ผู้หญิงใจร้าย ตอนที่อยากเรียกกระผมว่าคุณ พอเสร็จสมก็จิกหัวเรียกไอ้ เรียกแก กระผมล่ะสมเพชเวทนาตัวเองเหลือเกิน อุตส่าห์เร่งลิ้นเร่งมือ ส่งคุณหนูขึ้นสวรรค์จนแทบจะเป็นตะคริว ช่างทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ
View Moreท่ามบรรยากาศเงียบสงัดในยามราตรีของคืนเดือนแรม ที่เรือนไม้สักหลังงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเสียงหวานดังแว่วออกมาจากห้องนอนซึ่งหน้าต่างบานหนึ่งถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ขณะนั้นสาวสวยที่นอนอยู่บนเตียงยังคงหลับสนิท หล่อนพริ้มตายิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข จวบจนกระทั่งจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายถูกล่วงล้ำแบบอุกอาจ
“อื้อ... อย่า... อ๊ะ ! อ๊า...”
ปิ่นแก้วอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงครางน่าอายออกมา เมื่อนวลเนื้อในส่วนซ่อนเร้นของผู้หญิงโดนปลุกเร้าด้วยวิธีการอันลามก ตอนนี้หล่อนอยากจะลืมตาตื่นเหลือเกิน หล่อนอยากรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความฝันหรือความจริง ทว่าเปลือกตาเจ้ากรรมกลับปิดสนิท ยิ่งหล่อนพยายามต่อต้านขัดขืน บุคคลลึกลับก็ยิ่งเคลื่อนไหวรุนแรง
หล่อนร่ำร้องคร่ำครวญอย่างยอมจำนน เอวคอดกิ่วบิดเร่าแอ่นระแน้ สะโพกผายลอยขึ้นเหนือพื้น สองมือที่เคยผลักไสเจ้าของสัมผัสจาบจ้วง เปลี่ยนมาฉุดรั้งเขาคนนั้นเอาไว้ แม้จะรู้เต็มอกว่าเงาร่างดำทะมึนซึ่งกำลังขยับเขยื้อนอยู่กลางระหว่างขา ไม่ยอมล่าถอยหนีไปไหนง่าย ๆ จนกว่าเขาจะได้ดูดดื่มรสชาติหอมหวานจากกายสาว
“อ๊ะ... เร็วกว่านี้ คุณโจร... เร็ว... เร็วอีก... อ๊า !!”
ปิ่นแก้วแผดร้องเสียงแหลมในจังหวะที่ความสุขสมทะลักล้นออกมาอย่างรุนแรง ชั่วครู่แห่งการปลดปล่อยถล่มทะลายนั้นหล่อนสั่นสะท้านไปทั้งตัว รูเนื้อน้อย ๆ ขมิบดูดปลายลิ้นลื่นร้อนระริกระรัว เป็นห้วงจังหวะนานต่อเนื่อง
เมื่อได้กลืนกินน้ำหวานแสนบริสุทธิ์จนอิ่มเอมสมใจ ชายหนุ่มผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นคุณโจรปล้นสวาทก็เคลื่อนร่างสูงใหญ่ขึ้นมาทาบทับเหนือร่างอรชร
“คืนนี้คุณหนูปิ่นแก้วช่างเร่าร้อนเหลือเกิน ถ้าหากกระผมสอดเอ็นเข้าไปแทนนิ้ว คงโดนรูเล็ก ๆ ของคุณหนูบีบรัดจนขาดไปแล้ว”
เขาพึมพำอยู่ข้างหูของหล่อน ลมหายใจผะผ่าวที่เบ่ารดใส่ต้นคอระหง ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวามรัญจวน
“แก... แกเป็นใคร”
“ถ้าคุณหนูเรียกกระผมว่าคุณโจร เช่นนั้นกระผมก็คงเป็นโจรปล้นสวาท”
ปิ่นแก้วหอบหายใจอย่างหวาดหวั่น ด้วยเกรงกลัวว่าคราวนี้ชายหนุ่มอาจจะกระทำการอุกอาจร้ายแรง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดคุยกับหล่อนสักประโยค แค่ทำให้หล่อนเสียน้ำในร่างกายแล้วก็หนีหายไปในความมืด จนหล่อนหลงเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความฝัน ถึงกระนั้นหล่อนก็ไม่สามารถลืมตามองรูปพรรณสัณฐานของเขาให้ชัด ๆ หรือเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการ เพราะร่างกายของหล่อนตกอยู่ใต้อำนาจของเขา มีเพียงจมูกกับปากที่เป็นอิสระ
“ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณแทนไท ชยางกุล ลูกชายคนเดียวของคุณพระปรีชาท่านเศรษฐีใหญ่เมืองอยุธยา ถ้าหากแกข่มขืนฉัน แกจะต้องถูกจับกุดหัวแน่”
“กระผมมั่นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปมิใช่การข่มขืน และคุณหนูก็สมยอมทุกครั้ง”
“ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้ ไอ้โจรบ้ากาม !”
