แชร์

ลิขิตรัก 10 ไม่เชื่อใจ

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-27 21:38:07

ลิขิตรัก 10

ไม่เชื่อใจ

“เจิ้นมิเคยเห็นเจ้าทำหน้าเครียด  มีเรื่องทุกข์ใจอันใดหรือ”   ชายหนุ่มบนบัลลังก์เอ่ยถามสหายที่ยามนี้เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“หามิได้พะย่ะค่ะ”  ร่างหนาผู้ถูกถามตอบกลับคล้ายปฏิเสธกลายๆ

“อืมม หรือเจ้ากำลังคิดถึงหญิงนางนั้น”  สายตาคมปราดมองอย่างหยอกล้อ  หญิงนางนั้นที่ว่าคงหนีไม่พ้นนางที่ลานประลองแคว้นเฟิง

“กระหม่อมมิสนผู้ใจนอกจากเหมยฟาง” และเขาก็ยังคงกล่าวออกมาเช่นเดิม สายตาเย็นชาช่างราบเรียบคล้ายเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่ง จนผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นต้าเช่นเขานึกอยากเห็นว่าจะมีหญิงใดในหล้าทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้นี้เปลี่ยนไปได้หรือไม่  ซึ่งแม้กระทั่งคู่หมายที่เป็นบุตรสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเองก็ยังมิอาจทำได้

“หึ ๆ เจิ้นก็ยังตรัสคำเดิมว่าจะรอดู” 

“หากหวงช่างเชิญมาเพียงเท่านี้ กระหม่อมขอลา”  ชายหนุ่มลุกขึ้นโดยยังไม่ได้รับอนุญาต  หน้าตานิ่งเฉยบ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวอาญาเลยแม้แต่น้อย

“ดะ เดี๋ยวเจิ้นมีเรื่องจะคุยกับเจ้า” ชายผู้อยู่เหนือบัลลังก์เอ่ยออกทันควัน เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่ทำท่าจะลุกออกไป

“พะย่ะค่ะ”  กล่าวพร้อมนั่งลงตามเดิม

“เรื่องที่เจ้าไปปราบชนเผ่านอกด่านเมื่อเดือนก่อน  เจิ้นได้ยินมาว่าตอนนี้พวกมันกำลังรวมตัวกันอีกครั้ง และดูท่าครานี้มันจะแค้นเจ้าน่าดู”  หลงเซียนฮ่องเต้เอ่ยด้วยหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศผิดกับตอนแรกจนขันทีที่นั่งฟังมาตั้งแต่ต้นสัมผัสได้

“กระหม่อมจะไปปราบพวกมันอีกครั้ง”  ชนเผ่านอกด่านเป็นคำใช้เรียกคนนอกรีตที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรกับแคว้นใด พวกมันตั้งตนเป็นอิสระแต่การกระทำต่ำช้ายิ่งนัก  ทั้งโหดเหี้ยม ปล้น ฆ่า และไม่ว่าเด็กหรือผู้หญิง จะต้องโดนพวกมันทารุณก่อนฆ่าเสมอ คงไม่ต้องบอกว่าทารุณแบบไหน

เมื่อหลายเดือนก่อนเขาได้รับมอบหมายให้ไปปราบ ใช้เวลายืดเยื้อเกือบเดือนกว่าจะเด็ดหัวผู้นำมันได้ และด้วยพวกมันชำนาญพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้มีบางส่วนหนีรอดไปได้ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องโกรธแค้นไม่น้อย แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือพวกมันเป็นพวกไม่สนวิธีการ  อย่างไรที่จะทำให้พวกมันชนะ พวกมันย่อมทำได้หมดแม้จะต้องฆ่าคนบริสุทธิ์ไปกี่ร้อยกี่พันก็ตาม และเหมือนว่าครานี้เขาจะเป็นเป้าหมายหลักเพราะทำให้มันโกรธแค้นเนื่องจากไปฆ่าผู้นำมันเสียแล้ว

 “เกรงว่าจะสายเกินไป ตอนนี้เจิ้นคิดว่าพวกมันแฝงเข้ามาเมืองหลวงแล้วกระมัง”  หลงเซียนฮ่องเต้ตอบแม่ทัพคู่ใจพ่วงตำแหน่งสหายสนิทที่หน้าเครียดขึ้นมาทันควัน  หากความคิดนี้เป็นจริง ชีวิตของสหายวัยเยาว์และคนใกล้ชิดคงตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่แท้

