อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ

อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ

Par:  กวนเหอว่านหลี่En cours
Langue: Thai
goodnovel4goodnovel
10
6 Notes. 6 commentaires
100Chapitres
1.0KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

ทะลุมิติมายังราชวงศ์ต้าหมิง และได้เข้ามาอยู่ในร่างของท่านอ๋องปัญญาอ่อนคนหนึ่ง ได้รับระบบปลาเค็ม สะสมแต้มปลาเค็มทุกวันด้วยการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่เป็นจุดสนใจ แต่ใครจะไปรู้ว่าจูหยวนจางสามารถได้ยินเสียงในใจของเขาได้ ไม่อยากทำงานทุ่มเทเพื่อเราอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ! ไม่อยากเป็นพระนัดดารัชทายาทอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง!

Voir plus

Chapitre 1

บทที่ 1

ณ ราชวงศ์ต้าหมิง เมืองอิ้งเทียน ตำหนักเหวินหัว

เหล่าพระราชนัดดากำลังเปล่งเสียงอ่านตำราอย่างกึกก้องภายใต้การนำของฟางเสี้ยวหรู

จักรพรรดิหงอู่ จูหยวนจาง ยืนฟังอยู่นอกตำหนักครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเข้าไปข้างใน

เสียงอ่านตำราพลันเงียบลง

“เสด็จปู่!”

“เสด็จปู่!”

เหล่าพระราชนัดดาต่างประสานเสียงเอ่ยทักทาย ฟางเสี้ยวหรูรีบก้าวไปข้างหน้า สะบัดชายเสื้อคลุมแล้วคุกเข่าลง

“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเสด็จมา มิได้ออกไปต้อนรับแต่ไกล โปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

จูหยวนจางโบกมือ “เราฟังอยู่ข้างนอกแล้ว เจ้าสอนได้ดีมาก!”

ฟางเสี้ยวหรู “มิใช่กระหม่อมสอนดี แต่เป็นเพราะเหล่าองค์ชายฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

จูหยวนจางหัวเราะอย่างสดใสพลางเอ่ยขึ้น “ในบรรดาหลานของเรา...”

ทันใดนั้น มีเสียงกรนดังสนั่นราวกับฟ้าร้อง ขัดจังหวะความสำราญของจูหยวนจางดังขึ้นมา

เมื่อมองตามเสียงไป ก็เห็นคนผู้หนึ่งกำลังพิงเสาอยู่ที่มุมห้อง เอนตัวอยู่บนเบาะรองนั่ง

น้ำลายไหลยืดจากมุมปาก

เป็นภาพลักษณ์ที่ดูไม่น่ามองอย่างยิ่ง

ใบหน้าของจูหยวนจางพลันมืดมน แต่เหล่าพระราชนัดดากลับตื่นเต้นอย่างยิ่ง

ผู้ที่กำลังหลับสนิทอยู่นั้นคือหลานชายในชายาเอกของจูหยวนจาง และบุตรชายคนรองในชายาเอกขององค์รัชทายาทจูเปียว

แม้จะมีสายเลือดสูงส่ง แต่เขากลับเป็นคนที่ไร้ความสามารถ

สูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย นิสัยอ่อนแอ ว่านอนสอนง่าย ไม่กล้าขัดขืน

เวลาตื่นเต้นก็จะพูดจาไม่รู้เรื่อง

แตกต่างจากจูอวิ่นเหวิน บุตรชายที่เกิดจากอนุภรรยาของรัชทายาทจูเปียวราวฟ้ากับเหว

หนึ่งปีก่อน จูหยวนจางสังเกตเห็นแล้วว่าสุขภาพของจูเปียวทรุดโทรมลงทุกวัน ไม่แน่ว่าอาจจะอายุสั้นกว่าตนเอง

จึงจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้า กำหนดตัวรัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าหมิงไว้แต่เนิ่นๆ

วันนี้จึงถือโอกาสแวะมาที่นี่ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์การเล่าเรียนของเหล่าพระราชนัดดา

แต่ใครจะไปรู้ จูอวิ่นเทิงจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ ถึงกับมานอนหลับในห้องเรียน!

อันที่จริงร่างของจูอวิ่นเทิงในยามนี้ถูกคนจากยุคปัจจุบันเข้ายึดครองมาตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้ว

นับตั้งแต่นั้นมา จูอวิ่นเทิงก็ได้รับระบบปลาเค็ม[1] ซึ่งสามารถใช้แต้มปลาเค็มแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของและทักษะต่างๆ ได้

ระบบได้เน้นย้ำเป็นพิเศษว่า หากเขาสามารถพัฒนาตนเองอย่างเงียบๆ ไม่เป็นที่สังเกตเป็นเวลาสิบปี หลังจากสิบปีก็จะได้รับทรัพยากรมหาศาลและจะช่วยให้เขาขึ้นสู่จุดสูงสุดของราชวงศ์ต้าหมิง

ต่อให้ระบบไม่เน้นย้ำ จูอวิ่นเทิงก็ไม่กล้าทำตัวโดดเด่นอยู่แล้ว

ในรัชสมัยของจูหยวนจาง การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในราชวงศ์ต้าหมิง ไม่มีประโยชน์อันใดเลย!

