/ รักโบราณ / เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด / 1.ทาบทามนางไปเป็นสะใภ้

공유

เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด
เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด
작가: ประตูฟ้ายั่งยืน

1.ทาบทามนางไปเป็นสะใภ้

last update 최신 업데이트: 2025-06-04 17:21:33

ทาบทามนางไปเป็นสะใภ้

เสียงวิ่งย่ำใบไม้แห้งดังกรอบแกรบตามมาด้วยร่างของเด็กชายคนหนึ่งโผล่พ้นชายป่า ป๋อเหวิน บุตรชายคนโตของฉู่มู่เฉินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกซูหนี่ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมมารดาด้วยอาการตื่นตระหนก เขาและเสวียนหนี่น้องสาวคนเล็กได้ชวนกันเล่นซ่อนหาบริเวณหลังจวน โดยที่ตนเป็นคนซ่อนตัวแล้วให้อีกฝ่ายเป็นคนตามหา เวลาไล่หลังผ่านไปได้หนึ่งเค่อ ป๋อเหวินไม่เห็นเสวียนหนี่จึงออกจากที่หลบซ่อนร้องเรียกหานาง ทว่าไม่พบแม้กระทั่งเงา

“ทำเช่นไรดี ฮูหยินใหญ่ต้องตีข้าแน่ ข้าจะทำเช่นไรดีซูหนี่”

เขาถามน้องสาวเสียงสั่น ขอบตาแดงรื้นราวกับว่าน้ำตาที่กักเก็บเอาไว้จะหล่นแหมะอยู่รอมร่อ แต่ไหนแต่ไรฉู่ป๋อ

เหวินมักจะมีนิสัยหัวอ่อนขี้ขลาด และทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ไม่กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง หากพบเจอปัญหาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มักจะวิ่งเต้นหาคนช่วยอยู่ร่ำไป แม้กระทั่งฉู่ซูหนี่ที่อายุน้อยกว่าเขาก็ยังหวังยึดเอาเป็นที่พึ่ง

ฉู่มู่เฉินเป็นผู้นำตระกูลฉู่ ซึ่งดำรงตำแหน่งขุนนางขั้นสาม มีภรรยาเอกนามว่าซินหยาง เมื่อแปดปีก่อนนางได้ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคนตั้งชื่อให้ว่าฉู่เสวียนหนี่ นอกจากนั้นเขายังมีบุตรชายและบุตรสาวที่เกิดจากเจียวเหมยซึ่งเป็นอนุ บุตรชายคนโตฉู่ป๋อเหวินอายุย่างสิบเอ็ดหนาว และบุตรสาวคนรองฉู่ซูหนี่อายุเก้าหนาว

ปกติแล้วฉู่เสวียนหนี่จะติดพี่ชายคนโต ส่วนซูหนี่ซึ่งเป็นพี่รองไม่ค่อยสุงสิงกับพี่น้องคนอื่น ๆ มากนัก หรือถ้าหากมีโอกาสได้เล่นด้วยกันอีกฝ่ายก็มักจะหาเรื่องกลั่นแกล้งน้องสาวคนเล็กจนได้รับบาดเจ็บเนื้อตัวเขียวช้ำอยู่เป็นประจำ ด้วยสาเหตุนี้ฉู่เสวียนหนี่จึงไม่ค่อยให้ความสนิทสนมกับพี่สาวเท่าไหร่นัก

“ข้าจะทำอย่างไรดี หากนางเป็นอะไรขึ้นมาข้าต้องถูกตีแน่ ๆ”

เหงื่อกาฬเม็ดเล็กผุดขึ้นที่หน้าผาก เขาพูดพลางย่ำเท้าสลับไปมา เนื่องด้วยลึกเข้าไปนั้นเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากต้นไม้สูงตระหง่านและหญ้ารกชัฏยังมีสัตว์ป่าหลายชนิด รวมไปถึงสัตว์ป่าดุร้ายที่พร้อมกระโจนปลิดชีพไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่

“อย่าตาขาว! มีคนอื่นรู้หรือไม่ว่าท่านพี่พานางเข้าไปเล่นหลังจวน”

“ไม่ ไม่มีผู้ใดรู้ เช่นนั้นข้า... ข้าต้องรีบไปแจ้งท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่ก่อนว่าเสวียนหนี่หายตัวไป”