ปิ่นแก้วส่งเสียงโวยวายเพราะเขาพูดแทงใจดำ แต่ไม่ดังโหวกเหวกมากจนถึงขนาดที่คนอื่นซึ่งอยู่ข้างนอกสามารถได้ยิน หล่อนอายและกังวลว่าจะทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย
“ผู้หญิงใจร้าย ตอนที่อยากเรียกกระผมว่าคุณ พอเสร็จสมก็จิกหัวเรียกไอ้ เรียกแก กระผมล่ะสมเพชเวทนาตัวเองเหลือเกิน อุตส่าห์เร่งลิ้นเร่งมือ ส่งคุณหนูขึ้นสวรรค์จนแทบจะเป็นตะคริว ช่างทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ”
“คนลามก ! หยุดพูดเลยนะ”
“ถ้าหยุดพูดแล้ว กระผมทำอย่างอื่นได้หรือเปล่า” เขาไม่ถามเฉย ๆ แต่เคลื่อนไหวเรือนกายท่อนล่าง เพื่อขยับให้สัดส่วนที่ผงาดแข็งชูชันสัมผัสกับผิวเนื้อบอบบางนุ่มนวลของหญิงสาว
การกระทำหื่นหามฮึกเหิมของชายหนุ่มทำให้ปิ่นแก้วรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว แม้ว่าหล่อนไม่เคยเห็นภาพของลับของผู้ชายตอนที่พร้อมสู้ศึกมาก่อน แต่หล่อนก็ร่ำเรียนจนจบการศึกษาระดับสูงและมีความรู้มากพอสมควร ลักษณะอาการแบบนี้บ่งบอกชัดเจนว่าขั้นตอนถัดไปจะดำเนินต่ออย่างไร
“อย่า...”
ปิ่นแก้วกัดริมฝีปาก ช่วงเวลาคับขันอย่างนี้ทำไมหล่อนถึงได้อ่อนแอนัก
น้ำเสียงหวานแผ่วเบาและอากัปกิริยาเหล่านั้น ปลุกปั่นความรู้สึกในใจของชายหนุ่ม เขาหายใจฟืดฟาด ร่างสูงใหญ่ล่ำสันขึงเครียดไปทุกสัดส่วน
“กระผมจะอดใจรอ จนกว่าคุณหนูปิ่นแก้วจะเป็นฝ่ายเสนอตัวให้” พอพูดจบเขาก็ผละออกจากหล่อนทันที
ครั้นมีเสียงลมพัดหน้าต่างห้องปิดเข้าหากัน ปิ่นแก้วก็สามารถลืมตาได้เช่นทุกครั้ง หล่อนผุดลุกขึ้นนั่ง พลางลูบคลำสำรวจเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องของตัวเองอย่างลนลาน ก่อนจะควานหาชุดนอนแบบกระโปรงมาสวมใส่ แล้วก็เดินไปเปิดหน้าต่างห้อง เพื่อมองหาร่องรอยของคุณโจรปล้นสวาท
“คนอะไร ไปไวมาไวอย่างกับผี”
ปิ่นแก้วยกมือแตะที่ริมฝีปากซึ่งถูกชายหนุ่มจูบบดขยี้จนบวมตึง พลางทอดถอนใจด้วยความรู้สึกเสียดาย
ใช่ หล่อนเสียดาย เสียดายที่ไม่ได้เห็นหน้าเขา เสียดายที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน และเสียดายที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหล่อนไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้
สิ่งที่ปิ่นแก้วรู้เกี่ยวกับตัวชายหนุ่มผู้ลึกลับมีเพียงแค่ เขาจะมาหาหล่อนทุกคืนวันพระ แต่ถ้าจะให้ยอมรับว่าหล่อนรอคอยเขาอย่างใจจดใจจ่อเสมอ ก็คงไม่ได้ ปิ่นแก้วมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว เมื่ออายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ หล่อนจะต้องแต่งงานกับนายแทนไท ชยางกุล ซึ่งก็อีกไม่นาน...