เป็นขุนนางก็เหมือนทำงานโดยเอาหัวเป็นเดิมพัน!

ในฐานะหลานชายสายตรงของจูหยวนจาง คงไม่ถึงกับโดนตัดหัว แต่การต้องตื่นมาเข้าประชุมตอนตีสามกว่าทุกวัน มันทรมานแทบตาย!

สี่ปีผ่านไป จูอวิ่นเทิงเชี่ยวชาญทั้งประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ภูมิศาสตร์ กลยุทธ์ทางการทหารและอื่นๆ อีกมากมาย

อักษรโบราณที่เหล่าพระราชนัดดาต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะท่องจำได้ จูอวิ่นเทิงมองปราดเดียวก็เข้าใจแล้ว

จูอวิ่นเทิงที่กำลังหลับสนิทรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พอเขาลืมตาขึ้น อ้อ ตาเฒ่าจูมาแล้ว

จูอวิ่นเทิงรีบคุกเข่าลงทันที พร้อมกับแสร้งทำท่าทีหวาดกลัว

“เสด็จปู่ หลานร่างกายอ่อนแอ พอฟังท่านอาจารย์สอนก็รู้สึกง่วงนอน ท่านอาจารย์สอนอะไร หลานไม่เข้าใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”

จูหยวนจางกำลังจะพิโรธ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเขา

[เหอะๆ อันที่จริงแล้ว เรื่องที่ฟางเสี้ยวหรูสอน ข้ารู้หมดแล้ว ส่วนสิ่งที่ข้ารู้ ฟางเสี้ยวหรูไม่รู้แน่นอน]

ใครกัน?

จูหยวนจางสะดุ้งตกใจ กวาดสายตามองไปรอบๆ

ในตำหนักนี้ไม่มีคนอื่นอยู่!

บางทีอาจเป็นเพราะอายุมากแล้ว หูก็เลยเริ่มมีปัญหา

จูหยวนจางส่ายหน้า ตัดสินใจว่าอีกสักครู่จะให้หมอหลวงมาตรวจชีพจรเสียหน่อย

“วันนี้เรามาก็เพื่อจะทดสอบการเรียนของพวกหลานๆ เราจะลองแต่งกลอนคู่สักสองสามบทก็แล้วกัน”

ก่อนที่จะขึ้นเป็นฮ่องเต้ แม้จูหยวนจางจะไม่ได้มีการศึกษาสูงนัก แต่เขาก็รักการเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องกลอนคู่

หลังจากขึ้นเป็นฮ่องเต้ ก็มักจะประลองแต่งกลอนคู่กับเหล่าขุนนางอยู่เสมอ จนถูกขนานนามว่าเป็นโอรสสวรรค์แห่งกลอนคู่

หลังจากออกกลอนคู่ไปหลายบท เหล่าองค์ชายก็แสดงความสามารถได้ไม่เลว โดยเฉพาะพระราชนัดดาองค์รองจูอวิ่นเหวินที่แสดงฝีมือได้อย่างโดดเด่น

พอหันกลับมามองจูอวิ่นเทิง ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง ช่างไร้ความสามารถจริงๆ

จูหยวนจางเป็นคนตั้งชื่อให้ด้วยตนเอง เขาเปิดตำราค้นหาจนเจออักษรตัวนี้

ตอนแรกนึกว่าตัวอักษร “เทิง” จะมีความหมายว่ารู้แจ้งฟ้าดิน แต่ใครจะไปรู้ว่าความหมายที่แท้จริงของมันคือการอุ่นอาหารที่สุกแล้วให้ร้อน

แต่ในฐานะโอรสสวรรค์ มีหรือจะยอมรับว่าตนเองผิด?

อีกอย่าง ชะตากำหนดไว้แล้วว่าบุตรคนที่สามไม่อาจขึ้นครองบัลลังก์ได้ เช่นนั้นก็แค่กินอิ่มนอนหลับ เป็นท่านอ๋องที่สุขสบาย ไม่ต้องยุ่งเรื่องใดๆ ก็พอแล้ว

จูอวิ่นเหวินสามารถต่อกลอนได้ติดต่อกันหลายบท ทำให้เขาตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ

[เฮ้อ กลอนคู่มีประโยชน์อะไรกัน? ใช้ขับไล่ศัตรูได้ หรือว่าใช้ปกครองบ้านเมืองได้? นึกว่าจูหยวนจางจะเป็นคนที่เน้นการปฏิบัติจริงเสียอีก ไม่นึกเลยว่าจะเหมือนกับพวกบัณฑิตหัวโบราณคร่ำครึอย่างฟางเสี้ยวหรู ชอบเล่นอะไรที่ไร้สาระ!]

มีประโยคหนึ่งดังเข้ามาในหัวของจูหยวนจางอีกแล้ว

มาอีกแล้ว หูมีปัญหาอีกแล้วหรือ?

[ดูพี่รองตื่นเต้นขนาดนั้น ตาเฒ่าจูยังจะกล้ามอบแผ่นดินให้เขาอีก? ไม่น่าแปลกใจเลยว่าจูอวิ่นเหวินได้เป็นฮ่องเต้แค่สี่ปีก็ถูกจูตี้ไล่ลงจากบัลลังก์แล้ว]

หา?!

ในที่สุดจูหยวนจางก็หาที่มาของเสียงเจอจนได้... พระราชนัดดาองค์ที่สาม จูอวิ่นเทิง

แต่ เห็นได้ชัดว่าจูอวิ่นเทิงไม่ได้อ้าปาก ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมาเลย!

หรือว่า ตนจะสามารถได้ยินความคิดในใจของจูอวิ่นเทิง?

หืม?

เจ้าเด็กนี่ถึงกับเรียกชื่อเราตรงๆ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!

แต่ช่างเรื่องนั้นไปก่อน

จูหยวนจางตัดสินใจทดสอบอีกครั้ง “อวิ่นเทิง กลอนคู่แม้จะใช้ปกครองบ้านเมืองไม่ได้ แต่ก็ช่วยขัดเกลาจิตใจได้ จะดูแคลนได้อย่างไร?”

จูอวิ่นเทิงรีบพยักหน้า “เสด็จปู่ตรัสได้ถูกต้องยิ่งนัก! ต่อไปหลานจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พัฒนาตนเองทุกวันพ่ะย่ะค่ะ!”

[แปลกจริง ตาเฒ่านี่รู้ได้อย่างไรว่าข้าคิดอะไรอยู่? หรือว่าเมื่อครู่ข้าแสดงได้ไม่ดีพอ? เผลอแสดงสีหน้าไม่พอใจออกไปอย่างนั้นหรือ? ดูท่าแล้ว คงไม่มีอะไรปิดบังตาเฒ่าคนนี้ได้เลย!]

[สายตาของตาเฒ่าคงจะฝึกฝนมาจากในสนามรบเป็นแน่! ไม่น่าแปลกใจเลยที่องครักษ์เสื้อแพรที่เขาก่อตั้งขึ้น จะไร้เทียมทานทั้งในอดีตและอนาคต ถือเป็นจุดสูงสุดแห่งวงการสายลับโดยแท้!]

จูหยวนจางตกตะลึงในใจ ไม่คาดคิดว่าตนเองจะสามารถได้ยินเสียงในใจของหลานคนนี้ได้จริงๆ!

เจ้าเด็กนี่ถึงกับแสดงละครตบตาต่อหน้าเราอย่างนั้นหรือ?

นับตั้งแต่จูหยวนจางขึ้นเป็นฮ่องเต้ อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง ได้ยินแต่คำประจบสอพลอมาโดยตลอด

ครั้งนี้พอได้ยินความคิดที่แท้จริงของหลานชาย ก็รู้สึกแปลกใหม่เป็นอย่างยิ่ง

ช่างน่าสนใจจริงๆ!

ไม่สิ เหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้บอกว่าเรามอบแผ่นดินให้อวิ่นเหวิน?

อืม การที่เขามองเรื่องนี้ออกก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะอวิ่นเหวินฉลาดและเชื่อฟังมาโดยตลอด ตัวเราเองก็ให้ความสนใจเขามากที่สุด

แต่เขาบอกว่า จูอวิ่นเหวินเป็นฮ่องเต้ได้แค่สี่ปีก็ถูกเจ้าสี่จูตี้ไล่ลงจากบัลลังก์?

เป็นไปได้อย่างไร? ไร้สาระสิ้นดี!

แต่จูหยวนจางก็ไม่สามารถถามออกไปตรงๆ เขาจะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเขาสามารถได้ยินเสียงในใจของพระราชนัดดาคนหนึ่งได้

[ผมของตาเฒ่าขาวขึ้นอีกแล้ว งานฮ่องเต้นี่มันไม่ใช่งานที่คนจะทำได้จริงๆ ทางเหนือก็ยังรบกันอยู่ ทางใต้ก็ไม่สงบสุข รบกันสองด้าน งบการทหารไม่พอ ตาเฒ่าคงปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ!]

จูหยวนจางตกตะลึง เด็กคนนี้ถึงกับพูดว่า “รบกันสองด้าน”!

จูหยวนจางเพิ่งได้รับรายงานลับมาว่า ซือหลุนฟาแห่งลู่ชวนได้นำทัพมารุกราน อ้างว่ามีกำลังพลสามแสน ตั้งค่ายอยู่ที่ค่ายหมัวซาเลย ทำให้ซีผิงโหวมู่อิงที่ประจำการอยู่อวิ๋นหนานต้องเตรียมรับมืออย่างเข้มงวด

ข่าวนี้นับเป็นความลับสุดยอด ยังไม่ได้ประกาศให้ใครทราบ แล้วเด็กคนนี้รู้ได้อย่างไร?

จูอวิ่นเทิงนั้นไม่เอาไหนมาโดยตลอด ไม่น่าจะมีใครทั้งในและนอกวังมาเข้าหาเขา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับข่าวลับสุดยอดเช่นนี้

หรือว่าเด็กคนนี้จะล่วงรู้อดีต หยั่งรู้อนาคตได้?

ช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

แต่ความจริงก็ทำให้เขาจำต้องเชื่อ

[ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย ไม่ต้องรวบรวมงบการทหารเพิ่มแล้วด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าข้าไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด]

หืม? เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล?

ตอนนี้หลานอวี้กำลังไล่ล่ากองกำลังหยวนที่เหลืออยู่ หากไม่มีงบการทหารและเสบียงอาหารจะสู้ต่อไปได้อย่างไร?

หรือว่าเขารู้ผลลัพธ์ของเรื่องนี้?

จูหยวนจางไม่สะดวกที่จะเอ่ยถึงสงครามทางตะวันตกเฉียงใต้ จึงใช้เรื่องสงครามทางเหนือมาหยั่งเชิงเขา

“อวิ่นเทิง เจ้ามีความเห็นอย่างไรต่อสงครามทางเหนือ?”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทำเอาเหล่าพระราชนัดดาต่างประหลาดใจอย่างยิ่ง

เรื่องสงครามทางเหนือเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ทุกคนให้ความสนใจ เสด็จปู่ไม่ถามขุนนางใหญ่ ไม่ถามฟ้า กลับมาถามพระราชนัดดาปัญญาอ่อนคนหนึ่ง!

จูอวิ่นเทิงไม่คิดว่าจูหยวนจางจะเรียกชื่อเขาตรงๆ

แม้จะรู้เรื่องราวและผลลัพธ์ของสงครามทางเหนือ แต่ถ้าพูดออกไป ใครจะเชื่อ?

ยิ่งไปกว่านั้น กฎการเอาชีวิตรอดในสิบปีนี้คือ อยู่อย่างสงบเสงี่ยม อย่าให้เป็นจุดสนใจ

“สะ เสด็จปู่ เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ หลานจะไปรู้ได้อย่างไร? พี่รองเก่ง เก่งกาจฉลาดเฉลียว เขาต้องรู้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” จูอวิ่นเทิงเริ่มพูดติดๆ ขัดๆ

แต่ในหัวของจูหยวนจางกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที

[อืม ข้ารู้ผลของสงครามทางเหนือ แต่ข้าไม่บอกท่านหรอก! ตาเฒ่าถามแบบนี้ หรือว่าการควบคุมสีหน้าของข้ามีปัญหา? อืม สายตาของตาเฒ่าไหนเลยจะหลอกได้ง่ายๆ ? เช่นนั้นก็ทำใจให้สงบดุจน้ำนิ่ง ไม่หวั่นไหว ดุจพระเข้าฌาน!]

หัวใจของจูหยวนจางในตอนนี้ราวกับถูกแมวข่วน

หลานคนนี้ มันหลานตัวแสบจริงๆ !

ในช่วงเวลาสำคัญ เขากลับหยุดไปดื้อๆ ไม่มีแม้แต่จะบอกว่าโปรดติดตามตอนต่อไป!

เขาลองฟังอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงในใจของหลานคนนี้อีกเลย!

ดูท่า เจ้าเด็กนี่คงจะระวังตัวแล้ว!

เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ค่อยๆ หลอกถามเขาไปเรื่อยๆ ก็ได้

อีกอย่าง เรื่องในวันนี้มันเกินกว่าความเข้าใจของเข้าไปมาก

น่าตกตะลึงเกินไป! ต้องกลับไปที่ตำหนักหย่างซินเพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีเสียก่อน

จูหยวนจางเดินไปถึงประตู แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง “การประชุมเช้าพรุ่งนี้ ให้อวิ่นเทิงเข้าร่วมประชุมด้วย”

______________________________

[1] ปลาเค็ม เป็นศัพท์สแลงในภาษาจีน หมายถึง คนที่ไม่มีความทะเยอทะยาน ใช้ชีวิตไปวันๆ ดังนั้นในเรื่องนี้ ระบบปลาเค็ม เป็นระบบที่ให้รางวัลตัวเอกเมื่อทำตัวสบายๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ
Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

