ชุดแฝดพี่แสนซนชนแม่ทัพและแฝดน้องสุดซ่าท้าท่านอ๋อง ประกอบด้วยฝาแฝดสองคน 1.แฝดพี่แสนซนชนแม่ทัพ เหตุใดต้องรอให้ชายหนุ่มมาเกี้ยวพา ในเมื่อนางชื่นชอบแม่ทัพผู้นี้มานานปี แฝดพี่อย่างเจียงลี่มี่ขอรุกใช้ความซนเข้าพุ่งชนเพื่อให้เขาได้รู้ถึงความในใจ เจียงลี่มี่ฝาแฝดคนพี่บุตรสาวแสนซนของราชครูเจียงชื่นชอบแม่ทัพหนุ่มซึ่งเคยพบกันเมื่อหลายปีที่แล้ว นางมิได้ปิดบังแต่กลับแสดงออกอย่างนอกหน้าเพื่อให้เขารับรู้ความในใจ แต่เขากลับเอาแต่ผลักไสอีกทั้งยังรับราชโองการให้สมรสกับหญิงอื่น เช่นนี้แล้วจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร นางจำต้องทิ้งไพ่ตายครั้งสุดท้าย หากสำเร็จย่อมสมหวัง แต่หากล้มเหลวคงต้องยอมรับความเจ็บปวดและกลับมาเลียแผลใจ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสดใสน่ารักลุ้นไปกับนางเอกว่าพระเอกจะรับรักนางเมื่อไหร่ 2.แฝดน้องสุดซ่าท้าท่านอ๋อง นางมิได้อยากขัดขวางการเลือกชายาของเขาเสียหน่อย เหตุใดจึงต้องพบเจอแต่อ๋องบ้ากามผู้นี้อยู่ได้ ผู้ใดจะอยากท้าทายอ๋องไร้สาระเช่นนั้น เหตุใดต้องมาลากนางไปยุ่งเกี่ยวด้วย เรื่องนี้จะเป็นแนวที่คู่พระนางกระทบกระทั่งกันตั้งแต่แรกพบ การปะทะฝีปากของน้องน้อยสุดซ่าผู้หาญกล้าท้าทายท่านอ๋องจะลงเอยในรูปแบบใดติดตามได้ค่ะ
Voir plusแนะนำตัวละคร
เจียงลี่มี่ หรือ มีมี่ บุตรสาวแฝดพี่วัยเพียง15 ขวบปีของราชครูเจียงชงซ่าน
เจียงลี่อิน หรือ อิ๋งอิ๋ง บุตรสาวแฝดน้องของราชครูเจียงชงซ่าน
ราชครูเจียงชงซ่าน เป็นราชครูของฮ่องเต้มาถึงสามรัชสมัย ได้บุตรสาวฝาแฝดเมื่ออายุมากแล้วจึงรักใคร่หวงแหนดุจไข่ในหิน
เปาซื่อ มารดาผู้รักใคร่ตามใจบุตรสาวยิ่งชีพ
แม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่าง แม่ทัพพิทักษ์ชายแดน ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยวัยเพียง25ขวบปี
ตงหยางห่าว ทูตต่างแคว้นซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของฮ่องเต้ด้วยเป็นบุตรชายขององค์หญิง
กู่ซิ่วซิ่น บุตรสาวเสนาบดีกลาโหม
ซุนจิวฝู รองแม่ทัพคนสนิทของเซี่ยจิ้นกว่าง
ชิงเถา ชิงฮวา สาวใช้คู่ใจของสองสาวฝาแฝด
เจียงเฉิง น้องชายคนเดียวของฝาแฝดซึ่งมีอายุต่างจากพี่สาวถึง5ปี
จากใจนักเขียน
เรื่องแฝดพี่แสนซนชนแม่ทัพ เป็นเรื่องที่เกิดจากการอยากแต่งเรื่องน่ารักสดใสแนวแอ๊วหนุ่มบ้าง
