แชร์

บทที่ 6 หวงก้างได้อีก

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-01 16:24:41

วันต่อมา จางเล่อถง บุตรชายคหบดีจางที่อยู่จวนใกล้ ๆ กัน และเป็นสหายในกลุ่มของพวกเขาตั้งแต่เด็ก ก็กลับมาจากติดต่อการค้าที่เขามักจะเดินทางไปแทนบิดาของเขาหลายต่อหลายเมืองเพื่อตรวจบัญชีของร้าน และดูแลกิจการที่เขานั้นบัดนี้สืบทอดต่อจากบิดาของเขาที่อายุมากแล้ว เขาเพิ่งจะรับหน้าที่แทนบิดาอย่างเต็มตัวมาได้เพียงแค่หนึ่งหนาวเท่านั้น

เมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว ระหว่างมื้ออาหารมารดาของเขาก็เอ่ยขึ้นว่า

“เล่อถง เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้แม่ทัพเฉินมู่หยางกลับมาจากชายแดนแล้วนะ เขาชนะศึกสงคราม ต่อไปนี้แคว้นของเราคงจะสงบลงอีกหลายปี เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ แต่ว่ากลับมาคราวนี้เขาพาสตรีอื่นกลับมาด้วยนะ ได้ยินสาวใช้พูดกันว่า บ่าวที่จวนพากันตกตะลึงกันไปหมด เพราะว่าเขาพาสตรีนางนั้นนั่งม้าตัวเดียวกันกลับมาด้วย สงสัยว่าจินเยว่หลานสาวแม่นมหวังคงจะเป็นหม้ายขันหมากแล้ว ช่างน่าสงสารจริง ๆ เลย”

ฮูหยินจางเอ่ยขึ้น เพราะนางก็เห็นเด็ก ๆ จวนข้าง ๆ มาตั้งแต่ยังเล็ก พวกเขานั้นรู้จักกันและก็เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กกันอีกด้วย

ทำให้พลอยได้รับรู้เรื่องที่หลานชายของจวนโน้นชอบพอกับหลานสาวของแม่นมหวังที่เติบโตมาด้วยกัน ได้ยินพูดกันว่าจะให้แต่งงานกันหลังจากฝ่ายชายกลับมาจากออกศึกแล้ว แต่คราวนี้คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ช่างน่าสงสารฝ่ายหญิงที่เฝ้ารอคอยมาหลายปีดีดักแล้ว

เคยได้ยินว่ามีแม่สื่อมาทาบทามก็หลายต่อหลายครั้ง แต่นางก็ปฏิเสธไปเสียหมด เพราะเฝ้ารอคนรักของตนเอง แต่เขากลับพาสตรีอื่นเข้าจวนมาด้วย และจะยกย่องให้เป็นฮูหยิน น่าสงสารจริง ๆ ฮูหยินจางบ่นเบา ๆ หลังจากบอกเล่าเรื่องราวที่ได้รับรู้มาให้บุตรชายฟังเพราะพวกเขานั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ย่อมจะต้องเป็นห่วงสหายของตนอยู่บ้าง

เมื่อเล่อถงได้ฟังเรื่องราวที่มารดาบอกกับเขา คหบดีหนุ่มนิ่งอึ้งไปนาน เพราะเขาสงสารจินเยว่ นางรักมั่นคงกับเจ้ามู่หยางนั่นมาตั้งแต่รุ่นสาว ก่อนจะปักปิ่นเสียด้วยซ้ำ แต่นี่เขากลับพาสตรีอื่นกลับมาด้วย แล้วป่านนี้นางจะเป็นเช่นไรบ้างก็ไม่รู้ได้

ดังนั้นหลังจากกินอาหารร่วมกับครอบครัวแล้ว เขาก็เดินไปที่จวนสกุลเฉิน แล้วก็ขอพบกันจินเยว่ หลังจากที่สาวใช้เดินไปตามนางมาให้กับเขาแล้ว เล่อถงก็เดินเข้าไปในเรือนของท่านย่าที่อยู่ข้าง ๆ เรือนหลัก เมื่อเข้าไปด้านในเรือนก็พบว่าท่านย่ากับแม่นมหวัง นั่งอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้อง และยังมีแม่ทัพเฉินมู่หยางกับสตรีแปลกหน้าอีกคน ที่เล่อถงคิดว่าคงจะเป็นสตรีที่เขาได้ยินมาว่านางตามเจ้าแม่ทัพเฉินนั่นมาจากชายแดนด้วย

