“พอเถอะครับ จันทร์เหนื่อยแล้ว จันทร์ว่าเราหยุดแค่นี้ดีกว่าครับ” “เหนื่อยยังไง พี่คิดว่าเราคิดเหมือนกันซะอีก” “ถ้าวันนี้ สิ่งที่พี่คลื่นทำเพื่อเล่นกับความรู้สึกของจันทร์ เพื่อให้จันทร์รู้สึกเจ็บ ให้จันทร์รู้สึกผิด บอกเลยว่าไม่!! จันทร์ไม่เคยรู้สึกผิดสักนิด จันทร์คิดดีแล้ว จันทร์ถึงทำมันลงไป ดังนั้นพี่คลื่นเลิกหาคำตอบจากคำถามเดิมๆ คำถามที่มันมีคำตอบอยู่แล้วสักที” “ดี!! ในเมื่อคุณบอกว่าทุกอย่างที่คุณทำ คุณตั้งใจทำมัน งั้นคุณก็รอรับผลของมันได้เลย” - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - “จันทร์รักพี่ที่สุดเลยรู้ไหม” เจ้าจันทร์พูดกับแฟนหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ “วันนี้จันทร์มีความสุขที่สุด พี่คลื่นจะเป็นรักแรก และรักเดียวของจันทร์” เจ้าจันทร์พูดพร้อมกับเอาหัวเอนซบอกแกร่งของแฟนหนุ่ม พร้อมทั้งเอามือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้างาม
View Moreท้องฟ้าที่แสนสดใส สนามบอลขนาดมาตรฐาน กำลังมีนักเรียนหลายคนเตะฟุตบอลอย่างสนุกสนาน สายตาอันสดใสกำลังมองผ่านหน้าต่างบานหนึ่ง คุณครูที่กำลังนั่งมองนักเรียนเตะบอล มองความสดใสของเด็ก ๆ สะท้อนผ่านเลนส์แว่นอันหนาเตอะ
เจ้าจันทร์หรือครูจันทร์คุณครูจบใหม่ที่เพิ่งได้เข้าทำงานในโรงเรียนเอกชน เมื่อไม่นานนี้กำลังนั่งมองนักเรียนอย่างมีความสุข
“อ้าวน้องจันทร์ ยังไม่กินข้าวอีกเหรอ ไปกินข้าวได้แล้ว ไปกับพี่ไหม” พี่โอคุณครูรุ่นพี่เอกวิชาพละเอ่ยถามขึ้น เมื่อเดินผ่านหน้าห้องที่เขาใช้สอน
“อ๋อ จันทร์ห่อข้าวมาครับ เดี๋ยวน่าจะกินบนห้องเลยครับ พี่โอไปทานได้เลยครับ” คนน้องตอบรุ่นพี่อย่างยิ้ม ๆ
“ได้ ๆ แล้วหมูกระทะเย็นนี้ว่าไงเอ่ย”
“ถ้ายังไงเดี๋ยวผมตอบพี่โออีกทีนึงนะครับ”
“ตอบแบบนี้ทีไร ไม่เคยไปกับพี่เลยนะครับน้องจันทร์ แต่ไม่เป็นไรถ้าจะไปยังไงโทรมานะ พี่ไปก่อน”
“ได้เลยครับพี่โอ ขอบคุณมากนะครับ” เมื่อคุณครูหนุ่มเดินผ่านไปเจ้าจันทร์แอบหยิบกระเป๋าตังค์ใบเก่าของตัวเองขึ้นมานับเงินที่อยู่ในนั้น
“หมูกระทะงั้นเหรอ ไม่ได้กินมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย แต่ถ้าเรากิน เงินเก็บจะต้องหายไป ไม่ได้ ๆ ต้องเก็บเงินเอาไว้ให้มากที่สุด” ครูหนุ่มพูดกับตัวเองไปเรื่อย เพื่อปลุกพลังให้กับตนเอง