เด็กชายพูดจบก็ทำท่าจะวิ่งกลับไปที่เรือนหลัก ทว่าก็ถูกผู้เป็นน้องสาวรั้งตัวไว้เสียก่อน นางมองหน้าพี่ชายด้วยแววตานิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนกับการที่อีกฝ่ายหายตัวไป ก่อนหน้านี้นางกับพี่ชายก็มักจะไปเล่นบริเวณนั้นอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันก็ไม่เห็นว่ามีอะไรให้น่าเป็นห่วง

วันนี้เรือนใหญ่ค่อนข้างวุ่นวายนัก ท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่คงไม่มีเวลามาคอยดูแลบุตรสาวของตนเองหรอก เพราะซีฮันอ๋องมาเยี่ยมเยือนบิดาถึงจวน ทำให้เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ต่างถูกเรียกไปปรนนิบัติรับใช้ สาวใช้ที่คอยดูแลเสวียนหนี่ก็ถูกเกณฑ์ไปด้วย ทำให้อีกฝ่ายพ้นขอบเขตระยะสายตาผู้ใหญ่ ครั้นพอถูกพี่ชายคนโตชวนไปเล่นก็หายตัวไปอีก

ซีฮันอ๋องนับเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองอันดับต้น ๆ แต่ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่าเทียบเท่ากับกษัตริย์ เพราะต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่าไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดถึง ด้วยความที่ซีฮันอ๋องเป็นผู้กุมอำนาจเสียส่วนใหญ่ เป็นดั่งนิ้วมือที่คอยชักใยหุ่นเชิดจึงไม่มีผู้ใดอาจหาญลบหลู่ การที่ซีฮันอ๋องมาเยี่ยมจวนตระกูลฉู่ครั้งนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาแก่ตระกูล ผู้ใหญ่ทุกคนจึงต้องอยู่เพื่อต้อนรับอย่างดีจะได้ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง

“พี่ใหญ่ ช้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าว่าเอาอย่างนี้ดีหรือไม่” เด็กหญิงที่มีใจริษยาได้คิดบางสิ่งบางอย่างออก มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยนึกถึงคำพร่ำสอนของมารดาที่บอกให้นางชิงดีชิงเด่นกับฉู่เสวียนหนี่ คิดได้เช่นนั้นนางจึงแสร้งแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจพี่ชายอยู่บ้าง “ตอนนี้ท่านพ่อ ฮูหยินใหญ่ และท่านแม่ของเรากำลังต้อนรับการมาของซีฮันอ๋องอยู่ เวลานี้เด็กอย่างพวกเราไม่สมควรเข้าไปยุ่มย่าม”

“นี่... เจ้าหมายความว่า!” ป๋อเหวินมีท่าทีมึนงง ไม่เข้าใจว่าน้องสาวกำลังหมายถึงอะไร

“เสวียนหนี่กับท่านพี่เล่นซ่อนหากันอยู่ไม่ใช่หรือ บางทีนางอาจไม่ได้หายไปไหน เผลอ ๆ หากนางหาพี่ใหญ่ไม่เจอก็อาจจะเดินกลับจวนเองด้วยซ้ำ” ฉู่ซูหนี่เอ่ยแนะนำพี่ชาย

“ตะ...แต่เสวียนหนี่” เด็กชายมีท่าทีลังเล

“หากท่านพี่ไปแจ้งฮูหยินใหญ่ว่าบุตรสาวของนางหายตัวไปตอนที่กำลังเล่นอยู่กับท่านพี่” นางเว้นจังหวะเล็กน้อย ค่อยเสริมอย่างจริงจังว่า “ฮูหยินใหญ่จะต้องฆ่าท่านพี่ตายแน่”

“ฆะ... ฆ่าเลยหรือ!” ฉู่ป๋อเหวินมีท่าตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ความที่ตนเองยังเป็นเด็กจึงเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย

“อืม! ใช่” ฉู่ซูหนี่พยักหน้าช้า ๆ อย่างเห็นอกเห็นใจ นางลูบหลังมือพี่ชายปลอบขวัญแล้วเสนอทางออกวิธีอื่นให้  โดยที่ป๋อเหวินไม่รู้เลยว่าภายในใจของนางนั้นกำลังคิดการใดอยู่

“อีกเพียงไม่นานก็จะเย็นแล้ว ยามนั้นเมื่อท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่ไม่เห็นว่านางกลับจวน พวกเขาก็จะออกตามหาตัวนางเอง จำไว้ว่าท่านพี่ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ทำตามที่ข้าบอกแล้วท่านพี่จะไม่มีความผิด”

