เพลิงพิศวาส

เพลิงพิศวาส

last updateLast Updated : 2025-06-09
By:  ingladaCompleted
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
44Chapters
42views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

“รับเลี้ยงหนูไว้ได้ไหมคะ?” “ฉันไม่นิยมเลี้ยงเด็ก” “ไม่ได้เหรอคะ หนู หนูบริการคุณได้นะคะ” “บริการอะไร” “ทำแบบนั้นไงคะ แบบที่เมื่อคืนเราทำกันหนู หนูทำให้คุณได้นะ” “ถ้าอมให้ฉันแตกได้ จะลองพิจารณาดู”

View More

Chapter 1

1.มายาวี

“มาร์ มาร์ขออยู่ที่นี่อีกปีหนึ่งได้มั้ยจ๊ะแม่”

“ได้อีกแค่วันเดียวเท่านั้น! เก็บข้าวของให้เรียบร้อยพรุ่งนี้จะให้คนไปส่ง ฉันใจดีกับแกสุดแล้วนะ”

“แล้วเงินของมาร์ล่ะจ๊ะ”

“เงินอะไร!?” แม่เลี้ยงตวาดลั่น จนร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนตัวเองสะดุ้งด้วยความตกใจ “ค่าหัวพ่อแกก็ถือเป็นค่าเลี้ยงดูที่ฉันเลี้ยงแกมาเกือบห้าปีนี่ไง”

“แล้วมาร์จะเอาเงินไหนไปเช่าห้องล่ะจ๊ะ มาร์ขอเงินติดตัวสักสองพันได้ไหม?”

“นั่นมันปัญหาของแกและฉันไม่ให้ ตอนหกโมงเช้าต้องไสหัวออกไปจากที่นี่และอย่ากลับเข้ามาอีก!”

“แต่ว่า…”

“แกไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกับฉันทั้งนั้น!” พูดจบจิตรดาก็เดินจากไป ทิ้งให้สาวน้อยวัยสิบเก้าปียืนจมอยู่กับน้ำตา เธอปิดประตูห้องแล้วเดินกลับไปนั่งกอดเข่าตัวเองร้องไห้อยู่ข้างเตียง

ดวงตาที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาหลังจากบิดาที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวเสียชีวิตได้เริ่มทำงานหนักอีกครั้งเมื่อเสร็จจากงานศพผู้เป็นพ่อแม่เลี้ยงก็ไล่เธอออกจากบ้านด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่มีประโยชน์อะไรกับหล่อน

เด็กสาวที่มีอายุเพียงสิบเก้าปีจะเอาชนะอะไรหล่อนได้นอกจากยอมก้มหน้ารับกรรมที่ในชาติที่แล้วคงทำไว้เยอะ ชาตินี้จึงต้องมารับผลกรรมไม่เคยได้มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนเด็กคนอื่น ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อแม่สักที

ตั้งแต่เด็กจนอายุได้สิบขวบกว่าๆ เธออยู่กับแม่มาสองคนเพราะพวกท่านเลิกกัน พอช่วงอายุสิบสี่จู่ๆ แม่ก็บอกว่าคืนดีกับพ่อจึงพามาอยู่กับพ่อได้เพียงเดือนเดียวแม่ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง ผ่านงานร้อยวันแม่ไปพ่อก็มีเมียใหม่คือจิตรดา

เธอคิดว่าอย่างน้อยนี่คงเป็นครอบครัวใหม่ของเธอ หลังจากเรียนจบเพียงไม่กี่เดือนพ่อก็เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน มันเหมือนฟ้าผ่าลงมาทำให้กำแพงที่กำลังก่อตัวอย่างสวยงามพังทลาย

“ฮรึก! แม่จ๋าพ่อจ๋า ทะ ทำไมไม่อยู่เป็นพ่อกับแม่หนูให้นานกว่านี้ ทำไม ฮรึก! ทำไมต้องทิ้งหนูไว้คนเดียวแบบนี้ด้วย ฮืออออ!” เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาราวสามสี่นาทีก่อนจะลุกขึ้นยืนปาดน้ำตาตัวเองทิ้ง

