LOGINความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ คนที่เขาจะรักอยู่เฉยๆเขาก็รัก แต่คนที่เขาหมดรักแลกมาด้วยลมหายใจก็ไร้ค่า ความรักที่เขาไม่ต้องการก็คงทำได้แค่ทำใจ เมื่อคนหนึ่งทำใจได้แต่อีกคนกลับไม่ให้ไป โปรดติดตาม
View Moreบทที่ 1
เกิดใหม่ในร่างใหม่
หญิงสาวนางหนึ่งได้นอนสลบไหลอยู่บนเตียงหลังใหญ่ด้วยสภาพที่ร่างกายเปียกโชกไปทั้งตัว ร่างกายของนางหนาวเย็นราวกับตกอยู่ในฤดูหนาว ลมหายใจรวยรินจนคล้ายว่าจะปลิดปลิวออกไปได้ทุกเมื่อ ใบหน้าของนางที่เคยมีเลือดฝาดกลับซีดเผือดลงราวกับหิมะต้นฤดู ทางด้านข้างของนางนั้นเอง หญิงสาวอีกคนหนึ่งกำลังเร่งมือปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ชุ่มไปด้วยหยดน้ำออกจากร่างกายของเจ้านายสาว นางรีบหยิบเอาผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายของผู้เป็นนายเอาไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
หญิงสาวนางนี้ได้หันไปมองทางประตูเป็นระยะ ๆ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความวิตกกังวล ปากของนางก็พร่ำเรียกชื่อหญิงสาวที่นอนหลับใหลให้ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
"คุณหนูใหญ่ คุณหนูเจ้าคะ รีบฟื้นขึ้นมาเถิดเจ้าค่ะ บ่าวใจคอไม่ดีเลย เป็นความผิดของบ่าวเอง ฮือ ๆ"
นางเอื้อมมือไปกอบกุมมือของเจ้านายที่เย็นเฉียบด้วยความกังวลใจ เมื่อไหร่หนอที่ท่านหมอประจำตระกูลจะมาถึงเสียที นี่เวลาก็ผ่านไปราวสองเค่อแล้ว ในขณะที่นางกำลังหันไปมองประตูอยู่นั้น หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงพลันลุกพรวดขึ้นมาด้วยตกใจ
เฮือก!!
เมรีกะพริบตาปริบ ๆ พลางมองรอบกายด้วยความประหลาดใจ สถานที่แปลกประหลาดแห่งนี้ ราวกับเธอได้หลุดเข้ามาอยู่ในยุคของจีนโบราณที่เหมือนในซีรีส์ที่เธอชอบดูมาก ยิ่งหันซ้ายหันขวาไปพบกับหญิงสาวที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มมองอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งทำให้เมรีปวดหัวจี๊ดราวกับจะระเบิด หัวสมองของเธอยังประมวลความคิดออกมาไม่ได้ ภาพในหัวกลับแล่นเข้ามาจู่โจมเธอราวกับโกรธเกลียดกันมาเป็นสิบชาติ
"โอ๊ย! เจ็บ!!"
"คุณหนู! เป็นอะไรไปเจ้าคะ บ่าวจะรีบไปตามท่านหมอมาเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ"
ยังไม่ทันที่เมรีจะเอ่ยห้าม หญิงสาวผู้นั้นก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที ในเวลานี้เองที่เมรีได้หยุดคิดในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า เธอกำลังพยายามลำดับความคิดที่สะเปะสะปะให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง
"ฉันตายไปแล้วนี่น่า แล้วนี่มันที่ไหนกันเล่า โอ๊ย! ปวดหัวชะมัดเลย"
เมรีหลับตาลงแล้วพยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ เมื่อนั้นเธอก็ลืมตาโพลงด้วยความตกตะลึง
"ฉิบหายแล้วไหมล่ะยัยเมรีเอ๊ย นี่ฉันมาเกิดใหม่ในร่างของคุณหนูคนนี้เหรอเนี่ย ตายแล้วแทนที่จะได้ไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเพื่อชดใช้กรรม กลับต้องเข้ามาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้เสียได้ เฮ้อ...แล้วฉันจะเอาตัวรอดในยุคโบราณนี้ได้ไหมล่ะเนี่ย มิติก็ไม่มี ของวิเศษก็ไม่มี เทพเซียนที่จะมาให้พรก็ไม่มีอีก ฉันได้ตายอย่างเขียดแน่ ๆ ยัยเมรีเอ๊ย!!"