“ท่านพ่อกับท่านแม่ของกระหม่อมคงไม่ต้องห่วง  กระหม่อมจะส่งทหารฝีมือดีจำนวนหนึ่งไปคุ้มครองและให้พวกท่านพักอยู่จวนท่านลุงท่านป้าที่นอกเมืองก่อน” ชายหนุ่มครุ่นคิด ตอนนี้พ่อของเขาซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพใหญ่ที่ปลดเกษียณแล้วเนื่องจากอายุล่วงเลย 50 กว่าแต่ยังดูหนุ่มราว 40 ต้นๆกับแม่ของเขาซึ่งเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดาที่พบรักกับพ่อ ตอนท่านเดินทางไปช่วยชาวบ้านจากโจรป่าเมื่อครั้งสมัยหนุ่มๆ 

เมื่อหลายวันก่อนพวกท่านเดินทางไปเยี่ยมท่านป้าที่คลอดบุตรนอกเมือง  คงหมดห่วงได้เพราะท่านพ่อของเขาเก่งทั้งบู๊และบุ๋น

“แล้วคนรักเจ้า…” 

“กระหม่อมจะจัดการเรื่องนี้เอง !”

“แม่นาง ทานอะไรสักหน่อยดีไหมเจ้าคะ”   หลังจากที่ข้านั่งซึมภายในห้อง   สาวใช้ในตอนแรกพยายามคะยั้นคะยอให้ข้าทานอะไรสักหน่อย  แต่ข้ากลับมิตอบอันใด ได้แต่นั่งเหม่อออกไปทางด้านนอกโดยมิรู้บัดนี้มีร่างที่ตนคะนึงหาเดินเข้ามาเงียบๆ

“เจ้าออกไปก่อน”

“เจ้าค่ะ”  

“อดอาหารประท้วงหรือ”  เอ่ยทักเสียงเรียบ ข้าหันไปมองต้นเสียง ทว่ากลับไม่มีทีท่าดีใจอย่างตอนแรกเพราะใจข้ามันปวดหนึบไปหมด 

“ข้าไม่หิว”  เสมองไปทางอื่นอย่างไม่ต้องการมองหน้าหล่อเหลานั่นให้ปวดใจกับคำพูดของเขาก่อนหน้านี้

“งั้นก็แสดงว่ามีแรงตอบคำถาม...”   เขาจ้องลึกมายังนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนของข้าอย่างต้องการค้นหา 

“ข้าพูดไปหมดแล้ว มิมีอันใดต้องพูดอีก”

“ปฏิเสธว่าตนเองมิใช่สายจากต่างแคว้นนะหรือ” เขาเลิกคิ้วถาม  สีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อคำที่ข้าพูด

“ท่านแอบดูข้ามาตั้งแต่ต้น ท่านก็เห็นว่าไม่ได้มีข้าคนเดียวอยู่ที่นั่น  ”

“…”

“หากท่านตรองดูสักนิดจะรู้ว่าเหตุใดข้าจึงเข้าไปป่าแห่งนั้น!”   ข้ามองหน้าเขาอย่างตัดพ้อ  นอกจากจะพูดจาทำร้ายจิตใจยังเอาความคิดตนเป็นที่ตั้ง  ทำอันใดคงผิดไปหมดสินะ  พึ่งจะรู้ว่าผลของการช่วยเหลือผู้อื่นคือการถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี  คิดอย่างเย้ยหยั่นในความไม่ยุติธรรม

“ข้าเพียงเห็นเจ้าสู้กับสัตว์อสูรพวกนั้น…”

“…”

“แต่มิเข้าใจว่าเหตุใดเจ้าจึงมาโผล่ที่ป่าซึ่งติดกับแคว้นต้าแห่งนี้”

“ที่แท้ท่านก็อยู่แคว้นต้า”  ข้าพึมพำไม่สนคำที่เขาเอ่ยออกมา  ไม่แปลกใจทำไมข้าจึงหาเขาไม่พบเสียที 

“เจ้าว่าอันใดนะ”

“ข้าเพียงบอกว่าข้ามิใช่สายจากที่ใดทั้งนั้น ข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา”

“คนไม่ดีที่ไหนจะบอกตัวเองว่าเป็นคนไม่ดี”  เขาหรี่ตาจับผิด  

“ไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ท่าน  จะจับตาดูข้าต่อไปก็เชิญ !” ข้าสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สนใจเขา  หึ บอกความจริงไปไม่เชื่องั้นก็เชิญเชื่อความคิดผิดๆไปเถอะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก

    ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก“อ๊ะ อื้มมมม” ไม่ทันได้ตอบกลับ ริมฝีปากโดนปิดด้วยริมฝีปากหนาของคนที่คร่อมอยู่ทันที มือของเขาอยู่ไม่นิ่ง จับร่างกายไปทุกส่วน ข้าสะดุ้งทันทีที่เขาจงใจกดร่างกายท่อนล่างกับส่วนนั้นของข้าทั้งที่ตัวเองยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้“อื้มมม” เขาครางกระหึ่มอย่างพอใจและยิ่งกระหายในกายข้ามากยิ่งขึ้นเมื่อมือแกร่งจับมือนิ่มของข้าให้เลื่อนลงไปสัมผัสกลางลำตัวที่บัดนี้โป่งพองแข็งสู้มือข้าจนแทบจะระเบิด แต่ดูเหมือนเขาพยายามข่มอารมณ์ไว้คล้ายอยากเล่นสนุกกับร่างกายข้ามากกว่านี้“อ้าปาก” ดุเสียงเข้มเมื่อข้าปิดปากไม่ให้ลิ้นร้อนนั่นเข้ามาได้อีก“อ๊ะ!” เขากัดริมฝีปากข้าเมื่อเห็นว่าข้ายังดื้อไม่ยอมเปิดปากตามเขาสั่ง ก่อนจะครางอย่างพอใจเมื่อลิ้นร้ายกาจเข้ามาไล่ต้อนข้าได้อย่างจนมุมปากหนายังไซร้คอข้าอยู่และมีทีท่าว่ากำลังจะเลื่อนลงมายังหน้าอกหน้าใจที่มันใหญ่จนล้นมือเขา มือทำหน้าที่ไม่อยู่นิ่ง บีบคลึงหน้าอกอย่างมันมือ ส่วน

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 12 หลอกใช้

    ลิขิตรัก 12 หลอกใช้เพล้ง !“เป็นอันใดหรือเจ้าคะท่านพี่เฟยหลง” เสียงหวานเอ่ยถามชายคนรัก เมื่อเห็นร่างสูงปล่อยความกดดัน จนแจกันแตกเป็นเสี่ยงๆ“มิเป็นอันใด ต้องขออภัยเหมยเอ๋อร์ด้วยแล้วที่ทำให้เจ้าตกใจ” ชายหนุ่มหันมองหญิงคนรักที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ สบถในใจที่เผลอใช้พลังจนอาจเกือบทำให้หญิงคนรักบาดเจ็บ“น้องมิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ว่าแต่ผู้ใดหนอที่ทำให้ท่านพี่อารมณ์ไม่ดีเช่นนี้”“เรื่องงานหน่ะ” ร่างสูงไม่ได้โกหก ทุกคืนเขาจะออกไปตรวจในเมืองโดยรอบ จนบางวันปะทะเข้ากับพวกนอกด่านแทบไม่ได้นอน แต่ส่วนหนึ่งคิดไปถึงต้นตอที่ทำให้ตนเป็นเช่นนี้อีกเรื่อง อยากจัดการกับหญิงไร้ยางอายนั่นเด็ดขาด แต่ทำไมใจมันถึงสั่นตลอดเมื่ออยู่กับนางอาคเนย์ที่นางใช้เรียกเขานั้นไม่รู้เป็นชายใด แต่พอนางพูดชื่อนี้ ใจเขามันหงุดหงิดทุกครั้ง แทบอยากกระชากร่างบางให้หยุดเรียกชื่อนั้น แล้วจดจำเพียงชื่อเขา พลันความคิดต้องหยุดชะงักลงยามเขาได้จับไปที่สร้อยท

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย

    ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย “อุ้ย พี่เฟยหลง”“เดินระวังๆสิ เหมยเอ๋อร์” เสียงทุ้มที่เดินตามหลังประคองร่างบอบบางของคนรักไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม สายตาคมดุคนในอ้อมแขนไม่จริงจังนัก“คิกๆ เหมยเอ๋อร์รู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องไม่ปล่อยให้เหมยเอ๋อร์เป็นอันใด” เสียงหวานใสตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม“พี่อยู่กับเจ้าได้มิตลอด เจ้าก็ต้องระวังตัวให้มาก” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความเป็นห่วง พลันครุ่นคิดเรื่องที่ได้ยินมาตลอดเวลา ศัตรูย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเร้นหาจุดอ่อน หากพวกมันรู้ว่าเขามีคนรักต้องหาทางทำร้ายนางเป็นแน่“อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างงั้นสิเจ้าคะ เหมยเอ๋อร์มิเป็นอันใดง่ายๆหรอกนะ” นางบอกคนรักที่ทำหน้ากลัดกลุ้มใจอย่างชัดเจน“พี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”“จริงสิ สร้อยที่น้องให้...”“พี่ใส่ติดตัวไว้ตลอดเลยล่ะ” หยางหลงสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปก่อนจะยกแขนข้างขวาที่สวมสร้อยลูกปัด ซึ่งคนรักร้อยเองกับมือขึ้นมาให้ดู เขาใส่ต

