LOGINงานวิวาห์ไม่ปรารถนาทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น แต่พอนานวันหัวใจเจ้ากรรมกลับพยศรักเจ้าสาวที่แสนเกลียดชังจนหมดหัวใจ “ทำไมฉันต้องห่วงตัวเองด้วย เธอต่างหากที่ต้องห่วงตัวเอง” “ฉันเองไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะฉันรับมือพวกคุณได้ทุกรูปแบบ ฉันหน้าหนาหน้าทนเหมือนกับที่พวกคุณต่อว่าฉัน ฉันจึงคิดว่า คุณน่าจะห่วงตัวคุณเองมากกว่าค่ะ เรื่องที่คุณวาดหวังไว้มันจะไม่สำเร็จ คุณหวานก็จะเป็นแม่สายบัวรอเก้อ ไม่มีทางมายืนแทนตำแหน่งของฉัน ส่วนคุณก็ต้องทนอึดอัดตายอยู่กับฉัน ผูกมัดตัวเองด้วยทะเบียนสมรสที่ฉันไม่มีวันเซ็นชื่อลงในใบหย่าให้” น้ำเสียงเธอนิ่งเรียบ แต่เฉือนหัวใจคนฟัง เขารู้ดีว่าศรัญญามีความอดทนมากแค่ไหน มิเช่นนั้นคงไม่มายืนเถียงเขาฉอดๆ อย่างนี้ “แต่ฉันคิดว่า ไม่…” เขาเอ่ยเสียงหนัก เน้นในคำสุดท้าย “อีกไม่นานฉันจะต้องสมหวัง เป็นเธอซะเองที่ผิดหวัง ผิดหวังในทุกเรื่องที่เธอคิดไว้ เรื่องต้าร์ ฉันขอสั่งเธอว่า ให้อยู่ห่างๆ เพื่อนฉันไว้ ฉันไม่อยากเห็นเพื่อนฉันตกต่ำคว้าเธอมาเป็นเมีย แค่เธอเป็นเมียฉันก็เต็มกลืนจะแย่ ชีวิตฉันวิบัติก็เพราะเธอ”
View Moreกระเป๋าเดินทางหลายใบถูกลำเลียงมาไว้หน้าบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยตารางวา ก่อนที่เจ้าของกระเป๋าจะเดินออกมายืนรอรถตู้ที่จะรับไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นกับสามีใหม่ของธนวรรณ ที่หอบหิ้วบุตรสาวและน้องสาวไปอยู่ด้วย
เด็กหญิงธนัสสรณ์หรือน้ำหวานวัยสิบสองปีหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ชะเง้อคอมองไปยังประตูรั้วบ้านไม่วางตา ราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่
“มองหาพี่ใหญ่เหรอจ้ะน้ำหวาน” ธนพรน้าสาวเอ่ยถามหลานสาวอย่างรู้ใจ
“ใช่ค่ะ พี่ใหญ่สัญญาว่าจะมาส่งน้ำหวาน” ปากเด็กหญิงพูด ทว่าสายตายังคงมองไปยังมองไปยังจุดเดิม
“เดี๋ยวพี่ใหญ่คงมา พี่ใหญ่เป็นคนรักษาสัญญา รับปากอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น” ธนพรปลอบหลานรักพร้อมกับฉีกยิ้มเมื่อเห็นร่างของคนที่ธนัสสรณ์รอคอย เดินเข้ามาในบ้าน “นั่นไง พี่ใหญ่มาแล้ว”
ธนัสสรณ์มองคนที่ตนเองรอคอยด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะหมองเศร้าที่ต้องจากพี่ชายข้างบ้านที่แสนดีไปอยู่คนละซีกโลก แต่อย่างน้อยก่อนจากลาเธอก็ได้พบหน้าเขา
“สวัสดีครับคุณอา” จอมทัพ รุจิเวโรจน์วัยสิบเจ็ดปีพนมมือไหว้เจ้าของบ้าน รวมทั้งธนพร
“สวัสดีจ้ะ” ธนวรรณมารดาธนัสสรณ์รับไหว้ “ใหญ่รู้ไหมว่า น้ำหวานชะเง้อคอรอใหญ่จนคอจะยาวเหมือนยีราฟแล้ว”
“พี่ต้องขอโทษน้ำหวานด้วยนะที่มาช้า พี่ไปเอาของชิ้นนี้มาให้น้ำหวาน”
จอมทัพส่งกล่องของขวัญที่ตั้งใจมอบให้สาวน้อยตรงหน้าที่มีความสวยโดดเด่นตั้งแต่เยาว์วัย เด็กสาวที่มัดใจเขาเสียอยู่หมัด
“ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่” เด็กหญิงนำกล่องของขวัญนั้นกอดไว้แนบอก
“จะไม่เปิดดูหน่อยเหรอว่าเป็นอะไร” จอมทัพพูดราวกับจะบอกเธอว่า ให้เปิดดูของที่ตนตั้งใจมอบให้ “พี่อยากรู้ว่าน้ำหวานชอบของที่พี่ให้หรือเปล่า”
“ค่ะพี่ใหญ่ น้ำหวานจะแกะดูค่ะ” พูดจบสาวน้อยแสนสวยได้แกะห่อของขวัญที่บรรจงห่ออย่างสวยงาม พอเห็นของขวัญในกล่อง เธอยิ้มกว้างกอดสิ่งนั้นไว้แนบอก “น่ารักที่สุดเลยค่ะ น้ำหวานจะเก็บมันไว้ข้างกาย ทะนุถนอมมันด้วยชีวิตค่ะ”
ของขวัญที่จอมทัพมอบให้เธอก่อนลาจากคือ ตุ๊กตาคิตตี้ที่เขาเคยสัญญาไว้กับธนัสสรณ์ว่า จะซื้อให้ในวันเกิดปีนี้ แต่ในวันนั้นเขาต้องเดินทางไปหาคุณปู่ในจังหวัดเชียงราย จอมทัพจึงซื้อมาให้เธอในวันนี้แทน
“พี่ทำตามสัญญาแล้วนะ” จอมทัพบอกสาวน้อยตรงหน้า “พี่ยังมีของอีกชิ้นมอบให้น้ำหวานด้วย”
“อะไรคะพี่ใหญ่” จอมทัพล้วงหยิบของชิ้นหนึ่งในกระเป๋าออกมา แล้วส่งให้ธนัสสรณ์ต่อหน้าบุพการีของเธอ
ธนัสสรณ์มองแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดงามอยู่ตรงกลางอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มกระจ่างเต็มดวงหน้านวลที่สวยงามราวกับเทพธิดา ใจเธอเต้นระส่ำไปหมด ค่อยๆ ยื่นมือไปหยิบแหวนวงนั้น ธนวรรณกับธนพรพากันยิ้ม เพราะรู้ความหมายของจอมทัพ
“อาว่า ใหญ่สวมให้น้องดีกว่านะ”
ธนวรรณที่อยากได้จอมทัพเป็นลูกเขยทุกลมหายใจ รีบบอกให้จอมทัพสวมแหวนให้บุตรสาว จะได้คล้ายกับว่า จอมทัพกับธนัสสรณ์หมั้นหมายกัน จอมทัพไม่ปฏิเสธคำบอกของธนวรรณ เขาหยิบแหวนในมือของสาวน้อยแล้วบรรจงสวมนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
“น้ำหวานจะไม่ถอดมันออกค่ะ จะสวมมันตลอดเพราะเท่ากับว่า พี่ใหญ่อยู่ใกล้ๆ น้ำหวาน” เด็กหญิงไร้เดียงสาเอ่ยบอกตามความรู้สึกของตนเอง
“น้ำหวานอยู่ในใจของพี่เสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนพี่ไม่มีวันลืมน้ำหวาน เมื่อถึงเวลาพี่จะไปหาน้ำหวานที่โน่นนะ” จอมทัพบอกความจริงจากใจให้เธอรับรู้ “พี่รักน้ำหวานนะ”
เด็กสาวแก้มแดงระเรื่อ หัวใจยิ่งเต้นแรงมากกว่าเดิมกับคำบอกรักที่เอ่ยต่อหน้ามารดาและน้าสาว เป็นคำพูดที่เธอไม่มีวันลืม
“น้ำหวานรักพี่ใหญ่ค่ะ น้ำหวานจะรอพี่ใหญ่มาหาน้ำหวานนะคะ”
ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน มองสบสายตากันนิ่ง ราวกับว่าไม่มีใครอื่นอย่างรอบข้าง ระหว่างนั้นรถตู้ได้แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน
“ได้เวลาไปกันแล้วน้ำหวาน” ธนพรบอกหลานสาว ธนัสสรณ์ล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะมอบให้เขา
“พี่ใหญ่อย่าลืมน้ำหวาน อย่าลืมคำสัญญานะคะ”
“พี่สัญญาว่า พี่ไม่มีวันลืมน้ำหวาน ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดพี่ก็จะไม่ลืม ความรักของพี่จะเป็นนิรันดร์”