เมรีทิ้งตัวลงนอนดั่งเดิม เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าชีวิตของเธอเกิดอะไรขึ้น เธอชื่อเมรีเป็นผู้จัดการมือทองของวงการมายา มีดารากว่าหลายสิบคนที่เธอปั้นให้เป็นซูเปอร์สตาร์ประดับวงการ แต่แล้วในวันที่เร่งรีบและฝนตกหนักนั้น ทำให้ทัศนียภาพในการมองเห็นไม่ดีนัก เธอจึงขับรถแหกโค้ง รถของเธอกลิ้งไปมากว่าสามตลบ ก่อนที่เธอจะแน่นิ่งไปเพราะเสียชีวิตคาที่ ในตอนที่วิญญาณออกจากร่างแล้วลอยเคว้งคว้างอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาล จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้
จากการที่ความทรงจำของเจ้าของร่างประดังประเดเข้ามาในหัวไม่หยุดนั้น ทำให้เมรีได้รู้ว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่คือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลอวี้ บุตรสาวคนโตของท่านเสนาบดีกรมคลัง นามของร่างนี้คือ 'อวี้หลัน' หญิงสาวที่น่าสงสารที่ต้องตายไปอย่างไม่ยุติธรรม แค่คิดเมรีพลันรู้สึกสงสารในชะตาชีวิตของเจ้าของร่างนี้
"หลับให้สบายนะอวี้หลัน น้องชายที่เธอเป็นห่วง ฉันจะคอยดูแลให้เอง เขาจะต้องได้เป็นประมุขตระกูลคนถัดไป และคนที่ทำร้ายเธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำกับเธอเอาไว้ทั้งหมด ฉันสัญญา!"
สิ้นคำพูดของเมรี สายลมหอบหนึ่งก็ได้พัดผ่านใบหน้าของเธอไป โดยที่หน้าต่างไม่ได้ถูกเปิดทิ้งไว้เลย เสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้เมรีพลันยิ้มกว้างออกมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาเยือนที่นี่
"ขอบคุณเจ้าค่ะ"
เมรีหลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับการตัดสินใจอันแน่วแน่
เธอคืออวี้หลัน เมรีได้ตายจากไปแล้ว ต่อไปนี้จะมีแค่อวี้หลันเท่านั้น!!
'รั่วซี' สาวใช้ข้างกายของอวี้หลันเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับท่านหมอประจำตระกูล ชายชราที่เพิ่งรู้ข่าวรีบตรงเข้ามาด้วยความรีบร้อน เขาตรงเข้ามาตรวจจับชีพจรของอวี้หลันอย่างเร่งรีบ เพียงไม่นานท่านหมอชราก็ได้ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
"ไอเย็นได้เข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก แต่ไม่น่าเป็นกังวลแล้วขอรับ ขอเพียงพักผ่อนร่างกายให้มาก และทานยาที่ข้าน้อยจัดให้จนหมด คุณหนูใหญ่ก็จะหายดีเป็นปลิดทิ้งขอรับ"
"ขอบคุณท่านหมอมาก"
"แล้วอาการปวดหัวเมื่อครู่ของคุณหนูเล่าเจ้าคะ"
รั่วซีเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล เมื่อครู่นี้นางตกใจกับอาการของคุณหนูจริง ๆ
"อาจจะเกิดจากเพราะเพิ่งฟื้นไข้ เลยทำให้ปวดหัวได้ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยจะจัดเทียบยาอีกหนึ่งเทียบนะขอรับ"