“ไม่ เธอไม่ควรจะร้องพ่อกับแม่ไม่ชอบน้ำตาของเธอมาร์” เตือนตัวเองแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าใบใหญ่มาเก็บเสื้อผ้าในตู้พับใส่กระเป๋าไว้ เลือกของใช้ที่จำเป็นเพื่อจะได้นำกระเป๋าไปเพียงใบเดียว

จัดแจงทุกอย่างเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนจะมาทิ้งตัวนอนบนที่นอนนุ่มที่คงได้นอนหลับบนนี้เป็นวันสุดท้าย และแล้วไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยศูนย์เปล่าเธอรีบพาตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างง่ายดาย

….

เวลาตีห้ามายาวีเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากห้องนอน ลงไปยังชั้นล่างของบ้านที่ยังคงเงียบสงัดไม่ใครตื่น ดวงตากลมโตมองสำรวจภายในบ้านด้วยหัวใจแป้วๆ

“ถ้ามีโอกาสฉันจะกลับมาเยี่ยมแกอีกนะ” ร่ำลาบ้านหลังเดียวที่มีอยู่ แล้วก็เดินออกจากบ้านไปอย่างไม่อยากมารับฟังเสียงแม่เลี้ยงไล่เพราะหล่อนอาจจะไม่ได้ใช้แค่ปากอาจจะใช้ความรุนแรงกับเธอเหมือนที่เคยทำมา

แม้จะไม่รู้ว่าควรไปไหนแต่คิดว่าพ่อกับแม่ไม่อยู่แล้วเธอก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ มายาวีเดินตามถนนฟุตบาทไปเรื่อยๆ ณ เวลานี้ไม่ได้เงียบวังเวงเพราะเริ่มมีรถวิ่งพลุ่งพล่าน ผู้คนเริ่มทยอยออกไปทำงานแล้ว

ครืดดด~ โทรศัพท์เครื่องเก่าสั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อฮู้ดของมายาวี มือเล็กหยิบมันขึ้นมามองหน้าจอที่แตกจนเละเทะ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนเพียงคนเดียวจึงกดรับสายด้วยรอยยิ้ม

“ฮัลโหลเปรม ว่าไงแก”

(แม่ฉันบอกว่าถ้าไม่มีที่ไปจริงๆ มาอยู่ห้องฉันก่อนก็ได้)

“ได้จริงเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างมีความหวัง รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

(แต่ว่า…)

“แต่ว่าอะไรเหรอ ถ้าจะขอเงินค่าที่พักฉันไม่มีให้หรอกแกฉันมีเงินติดตัวมาแค่ร้อยเดียวเองแต่ถ้าหางานทำได้ค่อยจ่ายคืน”

(ไม่ใช่เรื่องนั้น แกลองมาที่ห้องฉันดูก่อนก็แล้วกัน)

“โอเค กำลังไปนะ”

(โอเค ฉันอยู่หน้าห้องแหละ)

“เอ๋? นี่ตีห้ายี่สิบกว่าๆ แกทำอะไรอยู่หน้าห้องเหรอตื่นเช้าจัง” มายาวีเดินตรงไปหยุดที่กลุ่มคุณลุงคนขับวินมอเตอร์ไซค์ที่มักจะเริ่มงานช่วงตีห้ารอรับส่งคนงานแถวนี้

(มาดูสิ เดี๋ยวก็รู้)

“อ่อ เคๆ” วางสายแล้วก็บอกเส้นทางกับคุณลุงจากนั้นก็ซ้อนท้ายรถมุ่งหน้าไปยังห้องเช่าของเปมิศาเพื่อนคนเดียวของเธอที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

“เท่าไหร่จ๊ะ”

“สามสิบครับ” มายาวียื่นเงินให้คุณลุงพร้อมรอรับเงินทอนแล้ววิ่งไปหาเปมิศาและยังไม่ทันอ้าปากถามอะไรก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากด้านในห้องพักของเพื่อนรัก

“กูบอกให้หาเงินมากูจะแดกเหล้า! อีเปรมมันไปไหนนอนตื่นสายโด่งไม่ทำงานทำการหาเงิน มึงก็อีกตัวทำงานได้เท่าไหร่ก็จะเอาไปให้แต่มันเรียน เรียนไปทำเหี้ยไรโง่แบบนั้น!”