“อ้าว….เล่อถง กลับมาจากต่างเมืองเมื่อไหร่กัน ไม่ได้พบหน้าเสียนาน เหตุใดวันนี้ถึงมาที่นี่ได้”

ท่านย่าหันไปทักทายจางเล่อถงที่เพิ่งจะเดินเข้าไปในห้องโถงหน้าเรือนที่พวกเขากำลังนั่งสนทนาพลางจิบชากันในยามบ่ายอยู่

“คารวะท่านย่ากับแม่นมหวังขอรับ ข้าเพิ่งจะกลับมาเมื่อวานนี้เอง วันนี้คิดถึงจินเยว่จึงจะมาขออนุญาติพานางไปเที่ยวเล่นข้างนอกสักครู่ขอรับ " คหบดีหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากทักทายผู้อาวุโสแล้ว

ท่านย่าพยักหน้าน้อย ๆ แล้วหันไปมองแม่นมหวังที่ก็พยักหน้าให้กับท่านย่าเป็นทีว่านางอนุญาติ ท่านย่าจึงได้เอ่ยขึ้นว่า

“ได้สิ มีคนไปตามจินเยว่ให้หรือยัง”    เล่อถงนั่งลงที่เก้าอี้มุมห้อง แล้วก็เอ่ยว่า

“สาวใช้ไปตามนางให้แล้วขอรับ ข้ามีผ้างาม ๆ หลายผืนมาฝากนางด้วย ส่วนห่อของนี้เป็นชาชั้นดี กับผ้าอีกหกผืนขอรับ ข้านำมาฝากท่านย่ากับแม่นมหวัง ส่วนอีกสองผืนให้กับมู่หลันขอรับ”

เขาบอกพร้อมกับส่งของห่อใหญ่ให้สาวใช้ที่มารับมันไปส่งให้กับท่านย่า

“ไม่ทักทายกันสักคำเลยนะ เล่อถง จำกันไม่ได้แล้วหรือ”

มู่หยางเอ่ยขึ้น เพราะเขารู้สึกว่ากลับมาพบกันใหม่คราวนี้ เจ้าเล่อถงเองก็ดูหมางเมินกับเขามากเช่นกัน

“ต้องขออภัยด้วยท่านแม่ทัพ ข้าน้อยมัวแต่กังวลอะไรนิดหน่อย ท่านกลับมาแล้วดีใจด้วยนะขอรับที่ชนะศึกกลับมาเสียที "

เขาหันไปทักทายมู่หยาง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามเขาสักคำเรื่องสตรีที่นั่งอยู่ข้างกายเขา เหมือนนางไร้ตัวตนเช่นนั้น

ขณะนั้นจินเยว่ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี

“มาแล้วหรือ เล่อถงมารอเจ้าอยู่ เห็นไหมเขามีผ้าผืนงาม ๆ มาฝากทุกคนด้วยนะ”

ท่านย่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นจินเยว่เดินเข้ามาในห้อง

“คารวะท่านย่ากับท่านยายเจ้าค่ะ และก็เอ่อ….ท่านแม่ทัพด้วยเจ้าค่ะ”

จินเยว่ย่อกายคารวะทุกคนอย่างอ้อนช้อย แล้วก็หันมาทักทายเล่อถง

“ไม่ได้พบกันเสียนาน กลับมาแล้วหรือ การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง ข้าคิดถึงเจ้า ดีแล้วที่วันนี้เจ้ามาพบข้า”

จินเยว่หันไปทักทายจางเล่อถงที่เขาพยักหน้าทำทีบอกให้นางมาทรุดนั่งข้างกายเขา จินเยว่จึงได้เดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้มุกริมผนังข้างกายเล่อถง เมื่อนางนั่งลงแล้ว เขาจึงได้ส่งห่อผ้าห่อเล็กให้กับนาง จินเยว่เปิดออกดูพบว่ามันคือผ้าไหมสีสวยสองผืน มันสวยแปลกตาดี และก็มีสร้อยมุกเส้นเล็กๆ อีกด้วยในถุงผ้าเล็ก ๆ สีแดงใบน้อย

“เกรงใจเจ้าจริง ๆ มาเยี่ยมข้าเฉย ๆ ข้าก็ดีใจมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีของมาฝากให้สิ้นเปลืองหรอก” 

