พิธีแต่งงานได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมด้วยขบวนเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวขนาบอยู่ไม่ไกลมาก รวมไปถึงแขกผู้มีเกียรติมากมายต่างตรบมือต้อนรับยินดีกับคู่บ่าวสาว
ท่ามกลางการแสดงความยินดีของผู้คนมากมาย อวยพรให้แก่กรินทร์และพลอยทิพย์ ต่างเป็นช่วงเวลาสาธารณะและเชื้อเชิญให้ทุกๆ คนร่วมรับประทานอาหาร และสนุกกับแสงสีเสียง เพลงบรรเลงบรรยากาศอบอุ่น
กรินทร์มอบแหวนอันเลอค่า สวมใส่ในนิ้วนางของพลอยทิพย์ พลางหอมแก้มเธอประโลมหวานด้วยคำบอกรัก ต่อหน้าสาธารณะชนมากมาย เสียงยินดีโห่ร้องกึกก้องจากเพื่อนเจ้าสาว ส่งเสียงร่วมแสดงความยินดีกับพลอยทิพย์มากมายแค่ไหน
แต่ภายในจิตใจของหญิงสาวกลับรู้สึกข่มขืน เมื่อแววตาของเธอมองสบกับกรินทร์แล้ว เพียงแวบหนึ่งเมื่อเขาละสายตาเธอ ดวงตากลมใสเป็นประกายเหลือบมองข้ามเจ้าบ่าวของตัวเอง สบตากับศุภวัฒน์พอดี
เพื่อนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรินทร์ ต้องรีบหันกายเลี่ยงหนี เกรงว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่า เจ้าสาวแสนสวยแอบปันใจให้เขา แม้ว่าศุภวัฒน์จูบเธอก่อนกรินทร์จะสวมแหวนแต่งงานให้พลอยทิพย์ไปก่อนล่วงหน้านี้... เขาเก็บงำความรู้สึกเอาไว้
ฝืนยิ้มปรบมือร่วมยินดี ราวกับอุปทาหมู่ กับธีมเพื่อนเจ้าบ่าวและธีมเพื่อนเจ้าสาว พวกเขาไปยืนอยู่อีกกลุ่ม และตกอยู่สายตาของผู้คนมากมาย และช่างภาพถ่ายรูปรัวๆ และบันทึกภาพเหตุการณ์ในงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่วันนี้
มันช่างเป็นวันสำคัญที่สุดของกรินทร์และพลอยทิพย์... งานเลี้ยงดำเนินมาอย่างสนุกสนานทั้งวัน เพื่อให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาว ใช้เวลาอันสำคัญนี้ ถ่ายรูปหมู่กับเครือญาติ และคนรู้จักมากมาย
ในขณะที่เวลานี้ ศุภวัฒน์ไปรวมกลุ่มอยู่กับธีมเพื่อนเจ้าบ่าว ร่วมกับธีมเพื่อนเจ้าสาว สังสรรค์เฮฮาและสนุกสนานไปตามประสา แม้ว่าในจิตใจเขาจะแอบเป็นห่วงพลอยทิพย์ก็ตาม เขาทำได้แค่อยู่ห่างๆ และมองเธออยู่ไกลๆ โดยมิให้ใครได้ล่วงรู้เรื่องของพวกเขาสองคน...
ใกล้ช่วงเวลาสำคัญจะต้องโยนดอกไม้ไปให้ผู้เข้ามาร่วมงาน พลอยทิพย์หันมองสบตากับกรินทร์อย่างสุขใจ เธอไม่คาดหวังว่าใครจะได้ดอกไม้จากเธอ หวังเพียงว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อโยนดอกไม้นี้ออกไปแล้ว...
ช่อดอกไม้ถูกเหวี่ยงออกไปสูงมาก บรรดาเพื่อนเจ้าสาวซึ่งออกเรือนกันไปแล้ว ก็ยังสนุกสนานกับการแย่งดอกไม้จากเจ้าสาวเหมือนเดิม... แต่คนที่ได้รับดอกไม้ช่อนี้ กลับไม่ใช่หญิงสาวอย่างที่คิด...
เพราะมันไปตกเข้าตรงที่เรือนหน้าของชายหน้าจืด ภายใต้กรอบแว่นตาหนาสีดำ เรือนผมปรกหน้าผากเข้าเต็มๆ เขามิได้ตั้งใจจะแย่งดอกไม้จากสาวๆ ทุกๆ คน เพียงแต่มันถูกเหวี่ยงมาทางเขาพอดี ซึ่งก็ยืนห่างไกลจากสาวๆ ที่เข้ามาร่วมสนุกในวินาทีนั้น
“ผมไม่เอาหรอกนะครับ ถ้างั้นผมมอบให้ข้างๆ ล่ะกัน” ศุภวัฒน์ตอบน้ำเสียงเย็นชา หลังจากเจ็บเรือนดั้งจมูก เขาไม่ชอบดอกไม้หรอก แต่เขาไม่เคยรังเกียจพลอยทิพย์เลย เพราะเขารู้สึกปลื้มใจเมื่อได้ใกล้ชิดกับเธอ ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงคาใจเขาอยู่...
ช่อดอกไม้เจ้าสาวจึงตกไปอยู่ในมือของแอมป์ แม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้ว และกำลังตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ มันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งที่จะได้แอบฝันเล็กน้อย ราวกับว่าตัวเองยังแต่งงานมาหมาดๆ เมื่อวานนี้เอง...
เสียงเพลงเริงระรื่นบรรเลงเสียงดัง โน้ตเพลงที่สนุกสนานชวนให้เต้นรำ เหล่าธีมเพื่อนเจ้าบ่าว ชวนเพื่อนเจ้าสาวมาเต้นรำให้สนุกสุดเหวี่ยงจนลืมไปเลยว่า พวกเธอแต่งงานแล้วและสามีก็มาร่วมด้วย
อย่างน้อยก็ได้สนุกอีกวัน ก่อนจะเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นแม่ของลูก และภรรยาที่มีสามีแล้ว...
******
เมื่อถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวเข้าเรือนหอ... ธีมเพื่อนเจ้าสาวต่างออกกันเข้ามาหาเพื่อนรักในชุดเจ้าสาวแสนสวย เธอค่อนข้างเหนื่อย เพลียมาทั้งวัน กับการถ่ายรูป ท้าแสงแดด และอยู่ร่วมกับเครือญาติผู้คนมากมายในวันนี้ทั้งวัน...