บ้านไม้กลางเก่ากลางใหม่ ที่ผุพังไปตามกาลเวลาตั้งอยู่ในย่านชุมชน ออกห่างจากเมืองเล็กน้อย บ้านหลังนี้มีคนอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือยายแจ่มเจ้าของบ้านที่อายุปาเข้าไป 74 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลาน คนที่ 2 คือน้าจุรี หรือที่เขาเรียกว่าน้ารี น้าสาวแท้ ๆ ของเขา อายุนะเหรอ 33 ปี ห่างจากเขา 13 ปี แต่ห่างจากแม่ของเขาถึง 18 ปี ฟังไม่ผิดครับ น้ารีแกเป็นลูกหลง ยายมีน้ารีตอนอายุ 41 มีแม่เขาเจ้าจันทร์ตอน 23 ทำให้น้ารีดูไม่ค่อยแก่ น้ารีแกมีลูก 1 คน ชื่อจอม ตอนนี้อยู่ชั้น ม.3 แล้ว เรียกได้ว่าจอมซนของบ้านเลยครับ ส่วนอีกคนหนึ่งในบ้านหลังนี้คือผมเองครับ เจ้าจันทร์ หรือครูจันทร์ ผมสอนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนี่แหละครับ จบมาหมาด ๆ แล้วก็ได้รุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยมฝากงานให้ ผมสอนมาได้ 7 เดือนแล้ว สนุกและท้าทายดี ผมบอกหรือยังครับว่าผมสอนวิชาศิลปะ และผมมีเพศรองเป็นโอเมก้า ส่วนคนอื่น ๆ ในบ้านเป็นเบต้ากันหมด ยายห่วงผมมากเลยครับอาจจะเป็นเพราะเพศรองของผมที่ไม่เหมือนคนอื่นในบ้าน และยังเป็นเพศที่หายากในสมัยนี้ด้วย แต่ผมก็เหมือนคนปกติเลยนะครับ เพราะผมไม่ได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ ไม่เคยมีอาการฮีท และไม่เคยมีใครได้กลิ่นของผม เรื่องราวของผมมันซับซ้อนมาก หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะผมมันอ่อนแอเกินไป
“จันทร์กลับมาแล้วจ่ะยาย” เจ้าจันทร์เดินเข้าไปหอมแก้มยายสุดที่รักทั้งสองข้างดังฟอด
“ตายแล้ววว โตขนาดนี้ยังทำตัวเป็นเด็ก ๆ ถ้าลูกศิษย์มาเห็นครูจันทร์สุดหล่อหอมยายแบบนี้จะเป็นยังไงละเนี่ย” ยายแจ่มพูดด้วยความมันเขี้ยว
“ก็คงเป็นตัวอย่างที่ดีไงครับยาย ไม่เห็นน่าอายเลยนะครับ นี่ไงๆหอมอีกสักฟอดเลย” เจ้าจันทร์พูดพร้อมกับก้มหน้าลงไปหอมยายแจ่มอีกรอบ
“ไม่คุยด้วยแล้ว ไป ๆ ไปอาบน้ำอาบท่า ยายทำกับข้าวไว้ให้แล้ว อาบน้ำแล้วจะได้มากินข้าวกับยาย”
“งั้นเดี๋ยวจันทร์ไปอาบน้ำแป๊บนะครับ แล้วจันทร์จะออกมากินข้าวด้วยนะครับยาย” เจ้าจันทร์ที่กำลังจะเดินเข้าห้อง ยายก็พูดตะโกนไล่หลังมา
“เจ้าจันทร์ มีจดหมายอยู่บนโต๊ะนะลูก ไม่รู้ใครส่งมา ไม่เห็นได้จ่าหน้าซอง เห็นตาหมายแกบอกว่ามีคนฝากมาส่ง”
“อ๋อ ๆ ครับยาย ขอบคุณมากนะครับ”
“จดหมาย ๆ” เจ้าจันทร์ควานหาจดหมายบนโต๊ะ
“เจอแล้ว...ไม่จ่าหน้าซองจริงๆด้วยแฮะ”
“ชนวีร์” “จดหมายจากพี่คลื่นเหรอ” เจ้าจันทร์เอ่ยออกไปด้วยความตื่นเต้น “แต่เราเลิกกันไปตั้งนานแล้ว พี่คลื่นจะยังส่งจดหมายมาให้อีกทำไม” เจ้าจันทร์จึงเปิดจดหมายเพื่ออ่านข้อความในจดหมาย “ถึงเวลาแห่งการชดใช้...พี่คลื่นหมายความว่ายังไง”
“อาบน้ำเสร็จหรือยังลูก” เสียงตะโกนดังแว่วเข้ามาภายในห้อง
“กำลังจะอาบแล้วครับยาย แป๊บเดียวครับ” เจ้าจันทร์พูดพร้อมกับรีบหาของมาทับ ๆ เพื่อแอบจดหมาย กันเอาไว้เผื่อยายจะเข้ามาเห็น แล้วเป็นกังวล เจ้าจันทร์รีบวิ่งไปอาบน้ำอย่างรีบร้อน พร้อมกับกระดาษที่ปลิวลงไปด้านล่าง เห็นเป็นข้อความด้านหลังที่เขียนเอาไว้ว่า รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
