ログイン11 ไสหัวออกไป ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!
เมริษาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติกลับคืนมาหลังจากยืนอยู่หน้าห้องของอีริค หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เธอตัดสินใจดีแล้วว่าจะขอคุยกับเขาด้วยเหตุผลเป็นครั้งสุดท้าย หากเขาจะจบกับเธอจริงๆ อย่างน้อยก็ขอให้จากกันด้วยดีจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน ก็อก!ก็อก!... กระทั่งเจ้าของห้องเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ตามมาอีกทำไม!” “คะ…คือว่าเมย์อยากมาคุยกับพี่อีกครั้ง” ดวงตาคมกริบของอีริคปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจริดเท้า เธออยู่ในสภาพสะบักสะบอม มีแผลถลอกทั่วตัว แต่ที่หนักที่สุดก็น่าจะเป็นที่หัวเข่าทั้งสองของซึ่งมีเลือดไหลลงมาเป็นทาง ไม่คิดว่าเธอจะตามมาหาเขาในสภาพนี้ “จะคุยอะไรอีก แค่นี้ยังชัดเจนไม่พออีกหรอ” อีริคจิ๊ปากด้วยสีหน้าค่อนไปทางหงุดหงิด “เมย์คิดว่ามันเร็วเกินไป เมย์ยังไม่รู้เลยว่าทำอะไรผิด จู่ๆพี่ก็ทิ้งเมย์ไปแบบนี้ อย่างน้อยก็น่าจะบอกสักคำว่าเมย์ผิดอะไร” “ฉันว่ามันไม่ได้เร็วเกินไปหรอกเพราะฉันคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ใครจะไปทนอยู่กับผู้หญิงจืดชืดได้นานขนาดนั้น ฉันก็มีสเปค มีคนที่ชอบอยู่ในใจเหมือนกัน” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร “พะ…พี่หมายความว่ายังไง” “น้ำพริกถ้วยเดิม กินนานๆก็น่าเบื่อเหมือนกัน ยังไงก็สู้อาหารรสเผ็ดจัดจ้านไม่ได้หรอก” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้ายั่วยุเมื่ออีกฝ่ายกำลังแสดงท่าทีเกรี้ยวโกรธ “เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่าอะไร” “เมย์ยอมรับว่าเป็นผู้หญิงจืดชืด แต่หนึ่งสิ่งที่เมย์ไม่เคยทำก็คือการนอกใจ!” ความโกรธกำลังทำให้ร่างของเธอสั่นเทิ้มอีกครั้งเหมือนกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ที่โดนอีกฝ่ายดูถูก “ที่เมย์ตามมาหาพี่เพราะเมย์อยากให้เราสองคนจบกันด้วยดี อย่างน้อยเราสองคนก็เคยมีช่วงเวลาดีๆด้วยกัน” เมริษากำลังสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ คล้ายหัวใจถูกทุบจนแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เธอก็ต้องข่มทรมานนี้เอาไว้เพราะอยากเคลียร์กับเขาให้มันจบๆ ในเมื่อรักมาถึงทางตัน เธอก็จะไม่ฝืนใจใครอีกต่อไป …อย่างน้อยก็ขอให้นึกถึงช่วงเวลาดีๆที่เคยทำร่วมกันบ้าง “สำหรับฉัน....