Share

บทที่ 56 เริ่มการทดสอบ

last update Last Updated: 2025-06-21 17:18:44

บทที่ 56

เริ่มการทดสอบ

            ในขณะที่คนแซ่เว่ยกำลังนึกวิธีทำไก่หม้อดิน หลินซืออิงก็เปลี่ยนมานั่งหลังคร่อม ยกมือขึ้นเท้าคางด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ไม่มีมาดอันสง่างามเหมือนก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย

            “ใต้เท้าโปรดสำรวมด้วย”

            รองหัวหน้าศาลที่อายุมากกว่าเข้ามากระซิบเตือน

            ชายหนุ่มเปลี่ยนมานั่งหลังตรงแน่ว ก่อนจะสั่งให้คนแซ่เว่ยรีบบอกวิธีทำไก่หม้อดินสักที

            ด้วยความตกใจ คนแซ่เว่ยโพล่งตอบทันควัน

            “ไก่หม้อดินคือการเอาไก่มาเคี่ยวกับน้ำแกงในหม้อดินขอรับ!”

            หลินซืออิงกวาดตามองบนกระดาษแล้วถามต่อ “สูตรน้ำแกงของร้านเจ้าเป็นแบบขุ่นข้นหรือใส”

            “น้ำแกงขุ่นข้นขอรับ”

            “น้ำแกงขุ่นสินะ” หลินซืออิงถามซ้ำ

            พอเห็นใต้เท้าหลินทำสีหน้าสงสัย คนแซ่เว่ยเริ่มไม่แน่ใจว่าคำตอบนั้นถูกต้องหรือไม่ เขารีบแก้ไขอย่างร้อนรน

            “เอ่อ…ไม่ใช่ขอรับ เป็นน้ำแกงใสขอรับ”

            “อ้อ น้ำใสนี่เอง” หลินซืออิงกล่าวย้ำ สีหน้าแฝงความกังขาขณะที่สายตาเหลือบมองตำราอาหาร

            “ไม่สิ ต้องน้ำข้น” คนแซ่เว่ยแก้คำใหม่อีกครั้ง เหงื่อก็แตกพลั่กๆ

            “สรุปว่าน้ำข้นหรือน้ำใส”

            “ชะ ใช้น้ำแกงสองชนิดขอรับ แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง”

            “แบบนี้เอง ร้านตระกูลเว่ยใช้น้ำแกงสองชนิด” หลินซืออิงแกล้งเอ่อออตามพร้อมพยักหน้า “คำถามสุดท้าย ร้านของเจ้าใช้เครื่องปรุงและวัตถุดิบอะไรบ้าง”

            “ร้านของข้าน้อยใช้แค่แม่ไก่เป็นวัตถุดิบ ส่วนเครื่องปรุงมีแค่เกลือกับน้ำเปล่าขอรับ”

            ชายหนุ่มส่งเสียง “อ๋อ เหรอ” ราวกับว่าคำตอบของคนแซ่เว่ยไม่มีทั้งถูกและไม่ได้ผิด จากนั้นถึงค่อยหันมาถามเด็กสาว

            “จางตงตง เจ้าช่วยอธิบายวิธีทำไก่หม้อดินได้หรือไม่”

            เท่าที่เห็น ตงตงคิดว่าหลินซืออิงผู้นี้ใช้จิตวิทยาเล่นกับใจคนเก่ง

            แค่คำถามเดียวก็ทำให้คนแซ่เว่ยถึงกับไปไม่เป็น

            คิดจบ ตงตงก็อธิบายวิธีทำหม้อดินอย่างฉะฉาน

            ก่อนอื่นให้แยกเอาเครื่องในออก ล้างไก่และเครื่องในให้สะอาด ตัดสี่ปลายให้ดี ปลายเล็บ ปลายปาก ปลายปีกและตูดไก่ ต้มน้ำให้เดือด เอาไก่ที่เตรียมไว้แล้วลงหม้อต้มพร้อมเครื่องใน ใส่ขิงทุบลงไปครึ่งหัว เติมเกลือเล็กน้อย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณครึ่งชั่วยาม (1 ชั่วโมง)

            ร้านอื่นจะใส่ซีอิ๊วเพิ่ม แต่สูตรไก่หม้อดินสูตรของนางเป็นแบบน้ำใสจึงใส่แค่เกลือและขิงเท่านั้น