ด้วยส่วนใหญ่เรื่องที่หญิงใหญ่แต่งจะเป็นแนวพ่อหนุ่มคลั่งรักทำทุกอย่างเพื่อเธอแล้ว หากเปลี่ยนมาให้น้องน้อยของเราตามคลั่งรักพระเอกบ้าง คงจะสนุกสนานไม่น้อย
เรื่องนี้จึงจะเป็นอีกแนวซึ่งเน้นให้นางเอกของเรารุกไล่ตามพระเอกไม่ได้หยุด
ส่วนพ่อพระเอกของเราซึ่งใจแข็งไม่น้อยจะใจอ่อนให้กับน้องหรือไม่ และเรื่องจะลงเอยกันในรูปแบบใดติดตามได้ในหน้าต่อไปเลยค่ะ
หวังว่านักอ่านจะชื่นชอบกันนะคะ
วันว่างว่างของหญิงใหญ่
บทนำ
“ท่านแม่ ข้าสวมชุดนี้แล้วงามหรือไม่เจ้าคะ” เสียงออดอ้อนของบุตรสาวดังมาพร้อมร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งสวมชุดผ้าไหมสีฟ้างดงามน่ารักจับตา
“งามมาก มี่เอ๋อร์” เปาซื่อผู้เป็นมารดาเอ่ยปากชมด้วยสายตาภาคภูมิใจในความงามของบุตรสาว
“แล้วข้าเล่าเจ้าคะ ท่านแม่ ชุดนี้งามหรือไม่” บุตรสาวอีกคนส่งเสียงอ้อนพร้อมร่างซึ่งสวมชุดผ้าไหมสีชมพูอ่อนหวานเดินเร็วเข้ามาหมุนร่างน้อยให้ได้ชม
“ชุดนี้เหมาะกับเจ้ามาก อินเอ๋อร์ บุตรสาวทั้งสองของแม่งดงามที่สุด” ในสายตาของมารดา ย่อมไม่อาจเปรียบผู้อื่นกับบุตรสาวของตนเอง
“นั่นด้วยท่านแม่งดงามที่สุดเช่นกันเจ้าคะ” สองสาวประสานเสียงชมผู้เป็นมารดาพร้อมซบหน้าเข้ากับอกนุ่มราวยังคงเป็นเด็กน้อย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พูดได้ดี วันนี้แม่จะซื้อขนมให้เป็นรางวัล” มารดากอดบุตรสาวทั้งสองไว้ในอ้อมแขนซ้ายขวาอย่างรักใคร่
“ขอบคุณท่านแม่เจ้าคะ” สองพี่น้องยิ้มแย้มให้กันอย่างสดใส
“เฮ้อ! ช่างน่าเบื่อนัก”
เสียงบ่นพึมพำออกมาจากร่างของเด็กชายวัยสิบขวบปีที่ยืนรออยู่ที่มุมห้อง เรียกอาการค้อนขวับจากสองสาว แต่พวกนางหาใส่ใจเด็กน้อยผู้นี้ไม่ ยังคงพูดคุยเย้าหยอกกับมารดาอย่างชื่นมื่น
เปาซื่อผู้มารดาถูกบุตรสาวผู้น่ารักฉอเลาะเอาใจจึงมัวกอดซ้ายโอบขวาพยักหน้าเออออโดยลืมบุตรชายคนเดียวซึ่งยังคงยืนรอคอยอยู่อย่างอดทน
สาวใช้เก่าแก่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเห็นใจคุณชายน้อยทายาทชายเพียงคนเดียวซึ่งกลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เช่นเดียวกับสกุลอื่น
อาจด้วยภายในจวนสกุลเจียงแห่งนี้ ฮูหยินเอกเปาซื่อตั้งครรภ์แรกเมื่ออายุมากแล้ว หลังจากรอคอยจนไร้ความหวังมานานหลายปี บุตรสาวฝาแฝดก็คลอดออกมาเรียกความยินดีปรีดาจนทั้งบิดามารดาทุ่มเทความรักความเอาใจใส่ลงไปแทบทั้งหมด
