Share

บทที่ 1

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-15 15:28:08

ไซรัส เหลียวมองหญิงอ่อนเยาว์ในชุดคลุมสีเขียวเก่าคร่ำคร่า ขัดกับใบหน้าสะสวยและรูปร่างที่แม้จะคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ก็ยังพอมองออกว่าเทพเจ้าช่างเสกสรรไว้สมส่วน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแฝงตัวเข้าในฝูงชน แล้วค่อยๆ เดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

ใช่ว่าเธอไม่น่าสนใจ เธอน่าสนใจ...อย่างน้อยๆ ก็ตรึงสายตาเขาไว้ได้ ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมานาน

แต่เพราะหญิงงามมักเป็นศูนย์กลางความวุ่นวาย...และวันนี้ เขาก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเด็ดกุหลาบทะเลทรายดอกไหน แต่ดั้นด้นมาถึงใจกลางย่านร้านค้าแห่งนี้เพื่อสำรวจตรวจตราความต้องการของชาวเมือง และเฟ้นหาสินค้าที่จะช่วยให้ได้มาซึ่งเงินทองและอำนาจเจรจา การทำตัวเป็นนักล่าดอกกุหลาบ จึงดูจะเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะยอมสละเวลาในการลงหลักปักฐานแล้วเอาอนาคตที่เกี่ยวพันถึงใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่เขารัก เข้ามาเสี่ยง

“บุตรสาวเจ้ากรมการเมือง...” แม้จะเลือกเดินจากมา แต่ริมฝีปากหยักได้รูปกลับพึมพำราวกับต้องการสลักตัวตนสาวแรกแย้มนางนั้นลงในใจ

เขาเคยเจอผู้หญิงสวยๆ มามาก หลายคนสวยระดับหญิงงามในตำนาน...งามจนถึงขั้นทำให้อาณาจักรทั้งอาณาจักรต้องล่มสลาย งามถึงขั้นที่บุรุษนับหมื่นยอมหยุดลมหายใจ แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกว่าใครมีเสน่ห์ดึงดูดใจเท่าสตรีคนนี้มาก่อน

ดวงตาคู่คมเดี๋ยวอ่อนไหวเดี๋ยวแข็งแกร่งคู่นั้นก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด ทั้งยังตรึงสายตาเขาไว้ได้ตั้งแต่ยังมีฮู้ดคลุมหน้า และนัยน์ตาสีนิลที่ชวนให้รู้สึกถึงได้ทั้งเทพธิดานักรบและนางฟ้าแสนดีในบทขับลำนำคู่เดียวกันนั้น ก็ทำให้เขาไขว้เขวจากเรื่องในความสนใจได้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้แต่งกายวาบหวิวออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวนอย่างซามีร่าเลยสักนิด

กุหลาบเลือดผสม...อัยน์นา...

คนซึ่งปกติจะวางสีหน้านิ่งเฉยเผลอยกมุมปากยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าเธอยามถูกเปิดหมวกคลุมศีรษะ

เขาแน่ใจว่าก่อนหน้านั้นเธอจ้องมองซามีร่าด้วยแววตาของราชินีผู้ผ่านโลก และยิ่งจำได้ว่าต่อมาเจ้าของดวงตาสีนิลคู่นั้นก็จ้องมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าวดุจม้าพยศ ดูแข่งแกร่ง ท้าทาย กล้าได้กล้าเสีย ไม่ยอมคน แต่ในชั่วเสี้ยววินาทีที่หมวกผ้าคลุมเปิดออก ดวงตาคู่นั้นก็พลันฉายแววอ่อนโยนดั่งคนมองโลกในแง่ดี ทั้งยังดูซื่อใส ชวนให้นึกถึงเจ้าหญิงผู้เติบโตอย่างบริสุทธิ์สวยงามท่ามกลางปราสาททองคำที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้และมีสายรุ้งงดงามพาดผ่าน

เธอทำให้เขานึกถึงภาพทำนองนั้น

สตรีตาคม...ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าเป็นแบบไหนกันแน่? ไซรัสขมวดคิ้วแน่นเมื่อตระหนักว่าตอนนี้ตัวเองเอาแต่คิดเรื่องแม่กุหลาบทะเลทรายแรกแย้มดอกนั้น เขาหยุดความคิดคำนึงถึงด้วยการล้วงมือหยิบสมุดบันทึกเล่มจ้อยกับดินสอแท่งสั้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมด้านใน แล้วจดบันทึกรายการสินค้าล้ำค่า ที่เขาแน่ใจแล้วว่าเป็นสินค้าสำคัญที่จะช่วยให้เขาบรรลุวัตถุประสงค์อย่างรวดเร็ว