“ไหวไหม” ครูหนุ่มทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้าจันทร์เดินเข้ามาในห้องฝ่าย “ไหวอยู่ครับพี่ทัน” วันนี้เข้าวันที่ 3 แล้วที่ยายของเขาเข้าโรงพยาบาล ยายยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย วันก่อนหมอเจอเลือดคลั่งในสมองต้องผ่าตัดด่วน ผ่าตัดแล้วอาการก็ยังคงทรง ๆ อยู่ “ยายเป็นไงบ้างละน้องจันทร์” ครูโจ๊กถามขึ้น ทุกคนในห้องฝ่ายต่างเป็นห่วงครูหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ เพราะช่วงนี้มีแต่เรื่องเข้ามาเรียกได้ว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจริง ๆ “ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยครับ” “ไม่เป็นไรนะพี่เชื่อว่ามันจะดีขึ้น” ครูโจ๊กบอกกับครูหนุ่มรุ่นน้องเพื่อเป็นการให้กำลังใจ “ทุกคน ๆ มาดูนี่เร็ว ๆ” เสียงของครูพราวที่เข้าห้องฝ่ายมาด้วยความรีบร้อนพร้อมกับเปิดหน้าเว็บข่าวให้กับทุกคนดู “ท่านรองของเราเนี่ยดังใหญ่แล้วนะ ดูสิมีข่าวกับหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้กอดกันกลางงานประกาศรางวัลอะไรสักอย่างเลย แต่เอ๊ะชื่อเวทีมันคุ้น ๆไหม” ครูพราวที่อ่านข่าวไปก็คุ้น ๆ ชื่องานเหมือนเคยเห็นมาจากที่ไหน “นี่ไม่ใช่เวทีประกวดที่น้องจันทร์ไปเหรอครับ” ครูสามพูดขึ้นเมื่อมาดูข่าวแล้วเห็นว่าคือเวทีที่ครูหนุ
“เลิกถามได้แล้ว ป่ะไปไหนกันดี ยังพอมีเวลาอีกเยอะแยะ ไหน ๆ ก็เข้ากรุงเทพทั้งที มีที่ไหนที่อยากไปไหมพี่พาไป” ร่างสูงตัดบทคนตัวเล็กเรื่องของผู้ปกครองของนที เพราะเขายังไม่อยากบอกอะไรร่างเล็กตอนนี้ อยากให้มันเข้าที่เข้าทางซะก่อน “ไม่อยากไปครับ แต่อยากรู้มากกว่าว่าท่านรองกลับมาแบบนี้ ไม่มีปัญหาแน่เหรอครับ” เจ้าจันทร์ถามคนร่างสูง เพราะที่ร่างสูงอ้างว่ากลับมาทำธุระในวันนี้เขาแอบเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ว่าธุระที่ว่าคือการมาหาเขาที่นี่ “พี่จัดการได้แน่นอน” ร่างสูงพูดเพื่อยืนยันกับร่างเล็ก เขารู้ว่าร่างเล็กต้องไม่สบายใจในเรื่องนี้แน่ ๆ ร่างเล็กทำได้แค่พยักหน้าให้กับร่างสูงและเริ่มที่จะออกเดินไปข้างหน้า เพื่อเดินทางกลับบ้าน ครืด ๆ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือที่คนตัวเล็กตั้งสั่นไว้กำลังแจ้งเตือนว่ามีสายโทรเข้ามา “ว่าไงจอม” เจ้าจันทร์ที่พอเห็นหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นว่าคนโทรคือน้องชายตัวดีของเขานี่เอง สงสัยจะโทรมาทวงของฝากแน่ ๆ เลย “พี่จันทร์ แย่แล้วครับ” เสียงสะอึกสะอื้นของเจ้าจอมดังขึ้นมาจากปลายสาย “ทำไมใครเป็นอะไรจอม” เจ้าจันทร์ได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่
