อย่าเพิ่งตัดสินเธอ...ถ้าคุณยังไม่รู้จัก หญิงสาวผู้ที่ทำเพื่อครอบครัวจนต้องสละความสุขของตนเอง
view moreแพรวา สาวน้อยวัยยี่สิบปีเก็บกระเป๋าจากบ้านเกิดเมืองนอนในภาคเหนือเข้าสู่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีตามคำชวนของรุ่นพี่ในหมู่บ้าน แพรวาเรียนจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ครอบครัวของเธอยากจนและมีหนี้สินมากมายจากการลงทุนทำนาของบิดามารดา บ้านที่เคยมีกินมีใช้ต้องกลายเป็นไม่มีอันจะกิน
ถึงแม้จะทำงานห้างสรรพสินค้าหรืองานรับจ้างทั่วไปภายในจังหวัดที่เธออาศัยอยู่ก็ไม่อาจเพียงพอกับรายจ่ายที่เธอต้องเป็นฝ่ายหา เพราะตั้งแต่ที่บิดามารดาสูญเสียที่นาซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ทำมาหากิน พวกท่านก็ไม่มีงานทำรวมไปถึงมารดาของเธอก็ป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่ที่เธอเกิด ภาระทุกอย่างจึงตกอยู่ที่เธอ
“แพรวาใช่ไหมลูก” มาม่าซังเอ่ยถามเด็กสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยตรงหน้าที่ยืนสะพายกระเป๋าเพียงหนึ่งใบไว้ข้างหลัง เด็กสาวหันหน้ามามองก่อนยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ...ใช่แม่จินใช่ไหมคะ หนูแพรวาค่ะ” ความนอบน้อมและรอยยิ้มหวานของสาวน้อยตรงหน้าทำให้มาม่าซังวัยห้าสิบปียิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“ใช่จ้ะ...เดินทางมาไกล เหนื่อยไหมลูก” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็เหนื่อยอยู่ค่ะ ว่าแต่หนูเริ่มงานได้วันไหนคะ พอดีหนูต้องรีบหาเงินส่งให้ทางบ้าน” เธอตอบก่อนที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องงานทันที มาม่าซังมองเด็กสาวด้วยความเห็นใจ
“ถ้าหนูไม่เหนื่อยจะเริ่มวันนี้เลยก็ได้จ้ะ ร้านเปิดสองทุ่ม แต่พวกเราต้องเข้างานก่อนสองทุ่มนะ” จินตนาบอกเด็กสาวผู้มาใหม่
“แล้วงานที่หนูจะทำ มันต้องทำยังไงบ้างคะ” เด็กสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เธอพอจะได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับงานของผู้หญิงที่อยู่พัทยา
“ก็ไม่มีอะไรมาก หนูแค่จะมาเต้นใช่ไหม จะรับออฟหรือเปล่า” มาม่าซังเอ่ยถามลูกน้องคนใหม่
“ค่ะ...แล้วรับออฟคืออะไรคะ” หญิงสาวไม่เคยรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวงการนี้จึงเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ มาม่าซังยิ้มออกมาก่อนที่จะกระซิบบอกเธอด้วยเสียงไม่ดังนัก
“รับออฟ..ก็หมายความว่าเวลามีลูกค้าอยากให้เราออกไปนอนด้วยแล้วจ่ายเงินให้กับทางคลับและจ่ายเงินให้กับเรา เราจะไปไหมยังไงล่ะจ๊ะ”
คำตอบของมาม่าซังทำเอาเด็กสาวหน้าแดง ถึงเธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่เธอก็เคยมีอะไรกับแฟนที่คบกันมาช่วงทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแค่คนเดียว
