เพราะเธอคือรักแรกพบสบตาของเขา และเขาก็คือผู้ชายสายฮาร์ดคอร์ของเธอ มาเฟียผู้ที่ไม่เคยอ่อนโยน กับนางแบบสาวสุดน่ารัก ที่ 'ริวอิจิ' ลักพาตัวของเธอมา 'ปลายฟ้า' มาอยู่กับเขา ที่บ้านของเขา โดยเขาจะยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอ โดยที่เธอเองก็เข้าใจเขาผิด คิดว่าเขา คนนี้ มีแฟนอยู่แล้ว
View More[Kak Mur, aku pinjam uang 200 ribu untuk makan ada nggak?]
Dengan tangan yang gemetar, aku kirimkan pesan pada kakakku. Murni Cahyani namanya, suaminya bekerja di perusahaan ternama. Hidupnya terbilang enak dan tercukupi. Tidak seperti aku yang masih kekurangan setiap kali tanggal sudah mengarah ke angka dua puluh.
Tidak lama kemudian, ia membalas pesan yang telah aku kirimkan tadi.
[Perasaan Lo nggak punya duit mulu, kerjaan Lo pinjem duit mulu. Enak banget Lo ngandelin gue banget untuk pinjam!]
Astaga, sakit .... Aku selalu ganti uangnya setiap kali pinjam dengannya. Ia seorang kakak, apa salahnya membantu adiknya yang hidupnya masih jauh dari kata cukup.
[Kalau nggak mau minjemin, nggak usah bicara begitu, Kak. Aku sakit hati bacanya. Semoga kakakku yang paling cantik sehat dan banyak uang terus.]
Aku membalas pesannya sambil menghela napas panjang. Agar tak menjulur ke hati yang paling dalam rasa sakit hati ini. Agar ia tak mengalami hal yang sama sepertiku nantinya.
Namaku Raya Aylena. Adik kandung dari Murni Cahyani. Namun, hidupku memang tak seberuntung Kak Murni. Ia beruntung mendapatkan suami yang memiliki pekerjaan layak dan bergaji besar.
Berbanding terbalik dengan suaminya Kak Murni, suamiku hanya seorang proyek di suatu perusahaan kecil. Gajinya pun harian, jika suamiku tidak masuk tak terhitung mendapatkan gaji. Tidak seperti suami kakakku, sakit pun masih digaji oleh perusahaan. Bahkan ditanggung asuransi kesehatan jika masuk rumah sakit.
Tiba-tiba pesan datang lagi darinya. Ia menanyakan nomer rekeningku. Namun, aku sudah terlanjur sakit hati atas jawabannya. Jadi aku putuskan untuk batal pinjam dengannya.
[Berapa nomer rekeningnya?] Sedari dulu begitulah Kak Murni, selalu saja membuat hatiku sakit dulu, baru diberikan setelah ia puas mencaci-maki. Ini perbuatan buruk, tak perlu ditiru.
[Nggak jadi, udah dapet.] Aku balas seperti itu, padahal perut ini masih perih menahan lapar karena belum makan seharian. Pinjam uang pada saudara sendiri harus mendapatkan ocehan dulu.
[Oh ya udah, kirain belum dapet. Ada ini duit segitu, Mah.] Aku mengelus dada dengan tangan masih gemetar karena belum juga makan.
Aku cari kontak teman dan sepupu, siapa tahu ada yang mau bantu. Lalu aku kirimkan pesan yang sama, siapa tahu salah satu ada yang balas.
[Maaf, aku boleh pinjam uang nggak 200 ribu, untuk sampai gajian.] Aku kirim ke dua kontak, satu ke teman satu lagi ke sepupu.
Tling ....
Kedua pesan membalas dan jawabannya juga sama, sama-sama membuatku meremas perut yang semakin terasa lapar.
[Maaf, Ray, sedang kosong juga.]