default avatar
suriuonp
ไม่อัพต่อหรอครับ
2025-09-19 23:23:40
1
default avatar
Phattika
เรื่องนี้สนุก ตลกๆ ด้วย ประวัติศาสตร์แน่น ตัวละครหลากหลาย
2025-09-13 11:16:12
1
user avatar
J JJ
ประวัติศาสตร์มาสอดแทรกเยอะอยู่ อ่านเรื่อยๆ เนื้อเรื่องน่าจะเข้มข้น
2025-09-12 10:07:42
1
user avatar
KIKz
อ่านเพลินๆ ประวัติศาสตร์นั่นนี่แน่นๆ เข้มข้น
2025-09-10 17:14:35
1
default avatar
Popeye Liu
สนุกและตลกด้วย มาอัพต่อนะคะ
2025-09-10 10:16:51
1
user avatar
Hou Jiao
สนุกและขำมาก ชอบเต้อะน่ารัก
2025-09-10 08:22:28
1
100
บทที่ 1
ณ ราชวงศ์ต้าหมิง เมืองอิ้งเทียน ตำหนักเหวินหัวเหล่าพระราชนัดดากำลังเปล่งเสียงอ่านตำราอย่างกึกก้องภายใต้การนำของฟางเสี้ยวหรูจักรพรรดิหงอู่ จูหยวนจาง ยืนฟังอยู่นอกตำหนักครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเข้าไปข้างในเสียงอ่านตำราพลันเงียบลง“เสด็จปู่!”“เสด็จปู่!”เหล่าพระราชนัดดาต่างประสานเสียงเอ่ยทักทาย ฟางเสี้ยวหรูรีบก้าวไปข้างหน้า สะบัดชายเสื้อคลุมแล้วคุกเข่าลง“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเสด็จมา มิได้ออกไปต้อนรับแต่ไกล โปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางโบกมือ “เราฟังอยู่ข้างนอกแล้ว เจ้าสอนได้ดีมาก!”ฟางเสี้ยวหรู “มิใช่กระหม่อมสอนดี แต่เป็นเพราะเหล่าองค์ชายฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางหัวเราะอย่างสดใสพลางเอ่ยขึ้น “ในบรรดาหลานของเรา...”ทันใดนั้น มีเสียงกรนดังสนั่นราวกับฟ้าร้อง ขัดจังหวะความสำราญของจูหยวนจางดังขึ้นมาเมื่อมองตามเสียงไป ก็เห็นคนผู้หนึ่งกำลังพิงเสาอยู่ที่มุมห้อง เอนตัวอยู่บนเบาะรองนั่งน้ำลายไหลยืดจากมุมปากเป็นภาพลักษณ์ที่ดูไม่น่ามองอย่างยิ่งใบหน้าของจูหยวนจางพลันมืดมน แต่เหล่าพระราชนัดดากลับตื่นเต้นอย่างยิ่งผู้ที่กำลังหลับสนิทอยู่นั้นคือหลานชายในชายาเอกของจูหยวนจ
Read More
บทที่ 2
จูอวิ่นเทิงตกใจอย่างยิ่ง เป็นไปไม่ได้กระมัง จูหยวนจางนี่เกิดนึกอะไรพิเรนทร์ขึ้นมา?“เสด็จปู่ การเข้าร่วมประชุมราชสำนัก เรื่องใหญ่เช่นนี้จะให้หลานเข้าร่วมได้อย่างไรเล่า? ให้พี่รองไปจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ?”[ตาเฒ่าเอ๊ย เรื่องเหนื่อยยากอย่างการเข้าประชุมเช้า ท่านจะให้ข้าทำได้อย่างไรกัน? กลางคืนข้ายังดื่มเหล้าเคล้านารีอยู่ข้างนอก แล้วตอนเช้าจะให้ตื่นขึ้นมาได้อย่างไรกัน? นี่มันช่างโหดร้ายไร้มนุษยธรรมจริงๆ !]จูหยวนจางทรงรู้สึกขุ่นเคืองในใจ การประชุมราชสำนัก นั่นไม่ว่าใครก็เข้าร่วมได้หรือ?ให้เจ้าเข้าร่วมประชุม ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศอันยิ่งใหญ่เพียงใด? เจ้ากลับบอกว่าโหดร้ายไร้มนุษยธรรม?อะไรนะ? เจ้าเด็กนี่อยู่ข้างนอก กลางคืนดื่มเหล้าเคล้านารีอย่างนั้นหรือ?ช่างเหลวไหลสิ้นดี!ต้องไปสืบสวนให้ดีๆ !จูหยวนจางเดินห่างออกไปเรื่อยๆ เสียงในใจของจูอวิ่นเทิงก็ค่อยๆ เบาลง จนในที่สุดก็หายไปดูท่าแล้ว การที่จะได้ยินเสียงในใจของหลานคนนี้ คงต้องอยู่ใกล้ๆ เขาหน่อย!จูอวิ่นเหวินมองน้องสามที่ไม่ได้เรื่องคนนี้แล้ว ก็นึกไม่ออกว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!เมื่อครู่เสด็จปู่เสด็จมาทดสอบทุกคน
Read More
บทที่ 3