กรินทร์ยืนห่างไกลออกไป เขาคุยกับเพื่อนเจ้าบ่าวหลายๆ คน ต่างหัวเราะ ยิ้มแย้มร่าเริง ค่ำคืนนี้ก็ช่างเย็นยะเยือก และหนาวเหน็บไปถึงจิตใจของพลอยทิพย์ เธอเม้มปากพลางก้มหน้าลงระหว่างที่ในมือ สวมแหวนแต่งงานแล้ว
ใจหนึ่งคิดถึงครั้งแรกกับกรินทร์ และอีกใจหนึ่งคิดถึงวินาทีได้ที่สวมกอดศุภวัฒน์ จุมพิตดื่มด่ำลุ่มหลงอย่างเร่าร้อน หัวจิตหัวใจของพลอยทิพย์เริ่มตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงเมื่อคิดถึงคืนนั้นกับศุภวัฒน์...
เจ้าสาวแสนสวยหลับตาลง เมื่อกำลังนั่งรอเจ้าบ่าวอุ้มพาไปเข้าเรือนหอร่วมกัน... เป็นช่วงเวลาที่กรินทร์กำลังคุยกับศุภวัฒน์ตามลำพัง และสีหน้าของเพื่อนรักขมวดคิ้วอย่างวิตกกังวล แลสลับหันมองมาทางพลอยทิพย์
“อย่าลืมนะ” กรินทร์กระซิบข้างหูศุภวัฒน์ ราวกับกำชับว่าเขาจะต้องทำตามที่กรินทร์บอกทุกอย่าง
“อืม ไม่เป็นไรแน่นะ” ศุภวัฒน์ถามย้ำอีกครั้งให้ชัดเจน ว่าสิ่งที่กรินทร์ได้ขอย้ำ เขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ
******
พลอยทิพย์ไม่ได้สังเกตเลยว่า กรินทร์คุยอะไรกับศุภวัฒน์ เพราะเธอยังอยู่เฮฮากับธีมเพื่อนเจ้าสาวมิเว้นวาง แต่เมื่อเจ้าบ่าวในชุดขาวผู้สง่างาม เดินเข้ามา แทบจะทำลายธีมเพื่อนเจ้าสาววงแตกในบัดดล สลายตัวหายไปจากจุดนั้นทันที
“ไปกันเถอะ... ได้เวลาแล้ว” น้ำเสียงของเขานวลนุ่ม ไม่ต่างกับตอนเข้าบ้านเธอ และอยู่ตามลำพัง น้ำเสียงของเขาทำให้หัวจิตหัวใจของพลอยทิพย์เต้นแรง และลืมหายใจในเวลานั้น เพราะเธอกำลังคิดถึงเรื่องราวของศุภวัฒน์อยู่
“ค่ะ” มือหนายื่นเพื่อรองรับเธอ ดึงเข้ามาสวมกอด ก่อนจะปล่อยให้เจ้าสาวของเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเขาโน้มตัวลงต่ำ สอดแขนตนเข้าไปใต้ร่างบาง รองรับน้ำหนักแสนเบาของเธอ เอาไว้ในอ้อมกอด โอบอุ้มเจ้าสาวตัวลอยไว้ในวงแขน
เจ้าสาวแสนสวย กำลังเข้าเรือนหอร่วมกับเจ้าบ่าว จิตใจของพลอยทิพย์ตื่นกลัวและตื่นเต้น พลางใช้สองมือบางโอบรอบวงลำคอของกรินทร์เกาะให้แน่นเอาไว้
เสียงเหล่าเพื่อนพ้องธีมเพื่อนเจ้าสาวชุดสีน้ำตาล ปรบมือและโห่ร้องอย่างอิจฉา นึกอยากจะกลับไปแต่งงานอีกระรอบและเสวยสุขสุดๆ กับเจ้าบ่าวให้อิ่มทั้งคืน
******
ความเงียบสงบเข้ามาคืบคลาน เมื่อกรินทร์อุ้มพลอยทิพย์เข้ามาในเรือนหอ ซึ่งได้ประดับประดาตกแต่งเอาไว้สำหรับคืนพิเศษคืนนี้... ประตูห้องมิได้ล็อค จนกว่าพวกเขาจะมาถึง...
สายตาของพลอยทิพย์หันมองเตียงสีขาวใหญ่มาก โปรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสด กับผ้าปูที่นอนสีขาวบริสุทธิ์ พลางมีดอกไม้วางรายล้อมเป็นรูปหัวใจสองดวงอย่างสวยงาม สองแขนปล่อยร่างบางให้ยืนลง และเสียงประตูห้องก็ปิดสนิท เหลือเพียงกรินทร์กับพลอยทิพย์แค่สองคน...
เธอยอมรับว่าวันแต่งงานวันนี้... มันพิเศษสุดแค่ไหน เมื่อมันเพอร์เฟ็คทุกอย่าง เว้นแต่... หัวใจเธอแหละ ที่ผิดแปลกไป แม้ว่าแววตาจะหันมองกรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวของเธอในคืนนี้ แต่หัวใจกับเต้นผิดปกติ ไม่เป็นจังหวะ
“อาบน้ำเสียหน่อยนะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เจ้าบ่าวในชุดขาว เดินเข้าไปสวมกอด พลางจุมพิตที่ศีรษะของเธอ มือหนึ่งเชยคางเธอเอาไว้มิให้ห่างมือ หญิงสาวหลับตาลงและยืนนิ่งปล่อยให้เขาสวมกอดเธอ รัดแน่นให้ยิ่งขึ้น
เธอไม่อยากวิ่งหนีไปจากเขา และไม่อยากจะคิดถึงอะไรทั้งนั้น มันสายไปแล้ว ที่จะมาเลี้ยวลำกลับตอนนี้ ทุกอย่างถูกจัดตระเตรียมมาแล้ว จะมาเปลี่ยนใจเพราะแค่เผลอตัวเผลอใจ มีอะไรกันกับบาร์โฮส
พลอยทิพย์ควรตักเตือนตัวเองให้มาก ศุภวัฒน์เขาทำงาน คงไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอแบบนั้น... แต่รอยจุมพิตในห้องน้ำยามสายวันนี้ เขาไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ เขาเป็นห่วงเธอหลังจากพลอยทิพย์กรีดร้องเพราะความอึดอัดภายในใจทั้งมวล ชวนบีบช่องท้องจนแทบอาเจียน...
******
เรือนร่างเปลือยของเจ้าสาวค่อยๆ ปรากฏ หลังจากอาภรณ์งดงามสีขาวค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องทีละชิ้นอย่างช้าๆ กรินทร์ยืนพิงโต๊ะไม้ในห้อง มองดูเจ้าสาวของเขาอย่างเงียบ ๆ เธอค่อยๆ ถอดชุดสีขาวออกเพื่อไปอาบน้ำตามที่เขาว่า...
