธอก็รู้ ที่ผ่านมา เธอเป็นข้อยกเว้นทุกอย่าง ที่ฉันไม่เคยทำอะไรร้ายๆ ใส่ ไม่ว่าเธอจะ
“ทำไม มึงสงสัยเป็นลูกมึงเหรอ”กริชถือเป็นเพื่อนสนิทของรชตสมัยเรียนอยู่เมืองไทย กริชจึงพอจะเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับอัยลินที่มากกว่าเพื่อนสนิทธรรมดา โดยที่รชตเองก็ไม่เคยบอกรายละเอียดอะไรกับกริชหรือใคร นอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น“มึงช่วยได้ไหม”“ถ้าให้เพื่อนกูสืบจากพี่กันต์ คิดว่าไม่ได้หรอกมึง ถ้ามึงสงสัยก็น่าจะมาถามอัยดูเอง ตอนนี้มึงก็รู้แล้วนี่ว่าอัยเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่ลูกเกิด จนถึงตอนนี้ก็น่าจะยังโสดหรือเปล่าก็ไม่รู้ สวยขนาดนั้น”ประโยชน์สุดท้ายของกริชเหมือนยิ่งทำให้ใจของรชตร้อนรนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่นิ่งสงบใจมานาน ตั้งแต่กริชส่งข่าวว่าเจอพัทอุ้มเด็กคนหนึ่ง โดยมีอัยลินเด็กเคียงข้างหรือมันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องไปเผชิญหน้ากับอัยลิน แม้ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของเขาหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้อัยลินก็ยังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่หรืออัยลินหันไปมองที่ทางเข้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นพร้อมเสียงพูดคุย เธอคิดว่าเจ้าของห้องเพนท์เฮ้าส์หรูชั้นสูงสุดของตึก คงมาพร้อมกับเลขาเช่นทุกครั้งที่มาดูความคืบหน้าการตกแต่งภายในห้องพัก ซึ่งอีกไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ก็จะ
Komen