“คือ...หนูขอลองเต้นธรรมดาก่อนได้ไหมคะ” ด้วยความสามารถในการเต้นที่พอจะมีบ้างเธอเลยอยากจะลองเพียงแค่เต้นและหาดื่มดูก่อนจนกว่าเธอจะไม่มีทางเลือกจริงๆ เธอถึงจะทำ
“อืม....ได้สิ ช่วงแรกๆ ก็เต้นไปก่อน แต่ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินเมื่อไหร่ การรับออฟมันก็ไม่ใช่ทางออกที่แย่หรอกนะหนูแพรวา แม่จะบอกอะไรให้ พวกรุ่นพี่บางคนแขกรับไปดูแลก็เพราะติดใจเราเวลาที่เขาออฟเราออกไปนอนด้วยนี่แหละ” จินตนาไม่บังคับเด็กสาวที่เพิ่งจะมาถึงพัทยาเป็นครั้งแรก แต่เธอจะให้เด็กสาวได้เรียนรู้ด้วยตัวของตัวเอง
แพรวาถูกเพื่อนๆ เรียกชื่อใหม่เป็นแพทตี้เพราะง่ายสำหรับการเรียกขานชื่อของฝรั่ง ต่างชาติ หญิงสาวยินดีกับชื่อใหม่ที่เพื่อนๆ และพี่ๆ เรียกขานเพราะอย่างน้อยชื่อนี้ก็ใช้ในวงการนี้และช่วยปกปิดชื่อจริงของเธอเอาไว้ได้
คืนแรกที่หญิงสาวเริ่มงานมีหนุ่มๆ หลากหลายเชื้อชาติมาสนใจเธอมากมาย ด้วยเพราะหญิงสาวเป็นคนหน้าตาดีและมีรอยยิ้มที่สวยพิมพ์ใจ แต่นักเที่ยวก็ต้องผิดหวังที่หญิงสาวดาวดวงใหม่ยังไม่รับออฟพวกเขาจึงทำได้เพียงเลี้ยงดื่มให้เธอเพียงเท่านั้น
แพทตี้กลายเป็นดาวเด่นของอะโกโก้แห่งนี้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน เพื่อนๆ บางคนถึงกับอิจฉาในความสวยของเธอที่เรียกแขกให้เข้าร้านได้มากมาย หญิงสาวรู้สึกสนุกกับการทำงานแบบใหม่ในสังคมใหม่ๆ
ความตื่นเต้นในสัปดาห์แรกหายไปและเธอเริ่มกล้าที่จะโชว์และอวดสกิลภาษาอังกฤษของเธอมากขึ้น แขกประจำก็มีมามากมาย บางคนถึงขั้นมาเฝ้าเธอเพื่อรอให้เธอใจอ่อนยอมให้พวกเขาออฟเธอออกไปเพื่อนอนกับเธอเพียงสักครั้ง
อยู่มาวันหนึ่งในเดือนที่สองของการทำงาน มารดาโทรมาบอกว่าทางบ้านต้องใช้เงินเกือบห้าหมื่นในการใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านที่กู้ยืมมาสมัยทำไร่ ทำให้แพทตี้ตัดสินใจเข้าวงการโสเภณีแบบเต็มตัว ลูกค้าคนแรกของเธอเป็นฝรั่งวัยเกือบสี่สิบปี และเขาก็เป็นฝรั่งที่มาพักผ่อนที่เมืองไทย หาใช่เป็นฝรั่งที่ชอบมาเฝ้าเธอเพราะคนนั้นบินกลับประเทศของเขาไปแล้ว
“แพทตี้ หนูตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหม เขาจะพาหนูไปอยู่ด้วยสัปดาห์หนึ่งนะ แต่เขาจะให้หนูหนึ่งแสน”
มาม่าซังเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจของหญิงสาวที่เพิ่งตัดสินใจรับงานออฟครั้งแรกหลังจากทำงานมาจะเข้าสองเดือน ก่อนหน้านี้เธอพยายามจะโน้มน้าวให้แพรวาหรือแพตตี้รับออฟแต่หญิงสาวก็ปฏิเสธ ครั้งนี้หญิงสาวคงจะจำเป็นและถึงที่สุดแล้วจริงๆ
“น่ะ...น่ะ...หนึ่งแสนเลยหรือคะ”
แพรวาหรือแพทตี้เอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าการที่เธอไปนอนกับเขาหนึ่งสัปดาห์จะได้เงินก้อนมาใช้หนี้ให้กับบิดามารดา