เพียงเหลือแค่ชั้นในปิดส่วนสำคัญบนล่าง และถุงน่องลายลูกไม้สีขาวสวยงาม แววตาของกรินทร์แทบจะสั่น พอๆ กับหัวใจของเขาเต้นระรัวเร็ว ไม่นึกเลยว่าพลอยทิพย์จะสวยงามมากเพียงนี้ เมื่อได้ถอดชุดเจ้าสาวมากชิ้นนั้นออกไป
มือบางทั้งสองค่อยๆ ถอดชั้นในห่อหุ้มเรือนหน้าอกคู่งามให้หลุดออกไป พร้อมๆ กับชั้นในสีขาวลายลูกไม้ซึ่งปกปิดความเป็นสาวเอาไว้ หลุดหล่นลงไปที่ข้อเท้าบาง รองเท้าส้นสูงสีขาวถูกถอดทีละข้าง และถุงน่องรั้งกับเอว ถูกกลัดตะขอปลดออก
ดวงตากลมสวยมองกรินทร์ไม่เว้นวาง เธอควรมองเขา มิใช่ ศุภวัฒน์... ชายคนนั้นเขาแค่ทำเพราะงาน แต่ชายตรงหน้าเธอ เขาคือสามีที่รักเธอ... พลอยทิพย์บอกตัวเองอย่างนั้น ราวกับสะกดจิตตัวเองไม่ปาน...
หญิงสาวกำลังจะหันกายเข้าห้องน้ำ เธอแอบคิดอยู่ในใจว่า กรินทร์จะตามเข้ามาด้วยมั๊ย? เพราะหากเธอจะอยู่ในห้องน้ำเพียงลำพัง อาจจะเผลอไปคิดถึงเรื่องของศุภวัฒน์ เมื่อครั้งเธอนั่งขย่มบนตัวเขาอีกครั้งในคืนนั้นอีกรอบ...
เสียงมือถือดังขึ้นขัดจังหวะวินาทีนั้น พลอยทิพย์รีบเผ่นเข้าห้องน้ำ แต่มิได้ปิดประตูลงกลอน กรินทร์ยกหูขึ้นมา แล้วตอบไปแค่คำเดียวว่า
“อืม” แววตาเขาต้องปรับสายตาใหม่ เพราะถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้อง... ไป! เสียงรองเท้าหนักเดินใกล้เข้าไปใกล้ห้องน้ำ เพื่อกรินทร์จะบอกพลอยทิพย์ให้รู้ตัว...
“ผมมีธุระด่วนสำคัญเข้ามาเมื่อสักครู่ มีสายโทรเข้ามา... ถ้าคุณจะไม่ว่าอะไรนะ ทิพย์...” กรินทร์หวังเพียงว่า เธอจะยอมให้เขาออกไปจากเรือนหอ เพราะเขา... รู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับคืนนี้...
“ได้สิคะ ที่รัก คุณจะกลับมาใช่มั๊ยคะ?” พลอยทิพย์ถามย้ำอีกครั้ง เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก หรือเป็นเพราะว่า เธอเองก็รู้สึกและรอคอยสำหรับช่วงเวลาที่สำคัญ...
“กลับมาสิ มากอดคุณไง ผมจะรีบไปรีบมานะ...” กรินทร์ไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับธุระสำคัญนั้นแก่พลอยทิพย์ หญิงสาวเปิดฝักบัวส่งเสียงสายน้ำก็จริง แต่เธอรดเพียงแค่น้ำ และกำลังใช้สมองครุ่นคิดระหว่างนั้น
“จะรอคุณกลับมานะ” เสียงเธอตอบธรรมดา เพียงชั่ววินาทีนั้นเสียงลูกบิดเปิดประตูกว้าง เสียงรองเท้าส้นหนาค่อยๆ ดังแผ่วห่างไปออกไปทุกย่างก้าว ประตูห้องปิดลงกลอนสนิท ร่างของเจ้าบ่าวหายไปในเรือนหอ ปล่อยให้เจ้าสาวอาบน้ำเพียงลำพัง รอเขากลับมา...
******
เสียงฝักบัวยังคงเปิดก๊อกปล่อยสายน้ำ ทลายความร้อนและคลายความเครียดของกล้ามเนื้อออกไป กรินทร์เปลือยกายว่างเปล่าเผยกล้ามเนื้อที่ดูแลมาอย่างดี เต็มไปด้วยมัดกล้ามและซิกแพ็คอันสวยงาม เพราะเขาใช้เวลากว่า สามชั่วโมงต่อวันในการออกกำลังกายหลังเลิกงาน
เขามิได้อาบน้ำเพียงลำพังอย่างเดียวเท่านั้น เพราะกรินทร์กำลังสวมกอดกับใครอีกคนหนึ่ง ซึ่งเปลือยกายว่างเปล่าเช่นกันกับเขา คือคนที่เขารักมากที่สุด และสวมกอดได้บ่อยๆ มิเสื่อมคลาย ยามนี้เขากำลังได้โอบกอดรัดกายอีกฝ่าย เอาไว้ใต้สายน้ำฝักบัวชะล้างความร้อนออกไป
ริมฝีปากหนากำลังบดเบียดอยู่กับอีกฝ่าย ซึ่งเผยออ้ารับอย่างยินยอม พร้อมๆ กับแขนแกร่งหนาสวมกอดตอบ พร้อมให้กรินทร์เข้ามาแนบใกล้ อิงแอบแนบความเป็นชาย สัมผัสอันร้อนแรงซึ่งบดเบียดเรือนร่างช่วงล่าง กับความเป็นชายเช่นเดียวกัน
เสียงหอบครางแผ่วในลำคอของฝ่ายชายอีกคนครวญเบาๆ ตอบสนองอารมณ์กระตุ้นความต้องการให้กรินทร์มากยิ่งขึ้น ทำให้กรินทร์หื่นกระหายหนักมาก หลังจากพยายามเก็บอารมณ์ส่วนตัวมาทั้งวัน มิให้ใครรู้ว่าเขาหลงรัก –เก้ง- ชายไม้ป่าเดียวกันมานานแล้ว
การแต่งงานกับพลอยทิพย์ เป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า และการได้เสียกับเธอก็ทำให้พลอยทิพย์ไม่รู้ว่า เขาชอบผู้ชายมากกว่าหญิงสาวที่แต่งงานด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม... เขาจะไม่หักหาญน้ำใจพลอยทิพย์แน่นอน เธอเป็นคนดีที่แค่ยังเอิญ เข้ามาอยู่ในเกมส์ตลบแตลงของพ่อแม่เขาเท่านั้นเอง...
