Share

บทที่ 8 บุกหอหมื่นบุปผา (2)

last update Last Updated: 2025-11-20 11:14:19


สวีอี้ฝานถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นว่าสวีชางหมิงไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มีรอยฟกช้ำบางจุดเท่านั้น

"เกาถังพาหมิงหมิงออกไป"

"พี่สาว ข้าไม่ไป" ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาจะให้เขาทอดทิ้งนางได้อย่างไรกัน

"เกาถัง ข้าสั่งไม่ได้ยินหรือ" สวีอี้ฝานเอ่ยเสียงเข้มขึ้น เกาถังจึงจำใจต้องเดินเข้ามาพยุงร่างสูงของเจ้านายหนุ่มออกไปข้างนอก แม้ว่าสวีชางหมิงจะพยายามขัดขืนสักเพียงใด แต่เพราะเขาบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถสู้แรงของเกาถังได้

"หลิงหลิงไปหลบอยู่หลังประตู หากข้าไม่สั่งไม่ต้องออกมา"

"ฮูหยินเจ้าคะ..."

"ไปสิ! หาไม่ข้าจะโกรธนะ" สวีอี้ฝานงัดไม้ตายออกมาใช้ ถึงแม้ว่านางจะขู่ว่าจะสั่งโบยหลิงหลิง แต่หลิงหลิงก็ไม่ยอมไปเป็นแน่ เพราะสิ่งที่หลิงหลิงกลัวที่สุดก็คือกลัวนางโกรธต่างหาก

หลิงหลิงได้ยินเช่นนั้นก็ขัดใจเจ้านายไม่ได้ จำต้องเดินไปหลบอยู่หลังประตูตามคำสั่ง

"แม่นางคนงามจะทำอะไรหรือ สั่งให้ทุกคนออกไปแบบนั้นไม่กลัวพวกข้าหรืออย่างไร" ชายคนที่สามกล่าวด้วยน้ำเสียงยียวน กวาดตามองร่างบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สตรีผู้นี้งดงามไปทุกสัดส่วนเลยจริงๆ

สวีอี้ฝานแค่นเสียงเหอะออกมาเบาๆ มือบางยกมือขึ้นกอดอก จดจ้องไปยังชายร่างหนาทั้งสามคนพร้อมยิงคำถามว่า

"ผู้ใดเป็นคนตีน้องชายข้า"



สวีชางหมิงมองไปทางประตูด้วยความว้าวุ่นใจ นึกเป็นห่วงคนเป็นพี่ที่อยู่ข้างในไม่น้อย สวีอี้ฝานเป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆคนหนึ่ง นางจะสามารถสู้ชายร่างใหญ่ทั้งสามคนได้อย่างไรกัน แม้กระทั่งเขาเองยังสะบักสะบอมไม่เป็นท่า ชายสามคนนั้นมือเท้าหนักมิใช่น้อย เล่นเอาเขาเจ็บปวดไปทั่วทั้งกาย

"เกาถังปล่อยข้า ข้าจะเข้าไปช่วยพี่สาว"

"มิได้ขอรับคุณชาย หากบ่าวปล่อยให้คุณชายเข้าไปข้างใน เปาฮูหยินจะต้องตำหนิบ่าวเป็นแน่" สีหน้าเกาถังจืดเจื่อน เขาเองก็จนใจเช่นกัน แม้จะเป็นห่วงเจ้านายสาวแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง

"ได้ หากเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าเข้าไปช่วยพี่สาว เจ้าก็ต้องเข้าไปช่วยนางแทน" สวีชางหมิงดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเกาถัง จากนั้นก้าวถอยหลังและยกเท้าขึ้นถีบบั้นท้ายของเกาถังอย่างแรงจนเขาเซถลาล้มลงไปข้างหน้า

โครม!

เกาถังรีบลุกขึ้นพรวดด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างของชายทั้งสามคนกระเด็นกระดอนออกมาจากประตูไม้จนมันพังไม่เป็นท่า ท่ามกลางสายตาของชาวเมืองที่พากันยืนมุงดูพลางซุบซิบนินทากันด้วยความสนใจ

"คะ คุณชายพวกข้าผิดไปแล้ว อภัยให้พวกข้าด้วยเถิด" ชายทั้งสามรีบคลานเข่าเข้ามากอดขาของสวีชางหมิงเอาไว้ กล่าวคำขอโทษขอโพยทั้งน้ำตา ในขณะที่ใบหน้าของสวีชางหมิงเต็มไปด้วยความงุนงงอย่างไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก

"ว่าอย่างไร หมิงหมิงของพี่จะยอมให้อภัยพวกมันหรือไม่" สวีอี้ฝานก้าวเดินออกมาจากทางด้านในๆสภาพที่ไม่ต่างจากตอนเข้าไปนัก