อัญมณี

เหล็กกล้า

และ...ผู้หญิงเชื้อสายซาเมียร์

ค้าขายผู้หญิงเป็นเรื่องของพวกทำมาหากินบนเรือนร่างคนอื่น ส่วนการค้าขายเหล็กกล้าจะต้องได้รับสัมปทานจากอาณาจักรเพื่อขอขุดสินแร่อย่างถูกกฎหมาย เหลือก็แต่การค้าอัญมณีเท่านั้น ที่น่าจะเหมาะกับเขาที่สุด

“หึ...อัญมณี” เขาวงชื่อสินค้าที่เลือก

ที่ที่หาของพวกนี้ได้ง่ายที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่อาณาจักรของพวกมนุษย์

สิ่งที่อยู่ในห้วงคิดเขาอาจจะฟังดูสุ่มเสี่ยงและน่ากลัวในสายตาพ่อค้านักเผชิญโชคทั่วไป แต่ไม่ใช่เขา

แทนที่จะหวาดหวั่น ไซรัสกลับพอใจ ที่ในที่สุด เขาก็ค้นพบอะไรบางอย่าง

เขาบรรจงเขียนเนื้อความสั้นๆ ใส่กระดาษหน้าใหม่ ก่อนฉีกมันออกมาม้วนเป็นจดหมายขนาดกระจิ๋วหลิวแล้วผิวปากเรียกนกตัวจ้อยขนสีดำสนิท “ฝากด้วยนะ” เขากระซิบสำเนียงแปลกประหลาดแล้วปล่อยนกตัวเดิมไปด้วยแววตามาดหมาย...

“จับมัน!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 8

    รถม้าสีดำสนิทเทียมม้าขาวลักษณะดีเคลื่อนผ่านประตูรั้วเหล็กดัดแสนกว้างขวาง มุ่งหน้าเข้าหาคฤหาสน์หลังเขื่อง ซึ่งซุกตัวอยู่ท่ามกลางสวนวงกตและพันธุ์ไม้ไร้ดอกอย่างเชื่องช้า ทันทีที่รถม้าเคลื่อนถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์ ไซรัสก็พบว่าเจ้าบ้านจัดให้คนรับใช้และทหารในสังกัดออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญอย่างเป็นระเบียบ ทันทีที่รถม้าจอดสนิท ลูคัสก็รีบถือกล่องของกำนัลลงจากรถม้า แล้วยืนรอไซรัสด้วยท่าทีเคารพยิ่ง “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ” ไซรัสแนะนำตัวสั้นๆ ให้ชายเครางามที่ดูคล้ายจะเป็นหัวหน้าคณะต้อนรับแขก แล้วชายคนนั้น ก็ขานชื่อเขาเสียงดังกังวาน “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ ผู้ปราดเปรื่องและกว้างขวาง” ประโยคนั้นดึงความสนใจจากแขกเหรื่อได้ทั้งงาน ไม่ทันที่คนรับใช้ชายจะนำทางไซรัสเดินเข้าข้างใน นายทหารร่างท้วมที่เคยได้รับแหวนเพชรเป็นของกำนัลก็รีบปราดเข้ามาจับมือทักทายเขาอย่างสนิทสนม “มาเสียที” เขาสวมกอดไซรัสราวกับเป็นมิตรสหายที่รักใคร่กันมานาน “ไป ไปพบท่านเจ้ากรมการคลังกับคนอื่นๆ กั