“ใช่จ้ะ เขาให้เราแสนนึง ตกลงเรารับออฟใช่ไหม แดนเนียลเขารอฟังคำตอบอยู่ คนนี้ดี พี่ๆ ที่เขาเคยไปกับแดนเนียลบ่นเสียดายทุกคนที่มาวันนี้เขาเลือกหนู” มาม่าซังพยายามโน้มน้าวให้หญิงสาวตัดสินใจ แพรวาหรือแพทตี้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตกลง
“แต่หนูขอเขาก่อนห้าหมื่นได้ไหมคะ พอดีที่บ้านต้องใช้เงิน” เธอเอ่ยถามมาม่าซัง
“ได้สิ เดี๋ยวแม่คุยกับเขาให้” จินตนายิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ถึงอีกเรื่องที่เธอต้องกำชับหญิงสาว
“หนูรู้กฏของคนที่ทำงานแบบเราใช่ไหมแพทตี้” มาม่าซังเอ่ยถามเพื่อให้หญิงสาวเตรียมตัวและเตรียมใจให้ดี
“อย่าหลงรักลูกค้า อย่ามีความรู้สึกให้คู่นอนที่ใช้เงินมาซื้อเรา”
แพทตี้ท่องกฎของผู้หญิงกลางคืนให้มาม่าซังฟัง จินตนาฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะพาเธอไปหาแดนเนียลซึ่งเขาก็รอฟังคำตอบจากเธออยู่ด้วยความตื่นเต้น
“เธอตกลงค่ะ แต่เธอขอมัดจำก่อนห้าหมื่น ถ้าคุณจ่ายเธอก็พร้อมจะไปวันนี้เลย” มาม่าซังพูดคุยกับลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษ
“อืม... โอเคร ว่าแต่เธอเพิ่งจะเคยออกไปกับผมเป็นคนแรกใช่ไหม”
แดนเนียลเอ่ยถามออกมาเพื่อความแน่ใจก่อนที่จะมองสำรวจร่างงามที่เวลาเต้นอยู่บนฟลอนั้นดูเย้ายวนยิ่งนัก แต่พอมองใกล้ๆ ก็ทำให้เขาแทบจะลืมหายใจ
“ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งจะรับงานนี้เป็นครั้งแรก”
แพรวา หรือแพทตี้ ดาวอะโกโก้คนสวยเป็นฝ่ายตอบออกมาเป็นภาษาอังกฤษ และนี่คือสิ่งที่แดนเนียลชอบ เขาคุยกับเธอเข้าใจเพราะเธอสามารถฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ จึงไม่เป็นปัญหาหากเขาจะอยู่กับเธอหนึ่งสัปดาห์ เขาไม่อยากเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยๆ ระหว่างที่อยู่ที่นี่
“โอเครแพทตี้ ขอบคุณที่ตกลงไปกับผม ผมดีใจจัง” แดนเนียลยิ้มก่อนที่จะเอ่ยออกมา
“ขอบคุณ คุณเหมือนกันที่กล้าจ่ายเงินให้กับฉัน” แพทตี้เอ่ยขึ้นบ้าง
“สำหรับคุณ ผมไม่เสียดายเงินที่จะเสียไปเลย” เขาบอกพร้อมทั้งใช้สายตาหื่นกระหายมองร่างงามของเธอ
หลังจากที่ตกลงกันได้แดนเนียลก็ไปกดเงินสดมาให้กับอะโกโก้และให้กับหญิงสาวตามจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ แพทตี้ออกจากอะโกโก้เป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าหนุ่มที่เคยเจอเธอในสถานที่ที่เธอเคยทำงานต่างมองตามหญิงสาวอย่างเสียดายด้วยไม่คิดว่าหญิงสาวจะตัดสินใจออกไปกับแขก
“แพทตี้ คุณกำลังจะไปไหนหรอ” หนุ่มฝรั่งที่เมื่อวานไปเลี้ยงดื่มให้กับเธอถึงกับหยุดถามขณะที่กำลังจะเดินสวนทางกัน
“ฉันกำลังจะไปกับเขาน่ะ วันนี้ฉันออกจากร้านเป็นครั้งแรก ขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่”