ไม่เคยมีช่วงเวลาดีๆเลยด้วยซ้ำ เพราะอะไรรู้ไหม” ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา “…เพราะฉันไม่ได้รักเธอตั้งแต่แรก” “วะ…ว่าไงนะ” “ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่เคยรักและจะไม่มีวันรักเด็ดขาด ได้ยินชัดเต็มสองหูหรือยัง” “ฮึก! ถ้าไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกแล้วมาทำแบบนี้ทำไม” “เพื่อความสะใจไง รู้แบบนี้แล้วก็รีบไสหัวไปจากที่นี้ซะ รู้ไหมว่าเลือดชั่วๆของเธอมันกำลังจะหยดลงบนพื้นหน้าห้องของฉันแล้ว” เขาปรายตามองหยาดเลือดที่กำลังไหลลงมาตามเรียวขาด้วยสีหน้าขยะแขยง แต่ทันใดนั้นสิ่งที่ทำให้เมริษาจุกจนพูดไม่ออกส่งผลให้ร่างกายชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเรื่องจริงใช่ไหม แค่นี้เธอยังเจ็บไม่พอใช่ไหม “ใครมาหรอคะอีริค” หญิงสาวสวยแซ่บรายหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดเดรสสุดวาบหวิว เดินเข้ามาคล้องแขนของอีริคด้วยท่าทางสนิทสนม ก่อนจะปรายตามองมาที่เมริษาด้วยสีหน้าไม่ค่อยเป็นมิตร “นะ….นี่มันอะไรกัน!” เมริษาที่ตอนนี้กำลังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ทุกอย่างในหัวปั่นป่วนไปหมด ราวกับเข็มนับพันกำลังทิ่มแทงหัวใจ! “ก็อย่างที่เห็น ฉันก็เป็นผู้ชายทั่วไป มีความรู้สึก มีความต้องการเหมือนกัน ไม่มีใครทนกินอารหารจืดชืดได้นานหรอก สุดท้ายก็ต้องกลับมาลองอาหารรสเผ็ดอยู่ดี” “คะ…คนเลว!! คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณมีผู้หญิงคนนี้มานานแค่ไหนแล้ว!” “ผู้หญิงคนนี้มาก่อนเธอนะเมริษา เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายมาทีหลัง” “มะ…ไม่จริง! ฮึก! คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ทำกับฉันได้ยังไง เสียแรงที่ฉันรักและเชื่อใจคุณมาตลอด ไอ้คนเลว!!” เมริษาปรี่เข้าไปใช้สองมือทุบอกแกร่งด้วยความโกรธ แต่ก็ถูกผู้หญิงคนนั้นผลักร่างออกและกำลังจะเงื้อมือตบ แต่พิมผกาและวาสิตาที่ตามขึ้นมาเพราะเห็นเพื่อนหายไปนาน วิ่งเข้ามาล็อคแขนของหล่อนเอาไว้ “กรี๊ดดด!!! ปล่อยนะนังผู้หญิงชั้นต่ำ” “แกนั่นแหละชั้นต่ำ จะตบเพื่อนฉันหรอ” วาสิตาจิกผมของอีกฝ่าย ส่วนพิมผกาล็อคร่างที่กำลังดีดดิ้นเอาไว้ กระทั่งอีริคทนไม่ไหวดึงร่างของสาวสวยกลับคืนมาแล้วผลักวาสิตากับพิมผกาออก “อย่ามากัดกันหน้าห้องฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะให้ลูกน้องมาลากตัวพวกเธอออกไป!” อีริคตวัดมองวาสิตาและพิมผกาด้วยสายตาไม่พอใจ และดูเหมือนว่าเขากำลังโกรธที่เมริษากับเพื่อนๆตามมาวุ่นวายถึงหน้าห้อง “เมษา!” เพื่อนทั้งสองคนวิ่งเข้ามาดึงร่างของเมริษาเข้าไปสวมกอด ร่างเล็กอ่อนระทวยในอ้อมกอดทันทีราวกับกำลังหมดเรี่ยวแรง “เป็นอะไรหรือเปล่า เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม” “…” เมริษาที่ตอนนี้ราวกับในอกกำลังถูกบดขี้จนป่นปี้ เอาแต่ส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา พูดอะไรไม่ออก ทุกอย่างมันจุกอยู่ในอก “เรากลับกันเถอะ ไม่ต้องแคร์คนเลวๆแบบนี้อีกแล้วแหละ ปล่อยให้เขาสมสู่กับผู้หญิงที่เขาลากมาจากซ่องเถอะ!” วาสิตาหันไปขึ้นเสียงใส่เพราะทนเห็นพฤติกรรมเลวๆของอีริคไม่ไหว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย “พวกเธอมาก็ดีเหมือนกัน รบกวนพาเพื่อนของเธอออกไปจากหน้าห้องของฉันที ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” ใบหน้าหล่อเหลามองตรง ไม่หันมาให้เสียสมาธิ ความเย็นชาของเขาคือตัวตนที่เมริษาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่คิดว่าเขาจะเย็นชาและไร้หัวใจได้ขนาดนี้ “ก็ได้ ฉันจะพาเพื่อนของฉันออกไปจากตรงนี้ แล้วคุณก็อย่ามายุ่งกับยัยเมษาอีกเด็ดขาด!” “เหอะ! ฉันกลัวแต่เพื่อนของเธอนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไม่ยอมจบ เพราะเรื่องนี้มันไม่มีวันจบลงง่ายๆหรอก” อีริคทิ้งประโยคปริศนา “คุณหมายความว่ายังไง” อีริคเมินคำถามของวาสิตาเพราะตอนนี้เขาไม่อยากให้เลือดชั่วๆของวรโชติเมธีมันมาหยดลงที่หน้าห้องของเขา “ฝากเธอสองคนดูแลเพื่อนให้ดี อย่าให้มาวุ่นวายฉันอีก ไม่อย่างนั้นพวกเธอทั้งสามคนได้หายไปจากโลกนี้แน่” ปึ้ง!! “ไปกันเถอะเมษา ผู้ชายเลวๆแบบนี้ไม่เหมาะกับคนดีๆอย่างเธอหรอก” เมริษาถูกเพื่อนทั้งสองคนหิ้วปีกออกไปจากหน้าห้องของอีริค สภาพของเธอในตอนนี้นับว่าสะบักสะบอมทั้งกายและใจ แค่คิดว่าอยากมาคุยเพราะอยากให้เรื่องนี้จบลงโดยที่ไม่ต้องเกลียดกัน กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกำลังเกลียดเขา เกลียดการกระทำเลวๆที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเขาแอบทำแบบนี้ลับหลัง และภายหลังที่เมริษาถูกเพื่อนทั้งสองคนพาออกไป ร่างหนาของอีริคเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงโดยมีสาวสวยนั่งรออยู่ข้างใน หล่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาสวมกอดร่างหนาจากทางด้านหลัง “พวกมันไปแล้ว เราสองคนมาสนุกกันเถอะค่ะ” “เธอกลับไปเถอะ” เขาหยิบเช็คออกมาเขียนแล้วยื่นให้หล่อน โดยที่ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด “แต่เชอรี่ช่วยทำให้คุณผ่อนคลายได้นะคะ เผื่อว่าคุณรู้สึกเครียด” มือเล็กค่อยๆลูบไล้ตามมัดกล้ามเนื้อและกำลังจะเคลื่อนลงไปด้านล่าง แต่ก็ถูกมือใหญ่ปัดออก “ฉันให้เวลาห้านาทีในการไสหัวออกไป ก่อนที่ฉันจะให้ลูกน้องมาลากตัวเธอออกไปทิ้ง” “ก็ได้ งั้นเชอรี่กลับก่อนนะคะ แต่ถ้าคุณอีริครู้สึกเหงาหรือมีเรื่องเครียดเมื่อไหร่ โทรหาเชอรี่ได้เสมอนะคะ” ก่อนออกไปหล่อนไม่ลืมหยิบเช็คจำนวนหนึ่งแสนบาทติดตัวไปด้วย แต่ก็แอบเสียดายที่หล่อนไม่ได้ขึ้นเตียงกับเขา ผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนปราถนาอยากขึ้นเตียงด้วย อีริคหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยความสบายใจที่ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ถึงวันนี้ยังทำไม่สำเร็จแต่อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้ความเคลื่อนไหวภายในบ้านหลังนั้น “มันยังไม่จบหรอกเมริษา เธอกับฉันยังต้องเจอกันอีกยาว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนพาอาร์เธอร์ไปรู้จักกับนังสารเลวนั่น ป่านนี้น้องชายของฉันก็คงไม่ตาย ฉันเกลียดพวกเธอ เกลียดทั้งครอบครัว!!" -------———-63 ตอนพิเศษ 03 ความสุข@ประเทศไทยสองสามีภรรยาย้ำเท้าอยู่บนชายหาดโดยมีเด็กชายตัวน้อยอยู่ในอ้อมอกของคนเป็นแม่ เนื่องจากความอยากพาภรรยามาเที่ยวพักผ่อนเพราะตั้งแต่คลอดลูกเขาก็ไม่ค่อยได้พาภรรยาไปเปิดหูเปิดตาเลย กลัวว่าเธอจะเบื่อจึงเลือกบินกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย เพราะทะเลเมืองไทยนั้นสวยไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย“ตอนที่อาร์เธอร์ยังไม่เกิด พี่มาเที่ยวภูเก็ตกับพ่อบ่อยมาก ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างไม่ต่างจากเดิมเลย พี่เข้าใจแล้วว่าทำไมใครหลายคนถึงบอกว่าทะเลไทยสวยเหมือนอยู่บนสวรรค์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาร์เธอร์ถึงอยากมาเมืองไทย” ชายหนุ่มพูดขณะที่ย้ำเท้ารอบๆชายหาด ข้างกายมีภรรยาสาวสุดสวยกำลังอุ้มลูกน้อยที่มีอายุเพียงสามเดือน“ทำไมพี่ไม่เคยบอกเมย์เลยว่าชอบภูเก็ต”“จริงๆพี่ก็ไม่ได้ชอบภูเก็ตหรอก แม่พี่ต่างหากชอบมา”“พี่ก็เลยเลือกพาเมย์กับลูกมาภูเก็ตสินะ” เมริษาระบายยิ้มอย่างมีควาสุขพร้อมกับก้มมองเท้าที่เดินย้ำทราย เมื่อไหร่ที่ลูกโตสัญญาว่าจะพาเขามาเที่ยวภูเก็ตอีก“เพราะพี่คิดว่าทะเลที่เมืองไทยสวยไม่แพ้ที่ใดในโลก ตอนแรกกะว่าจะพาเมย์กับลูกไปเที่ยวโอซาก้าก็กลัวว่ามันจะหนาวเกินไป” อีริครู้ด
62 ตอนพิเศษ 02 หลงเมีย@หลังแต่งงาน“รูดซิปให้เมย์หน่อยค่ะ เมย์เอื้อมไม่ถึง” ร่างอวบอัดกำลังตั้งท้องได้ห้าเดือนกว่าๆพยายามใช้ความสามารถรูดซิปชุดแต่งงาน แต่ทำยังไงมือของเธอก็เอื้อมไม่ถึงซักที ขณะเดียวกันเจ้าบ่าวหมาดๆของเธอเดินสะเปะสะปะไปมาทั่วห้องคล้ายคนกำลังเมา ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยพิษของแอลกอฮอล์อีริคถูกกลุ่มเพื่อนๆของเขามอมเหล้าจนเมาในวันเข้าเรือนหอ ถือเป็นการส่งตัวเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว“หยุดเดินก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวก็ไปชนกับขอบตู้เข้าหรอก” เมริษาถอดเครื่องเพชรออกและรอให้สามีหมาดๆของเธอมารูดซิปให้“พี่ไม่น่าเสียรู้พวกมันเลย ทั้งๆที่วันนี้เป็นคืนเข้าหอวันแรก พี่ไม่ควรเมา” ชายหนุ่มที่รู้สึกเสียหน้าเพราะโดนเพื่อนสนิทมอมเหล้า จิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด ไม่คิดว่าเหล้าที่อิคารัสให้ดื่มจะรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่ เป็นครั้งแรกที่เขาเมาจนแทบยืนไม่ไหว และพยายามดื่มน้ำตามเยอะๆเพื่อให้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ค่อยๆหมดลง “ขอโทษนะที่รัก พี่ไม่อยากให้เมย์เห็นพี่ในสภาพนี้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่เมามากงั้นก็นอนพักนะคะ เดี๋ยวเมย์ให้ป้าก้อยมารูดซิปให้”“ไม่ต้องครับ” มือใหญ่เอื้อมไปดึงร่างเล็กเข้า