“นี่ใช่ไหมที่ให้ฉันมาดู” มายาวีเดินไปนั่งลงบนพื้นปูนหน้าห้องพร้อมถามเปมิศาที่ก็พยักหน้ารับด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“อยากให้มาอยู่ด้วย แต่ดูสภาพแล้วแกน่าจะอยู่ไม่ได้เพราะลำพังฉันยังต้องรีบนอนเพื่อตื่นเช้าเลย” พ่อเลี้ยงที่มักจะไปดื่มเหล้าเข้าบ่อนช่วงหัวค่ำและกลับมาช่วงตีสี่ตีห้าทุกวันทำให้เธอกลายเป็นคนนอนเร็วตื่นเช้าไปโดยปริยาย

“ฉัน…เข้าใจ”

“เฮ้อ! แล้วแกจะไปอยู่ไหนเหรอ?”

“ไม่รู้ ว่าสายๆ จะไปหางานทำดูน่ะ”

“ฉันอยากไปหางานทำบ้าง แต่ว่าต้องช่วยแม่ขายของ”

“ก็ดีแล้วนี่แม่ยังมีของขาย ช่วยๆ แม่ไปเถอะ”

“ทำไมชีวิตเราไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ บ้างนะ เมื่อไหร่ฉันจะได้หลุดออกจากที่นี่เหมือนแกบ้างนะ”

“ไม่ดีเลยเปรม ออกมาจากครอบครัวไม่ดีเลยนะมีแม่อยู่ก็อยู่กับท่านไปเถอะ” หากไม่มีครอบครัวแล้วจะรู้ว่ามันทรมาน ไม่มีที่พึ่งจากที่ไหนไร้ที่อยู่อาศัยเหมือนเธอในตอนนี้

“ไงก็ขอให้หางานได้นะ เดี๋ยวฉันเข้าไปช่วยแม่เตรียมของก่อนอีกเดี๋ยวก็น่าจะออกไปขายของแล้ว” แม่เปมิศาเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงแถวหน้าตลาดขายทุกวัน เรื่องเงินทองก็แค่พอมีพอใช้เธอรู้จักกับแม่เปมิศามาตั้งแต่เด็กๆ เพราะท่านเป็นเพื่อนแม่เธอ

“อืม แกเองก็อย่าเพิ่งท้อนะฉันเชื่อว่าชีวิตเราคงไม่แย่ไปตลอดหรอก” กล่าวจบมายาวีก็เดินออกไปตามทางเรื่อยๆ เพื่อมองหางานทำ มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเน็ตที่วันนี้จะมีเน็ตใช้เป็นวันสุดท้ายและเธอจะต้องรีบใช้มันหางา…

พลั่ก! เคร้ง!