“เบาๆ หน่อยสิ จูบแรงไปรึเปล่า?” น้ำเสียงของชายหนุ่มนวลนุ่ม พร้อมส่งสายตาผ่านหยดน้ำ ซึ่งหลั่งไหลจากใต้ฝัวบัวอาบน้ำเปียกปอนไปทั่วเรือนร่างแกเขาและกรินทร์
“เข็ดเคี้ยวจริง! ได้กอดนายแล้วรู้สึกดีกว่าทิพย์อีก” กรินทร์บอกไปตามตรง กอดหญิงสาวยังไม่ชื่นใจเท่าได้ฟาดชายด้วยกัน
“นายนอนกับเธอแล้วรึ?” เขาถามด้วยความแปลกใจ พลางชะงักจูบตอบแล้วสบตากับกรินทร์ แต่เจ้าบ่าวผู้ละทิ้งเจ้าสาวมาอยู่กับชายอื่น เขามิได้ยี่หระหรือสนใจต่อคำพูดของคู่ขาซึ่งอยู่ในอ้อมแขนตน
“แค่ทำให้เธอรู้ว่า การแต่งงานจะไม่ล้มเลิก ถ้าไม่เพราะต้องปกป้องนาย ฉันคงไม่ไปตอบรับการแต่งงานบ้าบออะไรนั้นหรอก ที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่ออนาคตของเราทั้งนั้น...” กรินทร์ยังคงใช้มือหนาคว้าศีรษะของชายในอ้อมกอด เพื่อดึงลำคอเขาเชิดขึ้น พร้อมโน้มตัวกดน้ำหนักจูบบดเบียดน้ำหนักเพิ่มเข้าไปอีก
ฝ่ายรับอารมณ์จากกรินทร์จึงแลกลิ้นดุนดันโต้ตอบ และดูดดื่มกับริมฝีปากหนาเย้ายวนผลักกันใช้อีกมือ รูดองคชาตของกันและกัน เพื่อปลุกอารมณ์เร้าหนักหน่วงเพิ่มขึ้น
“นายน่ารักจริงๆ กรินทร์” เขาตอบแล้วยิ้มหวานให้ ไม่นึกเลยว่า พลอยทิพย์ต้องมาตกกระไดพลอยโจน เพราะคำสัญญาบ้าๆ และมรดกมากมายของพ่อแม่กรินทร์ เขาบังคับให้แต่งงานกับพลอยทิพย์ เพื่อให้เลิกคบเกย์ที่แสนหล่อเหลา นิสัยดี เข้าอกเข้าใจกรินทร์มาตั้งแต่เด็กๆ พวกเขารักกันมาตั้งนานแล้ว
“มาเถอะ... วัฒน์ อยากกอดนายในคืนแต่งงานอย่างนี้มานานแล้ว” กรินทร์ยกมือซ้ายของศุภวัฒน์ขึ้นมาประสานเรียวนิ้วมือขึ้นมา โน้มตัวบดเบียดจูบอีกระรอบเพื่อหยุดสักระยะ แล้วหันมาถอดแหวนแต่งงานในนิ้วนางซ้ายตน สวมใส่ให้แก่ศุภวัฒน์ด้วยตัวเอง
“มันเป็นแหวนแต่งงานของนายกับพลอยทิพย์นะ” ศุภวัฒน์ยิ้มหวาน รู้สึกว่าเขาได้แต่งงานกับพลอยทิพย์เสียเอง
“ไม่มีอะไรจะหมั้นหมายนาย มีแต่แหวนวงนี้ในนิ้วนางฉันเอง ฉันอยากได้นายมาเป็นเมียมากกว่าทิพย์!!!” กรินทร์ไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากได้สวมกอดศุภวัฒน์มาทั้งวัน
ซึ่งวันนี้เขาต้องเก็บอารมณ์มากมายเพียงใด เพื่อไม่แสดงความผูกพันของตนกับศุภวัฒน์ให้ใครในงานแต่งล่วงรู้... ไม่เช่นนั้นแล้ว พ่อแม่เขาจะหาคนมาจัดการกับศุภวัฒน์ ซึ่งเรื่องนั้นกรินทร์ยอมมิได้เขาทำเพื่อความปลอดภัยของชายที่รัก...
******
ร่างชายงามที่เปียกปอนทั้งสองคนเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาพร้อมกัน เพื่อเช็ดหยาดหยดน้ำพร่างพราวชะล้างคลายร้อน เพื่อให้ร่างกายสดชื่นชุ่มฉ่ำ หลังจากจูบบดเบียดกันในห้องน้ำพร้อมกันแล้ว
กรินทร์เป็นฝ่ายโยนผ้าขนหนูให้พ้นทาง พร้อมกันดึงผ้าขนหนูสีขาวในมือศุภวัฒน์ออกไปให้ไกล แววตาคมเข้มมองศุภวัฒน์ไม่เว้นวาง ชายหนุ่มผู้เป็นคนรักของกรินทร์ ราวกับรู้ใจว่าเขาต้องการอะไรต่อไป...