“ขะ... ข้าต้องทำเช่นนั้นหรือถึงจะไม่มีความผิด” เด็กชายยังมีสีหน้าเป็นกังวล เขาเชื่อในคำพูดของน้องสาวทุกประการ

“ใช่แล้ว...ข้าหวังดีกับท่านพี่นะเจ้าคะ” นางพยักหน้าหงึกหงัก แต่ถึงกระนั้นผู้เป็นพี่ชายก็ยังคงไม่มั่นใจ เขายังเด็กนักยังไม่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมอันใดทั้งสิ้น

“แต่... แต่ฮูหยินใหญ่จะไม่ทำอะไรข้าจริง ๆ หรือถ้านางรู้ภายหลัง”

“แล้วนางจะทำอันใดพี่ใหญ่ได้เล่า หากพี่ใหญ่ยืนกรานว่าไม่รู้ไม่เห็น” นางบอกกล่าวอย่างใจเย็น

ความคิดของนางไปไกลเกินกว่าเด็กวัยเก้าขวบแล้ว นางไม่ได้พูดเพราะความไร้เดียงสา แต่พูดเลียนแบบตามคำสั่งสอนของมารดาต่างหาก สาเหตุหลักที่บิดาโปรดปรานท่านแม่เป็นพิเศษ เพราะท่านได้ให้กำเนิดป๋อเหวินซึ่งเป็นบุตรชายคนแรกของตระกูล  สำหรับท่านพ่อที่เป็นขุนนางระดับสาม การที่ได้บุตรชายถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่าบุตรสาวเสียอีก

ส่วนซินหยางแม้จะเป็นภรรยาเอกแต่นางไม่สามารถมีบุตรชายให้แก่ท่านพ่อได้  ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้รับความโปรดปรานเทียบเท่ากับท่านแม่ที่เป็นเพียงอนุ

ด้านซีฮันอ๋องที่อยู่พูดคุยกับฉู่มู่เฉินจนถึงยามเซิน ทันทีที่ส่งอีกฝ่ายเสร็จเจียวเหมยจึงได้ถามผู้เป็นสามีอย่างใคร่รู้ เพราะนางยังคงไม่กระจ่างกับสิ่งที่ซีฮันอ๋องพูดเมื่อครู่

“ท่านพี่ หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ ท่านอ๋องอยากหมั้นหมายเสวียนหนี่ไว้ให้บุตรชายคนโต ข้าเข้าใจถูกหรือไม่”

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว” ฉู่มู่เฉินหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะการที่ได้เกี่ยวดองกับซีฮันอ๋องเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอด ในที่สุดเสวียนหนี่ก็ทำให้เขาสมหวังโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากร้องขอใด ๆ

“โชคเข้าข้างจริง ๆ ในที่สุดข้าก็จะได้เกี่ยวดองกับซีฮันอ๋องแล้ว” อีกฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี ส่งผลให้เจียวเหมยรู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อย เพราะเหตุใดสตรีที่ท่านอ๋องหมายตาเอาไว้ให้บุตรชายถึงไม่เป็นบุตรสาวของนาง ไม่รู้ว่าเสวียนหนี่มีวาสนาดีขนาดไหนกัน ถึงได้มีตระกูลทรงอิทธิพลที่สุดในแคว้นเถียนมาทาบทามไว้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้

เจียวเหมยพยายามข่มกลั้นความริษยาไว้ภายใน ก่อนจะแสร้งปั้นหน้ายิ้มเสมือนยินดีกับอีกฝ่ายไปด้วย “การเกี่ยวดองกับท่านอ๋องถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง ตระกูลฉู่ของเราจะได้มั่นคงยิ่งกว่าเดิม ข้าดีใจกับท่านพี่ด้วยนะเจ้าคะ ยินดีกับเสวียนหนี่และฮูหยินใหญ่ด้วย”

ซินหยางมองดูทั้งคู่แย้มยิ้มหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข นางจึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ใจจริงแล้วนางไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการทาบทามในครั้งนี้เท่าใดนัก เพราะนางมองเจตนาของคนผู้นั้นออก การที่เขาอยากได้เสวียนหนี่ไปเป็นสะใภ้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่ฉู่มู่เฉินที่อยากได้ซีฮันอ๋องมาคอยหนุนรากฐานตระกูลให้มั่นคงหรอกนะ แต่อีกฝ่ายก็กระหายอำนาจไม่แพ้กัน