นางบอกกับสหายข้างกายเบาๆ อย่างเกรงใจที่สหายซื้อของฝากมีราคาเช่นนี้มาให้กับนาง ผ้าไหมผืนงามสองผืนนี้ราคาคงไม่น้อย แถมยังมีสร้อยมุกอีกเส้นด้วย

เล่อถงยิ้มให้นาง  “ไม่เป็นไรหรอก ข้าเห็นผ้างาม ๆ สองผืนนี้ก็คิดถึงเจ้า หากนำไปตัดอาภรณ์คงจะงดงามมาก ลองสวมสร้อยมุกที่ข้าซื้อมาฝากดูไหม ลองดูว่าสวมได้พอดีหรือเปล่า” คหบดีหนุ่มบอกกับสหาย

จินเยว่หยิบสร้อยมุกน้ำงามนั่นขึ้นมา

“มาข้าจะสวมให้เจ้าเอง” 

เขาบอกกับนางแล้วเล่อถงก็รับสร้อยมาจากมือของจินเยว่แล้วก็สวมมันให้กับนาง  ทำให้ใบหน้าหล่อคมคายของคนที่กำลังจับจ้องมองอยู่ตึงขึ้นมาทันที เพราะเขาเห็นจางเล่อถงจับมือของจินเยว่แล้วสวมสร้อยมุกให้กับนาง แถมยังทำอิดเอื้อนไม่ยอมปล่อยมือบางนั่นเสียที เขาจึงได้กระแอมขึ้นเสียงดัง

ทำเอาทุกคนหันไปจับจ้องเขาทันที

“เป็นอะไรหรือมู่หยาง” 

ท่านย่าถามขึ้น แต่ด้วยสายตาที่มองหลานชายอย่างรู้เท่าทัน เจ้าหมอนี่ บอกว่าไม่รักเขาแล้วแต่ก็ยังจะหวงก้างอีกนะ ท่านย่าคิดคำนึง

“ ไม่มีอะไรขอรับ ข้าแค่รู้สึกว่าจินเยว่เป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน เหตุใดยอมให้บุรุษจับเนื้อต้องตัวกันเสียสนิทสนมปานนั้น เล่อถงกับนางไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ทำไมไม่สำรวมกิริยากันสักหน่อย ”   เขาบอกกับท่านย่าของตัวเอง

คำพูดของแม่ทัพหนุ่มทำเอาคนในห้องมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไป สตรีที่นั่งอยู่ข้างกายเขาทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก ดวงตาของนางชักจะขุ่นขวางแต่ก็ยังสำรวมกิริยาเอาไว้ได้ 

นางรู้สึกว่าคนรักของนางชักจะสนใจอดีตคนรักเก่ามากไปแล้วตั้งแต่ที่เขายืนจับจ้องมองนางเมื่อตอนเช้าแล้ว ตอนนี้ก็ยังเอาแต่จับจ้องมองจินเยว่ไม่คลาดสายตาอีก มองดูนางกับบุรุษผู้นั้นที่นั่งสนทนากันไม่วางตา ส่วนท่านย่ากับแม่นมหวังนั้นหันมาสบตากัน ส่วนเล่อถงและจินเยว่นั้นต่างก็ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของแม่ทัพหนุ่ม

“สวยไหม ข้าคิดแล้วว่ามันต้องเหมาะกับเจ้าแน่ ๆ ”

เขาเอ่ยขึ้น พลางจ้องมองใบหน้าสวยกระจ่างตาของจินเยว่ด้วยสายตาเป็นประกาย และเมื่อจินเยว่เงยหน้าขึ้นสบตาที่บ่งบอกความนัยน์บางอย่าง นางก็ทำท่าสะเทิ้นอาย หลบสายตาคมของเขา ที่จริงแล้วนางก็ไม่ได้พึงใจเล่อถงหรอก นางรู้สึกกับเขาเพียงแค่สหายเท่านั้น เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว 

แต่ที่นางทำท่าเหมือนกับเขินอายเขาเช่นนี้  ก็เพราะนางรู้สึกสะใจ  อยากจะทำไม่แยแสคนบางคนดูบ้าง อย่างน้อยนางก็อยากจะให้เขารู้สึกเสียดาย เสียใจที่ทิ้งนางเหมือนรองเท้าเก่า ๆ เช่นนี้  เพื่อแก้เผ็ดเขาให้เจ็บ ๆ คัน ๆ ได้เพียงสักเล็กน้อยก็ยังดี  ความรู้สึกของนางจะได้ดีขึ้นมาได้บ้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Virat Ponrit
ไอ้แม่ทัพมาเอานางเอกแล้วไปแต่งงงานไปเอากับอิเมียมันอีก เรื่องนี้ต้องให้นางเอกได้เอากับคนอื่นบ้างจะได้สมกัน
goodnovel comment avatar
ซ้อหวัง มาดามต้วน
อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้ไอ้แม่ทัพหวงเเฟนเก่า แล้วไปใช้กำลังข่มขืนให้เป็นเมียของเองแล้วนางเอกก้ออ่อนแอสู้เเรงไม่ได้เเล้วก้อเลยปล่อยให้ไอัแม่ทัพรังแกเพราะรักเขามากเลยยอม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 7 เบื้องหลังการจับบุรุษได้อยู่มือ