จอมทัพนำภาพถ่ายใบเล็กที่เธอมอบให้มาแนบไว้กับอก พร้อมกับย้ำคำมั่นสัญญาที่เขาจะยึดมั่นไว้ในใจ
ธนวรรณ ธนพรและธนัสสรณ์ก้าวขึ้นรถตู้ หลังจากที่คนรับใช้นำกระเป๋าใส่ไว้ท้ายรถ ครั้นประตูรถปิดลง จอมทัพรู้สึกเหมือนกับว่า หัวใจหลุดหาย มองสาวน้อยที่กุมหัวใจเขาไว้ด้วยความอาลัย ธนัสสรณ์เองก็เช่นกัน มองเขาด้วยสายตาไม่ต่างกัน มีน้ำตาไหลรินเป็นทาง มองจอมทัพที่ยืนโบกมือให้เธอจนลับสายตา
“พี่สัญญาว่า จะรักและเก็บหัวใจให้หวานคนเดียว”
เป็นคำมั่นสัญญาที่เขาย้ำบอกกับตัวเอง แล้วจะยึดมั่นไว้จนกว่าเขาและเธอจะได้พบกันอีกครั้ง และวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่ห่างกัน
15 ปีผ่านไป
สมาชิกในตระกูลรุจิเวโรจน์มารวมตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นกันอย่างพร้อมหน้า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก หรือจะพูดได้ว่าในรอบปีจะมีสักครั้ง การที่ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ได้เป็นเพราะ ลิขิต รุจิเวโรจน์ประมุขของบ้านเรียกทุกคนมาเพื่อบอกกล่าวบางอย่างให้ทุกคนรับรู้
ที่ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักเป็นเพราะ ลิขิตได้แยกตัวไปอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่บนเนื้อที่เดียวกันกับบ้านหลังใหญ่ เขาอาศัยอยู่กับนภาพรภรรยาน้อยมาร่วมยี่สิบปี ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างลิขิตกับสกาวใจ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในสถานะต่างคนต่างอยู่ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า และไม่ถูกกันไปโดยปริยาย เจอหน้ากันทีไรต้องมีปากเสียง สกาวใจมักพูดจาเหน็บแนมลิขิตและภรรยาน้อยทุกครั้ง ซึ่งนภาพรเองก็ไม่เคยโต้เถียง เจียมตัว สยบปากสยบคำเพราะรู้ตัวว่าตนเองผิดที่แย่งสามีสกาวใจ การที่สมาชิกในตระกูลจะมารวมตัวกันพร้อมหน้าแทบจะนับครั้งได้
“คุณแม่ทราบหรือเปล่าครับว่า คุณพ่อมีเรื่องอะไรจะบอกพวกเรา” วิมุตลูกชายเพียงคนเดียวของลิขิตเอ่ยถามมารดา
“แม่จะไปรู้ได้ยังไง แม่ก็อยากรู้พอๆ กับเสกนั่นแหละ”
สกาวใจแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ สามีก็เรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันในห้องนั่งเล่นของบ้านใหญ่ ครั้นนางจะไม่มาก็ไม่ได้ เนื่องจากอยากรู้ว่าเรื่องที่ว่านี้คืออะไร หากไม่สำคัญลิขิตคงไม่ทำเช่นนี้ ความอยากรู้จึงมีมากกว่า
“หรือว่าคุณปู่จะบอกเรื่องพินัยกรรมค่ะ” รุ่งอัมพรบุตรสาวคนโตของวิมุตคาดเดา
“หน่อยว่าไม่ใช่หรอกค่ะ เรื่องพินัยกรรมไม่ได้สำคัญอะไร อีกอย่างคุณปู่ก็เคยบอกไว้แล้วว่า ใครได้อะไรบ้าง”