กว่าพวกเขาจะมีทายาทชายสมดั่งใจก็ผ่านไปอีกถึงห้าปี นั่นจึงทำให้ราชครูเจียงเข้มงวดกวดขันกันบุตรชายคนเดียวเพื่อหวังให้สืบทอดความรู้ความสามารถอย่างเต็มภาคภูมิ
นั่นจึงทำให้ภายในจวนสกุลเจียงมีแต่เสียงหัวเราะชื่นมื่นของสองสาวฝาแฝด ภายใต้สีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดไม่จาของเด็กชายตัวน้อย
แต่ความจริงแล้ว ย่อมมีเรื่องราวที่ลึกลงไปกว่านั้น
ตอนที่สิบ กุนซือน้อยหรือ“ข้าเพียงอยากถามว่าพี่จิ้นไม่พอใจเรื่องใดหรือจึงต้องเดินหนีหน้า ด้วยมัวมองหาแต่ร่างพี่จึงไม่ทันได้มองทางเผลอสะดุดกิ่งไม้เข้าจนได้ เจ้ากิ่งไม้บ้านี่ เหตุใดไม่หลบข้าเล่า” เจียงลี่มี่หันไปฟาดมือตีกิ่งไม้บนพื้นจนมือแดงเถือก“เจ้าจะตีให้มือตนเองเจ็บไปอีกส่วนหรือ” เซี่ยจิ้นกว่างรีบคว้ามือบางเอาไว้พลางกอบกุมแนบแน่น“พี่จิ้น อย่าโกรธข้าเลยนะ หากข้าทำสิ่งใดผิด ข้าขอโทษ” เจียงลี่มี่ได้โอกาสรีบออดอ้อนออเซาะส่งสายตาเว้าวอน“ข้าเพียงอยากอยู่ใกล้พี่ อยากดูแลพี่ เพื่อตอบแทนที่เมื่อก่อนพี่คอยดูแลข้าอยู่เสมอ”“เพียงเท่านั้นแน่หรือ” เซี่ยจิ้นกว่างคาดคั้น“เอ่อ...ข้า...” เจียงลี่มี่อึกอักด้วยหากจะให้นางเป็นฝ่ายสารภาพรักในยามนี้ก็เกรงจะกระอักกระอ่วนจนเกินไป“เอาเถอะ หากอยากตอบแทนก็ทำตัวให้ว่าง่าย อย่าดื้อซนจนเป็นเรื่อง การรบไม่ใช่เรื่องเล่นๆของเด็กน้อย ทุกโมงยามคือชีวิตและเลือดเนื้อยามเดินทัพพี่ขอให้เจ้า
ตอนที่เก้า จะทำอย่างไรกับเจ้าดี“มีมี่น้อย เจ้าเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง เพียงติดตามทัพใหญ่มาได้หลายวันเพียงนี้ก็อันตรายมากแล้ว เจ้าไม่ควรฝืนตนเองให้ลำบากลำบน หากเจ้าเป็นอันใดขึ้นมา ข้าจะมีหน้าไปพบท่านราชครูได้อย่างไร”“หากไม่อยากให้ข้าเป็นอันใด ก็ให้ข้าไปพร้อมพี่จิ้นสิ” เจียงลี่มี่เอ่ยคำราวเอาแต่ใจ“พวกเรากำลังเคลื่อนทัพไปออกรบ ไม่ได้ไปเที่ยวเล่น เจ้าไม่เข้าใจหรือ เจียงลี่มี่” เซี่ยจิ้นกว่างใช้คำพูดจริงจัง“ข้าเข้าใจ จึงอยากช่วย พี่จิ้นจากไปหลายปีคงไม่รู้ว่าข้ามีความสามารถใดบ้าง พี่จิ้นไม่แปลกใจหรือที่ข้าสามารถติดตามท่านมาได้จนถึงที่นี่”ความจริงเขาย่อมแปลกใจแต่ไม่ใช่เวลามาซักถาม“ข้ายังมีความสามารถอีกมากที่พี่จิ้นไม่รู้ รับรองว่าช่วยเหลือกองทัพของพี่ได้แน่ หากไม่เชื่อก็ลองให้ข้าติดตามไปก่อน หากเห็นว่าไร้สาระก็ขับไล่ข้าได้ทุกเมื่อ ดีหรือไม่” เจียงลี่มี่ยื่นไม้ตาย“ทัพเรามีแต่ชายหนุ่ม หาใช่สถานที่ซึ่งหญิงสาวจะมาพักอาศัยร่วมกัน&rdq