แม้ว่าอีกใจหนึ่งจะห่วงหาต่อพลอยทิพย์ เธอคงจะนอนเหงาอยู่ในเรือนหอเพียงลำพัง อย่างแสนเศร้า พร้อมกับเรื่องราวความจริงส่วนหนึ่งว่า เขาเป็นเพื่อนรักสมัยเด็กของกรินทร์ ศุภวัฒน์ไม่อยากให้เธอรู้เลยว่า เขายังเป็น “เมียรัก” ของกรินทร์มานานแล้วอีกด้วย
กายหนุ่มหล่อเหลา ร่างกายแข็งแรงมีซิกแพ็ค พร้อมๆ กับความเป็นชายตื่นตัวเต็มที่ มิได้ถูกนำมาใช้งาน นอกจากปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งศุภวัฒน์เป็นฝ่ายเริ่มลดกายตัวเองลง เพื่อให้เรือนหน้าต่ำลงไปในระดับเดียวใต้สะดือของกรินทร์
มือหนาของเจ้าบ่าวผู้ทิ้งเจ้าสาวไว้ในเรือนหอ เอื้อมไปกดศีรษะของศุภวัฒน์ ดันเข้าหาเรือนหน้าท้อง ปล่อยให้ชายที่ย่อร่างต่ำลงอ้าปากสีชมพูแสนงาม ครอบงำองคชาตดูดหัวบากแผ่วเบา ชวนกระตุ้นอารมณ์กรินทร์เกิดสยิวเสียวซ่าน
ราวกับร่างกายแผ่วเบาลอยได้ เส้นประสาทมากมายหลั่งไหลโต้ตอบต่อเรือนริมฝีปากอุ่น โลมเลียและดูดกลืนส่วนปลายอย่างอ่อนโยน มือหนาจับประคองไว้เพื่อรูดคลึง และริมฝีปากค่อยๆ ดูดเม้มขบรอบท่อนเอ็นแข็ง ปลุกอารมณ์กรินทร์ให้ตื่นตัวมากยิ่งขึ้น
องคชาตชายถูกกลืนหายด้วยปากแสนนุ่ม และลิ้นใหญ่ร้อนหนากำลังตวัดรัวๆ โดยรอบท่อนเนื้อ แข็งเกร็งและขึงขัง เอ็นตึงและรอบรัศมีกว่าห้านิ้ว ไม่ยี่หระต่อวงรัศมีปากเรียวใหญ่อันสวยงาม กำลังกลืนกินแทบจะหมดลำ
ส่วนปลายหัวบากกลังพุ่งชนกับลิ้นไก่ของศุภวัฒน์ แต่เขาใช้ปากกลืนให้กรินทร์ค่อนข้างบ่อย ลำคออวบหนาแข็งแรงจึงเริ่มมีท่อนเนื้อบางอย่างเล็ดลอดลงหลอดอาหาร ผ่านทะลุลิ้นไก่และดูดกลืนส่วนหัวบากให้เข้าไปสุดลึกมิดด้าม
กรินทร์แทบแหงนหงายเรือนหน้ามองท้องฟ้า แม้ราตรีนี้จะไม่ใช่คืนของพลอยทิพย์ เขาแค่อยากมีความสุขกับเมียรักซึ่งเป็นชายด้วยกัน เขาฟาดศุภวัฒน์มาตั้งแต่วัยประถมแล้ว แม้ว่าครานี้ศุภวัฒน์จะใช้ปากให้กรินทร์ในช่วงแรกๆ
แต่หลังจากนั้นในวัยมัธยมต้น พวกเขาแอบไปห้องน้ำด้วยกันบ่อยครั้ง และบ่อยครั้งที่ครูสงสัยมักจะคิดว่าพวกเขาสูบบุหรี่กัน กรินทร์กับศุภวัฒน์ไม่สนใจของพรรณนั้นหรอก เพราะพวกเขาดูดบุรุษและ ทำกันแทบจะทุกวัน เพราะการเรียนที่เครียด
ศุภวัฒน์รู้สึกเอร็ดอร่อยๆ กับความเป็นชายของชายที่รัก เขากลืนสุดโคนมิดด้าม พร้อมกับคายออกมาลากยาวๆ ทำให้หัวจิตหัวใจของกรินทร์แทบสั่นไหว เสียวซ่านเมื่อปลายหัวบากถูกดันออกมา และดูดกลืนหมดลำในคราวเดียว
กรินทร์แทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงผลักดันให้ศุภวัฒน์ละริมฝีปากออกห่างจากองคชาตตน เพื่อลากร่างชายที่รักไปนอนแผ่หร่าบนเตียงนุ่มสีขาว ห้องนี้ศุภวัฒน์ได้เปิดออกห่างมาอีกตึกหนึ่ง มิให้พลอยทิพย์รู้ว่ากรินทร์แอบมาหาศุภวัฒน์ที่นี่...
******
กรินทร์อยากใช้เวลาในคืนนี้กับชายที่รัก จึงแอบคุยกับศุภวัฒน์ก่อนจะอุ้มพลอยทิพย์เข้าเรือนหอ เขาอยากให้เมียรักโทรหาเพื่อเรียกให้ออกมาจากเรือนหอ มิใช่ศุภวัฒน์ต้องการโทรไปเองตั้งแต่แรก...
หากกรินทร์ต้องการสิ่งใด มีรึ ศุภวัฒน์จะปฏิเสธกับคำขอนั้น เขาจึงยอมทำตาม โทรหาเจ้าบ่าวทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ควรทำให้พลอยทิพย์ต้องเหงาเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกว่า เจ้าบ่าวที่เธอควรจะมีอะไรกัน เป็นพวกรักเพศเดียวกัน
ศุภวัฒน์แอบสงสารพลอยทิพย์ในใจ เพราะเธอคงจะไม่รู้เลย ว่ากรินทร์มิได้รักพลอยทิพย์ นอกจากทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา มันเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า ระหว่างความรู้สึกของกรินทร์กับศุภวัฒน์เท่านั้นเอง
เขาต้องการโทรเรียกกรินทร์ออกมาจากเรือนหอ มีอีกเหตุผลหนึ่งแอบซ่อนด้วย เพราะเขาไม่อยากให้กรินทร์มีอะไรกับเธอเหมือนกัน
ศุภวัฒน์อยากจะเป็นคนสวมกอดและมอบความรักให้เธอมากกว่ากรินทร์ เขารู้อยู่เต็มอกว่า พลอยทิพย์รักเขามากแค่ไหน เขาจึงพยายามเก็บอารมณ์และผลักเธอให้มากที่สุด แต่ยิ่งผลักไสพลอยทิพย์มากเพียงใด ใจเขากลับอยากจะสวมกอดเธอมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เขาไม่อยากทำใจเลิกรัก เพราะเพียงแค่พลอยทิพย์เป็นเจ้าสาวของกรินทร์ และเป็นเมียของสามีคนเดียวกันกับศุภวัฒน์อีก เรื่องนี้มันช่างลึกลับซับซ้อนสับสนชวนปวดหัวเสียนี่กระไร...