รุ่งทิวาบุตรสาวคนเล็กของวิมุตไม่คิดเช่นเดียวกับพี่สาว เป็นเพราะลิขิตเคยบอกกับทุกคนไว้แล้วว่า ใครได้อะไรบ้างในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลที่มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้าน และแบ่งให้ลูกหลานแต่ละคนดูแลกิจการที่แต่ละคนจะได้ครอบครอง
Chapter 93“ปู่ไม่เครียดก็ได้ แต่ต้องสัญญากับปู่นะว่า จะไม่ปิดกั้นตัวเอง”“ค่ะคุณปู่” รุ่งอัมพรรับปาก “เย็นนี้สาวตั้งใจทำกับข้าวให้คุณปู่กินค่ะ คุณปู่อยากกินอะไรคะ”ลิขิตทำท่านึกก่อนจะตอบ “อยากกินต้มยำทะเล ข้าวผัดปู คะน้าน้ำมันหอย”“ได้เลยค่ะ รับรองเย็นนี้คุณปู่พุงกางแน่”“ปู่ไม่กลัวพุงแตก แต่กลัวว่าจะกินกับข้าวฝีมือเราไม่ได้มากกว่า” ปู่หยอกเย้าหลานสาวคนโตกลับ ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ฝีมือการทำอาหารของรุ่งอัมพรไม่เป็นรองใคร“แหม คุณปู่พูดอย่างนี้ กำลังใจสาวหดเหลือนิดเดียวเอง ใช่สิ...คุณปู่มีเหลนคนโปรดแล้วนี่ หลานสาวคนนี้ก็เลยตกกระป๋อง” รุ่งอัมพรทำท่างอนไม่จริงจัง พูดติดตลกว่า “สงสัยสมบัติคงจะไหลเข้าไปอยู่ในกระเป๋าน้องนิวคนเดียวแน่ๆ งานนี้สงสัยต้องหาผัวรวยๆ ไว้เลี้ยงตัวเองซะแล้ว”ทั้งหมดพากันหัวเราะกับประโยคจิกกัดของรุ่งอัมพร ที่ผู้พูดพูดเองยังนึกขำไปด้วย เป็นเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เด็กชายจอมพลเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวรุจิเวโรจน์ให้เพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วันนับต่อจากนี้ ตกบ่าย หลังจากให้นมจอมพลและกล่อมจนหลับ ศรัญญาก็ได้มีเว
Chapter 92“ไม่ต้องกลัวนะแก้ว พี่จะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน” เขาให้กำลังใจศรัญญา“ค่ะพี่ใหญ่” และแล้วเวลาที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง ทุกขั้นตอนระหว่างการผ่าคลอด จอมทัพทำหน้าที่บันทึกไว้ในกล้องวิดีโอทุกขึ้นตอน จนกระทั่งวินาทีสำคัญ ทารกน้อยเพศชายออกจากครรภ์ศรัญญา“ลูกชายของเราน่ารักน่าชังมากๆ เลยแก้ว” จอมทัพบอกภรรยา ในขณะที่พยาบาลนำทารกมาให้ผู้เป็นแม่ดู ศรัญญาน้ำตาไหลเมื่อเห็นหน้าลูก แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมาของสามี เธอก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ “พี่รักแก้ว รักมากที่สุด”คำรักมาพร้อมกับจุมพิตที่แนบลงบนหน้าผากของเธอ ศรัญญายิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้มาตลอดว่าเขารักตน เพียงแค่ว่าเขาไม่เคยเอ่ยปาก แล้ววันนี้จอมทัพก็ได้เอ่ยคำนั้นออกมาแล้ว ศรัญญาสุขล้นทั้งกายและใจ สามเดือนต่อมา รถตู้สีดำแล่นมาจอดหน้าบ้านสุขเกษม จอมทัพอุ้มเด็กชายจอมพล รุจิเวโรจน์ หรือน้องนิววัยสามเดือนก้าวลงมาเป็นคนแรก ตามด้วยศรัญญา รุ่งอัมพร รุ่งทิวาและตบท้ายด้วยตาล สาวใช้ที่ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ พอก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็พบว่า เจ้าของบ้านมานั่งรอด้วยใบหน้ายิ