ตอนที่แปด ติดตามทัพใหญ่ของแม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่างเดินทางออกจากเมืองหลวงมาหนึ่งวันแล้ว พวกเขาแวะพักเติมน้ำเติมเสบียงระหว่างทางเพียงครั้งเดียวและเดินทางต่อเนื่องมาไม่ได้หยุดจนถึงเมืองใหญ่อีกเมือง เซี่ยจิ้นกว่างจึงออกคำสั่งให้พักผ่อนเพื่อเติมเสบียงอีกครา“ท่านแม่ทัพ มีสิ่งแปลกปลอมในรถม้าเสบียงคันที่สามขอรับ” รองแม่ทัพซุนจิวฝูเดินมาแจ้งกับแม่ทัพหนุ่มด้วยต้องการให้เขาเห็นด้วยตาและตัดสินใจเองเมื่อแม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่างเดินมาเปิดผ้าคลุมออกดูและแลเห็นร่างบอบบางนอนหลับคุดคู้อยู่ท่ามกลางกองข้าวเปลือก เขาถึงกับโมโหไม่ออก ทั้งอยากจะขำในท่าทางคล้ายเด็กน้อยของเจียงลี่มี่รอจนร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นและเห็นสีหน้าถมึงทึงของแม่ทัพหนุ่ม หญิงสาวรีบตะเกียกตะกายลงมาแล้วส่งเสียงออดอ้อนออเซาะอย่างที่ชอบทำ“พี่จิ้น พวกเราถึงที่ใดกันแล้วเจ้าคะ คงออกมานานพอดู ท้องข้าจึงร้องดังเพียงนี้” เจียงลี่มี่อ้างความหิวเพื่อให้แม่ทัพหนุ่มลืมคำต่อว่าต่อขาน“มีมี่ เจ้าทำเกินไปแล้ว ครั้งนี้พี่คงไม่อาจตามใจเจ
ตอนที่ห้า ดื้อดึง“หญิงสาวนางอื่น ท่านก็เพียงทำหน้าตาขึงขังเอ่ยปากขับไล่โดยไม่แยแส แล้วกับนางเหตุใดจึงไม่ทำเช่นนั้นเล่า” ซุนจิวฝูสงสัยใช่ว่าที่ผ่านมาจะไม่เคยมีหญิงสาวมาเกาะแกะแม่ทัพสุดหล่อผู้นี้ แต่เขามักอาศัยผู้อื่นขับไล่ จนจวนตัวจึงจะขับไล่ด้วยตนเองอย่างแล้งน้ำใจ“นั่นด้วยนางไม่เหมือนหญิงอื่น นางไม่เกรงกลัวข้า แล้วยังไม่ใส่ใจคำปฏิเสธของข้า พวกเรารู้จักกันมาหลายปี เคยเที่ยวเล่นด้วยกันอยู่บ้าง ข้าจึงไม่อยากให้นางเสียใจ” เซี่ยจิ้นกว่างบอกเล่าออกมา“ท่านชื่นชอบนางหรือไม่เล่า ข้าได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาอยู่หลายคราว ความจริงข้าไม่เคยได้ยินท่านแม่ทัพหัวเราะมานานแล้ว หากนางทำให้ท่านหัวเราะได้ย่อมนับว่าดี”“ข้าคิดกับนางเพียงน้องสาว นางอายุน้อยกว่าข้าถึงสิบปี ความรู้สึกย่อมออกไปทางเอื้อเอ็นดูมากกว่า ตอนเด็กๆนางซุกซนมากแต่ก็ช่วยข้าเอาไว้หลายครา อีกทั้งบิดาของนางก็มีบุญคุณกับข้ามาก”“ท่านคิดว่านางมาดูแลท่านด้วยเหตุใด คงมิใช่คิดว่าท่านเป็นพี่ชายแน่”“สายตาของนางไม่ได้มองข้าเช่นพ