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
44 Chapters
1.มายาวี
“มาร์ มาร์ขออยู่ที่นี่อีกปีหนึ่งได้มั้ยจ๊ะแม่”“ได้อีกแค่วันเดียวเท่านั้น! เก็บข้าวของให้เรียบร้อยพรุ่งนี้จะให้คนไปส่ง ฉันใจดีกับแกสุดแล้วนะ”“แล้วเงินของมาร์ล่ะจ๊ะ”“เงินอะไร!?” แม่เลี้ยงตวาดลั่น จนร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนตัวเองสะดุ้งด้วยความตกใจ “ค่าหัวพ่อแกก็ถือเป็นค่าเลี้ยงดูที่ฉันเลี้ยงแกมาเกือบห้าปีนี่ไง”“แล้วมาร์จะเอาเงินไหนไปเช่าห้องล่ะจ๊ะ มาร์ขอเงินติดตัวสักสองพันได้ไหม?”“นั่นมันปัญหาของแกและฉันไม่ให้ ตอนหกโมงเช้าต้องไสหัวออกไปจากที่นี่และอย่ากลับเข้ามาอีก!”“แต่ว่า…”“แกไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกับฉันทั้งนั้น!” พูดจบจิตรดาก็เดินจากไป ทิ้งให้สาวน้อยวัยสิบเก้าปียืนจมอยู่กับน้ำตา เธอปิดประตูห้องแล้วเดินกลับไปนั่งกอดเข่าตัวเองร้องไห้อยู่ข้างเตียงดวงตาที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาหลังจากบิดาที่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวเสียชีวิตได้เริ่มทำงานหนักอีกครั้งเมื่อเสร็จจากงานศพผู้เป็นพ่อแม่เลี้ยงก็ไล่เธอออกจากบ้านด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่มีประโยชน์อะไรกับหล่อนเด็กสาวที่มีอายุเพียงสิบเก้าปีจะเอาชนะอะไรหล่อนได้นอกจากยอมก้มหน้ารับกรรมที่ในชาติที่แล้วคงทำไว้เยอะ ชาตินี
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
2.เปลวเพลิง
ชีวิตจะมีอะไรบัดซบขนาดนี้ไหม? ดวงตากลมโตมองโทรศัพท์เครื่องเดียวแตกกระจายอยู่บนพื้นเมื่อจู่ๆ ก็มีคนวิ่งมาชนเธอแถมยังไม่หยุดขอโทษกันเลยสักนิด“เวรกรรมเธอนี่เยอะจริงๆ นะมาร์” เก็บเศษโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่ต้องเปิดดูว่ามันพังไหมเพราะมันเป็นเศษไปแล้วมายาวีหันไปมองทางด้านหน้าก็เห็นว่ามีกลุ่มคนยืนอยู่เกือบสิบคน มีผู้ชายหนึ่งในนั้นที่หน้าจะเป็นหัวหน้าใหญ่ส่วนคนอื่นคงเป็นลูกน้อง รอบตัวพวกเขาไม่มีคนอื่นๆ และเหมือนเมื่อสักครู่ผู้ชายที่วิ่งมาชนเธอนั้นจะหลีกหนีพวกเขามา“ไปจับตัวมันมาให้ได้ ไม่งั้นคนที่ตายจะเป็นพวกมึง!” เสียงทรงอำนาจดังขึ้นเป็นการสั่งลูกน้องของตน จากนั้นคนนับสิบก็วิ่งแยกย้ายกันไปตามผู้ชายคนนั้นโดยมีร่างเล็กยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มพวกเขา“คงไม่โดนลูกหลงตายตรงนี้หรอกนะ” เสียงหวานบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินตรงไปยังด้านหน้าเพื่อผ่านทาง พวกเขาไม่มีใครสนใจเธอเลยสักนิด“เธออ่ะ!”“คะ?” ฝีเท้าบางหยุดชะงัก มายาวีหันไปมองต้นเสียงที่เป็นผู้ชายคนที่ยืนข้างคนหล่อหน้าเข้มเรียกไว้“เดินเร็วๆ หน่อย เดี๋ยวก็โดนลูกหลงตายหรอก” เพียงแค่นั้นแหละเธอรีบจ้ำอ้าวแทบจะวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นดวยความเร็วทันทีออกมาจ