Astaga, aku hanya termenung. Menatap perutku yang sudah bernyanyi. Tidak lama kemudian, suamiku datang pulang kerja.
"Assalamualaikum," ucapnya.
"Waalaikumsalam, kok baru pulang, Mas?" tanyaku sambil menarik tangannya untuk aku kecup.
"Iya, tadi Bos ngajak makan dulu di luar." Aku menelan ludah, ternyata suamiku sudah makan. Aku di sini dari pagi belum makan karena tidak ada uang.
"Aku belum makan seharian, minjam uang ke sana-sini nggak dapet." Aku tertunduk sambil memegang perut.
"Kamu pinjam kak Murni?" tanyanya.
"Iya," sahutku singkat.
"Percuma, kan aku sudah bilang jangan pinjam dia lagi. Ini aku bawakan kamu makan, tadi Bos bawain. Ini juga uang 500 ribu bonus dari Bos karena aku tadi sudah menyelamatkan dirinya yang hampir tertimpa alat berat."
"Ini benar, Mas?"
"Iya, kamu jangan pinjam-meminjam uang, kalau untuk makan dan lainnya biar aku yang cari." Ucapan Mas Fariz membuatku terenyuh.
***
Tiga bulan kemudian.
Semenjak suamiku menolong atasannya yang hampir tertimpa alat berat. Semenjak itulah ia diangkat jadi orang kepercayaan Bosnya. Hidup kami dalam waktu singkat berubah jadi enak. Bahagia rasanya tak pernah kekurangan lagi.
Tiba-tiba ponselku berdering, ada suara telepon masuk. Itu dari Kak Murni. Ada apa dia malam-malam gini telepon.
"Hallo, Raya. Tolong Kakak, pinjam uang 2 juta ada nggak? Kakak besok musti ada uang segitu. Kalau nggak, rentenir obrak-abrik rumah Kakak."
Aku terdiam, seketika teringat tiga bulan lalu. Apa ini yang disebut karma?
Bersambung
"อ่าห์ ริวขาา มานอนกับฟ้าสิคะ"ปลายฟ้าที่นอนตะแคงข้างกระดิกนิ้วเรียกผมให้เข้าไปนอนบนเตียงกับเธอ"อย่ายั่วได้ไหมวะ!!"ผมตะโกนบอกเธอ เธอก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรเลยมีแต่เอื้อมมือไปชุดนอนของเธอแหวกให้ผมเห็นทรวงอกที่ใหญ่โตน่าฟัดของเธอจนผมเห็นยอดอกสีชมพูกำลังแข็งชูชันท้าทายผมอยู่ "เอือก อึก"ผมกลืนน้ำลายทันทีก่อนที่นำ้ลายของผมมันจะไหลอออกมา"ยุบหนอ ยุบหนอ"ผมหลับตาพลางเอ่ยขึ้นและยื่นมือลงไปลูบความเป็นชายของผมที่มันแข็งขยายใหญ่พร้อมสู้รบเต็มทนแล้วผมรู้สึกปวดหนึบไปหมด"อ่าห์ ริวขา