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 7

    ภายในห้องโดยสารบนรถม้า ไซรัสเคาะบัตรเชิญงานเลี้ยงที่คฤหาสน์เจ้ากรมการคลังในมือไป ภายในใจก็จินตนาการภาพงานเลี้ยงระดมทุนไป ยิ่งจินตนาการมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสงสัย ว่าคืนนี้ เขากับ ลูคัส ที่วันนี้รับบทผู้ติดตาม จะต้องอดทนเข้าสังคมชั้นสูงของเวเนเซียนานแค่ไหน พ่อค้าหนุ่มเหลียวมองผู้ติดตามที่นั่งตัวเกร็งอยู่บนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเหยียดยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแม้แต่ลูคัสที่ดูจะมีท่าทีสงบ คุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในบรรดาผู้ติดตามทั้งหมด แถมยังเข้ากันกับลูกค้าชั้นสูงได้อย่างดีเยี่ยม ยังรู้สึกอึดอัดกังวลได้ขนาดนี้ คำเล่าลือที่ว่าอาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรบ้าพิธีรีตองจนน่าเบื่อ คงเป็นเรื่องจริง“ทำใจให้สบายเถอะ ถ้าอึดอัดก็เดินเข้าไปในงานแค่พอเป็นพิธี ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็หลบออกมานั่งรอที่รถม้าก็ได้” ไซรัสบอกผู้ติดตามเรียบๆ เรียกรอยยิ้มโล่งใจให้ผุดพรายบนใบหน้าคนฟังท่ามกลางความเงียบงันในบทสนทนา รถม้าเนื้อไม้สีดำสนิท แกะสลักขอบบนและล่างตัวห้องโดยสารด้วยลวดลายคล้ายน้ำเต้า...ผลไม้จากแดนใต้เรียงซ้อนกันเป็นแถวตามแนวยาว เคลื่อนไปตามถนนปูอิฐอย่างไม่เร่งรีบ ส่งผลให้ผู้โดยสารทันได้ยินเสียงน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 6

    ไซรัสนึกภาพตามได้ไม่ยาก “แล้วเรื่องนั้นมีมูลความจริงสักกี่มากน้อย?” “ไม่มีมูลเลยสักนิด” อารีตอบโดยไม่ต้องคิด “หลังรู้ข่าวว่าผู้หญิงคนนั้นโดนเผาทั้งเป็น คงเพราะค้างคาใจ ลูคัสถึงได้ค่อยๆ เลียบๆ เคียงๆ ถามผู้คนไปทั่ว เจ้านั่นเที่ยวสืบเสาะจนรู้ว่าพยานที่มาให้การล้วนเป็นพวกละโมบโลภมาก ส่วนหลักฐานที่พวกเขาใช้ปรักปรำผู้หญิงโชคร้ายนั่นก็เป็นข้าวของที่ไม่เคยมีใครในหมู่บ้านรู้เห็นว่าเป็นของผู้หญิงคนนี้...พยานคนหนึ่งยังเคยหลุดปากพูดตอนลูคัสหลอกเลี้ยงเหล้า ว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีลาภลอย เพราะจู่ๆ ก็มีคนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าใครมาจ้างวานให้ไปให้การคดีที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...แค่ยอมไปตอบว่า ‘ใช่ขอรับ’ เท่านั้น ก็ได้ของมีค่ามากมาย” “ช่างหยาบช้าดีแท้” ไซรัสออกความเห็นเรียบๆ สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ตอนนี้มนุษย์ประนามว่าสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองดินแดนเร้นลับหลังแนวเขาเป็นปีศาจร้ายกาจจอมเจ้าเล่ห์ พอได้ยินเจ้าพูดแบบนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่ชั่วร้ายมากเล่ห์กว่ากัน” พูดแล้วไซรัสก็อดนึกถึงสภาพน่าขันของโลกนี้ไม่ได้ทั้งๆ ที่โลกนี้มีสิ่งมีชีวิตอื่นอี

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 5

    “ไม่น่าเชื่อ ว่าพวกนั้นจะยอมง่ายๆ” เสียงจากอารี เรียกให้ชายร่างสูงท่าทีภูมิฐานในห้องทำงานเรียบหรูดูกว้างขวาง ละความสนใจจากเอกสารบัญชีเขาวางปากกาหมึกซึมด้ามจับเงางาม เงยหน้ามองชายผิวสีตรงหน้า แล้วขยับริมฝีปากหยัก ดูคมคาย ถามด้วยท่าทีสงบนิ่งดั่งรูปปั้น“พวกพ่อค้าอัญมณีรายย่อยทั้งหมดตอบรับแล้วใช่ไหม”“ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านต้องการ มีสองสามรายลังเลไม่อยากเซ็นชื่อในสัญญาค้าขายกับท่านเพราะระแวงว่าวิธีการที่ท่านกำหนดให้กระจายสินค้าจะทำให้พวกเขาเสียประโยชน์ แต่พอข้าจะขอตัวกลับเท่านั้น พวกเขาก็รีบตอบรับ ยอมเซ็นสัญญาทันที”อารีตอบพลางก้าวเข้ามายื่นปึกหนังสือสัญญาให้เขา“ไม่เปิดม่านรึ?” ชายผิวสีถามพลางเหลียวมองม่านสีดำหนาทึบด้วยความประหลาดใจ “ท่านนี่ก็แปลก ฝั่งตรงข้ามมีหอนางคณิกาเลื่องชื่อ มีสาวๆ สวยๆ อยู่นับไม่ถ้วน กลับไม่ชายตาแลสักนิด พวกนางรึออกจะคอยสอดส่องมองท่านอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะซามีร่า ดูท่านางจะพึงใจท่านไม่น้อย ลือกันว่าถ้าภายในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ท่านไม่ชายตาแล นางจะงัดเอายาปลุกกำหนัดที่ช่วงนี้ซื้อขายกันลับๆ ในตลาดมืดมามอมเมาท่านทีเดียว”“ผู้หญิงมักมาพร้อมเรื่องยุ่งยาก” เจ้าของห้องต