“หา เรียกข้าหรือ?”จูอวิ่นเทิงตื่นขึ้นมา เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของฉางเซิง ซึ่งฉายแววกังวลอย่างยิ่งฉางเซิงไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลากจูอวิ่นเทิงเดินไปข้างหน้าเดิมทีเหล่าขุนศึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง เรื่องสำคัญถึงเพียงนี้ ฝ่าบาทถึงกับเอ่ยถามว่าจูอวิ่นเทิงมาแล้วหรือยัง!นี่เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าจะทดสอบจูอวิ่นเทิงหากจูอวิ่นเทิงตอบได้ดี แสดงความสามารถได้อย่างโดดเด่น ก็จะเพิ่มแต้มต่อในการชิงตำแหน่งพระนัดดารัชทายาทได้อย่างมหาศาลแต่ใครจะไปรู้ว่า เจ้าเด็กนี่จะหลับไปเสียได้!ตอนที่เดินออกมา ก็ยังมีท่าทีไม่เต็มใจอีกขาดก็แต่ให้ลุงรองฉางเซิงมาบิดหูเขาเท่านั้นหรือว่าฉางเซิงไม่ได้บอกหลานนอกของเขาถึงความสำคัญของการเข้าร่วมประชุมราชสำนักในครั้งนี้?ฉางเซิงผลักจูอวิ่นเทิงไปอยู่แถวหน้าสุด แล้วจึงถอยกลับไปยังตำแหน่งของตนเองในใจเต้นระรัว หลานผู้แสนดีของข้า หลานแท้ ๆ เอ๋ย เจ้าต้องแสดงความสามารถให้ดีนะ!นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว!หากพลาดโอกาสนี้ไป เจ้าและตระกูลฉางของเรา รวมทั้งตระกูลหลานอวี้ เกรงว่าจะต้องเดือดร้อนกันถ้วนหน้า!ทุกสายตาในท้องพระโรงจับจ้องมาที่จูอวิ่นเทิงขุนนางหลาย
Read More
บทที่ 4
ไม่รอช้า จูหยวนจางประกาศเลิกประชุมทันที!พร้อมกันนั้นก็ให้เสนาบดีกรมกลาโหม เสนาบดีกรมคลัง ไคกั๋วกงฉางเซิง และจูอวิ่นเทิง ไปปรึกษาหารือที่ตำหนักหย่างซินทั่วทั้งราชสำนักเกิดความโกลาหล!ดูท่าแล้วฝ่าบาทคงจะหารือเรื่องการเดินทัพหรือถอยทัพของหลานอวี้กันในวงเล็กๆ กรมกลาโหมรับผิดชอบด้านการทหาร กรมคลังรับผิดชอบด้านเสบียงอาหาร ส่วนไคกั๋วกงฉางเซิงนั้นคือผู้ที่รอดชีวิตมาจากกองซากศพในสนามรบ!แต่จูอวิ่นเทิงเล่า มีสิทธิ์อะไร?วันนี้ในราชสำนักจูอวิ่นเทิงมีท่าทีประหม่าไม่กล้าตัดสินใจ แถมยังตอบคำถามอะไรไม่ได้เลย!ดูจากสีหน้ายินดีปรีดาและท่าทีอวดดีตลอดทางของฉางเซิงในวันนี้ หรือว่าจูอวิ่นเทิงได้รับการยอมรับบางอย่างจากฝ่าบาทแล้ว?รัชทายาทจูเปียวไม่อยู่ในช่วงนี้ ได้ยินมาว่าฝ่าบาทให้เขาไปเลือกเมืองหลวงแห่งใหม่เพื่อเตรียมการย้ายเมืองหลวง!การย้ายเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่หลวงเพียงใด!เหล่าขุนนางต่างวิเคราะห์กันเป็นการส่วนตัวว่า จูหยวนจางชราแล้ว คงไม่มีแรงจะทำเรื่องใหญ่อีกการย้ายเมืองหลวงเป็นเพียงข้ออ้าง ที่จริงแล้วคือการให้จูเปียวไปพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ต่างๆ เพื่อรักษาสุขภาพเรื่องในวันนี้ช่
Read More
บทที่ 5
เหตุผลที่จูหยวนจางไม่ได้ประกาศเรื่องสงครามทางใต้ในราชสำนัก ก็เพราะเกรงว่าจะทำให้ผู้คนเกิดความตื่นตระหนกเพราะตอนที่ส่งหลานอวี้ขึ้นเหนือไปตีหยวน ก็มีเสียงคัดค้านอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะกลุ่มขุนนางฝ่ายบุ๋นแห่งเจ้อตง มีขุนนางตรวจการบางคนที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงกับกล่าวว่าการยกทัพขึ้นเหนือไปตีหยวนเป็นการสิ้นเปลืองแรงงานและทรัพย์สิน!หากได้ข่าวว่าคนเถื่อนทางใต้รวบรวมทัพสามแสนนาย ซึ่งมีกองทัพช้างศึกห้าพันตัวรวมอยู่ด้วย คนพวกนี้จะไม่ขวัญหนีดีฝ่อไปเลยหรือ!เสียงที่เรียกร้องให้หลานอวี้ถอยทัพจะต้องดังก้องกังวานขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน!ประกอบกับหลายปีมานี้ ต้องเสริมความแข็งแกร่งของเมืองชายแดนและประสบกับภัยแล้งและอุทกภัยติดต่อกัน ทำให้ไม่สามารถรับมือสงครามสองด้านได้อีกต่อไปเสนาบดีกรมคลังยังคงจ้องมองฎีกาลับอย่างละเอียด เช็ดเหงื่อแล้วทูลว่า “ฝ่าบาท แผนการในตอนนี้ มีเพียงต้องรีบระดมกำลังทหารจากสำนักผู้ว่าการซื่อชวน สำนักผู้ว่าการกว่างซี และสำนักผู้ว่าการกุ้ยโจวไปยังอวิ๋นหนานอย่างเร่งด่วนพ่ะย่ะค่ะ!”ฉางเซิงเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท กระหม่อมเสนอให้เคลื่อนกองทัพค่ายศาสตราอัคคี มีเพียงอาวุธเพลิงเท่านั้นจึงจะ