“ถ่างขาสิ รอช้าทำไมล่ะ... นายน่ากอดน่าฟัดแค่ไหน รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?” ความเป็นชายใหญ่ยักษ์กับรัศมีห้านิ้ว อวบอิ่มใหญ่ยาวกำลังชูชัน ผงกหัวรัวๆ พร้อมกับความลื่นจากน้ำลายของศุภวัฒน์ ทำให้มันพร้อมจะสอดใส่เข้าร่างเมียรักยามนี้
“มาสิ... อัดเข้ามาแรงๆ เลย” ศุภวัฒน์ยอมทำตามสั่ง เขาต้องการปลดเปลื้องอารมณ์ความต้องการของตัวเอง ในขณะที่มือหนึ่งกอบกำรูดองคชาตตน ความเป็นชายของกรินทร์จ่อหัวบากพร้อมดันเข้าร่างเมียรัก กำลังรูดองคชาตให้เสียวร่าน
“ถ่างขากว้างๆ สิ เราไม่ได้เจอกันสองอาทิตย์ รู้มั๊ยว่ามันอึดอัดแค่ไหน ที่ต้องทนไปไหนมาไหนกับพ่อแม่ แถมไม่ได้เจอนายหลายวัน รู้มั๊ย? ว่ามันอยากกระแทกทวารนายมากแค่ไหน”
กรินทร์พร่ำเพ้อถึงความต้องการของตัวเอง เขามิอยากพูดถึงพลอยทิพย์เลยในคืนนี้ แม้ว่าจะเป็นวันแต่งงานและคืนส่งตัวเจ้าสาวในเรือนหอ เขากลับทิ้งเธอมาเสียดื้อๆ เพื่อมาอยู่กับศุภวัฒน์ เมียรักของเขา
“มาให้นายกอดแล้วยังไงล่ะ? จูบด้วยนะ หิวสุดๆ เลย” ศุภวัฒน์พร่ำกระซิบเสียงหวาน ทำให้กรินทร์มิอาจทนทานต่อต้านความต้องการใดๆ อีกแล้ว เขาโยกสะโพกดันความเป็นชาย ทะลวงทวารมุดเข้าร่างของศุภวัฒน์ อัดแน่นแทบเบียดช่องทางในลำไส้ ฝ่าทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดันความเป็นชายมิดด้ามหมดลำ
ศุภวัฒน์หลับตาพริ้ม รองรับอารมณ์ของกรินทร์ ร่างชายสั่นไหว เสียวซาบซ่านขนลุกระหว่างถูกกระแทกรัวๆ จากผัวสุดรักคนแรก ที่ได้เปิดประเดิมความเป็นชายของเขา ยิ่งกระแทกหนักหน่วงมากเพียงใด ปิ่มปลายหัวบากเขาหลั่งไหลน้ำลายหดเป็นระรอกกระเฉาะออกมาเป็นระยะ ระหว่างใช้มือหนากอบกำรูดคลึงเค้นอารมณ์เสียววาบๆ เมามันสุดๆ
เรือนริมฝีปากหนาบดเบียดแลกลิ้นอย่างโหยหา รับรู้ได้ถึงความเป็นชายสั่นไหว ชวนเรียกอารมณ์เสียววูบไหว รู้สึกดีเมื่อได้กระแทกทวารของศุภวัฒน์มากกว่า ได้กระแทกช่องคลอดของพลอยทิพย์
ครานั้นเขายอมรับว่า ได้เปิดซิงเธอแล้ว กลิ่นคาวเลือดมันหอมหวนเสียเขาลืมตัว กระแทกเธอเจ็บปวดสุดๆ และเขาสะใจมากแค่ไหน ที่ได้ปลดปล่อยความเป็นชายด้วยน้ำขุ่นอาบทั่วเรือนร่างเธอ เพื่อประทับตราว่าเธอจะต้องตกเป็นของเขา การแหกพรหมจรรย์หญิงสาว ก็ทำให้เขาพึงพอใจมาก เหมือนได้ของเล่นมือหนึ่ง และได้ทำลายมันลงไปด้วยมือตน
กรินทร์รู้สึกดีสุดๆ เมื่อได้กระแทกหนักๆ ดันองคชาตเข้าทวารสุดลำ กระชากมันออกมายาว แล้วดันกลับเข้าไปลึกๆ อีกครา ศุภวัฒน์อ้าปากครวญคราง ระหว่างถ่างขากว้างๆ ปล่อยให้ถูกบดเบียดอยู่ในลำไส้มิดด้าม
เขาเคลิบเคลิ้มกับการถูกกระตุ้นอารมณ์จากกรินทร์ และชื่นชอบรสจูบจากชายผู้นี้ กรินทร์จูบเก่งมาก ศุภวัฒน์มิอาจต้านทานหรือปฏิเสธได้ เขาจึงพลอยติดการจูบจากผัวรัก จนเผลอตัวไปจูบพลอยทิพย์ และเธอก็ดันติดใจในรสจูบของศุภวัฒน์ด้วย
******
“เปลี่ยนท่าหน่อยสิ ขอเด็ดๆ เลยนะ ที่รัก!!!” กรินทร์กระชากองคชาตออกมา พลางใช้มือจับมันผงกหัวรัวๆ เพราะเสียวหัวบากหลังจากกระแทกทวารของศุภวัฒน์ลึกสุดๆ
ชายหนุ่มพลิกกายนอนคว่ำ เชิดก้นสูง ถ่างขาออกกว้าง ใช้มือหนาสอดเข้าใต้ร่างตน เพื่อรูดองคชาตบีบกล้ามเนื้อให้ตื่นตัวตอบรับสนองอารมณ์แก่กรินทร์อย่างเข็ดเคี้ยว
ปลายหัวบากอวบใหญ่หนารัศมีห้านิ้ว ทิ่มแทงเข้าเปิดปากทวารขยายกว้างขึ้นไปอีก ชายหนุ่มออกแรงกระแทกทวารของเมียรักคู่ขาเก้งที่แสนหวาน สะโพกแคบเนียนแน่น กับเรือนร่างที่แข็งแรง กล้ามเนื้อเป็นมัดสุขภาพดี กรินทร์ไม่อยากเห็นศุภวัฒน์ไปมีใครอื่น เขาหึงหวงชายที่รักคนนี้มาก
เรือนร่างชายหนุ่มสั่นไหว ทุกๆ การกระแทกจากเจ้าบ่าวของหญิงสาวที่ตนหลงรัก หากเขาไม่พลาดพลั้งมีอะไรกับพลอยทิพย์ เขาคงจะไม่หนักใจมากเพียงนี้ และยามสายวันนี้ก็เช่นกัน ที่เขาดันเห็นเธอร้องไห้ และสวมกอดเอาไว้ในวงแขน
ความรู้สึกของเธอช่างอบอุ่นและหลั่งไหลสู่กายเขา ศุภวัฒน์ทนอารมณ์ของตัวเองไม่ไหว เผลอจูบเธอก่อนจะเริ่มพิธีแต่งงานอีก... มันช่างรู้สึกดีที่สุดในชีวิต และยามนี้เขาก็รู้สึกทรมานใจเหลือเกิน เขาคิดถึงพลอยทิพย์มาก
มือหนาเค้นคลึงรูดองคชาตซอยรัวๆ เสียน้ำปิ่มปลายหัวบาก สายน้ำขุ่นหลั่งไหลกระฉูดพวยพุ่งออกมาเป็นสาว ศุภวัฒน์เสียวเสร็จแตกก่อน ระหว่างร่องทวารถูกอัดกระแทกด้วยแรงจาก ชายที่รัก
แม้ว่าร่างกายหนุ่มแน่นงดงามของเขา กำลังถูกกรินทร์เสยกระแทกดันองคชาต ทะลวงทวารอย่างเพลิดเพลินเสียวซ่านร่านน้ำแตกกระเฉาะหลั่งไหลอัดลำไส้มากมาย แม้เสียงกรินทร์เหนื่อยหอบหายใจเพียงใด เขาก็ยังอยากจะจับร่างของศุภวัฒน์มานั่งตัก เพื่อร่วมรักในรอบถัดไป แม้ว่าน้ำขุ่นจะหลั่งไหล และหล่อลื่นเพิ่มยิ่งขึ้นก็ตาม
