หลายวันต่อมา...
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปไวมาก จนถึงวันเสาร์ที่ฉันต้องไปแคมป์แล้วล่ะ ลืมบอกไปว่า IST Camping เราจัดที่ชายหาด...อะไรน้า แถวๆภาคใต้จังหวัดภูเก็ตนี่ล่ะ แล้วจะว่าไป เช้าวันหยุดแบบนี้มันช่างสดใสจริงๆเลยน้า เพียงแต่... “พี่คะ!! ไปภูเก็ตเท่าไหร่ หนูรีบมากเลยค่าาา =[]=!!!” ใช่! ฉันตื่นสาย! เพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุก แถมพอตื่นมาก็ยังสโลว์ไลฟ์นั่งดื่มด่ำกับซุปข้าวโพดอยู่ ก็ใครมันจะไปรู้มองนาฬิกาแขวนผนังมันตีห้าครึ่ง รู้ตอนโรสเปิดประตูออกมาดังตึง! ‘ขึ้นเครื่อง 8 โมงไม่ใช่ ทำไมยังอยู่นี่?’ แล้วตอนนั้นแหละที่เพิ่งรู้ว่านาฬิกาที่ห้องตายอ่ะ แหะๆ ตัดภาพไประหว่างที่ฉันกำลังเลิ่กลั่กแบบออกแนวโวยวายจะไปภูเก็ตให้ได้ พี่โชเฟอร์แท็กซี่ก็ทำหน้าเอือมๆ โอ้...พี่เค้าต้องตำหนิในใจที่เราเป็นสาวเป็นแส้แต่ตื่นสายแน่นอน ช่างเป็นเรื่องน่าอับอาย “ภูเก็ตพี่ไม่ไปหรอกน้อง ภูเก็ตนะไม่ใช่ระยอง -.-” พี่โชเฟอร์ตอบมาแบบเซ็งๆ แถมยังส่งสายตาตำหนิฉันที่พอได้ฟังก็... “เอ้า แค่ภูเก็ตทำไม.... อุ่ย ลืมไปค่ะจากนี่ไปภูเก็ตมันหลายร้อยโลเห็นจะได้ =_=^ งั้นไปสนามบินค่ะพี่ ไปสนามบินนะ ไม่ไปภูเก็ตและไม่ไประยอง อ้อ! หนูขอแบบล้อฟรี ถ้าถึงใน 10 นาทีจ่ายสองเท่าไปเล้ยยย!” พูดจบฉันก็โดดขึ้นรถ แถมยังปิดประตูไม่ทันสนิทดี พี่แกก็ออกรถเร็วเว่อร์ล้อฟรีตามที่รีเควสแบบไร้ซึ่งความปลอดภัยเลยล่ะทีนี้ “เอ่อ...หนูยังจ่ายสองเท่าแบบเดิมก็ได้ค่ะ แต่ขอลด Speed ลงนิด” “ไม่ได้หรอกน้อง ผลประโยชน์ของลูกค้าต้องมาก่อน เราต้อง Win-Win สองฝ่าย ถ้ากลัวก็ปิดตาไว้อย่ามอง” บรื๊นนนนน.... แล้วพี่แกก็ยิ่งเร่งความเร็วรถปาดทุกคันที่ขวางหน้าจนฉันเอามือปิดตาจริงๆเพราะไม่กล้ามอง แป๊บเดียวรถก็จอดนิ่งสนิท ม่ายยยย...อย่าบอกนะว่าพี่แกแหกโค้ง ความจริงฉันได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว “เอ้าน้อง ไม่ลงไง๊ ถึงแล้ว” ...เอ๊ะ? อะจ๊ากกก! ถึงจริงด้วยบ้าบอ!! คุณพระคุณเจ้า โชเฟอร์ตรงหน้าเราโคตรตีนผีเลย แต่นี่มันใช่เวลาชมพี่เค้ามั้ยเล่า! “ขอบคุณนะคะพี่ นี่คะ” ฉันคว้ากระเป๋าสตางค์หยิบเงินมายัดใส่มือพี่โชเฟอร์แล้ววิ่งผ่านประตูมาอย่างล่องลอยและตัวเบา ซึ่งแน่นอน...ฉันมาไม่ทัน เอาจริงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่ทัน ไฟล์ทบินตอน 8 โมงตรง ฉันยังนั่งซดซุปข้าวโพดอยู่เล้ย ที่ติด Speed มาก็คิดว่าจะมีปาฏิหาริย์เท่านั้น แล้วทำไมต้องไปทำประโยชน์ให้สังคมไกลถึงภาคใต้ด้วยล่ะนั่น -.