สวีชางหมิงก้มลงมองคนที่กอดขาของเขาไว้สลับกับคนเป็นพี่อย่างอึ้งๆ ในขณะที่บุรุษร่างหนาน่ากลัวพวกนี้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ใบหน้าฟกช้ำจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ แต่พี่สาวของเขายังคงเหมือนเดิมไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บแต่อย่างใด

"เอ่อ ให้อภัยก็ได้ขอรับ" เขาตอบเพราะความสงสาร ชายทั้งสามคนนี้อาการหนักมากกว่าเขานัก หากเขาไม่ให้อภัย สวีอี้ฝานคงเอาชายพวกนี้ตายแน่

"ดี! แต่ข้าไม่ให้อภัย!" สวีอี้ฝานก้าวฉั่บๆเข้ามากระชากคอเสื้อของชายหัวโจกขึ้น มันร้องไห้อย่างหวาดกลัว ยกมือขึ้นไหว้นางปลกๆ ก่อนที่จะถูกเหวี่ยงลงไปกองกับพื้นแทบเท้าของเกาถัง

"เกาถังรอช้าอันใดอยู่ รีบจับตัวพวกมันส่งไปให้ทางการได้แล้ว"

"ขะ ขอรับฮูหยิน"

"ส่วนเจ้ามานี่เลย" สวีอี้ฝานเดินเข้ามาใกล้น้องชาย สวีชางหมิงเห็นเช่นนั้นจึงผงะถอยหลังตั้งท่าจะวิ่งหนี ทว่าเขาช้ากว่าสวีอี้ฝานไปหนึ่งก้าว มือบางคว้าหมั่บไปที่ใบหูของเขากึ่งลากกึ่งจูงให้เดินตามไปขึ้นรถม้า ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความเจ็บของชายหนุ่ม

หารู้ไม่ว่าทุกการกระทำของนางล้วนอยู่ในสายตาของใครบางคนมาโดยตลอด

"นางเป็นผู้ใดกัน" หวางจื่อชางมองตามแผ่นหลังบางที่เดินขึ้นรถม้าคันใหญ่ไปพร้อมกับน้องชายด้วยความสนใจ

"นางคือเปาฮูหยินพ่ะย่ะค่ะ" ฉางชินตอบ

"เปาฮูหยิน? เจ้าหมายความว่านางคือบุตรสาวสกุลสวีคนที่เสด็จพ่อมอบสมรสพระราชทานให้กับแม่ทัพเปาอี้ส่วงน่ะหรือ" ยามที่เอ่ยถึงเปาอี้ส่วง ดวงตาคู่คมวาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายเดือน แต่เขาไม่เคยลืมว่าชายผู้นั้นคือคนที่ทำให้มู่ฝานต้องตาย!

"ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

หวางจื่อชางเม้มริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆคลายออก แววตาอ่อนโยนยามมองไปยังรถม้าคันใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป

สตรีผู้นั้นทำให้เขาคิดถึงใครบางคนที่จากไปอย่างสุดหัวใจโดยไม่ทราบสาเหตุ

"ไม่ช้าหรือเร็วเราต้องได้พบกันอีกเปาฮูหยิน" เอ่ยพึมพำเสียงเบาจากนั้นจึงกระโดดขึ้นหลังม้าควบจากไปอย่างรวดเร็ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (2)

    "ฝานฝานข้าหิวแล้วรีบไปกินข้าวกันเถิด" เขากล่าวเสียงสั่นก่อนรีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้อง สวีอี้ฝานทำหน้ามุ่ยอย่างไม่เข้าใจนัก เขาไม่ต้องการนางแล้วหรือ ไยถึงทำท่าทางรังเกียจไม่อยากแตะต้องตัวนางเช่นนั้นเล่าทว่านางยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สวีอี้ฝานรีบก้าวยาวๆตามสามี จับมือหนาของเขาเอาไว้และเดินไปตรงระเบียงหน้าหอนอนที่มีโต๊ะกลมวางอยู่ บนโต๊ะถูกจุดด้วยเทียนเล่มเล็กให้ความสว่างไสวอย่างสลัวๆ ที่ตรงนี้บรรยากาศดีสามารถมองเห็นวิวของสวนอุทยานในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน"ท่านพี่นั่งก่อนเจ้าค่ะ" หญิงสาวผายมือให้เขาอย่างเชื้อเชิญ เมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งลงแล้ว นางจึงเดินกรีดกรายไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่า" เปาอี้ส่วงถามด้วยความสงสัย มองบรรยากาศรอบกายด้วยความสับสน วันนี้หาใช่วันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงานของเขาและนาง เหตุใดนางถึงทำเหมือนว่าวันนี้มันเป็นวันพิเศษ"ถ้าไม่ใช่วันพิเศษข้าจะกินข้าวกับท่านพี่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หรือเจ้าคะ" มือบางเท้าคางจดจ้องไปยังคนตัวโตตาแป๋ว ท่าทางน่ารักน่าชังจนทำให้คนมองใจสั่นสะท้าน"แน่นอนว่าย่อมได้ ฝานฝานก็รู้ว่าข้าตามใจเจ้าเสมอ" ชายหนุ่มเ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (1)

