อีกอาทิตย์ถัดมา ฟองเบียร์มาขอคำปรึกษากับแสนดีอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้เธอกำลังจะเดินกลับบ้าน แต่ฟองเบียร์รีบวิ่งมาทักกับเธอทันก่อน...
“มีอะไรรึ?” แสนดีกำลังสวมฟรีแฮนด์ในหู เพื่อฟังเพลงในมือถือ เธอเหลือบไปเห็นฟองเบียร์วิ่งมาสมทบอย่างเหนื่อยหอบ เขาคงมีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย
“เราชอบญ.คนนึงน่ะ ไม่รู้จะจีบเขายังไงให้เขาคบกับเราน่ะ” ฟองเบียร์มาขอคำปรึกษาอีกตามเคย ทำให้แสนดีรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมไม่ลองคุยกับคนอื่น แต่ทำไมต้องมาคุยกับเธอด้วยนะ
“ลองพยายามเองดูบ้างก็ได้นะ” แสนดีรู้สึกว่าเขาเริ่มจะเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นทุกที เลยอยากจะตีตัวออกห่างบ้าง
“สอนเราหน่อยสิ ว่าเวลาจูบกับญ.เป็นยังไง” ฟองเบียร์ถาม เพราะเขาไม่เคยทำเรื่องอะไรแบบนั้น ทำให้แสนดีไม่รู้จะพูดหรือบอกยังไงดี ระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้าน
“ถ้างั้นไปห้างกับเราหน่อย”
“ไปทำไมที่ห้าง”
“หาหนังสือสอนนายน่ะสิ ว่าการแสดงความรักกับเพศตรงข้าม... เผื่อหนังสือที่เราแนะนำน่าจะช่วยนายได้” แสนดีคว้าแขนของฟองเบียร์ให้เดินตามเธอขึ้นรถ และพาไปยังร้านหนังสือ...
******
แสนดีเดินจ้ำอ้าวอย่างมั่นใจ ในขณะที่ฟองเบียร์รู้สึกปลื้มเพื่อนสาวคนนี้ ที่ไม่เคยปฏิเสธและช่วยเขา แม้จะไม่ใช่เรื่องเรียน แต่มันทำให้เขารู้สึกว่า ไว้วางใจเธอได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไม่เอาเรื่องของเขาไปล้ำสนุกปากกับคนอื่น
“เล่มนี้ นายเอาไปอ่าน และก็ลองพยายามทำดู คราวนี้ไปชอบใครอีกล่ะ?”
“เปเปอร์แหละ เราตัดใจจากเขาไม่ได้” ฟองเบียร์สารภาพ ในขณะที่มือได้รับหนังสือสอนทำรักกับเพศตรงข้ามอย่างถูกวิธีและปลอดภัย เมื่อใส่ถุงยาง หน้าตาเขาดีใจมากที่แสนดีแนะนำเขาได้อีกครั้ง
“อืม... ลองพยายามดูก็ได้ เผื่อนางจะติดใจนาย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราขอตัวนะ...”
“เดี๋ยวก่อนสิ แสนดี... เราอยากถามอะไรอีกเรื่องนึง”
“อะไร?” แสนดีต้องถอดฟรีแฮนด์ข้างหนึ่ง เพื่อฟังเขาพูดอีกประโยคก่อนเธอจะขอตัวเดินจาก
“เคยจูบกับแฟนหรือเปล่า?”
“เคยสิ รู้สึกดีมากด้วย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวกลับบ้านนะ” แสนดีตอบหน้าตาเฉย เรื่องง่ายๆ แค่นี้มาถามเธอทำไม เด็กสาวม.ปลายจึงเดินทางกลับบ้าน ปล่อยให้ฟองเบียร์ตั้งใจอ่านหนังสือทำรักกับเพศตรงข้ามต่อไป
******
วันถัดมา ฟองเบียร์มาขอคำปรึกษาอีกตามเคย ในระหว่างที่แสนดีกำลังนั่งกินข้าว และมือซ้ายอีกมือถือหนังสือนิยายเอาไว้ ระหว่างสองหูกำลังสวมฟรีแฮนด์ฟังเพลง เธอมีโลกส่วนตัวจนเพื่อนไม่อาจแทรกได้ นอกจากฟองเบียร์จะเดินเข้าไปทักเธอตรงๆ แบบว่า อยากคุยด้วยมากๆ ...