ดังนั้นแม้ตระกูลฉู่จะมีอิทธิพลไม่เทียบเท่ากับท่านอ๋อง แต่ก็มิได้น้อยหน้ากว่าตระกูลอื่น ๆ ออกจะเป็นหมายเลขหนึ่งเสียด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาดูดี ๆ

“แล้วนี่! เสวียนหนี่ไปไหน วันนี้ข้ายังไม่เห็นนางเลย” ครั้นเมื่อหัวเราะจนพอใจเขาจึงได้หันมาถามภรรยา

“น่าจะเล่นอยู่ที่ศาลากลางสวนเจ้าค่ะ” นางตอบกลับ

“อืม! ฮูหยิน ต่อไปนี้เจ้าต้องดูแลบุตรสาวของเราให้ดี นางจะเป็นตัวนำโชคมาสู่ตระกูลเราเข้าใจหรือไม่” เขาเอ่ยกำชับภรรยา

“เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจแล้ว” ซินหยางตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในใจรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย

ลึกเข้าไปในป่าหลังจวนตระกูลฉู่ เสวียนหนี่ร่ำไห้น้ำตาอาบแก้มด้วยความหวาดกลัวจับจิต เด็กหญิงตัวน้อยเดินไปไม่รู้ทิศรู้ทาง ด้วยความที่ยังเด็กมากนักและไม่รู้ว่าตนเองกำลังหลงทางอยู่ในป่า นางจึงเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ป่าฟังดูน่าขนลุก เสวียนหนี่พยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้นให้เงียบลง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้มีบางอย่างที่อันตรายกว่า สิ่งนั้นคือแมงมุมพิษร้ายแรงมันกำลังไต่จากชายอาภรณ์ขึ้นมาที่บริเวณลำคอ เมื่อเสวียนหนี่รู้สึกตัวนางจึงรีบปัดมันออกให้พ้น ทว่ากลับถูกแมงมุมกัดเข้าที่ปลายนิ้ว ความเจ็บปวดจากการถูกกัดทำให้นางเผลอปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาอย่างลืมตัว ระยะแรกเด็กหญิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมหาศาลจนยกแขนไม่ขึ้น แต่เวลาผ่านไปไม่นานกลับรู้สึกชาไปทั้งตัวไร้เรี่ยวแรงจะขยับกาย ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็พลันตกอยู่ในความมืดมิด เสียงกรีดร้องดังอยู่ในหูได้ไม่นานสติสัมปชัญญะของนางก็พลันดับวูบลงไปพร้อมกับร่างน้อย ๆ ที่ทิ้งตัวหมดสติลงแนบผืนพสุธา

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   16.จับกด

    จับกดย่างเข้าสู่ชุนเทียนกลีบบุปผาร่วงหล่นอำลาต้นสู่พื้นดินเผยให้เห็นยอดอ่อนใบใหม่ที่กำลังจะแตกออก สีของยอดอ่อนนั้นแลดูเขียวขจีน่าชื่นชมไม้บางชนิดได้ทิ้งใบแต่คงไว้ซึ่งดอกที่กำลังบานสะพรั่งทิวทัศน์งามแต่งแต้มด้วยสีสันสรรสร้างโดยธรรมชาติบรรยากาศบริเวณนี้น่าชื่นชมไม่ยิ่งหย่อนไปจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าตามจินตนาการของผู้คน กลิ่นอายลมหวนพัดโชยมาคละคลุ้งกลิ่นหอมของมวลดอกไม้ทำให้เพียนเพียนสูดหายใจไปเต็มปอดเสวียนหนี่มองเด็กหญิงตัวน้อยแล้วอดที่จะแย้มยิ้มตามไม่ได้ ตอนที่นางอายุเท่าเพียนเพียนนั้น ถึงแม้จะเติบโตในชนบทแต่ทว่าทิวทัศน์รอบกายไม่ได้สวยงามมากมายเพียงนี้ ในยุคโบราณผืนป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์ในขณะที่บ้านเกิดของเสวียนหนี่ในยุคปัจจุบันเริ่มมีการตัดต้นไม้มาสร้างตึกรามบ้านช่องจนเขาบางลูกกลายเป็นเขาหัวโล้นไปแล้ว“เพียนเพียน”“เจ้าคะ”“อีกเพียงร้อยลี้ก็จะถึงจุดหมายปลายทางของพวกเราผ่านเขาลูกนั้นไปก็เข้าเขตหุบเขาอูยาแล้ว”