ฟ้าเสียวจัง"เสียงกระเส่าของปลายฟ้าครางขึ้นผมรีบลืมตามองไปที่เธอทันที ตอนนี้เธอกำลังเอานิ้วเรียวเขี่ยยอดอกสีชมพูของเธออยู่ ผมก็ไล่สายตามองไปตามเรือนร่างที่แสนเย้ายวนของเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม"มานี่สิคะริว มาหาฟ้าหน่อยนะ นะคะๆๆนะๆๆ"ปลายฟ้าเอ่ยเรียกผมด้วยนำ้เสียงอ้อนๆพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ผม ผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอที่เตียงนอน พอไปถึงที่นอนผมก็ค่อยๆคลานขึ้นเตียงไปค่อมร่างเธอ เธอก็พลิกตัวกลับมานอนหงายพร้อมกับส่งนิ้วเรียวยาวของเธอมาลูบไล้แผงอกลำ่ๆของผม ผมก็เสียวซ่านไปทั้งตัว"ริวขา"ปลายฟ้ายันตัวขึ้นมาเอ่ยเรียกผมด้วยนำ
"ขอบคุณนะที่รักกู และทนนิสัยเสียๆของกูได้ กูจะทำให้มึงกับลูกมีความสุขที่สุดปลายฟ้า"ริวอิจิเอ่ยบอกฉันและเขาก็ผละออกมาจากอ้อมกอดของฉันและเราก็มองหน้ากันอย่างเนิ่นนาน ฉันโชคดีที่มีผู้ชายที่รักฉัน และฉันเองก็รักเขามากเหมือนกัน"ขอบคุณนะคะริว^_^"ฉันเอ่ยบอกริวอิจิไปแล้วเขาก็ก้ทมหน้าลงมาประกบริมฝีปากของฉันทันที"จ๊วฟฟ จ๊วฟฟ ซู๊ดดด อื้อออ"เราทั้งคู่ครางขึ้นอย่างพอใจที่เราทั้งคู่มอบจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่มให้กันและกัน เราจูบกันอย่างเนิ่นนาน"วู้ดดดดดดดดด""เฮ้ๆๆๆๆๆ""ฮิ้ววววววววว""อื้ออ"ฉันพยายามจะผลักอกของริวอิจิให้ออกไปหลังจากที่ทุกคนโห่แซวฉันกับริวอิจิ แต่ริวอิจิไม่ยอมเขายังคงหาความหวานในโพรงปากของฉันอยู่ ฉันก็เลยต้องจูบตอบเขากลับไปเช่นเดิม เสียงหัวใจของเราทั้งคู่เต้นแรงไปในจังหวะเดียวกันตึกตักๆๆๆ ตึกตักๆๆๆๆ"มานี่มา"ริวอิจิผละออกจากฉันแล้วเขาก็เปลี่ยนมาจับมือของฉันเดินไปทางซุ้มเดินมุ่งหน้าตรงไปที่โต๊ะที่มีเอกสารวางอยู่"เซ็นชื่อมึงลงไปตรงนี้"ริวอิจิเอ่ยบอกฉันในขณะที่เราเดินมาถึงโต๊ะแล้ว แล้วเขาก็ชี้นิ้วไปที่เอกสารทะเบียนสมรส ใช่มันคือเอกสารการจดทะเบียนสมรส"เร็วๆๆ!"ริวอิจิเอ่ยสั่งฉันพร้อม
"สวยมาก^_^"ฉันเอ่ยขึ้นและค่อยๆเดินไปตามทางเดินที่มีดอกไม้ถูกปักตกแต่งไว้กับติดอย่างสวยงาม ฉันเดินเข้าไปถึงโต๊ะที่มีเอกสารอะไรวางอยู่สักอย่างฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจ"มีคนตกหลุมรักคุณครับ!!!"เสียงพสานกันหลายๆเสียงของผู้ชายเอ่ยขึ้นพร้อมกันที่ข้างหลังของฉัน ฉันจึงหันกลับไปมองก็พบกับชายในชุดสูทสีขาวนับ10คนกำลังยืนเรียงหน้ากระดานอยู่"เขาตกหลุมรักคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่พบสบตาครับ!!"เสียงพสานของชายในชุดสูทเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงหนักแน่นและพร้อมเพียงฉันว่าดูคล้ายๆการฝึกของทหารเลยยังไงอย่างนั้นแหละ"結婚して下さい"เสียงพสานของชายชุดขาวเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพียงเป็นภาษาญี่ปุ่น"ได้โปรดแต่งงานกับผมเถอะครับ"ริวอิจิที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสุดเท่ห์เดินถือช่อดอกกุหลาบสีขาวเข้ามาหาฉันพร้อมเอ่ยของฉันแต่งงานตรงหน้าฉัน ฉันก็อมยิ้มมองริวอิจินี้เขาขอฉันแต่งงานหรอเนี่ย โรแมนติกสุดๆค่ะ "ずっと一緒にいよう"ชายชุดสูทพสานเสียงขึ้นเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกครั้งและพากันถอดสูทตัวนอกออกพร้อมหันหลังให้กันและแผ่นหลังในเสื้อยืดสีขาวของพวกเขาทุกคนมีตัวหนังสือเขียนรวมๆกันว่า ริวอิจิ❤️ปลายฟ้า "อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"ริวอิจิคุกเข่าลงไป
"ไอ้เหี้ยริว มึงมันไม่ใช่คนเเล้ว!!"พี่ซาโนะเอ่ยขึ้นอย่างตกใจฉันก็มองไปที่ริวอิจิที่ตอนนี้เขาได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของชายชุดดำที่นอนเกลื่อนเต็มพื้นแต่ละคนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ "หึ!อย่าลืมคำสัญญานะไอพี่เมีย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยเว้ยฮ่าๆๆๆ!!"ริวอิจิเอ่ยบอกพี่ซาโนะแล้วเขาก็หันกลับมามองฉันฉันก็ส่งยิ้มไปให้เขา ริวอิจิรีบวิ่งเข้ามาหาฉันอย่างไว ตึกๆๆๆๆ "มึงพูดจริงๆนะปลายฟ้า!"ริวอิจิเอ่ยถามฉันทันทีที่เขาวิ่งเข้ามาถึงตัวฉัน ฉันก็มองสำรวจใบหน้าของเขาที่มีบาดแผลเล็กน้อยมุมปากแตกนิดหนึ่งหางคิ้วแตกอีกนิดหนึ่งดูรวมๆแล้วเขาไม่ได้บาดเจ็บมากเท่าไร เขาเก่งจัง^_^ "ค่ะ ถามแม่ของคุณดูได้คะริว"ฉันเอ่ยบอกริวอิจิพลางหันหน้าไปมองแม่ละอองมณี "เรื่องจริงใช่ไหมแม่ ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วใช่ไหม!!"ริวอิจิเอ่ยถามแม่ละอองมณีไปด้วยนำ้เสียงตื่นเต้นปนดีใจ "จ๊ะ หนูฟ้ากำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่นะลูกคุณหมอเขาตรวจแล้วเมื่อเช้านี้"แม่ละอองมณีเอ่ยตอบริวอิจิ "เย้ๆๆปลายฟ้าของกู กูรักมึงนะ รักลูกด้วย ฟอดดด"ริวอิจิหันกลับมาหาฉันพลางเอ่ยบอกฉัน "ว๊าย!ริวคะ ฟ้ากลัว เดี๋ยวฟ้าตก!"ฉันร้องบอกริวอิจิอย่างตกใจที่ตอนนี้เขายกร่างของฉันขึ