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 10 ไม่เชื่อใจ

    ลิขิตรัก 10ไม่เชื่อใจ“เจิ้นมิเคยเห็นเจ้าทำหน้าเครียด มีเรื่องทุกข์ใจอันใดหรือ” ชายหนุ่มบนบัลลังก์เอ่ยถามสหายที่ยามนี้เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“หามิได้พะย่ะค่ะ” ร่างหนาผู้ถูกถามตอบกลับคล้ายปฏิเสธกลายๆ“อืมม หรือเจ้ากำลังคิดถึงหญิงนางนั้น” สายตาคมปราดมองอย่างหยอกล้อ หญิงนางนั้นที่ว่าคงหนีไม่พ้นนางที่ลานประลองแคว้นเฟิง“กระหม่อมมิสนผู้ใจนอกจากเหมยฟาง” และเขาก็ยังคงกล่าวออกมาเช่นเดิม สายตาเย็นชาช่างราบเรียบคล้ายเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่ง จนผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นต้าเช่นเขานึกอยากเห็นว่าจะมีหญิงใดในหล้าทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้นี้เปลี่ยนไปได้หรือไม่ ซึ่งแม้กระทั่งคู่หมายที่เป็นบุตรสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเองก็ยังมิอาจทำได้“หึ ๆ เจิ้นก็ยังตรัสคำเดิมว่าจะรอดู”“หากหวงช่างเชิญมาเพียงเท่านี้ กระหม่อมขอลา” ชายหนุ่มลุกขึ้นโดยยังไม่ได้รับอนุญาต หน้าตานิ่งเฉยบ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวอาญาเลยแม้แต่น้อย“ดะ เดี๋ยวเจิ้นมีเรื

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 9 พบเจอ

    ลิขิตรัก 9พบเจอหนึ่งชั่วยามผ่านไปจบเสียที…กี่ตัวกันนะ 10 ตัว 50 ตัว หรือมากกว่านั้น ข้าทิ้งตัวลงนอนที่พื้นอย่างคนหมดแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด คิดว่าถ้ากลับไปต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วยามกว่าจะล้างมันออกหมด ตามร่างกายมีรอยกรงเล็บที่ร่างกายสมานบาดแผลไม่ทันเนื่องจากมันมีเยอะเกินไปโฮกกกกกเหลืออีกตัวหรือ ข้าหันไปมองทางต้นเสียง เห็นมันหนึ่งตัวขู่คำราม เห็นเขี้ยวแหลมคมที่สามารถฉีกร่างกายมนุษย์พร้อมกินอย่างไม่เหลือแม้แต่กระดูก มันทำท่าพร้อมกระโจนเข้ามาทุกเมื่อ แต่ข้าหมดแรงแล้วนะ คิดในใจทว่าสมองสั่งให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับหนักอึ้งแขนขาขยับได้อย่างยากลำบากอาจเป็นเพราะนี่มันเลยขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์มามากแล้ว สุดท้ายจึงล้มตัวลงนอนที่เดิม จบแล้วสินะ ชีวิตข้าคงมาได้เพียงเท่านี้ ข้าขอโทษท่านพ่อท่านแม่ที่มิอาจกลับไปหาพวกท่าน ลาก่อนท่านอาค

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 8 เทพเซียน

    ลิขิตรัก 8 เทพเซียนยามจื่อ (23.00 - 24.59 น.)“ฝั่งนั้นมีกี่ตัว” ข้าสวมชุดสีดำทะมัดทะแมง พร้อมผ้าคาดผืนบาง เหลือเฉพาะดวงตา มองไปมาเหมือนนักฆ่าไม่มีผิด“2 ตัวขอรับ” ฮุ่ยเฉินที่แต่งตัวไม่ต่างจากข้าเอ่ยบอก ตอนนี้บาดแผลเขาสมานกันดีแล้ว เหลือเพียงรอยขีดข่วนจากกรงเล็บที่แขนนั่นนิดหน่อย พละกำลังก็เหมือนจะฟื้นตัวแล้วด้วย ข้าคงลืมบอกอีกอย่างสินะ เลือดของข้าหน่ะ นอกจากจะรักษาบาดแผลแล้วยังฟื้นฟูพลังตบะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่อยากให้ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ เพราะข้าเกลียดความวุ่นวาย“จัดการ” ข้าบอกเขาเสียงเรียบก่อนที่ตัวเองจะปรี่ตัวเข้าไปจัดการอีกฝั่งที่มี 5 ตัว ลักษณะของมันแตกต่างจากซือเป่าลิบลับ เหมือนสัตว์อสูรกายมากกว่าเป็นสัตว์อสูร มันมองมาอย่างหิวโหยแต่ก่อนที่มันจะกระโจนใส่ ข้าชิงเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก่อนจะฟันไปที่ลำตัวของมันจนเลือดสีดำคล้ำสาดกระเด็นเปื้อนชุดข้าและนี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกหยิบชุดสีน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status