    หลายเดือนต่อมาสวีอี้ฝานได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดแก่เปาอี้ส่วง สร้างความปีติยินดีให้แก่คนสกุลเปาและคนสกุลสวีอย่างมาก เจ็ดวันหลังจากที่เจ้าก้อนแป้งคลอด สวีอี้ฝานก็ได้รับของขวัญที่ถูกส่งมาจากหวางจื่อชางอ๋อง นับตั้งแต่ที่เขาจากไปท่องยุทธภพ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย เปาอี้ส่วงจัดการเปิดห่อของขวัญอย่างระมัดระวังพบว่ามันคือป้ายหยกสลักลวดลายมงคลหาใช่สิ่งของที่ใช้เกี้ยวสตรีอย่างที่เขานึกกลัวจึงค่อยโล่งใจไปบ้าง แม้ตัวของหวางจื่อชางอ๋องจะจากไป แต่เปาอี้ส่วงรู้ว่าอย่างไรเสียคนผู้นั้นไม่มีทางตัดใจจากสวีอี้ฝานได้โดยง่าย เขาจึงยังมีความหวาดระแวงเกรงว่าหวางจื่อชางอ๋องจะกลับมาแย่งชิงสวีอี้ฝานไปจากเขาอยู่ ยามนี้เจ้าเด็กแฝดทั้งสองคนอายุได้หนึ่งหนาวแล้ว เป็นเด็กอ้วนท้วนรูปร่างแข็งแรง พวกเขามีชื่อว่าเปาอี้เฉิงและเปาอี้หาน ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการทางด้านหน้าตาทำให้ได้รู้ว่าเด็กๆทั้งสองคนถอดแบบจากคนเป็นพ่อแม่มาคนละครึ่ง ดูเป็นความแตกต่างที่สร้างสรรค์กันอย่างลงตัว คนที่ดูจะดีใจพอๆกับเปาอี้ส่วงที่เจ้าก้อนแป้งทั้งสองได้ถือกำเนิดขึ้นดูจะไม่พ้นเป็นฮูหยินผู้เฒ่า นับตั้งแต่ตอนที่เด็กๆเกิดมาจนถึงตอนนี้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (2)

    "ว้าย! ฝานฝานขึ้นไปทำอะไรบนนั้นรีบลงมาเถิด เดี๋ยวจะตกลงมานะ อันตรายจริงๆ!""ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านย่า แต่ก่อนข้าเคยขึ้นไปสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ" หญิงสาวตอบอย่างไม่สะทกสะท้านกับท่าทีตกใจของจางเข่อซินยามนี้ความสัมพันธ์ของคนสกุลสวีกับฮูหยินผู้เฒ่าดีขึ้นมาก นับว่าเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่ายามนี้สวีอี้ฝานกำลังตั้งครรภ์ นางรู้สึกดีใจจนร้องไห้ออกมา หากเจ้าก้อนแป้งเกิด นางก็จะกลายเป็นท่านทวด เมื่อนึกถึงเจ้าก้อนกลมที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของคนสกุลเปาส่วนหนึ่งก็ยิ่งรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ นางมักจะสรรหาของกินอร่อยๆหรือยาบำรุงชั้นเลิศมาให้สวีอี้ฝานอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยินดียิ่งกว่าคนเป็นแม่อย่างนางเสียอีก"ตายแล้ว! หนิงเชา ข้าจะทำอย่างไรดี หากฝานฝานตกลงมาหลานข้าคงไม่รอดแน่ โอย" ร่างบางของจางเข่อซินถึงกับซวนเซทำท่าจะล้มลง ยิ่งได้เห็นตอนที่สวีอี้ฝานกระโดดขึ้นเกาะลำต้นไม้ใหญ่สลับต้นกันไปมา นางก็รู้สึกใจสั่นราวกับจะหลุดออกมานอกอก ห่วงทั้งเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในท้องและแม่ของเจ้าก้อนกลมที่ดูจะดื้อรั้นมากเหลือเกินทว่าเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวก็มีสายลมพัดวูบผ่าน

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (1)