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
3.เพื่อนร่วมโลก
“คะ คุณเพลิงมีอะไรหรือเปล่าครับ?”“คิดว่าไงล่ะ?”“อะ เอ่อ ผมไม่กวนแล้วครับ” พูดจบก็พากันวิ่งออกไปด้วยความกลัว เปลวเพลิงเคลื่อนสายตาจากอันธพาลพวกนั้นหันกลับมามองหญิงสาวข้างกายที่เอียงคอมองเขาตาใสแป๋ว ใบหน้าเรียวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกับคราบดินตามเสื้อผ้า“หนูเคยเจอคุณไหมคะ?”“คิดว่าไงล่ะ?”“หนูต้องวิ่งใช่ไหม” ถามพร้อมก้าวขาถอยหลังเตรียมวิ่ง เมื่อสักครู่เขาถามประโยคนี้กับผู้ชายกลุ่มนั้นแล้วพวกนั้นก็วิ่งออกไป ดังนั้นเขาพูดมันกับเธอ เธอเองก็ควรวิ่งไปใช่ไหม?แต่ว่าเธอไม่มีแรงแล้วเดินมาทั้งวัน“วิ่งสิ” เขากล่าวเสียงเรียบเย็นทั้งที่เธอควรจะกลัวแต่กลับจ้องหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ รอยยิ้มที่ไม่เคยมีใครยิ้มให้เขา…“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ ไม่งั้นแย่แน่เลย”“เห็นแก่เพื่อนร่วมโลก”“คุณเป็นมาเฟียเหรอคะ ทำไมคนพวกนั้นต้องกลัวคุณด้วย”“ไม่ใช่” ตอบเสียงราบเรียบ มือหนาทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาจับจ้องหญิงสาวตัวเล็กที่เขาคิดว่าอายุเธอไม่น่าจะเกินยี่สิบหรืออาจะไม่ถึงด้วยซ้ำการแต่งกายด้วยเสื้อยืดตัวใหญ่ซึ่งเขาไม่มั่นใจว่าสีของมันก่อนหน้านี้เป็นสีขาวหรือครีมเพราะตอนนี้มันเป็นสีน้ำตาลจากเศษดิน กางเกงวอร์ม
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
4.เงินหนึ่งพันบาท
“แล้ว…”“ไม่กิน?” ช้อนสายตาขึ้นไปมองเธอที่ยืนกลืนน้ำลายคงคออยู่ มือเล็กที่จับถุงนั้นสั่นระริกเหมือนว่าเธอกำลังหิวคงไม่ใช่ว่าไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ หรอกนะ เปลวเพลิงครุ่นคิดในใจเขาไม่ได้ตั้งใจซื้อมาให้เธอเพราะไม่คิดว่าเธอจะยังอยู่ที่นี่ เขาซื้อมากินเองและบังเอิญรถยางแตกจึงกะจะเดินมานั่งกินรอลูกน้องตรงนี้ทว่าเห็นสภาพของเธอแล้วจะให้เขากินโดยให้เธอยืนมองตาปริบๆ ก็คงจะดูโหดร้ายจนเกินไป“กินค่ะ” ร่างเล็กพูดแล้วก็นั่งยองลงหยิบแฮมเบอร์เกอร์ออกมาแล้วกินด้วยความหิว มืออีกข้างหยิบน่องไก่มากัดแทะสลับกับแฮมเบอร์เกอร์อย่างไม่สนใจว่าคนให้จะใส่ยาอะไรลงไปไหมเพราะตอนนี้เธอหิว หิวมาก“ถ้าฉันวางยาเธอคงตาย”“คุณวางยาหนูเหรอคะ!?” ปากที่กำลังจะกัดน่องไก่ชะงักทันที เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ดึงบุหรี่ออกจากปากพ่นควันออกมาแล้วถือไว้“ใช่”“…” ยกมือเล็กๆ ที่มีรอยแผลสองสามจุดขึ้นมาเช็ดปากตัวเอง ใจดวงน้อยเต้นเร็วด้วยความหวาดกลัวกับคำตอบที่ได้รับ เธอวางของกินในมือลงบนถุงแล้วยกมือขึ้นมาหวังจะล้วงคอตัวเอง“ฉันไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น”“คุณไม่ได้วางยาหนู?” มายาวีชักมือที่กำลังจะล้วงคอตัวเองกลับมากำม