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 4

    เสียงพิณหวานปนเศร้าดังขึ้นในวินาทีนั้นเมื่อคนเป็นนักดนตรีบรรเลงเพลงได้สักพัก อัยน์นาก็สังเกตเห็นหยาดเหงื่อเม็ดโตค่อยๆ ผุดพรายบนใบหน้า เธลม่า แกรนเทรนท์ ทั้งๆ ที่ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองคนนี้ มักฉาบเครื่องสำอางเอาไว้อย่างแน่นหนาดูท่า ท่านผู้หญิงเองก็คงเคยได้ยินนิทานเพลงเรื่องนี้มาก่อน‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทราย... มารดานางตายจากแต่ยังเยาว์’“หยุดนะ” เสียงสั่งจากภรรยาเจ้าบ้าน ทำเอานักแสดงทั้งสองหยุดชะงักแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่การแสดงหยุดลง ขุนนางสูงวัยก็ออกคำสั่งให้รีบแสดงต่อทันที“เอาใหม่ ร้องให้จบ” ท่านเจ้ากรมการเมืองสั่งเสียงเข้ม‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทรายมารดานางชิงตายจากแต่ยังเยาว์บิดามากภาระฝากแม่เลี้ยงเลี้ยงดูเจ้า เรื่องน่าเศร้าจึงเกิดขึ้นกับโฉมตรู’ “นี่มันอะไรกันคะ ริชาร์ด คุณเรียกกวีสกปรกนี่มาทำไม?” ท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์กำมือแน่น ท่าทางจะโกรธจัด แต่ยังพยายามรักษาสมบัติผู้ดี “ฟังต่อให้จบ” ขุนนางสูงวัยสั่งเสียงเข้ม สีหน้าเครียด ดูเคร่งขรึม “นิทานเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมเชียวล่ะ

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 3

    เธอทำสำเร็จ อัยน์นาแน่ใจว่าอย่างนั้นตั้งแต่วินาทีที่หญิงรับใช้ในคฤหาสน์มาแจ้งว่าท่านเจ้ากรมการเมือง ริชาร์ด แกรนเทรนท์ ประกาศเรียกตัวเธอ กับท่านผู้หญิงเธลมา แกรนเทรนท์ และสองศรีพี่สาวต่างมารดาของเธออย่างท่านหญิงพริสซิลล่ากับท่านหญิงแอนนาเบล ให้ไปรวมตัวกันที่ห้องหนังสือ เพื่อฟังนิทานที่นักขับลำนำคนหนึ่งพกพามายังคฤหาสน์แม่คะ...ดูอยู่ใช่ไหม เธอถามภาพหญิงสาวอ่อนเยาว์ คิ้วเรียวเข้ม ตาคม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อดูอิ่มสวยเหมือนกลีบกุหลาบแรกแย้ม ไม่เพียงใบหน้าดูงดงามสมบูรณ์แบบเหมือนภาพวาด สตรีในสายตาเธอมีเส้นผมสีดำสนิทยาวหยักศกทิ้งตัวอย่างเป็นระเบียบจรดบั้นท้าย มองแล้วชวนให้นึกถึงนางพรายผิวขาวผ่องในตำนานของนักเดินเรืออัยน์นาไม่เคยเห็นหน้าแม่ แต่เธอคิดว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคงหน้าตาไม่ต่างจากภาพสะท้อนในกระจกเงาตรงหน้าสักเท่าไหร่...“คุณหนูจะแต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอคะ” หญิงรับใช้ถามเสียงเครียด “คุณท่านกำชับให้ดิฉันจัดหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้คุณหนูสวมก่อนไปพบท่านนะคะ”“ทำไมล่ะคะ”‘คุณหนู’ ลดสายตาลงมองชุดกระโปรงยาวสีขาวประดับลูกไม้ขาดๆ ด้วยแววตาเหมือนกวางน้อย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นช่างดูซื่อใส เหมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status