ภาษาอังกฤษที่ฉะฉานและสำเนียงที่แทบจะคล้ายกับฝรั่งดังออกมาจากหญิงสาวใบหน้าสวยรูปร่างดี แดนเนียลรู้สึกไม่พอใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหากว่าเธอต้องการจะหยุดทักทายกับคนอื่น เพราะคนอื่นก็ได้เพียงแค่คุย แต่เขากำลังจะได้เชยชมดอกไม้ดอกนี้
หลังจากทักทายเสร็จแดนเนียลก็เดินเข้ามากุมมือเธอแล้วพากันเดินไปร้านอาหารเพื่อหาอะไรทาน เขาพาเธอนั่งทานอาหารราคาแพงที่เธอไม่เคยทานมาก่อน เขาคอยดูแลและเอาอกเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี หญิงสาวจึงเอ่ยคำขอบคุณ
ระหว่างทางกลับโรงแรมที่เขาเข้าพักหัวใจของสาวน้อยที่ผ่านผู้ชายมาเพียงคนเดียวกลับสั่นไหว เธอเคยได้ยินมาว่าพวกฝรั่งมีอวัยวะเพศไซส์ใหญ่กว่าชายไทย และการมีเซ็กส์ครั้งแรกของเธอกับแฟนหนุ่มก็ไม่ได้น่าประทับใจนัก หญิงสาวจึงกังวล
พอถึงห้องแดนเนียลจึงให้สาวสวยเข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะเขารู้ว่าผู้หญิงเวลาอาบน้ำนั้นใช้เวลานาน และเขาก็อยากจะเห็นใบหน้าสวยภายใต้เครื่องสำอางว่าแท้จริงแล้ว สวยจริงหรือไม่
แพทตี้ใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่พิถีพิถันขนาดที่ว่าต้องขัดนั่นขัดนี่ หรือบำรุงผิวนั่นนี่ แต่เป็นเพราะเธอกำลังตื่นเต้นและกังวลใจกับการที่จะต้องมีอะไรกับฝรั่งครั้งแรกมากกว่า
ร่างบางเดินออกจากห้องน้ำมาในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของโรงแรม ใบหน้าสวยเปิดเปลือยไร้เครื่องสำอางจนแดนเนียลต้องตะลึงในใบหน้าสวยจิ้มลิ้มนี้ เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะโน้มใบหน้าเข้าไปจูบปากอิ่มของเธอ
“รอผมก่อนนะแพทตี้ ผมอาบน้ำสักครู่ แล้วผมจะมาทำให้คุณมีความสุขไปกับผม”
เสียงทุ้มของฝรั่งที่มีใบหน้าค่อนข้างหล่อเหลาแม้วัยจะล่วงเลยไปใกล้เลขสี่บอกเธอหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากปากอิ่ม เขาเพียงแค่จูบยังไม่ได้รุกล้ำภายในให้อารมณ์ใคร่มันปะทุ เพราะเขาก็ต้องการอาบน้ำก่อนเช่นกัน ร่างสูงล่ำของแดนเนียลเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงถอนลมหายใจของแพทตี้ที่ดังออกมา
“สู้ๆ นะแพรวา เพื่อครอบครัว เพื่อหนี้สิน เราทำได้ ทีนอนกับแฟนไม่ได้เงินสักบาทเรายังทำได้เลย สู้ๆ” หญิงสาวปลอบใจตนเอง ก่อนที่จะเดินไปนั่งรอแขกคนแรกของเธอที่บนเตียงนุ่มที่เธอไม่เคยได้นอนมาก่อนในชีวิต
ไหนจะโรงแรมสุดหรูที่ดูแล้วน่าจะราคาต่อคืนแพงอยู่ไม่น้อย ถึงว่าเขาถึงกล้าจ่ายเงินให้เธอถึงหนึ่งแสน ไหนจะค่าบาร์ฟายอีก
*มาม่าซัง คือ คนที่คอยจัดหาสาวๆมาทำงานในคลับ บาร์ หรืออะโกโก้และคอยดูแลสาวๆภายในคลับ บาร์หรืออะโกโก้