- ฉันรักคณะ IST มากนะ แต่ทำไมคณะถึงได้กลั่นแกล้งฉัน =O= ว่าแต่ตัวมันเบาๆเกินไปรึเปล่าน่ะ เบาราวกับนุ่น เบาเหมือนขนนกที่ล่องลอยในสายลมราวกับว่า... ....กระเป๋า!!! ว้ากกกก ฉันลืมกระเป๋าสัมภาระเอาไว้บนรถพี่แก แถมเห็นแว้บๆว่าพอได้ตังค์พี่แกก็ดริฟท์ล้อฟรีตามคอนเซ็ปต์ไปอย่างไวซะด้วย เฮ่ออออออ! วันเสาร์ควรเป็นวันนำโชคของฉันสิ นี่มันอะไรกัน =3=^อีกด้านหนึ่ง ย้อนกลับไปหนึ่งวันก่อนหน้านั้น
@ Dark Shadow Castle (JAPAN) ‘ท่านย่าฮะ เจ้าบ้าน้องติณณ์แย่งของเล่นพี่คินอีกแล้วฮะ’ ‘หืม...ผิดแล้วจ้ะ เฮียติณณ์เค้าเป็นพี่ น้องคินเป็นน้องนะลูก’ ‘ไม่! คินจะเป็นพี่ฮะ’ ‘ก็ท่านแม่เพิ่งบอกว่าเป็นน้อง’ ‘เงียบเดี๋ยวนี้นะยัยแม่มด พวกขี้โกง’ ‘เฮียไม่ได้แย่ง’ ‘ก็บอกว่าแย่ง’ ‘เฮียไม่ได้แย่ง’ ‘คนนี้เป็นเฮียต่างหากเล่า!’ พรึ่บ! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ‘ท่านพ่อ! ท่านแม่!’ ‘คิน! อย่าออกมานะลูก คิน! หมอบลง คุณคะ กรี๊ดดด!!’ ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!เฮือกกกก O_O!!!
ภาพสองเหตุการณ์จากต่างสถานที่ที่ตัดสลับไปมาทำให้ร่างสูงของคิระที่นอนทอดตัวอยู่บนโซฟาถึงกับลุกพรวดขึ้นมาอย่างหวาดผวาท่ามกลางสายตาของมาโครที่หันมาจับจ้องปฏิกิริยานั้นอย่างไม่ละสายตา “Nightmare?” “(- -)(_ _)” สีหน้าซีดเซียวของคิระพยักหน้าออกมาเบาๆอย่างไม่ปิดบัง ในหัวยังวนเวียนคิดเรื่องราวเหล่านั้นซ้ำๆราวกับเป็นเรื่องหลอนหนึ่งเดียวที่ไม่เคยลบออกจากความทรงจำ คนพวกนั้น...สั่งฆ่าพ่อแม่ของเขา ...พ่อแม่ของมัน! “ก็บอกว่าควรพักร้อนบ้าง” มาโครพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่แฝงไปด้วยความหวังดี ก็แหงล่ะนะ พวกเขา...เป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนมาโครจะกระตุ้นคิระด้วยคำพูดบางอย่างออกมาอีกครั้ง “คิดซะว่าไปศึกษาคู่ต่อสู้ ยังไงก็ต้องสะสางไม่ใช่? กับไอ้เวรนั่น” พรึ่บ! ได้ฟังแบบนั้นคิระก็ลุกขึ้นแบบไม่พูดไม่จา ก่อนจะเดินออกจากห้องมาเจอจอภาพขนาดใหญ่ในศูนย์บัญชาการ Dark Shadow แก๊งค์มาเฟียที่ถึงวาระต้องเปลี่ยนผู้นำคนปัจจุบัน ซึ่งหากเป็นก่อนหน้านี้ รูปและข้อมูลของ ‘Next Generation’ (คำที่ใช้เรียกผู้มีสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งผู้นำ หรือเหล่า DS Member เรียกว่า ‘ว่าที่ผู้นำ’) อาจเคยมีเขาปรากฏอยู่ในนั้น