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
5.อีขอทาน
หลายวันต่อมา…มายาวียังคงกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินวนเวียนอยู่แถวป้ายรถเมล์ที่เปรียบเสมือนที่พักอาศัยของเธออีกแห่ง เข้าวันที่สามแล้วกับการใช้ชีวิตรอความตายอยู่แบบนี้ ด้วยสภาพที่มอมแมมเธอคิดว่าไปหางานทำก็คงไม่มีใครรับบางวันจึงหาเก็บขวดแถวนั้นไปขายพอได้ค่าน้ำค่ามาม่ากินดำรงชีวิตไปวันๆ“ป่านนี้ยัยเปรมเป็นห่วงแล้วมั้งเนี่ย” เสียงหวานมีความแหบพร่านิดๆ เอ่ยกับตัวเอง เนื่องจากโทรศัพท์พังจึงทำให้ไม่ได้ติดต่อกับเปมิศาอีกเลยตั้งแต่วันนั้นและเพราะเธอมาไกลจากที่พักของเปมิศาจะให้เดินไปหาก็คงมีเรี่ยวแรงไม่เพียงพอและตอนนี้ก็มืดแล้ว เธอไม่รู้ว่ากี่โมงหากให้เดาเอาคงจะสามสี่ทุ่มแล้วแหละโครกคราก~ เสียงอันน่าเกียจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด มือเล็กยกขึ้นมาลูบท้องตัวเองเป็นการปลอบใจมันเบาๆ แล้วทิ้งตัวนอนลงบนพื้นที่เธอใช้ผ้าขนหนูผืนเก่าปูเพื่อนอนอยู่ด้านหลังป้ายรถเมล์ครืดๆ~ เปรี้ยงๆ!! ช่วงหน้าฝนแบบนี้มันก็ตกแทบทุกวัน หากเป็นคนอื่นคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนนุ่มๆ แต่กับมายาวีมันเป็นสิ่งที่ให้ความทรมานมากที่สุด นอกจากความหนาวเย็นก็ยุงที่มาชุมนุมบนตัวเธอนี่แหละ“หิวก็หิว ยุงก็ยังจะเยอะอีกนะ” บ่นพลางหยัดกายลุกขึ
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
6.หญิงงามเมือง
“ฮ่าๆ คุณเพลิงนี่ตลกจังเลยนะครับ คุณเพลิงจะมาให้เงินอีขอทานนั่นได้ยังไง”“จริงด้วย คนระดับคุณเพลิงคงไม่มาสนใจอีขอทานคนนี้หรอก” เหล่าผู้ชายพวกนั้นต่างหัวเราะกลบเกลื่อนความกลัวของตัวเองแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปสบตาแข็งกร้าวของเพลิงไฟก็ถึงกับต้องถอยหลังหนี“รบกวนคืนเงินให้เธอด้วยนะ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน” รัญช์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นความเงีบของผู้เป็นนายซึ่งเป็นชนวญที่อันตรายอย่างหนึ่ง และเหมือนเด็กผู้ชายกลุ่มนั้นจะรู้สึกได้จึงยอมยื่นเงินให้รัญช์“ให้กูเห็นหน้าพวกมึงเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ากูเห็นมึงรังแกใคร ไม่ใช่แค่มันแต่เป็นคนอื่นกูก็ไม่ปล่อยไว้แน่” เปลวเพลิงพูดจบผู้ชายกลุ่มนั้นก็พากันวิ่งออกไปด้วยความเร็ว เขาแค่นหัวเราะในลำคอก่อนจะหันไปมองมายาวีที่ตอนนี้ถอยหลังกรูดเว้นระยะห่างจากเขาแล้ว“เงินแค่นี้ยังไม่มีปัญญารักษาไว้ ฉันว่าชีวิตเธอตัวเธอก็คงไม่มีปัญญารักษามันไว้หรอก” เปลวเพลิงดึงเงินจากรัญช์มาโยนใส่หน้ามายาวีที่ได้แต่ยืนก้มหน้าเม้มปากตัวเองแน่น “รัญช์เก็บเงินมา” แต่จู่ๆ เขากลับสั่งรัญช์ให้เก็บเงินที่โยนไปเมื่อสักครู่“แต่ว่าเงินนั่…”“เก็บมา คนโง่ๆ อย่างมันไม่สมควรได้ใช้เงินหรอก!” ให้ไปแล้วยังไม่มีป