*บาร์ฟาย คือ ค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องจ่ายให้กับทางคลับ บาร์หรืออะโกโก้ถ้าหากเขาต้องการพาผู้หญิงออกไปจากร้าน มีทั้งShort time คือระยะสั้นหนึ่งชั่วโมง ผู้หญิงต้องกลับเข้าร้านทันทีหลังจากหนึ่งชั่วโมง และ Long timeคือออกไปหนึ่งคืน ไม่ต้องกลับเข้าร้านอีก
สะโพกหนาขยับเข้าออกช่องทางรักเป็นจังหวะเนิบนาบ ในขณะที่มือหนาบีบบั้นท้ายงามงอนของเธอเอาไว้จนล้นมือ ก่อนที่จะซัดสาดพายุสวาทจนเสียงหวานครางออกมาไม่ได้ศัพท์รู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่กำลังจะหมดลงอีกครั้ง ฝรั่งหนุ่มจึงค่อยๆ วางร่างบางลงไปบนที่นอนจากนั้นเขาจึงโถมกายลงไปสอดใส่แท่งเอ็นร้อนในจุดกลางกายสาวอีกครั้ง มือหนาข้างหนึ่งจับท่อนขาเรียวข้างเดียวกันของเธอมาพาดบ่า ก่อนที่จะสาดกระแสสวาทด้วยความเสียวกระสันเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังปะปนกับเสียงเตียงที่ดังขึ้นมาเป็นจังหวะการเคลื่อนไหวที่หนักหน่วงจนในที่สุด...พายุสวาทแห่งความคิดถึงก็ถูกปลดปล่อยเข้าไปในกายสาวจนหมดทุกหยาดหยด เสียงทุ้มครางออกมาอย่างสุขสมในรอบปีกว่าที่ห่างหายจากเรื่องบนเตียงหลังจากที่ทั้งสองคู่ใช้เวลาสัมผัสและฝากฝังความคิดถึงที่มีต่อกันและกันอย่างสุขล้นแล้ว จึงได้พากันไปพบกับคนโสดภายในกลุ่มเพียงคนเดียวอย่างเดนนิสที่หน้าทางเข้าถนนคนเดินขนาดใหญ่ของเมืองพัทยายามค่ำคืนที่มีผู้คนพลุกพล่านเดินสวนทางกันไปมาสตีเว่นกุมมือแฟนสาวไม่ยอมปล่อย โอเว่นเองก็ไม่ต่างกัน สายตาหนุ่มๆ ที่มองมายังสองสาวทำเอาสองหนุ่มอยากจะเปลี่ยนใจพาสองสาวกลับห้องพักเสียเดี๋ย
หนึ่งปีต่อมาณ สนามบินสุวรรณภูมิสองสาวรูปร่างระหงกำลังยืนรอคอยการมาของแฟนหนุ่มของตน สตีเว่นจากที่เคยบอกว่าสองเดือนจะบินมาแต่แล้วแพลนก็ล่มเพราะมีโปรเจ็คด่วนเข้ามา มีก็แต่โอเว่นที่บินมาหาแอมมี่และสองหนุ่มสาวก็ได้ใช้เวลาร่วมกัน จนตกลงคบหากันแบบจริงจังโอเว่นให้แอมมี่เลิกทำงานกลางคืนแล้วหาอะไรที่ชอบทำ เขาซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เธอ และส่งเงินให้ใช้ตั้งแต่เขากลับไป แอมมี่รู้สึกราวกับว่าฝันไป เธอเข้าใจชีวิตของแพทตี้เลยว่าพอมีคนเข้ามาเปลี่ยนชีวิตจากที่เคยเป็นแล้วรู้สึกอย่างไรหลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอเริ่มขายของออนไลน์เป็นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับพวกครีมบำรุงผิวให้สาวๆ ที่ทำงานกลางคืน ส่วนแพทตี้ไปรับจ๊อบเป็นล่ามบ้างแต่เป็นครั้งคราวหนึ่งปีที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิตของสองคู่รัก แต่ทั้งสองคู่ก็จับมือกันข้ามผ่านมาได้ แพทตี้เรียนจบระดับชั้นมัธยมปลายหลักสูตรเร่งรัดหนึ่งปีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่พอจะเรียนปริญญาตรี สตีเว่นกลับขอให้เธอรอเจอเขาก่อน“ตื่นเต้นอะ”แพทตี้ที่ไม่ได้เจอแฟนหนุ่มมาปีกว่ารู้สึกตื่นเต้นราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกของการมารอรับเขาที่สนามบิน แอมมี่แม้จะเพิ่งเจอกั