เพราะมีสิทธิ์ในตำแหน่งอย่างเท่าเทียม หรืออาจจะมากกว่าในเชิงคุณสมบัติด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันมีเพียงข้อมูลของ ‘เตโช’ หรือ ‘ติณณวัชร์ ภัทรเดชา’ ปรากฏอยู่ในจอแค่คนเดียวเท่านั้น เหตุผลที่เป็นแบบนั้น และนึกถึงทีไรก็ชวนให้หัวร้อน คือไม่กี่วันก่อน Next Generation ทั้งสองคนที่มีคะแนนการทดสอบทุกด้านตามมาตรฐาน Dark Shadow คือเขากับมัน ถูกเปิดโหวตความเห็นชอบของ DS Member ว่าใครเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำวาระปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์คะแนนออกมาแบบสูสี คือครึ่งต่อครึ่งนับเป็น 50% เท่ากัน แต่เพราะไอ้เวรนั่น! มีท่านปู่ที่ดำรงตำแหน่ง Dark Shadow’s Leader คนปัจจุบันคอยให้ท้ายแบบไม่สนใจว่ามันจะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้แค่ไหน ด้วยการออกตัวว่าตัวเองเป็น DS Member คนหนึ่งและโหวตให้มัน! ความรักหลานไม่เท่ากันในมุมมองของใครต่อใคร ทำให้ผลการตัดสินออกมาว่าเตโชชนะไป สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนที่ Support และเลี้ยงดูคิระมาตลอดอย่างฝั่งสภากฎมาก ถึงขั้นเห็นดีเห็นงามที่จะให้คิระชิงตำแหน่งว่าที่ผู้นำคนปัจจุบันมาให้ได้ ก่อนการสถาปนาจะเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่กี่เดือนถัดไป แต่ท่านปู่ก็ยังไม่วาย เร่งรัดวันสถาปนาให้ใกล้เข้ามา แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการยกตำแหน่งผู้นำที่อยู่เหนือ DS Member ทุกคนให้มัน ทั้งที่ Backgroud ของไอ้เตโช ก็แทบไม่มีตัวตนในแก๊งค์เลย มันปลีกวิเวก และไม่ได้ใช้ชีวิตใน DS Castle เหมือน Member ทุกคนด้วยซ้ำ มันใช้ชีวิตนอกกรอบ และไร้ซึ่งคุณสมบัติของ Dark Shadow ตั้งแต่พ่อแม่มันตาย! ฟังดูเหมือนจะน่าสงสาร แต่คนแบบพ่อแม่มันก็สมควรจะตายเพื่อชดใช้สิ่งที่ตัวเองทำ! ใช่... เพราะพ่อแม่มันนั่นแหละที่ฆ่าพ่อแม่เขา! น้องชายและน้องสะใภ้ของพ่อคิระ... คนที่มีศักดิ์เป็นอานั่นแหละที่พังครอบครัวเขาแบบไร้ซึ่งความสัมพันธ์พี่น้อง ครอบครัว และศีลธรรม! และเหี้ยที่สุดตรงที่จงใจเหลือเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเขาทิ้งไว้ตามลำพัง! แน่นอนเมื่อไม่ใช่หลานรัก คิระเลยไม่เคยได้รับการเอาใจใส่จากท่านปู่สักนิด จนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าท่านปู่คงดีใจที่พ่อแม่เขาตายด้วยซ้ำ! “จองตั๋วให้ละ” เสียงมาโครที่เดินตามหลังคิระมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทำให้คิระเหลือบตาไปมองนิดหน่อยก่อนจะผุดความคิดที่ค้างคากับเตโชขึ้นมาอย่างนึกสนุกในคำพูดนั้น หึ...