Share

ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 21:22:51

ตอนที่ 4 บ้านหรือรังขยะ

วันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที แน่นอนว่าคนที่ออกจากโรงพยาบาลเป็นไป๋จ้าวเหม่ยคุณครูประถมโรงเรียนซีหู่จากยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยแม่เลี้ยงใจร้าย ที่ตอนนี้ไม่รู้วิญญาณไปอยู่ที่ไหนแล้ว

“นี่ไงรถที่น้าอ้วนวิ่งชน ยังเป็นรอยบุบอยู่เลย เขายังไม่ได้ซ่อมหรือคะพ่อ”

“ลุงเยี่ยซานของลูกบอกว่าบุบแค่นิดเดียวไม่ต้องซ่อม รอเข้าตรวจสภาพประจำปีค่อยทำน่ะ”  ไป๋จ้าวเหม่ยเดินไปที่หน้ารถทรงสี่เหลี่ยม และก็เป็นจริงดังคาด ที่หน้ากระโปรงรถมีรอยยุบหนึ่งรอยอยู่จริง ๆ ไม่รู้ชนตรงไหนของเธอ แขนขาไม่หักแต่รถยุบ พระเจ้า!

ร่างอวบอ้วนเดินคอตกกลับขึ้นไปนั่งบนรถ เธอเลือกนั่งที่ด้านหลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของสองพ่อลูกที่มองกันอย่างตกใจ และคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่คลั่งรักอู๋เหวยจะไม่ยอมไปนั่งหน้า แสดงตัวตนอวดชาวบ้านเมื่อมีโอกาส กลับปล่อยให้เป็นที่นั่งของอู๋ชิงซวนไปได้ แต่ใครสนสีหน้าหมางงของสองพ่อลูกกันเล่า รอยยุบนั้นทำเอาหัวใจหญิงสาวสะเทือนไปทั้งใจแล้วจริง ๆ

อู๋เหวยไม่ได้สนใจสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของไป๋จ้าวเหม่ยอีก เขาเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ อุ้มลูกสาวขึ้นไป ยกมือขยี้ผมเธอเบา ๆ และปิดประตู วิ่งกลับไปที่นั่งตนเอง

“ทำไมนายถึงได้เอารถเจ้านายมาขับได้ล่ะ เขาใจดีกับนายมากเลยนะ” ไป๋จ้าวเหม่ยคิดว่า เจ้านายของอู๋เหวยใจดีให้ยืมรถมาขับ ยังไงรอยยุบเท่ากำปั้นนั้น เธอต้องหาเงินซ่อมให้เขาดีกว่า

“ฉันต้องซื้อผักกลับเข้าไปด้วย เหล่าซานเห็นว่าเธอออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ก็เลยให้ยืมรถไปส่งเธอที่บ้านด้วย บอกไว้ก่อน เธออย่าได้คิดวิ่งเข้าชนรถเหล่าซานอีกแล้วนะ ครั้งนี้ถ้าเธอไม่ตาย ก็ต้องซ่อมรถให้เขา” อะไรคือการที่รถชนแล้วไม่ตาย แต่ต้องซ่อมรถให้เจ้าของรถอีกด้วย เห็นตัวเธอทำมาจากเหล็กหรือยังไง เธอแค่อ้วนโว้ย

ไป๋จ้าวเหม่ยไม่ได้พูดอะไรอีก หญิงสาวสะบัดหน้าที่ไม่ค่อยจะมีคางของตนเองหนีไปอีกทาง อู๋เหวยมองผ่านจากทางกระจกหลัง เห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่สนใจอีก เข้าทางคุณครูสาววิญญาณดวงใหม่ เธอจึงได้มีเวลามองสำรวจสองข้างทาง ยิ่งออกห่างจากตัวอำเภอมากเท่าไร ที่นี่ก็เต็มไปด้วยสวนผัก นาข้าว ขับมาไม่นานก็จอดที่บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่ง

“เอาละซวนซวนเด็กดี หนูรอพ่ออยู่ที่บ้านนะครับ วันนี้ที่โรงอาหารมีปลาเปรี้ยวหวาน ลุงเยี่ยซานของลูก แบ่งปลาให้ตั้งหนึ่งตัวแน่ะ มีต้มไก่อีกด้วย เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะเอากลับมาให้นะ”

“ค่ะ...พ่อตั้งใจทำงานนะคะ หนูจะรอที่บ้าน” อู๋ชิงซวนยืนโบกมือ จนกระทั่งรถยนต์ขับออกไปไกล จึงหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในบ้าน เด็กน้อยใช้ลูกกุญแจไขประตูรั้วเข้าไป

ครั้นเมื่อร่างอวบอ้วนก้าวขาผ่านรั้วบ้านเข้ามา หัวเข่าก็แทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น บ้านเล็ก ๆ มีหลังคาต่อออกมาหน้าบ้าน หลบแดดลมฝนได้ ทว่าคราบน้ำมันสีดำ กลิ่นโซ่สนิม กองจักรยานคันเก่าที่รอซ่อมแซมจอดเอาไว้ด้านข้าง มองเลยเข้าไปเป็นบ้านเก่าที่ยังคงเป็นอิฐดินสีเทา!