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
7.งานบริการ
Pizza Pub…ภายในห้องวีไอพีชั้นบนของผับที่ครึกครื้นไม่ต่างจากด้านล่างที่มีเสียงเพลงดังกระหึ่มมาพร้อมกับแสงสีความสนุกที่เหล่านักท่องราตรีชื่นชอบ บนโซฟาหนังสีดำตัวยาวมีร่างสูงของเปลวเพลิงนั่งสูบบุหรี่มองเพื่อนๆ คุยกันถึงเรื่องสาวๆ ที่นัดมาในวันนี้และอีกไม่กี่นาทีก็คงจะเข้ามา“มึงจะนั่งเก๊กหล่ออีกนานไหม?” ปรัชญาหันไปมองน้องชายที่นั่งพิงพนักโซฟาสูบบุหรี่สายตาก็มองมายังพวกเขาไม่พูดไม่จากับเพื่อนฝูงเลยสักประโยค“มีปัญหา?”“เออ เด็กมึงมาก็ลากออกไปให้ไกลลูกหูลูกตากูเลยนะ”“พวกมึงนี่ก็เจอหน้ากันไม่ได้นะ” เพื่อนพี่ชายอย่างพฤกษ์กล่าวขึ้นเมื่อเห็นสองพี่น้องตั้งท่าจะเปิดศึกกันอีท่าเดียว เปลวเพลิงยักไหล่ให้ตามด้วยพ่นควันบุหรี่ออกมาก๊อกก๊อก! เขาที่กำลังจะอ้าปากว่าพี่ชายหุบปากลงเมื่อประตูห้องถูกเคาะและเปิดเข้ามาโดยฝีมือรัญช์ที่โค้งหัวให้ทุกคนก่อนจะเดินมากระซิบอะไรสักประโยคให้ผู้เป็นนายอย่างเปลวเพลิง“มีอะไร” เวทน์ถามหลังจากเห็นมุมปากเปลวเพลิงกระตุกยิ้มอย่างกับว่ากำลังมีเรื่องสนุกให้ทำ“ไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?” เปลวเพลิงส่ายหัวให้เวทน์ก่อนจะหันไปถามรัญช์“ถึงแม้จะเจอแค่ครั้งเดียวแต่ผมจำได้ว่าเป็นเธอครับ”“
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
8.อยากดูดน้ำเธอ
มายาวีนอนนิ่งไม่ขยับไหวติงไปไหน เธอจ้องหน้าเปลวเพลิงด้วยหัวคิ้วที่ขมวดเป็นปม สมองกำลังกลั่นกรองเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้แต่เพราะสมองมีเพียงน้อยนิดเธอจึงกลั่นกรองอะไรได้ไม่มากรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้คงถูกหลอกจริงๆ“แล้วที่นี่คือที่ไหนคะ” ถามคนตัวโตที่คร่อมร่างเธออยู่“ผับ”“ผับ? อ่อ เหมือนที่เคยเห็นในละครน่ะเหรอคะ”“อืม” โน้มใบหน้าลงไปคลอเคลียซอกคอขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมที่เธอฉีดนั้นทำเอาเลือดในกายของเปลวเพลิงสูบฉีดหนัก เขาขบเม้มลำคอระหงเบาๆ จนร่างเล็กสะดุ้งด้วยความตกใจ“คะ คุณเพลิงทำอะไรคะ”“เธอโตมาในสังคมแบบไหนกันนะ” ผล่ะใบหน้าออกมาจ้องเธอ เขาคิดว่ายุคนี้สมัยนี้เรื่องแบบนี้เด็กๆ หลายคนก็รู้และเริ่มเข้าใจโดยเฉพาะเด็กสาววัยประมาณเธอ “อายุเท่าไหร่?”“สิบเก้าค่ะ”“เคยมีแฟนไหม?”“ถามเหมือนพี่ชาช่าเลย หนูไม่เคยมีแฟนค่ะขนาดเพื่อนยังมีแค่คนเดียวเองแต่ว่าโทรศัพท์พังไปแล้วไม่ได้ติดต่อกันมาหลายวันแล้วป่านนี้คงเป็นห่วงหนู อ้ะ!” มายาวีขยับมือมาจับต้นแขนเปลวเพลิงแน่นเมื่อเขาก้มลงมาดูดคอเธอแรงๆ จนมันเจ็บและเกิดเป็นรอยแดงจ้ำ“ฉันเกลียดผู้หญิงแบบเธอที่สุด”“…”“จะถอดเสื้อผ้าเองหรือให้ฉันถอดให้?”
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