    ส่วนเล่อถงที่คบหากันมาตั้งแต่เด็กก็สวมรอยเล่นละครช่วยสหายรักของเขาทันที เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ว่าเจ้าหมอนั่นจ้องพวกเขาอยู่ตาเป็นมัน ไม่ยอมคลาดสายตาเลยด้วยซ้ำ แล้วยังทำท่าฮึดฮัดขัดใจเหมือนหึงหวงเขากับจินเยว่อีกด้วย แล้วอย่างนี้จะบอกว่าหมดรักนางแล้วได้เช่นไร หรือว่าเจ้าหมอนี่มันคิดจะจับปลาสองมือกันแน่ ยิ่งคิดยิ่งขัดเคืองแทนจินเยว่เขาจึงทำทีอ้อยอิ่งจับมือนุ่มนิ่มและขาวผ่องของจินเยว่ขึ้นมาจ้องมองจนแทบจะจรดริมฝีปากลงบนหลังมือของนางแล้ว และแล้วคนที่เอาแต่จ้องมองอย่างจับผิดคนที่คู่ก็ทนต่อไปไม่ไหว เขาลุกพรวดพลาดขึ้นทันที แล้วก็กระโจนเข้ามาชกหน้าเล่อถง จนเขาหล่นลงไปกองอยู่บนพื้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องหลาย ๆ เสียงที่ดังขึ้น จินเยว่ตกตะลึง และเมื่อนางได้สติ ก็รีบลุกจากเก้าอี้ ลงไปประคองเล่อถงขึ้นมาทันที“ เป็นอะไรหรือไม่ เล่อถง เจ็บหรือไม่ ” นางยกมือขึ้นจับที่แผลที่มีเลือดออกที่ริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบาเพราะเกรงสหายรักจะเจ็บแล้วก็หันมาเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าถมึงทึงของบุรุษที่ยังคงยืนจังก้าตรงหน้าของนาง“ท่านแม่ทัพ ท่านทำอะไรน่ะ ชกเล่อถงทำไม เขาทำอะไรให้ท่าน” จินเยว่ร้องถามคนตรงหน้าอย่างไม

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 6 หวงก้างได้อีก

    วันต่อมา จางเล่อถง บุตรชายคหบดีจางที่อยู่จวนใกล้ ๆ กัน และเป็นสหายในกลุ่มของพวกเขาตั้งแต่เด็ก ก็กลับมาจากติดต่อการค้าที่เขามักจะเดินทางไปแทนบิดาของเขาหลายต่อหลายเมืองเพื่อตรวจบัญชีของร้าน และดูแลกิจการที่เขานั้นบัดนี้สืบทอดต่อจากบิดาของเขาที่อายุมากแล้ว เขาเพิ่งจะรับหน้าที่แทนบิดาอย่างเต็มตัวมาได้เพียงแค่หนึ่งหนาวเท่านั้นเมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว ระหว่างมื้ออาหารมารดาของเขาก็เอ่ยขึ้นว่า“เล่อถง เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้แม่ทัพเฉินมู่หยางกลับมาจากชายแดนแล้วนะ เขาชนะศึกสงคราม ต่อไปนี้แคว้นของเราคงจะสงบลงอีกหลายปี เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ แต่ว่ากลับมาคราวนี้เขาพาสตรีอื่นกลับมาด้วยนะ ได้ยินสาวใช้พูดกันว่า บ่าวที่จวนพากันตกตะลึงกันไปหมด เพราะว่าเขาพาสตรีนางนั้นนั่งม้าตัวเดียวกันกลับมาด้วย สงสัยว่าจินเยว่หลานสาวแม่นมหวังคงจะเป็นหม้ายขันหมากแล้ว ช่างน่าสงสารจริง ๆ เลย”ฮูหยินจางเอ่ยขึ้น เพราะนางก็เห็นเด็ก ๆ จวนข้าง ๆ มาตั้งแต่ยังเล็ก พวกเขานั้นรู้จักกันและก็เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กกันอีกด้วยทำให้พลอยได้รับรู้เรื่องที่หลานชายของจวนโน้นชอบพอกับหลานสาวของแม่นมหวังที่เติบโตมาด้วยกัน ได้ยินพูดกันว่าจะใ