โครงสร้างยังเป็นแบบโบราณมาก ๆ ให้ตายเถอะ ในยุค 80 ที่เธอเรียนรู้มา มันก็เริ่มพัฒนาแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้หมู่บ้านเฮงซวยนี่ มันอยู่ส่วนไหนของประเทศจีนกันแน่ ทำไมมันดูชนบทขนาดนี้

“ซวนซวนไหนน้าขอทดสอบความรู้รอบตัวหนูดูหน่อยสิว่าหนูจะมีความรู้มากแค่ไหน”

“ทดสอบอะไร” อู๋ชิงซวนขมวดคิ้วมองอย่างไม่ไว้ใจ

“ง่าย ๆ ที่ที่เราอยู่มีชื่อว่ามณฑลอะไร เมืองอะไร หมู่บ้านชื่อว่าอะไร ถ้าหนูเป็นเด็กฉลาดก็ต้องรู้”

“ไม่เห็นจะยากเลย ต้าหนิ่วก็ยังรู้ พวกเราอยู่ที่มณฑลฉ่านซี เมืองฮั่นจง หมู่บ้านลั่วฉาง” เมืองฮั่นจงให้ตาย มันอยู่ซอกหลืบไหนของแผนที่กันล่ะ ทว่ามณฑลฉ่านซีเป็นมณฑลใหญ่ ไอ้เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีประวัติเก่าแก่ ก็มักจะถูกดูดกลืนเข้ากับวัฒนธรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย วัฒนธรรมเก่า ๆ จึงเลือนหายไปตามกาลเวลา

เช่นเดียวกับเมืองฮั่นจงยิ่งไร้ความสำคัญ ในยุคปัจจุบันก็ถูกกล่าวถึงผ่าน ๆ สองถึงสามประโยคเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงหมู่บ้านลั่วฉางที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต ให้ตายเถอะเธอกลายเป็นคนตาบอดแล้วจริง ๆ

“ให้ตายหมู่บ้านลั่วฉาง มันห่างจากปักกิ่งแค่ไหนกันล่ะเนี่ย”  ไป๋จ้าวเหม่ยยกมือขึ้นขยี้เส้นผมจนยุ่งเหยิง ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีและลูกติดไม่พอ ยังมาอยู่ซอกหลืบชนบทที่ไร้ตัวตนในสายตาคนทั้งโลกอีกด้วย

“เธอไม่รู้เหรอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พ่อบอกว่ามันไกลมาก ๆ เลยละ ที่ปักกิ่งมีดาราด้วยนะ ที่นั่นผู้คนใส่ชุดสวย ๆ ทาปากแดง ๆ กลิ่นตัวก็หอมราวกับดอกไม้ พี่ม่ายม่ายได้แต่งงานกับคนที่ปักกิ่ง เพิ่งกลับมาเมื่อเดือนก่อน มีแต่คนอิจฉา เธอเองก็อิจฉาเหมือนกันนี่ ฉันยังได้ยินเลย เธอด่าพี่ม่ายม่ายว่าโสเภณี รอให้แก่ตัวก่อน จะขายเนื้อให้ใครได้”  

อู๋ชิงซวนยิ่งเล่าเรื่องเมืองหลวงปักกิ่งดวงตาก็ยิ่งเป็นประกาย เธอยิ้มออกมา และนึกถึงพี่ม่ายม่ายที่เพิ่งกลับมาสร้างบ้านด้วยอิฐแดงให้กับป้าจินก็ยิ่งน่าอิจฉา ในขณะที่เด็กหญิงยิ้มแย้ม ในใจอยากไปปักกิ่งบ้างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยได้ฟังก็ยิ่งหน้าซีด สุดท้ายอดไม่ไหวจึงยกมือขึ้นห้ามไม่ให้เด็กน้อยพูดอีก

“ซวนซวน! ห้ามพูดจาแบบนี้อีกนะ เราจะด่าคนอื่นว่าโสเภณี ขายเนื้อขายอะไรก็ไม่ได้”

“ฉันไม่ได้ด่าเสียหน่อยเป็นเธอต่างหากที่ด่า ยัยอ้วน” อู๋ชิงซวนถูกดุอย่างไม่ยุติธรรมก็พลันกระทืบเท้าไม่พอใจ คำพูดนี้ไม่ใช่น้าอ้วนนี่หรือไงที่ด่าให้ฟัง ยังมีคำด่าอื่นอีกตั้งเยอะ แต่เธอจำไม่ได้แล้ว