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   15.ทิ้งเด็กไว้แล้วไปต่อ

    ทิ้งเด็กไว้แล้วไปต่อถึงแม้มารดาของเด็กจะยังไม่มาตามนัด แต่ถานถานและเสวียนหนี่ไม่อาจทนรอจนฟ้าสางได้ถานถานควบเกวียนเข้ามาในตลาด พอถึงแหล่งชุมชนเขาอุ้มเด็กลงจากเกวียนแล้วปล่อยให้นางยืนโดดเดี่ยวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตรงนั้นด้วยความสงสารเสวียนหนี่พยายามขอร้องเขาแต่ถานถานก็ไม่คิดจะใจอ่อน“พื้นฐานจิตใจของท่านข้าคิดว่าไม่ใช่คนใจร้าย”“เจ้าจะไปรู้ดีกว่าข้าได้อย่างไร”“ท่านไม่สงสารนางหรือเจ้าคะ”“ไม่ ออกเดินทางได้แล้ว เราเสียเวลามามากพอแล้ว”“...”เขาบอกให้นางขึ้นเกวียนแล้วตนเองก็เข้าไปนั่งประจำที่ของตน ก่อนจากไปเสวียนหนี่ไม่ยอมละสายตาจากเด็กน้อยที่กำลังยืนร่ำไห้ชีวิตต่อจากนี้ไปจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ ที่เสวียนหนี่ทำได้คือช่วยให้นางมีลมหายใจต่อ แต่เสียใจที่ไม่อาจช่วยได้ตลอดรอดฝั่งเกวียนของทั้งสองออกจากจุดนั้นไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่โรงพนัน เสวียนหนี่ชะเง้อมองเข้าไปข้างในเห็นผู้คนม

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   14.รับบทคนขุดสุสาน

    รับบทคนขุดสุสาน“โมโหขนาดนี้อย่าบอกนะว่าเจ้าจะช่วยนาง”ถานถานดึงแขนเสวียนหนี่เข้ามากระซิบกระซาบถามเป็นครั้งที่สอง“ตาแก่ถาน ท่านพอจะช่วยลูกของนางได้หรือไม่เจ้าคะ”“เหอะ อย่าฝัน”หลังอาทิตย์อัสดงที่สุสานบรรพชนตระกูลผิง“เจ้าบ้าไปแล้วรึ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดยังจะแส่หาเรื่องอีก”เขาตำหนินางด้วยน้ำเสียงที่เบาพอสมควร บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัดวังเวง ท้องฟ้ายามนี้สิ้นแสงไปได้ระยะหนึ่ง เสียงสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืนดังหวีดหวิวน่าหวาดกลัวในขณะที่ทั้งสองเดินตามทางรกร้างแคบ ๆ เสวียนหนี่เกาะชายผ้าชายแก่ไว้เพราะรู้สึกกลัวจนขนหัวลุก ทุกย่างก้าวของนางสั่นเครือเกือบจะก้าวต่อไปไม่ไหวสำหรับถานถานไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นกลัวอะไรเลยเพราะในบางวันที่เขาเข้าป่าไปหาตัดไม้ก็มักจะนอนกลางป่ากลางเขาเป็นเรื่องปกติไม่ว่าจะในสุสานหรือพงไพรล้วนบรรยากาศอึมครึมไม่แพ้กัน สัตว์ป่าที่ส่งเสียงน่ากลัวใ