ตอนที่หก ราชโองการแม้เจียงลี่มี่จะยังไม่อยากรีบแต่งงานด้วยยังเล่นซนไม่หนำใจ แต่หากต้องพลาดจากเซี่ยจิ้นกว่าง นางยอมแต่งงานเร็วดีกว่า แฝดคนพี่บุตรสาวราชครูเจียงรุกหนักด้วยการเดินทางมาดูแลแม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่างที่จวนทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพียงไม่กี่วันคำเล่าลือย่อมหนาหูจนราชครูเจียงชงซ่านต้องมาซักไซ้เอาความกับบุตรสาวตัวดีขณะที่รองแม่ทัพคนสนิทคาบข่าวมาบอกกล่าวแก่แม่ทัพของตนเพื่อหาหนทางแก้ไขสองฝ่ายยังไม่ทันได้ออกตัวทำสิ่งใดกลับกลายเป็นว่ามีอีกฝ่ายออกตัวแรงกว่าได้แก่บุตรสาวเสนาบดีกลาโหมกู่ซิ่วซิ่นได้ข่าวมาหลายวันจนแทบคลั่ง ยิ่งรู้ว่าหญิงสาวนางนั้นคือคนเดียวกับที่ไปขวางขบวนม้าศึกในวันที่เซี่ยจิ้นกว่างเดินทางกลับมาเมืองหลวง นางยิ่งโมโหโทโสเชอะ คิดจะเอาตัวเข้าแลก แย่งชิงชายหนุ่มของนางหรือ ไม่มีวันเสียหรอกหญิงสาวร้องห่มร้องไห้ไปขอร้องบิดาซึ่งดำรงตำแหน่ง เสนาบดีกลาโหมเพื่อให้เขาเข้าเฝ้าฮ่องเต้เอ่ยปากขอสมรสพระราชทาน“เราเป็นฝ่ายหญิง เอ่ยปากด้วยตนเอง
ตอนที่เจ็ด ออกรบ“เซี่ยจิ้นกว่างเป็นแม่ทัพ หน้าที่ของเขาคือออกรบ หากมีข้าศึกบุกมาเขาย่อมต้องทำงาน ไม่มีเวลามาแต่งงานแน่”ใช่แล้ว แม่ทัพกำลังออกรบจะแต่งงานได้อย่างไรเจียงลี่มี่ตาลุกวาวแต่ ข้าศึกเล่า จะบุกมาเมื่อใด“ข้าได้ข่าวมาจากชายแดนว่ามีกองทัพเล็กๆเคลื่อนไหวอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป เพียงกระจายข่าวนี้สร้างเรื่องให้ใหญ่โตก็ย่อมกลายเป็นข้าศึกบุกมาประชิดแล้ว” เด็กน้อยช่างกล้าคิดนัก“ดี ดีมาก น้องเฉิง เจ้าน่ารักที่สุด” เจียงลี่มี่กอดน้องชายเพียงคนเดียวแล้วหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหันหน้าซึ่งเปื้อนไปด้วยน้ำลายหนี หญิงสาวรีบวิ่งออกไปเพื่อดำเนินการ“ข้าจะซื้อขนมอร่อยๆมาฝากเจ้าให้มากๆนะน้องเฉิง น้องชายสุดที่รัก” เสียงสดใสดังลอดออกมาจนเด็กน้อยได้แต่ส่ายหัวโคลงเคลงแน่นอนว่าเจียงลี่อิน พี่สาวฝาแฝดคนรองรีบวิ่งตามพี่สาวคนโตออกไปราวตัวติดกัน คงเหลือเพียงเขาให้ได้นั่งปลงตกด้วยไม่อยากเชื่อว่าจะมีพี่สาวผู้ด้อยปัญญาเพียงนี้ด้วยอำนาจเงินตรา ไม่นานข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่วว่ามีกอง
Commentaires