อันชิงเหมยลุกออกไปทันที เสิ่นหว่านอี้รีบตามไป อันซูหลุนเห็นแก่ที่เสิ่นหว่านอี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ จึงยอมให้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะเป็นอย่างไรต่อไปก็สุดแล้วแต่ลูกสาวของเขา และเขาเคารพการตัดสินใจของนางทุกอย่าง
" เหมยเอ๋อ "
" ตามมาทำไม ทำไมยังไม่กลับไปอีก "
" เจ้าอยากให้พี่ทำยังไง บอกพี่มาสิ พี่จะทำทุกอย่าง ขอเพียงเจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม "
" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีวันเหมือนเดิม "
เสิ่นหว่านอี้จะกุมมือนางแต่นางเบี่ยงหลบขยับถอยหลังไป2-3ก้าว เขามองเข้าไปในตาของนาง มันช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาหายใจไม่ออก
" เหมยเอ๋อ ทำไมไม่เรียกพี่เหมือนเดิม ทำไมต้องทำเหินห่างเย็นชากับพี่ด้วย "
" ข้ามิบังอาจเรียกท่านรองแม่ทัพอย่างสนิทสนมได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ากับท่านเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คำๆนั้นท่านมีคนเรียกอยู่แล้ว กลับไปดูแลภรรยาของท่านเถอะ ข้าขอตัว"
เสิ่นหว่านอี้คว้าแขนของนางเอาไว้ นางสะบัดออก หันมามองเขานัยตาแดงกร่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม
" ข้าหวังว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ท่านไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ไร้วาสนาเคียงคู่กับท่านเอง "
" ข้าไม่เข้าใจ ทำไม เพราะข้ามีภรรยาเพิ่มอีกคน เจ้าถึงกับต้องตัดขาดข้าเลยเหรอ เจ้าจะให้ข้าทำยังไง นางมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า นางช่วยข้าถอนพิษ โดยไม่ห่วงชื่อเสียงของนาง นางไม่ต้องการให้ข้ารับผิดชอบด้วยซ้ำ แต่บิดาของนางรู้เรื่อง ทำให้นางกับข้าต้องแต่งงานกันกะทันหัน "
" ท่านกับนางแต่งงานกันแล้ว "
เสิ่นหว่านอี้พึ่งนึกได้ว่าเขาหลุดปากเรื่องแต่งงานกับหยางซือหรูไป ก็หน้าซีดขึ้นมาเขาตั้งใจมาง้อนาง นางรู้ความจริงเรื่องนี้คงไม่ยอมให้อภัยเขาแน่
เขาบอกว่าเขากับหยางซือหรูแต่งงานกันแล้ว แต่งงานกันแล้วเป็นสามีภรรยากันแล้ว แล้วนางหล่ะ บอกจะให้นางเป็นฮูหยินเอก แต่กลับแต่งกับหยางซือหรูไปแล้วเนี่ยนะ
" ข้าเป็นสตรีใจคอคับแคบ ไม่คู่ควรกับท่านรองแม่ทัพหรอก "
เสิ่นหว่านอี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ บ่งบอกว่ากำลังสะกดกลั้นอารมณ์สุดๆ
" ข้าจะให้นางอยู่ในส่วนของนาง ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับเจ้า ข้าจะปลูกเรือนให้นางอยู่ต่างหาก ส่วนเจ้าจะอยู่ที่เรือนใหญ่กับข้า และถึงข้าจะแต่งงานกับซือหรูมาก่อนแล้ว แต่ข้าก็บอกนางตั้งแต่วันนั้น ว่านางมีฐานะเป็นแค่ฮูหยินรองเท่านั้น นางเองก็รับปากว่าจะอยู่อย่างเจียมตัว "