Read More
บทที่ 6
“อวิ่นเทิง เหตุใดเจ้าไม่กินเล่า?”จูหยวนจางไม่เข้าใจว่าหม้อไฟที่เจ้าเด็กนี่พูดถึงคืออะไรสำหรับเขาแล้ว เรื่องอาหารการกินไม่เคยเป็นเรื่องที่ใส่ใจมากนักต่อให้เป็นงานเลี้ยงท้อเซียน ก็ยังสู้ซุปไข่มุกหยกขาวและบะหมี่กระเทียมของเขาไม่ได้ครั้งนั้น ตอนที่จูหยวนจางยังเป็นพระสงฆ์และต้องออกบิณฑบาตไปทั่ว อดอยากอยู่หลายวัน จนหิวเป็นลมไปหญิงชราผู้หนึ่งได้ใช้ปลายข้าวกับเต้าหู้ที่เริ่มเปรี้ยวแล้วต้มเป็นโจ๊กชามหนึ่งโจ๊กชามนั้นช่วยชีวิตพระองค์ไว้จูหยวนจางจึงตั้งชื่อให้ปลายข้าว (ไข่มุก) กับเต้าหู้เปรี้ยว (หยกขาว) ว่าซุปไข่มุกหยกขาว“เสด็จปู่ หลานกินอิ่มแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จูอวิ่นเทิงโกหกคำโต “สองสามวันนี้หลานเวียนศีรษะ กินอะไรไม่ค่อยลงพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางรีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงจูอวิ่นเทิงลุกขึ้นยืน “เสด็จปู่ ไม่ต้องรบกวนหมอหลวงหรอกพ่ะย่ะค่ะ อาการป่วยของหลาน ส่วนใหญ่เป็นเพราะนอนน้อยเกินไป โดยเฉพาะตอนเช้า ไม่สามารถตื่นเช้าเกินไปได้พ่ะย่ะค่ะ”ไม่ต้องฟังเสียงในใจ จูหยวนจางก็รู้ว่า เจ้าเด็กนี่คิดจะอู้งานแต่ในใจกลับสะดุ้งเฮือกขึ้นมาตั้งแต่เด็ก สุขภาพของจูอวิ่นเทิงดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก เช่นเดีย
Read More
บทที่ 7
หนึ่งเดือนผ่านไปจูอวิ่นเทิงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเช่นเคยเขานอนแผ่หลาอาบแดดอยู่บนเก้าอี้ในลานบ้าน ทางขวามือมีม้านั่งที่ทำมาจากไม้แดงตัวหนึ่ง วางผลไม้และของว่างต่างๆ เช่น องุ่น คุกกี้เหมยเอ๋อร์คอยนวดไหล่ให้เขาอยู่ด้านหลังหลานเอ๋อร์คอยนวดเท้าให้เขาอยู่ด้านหน้าจูอวิ่นเทิงหยิบองุ่นเข้าปาก นี่สิถึงจะเป็นชีวิตสบายๆ ที่ปลาเค็มควรจะมี!หนึ่งเดือนแล้วที่จูหยวนจางไม่มารบกวนอีกเพียงแต่ว่าทุกวันยังคงต้องเข้าวังไปเรียนหนังสือกับฟางเสี้ยวหรูการไปนอนหลับในห้องเรียน ช่างเป็นความทรมานโดยแท้โชคดีที่ฟางเสี้ยวหรูเลิกสนใจเขาไปนานแล้ว ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเพียงแต่บ่อยครั้งที่สายตาของจูอวิ่นเหวินจะกวาดมองมา แฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น ทำให้เขารู้สึกเย็นเยียบในใจดูท่าการที่จูหยวนจางให้เขาเข้าร่วมการประชุมเช้า และร่วมปรึกษาหารือกันที่ตำหนักหย่างซินเมื่อหนึ่งเดือนก่อน คงทำให้จูอวิ่นเหวินเกิดความระแวงในตัวเขาขึ้นมาอยากจะบอกจูอวิ่นเหวินจริงๆ ว่า คนที่เขาควรระวังคืออาสี่จูตี้ต่างหากอันที่จริงจูอวิ่นเหวินระแวงทุกคนพระชายาหลี่ว์บอกเขาว่า จูเปียวผู้เป็นบิดาไปพักฟื้นที่หางโจวหลังจากที่จูหยวนจางส
Read More
บทที่ 8
ฉางเซิงโกรธจัด “อวิ่นเหวิน เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”ฉีไท่เสนาบดีกรมกลาโหมกล่าวว่า “ไคกั๋วกง ท่านจะรีบร้อนไปไย ฟังดูก่อนว่ามีเหตุผลหรือไม่”จูอวิ่นเหวินกล่าวเสียงดัง “การเอาชนะฮ่องเต้หยวนได้นั้น ฝ่าบาททรงมีคุณูปการเป็นอันดับหนึ่ง! เป็นเพราะฝ่าบาททรงชี้ที่ซ่อนของฮ่องเต้หยวน แม่ทัพหลานจึงมีเป้าหมาย มีเป้าหมายแล้ว แต่ฮ่องเต้หยวนกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เปลี่ยนเป็นคนอื่นนำทัพ ก็ย่อมได้รับชัยชนะเช่นกัน”คำพูดนี้ทำเอาเหล่าขุนนางในราชสำนักฮือฮาพระราชนัดดาองค์รองผู้นี้ พูดมีเหตุผลอย่างยิ่ง!เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊อยากจะโต้แย้ง ก็ไม่กล้าหากโต้แย้ง ก็เท่ากับเป็นการลบล้างคุณูปการของฝ่าบาท!ฉางเซิงอัดอั้นตันใจ แต่ก็ระบายออกมาไม่ได้!