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 5 นางดูเปลี่ยนไป

    จินเยว่แทบจะอ้าปากค้างกับความจริงที่เพิ่งได้ประจักษ์กับตนเอง สตรีนั่นแพศยาสามานย์ก็แล้วไป แต่บุรุษผู้นี้ก็ช่างโง่งมนัก เหมาะสมกันแท้ ๆ สมแล้วที่หากันพบ ตอนนี้จินเยว่คิดว่านางควรจะเลิกโง่งมรักบุรุษที่นอกจากไม่รักษาคำมั่นสัญญา จิตใจโลเล ซ้ำยังหูเบา และตอนนี้ยังดูโง่เง่ายิ่งนัก ถูกสตรีแพศยานางนี้ใช้ลูกไม้ตื้น ๆ ตบตาเข้าก็ยังอุตส่าห์เชื่อได้อีก นางแทบไม่เชื่อเลยว่าเขาคือพี่มู่หยางของนาง“ ข้าไม่ได้ทำอะไร อยู่ ๆ นางมาดึงมือข้าไปตบหน้าของตัวเองแล้วก็ล้มลงเอง ข้าไม่ได้แตะต้องตัวนางสักนิดเลย ” จินเยว่ยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ แต่แล้วจากใบหน้าและดวงตาคมดุที่จ้องมองนางอยู่นั่นก็แสดงความไม่เชื่อถือเลยแม้แต่น้อย“ ข้าไม่เชื่อ ใครจะบ้าทำเช่นนั้นกัน อยู่ ๆ ก็ดึงมือผู้อื่นมาตบหน้าตัวเอง หนิงอันจะทำเช่นนั้นทำไมกัน ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่จินเยว่กล่าวหา แต่เขากับจินเยว่ก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ยังเด็กนางไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร แล้วนางจะทำร้ายหนิงอันเพราะเหตุใด หรือว่านางเกิดหึงหวงเขา ไม่พอใจที่เขาเลือกหนิงอันก็เลยคิดจะกลั่นแกล้งนาง“ ไม่จริงนะเจ้าคะ คุณหนูจินเ

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 4 ผ้าเช็ดหน้าเก่า ๆ เขาคงไม่ต้องการหรอก

    หลายวันต่อมา ว่าที่ฮูหยินคนใหม่ของท่านแม่ทัพก็เข้าพำนักในเรือนหลังเล็กที่อยู่ไม่ห่างจากเรือนหลักมากนัก บัดนี้ท่านย่าพอจะทำใจได้บ้างแล้ว และด้วยจินเยว่นั้นมาบอกว่านางไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว หากท่านแม่ทัพไม่ต้องการนาง ก็ไม่อยากจะฝืนใจเขา ต่างคนต่างไปมีหนทางของตนเองเช่นนี้ก็ดีแล้ว นั่นทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าสบายใจขึ้นแม้จะไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันกลับกลายมาเป็นเช่นนี้เลย แต่ด้วยไม่อยากจะบังคับใจหลานชาย จึงได้แต่เฝ้าดูเหตุการณ์ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป และก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้การแต่งงานของหลานชายเกิดขึ้นเร็วนัก เพราะอยากให้เขาแน่ใจตัวเองจริง ๆ ว่าต้องการสตรีนางนั้นเป็นฮูหยินของเขาจริง ๆ ก่อน จึงจะจัดการแต่งงานให้กับหลานชายเพียงคนเดียว แม้ในใจส่วนลึกก็ยังอยากจะได้จินเยว่กลับมาเป็นหลานสะใภ้ของตัวเองเช่นเดิม แต่เมื่อมองดูแล้วความฝันนี้ก็ช่างเลือนลางเหลือเกิน เพราะวัน ๆ เห็นแต่หลานชายเฝ้าเอาอกเอาใจสตรีคนใหม่ของเขา เหมือนรักใคร่นางเสียมากมาย วันหนึ่งจินเยว่เดินออกจากเรือนของตนเองเพื่อจะไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อจะอ่านหนังสือยามบ่ายให้กับฮูหยินผู้เฒ่าฟังเช่นปกติ ขณะเดินตัดผ่าน