Chapter 91 หนึ่งปีผ่านไป บ้านสุขเกษมคือบั้นปลายชีวิตของลิขิตกับสกาวใจ ทั้งสองตัดสินใจไปอยู่ที่นั่นแบบถาวร เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อน บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมไร้มลพิษ เหมาะกับการพักรักษาตัวของลิขิตเป็นที่สุด โดยมีนภาพรเป็นผู้ร่วมอาศัยด้วยอีกคน แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างไกล ทว่าลูกหลานก็หมั่นไปเยี่ยมเยียนเสมอ บางครั้งวิมุตกับดวงดารามาอยู่นานเป็นเดือน ทางด้านจอมทัพ หลังจากทุกอย่างลงตัว เขาได้เดินมาหาศรัญญาพร้อมกับต้นดอกรัก ใบหน้าจอมทัพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คนที่มองเห็นรู้สึกงง โดยเฉพาะต้นดอกรักในมือหนา “พี่มีเรื่องอยากจะให้แก้วช่วย”สรรพนามที่ทั้งคู่เคยใช้ ฉันและเธอ เวลานี้ได้เปลี่ยนไป เสมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง “ช่วยอะไรคะ” ศรัญญายังงงไม่หาย “ช่วยปลูกดอกรักของเราให้เติบโตและงอกงามไง” จอมทัพยิ้มให้เธอ “พี่รู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกัน พี่เป็นสามีที่ไม่ดี ไม่ดูแลแก้วเหมือนกับที่ควรจะเป็น แถมยังทำร้ายจิตใจแก้วสารพัด พี่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา พี่สัญญ
Chapter 90 “อา...อืม...คุณจิม”เธอเปล่งเสียงครางทรมานอันแสนสุขตลอดเวลาที่เขาสร้างความสุขให้ตน ศตวรรษเองก็ยังคงลิ้มรสความหอมหวานจากน้ำเสน่หาที่เขาไม่คิดจะละห่าง เพราะทั้งกลิ่นและรสมันทำให้หัวใจเขาเต้นเร่า ร่างกายดูสมบุกสมบรรณ ทุกสัดส่วนตื่นตัวจนทนไม่ไหว แต่ก็ยังเชยชมดอกทิวลิปช่อน้อยต่อไป สร้างกระแสลาวาปรารถนาให้เธอ“หวานที่สุด ชื่นใจจัง”เขาบ่นพึมพำอยู่บริเวณนั้น เน้นขบเม้มทับทิมสวาทจนเธอสะดุ้งเฮือก ครางเสียงกระเส่า ความรัญจวนไม่ต้องพูดถึง ทะลุเพด่านความรู้สึก สูงลิบลิ่วไปบนท้องนภา“อา...อา...อืม...คุณจิม...คุณจิม...พะ...พอคะ”มันเกิดขีดสุดที่ไพลินจะทานรับได้ เธอร้องขอเขา แต่เขากลับไม่สนใจ ชื่นชมทิวลิปงามต่อไป ทว่าศตวรรษสร้างความทรมานอันแสนสุขให้เธอได้ไม่นาน เพราะเวลานี้ ความอดทนอดกลั้นของตนก็จวนเจียนจะไม่ไหว ร่างกายตอบสนองความใคร่ทุกสัดส่วน รีบสะบัดผ้าขนหนูที่พันกายไว้ทันที“ฉันต้องการเธอ...หลิน...เมีนรักของฉัน” เขาไม่รอช้า แทรกความเป็นชายเข้าสู้ถ้ำสวาทที่รู้สึกถึงความซาบซ่านอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ที่รู้สึกได้คือ ขนในกายลุกเกลียว ฝ่าความคับแน่นที่แน่นจับจิตจับใจ“โอ๊ย...คุณจิม...คุณจิ