“คนเยอะมากเลยครับพี่ขนม” เจ้าจันทร์ที่พานทีมาเข้าร่วมการแข่งขันพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ตกลงนี่พี่พาใครมาแข่งกันแน่ เราน่ะตื่นเต้นกว่านทีอีกนะรู้ไหม ใช่ไหมนที” ขนมปังหันไปถามนที เด็กหนุ่มที่เป็นตัวแทนการแข่งขันในวันนี้ นทีไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยิ้มให้กับขนมปัง จะว่าไงดีพี่ขนมปังน่ารักมาก พี่เขาสูงพอ ๆ กับครูจันทร์จะสูงกว่านิดหนึ่ง ตัวขาว ๆ เหมือนมีออร่าอยู่ตลอดเวลา ตากลมโต เหมือนแมวเลย เสียดายที่เป็นแฟนครูทันไปแล้ว เห็นว่าคู่นี้เขามีอุปสรรคตั้งหลายอย่าง ทั้งเรื่องการพิสูจน์ระยะทางกับเวลา เห็นว่าพ่อพี่ขนมปังเป็นถึงเจ้าสัวใหญ่เป็นคู่แข่งกันมาตลอดกับบ้านของครูทัน กว่าสองคนนี้จะลงเอยกันได้ต้องอดทนกันมามากกว่าจะมีวันนี้ ไหนจะเรื่องที่ครูทันมาจีบพี่ขนมปังเพราะจะเข้าหาครูจันทร์ในตอนแรก ๆ อีกด้วย ถ้าถามว่าเขารู้ได้ยังไงนะเหรอ สองคนนี้เขามานั่งคุยกันทุกเย็นเลยตั้งเเต่วันนั้น เขาไม่ได้อยากจะรู้อะไรนะแต่มันได้ยินเอง “เอ้า!! ยิ้มอยู่นั่นแหละเรา ไป ๆ ไปลงทะเบียนกันก่อน” เจ้าจันทร์บอกกับนทีที่ไม่ตอบคำถามพี่รหัสของเขา เอาแต่ยิ้มให้อยู่นั่น ทั้งสามคนพากันเดินไปที
หลังจากวันนั้นที่ตกลงกับนทีเรียบร้อยแล้วว่าจะซ้อมกันที่บ้านของเจ้าจันทร์ในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ตลอดช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานทีจึงมาเป็นแขกประจำที่บ้านของเจ้าจันทร์ “อร่อยมาก ๆ เลยครับยายแจ่ม” เสียงของนทีบอกกับยายแจ่มที่กำลังทำอาหารเย็นในวันนี้ ยายแจ่มทำอาหารอร่อยมากได้ยินว่าเมื่อก่อนยายแจ่มเคยเปิดร้านขายข้าวแกงก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่และทำไม่ไหว จึงได้แต่ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ รอหลาน ๆ กลับมาบ้าน และอีกอย่างครูเจ้าจันทร์ไม่อยากให้ยายต้องตื่นแต่เช้ามานั่งทำกับข้าวหลังขดหลังแข็งอีก “ไปซ้อมไหมพี่ มาแย่งหน้าที่ลูกมือในการช่วยยายผมทำกับข้าวอีกแล้วนะครับ” จอมพูดขึ้น เรียกได้ว่าสองคนนี้แทบจะเป็นคู่กัดกันในช่วงนี้เลย วันไหนที่ไม่ได้ยินสองคนนี้ทะเลาะกันวันนั้นน่าจะเกิดอะไรขึ้นแน่ ๆ “ยุ่งนะเรา ทำไม หวงยายหรือไง” นทีเอ่ยถามเด็กรุ่นน้อง “ก็นี่มันยายของจอมนะครับ ทำไมจอมจะหวงไม่ได้” เจ้าจอมพูดอย่างงอน ๆ “พอ ๆ จอมไปทำการบ้านได้แล้วไป ที ทีไปคุยกับครูหน่อยสิ ครูมีจุดที่อยากให้ทีปรับแก้นิดหน่อย” เจ้าจันทร์บอกกับเด็กหนุ่ม เนื่องจากว่า ถ้าเขาไม่มา