แล้วหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...“คุณพระ ดิฉันสงสารลูกเหลือเกิน แทนไทต้องเจ็บปวดไปอีกนานสักแค่ไหน” คุณหญิงกรองทองร้องไห้คร่ำครวญในอ้อมกอดของคุณพระปรีชา“จนกว่าเนื้อคู่ตุนาหงันของเขาจะพ้นครรภ์ผู้ให้กำเนิด แทนไทจำเป็นต้องแลกเลือดเนื้อสร้างชีวิตบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับผมและผู้ชายทุกคนในตระกูลชยางกุล”ทั้งสองเฝ้ามองร่างของลูกชายซึ่งนอนดิ้นพล่านอยู่บนเตียงอย่างเวทนา ภาพของแทนไทค่อย ๆ เลือนรางจางหายเหมือนเงาสะท้อนบนผิวน้ำ จนกระทั่งเหลือเพียงก้อนอากาศในห่อผ้า คุณหญิงกรองทองร้องโฮ เพราะมองไม่เห็นลูกชาย“แทนไทอายุครบยี่สิบห้าปีเป็นหนุ่มใหญ่แล้วแท้ ๆ ดิฉันอุตส่าห์โล่งใจนึกว่าเขาจะไม่ได้รับการถ่ายทอดกรรมพันธุ์นี้มาจากคุณพระ”“คุณหญิงเลิกร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายเถิด แทนไทไม่ใช่จะตายเป็นผี เขาเพียงแค่เสียสละกายเนื้อเพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายเท่านั้นเอง พอถึงเวลาฟื้นคืนชีพ เขาก็มีร่างกายที่หนุ่มแน่นแข็งแรงเหมือนในวัยเบญจเพส”คุณพระปรีชาสรรหาเหตุผลมาปลอบโยนภรรยา แต่ลูกชายตัวดีกลับสอดขึ้นว่า“ถ้าต้
แทนไทถึงกับตะลึงในผลงานอันยอดเยี่ยมของตนเอง เขาประกบริมฝีปากดูดเลียรสชาติหอมหวานของสาวพรหมจรรย์อย่างเอร็จลิ้น ปิ่นแก้วเนื้อตัวสั่นเทาราวกับเป็นไข้หนาวเพราะถูกเขารีดเค้นน้ำในกายแบบต่อเนื่อง การดื่มกินหยาดหยดหล่อเลี้ยงชีวิตบริสุทธิ์ที่หลั่งรินออกมาจากร่างของหญิงซึ่งเป็นเนื้อคู่สวรรค์สร้าง ส่งผลให้แทนไทมีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น“อื้อ... พี่แทนไท... ปิ่นใจจะขาดแล้ว” หล่อนครวญครางเว้าวอนเขาเหยียดหลังขึ้นพิศดูใบหน้าสวยหวานที่แดงระเรื่อ ดวงตาสีอำพันดุจสัตว์หากินกลางคืนสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัดท่ามกลางความมืดร่างกายเปลือยเปล่าของปิ่นแก้วช่างงดงามเย้ายวนราวกับถูกสร้างมาจากมนต์ดำฤษณา ในหัวสมองแทนไทอัดแน่นไปด้วยความคิดหมกมุ่น เขาทำให้หล่อนมีความสุขมากมายขนาดนี้ อย่างน้อยหล่อนก็ควรจะทำตามความปรารถนาของเขาบ้าง!เมื่อบังเกิดอารมณ์ฮึกเหิมบ้าบิ่น แทนไทก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป ร่างสูงใหญ่ผละออกจากระหว่างขาเรียวงาม ขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเหนือใบหน้าขาวสวย ฝ่ามือหนาบีบกรามของหญิงสาวบังคับให้หล่อนอ้าปาก ก่อนจะส่งลำลึงค์แข็งร้อนเข้าไปในโพรงแก้มอุ่นชื้น