ไปศึกษาคู่ต่อสู้งั้นหรอ? ก็ดี...คนที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อ Dark Shadow เลยอย่างมัน ดีแต่เสเพลไปวันๆ กับแก๊งค์เพื่อนปัญญาอ่อนพวกนั้น อยากรู้เหมือนกันว่าจะแน่แค่ไหนพอได้เจอกันนอกรอบแบบนั้น!@ ท่าอากาศยานภูเก็ต
ฉันลงจากเครื่องและเดินโดดเดี่ยวงงๆในดงนักท่องเที่ยวแบบไม่รู้จะไปทางไหนต่อเหมือนกัน ที่รู้ตอนนี้คือโรสที่ติดตามสถานการณ์ตกเครื่องและคลาดกับเพื่อนๆในคณะของฉัน กำลังส่งเสียงบ่นผ่าน Video Call ยาวมากกกกก งื้อออ ดุเก๊าไมอ่ะ >_< แค่บินตามมาเพราะลงชื่อไว้แล้วว่าจะมา เก๊าแค่เป็นคนซื่อตรงและรับผิดชอบการกระทำก็เท่านั้น [กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะลิซ ไม่ทันก็ไม่ทันดิ จะดันทุรังไปทำไมถึงนั่น] “หึ๊ย ไม่เอาๆ ลิซจะมาทำความดีนะเนี่ย โรสอย่าดุยาวสิฟังไม่ทัน” บอกเลยตั้งแต่รู้ตัวว่ามีพี่สาว ฉันก็มีสกิลใจดีสู้เสือ และตีมึนเก่งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยเหมือนกัน [เอาเวลาไปตามหากระเป๋าสัมภาระยังดีกว่ามั้ง แล้วจะไปอยู่ยังไงตัวคนเดียว ไปหาดถูกหรอ รู้หรอว่าเค้าไปที่ไหนกัน] โอ๊ะโอววว.... นั่นสิเค้าไปที่ไหนกัน [ทำหน้างี้แปลว่าไม่รู้] “รู้สิโรส อุ๊ยนั่นไงรถไปหาดเยอะแยะเลย แค่นี้ก่อนนะ ลิซจะเซฟแบตไว้ พรุ่งนี้เจอกัน” ตริ๊ด! ฉันรัวคำพูดออกไปมั่วๆ ไม่มีหรอก รถไปหาดอะไร สภาพรอบข้างตอนนี้นอกจากนักท่องเที่ยวเดินไปเดินมา ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องต่อรถจากที่นี่ไปลงที่ไหน อ๋อ! รู้ละ เข้าไปดูรายละเอียดใน Know more ก็ได้ หืม...แล้วพอกดเข้า Know more เท่านั้นแหละ แทนที่สัญญาณมือถือจะลื่นปรื๊ดๆ ก็ดันหมุนติ้วๆ เป็นไปได้ไง -*- เมื่อกี๊เพิ่งวางสายจากโรสเองนะหรือเพราะฉันก้าวเดินเลยทำให้สัญญาณเหวี่ยง น่าจะใช่ งั้นถอยหลังหน่อยเผื่อสัญญาณจะกลับมาใหม่ กระดึ๊บ... กระดึ๊บ... เอ๊ะทางนี้ไม่ได้ ทางนั้นได้มั้ยนะ อุ๊ยยังไม่มา อ๊ะหรือว่าทางนี้เป็นไง กระดึ๊บ... กระดึ๊บ...ชึ้บ ชึ้บ ดึ๊บ ดึ๊บ โอ๊ะไม่ได้อยู่ดี หรือต้องถอยกลับไปตั้งหลักตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาที่นี่ใหม่ อ๊ะๆๆๆ สัญญาณมาแล้วขีดนึง อุ๊ย หายอีกละ อุ๊ยๆๆๆ มาแล้ว หืม...