“เอาละเป็นฉันที่เมื่อก่อนไม่ดีเอง แต่ต่อไปนี้ฉันจะไม่ด่าใครอีกแล้ว และที่สำคัญซวนซวนเธอควรเรียกฉันว่าน้าเหม่ย น้าไป๋ หรือแม่”

“ฉันไม่มีวันเรียกเธอว่าแม่!” เด็กน้อยเบ้ปากลง นั่นไงกำลังหลอกล่อให้เธอเรียกว่าแม่ ไม่มีทางเสียหรอก พี่สาวหลิวชิงฮุยบอกว่าคนที่เป็นแม่จะต้องงดงาม และใจดีเหมือนพี่สาวหลิวต่างหาก และยังบอกอีกว่า ระวังน้าไป๋จะแกล้งทำดีให้เธอเรียกแม่ แต่เธอไม่โง่เสียหน่อย

“ถ้าอย่างนั้นก็เรียกน้าไป๋ หรือน้าเหม่ยเลือกเอา อย่าให้ได้ยินว่าเธอเรียกฉันนังอ้วน หรือเรียกฉันว่าเธออีก” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นสีหน้าไม่ยินยอมของเด็กหญิงก็ยกมือขึ้นห้าม

“ฉันรู้ว่าฉันนิสัยไม่ดี แต่เธอก็ไม่ควรเอาอย่างที่ไม่ดีของฉัน หรือว่าเธออยากเป็นคนไม่ดีเหมือนฉันล่ะ อีกหน่อยถ้าเธอนิสัยเสีย พ่อเธอก็จะไม่รักเธอ เหมือนที่พ่อเธอไม่รักฉัน ต้องการแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่นะ ฉันจะไม่เลียนแบบทะ...เอ่อน้าไป๋” เด็กหญิงได้ยินคำว่า พ่อจะไม่รัก เธอก็หวาดกลัวขึ้นมา รีบส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาไหลนอง

“ดีมาก แต่คำว่าฉันก็ควรเปลี่ยนเป็นหนูจะดีกว่า”

ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นท่าทางหวาดกลัวของเด็กหญิงก็ดีใจมาก ในเมื่อรู้จักกลัว ก็ย่อมสอนได้ เธอเดินไปเช็ดน้ำตาให้กับเด็กน้อย และจูงมือเข้ามาในบ้าน ที่บ้านก็เป็นห้องโถงใหญ่ ๆ กั้นห้องนอนเอาไว้หนึ่งห้อง ด้านหลังเป็นครัวโบราณเก่า ๆ หนึ่งอัน ที่สำคัญไม่มีไฟฟ้า

มืออวบยกขึ้นตบหน้าผากตนเองดังเพียะ! ยุคนี้มันมีไฟฟ้าแล้วไม่ใช่เหรอ เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีแล้วนี่นา ขนาดจักรยานยังมีแล้วเลย ทำไมบ้านเธอไม่มีไฟฟ้า ไม่มีหม้อหุงข้าว โอ๊ยรู้สึกเหมือนไปเข้าค่ายกับเด็ก ๆ ในโรงเรียนอย่างไรอย่างนั้น แต่เข้าค่ายก็แค่สองวัน ทว่าที่นี่เธอต้องอยู่ตลอดชีวิต

“ซวนซวนบ้านเรามีข้าวสารหรือไม่ ที่บ้านมีอะไรบ้างที่พอจะทำอาหารกินได้น่ะ”

“ไม่รู้สิเธอ” ไป๋จ้าวเหม่ยจ้องตาเด็กน้อยที่หลุดคำว่าเธอออกมา ครั้นซวนซวนเห็นดังนั้นก็สะดุ้งพลางก้าวขาถอยหลังมาสามก้าว

“หนูไม่รู้ค่ะ ของกินน้าไป๋จะเก็บเอาไว้ในหีบไม้ใบใหญ่ ในห้องนอนไม่ใช่หรือ ทำไมน้าไม่ลองไปดูล่ะ”

“หีบไม้ แฮ่ ๆ น้าลืมน่ะ เอาละซวนซวนไปเล่นหน้าบ้านเถอะ น้าจะลองดูว่ามีอะไรทำกินได้บ้าง” อู๋ชิงซวนพยักหน้าและวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน

ไป๋จ้าวเหม่ยก็เดินเข้าไปในห้อง หีบใบใหญ่ตั้งเอาไว้ใต้เตียง จะว่าเตียงก็ไม่ใช่มันเป็นแคร่ไม้ไผ่ที่ทำเอาง่าย ๆ ต่างหาก เธอลากหีบออกมา ทว่าไม่รู้ร่างเดิมเอากุญแจไว้ที่ไหน เธอจึงใช้มีดฟันมันจนขาด แต่แล้วดวงตาเรียวก็ต้องเบิกขึ้น เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในหีบ

“จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ” เวรแล้วไข่ไก่ฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบเสียแล้ว เฮ้อ!

************************

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 26  สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 25 สงสัย

    ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 24 ออกตามหา

    ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 23 ติดถ้ำ

    ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวย

    ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status