******
ร่างหนากายชาย เต็มไปด้วยเรือนร่างที่แสนงาม กับรอยสักรูปปลาโยกไหวไปตามแรงขย่มบนองคชาตของกรินทร์ สีหน้าของศุภวัฒน์เต็มไปด้วยความสุข และฟินในอารมณ์เมื่อความใหญ่อวบอัดเสียบเข้าร่างเขาแน่นลึก
พร้อมสองแขนหนาแกร่งโอบกอดจากเรือนหลัง เรียวหน้าคม เบือนไปเบื้องหลัง เพื่อเอื้อมจูบชายที่รักสวมกอดได้ร้อนแรงเร้าใจ อีกคราที่องคชาตภายในปากทวารบวมอวบอัดขยายแน่นในกายศุภวัฒน์
ของเหลวหลั่งไหลแตกทะลักมากมายแทบหลามเสียกรินทร์ต้องผ่อนแรงกอด ปล่อยให้เมียรักยกร่างออกจากหน้าตัก น้ำขุ่นเมือกเหนียวหลั่งไหลออกมาจากกายเขา ทำให้กรินทร์พึงพอใจและรักหึงแหนศุภวัฒน์มากยิ่งขึ้น
“อย่าลืมแหวนแต่งงานของนายนะ มันมาอยู่ที่นิ้วฉันแล้ว พลอยทิพย์จะสงสัยเอาได้นะ... ขอบคุณที่ยังรักกันอยู่” ศุภวัฒน์ถอดแหวนแล้วเดินไปคืนให้แก่กรินทร์ เขาแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าวสีขาวเสร็จแล้ว... กำลังจะกลับไปหาเจ้าสาวของเขา
“ถึงฉันจะแต่งงานแล้ว แต่นายก็ยังเป็นเมียฉันอยู่นะ วัฒน์” กรินทร์รับแหวนแต่งงานกลับมาสวมใส่ แต่แววตาคมเข้มจรดจ้องมองศุภวัฒน์ไม่เว้นวาง อีกมือหนาเอื้อมสอดเข้าใต้ท้ายทอย เพื่อดึงศีรษะของชายที่รัก ดึงเข้าหาตนเพื่อปรนเปรอจูบร้อนแรงอีกครั้ง แทบทำให้ศุภวัฒน์อ่อนระทวย
“อื้อ!” เรียวริมฝีปากหนาดูดดื่มโลมไล้เบียดลงน้ำหนัก สอดแทรกแลกลิ้นนัวเนียเร่าใจ หัวใจร้อนผ่าวตื่นเต้นระรัวเร็วอีกครา... หากเขาไม่หยุดคงจะต้องเปลื้องผ้ากระแทกทวารได้เสียกันอีกระรอบ...
“พอเถอะ นายทิ้งเจ้าสาวของนายมาสองชม.กว่าแล้วนะ” ศุภวัฒน์ใช้สองมือหนาดันร่างของกรินทร์แนบกายสวมกอดแน่น ละห่างจากร่างแน่นกายฟิต ความงามจากดวงตาในราตรี และเรียวริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู มันตรึงใจกรินทร์ยิ่งนัก
“เรายังมีโอกาสหน้าได้อีก ยังไงเสีย ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายหรอกนะ วัฒน์” ชายหนุ่มยิ้มให้แก่กันก่อนที่ร่างของเจ้าบ่าวเดินจากไป ปล่อยให้ศุภวัฒน์ดูแลตัวเอง และปล่อยให้เขากลับบ้าน รอนัดสำคัญจากกรินทร์ในครั้งต่อไป
******
ตั้งแต่เกิดเรื่อง พลอยทิพย์รู้ความจริงของกรินทร์และศุภวัฒน์ เธอหายไป... ปิดเครื่อง ปิดเฟสบุ๊ค ไม่อัพเดทไลน์ หรือแม้กระทั่งติดต่อกับเพื่อนสนิทสาวทั้งหกคนกรินทร์กับศุภวัฒน์กังวลใจมาก เธอหนีไปจากพวกเขาเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่อารมณ์ก็โกรธหัวเหวี่ยงได้ขนาดนั้น พลอยทิพย์ไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่ กรินทร์ไปตามทุกหนทุกแห่งแม้กระทั่งบ้านญาติของเธอที่เขารู้จัก พลอยทิพย์ก็ไม่ได้อยู่ที่นั้นเขาถูกบรรดาเครือญาติของพลอยทิพย์ถามถึงว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า กรินทร์ตอบอะไรไม่ออก นอกจากว่าติดต่อเธอไม่ได้ เลยมาถามหา ส่วนทางบ้านของพลอยทิพย์คิดว่าให้แจ้งความ เผื่อว่าเธอจะมีเหตุร้าย... กรินทร์คิดว่าขอเวลาเขาตามหาเธอเองดีกว่า เผื่อจะไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ ก็เป็นได้ศุภวัฒน์พยายามคุยกับเพื่อนสนิทของพลอยทิพย์ เท่าที่เขาจะตามได้จากเบอร์โทรของณมน“พลอยทิพย์ติดต่อมารึเปล่าครับ?” ศุภวัฒน์โทรถามณมนโดยตรง“พวกเราไม่ได้พบเธอเลยนะ ไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันแต่งงานกันแล้ว ทิพย์ไปฮันนีมูนกับกรินทร์มิใช่รึ? พวกเขามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” น้ำเสียงของณมนกล่าวถาม เพราะพวกเธอก็รู้สึกแปลกๆ ว่าพลอยทิพย์ไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก
เมื่อร่างบางยืนช้อนแขนไว้หน้าท้อง พร้อมอีกมือถือแก้วไวน์ สายตากลมสุกใสมองออกไปนอกระเบียงในยามราตรี ในความคิดของเธอกำลังไตร่ตรองเรื่องของกรินทร์คืนนี้ ไม่ต่างกับคืนแต่งงานที่ต้องละวางเรื่องร่วมรักพลอยทิพย์ถอดถอนหายใจอย่างอ่อนเพลีย และเมื่ออยู่เพียงลำพังทำให้ศัตรูทางความคิดเริ่มมาก่อกวน เงาหน้าจางๆ ของศุภวัฒน์มาป่วนจิตใจเธออีกแล้ว เขาอาจจะเป็นเพียงแค่ฝันดีสำหรับเธอก่อนวันแต่งงาน และกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อเธอรู้ว่าเขาคือเพื่อนเจ้าบ่าว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอแบบนี้ ยิ่งครุ่นคิดมากเท่าไหร่ แก้วไวน์ในมือก็อยากจะกระดกกรอกลงคอตัวเองให้หมดแก้วในคราวเดียว ดวงตาสุกใสถูกปิดด้วยเปลือกตาอีกครั้ง ก่อนเรือนริมฝีปากเจ่อคู่งามจะ อ้าปากผ่อนปรนระบายแอลกอฮอร์ในลำคอแผ่วออกมาเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างสุภาพสามครั้ง ปรากฏเงาใต้ประตูบานนั้นทำให้หญิงสาวได้สติอีกครั้ง หันกายมามองดูบานประตูด้านนอกห้อง เปลือกตาคู่สวยเปิดกว้างเพื่อให้พลอนทิพย์สังเกตได้ชัดๆ ว่ากรินทร์กลับมา หรือมีใครอื่นมาเคาะ... เธอคิดว่ากรินทร์อาจจะกลับมาเร็วก็ได้ จึงก้าวเท้าไปพลางวางแก้วไวน์เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นระยะๆ