    ยามนี้สวีอี้ฝานตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องกลมนูนขยายใหญ่ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ตอนที่ส่องกระจกทองเหลืองนางได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเลยว่าการตั้งครรภ์ช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากแล้ว เวลาจะเดิน นั่งหรือนอนก็ไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ดีแต่ว่าเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการแพ้ท้องที่มีค่อยๆทุเลาลงไปมากแล้ว จากเดิมที่มักจะคลื่นเหียนเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร แต่ตอนนี้นางกลับเจริญอาหารมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เปาอี้ส่วงจึงสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย ทุกๆวันสวีอี้ฝานจึงได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่จวนสกุลเปาอย่างเบื่อหน่าย ยังดีที่ว่าหลี่อ้ายซีผู้เป็นมารดากับสวีหยางโปผู้เป็นบิดามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ "ฮูหยินเจ้าขา ผลไม้มาแล้วเจ้าค่ะ" หลิงหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในมือถือถาดใส่อาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลม สวีอี้ฝานที่นอนเล่นอยู่บนเตียงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น "หลิงหลิงเอามาให้ข้าที่เตียง" นางเอ่ย หลิงหลิงจึงรีบยกมาให้ตามคำบอก ร่างบางกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง บนตักวางถาดใส่ผลไม้พลางหยิบมันเข้าปาก ทว่ากินไปได้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทส่งท้าย

    ระหว่างที่สวีอี้ฝานกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด ประตูห้องที่ปิดสนิทลงในตอนแรกก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของเปาอี้ส่วงก้าวเข้ามาร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดขาวของหิมะ"ทุกคนมาทำอะไรที่ห้องของข้าขอรับ" ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปหาภรรยา เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนาง หัวใจของเขาราวถูกบีบรัดอย่างรุนแรง"ฝานฝานเป็นอะไรไป ใครรังแกเจ้า" เขาถามพลางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่ากับหนิงเชา"ข้าเปล่านะ" จางเข่อซินรีบส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับหนิงเชาเดินออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสวีอี้ฝานปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ มองสามีอย่างงอนๆ เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพลางส่งสายตามองสำรวจทั่วตัว"ท่านพี่ท่องยุทธภพกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ""ท่องยุทธภพอะไรกัน" คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากัน เปาอี้ส่วงถามด้วยความไม่เข้าใจ"ท่านพี่หนีข้ามาจากจวนสกุลสวีเพราะจะออกไปท่องยุทธภพมิใช่หรือเจ้าคะ""ใครบอกเจ้ากัน""หมิงหมิงบอกเจ้าค่ะ"เปาอี้ส่วงได้ยินเช่นนั้น เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความขบขัน เขาบอกสวีชางหมิงว่าจะไปส่งหวางจื่อชางอ๋องไปท่องเที่ยวทั่วยุทธภพต่างหากไ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 34 จะกินเต้าหู้หรือกินข้า​ (2)

    หญิงสาวรับแผ่นกระดาษใบเล็กมาจากสาวใช้ก่อนจะเปิดคลี่ออกอ่าน เนื้อความในจดหมายเปาอี้ส่วงเขียนถึงนางไว้ว่า'ฝานฝาน เจ้าคงเกลียดและผิดหวังในตัวข้ามากที่ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ทว่าข้ารู้ว่าต่อให้ข้ากล่าวคำขอโทษซ้ำๆเจ้าก็คงยากที่จะให้อภัยข้า เดิมทีข้าคิดว่าหากข้าง้องอนเจ้า เจ้าคงจะให้อภัยข้าได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าคิดผิด ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้ารำคาญ ต่อจากนี้ไปข้าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก'สวีอวี้ฝานขมวดคิ้วมุ่น "คนบ้า! ข้ารำคาญท่านเสียที่ไหนกัน แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือว่าข้าแกล้งทำเพราะอยากทดสอบความอดทนของท่านเท่านั้น"หญิงสาวรู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เปาอี้ส่วงถอดใจจากนางอย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นถ้อยคำทิ้งท้ายที่เขาเขียนไว้ในจดหมาย จากความรู้สึกผิดหวังน้อยใจก็เปลี่ยนเป็นตกใจทันที'เจ้าจะอยู่ในความทรงจำของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสวีอี้ฝานหรือมู่ฝาน ข้าก็จะรักเจ้าตลอดไป'สวีอี้ฝานรู้สึกใจหายวาบ นิ่งอึ้งไปหลายวินาที จ้องข้อความในจดหมายตาไม่กะพริบ ทางฝ่ายหลิงหลิงเห็นเจ้านายเงียบไปนางก็รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าใดนัก นางสงสารฮูหยินเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่เข้าใจท่านแม่ทัพเปาว่าเหตุใดเขาถึงทอดทิ้งฮู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status