เจ้าจันทร์ที่เดินมาถึงหน้าห้องท่านผู้อำนวยการถึงกับแปลกใจ เพราะดูจะมีคนหลายคนรอเขาอยู่ในห้อง “เข้าไปได้เลยค่ะครูจันทร์ ท่านผู้อำนวยการรออยู่” พี่แจ๋มเลขาที่หน้าห้องท่านผู้อำนวยการบอกกับเจ้าจันทร์ที่กำลังลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม “ครับพี่ ขอบคุณครับ” ก๊อก ๆ ๆ เจ้าจันทร์เคาะประตูเพื่อเป็นการบอกคนภายในห้อง และเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง เป็นดั่งที่เจ้าจันทร์คิดไว้ มีคนหลายคนในห้องที่รอเขาอยู่ เพราะในห้องนอกจากท่านผู้อำนวยการแล้ว ยังมีท่านรอง ที่นั่งอยู่ทางขวามือของท่านผู้อำนวยการ ข้าง ๆ กันกับท่านรองคือคุณครูคนใหม่ทีพึ่งมาได้ 2 สัปดาห์และเขายังไม่เจอเลยคุณพันดาว “ มา ๆ นั่งก่อนสิครูจันทร์” เจ้าจันทร์เดินไปนั่งตรงเก้าอี้อีกตัวที่ยังว่างอยู่ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของท่านผู้อำนวยการ “พอดีวันนี้มีเรื่องด่วนนิดหน่อยนะ ผมเลยต้องเรียกครูจันทร์เข้ามาพบ พอดีว่าทางโรงเรียนได้รับเรื่องเข้ามาว่าจะมีการประกวดแข่งขันงานงานศิลปะระดับประเทศ ที่ประเทศสิงคโปร์ ทางครูพันดาวมีคอนแทคที่นั่นพอดี เราเลยตกลงกันว่าจะส่งเด็ก ๆ ไปประกวดที่นั้น เหมือนหนูพันดาวจะเตรียมรายละเอีย
“ที่ผมเรียกครูจันทร์มาในวันนี้นะครับ ก็เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดจากที่เราคุยกันในวันงานนะครับ” วันนี้เป็นวันแรกหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นเมื่อวันเสาร์ เมื่อวานมีสายโทรเข้าเยอะมาก เจ้าจันทร์เลือกที่จะไม่รับสายใครเลย วันนี้เปิดมาวันจันทร์ เจ้าจันทร์ก็ถูกท่านผู้อำนวยการเรียกเข้าพบแต่เช้า “อย่างที่ครูจันทร์รู้มานะครับว่าในเดือนหน้าทางโรงเรียนจะมีการจ้างครูศิลปะเพิ่ม หรือก็คือหนูพันดาวเพื่อเข้ามาช่วยดูแลในส่วนของศิลปะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ครูต่ายลาคลอดนะครับ” “แล้วแบบนี้ ถ้าพี่ต่ายกลับจากลาคลอดท่านผู้อำนวยการจะเลิกจ้างผมใช่ไหมครับ” เจ้าจันทร์ที่ทำใจถามท่านผู้อำนวยการไปตรง ๆ “ไม่ใช่แบบนั้น เอาตรง ๆ นะครูจันทร์ ผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับรตีเขาขนาดนั้น อีกอย่างผมเองก็พอเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เจ้าคลื่นเองก็มาคุยกับผมเรื่องจ้างคุณต่อ แต่สำหรับผม ผมไม่เคยคิดจะให้คุณออก คุณก็รู้ เด็กเราเพิ่มมากขึ้น เราก็ต้องการครูเพิ่ม ถึงผมจะจ้างพันดาวเข้ามา ผมก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณออก แต่ว่าเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าคุณเหมาะสมกับการทำงานที่นี่ ในทุก 6 เดือนจะมีการประเมินการทำงาน โดย
Comments