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 3 ร้องไห้ให้พอ

    ทั้งหมดพากันเข้าไปในห้องโถงภายในเรือนหลักของจวนแม่ทัพ“ เอาละ ยังไม่ต้องพูดอะไรกันหรอก ไว้เจ้าไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวกันก่อน ย่าสั่งให้เขาเตรียมอาหารให้เจ้ามากมายเต็มไปหมด ล้วนมีแต่ของที่เจ้าชอบกินทั้งนั้น ” ท่านย่าเอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนเข้าไปรวมกันในห้องโถงแล้ว“ท่านย่า ช่วยสั่งให้คนจัดเรือนให้กับหนิงอันด้วยเถิดขอรับ เอาที่ใกล้ ๆ เรือนของข้าหน่อย ไปมาหาสู่กันจะได้สะดวกขอรับ หนิงอัน เจ้าตามสาวใช้ไปนะ ไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวด้วยกันที่เรือนนี้เข้าใจหรือไม่”แม่ทัพมู่หยางหันไปสั่งคนรักใหม่ของเขา ที่หันมารับคำอย่างว่าง่ายด้วยท่าทางอ่อนหวานน่ารัก พอสาวใช้เดินมาที่นางแล้ว หนิงอันก็ลุกขึ้นนางหันไปย่อกายทำความเคารพท่านย่าของคนรักอย่างอ่อนช้อย“หนิงอันคารวะท่านย่ากับแม่นมหวังใช่หรือไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่พูดถึงพวกท่านอยู่บ่อย ๆ เจ้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานสาวด้วยคนนะเจ้าค่ะ”นางหันไปยิ้มให้กับผู้อาวุโสทั้งสองและย่อกายความเคารพอย่างอ่อนช้อย ใบหน้ายิ้มละไมให้กับทั้งผู้อาวุโสและให้กับมู่หลันที่เป็นน้องสาวของคนรักอีกด้วย แม้มู่หลันจะเมินไปทางอื่นทันทีนางก็ไม่ได้สนใจ“เอาละ เจ

  • คนใจร้าย...ข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว   บทที่ 2 ข้าหมดรักในตัวของนางแล้ว

    แล้วแม่ทัพหนุ่มก็หันมายกมือคารวะท่านย่าของเขาที่ตอนนี้ก็ชะงักนิ่งงันจ้องมองเขากับสตรีน้อยนางนั้นเช่นเดียวทุกๆ คนในจวน ใบหน้าของทั้งท่านย่าแม่นมหวังนั้นไม่ต่างกันมากนัก“ คารวะท่านย่าขอรับ ข้าคิดถึงท่านย่าและทุกคน ๆ ที่จวนมาก ๆ เลยขอรับ ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว การศึกที่ยืดเยื้อมาตลอดห้าปีจบสิ้นลงแล้ว ต่อไปข้าคงจะได้อยู่ที่จวนกับท่านย่าและแม่นมหวังได้นาน ๆ แล้วขอรับ ”เขาหันมาคารวะท่านย่ากับแม่นมหวังแล้วก็ร้องทักทายอย่างดีใจส่วนทั้งมู่หลันและเยว่ซินที่ยืนอยู่ข้างกันก็นิ่งมองแม่ทัพหนุ่มตาค้าง ใบหน้างามของเยว่ซินนั้นหม่นแสงลงเล็กน้อย แต่นางก็พยายามคิดในแง่ดีว่า สตรีที่นั่งม้าตัวเดียวกันกับพี่มู่หยางของนางมานั้น อาจจะไม่ได้เป็นอะไรกับเขาก็ได้ นางอาจจะเพียงแค่จำต้องนั่งม้ามาด้วยกันเพราะขี่ม้าไม่เป็นก็เป็นได้“ ท่านพี่มู่หยาง ท่านพาใครมาด้วยเจ้าคะ ”แต่เป็นมู่หลันที่อดใจไม่ไหว เอ่ยถามในทันที ดวงตากลมจ้องมองสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายของพี่ชายนิ่ง ด้วยใบหน้างุนงงเป็นอย่างมาก“ ข้าลืมแนะนำไป นางคือ หลู้หนิงอัน นางเป็นคนรักของข้า กลับมาครั้งนี้ ข้าจะขอท่านย่าแต่งงานกับนางรับนางเป็นฮูหยินของข้า ”สิ้น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status