คราวนี้ปิ่นแก้วได้รับบทเรียนราคาแสนแพงเพิ่มอีกหนึ่งบทเรียน การพูดความจริงไม่ให้ผลดีเสมอไป แทนไทกดหล่อนนอนหงาย จากนั้นก็ลงมือปลดเปลื้องชุดกระโปรงออกจากร่างอรชรโดยไม่รีรอให้หล่อนมีโอกาสบ่ายเบี่ยง หญิงสาวหายใจหอบกระชั้น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวชายหนุ่มจับจิต แต่ก็ไม่กล้าต่อต้านขัดขืนร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นยืนเมื่อจัดท่วงท่าให้หล่อนนอนแยกขาชันเข่าสำเร็จ เขาเพ่งพิศเรือนร่างงดงามไร้ที่ติอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาคมกริบฉายแววเร่าร้อนในความมืดการถูกจ้องมองโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้ปิ่นแก้วรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดหวั่นยิ่งกว่าเดิม หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกรุนแรง สองเต้าอวบอัดกลมกลึงสะท้อนสะเทือนขึ้นลงราวกับถูกจับเขย่า ผิวพรรณขาวนวลละเอียดอ่อนร้อนวูบวาบเหมือนมีเปลวไฟลามเลีย“พี่แทนไท ตรวจดูเสร็จหรือยังคะ”“พี่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ ในห้องมืดแบบนี้ ใช้ตามองแค่อย่างเดียวคงพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”ปิ่นแก้วหุบขาเข้าหากันทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการตรวจดูความบริสุทธิ์ของหล่อนโดยวิธีการอื่นอีก แทนไทแกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด พลาง
ปิ่นแก้วเพิ่งจะสำเหนียกความจริงในวันนี้เอง ว่าบุคคลที่สามารถทำให้หล่อนรู้สึกเกรงกลัวมากที่สุดคือใคร เพียงแค่ได้รู้ว่าแทนไทกำลังรอให้หล่อนไปพบ เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจกันเท่านั้น มือเท้าของหล่อนก็เย็นเฉียบราวกับถูกนาบด้วยแผ่นน้ำแข็งภาพพจน์ของแทนไทในความทรงจำของปิ่นแก้ว เขาคือสุภาพบุรุษที่แสนดี อบอุ่นอ่อนโยน มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่เป็นพิษภัยอันตรายกับใครทั้งสิ้น และหล่อนก็คิดเช่นนั้นเสมอมาจนกระทั่งเวลานี้ สิ่งที่ทำให้หล่อนรู้สึกยำเกรง คือคุณงามความดีของเขาต่างหากเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของชายหนุ่ม ประตูไม้สักก็เปิดได้เองเช่นเคย ปิ่นแก้วสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปข้างในอย่างประหม่าแล้วประตูก็ปิดล็อคลงทันที!“พี่ พี่แทนไท...”“น้องปิ่นยังจำชื่อพี่ได้ด้วยหรือ”น้ำเสียงเคร่งขรึมเย็นชาที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวหัวใจสั่นขวัญผวา สองเท้าก้าวไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณระวังภัย หล่อนยืนหันรีหันขวางพยายามมองหาเขา“พี่แทนไททำแบบนี้ ปิ่นตกใจหมดเลย”“ตกใ