ท่านหมอชราตรวจอาการอีกครั้ง ก่อนจะได้ขอสรุปว่าคุณหนูใหญ่มีเพียงอาการไอเย็นเข้าแทรกเท่านั้น เมื่อไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเขาก็ได้ขอตัวลากลับไป
หนึ่งปีผ่านไปทุกอย่างผ่านเลยมาด้วยดี แพรวากับวิชิตนั้นได้ลูกชาย ตอนนี้อายุขวบหนึ่งเดือนแล้วกำลังจ้ำม่ำน่ารักน่าฟัด หัดเดิน หัดพูด หัดกินข้าวเอง อยากรู้ไปทุกอย่าง น้องชื่อว่า อชิแพรวาและวิชิตจึงต้องให้เวลากับลูกมากขึ้นกว่าเดิม งานทุกอย่างที่มีในมือจึงหาคนช่วยดูแลแทนไปก่อน แต่ยังตรวจดูงานตลอดสมัยนี้ไม่ต้องไปถึงที่ทำงาน ก็สามารถทำงานได้กล้องวงจรปิดทุกมุมของคาเฟ่ของแพรวา จึงมาอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ดูลูกไปด้วยดูร้านไปด้วย โดยไม่ต้องเดินทางไปมาส่วนเดซี่นั้นเพิ่งคลอดได้สองเข้าสามเดือน และแน่นอนว่าคุณพ่อมือใหม่จะต้องอยู่ไม่ห่างจากลูกน้อยแน่นอนนาวินลาออกจากงานราชการเพราะอยากมาอยู่กับลูกกับเมียนาวินได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักน่าชังมากผิวขาวเหมือนแม่ แต่ตาคมเหมือนพ่อ โตมาต้องสวยแน่ ๆ สำหรับน้องลิลี่ลูกสาวพ่อวินแม่เดย์วันนี้วิชิตแพรวา นาวินเดซี่ ชานนท์มินตรา และที่ขาดไม่ได้คือ หนึ่งนารายณ์ รวมตัวกันที่ บ้านของนาวินซึ่งเป็นแบบนี้เป็นประจำในช่วงหลังมานี้ ตั้งแต่มีลูกก็รวมตัวตามบ้านสลับกันไปบ้านนั้นที่บ้านนี้ที เพราะต้องพาลูกพาเมียไปด้วยจึงงดเจอกันตามร้านเหล้า เข้าผับ หรือบาร์เมื่อมีครอ
60.หายเหนื่อยแล้ว 18+อืม~~เสียงครางทุ้มเล็ดลอดออกจากปากหนาไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวที่ร่างกายสั่นสะท้านเมื่อลิ้นเรียวยังทำงานไม่หยุด เธอบิดเร้าร้อนรุ่มไปทั้งทรวง" อ๊าส~ เฮีย~เดย์~ไม่ไหวพอก่อน "หญิงสาวอ่อนระทวยไปทั้งร่าง เสียงหวานครางกระเส่าเสียวซ่านจนต้องร้องขอให้เขาหยุดยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ลิ้นเรียวปาดเลียไม่เคยพอ นำนิ้วแกร่งผสมโรงออกงานหวังเพียงให้คนรักตรงหน้าได้เสร็จสมเขาอยากให้เธอมีความสุข ยิ่งเธอร้องเรียกยิ่งทำอารมณ์เขาคุกรุ่นละเลงเพลงรักจากปลายลิ้นและปลายนิ้วให้เธอเสร็จสมไปก่อนส่วนตัวเขารอได้ ถึงแม้จะรอมาทั้งวันแล้วก็ตาม"เฮีย อ้ายย~เดย์แตก ละแล้ว "ได้ยินแบบนั้นก็ต้องยกยิ้มที่มุมปาก ช่วยส่งเธอขึ้นสวรรค์ในทันทีเสียงหอบหายใจเหนื่อย ทำหน้าอกหน้าใจเธอกระเพื่อมไหวเรียกร้องให้คนใจอ่อนไหวอย่างเขาต้องรีบเข้าจัดการ ดูดเลียอย่างมูมมามสองมือประคองเต้าใหญ่บีบเคล้นแทบแหลกคามือ" อ๊าส เบาหน่อยค่ะเฮีย "เสียงหวานร้องบอก เขาเริ่มรุนแรงกับเธอมากเกินไปแล้ว" ครับ "และในที่สุดก็ต้องยอมผละออกจากความงามตรงหน้าอุ้มเธอลงจากเคาร์เตอร์ หญิงสาวอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงจัดการอาบน้ำให้เธอโ