            “...จบคำอธิบายเจ้าค่ะ”

            ระหว่างที่ฟังเด็กสาวอธิบาย หลินซืออิงมองตำราไปด้วย

            คำตอบของเด็กสาวมีส่วนที่ตรงกับในตำรา แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

            ส่วนที่ตรงคือน้ำแกงต้องใส ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวครึ่งชั่วยาม

            และในส่วนที่ไม่ตรงก็คือ นางไม่ใส่วัตถุดิบอย่างอื่น ทว่าในตำรากลับใช้ผักเพื่อเพิ่มความหวานให้กับน้ำแกง และใส่ซีอิ๊วดำ

            หลังจากเงียบคิดสักครู่ หลินซืออิงก็ออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่

            “จับคนแซ่เว่ยไปขัง”

            “ตะตะ ใต้เท้าหมายความว่ายังไงขอรับ!” คนแซ่เว่ยถามด้วยความแตกตื่น

            “คำตอบของเจ้าผิดทั้งหมด ไม่ตรงกับในตำราสักนิด แน่ชัดว่าเจ้าไม่ใช่พ่อครัวและไม่ใช่เจ้าของสูตรนี้”

            คนแซ่เว่ยรีบคุกเข่าร้องว่า “เรื่องนี้ข้าน้อยอธิบายได้ขอรับ”

            “พูดมา”

            “ถึงข้าน้อยไม่ได้เป็นพ่อครัว แต่เป็นเจ้าของกิจการตระกูลเว่ยตัวจริง คนเป็นเจ้าของกิจการไม่จำเป็นต้องเข้าครัวทำอาหารเองขอรับ”

            “ถ้าอย่างนั้นก็น่าสงสัย”

            “ยะ ยังไงหรือขอรับ”

            “ในคำร้องเรียนของเจ้าเขียนว่า นอกจากผู้สืบทอดตัวจริง สูตรอาหารของตระกูลเว่ยไม่เผยแพร่ให้คนนอก เจ้าที่เป็นเจ้าของกิจการก็คือผู้สืบทอด ยิ่งต้องรู้สูตรอาหารของตระกูลตัวเอง”

            “ตะ แต่ว่า ใต้เท้า…”

            หลินซืออิงไม่ฟังคำแก้ตัวตัวใดๆ เขาสั่งให้เจ้าหน้าที่พาคนแซ่เว่ยออกไปขังในทันที

            “พาตัวคนแซ่เว่ยไปขัง ค่อยไต่สวนในข้อหาแจ้งความเท็จ”

            “ใต้เท้าาาา!!!”

            ระหว่างถูกลากตัวออกไป คนแซ่เว่ยส่งเสียงคร่ำครวญและลากยาว

            หลินซืออิงกวาดตามองเหล่าเจ้าทุกข์

            ครั้นเห็นสหายแซ่เว่ยถูกทดสอบจนแพ้ภัยตัวเอง เหล่าเจ้าทุกข์จอมปลอมที่เหลือต่างแสดงท่าทีลนลาน

            บางส่วนร้อนรนกลัวถูกตั้งข้อกล่าวหากลับ จึงรีบคุกเข่าเสียงดังพึ่บ แล้วสารภาพผิด

            “ใต้เท้า ข้าน้อยถูกจ้างมาขอรับ”

            “โปรดอภัยด้วย ข้าน้อยยังมีลูกมีภรรยาต้องเลี้ยงดู จำใจที่ต้อง…”

            “พาตัวออกไป!”

            หลินซืออิงขี้เกียจฟังคำแก้ตัว กล่าวแทรกขึ้นมาทันทีทันใด

            จากนั้น เจ้าทุกข์ทั้งสองที่คุกเข่าอ้อนวอนก็ถูกลากตัวออกไป

            ในส่วนเจ้าทุกข์ที่เหลือ หลินซืออิงเดาว่ามีทั้งคนที่อยากเสี่ยงให้ถึงที่สุดกับพ่อครัวตัวจริง

            ในเมื่อมีพ่อครัวตัวจริงปะปนมาด้วย หากทดสอบด้วยการถามวิธีปรุงอาหารเหมือนอย่างคนแซ่เว่ยคงไม่มีประโยชน์ เช่นนั้นก็ต้อง…