จูอวิ่นเหวินยิ่งได้ใจ “ในสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่ายเรามีกำลังมากกว่าศัตรู ควรจะเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ เหตุใดจึงปล่อยให้ฮ่องเต้หยวนและรัชทายาทหนีไปได้?”“เป็นการบัญชาการของแม่ทัพหลานที่มีปัญหา หรือว่าแม่ทัพหลานจงใจปล่อยฮ่องเต้หยวนและรัชทายาทไป?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างตกตะลึงเมื่อจูอวิ่นเหวินพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการใส่ร้ายหลานอวี้อย่าง
Read More
บทที่ 9
“หลานอวี้ ถึงกับแอบปล่อยฮ่องเต้หยวนไป!”“หลานอวี้ ถอนรากไม่ถอนโคน จิตใจช่างชั่วร้ายนัก!”“ฝ่าบาท หลานอวี้สมควรได้รับโทษฐานคิดการกบฏพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท หลานอวี้ชั่วร้ายยิ่งกว่าหูเหวยยงเสียอีกพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางที่ปรึกษาบางคนก็ลุกขึ้นมา แจกแจงความผิดของหลานอวี้เป็นข้อๆ เช่น ทะนงตนโอหัง ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ยึดครองที่นาของราษฎร เกิดเสียงก่นด่าไปทั่ว เลี้ยงดูทาสไว้ในจวน คิดการมิชอบ เป็นต้นฉางเซิงและเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊ถึงกับตกตะลึงเดิมทีคิดว่าหลานอวี้จะได้รับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งจากเรื่องนี้ ที่ไหนได้กลับกลายเป็นบัญชีรายการความผิด!สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ ฝ่ายตนกลับไม่มีปัญญาจะโต้ตอบ!จูอวิ่นเทิงรู้สึกว่าตนเองต้องพูดอะไรสักอย่างแล้ว หากไม่พูด หลานอวี้ไม่มีทางผ่านด่านวันนี้ไปได้แน่!จูอวิ่นเทิงก้าวออกมาหนึ่งก้าว ทันใดนั้นจูหยวนจางก็ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “หลานอวี้มีคุณงามความดีใหญ่หลวง! พวกเจ้ากล้าใส่ร้ายเขาเช่นนี้ได้อย่างไร?”หา?ในท้องพระโรงพลันเงียบสงัดอีกครั้ง ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกจูอวิ่นเทิงก็ตกใจอย่างยิ่ง ตาเฒ่าจู นี่นิสัยเปลี่ยนไปแล้วหรือ?เขานิสัยเปลี่ยนไปจริงๆ แล้
Read More
บทที่ 10
หลานอวี้ยังไม่ทันยกทัพกลับเมืองหลวง จูหยวนจางก็แต่งตั้งหลานอวี้เป็นเหลียงกั๋วกงแล้ว!ฉางเซิงและเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊คุกเข่าลงอีกครั้ง เสียงโห่ร้องสรรเสริญดังกึกก้อง กล่าวขอบพระทัยแทนหลานอวี้สำหรับเหตุผลของจูหยวนจาง พวกเขาก็ไม่สามารถโต้แย้งได้เช่นกัน!ฝ่าบาทก็คือฝ่าบาท สิ่งที่ทรงคิดถึงคือแผ่นดินทั้งหมดพระองค์ไม่ได้ทรงคิดถึงการได้เสียเพียงเมืองเดียวหรือชัยชนะเพียงครั้งคราว แต่ทรงวางแผนกลยุทธ์โดยคำนึงถึงภาพรวมทั้งหมด!จูอวิ่นเหวินคุกเข่าและลุกขึ้นอย่างเหม่อลอย ในใจรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างยิ่งอุตส่าห์มีโอกาสเข้าประชุมราชสำนัก อุตส่าห์ได้พูดเป็นคนแรก!อุตส่าห์ได้รับการชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋น!อุตส่าห์ทำให้เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊ถึงกับพูดไม่ออก!ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่มารดาและฉีไท่สอนเขามาในตอนนั้น เขารู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีแผนการใดที่จะโหดเหี้ยมและยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว!ฉีไท่เป็นเสนาบดีกรมกลาโหม ทำให้เขาได้รับข่าวนี้ล่วงหน้าฉีไท่ยังช่วยให้เขาได้มีโอกาสเข้าประชุมราชสำนักอีกด้วยก็เพื่อรอที่จะแสดงความสามารถในวินาทีนี้ใครจะไปรู้ว่า สิ่งที่รออยู่กลับเป็นความเดื
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status