9.เด็กดีของคุณเพลิง
“อุ๊ยยย! คะ คุณเพลิง มันโอ๊วววว!” มือเล็กกำจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อเขารัวลิ้นใส่รูรักของเธอที่แม้จะไม่ได้สอดแทรกเข้าไปแต่ว่าความเสียวซ่านกับมีมากจนเอวบางเริ่มบิดเร่าไปมา“แม่ง! น้ำอย่างเยอะ” แผ่ลบๆ จ๊วบๆ เปลวเพลิงเว้นจังหวะเลียเพื่อพูดก่อนจะดูดดื่มน้ำหวานขบเม้มติ่งเนื้อสูดมันเข้าปากอย่างกับเป็นหอยนางรมรสหวาน เขาดูดกินมันจนหมดจึงผล่ะหน้าออกมาคลอเคลียหน้าท้องแบนราบของเธอต่อ“แฮ่กๆ”“ร่างกายเธอชอบที่ฉันทำแบบนี้ เธอล่ะชอบไหม?” “ไม่”“โกหก! เธอชอบ..ชอบที่ฉันเลียให้แบบนี้”“หนูไม่ชอบ พะ พอได้รึยังคะ” พยายามใช้มือดันใบหน้าหล่อคมที่คลอเคลียอยู่บนหน้าท้องตัวเองให้ออก ทว่าเขากลับขยับมาคร่อมตัวเธอไว้พร้อมกดแทรกกายลงมาจนเธอรู้สึกถึงความใหญ่โตและแข็งขืนของเขาที่บดเบียดความสาวของเธออยู่“จะพอได้ไงในเมื่อฉันยังไม่ได้เสียบเธอเลย”“อือ หนูหนักนะคะ”“ฉันถามอีกครั้ง ฉันทำได้ไหม?” เป็นคำถามที่แฝงไปด้วยคำสั่งว่าเธอควรตอบว่าได้เท่านั้น มายาวีเบือนหน้าหนีสายตาคมเข้มของเขา เปลวเพลิงแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะโยกกายขึ้นลงให้แก่นกายภายใต้กางเกงบ๊อกเซอร์เสียดสีกับความสาวของเธอ“อื๊อ คุณเพลิงคะ หนูเสียว…”“ให้ทำ
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
10.อย่าทิ้งหนู
เช้าวันต่อมา…ร่างเล็กพลิกตัวบนที่นอนนุ่ม มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเมื่อรู้สึกหนาวจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ เปลือกตาบางยังคงปิดสนิทมีรอยยิ้มอ่อนๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าราวกับว่ากำลังมีความสุขกับการได้นอนบนที่นอนนุ่มๆ“อีกสิบนาทีถ้ายังไม่ตื่นฉันจะไปแล้วนะ”“…” สะบัดหัวตัวเองขณะที่เปลือกตายังปิดสนิท เธอคิดว่านั่นคือเสียงจากในความฝันของตัวเอง พรึ่บ! แต่สักพักก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมมือเล็กที่ยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองจ้องมองชายร่างสูงที่ยืนอยู่ปลายเตียง“ลุกไปอาบน้ำ”“หนู คุณเพลิง…”“ไม่ต้องพูด ไปอาบน้ำเสื้อผ้าอยู่ในถุง” เปลวเพลิงชี้นิ้วไปยังถุงเสื้อผ้า ตอนนี้เขาอยู่ในชุดทำงานชุดใหม่ที่รัญช์หอบเอามาให้เมื่อเช้าด้วยสีหน้าความแปลกใจกับการที่เห็นผู้เป็นนายนอนค้างที่นี่“อ้ะ! เจ็บ” ทันทีที่ก้าวขาลงบนพื้นมายาวีก็ต้องกัดฟันกำมือตัวเองแน่นเมื่อความปวดร้าวจากส่วนนั้นแล่นเข้ามา และไม่ใช่แค่ส่วนนั้นแต่มันปวดระบมไปทั้งตัว เธอไม่รู้ว่าร่วมรักกับเขาไปกี่ชั่วโมงรู้เพียงแค่ว่าเธอสลบไปก่อนที่เขาจะเสร็จรอบสุดท้าย“ไม่ช่วยหรอกนะ”“หนูเจ็บ ระบมไปหมดแล้ว” มายาวียืนเต็มเท้าสองข้าง ร่างกายที่เปลือยเปล่าปรากฏต่
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status