“สวัสดีค่ะสตีเว่น ผมเริ่มขึ้นแล้วนะคะ”แอมมี่เอ่ยทักทายพร้อมกับเอ่ยแซวออกมาเรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองหนุ่มสาว“ครับ... ตลกเหรอที่รัก ระหว่างไม่มีผมกับมีผมที่รักชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ” เขาตอบแอมมี่ก่อนที่จะถามแฟนสาวที่กำลังขำเขาอยู่“คิกๆๆ ยังไงก็ได้ค่ะ แต่ฉันว่าตอนคุณมีผมหล่อกว่า แต่แบบนี้ก็ดูหล่อไปอีกแบบ ว่าไหมแอมมี่” แพทตี้หัวเราะแล้วตอบเขาออกมา เธอไม่ลืมถามความเห็นของเพื่อน“ใช่ๆ หล่อคนละแบบค่ะ”แอมมี่กลั้นขำก่อนที่บรรยากาศจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อแขกเดินทางมาถึงและเอ่ยทักทายคนในสาย“สวัสดีครับสาวๆ แอมมี่ คุณจำผมได้ไหม” โอเว่นส่งเสียงทักทายพร้อมส่งใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาที่หน้าจอ แอมมี่ยิ้มน้อยๆ ออกมา“สวัสดีค่ะคุณโอเว่น” สองสาวทักทายเขากลับ“จำได้สิคะ”คำตอบของแอมมี่ทำเอาหัวใจหนุ่มที่ห่างหายจากอาการตกหลุมรักมาเนิ่นนานเกิดอาการเต้นแรง เขาฉีกยิ้มออกมา“ขอบคุณครับ ที่ผมขอช่องทางติดต่อคุณไป ตกลงว่า... คุณจะให้ไหมครับ” เขาเอ่ยถามออกมาโดยที่ไม่เกรงใจสองหนุ่มสาวที่ทำหน้าที่เป็นกามเทพเลยสักนิด“เอ่อ...แอมมี่ว่าเดี๋ยวคุณเอาไอดีของแอมมี่ไปแล้วแอดมานะคะ รบกวนเวลาหวานของสองคนนี้คิกๆๆ”แอมมี่ที่พอจ
แอมมี่ถึงกับอึ้งกับสิ่งที่เพื่อนบอกเธอแต่หญิงสาวก็อยากจะลองดูสักครั้ง จะว่าไปเธอยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางไกลเลยสักครั้ง และไม่รู้จะผ่านไปได้ไหม แต่ในเมื่อแพทตี้ยังทำได้ เธอเองก็คิดว่าเธอเองก็คงจะทำได้เช่นกัน อีกอย่างโอเว่นเขานิสัยดีมาก และตอนที่เธอใช้เวลาร่วมกันกับเขา เขาให้เกียรติเธอเสมออีกทั้งยังตามใจเธอทุกอย่าง“เอายังไงแอมมี่ จะลองดูก่อนไหม ถ้าเขาไม่ดีก็ค่อยถอย ค่อยๆ เริ่มศึกษากันไปก่อนเริ่มจากศูนย์ อย่าเพิ่งเริ่มต้นด้วยร้อยนะ เพราะเราไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ทางไกลจะไปรอดไหม” แพทตี้แนะนำจากคนที่มีประสบการณ์สัมพันธ์ทางไกลอยู่ ณ เวลานี้“ลองดูก่อนก็ได้แพทตี้ โอเว่นเขาก็เป็นผู้ชายที่น่าคบคนหนึ่ง แต่ที่ฉันอึ้งนี่คือไม่ได้ลังเลที่จะลองคุยกับเขานะ แต่ว่า...ฉันไม่คิดว่าเขาอยากจะสานสัมพันธ์กับผู้หญิงอย่างฉัน” แอมมี่ตอบก่อนที่จะหลุบตามองมือของตนเอง“เธอสอนให้ฉันมั่นใจในตัวเองและไม่ดูถูกตัวเอง ตอนนี้อย่าคิดแบบฉันตอนนั้นนะ” แพทตี้โวยเพื่อนขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำสอนของเจ้าตัวในอดีต“อืมๆๆ เข้าใจแล้ว เค้าจะเอาอะไรอะ”แอมมี่จดไอดีและเบอร์โทรของเธอให้เพื่อนสนิท ให้ทางโอเว่นเลือกเอาตามใจว่าอยากจะเพิ่มช