“กระผมจะไม่มีวันลืมค่ำคืนสุดท้ายของเราทั้งสอง”แม้ว่าดวงตาของหล่อนจะมองเห็นเพียงความมืดมน แต่กลิ่นรสและสัมผัสที่หล่อนซึมซับมาจากเขากลับยิ่งแหลมคมปิ่นแก้วแลกจูบกับคุณโจรปล้นสวาทของหล่อนด้วยความเต็มใจ และตอบสนองการเคลื่อนไหวร้อนแรงอย่างเร่าร่าน ชายหนุ่มใช้หมอนหนุนสะโพกผายให้ลอยอยู่เหนือพื้น พลางสอดท่อนเอ็นแข็งร้อนเข้ามาตรงช่องขาหนีบและกระซิบบอกหล่อนให้หุบรัดเขาไว้แน่น ๆเขาเท้าศอกพยุงร่าง ก่อนจะเริ่มโยกแก่นกายบดเบียดเสียดสีกับกลีบแคมอวบอูม หัวหน่าวของเขากระทบกับหัวหน่าวของหล่อน เนื้อหนังเปียกเปลือยถูไถกันอย่างเร่าร้อนถึงอกถึงใจ“อ๊า... คุณโจร... ระ... แรงขึ้นอีกนิด...”“แรงกว่านี้หรือ” สุ้มเสียงเขาหยอกเย้า“ฉันใกล้แล้ว... ทำแรง ๆ เร็ว ๆ” หล่อนแอ่นรับความแข็งเร่า ๆแทนไทรีบถอนตัวออก ไม่ยอมให้หล่อนเสร็จสมล่วงหน้าไปก่อน เขาจับร่างอรชรหนีบขาคู้เข่า พลันเสือกกายเข้าไปในช่องขาหนีบ แล้วก็หวดห่มบั้นท้ายเข้าหาหล่อนด้วยอารมณ์หื่นกระหายรุนแรง ปลายลึงค์บานโร่แทงเสยลงตรงยอดติ่งคัดเต่งของหญิงสาวอย่างแม
“ร่างกายของคุณหนูปิ่นแก้ว แปดเปื้อนกลิ่นของกระผมหมดแล้ว คุณหนูคิดว่าจะสามารถไปแต่งงานกับผู้ชายอื่นได้อีกหรือ สองเต้ากลม ๆ คู่นี้กระผมก็ดูดเลียแล้ว และตรงนี้ด้วย...”เขาขบเม้มติ่งหูของหล่อน ลมหายใจระอุเป่ารดลงบนผิวพรรณบอบบางอ่อนไหว พลางแทรกนิ้วเขี่ยคลึงศูนย์รวมความรู้สึกกลางกลีบอวบอูม“ทำไมคุณหนูปิ่นแก้ว ไม่ตอบกระผม”“คุณโจรกระทำฉันอยู่ฝ่ายเดียว”หล่อนพยายามฝืนร่างกายไม่ให้แอ่นเชิงกรานตอบสนองการปลุกเร้าแสนเร่าร้อน แต่ชีพจรตรงจุดซ่อนเร้นกลับเต้นตุบตุบอย่างควบคุมไม่ได้“คุณหนูจะปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับกระผมเลยอย่างนั้นหรือ”“ฉันไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”“จริงหรือ? แล้วทำไม ...ของคุณหนูฉ่ำแฉะขนาดนี้” คราวนี้ชายหนุ่มเหิมเกริมถึงขั้น ใช้องชาตล้อเล่นกับความรู้สึกของหล่อน เขาประคองปลายลึงค์ถูไถผ่ากลางร่องกลีบอวบอูม ขยับให้ความแข็งขึงบดขยี้ความอ่อนนุ่ม แล้วก็จ่อส่วนหัวบวมบานคาค้ำไว้ที่แอ่งเว้า“หยุดเถิด ได้โปรด...”ปิ่นแก้วแทบจะลืมหายใจ ร่า
Comments