ในสายตาของเพื่อนคนอื่นๆ เริ่มจะมองว่าฟองเบียร์กับแสนดีคบกันหรือเปล่า แต่ท่าทางไม่ได้สวีทหรือยิ้มแย้มแบบเป็นแฟนกัน ทำให้เรื่องสงสัยเรื่องนี้ คลางแคลงใจกับเพื่อนทุกๆ คนที่ได้พบเห็น หรือแม้กระทั่งกับเปเปอร์ ยังแอบดูฟองเบียร์คุยกับแสนดีหลับหลังเธอ
“แสนดี ช่วยอะไรเราหน่อยได้มั๊ย?” ฟองเบียร์ทำสีหน้าจริงจัง เขาอยากให้เธอช่วยเหลือเขาจริงๆ และมันเป็นเรื่องสำคัญมาก
“ฉันกินข้าวอยู่ นายกินข้าวยังล่ะ?” แสนดีดึงฟรีแฮนด์ข้างหนึ่งออก สายตายังอ่านนิยายอยู่ พลางถามฟองเบียร์แบบไม่มองหน้า เพราะเธอกำลังเพลินกับการอ่านหนังสือ และตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“ยังเลย ขอกินข้าวด้วยคนนะ อยากคุยกับเธอนานๆ”
“อ่านหนังสือเป็นไงบ้าง?” แสนดีรู้สึกว่าฟองเบียร์มาทำตัวแปลกๆ เลยขอถามเรื่องหนังสือที่ซื้อไปเสียหน่อย
“ก็พอจะเข้าใจ แต่นึกภาพไม่ออกและเราก็ไม่เคย แสนดีสอนเราหน่อยสิ” หนุ่มม.ปลายพูดเสียงเบา เพราะไม่อยากให้แสนดีรู้สึกว่าเขาขอเธอตรงๆ แบบนี้ เด็กสาวม.ปลายรู้สึกว่า อาหารกลางวันเริ่มจะไม่อร่อยก็เพราะฟองเบียร์พูดแบบนี้แหละ
แม้ว่าเพื่อนคนอื่นๆ จะไม่รู้ว่าฟองเบียร์คุยอะไรกับแสนดี แต่ท่าทางพวกเขาไม่เหมือนแฟนกันอย่างที่คิด เปเปอร์แค่สงสัยว่าฟองเบียร์คุยอะไรกับแสนดีอยู่บ่อยครั้ง จึงอยากจะไหว้วานเพื่อนสาวไปแอบดูพวกเขา หรือฟังเรื่องที่พวกเขาพูดคุยกันบ้าง
นิหน่า ซึ่งเป็นเพื่อนตัวร้าย สายข่าว ถ้านิหน่ารู้ โลกได้รู้กันหมด เธอจึงอาสาไปแอบดักฟังพวกเขาเสียหน่อย...
ความจริงเปเปอร์อยากจะเป็นสะใภ้เจ้าขุนมูลนาย แต่ด้วยเส้นทางที่ไม่อาจทำได้ง่ายๆ เธอจึงค่อนข้างเล่นตัวกับฟองเบียร์ เพื่ออยากให้เขารักและหลงเธอให้มากๆ ... มารยามากไปผู้ชายดันโง่เกินอีก...
หลังเลิกเรียน เมื่อนิหน่าเดินตามหลังแสนดีกับฟองเบียร์ เดินเข้าห้างไปด้วยกัน นิหน่ารู้สึกเบื่อระหว่างเดินตามพวกเขาสองคน เธอเห็นว่าฟองเบียร์เองก็มีคนที่คบอยู่แล้ว ยังจะคิดขอเปเปอร์คบซ้อนอีกรึ?
นิหน่าเลยไม่อยากเดินตามต่อ พวกเขาสองคนอาจจะไปกินข้าว หรือดูหนังก็ได้ เธอเห็นจากท่าทางแบบนั้นแล้วนิหน่าอยากจะบอกเพื่อนว่า อย่าไปสนใจเปเปอร์เลย
******
แสนดีพาฟองเบียร์เดินออกไปด้านหลังลานจอดรถ เพราะว่าแฟนเก่าเธอเคยทำแบบนี้กับเธอ ยิ่งอยู่ด้วยกันตามลำพังกับฟองเบียร์ ใจของแสนดีก็เริ่มเต้นตูมตาม หนุ่มม.ปลายรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ว่าแสนดีจะทำยังไงให้แก่เขา
“เอาล่ะ ตรงนี้ก็แล้วกัน หลบตาคนอื่นหน่อย เรายังอยู่ในชุดนร.” แสนดีบอกพลางมองไปรอบๆ ไม่อยากให้ใครอื่นเห็น เผื่อว่าการช่วยฟองเบียร์ครั้งนี้ อาจจะทำให้เขาสมหวัง และเธอคิดว่าวันหนึ่งคงจะมีใครสักคนยอมช่วยเธอ ให้มีแฟนแบบสมหวัง ไม่ต้องเลิกกันอีก
“อืม... ต้องทำไง” ฟองเบียร์ยิ้มแย้ม ระหว่างรอแสนดีช่วยสอนเรื่องจีบสาว อย่างน้อยการหอมแก้ม และจูบกัน เธออาจจะมีวิธีที่ดีได้
“ทำงี้นะ” แสนดีกับฟองเบียร์ยืนอยู่ เธอเดินเข้าไปยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา และใช้สองมือเล็กๆ ประคองหน้าเขาไว้ พลางแตะริมฝีปากเบาๆ พลางดึงตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว
“หา!!! แค่นี้หรอ?”