" ข้าสัญญา ว่านอกจากนางแล้วจะไม่มีใครอีก กลับไปเป็นเหมือนเดิม ไปเป็นฮูหยินเอกของพี่นะ "
เสิ่นหว่านอี้จะเข้าไปกอดอันชิงเหมย แต่นางเบี่ยงตัวหลบ มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
" ข้าเคยบอกท่านไปแล้ว ว่าข้าไม่อาจใช้สามีร่วมกับผู้อื่นได้ จริงอยู่บุรุษมากภรรยาเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับข้า ข้าไม่ยอมรับ ท่านเคยให้สัญญากับข้าว่าจะมีข้าแค่คนเดียว แต่ท่านก็ผิดสัญญา ข้าก็ลืมคิดไปว่าลมปากของบุรุษมันเชื่อถือไม่ได้ "
" พี่ พี่ขอโทษ " เสิ่นหว่านอี้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอด้วยความยากลำบาก เขาผิดเองทั้งที่สัญญากับนางว่าจะมีนางแค่คนเดียว แต่เขาก็ทำไม่ได้ เขาทำให้นางต้องผิดหวัง เขาไม่รู้ต้องทำยังไงให้นางหายโกรธ ให้นางกลับมาเป็นเหมือนเดิม
" ข้ายอมรับว่าข้าเป็นสตรีเห็นแก่ตัว แต่ข้าไม่อาจทำใจใช้แท่งหยกเดียวกันกับสตรีอื่นได้จริงๆ แท่งหยกนั่นจะต้องใช้สัมผัสข้าเพียงผู้เดียว แต่ท่านกลับเอาไปทิ่มแทงสตรีอื่นแล้ว ข้าขยะแขยงยิ่งนัก "
อันชิงเหมยเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เสิ่นหว่านอี้ยังยืนนิ่งอยู่แบบนั้น เขาก้มลงมองกลางกาย นางหาว่าเขาสกปรกนางรังเกียจเขา เขาต้องทำยังไง จะให้เขาย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้
หยางซือหรูตื่นขึ้นมาไม่เจอเสิ่นหว่านอี้ นางก็โมโห คิดว่าเขาต้องไปตามง้องอนอันชิงเหมยแน่
" คุณหนู "
หยางซื้อหรูหันขวับนัยตากรุ่นโกรธ เมื่อสาวใช้คนสนิทเรียกนางว่าคุณหนูแทนที่จะเรียกฮูหยิน
" เอ่อ ฮูหยิน รองแม่ทัพกลับมาแล้วเจ้าค่ะ "
หยางซือหรูได้ยินแบบนั้นก็รีบออกจากห้องไป
" มานั่งสิ ซือหรู "
เสิ่นเย่วชิงเรียกให้มานั่งใกล้ๆนาง
" กินข้าวกันก่อนมีอะไรไว้ค่อยคุยกันทีหลัง"
หยางซือหรู คีบอาหารใส่ถ้วยข้าวเอาใจเสิ่นหว่านอี้ เสิ่นหว่านอี้ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดจา สักพักก็อิ่มแล้วลุกขึ้นจากไป
ตอนเย็นเสิ่นหว่านอี้กลับมาจากวังหลวงก็ดื่มเหล้าอยู่หน้าจวนกับคนสนิท และบ่าวชายอีก3คน
" หว่านอี้ พอแล้วตั้งแต่กลับมาหลายชั่วยามเจ้าก็เอาแต่ดื่มเหล้าไม่หยุด มานี่มาคุยกับแม่หน่อย "
เสิ่นเย่วชิงลากตัวบุตรชายออกมาจากวงเหล้า
" ข้าไม่ไป๊ ท่านแม่ ท่านจากลากข้าไปหนาย
"
" เป็นเพราะเหมยเอ๋อใช่ใหม เจ้าถึงได้ดื่มเหล้าหนักขนาดนี้ "
เมื่อพูดถึงอันชิงเหมยเขาก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาเขาไปหานางทุกวัน แต่นางก็หลบหน้าไม่ยอมพบเขา
" นางก็กระไร ใจคอคับแคบนัก จะมีบุรุษใดมีภรรยาคนเดียวกันเล่า ถ้านางเฝ้ารอบุรุษที่จะมีนางคนเดียว นางคงต้องรอชาติหน้าแล้วหล่ะ "
เสิ่นหว่านอี้มองหน้ามารดา นางบอกว่าไม่มีบุรุษที่มีภรรยาเดียว ทำไมจะไม่มี ในเมืองหลวงนี่ก็มีคนหนึ่งแหละ แม่ทัพอันพ่อของอันชิงเหมย