"ไอพี่เมียๆๆ!"ริวอิจิตะโกนเรียกพี่ซาโนะอย่างเสียงดัง"อะไรของมึง เปลี่ยนใจไม่สู้ล่ะเหรอ?!"พี่ซาโนะยืนเท้าเอวมองริวอิจิและเอ่ยถามริวอิจิขึ้น"สู้เว้ย!แต่ขอไปหาเมียเพื่อเพิ่มกำลังแปปหนึ่ง!"ริวอิจิเอ่ยบอกพี่ซาโนะพาหันมามองฉันและเขาก็ส่งยิ้มมาให้ฉัน ฉันก็อมยิ้มอย่างเขินๆไปให้เขา"ห่าอะไรของมึงหนักหนาวะ เออไปไป๊สัส!!"พี่ซาโนะสบถขึ้นและเอ่ยไล่ริวอิจิ ริวอิจิก็รีบวิ่งฝ่าวงล้อมของชายชุดดำเข้ามาหาฉันอย่างไวตึกๆๆๆ"ริวคะ^_^"ฉันเอ่ยเรียกริวอิจิในขณะที่เขาวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว"อีนมใหญ่ อีไม่เชื่อใจผัวตัวเอง กูงอนมึง!!"ริวอิจิเอ่ยบอกฉันด้วยนำ้เสียงงอนๆพวกพ่อเเม่ฝั่งของฉันและฝั่งของเขาต่างพากันหัวเราะคิกคักกันใหญ่ "ฟ้าขอโทษนะคะริว ดีกันนะ นะคะนะๆ"ฉันเดินเข้าไปหาริวอิจิและเอ่ยบอกเขาพลางยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าของเขาพลางทำตาปิ๊งๆ ริวอิจิก็อมยิ้ม"เดี๋ยวหลังจากที่กูสู้กับไอพวกของพี่เมียเสร็จแล้ว คืนนี้มึงต้องง้อกูด้วยโอเครป่ะ!"ริวอิจิเอ่ยบอกฉันแล้วเขาก็หันไปชี้นิ้วให้ฉันดูกลุ่มชายชุดดำนับร้อยคนที่พากันยืนอยู่ลานหญ้ากว้างๆของบ้านซานโต้"ทำไมต้องสู้กับพวกเขาละคะริว?"ฉันก็เอ่ยถามริวอิจิไปด้วยน
คฤหาสน์ ซานโต้13:00น.ปลายฟ้า"อุ๊บส์ อุ๊บส์"ฉันที่กำลังนอนหลับอย่างสบายก็ต้องลุกขึ้นมาเพราะรู้สึกอยากอาเจียน"อุ๊ย!จะอ้วกหรอคะ?"เเม่ละอองมณีเอ่ยถามขึ้น ฉันรีบพยักหน้าหงึกๆไปให้เธอ ฉันอยาอาเจียนมากเลยตอนนี้"ใส่นี่เลยลูก"แม่ของพี่ซาโนะรีบเอาถังใบสีดำขนาดไม่ใหญ่มากมาถือไว้ตรงหน้าฉัน ฉันไม่รอช้ารีบก้มหน้าลงไปหาถังทันที พร้อมกับปล่อยของเสียลงไปในถังสีดำ"อ้วกกก อ้วกกกกก อึก ทรมานจังเลยคะ"ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่ปล่อยของเสียไปหมดแล้ว"โอ๋ลูกโถ่เอ้ย เดี๋ยวก็หายค่ะลูก"แม่ละอองมณีส่งแก้วนำ้เปล่ามาให้ฉัน ฉันก็รับแก้วนำ้มาจากเธอ"ขอบคุณค่ะ"ฉันเอ่ยขอบคุณแม่ละอองมณีและดื่มนำ้เปล่าเพื่อเอามาบ้วนปาก"อึก อึก ถุ้ย"ฉันบ้วนปากและถุ้ยนำ้ลงไปในถังสีดำ"เวียนหัวหรอค่ะลูก?"แม่ละอองมณีเอ่ยถามฉันที่ตอนนี้ฉันเอามือไปจับขมับตัวเอง เพราะฉันรู้สึกเหมือนมึนๆจะวูบยังไงก็ไม่รู้"ค่ะ ฟ้าเป็นอะไรหรอคะเเม่?"ฉันเอ่ยถามแม่ละอองมณีไปอย่างสงสัย แม่ละอองมณีก็หันไปมองหน้าแม่ของพี่ซาโนะและเธอทั้งสองก็พากันอมยิ้มขึ้นมา ฉันก็ยิ่งงงเข้าไปอีก"คริๆๆหนูกำลังตั้งครรภ์ค่ะหนูฟ้า"แม่ละอองมณีเอ่ยขึ้นพลางลงมานั่งบนเตียงกับฉันและเธอก็เ
Comments