“อืม... ถ้าจะให้ลุ่มหลงก็อีกแบบนึง” แสนดีบอกใหม่ ยื่นหน้าเข้าไปหาฟองเบียร์ เม้มริมฝีปากขบเบาๆ แทบดึงสติของฟองเบียร์หลุดเบาๆ เขารู้สึกชอบที่แสนดีสอนแบบถึงตัวแบบนี้ มันทำให้เขาเข้าใจได้ง่ายขึ้น
“เออ เข้าท่าแฮะ มีแบบอื่นมั๊ยอ่ะ อย่างในหนังที่เราดูกัน” ฟองเบียร์ถาม เพราะเขาไม่รู้ต้องทำยังไง แสนดีตั้งอกตั้งใจสอนให้แก่ฟองเบียร์มาก เธอลองพยายามทำตามหนังที่เคยดู...
เด็กสาวม.ปลายดึงตัวเพื่อนชายเข้ามา สวมกอดโอบรอบกายแนบชิดกัน พลางดึงศีรษะฟองเบียร์โน้มตัวลงมา และเธอจุมพิตดูดดื่มเขาพลางสอดลิ้นตัวเองเข้าไป ตวัดกับลิ้นหนาร้อน เขาพยายามตวัดกลับและโลมกายสาวด้วยสองมือตน
อารมณ์เกิดและเริ่มพาไป หัวเข่าฟองเบียร์เริ่มแทรกเข้าระหว่างกระโปรงของแสนดี และเรือนกายสาวอยู่ในอ้อมกอดเขา เริ่มจะรัดร่างนุ่มนวลแน่นขึ้น จนแสนดีรู้สึกว่าเริ่มจะเลยเถิดเข้าไปทุกที...
มือบอบบางค่อยๆ ดันฟองเบียร์ออก แต่ชายหนุ่มยังคงจูบดูดริมฝีปาก แทบดึงลมหายใจแสนดีเอาไว้ มิปล่อยให้เธอเป็นอิสระ...
“ฟอง...เดี๋ยว...ฟองเบียร์...!!!” สองแขนของหนุ่มม.ปลายยังคงรัดร่างแสนดีเอาไว้ เพราะเขารู้สึกคล้อยตามจนไม่อาจหยุดตัวเอง แสนดีพยายามผลักเขา และห้ามเขาเพราะว่ามันจะเลยเถิดไปเรื่อยๆ หากเขายังจูบเธอแบบเพลิดเพลินอย่างนี้
“หยุดทำไมอ่ะ เรากำลังเพลินเลย” ฟองเบียร์ถาม เพราะเขาเริ่มจะทำเป็น และรู้สึกดีมากๆ แสนดีเป็นคนสอนเรื่องนี้ เก่งจนเขาแปลกใจ มันเหมือนยากแต่ก็ง่ายหากจะลงมือทำ อย่างนี้เขาคงจะมีโอกาสจีบเปเปอร์ได้แล้ว
“นายควรทำกับเปเปอร์นะ ไม่ใช่เรา” แสนดีรู้สึกเขินอายหน้าแดง พลางจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย การกอดของฟองเบียร์ ทำให้เธอเริ่มจะคิดถึงแฟนเก่าที่เลิกกัน
“เออ จริงสิ ขอโทษทีนะ ถ้างั้นขอบใจมากนะ แสนดี” ฟองเบียร์ยิ้มแย้มก่อนจะเลี้ยงไอติมให้แสนดี เป็นการขอบคุณที่สอนให้ เธอเป็นเพื่อนที่น่ารัก และเข้าใจเขา ทำให้เขารู้สึกไว้วางใจ และเชื่อถือได้ว่า เรื่องทีเกิดขึ้นจะเป็นความลับของพวกเขาสองคน
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้