กลับมาที่ปัจจุบันเมื่อแพทตี้ได้ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย ก็ใครจะไปรู้กันว่าลูกค้าคนนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว และการออกไปกับเขาในครั้งนี้เขาก็เป็นคนจ่ายเงินพาเธอออกไป ไม่ได้จะไปนอนกับเขาฟรีๆ เสียหน่อย ถือได้ว่าอยู่ในเวลาทำงานด้วยซ้ำ เอาจริงๆ แล้วภรรยาของสเตฟานก็ทำไม่ถูก แทนที่จะไปจัดการฝ่ายชาย กลับหันมาจัดการผู้หญิงด้วยกัน แถมยังเป็นคนในประเทศเดียวกันอีก“อย่าคิดมากเลยนะแอมมี่ ถือเสียว่าฟาดเคราะห์ไป ต่อจากนี้ชีวิตเธอจะต้องเจอคนดีๆ ที่เขารักเธอและรับอดีตของเธอได้เหมือนอย่างที่ฉันเจอ ความกตัญญูต่อพ่อแม่จะทำให้เธอเจริญ เชื่อฉันนะแอมมี่”แพทตี้ปลอบเพื่อนสนิทก่อนที่จะจูงมือแอมมี่ให้เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วจัดการนำผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบให้ แอมมี่มองตามเพื่อนสนิทด้วยความซึ้งใจ เพราะเป็นคนอ่อนโยน เอาใจใส่แบบนี้แพทตี้ถึงได้เจอผู้ชายดีๆ แบบสตีเว่น แล้วเธอล่ะเป็นคนดีไม่พออีกหรือ ฟ้าถึงยังไม่ส่งใครคนนั้นมาให้เธอสักที“ขอบใจนะแพทตี้” เสียงหวานเอ่ยออกมาหลังจากที่เพื่อนนำผ้าไปเก็บ“ตอนฉันลำบาก ร้องไห้เสียใจ ก็มีเธอที่คอยปลอบใจและคอยอยู่ข้างๆ เหมือนกัน เธอทุกข์ใจ ฉันก็ทุกข์
หลังจากที่ร้องไห้อยู่ในห้องน้ำอยู่นาน ร่างบางก็เดินออกจากห้องน้ำมาในสภาพที่ใบหน้ามีร่องรอยแดงช้ำเป็นฝ่ามือ ซึ่งดูได้จากขนาดของรอยนิ้วมือแล้วก็บ่งบอกได้ว่าเจ้าของรอยนี้เป็นผู้หญิง แต่แอมมี่คนที่ไม่เคยยอมใครทำไมกลับโดนตบแถมยังกลับมาร้องไห้อีก มันไม่ใช่นิสัยของเธอเลยสักนิด แพทตี้มองเพื่อนก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปประชิดตัว“แอมมี่ เกิดอะไรขึ้น ใครทำกับเธอแบบนี้” เสียงหวานแข็งกร้าวขึ้นมาทันที“ฮึก.....ฮือๆๆๆ แพทตี้.....”แอมมี่ร้องไห้ออกมาพร้อมกับเรียกชื่อเธอ แพทตี้ดึงร่างบางของเพื่อนเข้ามาในอ้อมกอดก่อนที่จะค่อยๆ ปลอบใจและเอ่ยถามอย่างนุ่มนวล“โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรแล้วนะ ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” แอมมี่ค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อนก่อนที่จะเริ่มเล่าออกมาทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น“ฮึก.... ไอ้บ้าสเตฟาน...ฮือๆๆๆ”เธอเล่าได้เพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาอีก แต่แพทตี้กลับไม่อยากจะเชื่อว่าสเตฟานจะลงไม้ลงมือกับเพื่อนของเธอได้ขนาดนี้ และรอยนิ้วที่ยังคงเป็นรอยอยู่มันคือมือของผู้หญิงชัดๆ“สเตฟาน สเตฟานทำเหรอ”“ฮึก...ไม่ ไอ้บ้าสเตฟานมันมีเมียอยู่แล้ว เมียคนไทยด้วย เนี่ยฝีมือเมียมัน ฮึก.
Mga Comments