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   13.เจ้าสาวผี

    เจ้าสาวผีเข้าสู่วันที่สิบของการออกเดินทาง เสบียงที่นำติดตัวมานั้นเริ่มร่อยหรอเต็มที เสวียนหนี่ก้มลงมองถุงผ้าที่นางห่อเสบียงแล้วมองไปรอบ ๆ ข้างทางที่ผ่านมานั้นไม่มีลำธารหรือบ่อน้ำให้เห็น เป็นเพราะเส้นทางที่เขาพามาไม่ได้สะดวกอย่างเช่นที่เขาได้บอกไว้ก่อนหน้าฉะนั้นการหาเสบียงเพิ่มจึงเป็นปัญหาหลักของการเดินทางครั้งนี้“ตาแก่ถาน ข้ากระหายน้ำ”“แถวนี้ไม่มีน้ำหรอก อดทนอีกหน่อย พ้นจากตรงนี้ไปราวยี่สิบลี้น่าจะมีน้ำตกถ้าข้าจำไม่ผิด”“ยี่สิบลี้เลยหรือเจ้าคะ”ในขณะที่เสวียนหนี่กำลังหดหู่สิ้นหวังสายตาของนางเหลือบไปเห็นป่าไผ่ข้างทาง นางชี้มือไปที่ป่าไผ่พร้อมบอกเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ“ตาแก่ถาน นั่นป่าไผ่เจ้าค่ะ”“ป่าไผ่แล้วอย่างไร”“ข้าหิวน้ำ ในต้นไผ่มีวุ้นสามารถกินแก้กระหายได้”“เจ้าก็ว่าไปเรื่อยคุณหนูอย่างเจ้าจะไปรู้เรื่องของป่าได้อย่างไร”เขาหัวเราะนางอย่างขำขัน แต่ก็ยังดึงบังเหียนบังคับล่อให้หยุดเมื่อจอดสนิทแล้วเสวียนหนี่กระโดดลงมาจากเกวียน&nb

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   12.ผ่านด่านเมืองหลวง

    ผ่านด่านเมืองหลวงเช้าวันรุ่งขึ้น เสวียนหนี่ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงร้องของสัตว์บางชนิดนางลุกขึ้นจากเตียงไม้ไผ่ผุพังในกระท่อมของถานถานแล้วเดินออกมาขยี้ตาดูที่หน้ากระท่อมนั้นถานถานกำลังจูงล่อมาหนึ่งตัว ล่อตัวนี้ลักษณะดี แข็งแรงเหมาะแก่การใช้เป็นพาหนะในการแบกขน เจี่ยนถานถานมัดมันไว้กับเสาหน้าบ้านแล้วเดินมาดื่มน้ำดื่มท่าให้หายเหนื่อย“ท่านเอามันมาจากที่ใดเจ้าคะ”“ซื้อมา”“เอาเงินจากไหนไปซื้อมา”“ก็ปิ่นปักผมกับต่างหูนั่นอย่างไรอ้อมีแหวนด้วย”“ปิ่นและต่างหูของข้าท่านเอาไปตอนไหน”“ตอนเจ้าหลับ”คราวนี้เป็นเสวียนหนี่บ้างที่เป็นฝ่ายกัดฟันกรอดอย่างเหลืออดนางอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ แต่ก็ระงับสติได้ทันกลัวว่าถานถานจะไม่พานางไปหุบเขาอูยาเขายังดื่มน้ำในถุงหนังสัตว์อย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนในขณะที่เสวียนหนี่ตอนนี้โมโหสุดขีดเพราะได้กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวโดยสมบูรณ์ความต

  • เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด   11.วัดใจกันไปเลย!

    วัดใจกันไปเลย!“เห็นทีว่าท่านคงไม่อยากใช้ชีวิตอิสระอีกต่อไปแล้ว ก็ดี...เรียกทหารมาเลย”“เจ้าพูดอะไรของเจ้ากัน”“ทาสสินะ ทาสที่หลบหนีเสียด้วย”ถานถานหน้าถอดสี ความลับที่เขาเก็บซ่อนมานานนับสิบปี แม่นางผู้นี้รู้ได้อย่างไรกัน มาถึงตอนนี้เสวียนหนี่ไม่ได้เป็นรองเขาอีกต่อไป นางละสายตาไปยังกลุ่มทหารที่กำลังตรงมาหา เห็นท่าทีตื่นกลัวของถานถานนางยิ่งมั่นใจว่าตนเป็นฝ่ายเหนือกว่าบอกเขาต่ออย่างไม่เกรงกลัว“ทหารมานู่นแล้ว ข้าจะไม่หนี แต่ท่านกล้าวัดใจกับข้าหรือไม่เจ้าคะ”“เจ้าขู่ข้างั้นรึ”“ตัวข้านั้นรอดจากความตายมาหลายครั้ง ความตายหาใช่สิ่งน่ากลัวสำหรับข้าไม่ ตายแล้วก็หลุดพ้นแล้ว ๆ กันไป แต่ท่านนี่สิข้าดูก็รู้ว่าท่านโหยหาชีวิตอิสระเพียงใดหากถูกจับกลับไปเป็นทาสรองมือรองเท้าพวกขุนนางชั่วช้าอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วถูกทรมานโขกสับทั้งเช้าเย็นจะตายก็ไม่ได้ตายท่านว่าชีวิตที่เหลือของข้ากับท่านใครจะน่าเวทนาก

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status