61ตอนพิเศษ 01 มรดกเพื่อหลานชาย “ขอบคุณหนูเมษามากนะที่ยอมให้อภัยลูกชายของพ่อ อีริคไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่ว่า…พ่อเองที่เป็นคนบงการเขา” น้ำเสียงของอีวานเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าอีกฝ่าย กลัวว่าเมริษายังโกรธเคืองเรื่องที่เขาเคยพลั้งมือยิงเธอ ตอนนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเมริษาด้วยซ้ำ ถ้าอามีนาไม่ดึงน้องสาวเข้ามาบังวิถีกระสุน เมริษาก็คงไม่เจ็บตัวแบบนี้ แต่เมริษาผู้แสนดีนั้นกลับไม่ได้ติดใจเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของอีวาน หากวันนั้นเธอไม่ตามไปช่วยบิดากับพี่สาว เรื่องก็คงไม่เกิด อามีนาไม่ได้มองว่าเธอเป็นน้องสาวเลยด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ทำแบบนี้ ...บางทีการเดินออกมาจากชีวิตขอพวกเขาก็น่าจะเป็นสิ่งที่เธอควรทำตั้งนานแล้ว “หนูไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ” เธอว่าพรางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ทำให้อีวานรู้สึกจุกหน่วงหัวใจจนน้ำตาซึม เมริษาเป็นคนดีกว่าที่คิด อีริคเลือกคนไม่ผิดจริงๆ “ถึงอย่างนั้นพ่อก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอีริคถึงรักหนู เพราะหนูเป็นคนดีแบบนี้นี่เอง อาร์เธอร์
60 กันและกัน@สนามบินดอนเมืองเมริษาทอดสายตามองออกไปยังลานกว้างที่มีเครื่องบินจอดนิ่งอยู่บนรันเวย์ ดวงตากลมโตฉายแววเศร้า รู้สึกใจหายที่รอบนี้ต้องจากเมืองไทยไปนานความเจ็บปวดในครั้งนี้มันจะกลายเป็นบทเรียนในชีวิต “ฉันขอถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายนะเมษา เธอจะไปจากคุณอีริคจริงๆหรอ” วาสิตาพยายามยื้อเวลาเอาไว้เพื่อไม่ให้เมริษาเข้าเกท หล่อนนัดอีริคไว้เวลาบ่ายโมงแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของชายหนุ่ม หรือว่าเขาทิ้งเมริษาไปแล้ว“อืม ฉันอยากลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น หลังจากนี้ชีวิตฉันจะมีแต่ความสุข” เมริษายิ้มเศร้าๆ ปากบอกว่าชีวิตจะมีแต่ความสุข แต่ว่าใจยังอาวรณ์หาใครบางคน ป่านนี้เขาคงกลับมาเก๊าไปแล้ว ผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเธอไม่มีค่าอะไรให้เขาต้องมาตามง้อหรอก “เธอแน่ใจนะว่าจะมีความสุขจริงๆ” ในระหว่างนั้นวาสิตาพยายามชะเง้อคอมองหาอีริค นี่ก็ใกล้เวลาที่เมริษาต้องเข้าเกทแล้ว เมื่อไหร่จะมาสักที“มองหาใครอยู่หรอสิตา”“มองหาคุณอี…เอ้ย! ฉันแค่คิดว่าเจอคนรู้จัก” วาสิตารีบดึงสายตากลับมาที่เมริษา “ฉันว่าเราไปหาอะไรทานก่อนดีกว่าไหม เผื่อเธอหิว”“แต่เราเพิ่งทานมาไม่ใช่หรอ”“เอ้าหรอ! ฉันลืมไปเลย” วาสิตายิ้มเจื
