ลมหนาวพัดโชยมาปะทะใบหน้าของเมรี่ กลิ่นเค็มของน้ำทะเลและกลิ่นคาวปลาคละคลุ้งไปทั่วท่าเรือลอนดอน ในยามวิกาลเช่นนี้ ท่าเรือยังคงคึกคักไปด้วยแสงไฟจากเรือที่จอดเทียบท่าและเสียงเครื่องจักรที่ทำงาน เมรี่และเอดิสันยืนหลบอยู่ในมุมมืดของตรอกแคบๆ แห่งหนึ่ง สอดส่องสายตาไปยังโกดังเก่าที่ลอร์ดแอชตันบอกว่าเป็นที่คุมขังเฟรเดอริค
โกดังหลังนั้นตั้งอยู่โดดเดี่ยวริมน้ำ ผนังอิฐสีเข้มดูเก่าแก่และทรุดโทรม หน้าต่างบางบานถูกปิดตายด้วยไม้กระดานผุๆ แต่บางบานก็เปิดแง้ม เผยให้เห็นแสงไฟสลัวๆ ที่ลอดออกมา เอดิสันก้มลงมองแผนที่ที่กางอยู่บนมือของเขา "ตามข้อมูลของลอร์ดแอชตัน โกดังแห่งนี้มีทางเข้าออกหลายทางครับ" เอดิสันกระซิบ "แต่ทางเข้าหลักถูกเฝ้าอย่างแน่นหนา เราจะต้องหาทางเข้าไปทางอื่น" "แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเฟรเดอริคอยู่ที่ไหนในโกดังแห่งนี้คะ?" เมรี่ถาม ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง "เราจะต้องเข้าไปข้างใน และหาเบาะแสครับ" เอดิสันตอบ "ผมเชื่อว่าเฟรเดอริคจะต้องทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ให้เราได้ติดตาม" เสียงฝีเท้าของชายสองคนดังใกล้เข้ามา เมรี่และเอดิสันรีบซ่อนตัวอยู่หลังลังไม้ขนาดใหญ่ ชายสองคนนั้นแต่งกายด้วยเสื้อโค้ทสีเข้ม คาดว่าจะเป็นยามของ 'เงาแห่งลอนดอน' พวกเขาเดินผ่านมาโดยไม่ทันสังเกตเห็นเมรี่และเอดิสัน "เอาล่ะครับ มิสแบล็ควู้ด" เอดิสันกระซิบ "เราจะแยกกันครับ ผมจะหาทางเข้าไปทางด้านหลังโกดัง คุณลองหาทางเข้าไปทางด้านข้างดูนะครับ ระวังตัวด้วย อย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด" "แล้วเราจะเจอกันที่ไหนคะ?" เมรี่ถาม "เราจะเจอกันที่ด้านในของโกดัง ใกล้กับทางเข้าหลักครับ" เอดิสันตอบ "หากมีอะไรผิดปกติ ให้รีบส่งสัญญาณทันที" เมรี่พยักหน้า เธอรู้ว่านี่คือภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่เธอเคยเผชิญมา แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เธอจะต้องช่วยพี่ชายให้ได้! เมรี่ค่อยๆ คลานไปตามตรอกแคบๆ เลียบไปกับกำแพงโกดัง เธอสังเกตเห็นหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดแง้มอยู่เล็กน้อย และอยู่สูงจากพื้นดินพอสมควร เมรี่พยายามปีนขึ้นไป แต่ก็ไม่สามารถเอื้อมถึง เธอจึงมองหาอะไรบางอย่างที่จะสามารถใช้เป็นที่เหยียบได้ เธอเห็นลังไม้เก่าๆ ใบหนึ่งวางอยู่ไม่ไกลนัก เมรี่ใช้แรงทั้งหมดในการเข็นลังไม้ใบนั้นมาวางไว้ใต้หน้าต่าง แล้วปีนขึ้นไปยืนบนลังไม้ เธอยื่นมือออกไปจับขอบหน้าต่าง และพยายามดันหน้าต่างให้เปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย เสียงบานพับเก่าๆ ดังเอี๊ยดอ๊าดในความเงียบ เมรี่ใจหายวาบ เธอเกรงว่าเสียงนั้นจะดึงดูดความสนใจของยาม แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้ยิน เธอค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปในโกดัง ภายในโกดังมืดสลัวและเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น มีแสงไฟสลัวๆ จากหลอดไฟบางดวงที่เปิดอยู่ เมรี่มองเห็นลังไม้ขนาดใหญ่มากมายวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่ บางลังถูกเขียนด้วยตัวอักษรจีนโบราณ บางลังก็เป็นภาษาอังกฤษที่ระบุว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย เมรี่พยายามเดินอย่างเงียบเชียบที่สุด เธอสอดส่องสายตาไปรอบๆ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับเฟรเดอริค เธอสังเกตเห็นรอยเท้าบูทขนาดใหญ่หลายรอยบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น เธอพยายามเดินตามรอยเท้านั้นไปเรื่อยๆ รอยเท้านำเธอไปยังบริเวณหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นห้องทดลองลับ มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์แปลกๆ วางอยู่เต็มโต๊ะ มีกลิ่นกำมะถันและกลิ่นฉุนๆ ของสารเคมีคละคลุ้งอยู่ในอากาศ เมรี่รู้สึกขนลุกซู่ เธอจำได้ว่าลอร์ดแอชตันบอกว่าพวกเขาทำการทดลองบางอย่างที่นี่ เธอเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องทดลอง เธอเห็นเอกสารบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ เมรี่หยิบขึ้นมาดู มันเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับสูตรการสร้างแก๊ส 'ควันสีม่วง' ที่ลอร์ดแอชตันพูดถึง และมีรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบของแก๊สที่มีต่อมนุษย์ "นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เธอรู้สึกถึงความอันตรายที่มองไม่เห็นที่แฝงตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ขณะที่เธอกำลังอ่านเอกสารอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกห้องทดลอง เมรี่รีบซ่อนเอกสารไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วหาที่ซ่อนตัวอยู่หลังตู้เก็บสารเคมีขนาดใหญ่ ประตูห้องทดลองเปิดออกช้าๆ ชายสองคนเดินเข้ามาในห้อง คนหนึ่งคือมิสเตอร์คลาร์ก! ส่วนอีกคนเป็นชายร่างสูงใหญ่ มีใบหน้าที่เคร่งขรึม และดวงตาที่เย็นชา เขาดูเหมือนจะเป็นผู้นำของกลุ่มนี้ "มิสเตอร์คลาร์ก เราได้ข่าวมาว่ามีคนแอบเข้ามาในโกดังของเรา" ชายร่างสูงใหญ่กล่าว "เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าไม่มีใครเห็นเรา?" "แน่นอนครับท่านผู้นำ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ผมมั่นใจว่าไม่มีใครเห็นเรา" เมรี่ใจหายวาบ 'ท่านผู้นำ!' เธอรู้แล้วว่าชายร่างสูงใหญ่คนนี้คือหัวหน้าของ 'เงาแห่งลอนดอน'! "แล้วเรื่องของนักข่าวคนนั้นล่ะ?" ท่านผู้นำถาม "เจ้าแน่ใจนะว่าจัดการเขาเรียบร้อยแล้ว" "เรียบร้อยแล้วครับท่านผู้นำ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "เขาจะไม่สามารถเปิดเผยความลับของเราได้อีกต่อไป" เมรี่รู้สึกโกรธแค้น นักข่าวคนนั้นถูกฆ่า! แล้วเฟรเดอริคล่ะ! "แล้วนักสืบเฟรเดอริค แบล็ควู้ดล่ะ?" ท่านผู้นำถาม "เขายังคงปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมืออยู่ใช่ไหม?" "ใช่ครับท่านผู้นำ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "เขาปากแข็งมากจริงๆ ครับ เราพยายามเค้นข้อมูลจากเขาแล้วทุกวิถีทาง แต่เขาก็ไม่ยอมปริปากเลย" เมรี่รู้สึกโล่งใจ เฟรเดอริคยังมีชีวิตอยู่! "ถ้าอย่างนั้น ก็ใช้ 'ควันสีม่วง' กับเขา" ท่านผู้นำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เขาจะได้บอกความจริงกับเราในที่สุด" "แต่ท่านผู้นำครับ" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "การใช้ 'ควันสีม่วง' กับมนุษย์นั้นอันตรายมากนะครับ อาจจะทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ หรืออาจจะถึงแก่ชีวิตได้เลยนะครับ" "ข้าไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นอย่างไร!" ท่านผู้นำกล่าว "ข้าต้องการข้อมูลจากเขา และข้าก็จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา" หัวใจของเมรี่เต้นรัวด้วยความกลัว เธอจะต้องช่วยเฟรเดอริคให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรเขา! เมื่อมิสเตอร์คลาร์กและท่านผู้นำเดินออกไปจากห้อง เมรี่ก็รีบคลานออกมาจากที่ซ่อน เธอหยิบเอกสารที่เธอเจอออกมาอ่านอีกครั้ง เธอพยายามทำความเข้าใจสูตรการสร้างแก๊ส 'ควันสีม่วง' และวิธีแก้พิษ "ฉันต้องหาทางหยุดยั้งพวกเขาให้ได้" เมรี่พึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เมรี่กำลังจดจ่ออยู่กับการอ่านเอกสาร จู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งคว้าเข้าที่ไหล่ของเธอ เมรี่ตกใจจนกรีดร้องออกมา "ชู่ว์! ใจเย็นๆ ครับมิสแบล็ควู้ด!" เสียงกระซิบของเอดิสันดังขึ้นข้างหูเธอ "ผมเองครับ" เมรี่หันไปมองเอดิสันด้วยความโล่งใจ "คุณเอดิสัน! คุณมาได้ยังไงคะ?" "ผมได้ยินเสียงคุณกรีดร้องน่ะครับ" เอดิสันตอบ "ผมจึงรีบเข้ามาดู" เขาเหลือบมองไปที่เอกสารในมือของเมรี่ "คุณเจออะไรบางอย่างใช่ไหมครับ?" เมรี่พยักหน้า เธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เธอได้ยินและสิ่งที่เธอพบให้เอดิสันฟัง เอดิสันฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเรื่อยๆ "นี่มันน่ากลัวเกินกว่าที่ผมคิดไว้มากครับ" เอดิสันกล่าว "พวกเขาจะใช้ 'ควันสีม่วง' กับเฟรเดอริคจริงๆ หรือนี่!" "เราต้องช่วยเขาให้ได้ค่ะ!" เมรี่กล่าว "คุณพอจะทราบไหมคะว่าเฟรเดอริคถูกขังอยู่ที่ไหน?" เอดิสันก้มลงมองแผนที่อีกครั้ง "ตามแผนผังที่ผมเจอ เฟรเดอริคน่าจะถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินของโกดังแห่งนี้ครับ" "แล้วเราจะไปที่นั่นได้อย่างไรคะ?" "ผมเจอทางลงไปห้องใต้ดินอยู่ทางด้านหลังโกดังครับ" เอดิสันตอบ "แต่มันถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา" "แล้วเราจะเปิดมันได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม "ผมคิดว่าผมมีวิธีครับ" เอดิสันกล่าว "แต่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะทางนั้นอาจจะมีกับดักซ่อนอยู่ก็ได้" สู่ห้องใต้ดิน เมรี่และเอดิสันเดินไปที่ด้านหลังของโกดัง พวกเขาพบทางลงไปห้องใต้ดินที่ถูกปิดด้วยประตูเหล็กขนาดใหญ่ มีกุญแจคล้องอยู่หลายอัน "คุณมีวิธีเปิดมันจริงๆ หรือคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "ผมมีเครื่องมือบางอย่างครับ" เขาหยิบอุปกรณ์เล็กๆ ชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า มันดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือสะเดาะกุญแจ เอดิสันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการสะเดาะกุญแจเหล่านั้น "คุณทำได้ยังไงกันคะ!" เมรี่อุทานด้วยความทึ่ง "ผมเป็นนักสืบครับ มิสแบล็ควู้ด ผมจำเป็นต้องมีความรู้และทักษะหลายอย่าง" เอดิสันตอบ ประตูเหล็กเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นบันไดที่ทอดลงไปในความมืด กลิ่นอับชื้นและกลิ่นเหม็นสาบของหนูคละคลุ้งขึ้นมา เมรี่รู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย แต่เธอก็ต้องอดทน "คุณต้องระวังตัวนะครับมิสแบล็ควู้ด" เอดิสันกระซิบ "ที่นี่อาจจะมีกับดักซ่อนอยู่ก็ได้" เมรี่พยักหน้า พวกเขาค่อยๆ ก้าวลงไปในความมืด ใช้ไฟฉายส่องนำทาง บันไดนั้นแคบและชัน มีหยากไย่และฝุ่นผงเกาะอยู่เต็มไปหมดสองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน ผู้การฟิลลิปส์ยืนจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก"ส่งสมุดบันทึกนั่นมาให้ข้า!" ผู้การฟิลลิปส์คำราม "แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาคว้าปืนพกที่เก็บซ่อนไว้ในรถขึ้นมาเล็งไปที่ผู้การฟิลลิปส์"คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!" ผู้การฟิลลิปส์ยิ้มเยาะ "ข้ามีกำลังคนมากกว่าที่พวกแกคิดนัก!"ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ผู้การฟิลลิปส์ แล้วชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำหลายคนก็ลงมาจากรถ"นี่ไง! พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว!" หนึ่งในนั้นตะโกนสถานการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมรี่รู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมแล้ว"เราต้องสู้ครับ!" เอดิสันกล่าว เขาพยายามพยุงตัวเองให้ยืนได้ด้วยขาที่บาดเจ็บ"เราจะสู้ด้วยกัน!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด!เฟรเดอริคและเบ็นพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่ลดละ ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็ยิงปืนใส่คนร้ายอย่างแม่นยำเมรี่และเอดิสัน