Chapter 89“คุณแม่จะทำอย่างนี้ทำไมคะ”“ก็อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้น่ะสิคุณแม่วางแผนตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่ขอตัวเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว และทำให้ฉันหึงเธอต่างๆ นานา ที่ฉันรู้เพราะฉันเป็นลูกคุณแม่ ย่อมรู้นิสัยคุณแม่ดีกว่าใคร เพียงแค่ว่าฉันไม่พูดก็แค่นั้น ท่านอยากทำอะไรฉันก็ให้ท่านทำไป คล้อยตามไปตามแผน ซึ่งมันก็ส่งผลดีกับฉันด้วย เพราะในที่สุดเราก็ได้แต่งงานกัน”ทุกเรื่องที่วิมาลทำ ศตวรรษรู้ทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด เดินไปตามเกมของมารดา เพราะคิดว่า เรื่องนี้ตนมีแต่ได้กับได้ แล้วจะค้านไปเพื่ออะไรไพลินเพิ่งเข้าใจเรื่องทั้งหมด เธอเองก็เคยสงสัยว่า เหตุใดวิมาลาต้องให้ตนไปเป็นเลขาส่วนตัวชั่วคราวด้วย ทั้งที่นางมีคนทำงานแทนพี่แนนหลายคน เลือกมาสักคนก็ได้ หรือจะให้วลีมาทำแทนก็ได้ แต่นางกลับเลือกตน ที่แท้เหตุผลเป็นเช่นนี้เอง“แล้ว...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่เขาไม่ยอม“นี่แม่คุณ นี่คืนเข้าหอนะ จะมาเล่นร้อยแปดคำถามทั้งคืนหรือไง” ศตวรรษทำเสียงดุ “ฉันว่าเราปั้มหลานให้คุณแม่ดีกว่า ก่อนออกจากห้องเธอไม่ได้ยินเหรอว่า คุณแม่สั่งให้เรามีลุกเร็วๆ อย่าทำให้คนแก่ต้องคอยนานเลยนะ เริ่มเลยดีกว่า”ศตวรรษรอคอยช่วงเวลานี้จ
Chapter 88 “รับรองครับว่า คุณแม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ” ฝ่ายลูกชายก็รับลูกคู่แม่สุดที่รัก “ผมกับหลินจะทำเต็มที่ครับ”วิมาลายิ้มกว้าง ตบบ่าศตวรรษ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าบ่างเจ้าสาวอยู่กันตามลำพัง ทันทีที่ประตูห้องหอปิดลง ไพลินลุกขึ้นยืน ร่างสาวสั่นเล็กน้อย แต่หัวใจสั่นยิ่งกว่า เพราะตอนนี้เธออยู่กันสองต่อสองกับเขา ช่วงเวลาที่เธอกลัวและกังวลมากที่สุดกำลังมาถึงแล้ว“หลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ”เธอพูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ส่วนศตวรรษก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินผิวปากไปนอนหงายบนเตียง หันไปมองบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอย่างคนอารมณ์ดีไพลินใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง พอเธอก้าวออกมาจากห้องดังกล่าวด้วยชุดคลุมสีขาว ศตวรรษก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำเป็นคนต่อไป ไพลินจึงใช้โอกาสนี้รีบเดินไปหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า แล้วสวมใส่ทันที ก่อนจะมาล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมกายจนเห็นแต่ศีรษะ นอนใจเต้นระทึก แรงยวบของที่นอนทำให้คนที่กำลังนอนตะแคงตัวสั่น ใจสั่นถึงกับหายใจไม่สะดวก นอนตัวเกร็งอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ยิ่งรับรู้ว่า คนตัวโตขยับเข้ามาใกล้ กายเธอก็แข็งทื่อ อยากจะขยับหนี แต่ทำไม






Comments