59 ก่อนเธอจะจากไปอีกรอบ“นั่นพ่อคุณอีริคหรอ” วาสิตาเอ่ยถามหลังจากขับรถออกมาได้สักพัก“อืม เขาพาพ่อมาช่วยคุยกับฉัน”“งั้นก็แสดงว่าเขาคงจริงจังกับเธอมาก ถึงขั้นได้พาพ่อมาช่วยคุย”“ไม่รู้สิ บางครั้งเขาสองคนแค่อาจรู้สึกผิดกับฉันก็ได้” เมริษาหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า อยากรีบๆไปจากตรงนี้ ไม่อยากเผชิญหน้ากับใครแล้ว เธอเหนื่อยเหลือเกิน“แล้วเธอจะเอาไงต่อ สรุปจะคืนดีหรือเปล่า”“คงไม่ ฉันตัดสินใจดีแล้วว่าจะไปจากที่นี่”“ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอนะเมษา แต่ว่าบางเรื่อง เธอลองลดทิฐิลงบ้างนะ ลึกๆแล้วเธออาจจะต้องการเขาก็ได้” วาสิตาดูออกว่าเมริษายังมีเยื่อใยให้อีริคอยู่ เพียงแต่ว่ายังโกรธในสิ่งที่อีริคเคยทำ หล่อนดูออกว่าทั้งสองคนยังรักและอาลัยอาวรณ์กัน ติดอยู่ที่เมริษาไม่ยอมรับความจริงว่ายังไม่ตัดใจจากอีริค เพราะวันแรกที่เพื่อนของหล่อนมาที่นี่ เมริษานั่งซึมเหมือนกำลังคิดถึงใครบางคน“ไม่…ฉันไม่ได้ต้องการเขา”“ฉันเป็นเพื่อนเธอตั้งแต่อนุบาลนะเมษา ฉันดูออกว่าเธอยังรักคุณอีริคอยู่”“บะ…บ้า! ฉันไม่ได้รักเขาแล้ว” เมริษารีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวเพื่อนสนิทอ่านใจออก“เธอกับคุณอีริคยังรักกันอยู่ ท
58 ครั้งสุดท้าย@หลายวันต่อมาอีริคหายจากอาการเจ็บป่วย อีกทั้งบาดแผลที่บริเวณศีรษะก็เริ่มแห้งสนิทแล้ว วันนี้เขาจึงกลับมาแก้ตัวอีกรอบ ปรากฏว่า...เมริษาย้ายออกไปแล้ว!ชายหนุ่มยกมือเสยผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เดินย่ำเท้านั่งไม่ติดเก้าอี้ เขารู้ว่าตอนนี้เมริษาอยู่ที่ไหนบ้านของวาสิตา“เมย์ไม่อยากเจอหน้าพี่แล้วใช่ไหม” อีริคมีสีหน้าไม่สบายใจ การที่เมริษาย้ายกลับไปที่บ้านของวาสิตาไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเลยหากเขาจะตามไปหา แต่ถ้าถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นล่ะ ที่ที่เขาไม่สามารถหาเธอเจอได้อีกแล้วเขาเชื่อว่าตอนนี้เมริษากำลังวางแผนหนีอีกรอบ และรอบนี้เธอคงไปชนิดที่ต่อให้พลิกฟ้าตามหา ก็หาไม่เจออีริคจำเป็นต้องกลับมาวางแผนใหม่ เพราะไม่อยากทำพลาดอีกแล้ว นี่ถือว่าเป็นโอกาสสุดท้าย“ให้พ่อไปคุยให้ไหม” อีวานเสนอตัวเพราะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและเป็นกังวลที่ลูกชายง้อเมียไม่สำเร็จสักที“ผมว่าอย่าเลยดีกว่าครับ ผมกลัวพ่อเหนื่อย”“พ่อไม่เหนื่อยหรอก อย่าลืมสิ ส่วนหนึ่งที่ลูกทะเลาะกับเมริษาก็เพราะพ่อนะ”“…” อีริคเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ใบหน้ากลัดกลุ้ม ผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้น “ถ้างั้นผมต้องรบกวนพ่อด้วยนะครับ บา