" ในเมื่อเหมยเอ๋อถอนหมั้นเจ้าแล้ว นางตัดเจ้าไปแล้ว เจ้าก็ควรเลิกสนใจนางแล้วหันกลับมามองซือหรู นางเป็นภรรยาของเจ้า เจ้าควรใส่ใจนางให้มากกว่านี้ "
" อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานเลี้ยง พรุ่งนี้เจ้าก็พาซือหรูไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับ ยังไงนางก็เป็นภรรยาของเจ้า งานเลี้ยงคืนนั้นเจ้าต้องพานางไปออกงานในฐานะฮูหยิน "
" ข้าแค่อยากบอกว่านิสัยของท่านอ๋อง เรื่องส่วนตัวของเขา แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังบังคับเขาไม่ได้ ในเมื่อคุณหนูฝูบอกว่าท่านแต่งงานกับท่านอ๋องแล้ว ก็แสดงว่าท่านอ๋องรักท่านถึงได้เลือกท่าน ฉะนั้น ต่อให้มีสตรีอื่นอีกนับพันหรือจะงดงามราวเทพธิดาเขาก็ไม่สนใจ ส่วนเรื่องของข้า เขาก็แค่รู้สึกผิดที่เคยนอกใจข้า ก็เลยอยากขอโทษข้าก็แค่นั้นพวกท่านไม่ต้องกังวล คนอย่างข้าอันชิงเหมย เลิกแล้วก็คือเลิก ไม่นิยมกลับไปกินของเก่า"อันชิงเหมยพูดจบก็ยกเหล้าบ๊วยในจอกขึ้นดื่มก่อนจะเดินออกไป ตงฟางเห็นสวี่หานเดินมาทางนี้เลยรีบเดินไปจับแขนอันชิงเหมยยื้อยุด" จะทำอะไร ปล่อยข้า"ตงฟางบีบแผลที่มือของอันชิงเหมยอย่างแรงจนเลือดซึม อันชิงเหมยก็ไม่ยอมบีบแขนของตงฟางที่เป็นเเผลเช่นกัน ยื้อยุดกันไปมาตู้มมมม ตกลงไปในน้ำทั้งคู่ " ช่วยด้วย ช่วยด้วย ฟางเอ๋อตกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที"สวี่หานที่เดินมากับฝูชิงเย่ว ตกลงกันว่าจะเล่นหมากล้อมแต่ขอไปชวนฝูอี้หนิวก่อน พอฝูชิงเย่วเข้าไปในเรือนของฝูอี้หนิวเขาก็ได้ยินเสียงร้องเรียกให้ช่วย จึงวิ่งตามเสียงไปเห็นฝูฮูหยินยืนอยู่ริมสระน้ำร้องเรียกให้ช่วยด้วย เขามองซ้ายขวาบ่าวรับใช้ไปไหนกันหมด" ช่วยด้วย ท่านอ
" ข้าว่าตอนนี้ให้พวกนางไปทำแผลกันก่อนดีกว่า เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที"" เจ้า ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่"ฝูซือฟานชี้หน้าหวังเหลียน เฉาซื่อไม่พอใจกำลังจะเดินเข้าไปจัดการ แต่ช้ากว่าหม่าอี้หยวนที่กระโดดถีบฝูซือฟานจนกระเด็น ทุกคนต่างตกใจที่เห็น ไม่คิดว่ากุนซือหม่าอี้หยวนที่สุขุมใจเย็นจะทำเช่นนี้ เพียงเพื่อปกป้องสาวใช้คนหนึ่ง" โทษที เท้าข้ามันไวไปหน่อย ไม่รู้เมื่อกี้อะไรมาเกะกะเท้าข้า ข้ารำคาญก็เลยสะบัดเท้าแรงไปนิดนึง เจ้าไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม "พูดจบก็แสยะยิ้มแล้วดึงแขนหวังเหลียนออกไป อันเฟยเทียนก็ยิ้มเยาะเย้ยแล้วจูงมืออันชิงเหมยไปเช่นกันฝูอี้หนิวมองตามแล้วพูดขึ้น" ข้าว่าหม่าอี้หยวนกับสาวใช้คนนั้นความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาแน่ พึ่งจะรู้ว่าคนอย่างเขาก็หวงของรักไม่ต่างกับอันเฟยเทียนเหมือนกัน"" เขาเป็นสหายสนิทกัน แทบจะตัวติดกันตลอดเวลา เรื่องนิสัยใจคอย่อมคล้ายกันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่หนักเท่าอันเฟยเทียน ข้าขอเตือนพวกเจ้าอย่าทำอะไรอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูอัน รวมทั้งสาวใช้คนนั้นพวกเจ้ามีจุดจบไม่สวยแน่"ฝูชิงเย่วพูดกับฝูอี้หนิว ก่อนจะหันไปบอกตงฟางกับสาวใช้ทั้งสองและฝูซือฟานหมอเดินออกไป ฝูกุ้ยอิงก็เข้าม