59.ข้าวใหม่ปลามันตุบๆมือบางๆ ของเดซี่กำแน่น ทุบไปที่หลังของนาวินไม่แรงนัก แต่ก็พอให้คนที่ถูกกระทำรู้สึกเจ็บได้"เป็นอะไร แปลกๆ "อยู่ๆ เขาก็จูบเธอกอดเธอ แล้วก็ยิ้มอย่างกับคนบ้า"ขอบคุณนะเดย์ "" ขอบคุณอะไรคะ "ยิ่งทำเดซี่งงมากกว่าเดิม เธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองนาวินอย่างเอาเรื่องเขาเป็นอะไร เธอยิ่งไม่เข้าใจ ถามอะไรก็เอาแต่ยิ้มนาวินพาเดซี่มาที่คลินิกที่ใกล้ที่สุด แค่คิดว่ากำลังจะมีลูกก็รู้สึกดีใจมากแล้วแต่ถ้าจะให้แน่ ให้ชัวร์ก็ต้องพาเธอมาตรวจดีที่สุด" ใครบอกเฮียว่าเดย์ท้อง""พนักงานแคชเชียร์ร้านเพชร บอกมา "นาวินตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ แววตาเป็นประกาย เห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้แต่ก็อยากจะลองถามเขาดูว่าเชื่อแคชเชียร์คนนั้นเหรอ"แล้วเฮียเชื่อเขาเหรอคะ "" ไม่เลยครับ เฮียไม่เชื่อเลยสักนิด "ตอบกลับเดซี่ทันทีเมื่อจบคำถาม" ไม่เชื่อแล้วพามาตรวจทำไมคะ กลับเลยดีกว่า "เดซี่รู้สึกน้อยใจนาวินขึ้นมาดื้อ ๆ งอแงร้องกลับบ้าน อย่างกับเด็กสามขวบ" ไม่เชื่อก็เลยต้องพาเดย์มาตรวจไง "พูดจบนาวินก็ยิ้มแฉ่งตอบเดซี่อย่างภูมิใจ ด้วยหัวใจพองโตทำไมเขาจะไม่เชื่อ เขาทำอะไรไว้บ้างเขารู้ดีแก่ใจรอผลตรวจไม่นานก็รู้
58.ร้องขอชีวิต18+ความเข้าใจกัน ทำคนสองคนได้รักกัน คำหวานหูที่คนตัวโตกล่าวขาน ได้ฟังแล้วรู้สึกดีไปหมด สายตาคมมองลึกลงไปในดวงตาคู่หวาน"วันนั้นเฮียขอโทษเจ็บมากไหม "นาวินถามขึ้น เขานึกถึงวันที่เขารุนแรงใส่เธอในวันนั้นคนตัวเล็กที่ร้องไห้อ้อนวอนร้องขอให้เขาอ่อนโยนกับเธอหน่อย แต่เขากลับไม่คิดถึงความรู้สึกของเธอเลยคิดแล้วก็อยากไถ่โทษ ขอโอกาสนี้ทำให้เธอมีความสุขที่สุดเพื่อทดแทนแล้วกันถึงแม้ความรู้สึกอาจจะแลกกันไม่ได้ แต่เขาจะจำใส่ใจไว้ว่าจะไม่ทำร้ายเธอแบบนั้นอีกในตอนนี้ทั้งสองร่างเปลือยกายอยู่ด้วยกัน แต่คนตัวเล็กที่สายตาของเธอออกจะหวั่นๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง" เฮียเดย์จะเจ็บไหม "ได้ยินคำนี้นาวินรับรู้ได้ทันทีว่าเธอกังวลเรื่องอะไร เขานี่มันแย่จริงๆ" ยังเจ็บอยู่เหรอ ""อืม "เธอพยักหน้าเบา ๆ" ขอเฮียดูหน่อย "หญิงสาวถึงกับใบหน้าร้อนผ่าว เมื่อได้ยินคำกล่าวขอของคนตัวโต" มะ ไม่ดีกว่าคะ "เธอเขินอายเกินกว่าจะให้เขาดูได้"ไม่ต้องอายเฮียทำเดย์เจ็บเฮียจะดูแลเดย์เอง "จบคำพูดเขาก็แทรกตัวเข้าตรงหว่างขา จับขาเรียวอ้าออกกว้าง ก้มลงมองดูรอยบอบช้ำที่เขาทำไว้นิ้วมือหนาค่อยๆ คลี่แบะกลีบดอกไม้สีช้ำ