จะมาก็ต้องเมื่อ...เดินวนครบรอบพอดีหรอ? โอ๊ะโอว…ปิ๊งป่องงง! ถ้าวนหนึ่งรอบได้สัญญาณหนึ่งขีด งั้นเคล็ดลับคือต้องฟูลเทิร์นอีกสามรอบน่ะสิ เย้! ในที่สุดเราก็จะเป็นผู้บุกเบิกเคล็ดลับนี้ งั้นจัดเล้ย! แต่...คนเยอะนะลิซ เยอะมากเลยแหละ จะเอางี้จริง ?_? ....หู้ยยย แต่ช่างเหอะ ไม่ต้องไปอายหรอก แค่สายตานักท่องเที่ยวมองมาเองไม่เห็นต้องซี โอเค! หนักแน่นไว้! งั้นเริ่มเลยนะคะซิสสส... ด้วยอำนาจแห่งจันทราาาา.... อุ๊ย ผิดๆ (อย่าไปเป็นภาระของเซเลอร์มูน เดี๋ยวโดนลิขสิทธิ์) จะหมุนซ้ายหรือหมุนขวาก่อนดี จะซ้ายหรือขวา ขวาหรือซ้าย ลังเลอ่ะทำไงดี “ซ้ายๆๆๆ หลบทางนิดหนึ่งนะครับ ขอพื้นที่ทางซ้าย” โหยยย โชคชะตาส่งมารึป่าวเนี่ย ในช่วงเวลาที่ลูกกำลังลังเล พระเจ้าก็ส่งพนักงานสนามบินมาเคลียร์ทางรถเข็นกระเป๋าของนักท่องเที่ยวข้างๆแบบนี้ งั้นซ้ายนี่แหละ ไว้ใจพระเจ้าแล้วเราจะได้ดี ...ไป!! หวืดดดด พรึ่บ! “ว๊ายยยย!” ตายแล้วๆๆๆ เพราะพื้นมันลื่น จังหวะฟูลเทิร์นฉันเลยพลาดอ่ะ ทำให้เสียหลักเกือบหงายท้องตึง ดีที่ได้แขนแกร่งของใครก็ไม่รู้มารับไว้พอดี แต่ไม่ดีตรงที่มือถือ... แกร๊ก! แกร๊บ! งื้ออออ เห็นคาตา! ชอกช้ำคาตา! มือถือฉันร่วงจากมือลงพื้น แล้วผู้ชายที่มารับไว้ก็เหยียบมันจนแตกละเอียด ท่ามกลางแววตาที่อาลัยอาวรณ์แม้จะเสียวที่ร่างตัวเองลอยล่องขาไม่ติดพื้นแบบนี้ ม่ายยยยย.... มือ ถือ เก๊าาาาา ทำไมพ่อหนุ่มถึงทำกับเราแบบเน้ T[]T! หืม...แต่ใส่แว่นดำซะด้วย หรือพี่แกจะตาบอด นี่พี่แกรับร่างเราไว้ด้วย Sense of blind สินะ โอ้วม่าย...นี่เรากำลังโทษคนตาบอดที่มาปกป้องไม่ให้เราหัวฟาดพื้น หัวจิตหัวใจของเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วหรืออออ “อะแฮ่ม!” “เอ่อ ขะ...ขอโทษค่ะ” พอได้ยินเสียงกระแอมของคนตรงหน้า ฉันก็ดีดตัว 360 องศาขึ้นมา แม้ว่าเท้าจะแตะพื้นแล้ว แต่หัวใจข้างในก็ยังกรีดร้องราวกับคนบ้า ว้ากกก.... โท รา ศาพพท์ ของ ข้าาา... โท รา ศ้าพพพพท์!!! ฉันเอามือปิดหน้า สักพักก็เลื่อนไปยีหัวตัวเอง และหวีดร้องในหัวอย่างทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลยอ่ะ ถ้าไม่มีมือถือแล้วจะไปที่ไหนต่ออ่ะ ยังเข้า Know more ไปดูไม่ได้เลยว่าเค้าไปที่ไหนกันว้า =_=^ นี่ความพยายามทั้งหมดของเราสูญเปล่า ความตั้งใจของคนทำความดีหนึ่งคนต้องมาล่มสลายเพราะ... “บ้าป่ะวะ -.-” เอ๊ะ... ว่าไงนะ =[]=!!!หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X