ตงฟางเดินมาถึงเรือนตะวันออก เสียงสนทนาที่ดังออกมาทำให้นางหยุดชะงัก" เจ้าว่าท่านอ๋องจะง้อพระชายาสำเร็จไหม"" เฮ้ย อย่าไปเรียกแบบนั้นให้แม่ทัพอันเฟยเทียนได้ยินนะ รายนั้นหน่ะยิ่งขึ้นชื่อเรื่องหวงน้องสาวยังกะอะไรดี นางกับท่านอ๋องหย่ากันนานแล้ว"" ข้าว่าท่านอ๋องต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้นางกลับมา เห็นว่าเมื่อคืนก็บุกไปหานางที่เรือนเหลียนฮวา แต่ถูกแม่ทัพอันไล่ออกมา"" นางงดงามน่าหลงใหลถึงเพียงนั้น เป็นข้าข้าก็ไม่ยอมปล่อยนางไปหรอก ยังไงก็ต้องง้อนางคืนมาให้ได้"" ดูก็รู้ว่าท่านอ๋องรักนางมากไม่อย่างงั้นคงไม่ไปขอพระราชทานสมรสด้วยตัวเองหรอก ตอนที่นางจากไปพวกเจ้าไม่เห็นรึว่าท่านอ๋องตามหานางอย่างบ้าคลั่ง ผ่านไปเป็นปียังไม่ยอมหยุดตามหานาง จนตรอมใจล้มป่วย "" แต่ว่าที่นางไปจากท่านอ๋องครั้งนั้น ใครๆก็พูดกันว่านางไปกับรองแม่ทัพเซี่ย ยังพูดกันว่านางกับรองแม่ทัพเซี่ยมีความสัมพันธ์กัน เรื่องนี้ท่านอ๋องก็รู้"" แล้วยังไง ในเมื่อตอนนี้รองแม่ทัพเซี่ยก็ตายไปแล้ว ยังไงท่านอ๋องก็ไม่สนหรอก"" ใช่ๆ ข้าว่านะถ้ารองแม่ทัพเซี่ยยังอยู่ทั้งสองต้องต่อสู้กันแย่งชิงนางกันแน่ๆ"" ท่านอ๋องไปไหนพวกเจ้าเห็นไหม"" ท่านอ๋องออกไ
อันชิงเหมยลุกจากเตียงไปจุดเทียน สวี่หานเดินเข้าไปโอบกอดนาง นางพยายามดิ้นแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย" ทำไม ทำไมต้องหนีข้ามา ทำไมต้องทิ้งข้าด้วย"นางสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆหยดลงมา" ท่านกับข้าเราจบกันไปตั้งนานแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรื้อฟื้น อย่าลืมว่าเราหย่ากันแล้ว"" ไม่ ข้าไม่ยอมรับ ข้ายังไม่ได้ลงชื่อในหนังสือนั่น เจ้ายังคงเป็นภรรยาของข้า"" ท่านลืมไปหรือเปล่าว่านั่นคือราชโองการถึงท่านไม่ลงชื่อ ข้อความในนั้นก็ย่อมมีผล"" ไม่ข้าไม่รับ ยังไงข้าก็ไม่รับ ราชโองการอะไรข้าไม่สนทั้งนั้น"ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง นางดิ้นรนให้เขาปล่อยแต่เขาก็ยิ่งกอดแน่น" ปล่อยข้า"" ไม่ปล่อย ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปอีก"" ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไร ท่านก็รู้ว่าข้ากับพี่เซี่ย"" ข้ารู้ว่าเจ้าก็แค่ประชดข้า เจ้าโกรธข้าเรื่องหว่านลู่ซือ แต่เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้ากับนางไม่ได้มีอะไรเลย ข้าเห็นนางเป็นเพียงสหายคนหนึ่งเท่านั้น ข้า"" พอแล้ว ข้าไม่อยากฟัง "นางไม่สนใจ ไม่อยากรับรู้เรื่องที่ผ่านมาอีกแล้ว" แล้วอีกอย่าง ข้าไม่ได้ประชด ข้ารักพี่เซี่ยถึงได้ยอมอยู่กับเขา เขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจข้า อยู่เคียงข้างข้าในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเ
ฝูกุ้ยอิงเห็นตงฟางมองอันชิงเหมย ก็คีบอาหารใส่ถ้วยข้าวให้นางบ้าง" ฟางเอ๋อ ปลานึ่งซีอิ๊วของโปรดเจ้ากินเยอะๆนะ"" ผัดปลาเปรี้ยวหวานนี่ก็น่าอร่อย ฟางเอ๋อชิมดู"ฝูซือฟานก็คีบเนื้อปลาใส่ถ้วยข้าวให้ตงฟาง" ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่ พี่สาม"เฉาซื่อมองหน้าตงฟางด้วยความสงสัย" ฟางเอ๋อทำไม"ฝูกุ้ยอิงยิ้มแย้มพูดขึ้น" คือว่าอย่างงี้ ข้าเองมีแต่บุตรชายไม่มีบุตรสาว ช่วงเวลาที่ฟางเอ๋ออยู่ที่นี่นางก็ช่างน่ารักช่างเจรจา มีนางอยู่ด้วยข้าไม่เหงาเลยพอรู้ว่าบิดามารดานางเสียชีวิตไปแล้วนางต้องอยู่ตัวคนเดียว ข้าก็อดสงสารนางไม่ได้เลยรับนางเป็นบุตรบุญธรรม เรื่องนี้ต้องขออภัยคุณชายเฉาด้วยที่ไม่ได้ขอท่านก่อน อย่างน้อยท่านก็เป็นพี่ชายของนาง""ฝูฮูหยินกับท่านเจ้าเมืองรับนางเป็นบุตรบุญธรรมถือว่าเป็นวาสนาของนาง ข้าเองยังเป็นกังวลเวลาไปทำหน้าที่ ท่านก็รู้ว่าทหารอย่างข้าชีวิตไม่แน่นอน แต่ตอนนี้เห็นนางมีที่พึ่งข้าก็สบายใจได้แล้ว"" ฮ่าฮ่าฮ่า ฟางเอ๋อนางเป็นเด็กดีน่ารัก มีนางอยู่ด้วยฮูหยินของข้ามีชีวิตชีวามากขึ้นเลยทีเดียว นางเองก็อยากมีบุตรสาวมาตั้งนานแล้ว แต่ก็มีแต่บุตรชายอยากจะตั้งท้องอีกสุขภาพนางก็ไม่ดี ได้ฟางเอ๋อมาทำให้
" ปล่อย "อันชิงเหมยพูดเสียงเย็นชา พยายามดันตัวเขาออก" อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวทหารพวกนั้นรู้นะว่าเราแอบอยู่ตรงนี้"อันเฟยเทียนโบกมือบ๊ายบายพวกทหาร เดินนวยนาดออกมา สายตาก็เหลือบไปเห็นอันชิงเหมยถูกสวี่หานกอดรัดอยู่ เขามองหาก้อนหินแล้วหยิบมันขึ้นมาดีด โป้ก โอ้ยสวี่หานปล่อยอันชิงเหมยเอามือลูบหน้าผากที่ปูดบวมขึ้นมา " เตรียมพร้อมนะ ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว"" อืม แล้วคุณหนูของข้าหล่ะ"" ไม่ต้องห่วง เฟยเทียนไม่ปล่อยให้นางเป็นอะไรหรอก "หม่าอี้หยวนกุมมือหวังเหลียนเอาไว้ มือหนาใหญ่และอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจของนาง หม่าอี้หยวนมองดูพวกทหารพากันวิ่งเอามือปิดตูด เสียงตดดัง ปู้ดป้าด แปร้ดพริบตาเดียว หน้าประตูเมืองก็โล่ง เขาหันมามองหน้าหวังเหลียนที่ขึ้นสีแดงระเรื่อก็ขมวดคิ้ว " คิดอะไรอยู่ ไปได้แล้ว"้เขาจูงมือนางรีบวิ่งออกไป อันเฟยเทียนจูงมืออันชิงเหมยวิ่งมาอีกทาง มีสวี่หานกับเฉาซื่อตามมาติดๆ เฉาซื่อกับสวี่หานรีบไปเปิดประตูเมือง ทุกคนก็พากันวิ่งหนีออกมา ทหารคนหนึ่งนั่งขี้อยู่ไม่ไกล เห็นกลุ่มคนเปิดประตูเมืองออกไปก็รีบร้องบอก" เร็วเข้ามีคนหนีออกไปแล้ว รีบตามไปเร็ว"ไม่มีเสียงตอบรับ เพราะทหารแต่ละคนต่าง