57.แลกด้วยชีวิตกินข้าวต้มเสร็จนาวินรีบจัดแจงล้างจานคว่ำจานเองเรียบร้อยรีบแล้วเดินไปหาเดซี่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขก เขาเดินไปนั่งลงตรงหน้าของเธอเดซี่ละสายตาจากจอโทรศัพท์ตรงหน้าแล้วหันมาหาเขาเช่นกัน" เดย์ "นาวินเรียกเธอแผ่วเบา สายตายังมองที่หน้าหวานอย่างหวั่นๆ" คุณเลิกให้ใครโทรบอกฉันว่าคุณรักฉันได้แล้ว "เดซี่เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน เธออยากให้เขาเลิกป่าวประกาศบอกใครๆ ว่ารักเธอทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ได้อะไรกับเธอเลย" ใครโทรหาเดย์ "" พี่วากับพี่หนึ่งค่ะ อีกอย่างคุณก็มีคนที่พิเศษอยู่แล้ว อย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยว "พอได้ยินที่เธอบอกเขาก็นึกขอบคุณน้องทั้งสองคน ที่ช่วยเจรจากับเดซี่แทนเขา จนเธอยอมมาอยู่ตรงหน้าเขาในวันนี้เขายังไม่ได้บอกเธอเรื่องของณดา มิน่าล่ะเธอถึงได้จากเขาไปโดยไม่เหลือเยื่อใย แต่เดี๋ยวค่อยอธิบายขอเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน" แล้วถ้าเฮียบอกเองได้ไหม "นาวินถามพร้อมกับคิดบางอย่างเขาเม้มปากแน่น เพราะความเป็นคนปากแข็งใช่ไหมถึงได้โดนเธอทิ้ง" บอกอะไร "เดซี่ถามกลับทันควัน ถ้าเขาพูดเองจากปากจริงๆ เธอจะเชื่อเขาได้หรือเปล่า ใจดวงน้อยของเธอเริ่มเต้นรัว" เฮียรักเดย์นะ "" ฮึ ๆ "เมื่อได้ยินค
56.เพ้อเดซี่กำลังทำข้าวต้มรอคนเมา ที่หลับอยู่ เมื่อวานหลังจากที่เธอออกจากคาเฟ่ของแพรวาแพรวาโทรมาหาเธอ แพรวาเธอบอกว่า เธอเพิ่งรู้ว่าพี่ชายเธอรักเดซี่ เธออยากให้เดซี่ให้โอกาสโอกาสพี่ชายเธอสักครั้งถ้าเป็นไปไม่ได้จริงๆ เธอจะไม่รบเร้าเดซี่อีกเลยแต่เดซี่ก็ขอเวลาและขอให้โอกาสตัวเองทบทวนหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนกัน แพรวาบอกว่านาวินรักเดซี่ แล้วทำไมเขาไม่เคยบอกเธอเลยหรือแพรวาแค่อยากจะช่วยพี่ชายเลยพูดเองเออเอง ให้เดซี่ใจอ่อนกับนาวินเดซี่ที่กำลังนอนคิดนั่งคิดถึงคำของแพรวา ก็มีสายเรียกเข้าจากหนึ่งนารายณ์" นี่ก็ดึกมาแล้วโทรมาทำไมกัน "เดซี่มองหน้าจอโทรศัพท์แล้วบ่นคนเดียว เธอกำลังเคลิ้มจะหลับอยู่แล้วเชียว พยายามข่มตาให้นอนหลับเธออยากพักผ่อน เธอนอนหลับไม่เต็มอิ่มมาหลายคืนแล้ว" สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง ""เดย์ พี่ขอคุยด้วยสักห้านาทีได้ไหม ""ได้สิคะ มีอะไรคะเสียงเครียดจัง "เดซี่ตอบกลับหนึ่งนารายณ์เสียงใส" เดย์ เฮียวินเมาหนักมาก""ก็เรื่องของเขาสิคะ"หนึ่งนารายณ์ยังพูดไม่ครบประโยค เดซี่ก็พูดสวนขึ้นมา แค่ได้ยินชื่อนาวินก็ทำเธออารมณ์เสียแล้ว"เดย์ ใจเย็นๆ หน่อยได้ไหม ฟังพี่ก่อน "หนึ่งนารายณ์พยายามเอาน้
Comments