            “การไต่สวนต่อไป ข้าจะให้พวกเจ้าประลองทำอาหาร แต่วัตถุดิบข้าจะกำหนดขึ้นมาเอง”

            ได้ยินคำพูดของหลินซืออิง ทุกคนต่างหลุดสีหน้าสงสัย

            ชายคนหนึ่งใจกล้า ยกมือแล้วตะโกนถาม

            “ใต้เท้า ประลองทำอาหารเกี่ยวอะไรกับการไต่สวนขอรับ เรื่องนี้จะยืนยันว่าจางตงตงขโมยตำราของพวกเราได้อย่างไร”

            “ถึงข้าจะถามวิธีปรุงอาหารก็เปล่าประโยชน์ เพราะในกลุ่มของพวกเจ้ามีพ่อครัวตัวจริงปะปนมาด้วย แต่ถ้าหากเปลี่ยนบททดสอบ ให้พวกเจ้าประลองทำอาหาร โดยทางข้าจะกำหนดวัตถุดิบ หากจางตงตงไร้ความสามารถ นางจะต้องพ่ายแพ้ให้กับพวกเจ้า”

            หลินซืออิงเว้นช่วงแล้วฉีกยิ้ม ก่อนจะกระตุ้นพวกเขาด้วยคำพูดยั่วยุ

            “พวกเจ้าเป็นพ่อครัวมากประสบการณ์ คงไม่ได้หวาดกลัวเด็กสาวอ่อนต่อโลกเพียงคนเดียวหรอกกระมัง…การทดสอบนี้ หากนางพ่ายแพ้ ก็หมายความว่าฝีมือของนางเป็นของปลอม ในทางกลับกัน หากพวกเจ้าพ่ายแพ้ให้กับนาง แสดงว่าฝีมือของนางเป็นของจริง และพวกเจ้าแจ้งความเท็จ”

            คำยุแยงนั้น ทำเอาพ่อครัวตัวจริงมากประสบการณ์ถึงกับฮึกเหิม พวกเขามั่นใจยิ่งยวดว่าฝีมือของตัวเองต้องชนะเด็กสาวได้อย่างแน่นอน

            คิดแล้วพวกเขาพลันตกปากรับคำต้องการประลอง

            “จางตงตงมีอะไรจะแย้งหรือไม่”

            นี่คงเป็นการสู้ด้วยฝีมืออย่างที่เว่ยจ้งบอกสินะ

            เช่นนั้นก็ไม่มีให้ตงตงต้องพูด

            ยกเว้นเพียงเรื่องเดียว…

            “ในเมื่อต้องเข้าครัวทำอาหาร ความสะอาดต้องมาก่อน เช่นนั้นข้าขออนุญาตล้างตัวและเปลี่ยนชุดใหม่ได้หรือไม่เจ้าค่ะ”

            “ข้าอนุญาต”

            ทันทีที่หลินซืออิงอนุญาต ตงตงก็ถูกเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ที่เป็นผู้หญิง พาไปล้างเนื้อล้างตัวและเปลี่ยนชุดสะอาดที่ด้านหลัง

            ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ก็จัดสถานที่การประลองที่ลานกว้างหน้าศาลต้าหลี่

            ผ่านไม่นาน เด็กสาวก็ถูกพาตัวออกมา

            หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนชุดใหม่ ความสะอาดขับให้ตงตงดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่าเดิม

            มากไปกว่านั้น ท่วงท่าตอนที่เด็กสาวก้าวไปยืนหลังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเครื่องปรุง แววตาที่กวาดมองของบนโต๊ะล้วนส่องประกายความมาดมั่น สมกับเป็นแม่ครัวฝีมือฉมังยิ่งกว่าเหล่าเจ้าทุกข์จอมปลอมเสียอีก

            หลินซืออิงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

            การประลองครั้งนี้ ต้องน่าสนุกเป็นแน่!

            หลินซืออิงโบกมือส่งสัญญาณ

            ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ก็ยกวัตถุดิบออกมาวางเรียงบนโต๊ะใหญ่ที่อยู่ตรงกลางลานประลอง

            พอเปิดผ้าคลุมสีขาวออก ทุกคนในที่นั้นต่างเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ

            “นี่มัน…!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status