พลอยทิพย์เผลอหลับไประหว่างนอนรอกรินทร์กลับมา เธอไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ไปทำธุระสำคัญอะไร ภายในความมืดมิดที่เงียบสงบ พลอยทิพย์ยังคงหลับใหลอยู่โดยไม่รู้สึกตัวเพียงบางเสียงดังขึ้น เมื่อประตูห้องเปิดออก ปรากฏร่างในเงามืดค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า เสียงแผ่ว เงาหนาซึ่งเป็นเรือนร่างของชายหนุ่มก้มหน้ามองดูหญิงสาวนอนหลับลึกชายในเงามืดมิได้เปิดไฟ เขาค่อยๆ ถลกเสื้อนอกออก และค่อยๆ เปลื้องผ้าจนเหลือเพียงตัวเปลือยเปล่า เขาเหนื่อยเกินกว่าจะร่วมรักกับพลอยทิพย์ จึงทำได้เพียงแค่หย่อนก้นลงขอบเตียง ค่อยๆ เปิดผ้าห่มเบามือที่สุด พลางสอดตัวเข้าไปนอนสวมกอดเธอพลอยทิพย์รู้สึกตัวเล็กน้อย เหมือนมีอะไรมาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ดวงตาค่อยๆ กะพริบตาถี่ๆ ปรือตื่น พยายามลืมตามองข้างๆ ว่ากรินทร์กลับมาแล้วใช่รึเปล่า... เธอพบว่าเขานอนหลับไป ราวกับคนเหน็ดเหนื่อยมามาก บางทีธุระของเขาอาจจะทำให้เขาไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในคืนนี้ต่อไปได้“ฝันดีนะ ทิพย์” น้ำเสียงนวลนุ่มของกรินทร์กล่าวกับเธอก่อนจะหลับตาลง และนอนหลับไปอย่างเหนื่อยล้า หญิงสาวยิ้มหวานและสวมกอดสามีภายใต้ผ้าห่ม แทนที่จะได้มีการร่วมรักสืบพันธ์“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ที่รัก
พิธีแต่งงานได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมด้วยขบวนเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวขนาบอยู่ไม่ไกลมาก รวมไปถึงแขกผู้มีเกียรติมากมายต่างตรบมือต้อนรับยินดีกับคู่บ่าวสาวท่ามกลางการแสดงความยินดีของผู้คนมากมาย อวยพรให้แก่กรินทร์และพลอยทิพย์ ต่างเป็นช่วงเวลาสาธารณะและเชื้อเชิญให้ทุกๆ คนร่วมรับประทานอาหาร และสนุกกับแสงสีเสียง เพลงบรรเลงบรรยากาศอบอุ่นกรินทร์มอบแหวนอันเลอค่า สวมใส่ในนิ้วนางของพลอยทิพย์ พลางหอมแก้มเธอประโลมหวานด้วยคำบอกรัก ต่อหน้าสาธารณะชนมากมาย เสียงยินดีโห่ร้องกึกก้องจากเพื่อนเจ้าสาว ส่งเสียงร่วมแสดงความยินดีกับพลอยทิพย์มากมายแค่ไหนแต่ภายในจิตใจของหญิงสาวกลับรู้สึกข่มขืน เมื่อแววตาของเธอมองสบกับกรินทร์แล้ว เพียงแวบหนึ่งเมื่อเขาละสายตาเธอ ดวงตากลมใสเป็นประกายเหลือบมองข้ามเจ้าบ่าวของตัวเอง สบตากับศุภวัฒน์พอดีเพื่อนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรินทร์ ต้องรีบหันกายเลี่ยงหนี เกรงว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่า เจ้าสาวแสนสวยแอบปันใจให้เขา แม้ว่าศุภวัฒน์จูบเธอก่อนกรินทร์จะสวมแหวนแต่งงานให้พลอยทิพย์ไปก่อนล่วงหน้านี้... เขาเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ฝืนยิ้มปรบมือร่วมยินดี ราวกับอุปทาหมู่ กับธีมเพื่อนเจ้าบ่า
ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา พลอยทิพย์มิได้พบกับกรินทร์อีกเลย นับตั้งแต่วันนั้นที่เสียความบริสุทธิ์ไป เธอไม่ค่อยได้คิดถึงกรินทร์ แต่กลับคิดถึงบันนี่บอยที่แสนหวาน เขาทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวมากมายเพียงใด ทำให้เธอลืมความคิดถึงกรินทร์ไปเสียสนิทหญิงสาวค่อนข้างซึมเศร้า และไม่เป็นอันกินอันนอน เธอยังเฝ้าถามตัวเองว่าการแต่งงานกับกรินทร์ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วรึ การหมั้นหมายซึ่งฝ่ายผู้ใหญ่จัดหามาให้ และเธอกับกรินทร์ก็เข้ากันได้ดี เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็ค มีหน้าที่การงานดี รูปลักษณ์ดี บุคลิกดี มีอัธยาศัยดี เขาเป็นผู้ชายที่ใฝ่ฝันของเหล่าสาวๆ ทั้งปวงแม้เพื่อนสาวแสนสนิททั้งหก ได้พบกับกรินทร์ครั้งแรก พวกเธอยังอยากจะอ่อย ทำนกใส่เพื่อทำให้กรินทร์หวั่นไหว แต่เขายังมุ่งมั่นที่จะมีเพียงพลอยทิพย์ รอวันที่ดี และเรื่องราวดีๆ กับครั้งแรกของเธอกับเขาพลอยทิพย์ล้มตัวลงนอนบนเตียงเดี่ยวขอตัวเอง นอนกอดหมอนข้าง ดวงตากลมสวยเหม่อมองเพดาน เธอยอมรับว่ารักในความดีของกรินทร์ แต่เธอกลับไปคิดถึงชายอื่น ซึ่งพบกันแค่ไม่กี่ชม. ร่วมรักกับเขาอย่างเร่าร้อน มันช่างเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ และยอดเยี่ยมมากเพียงแค่คิดถึง หญิงสาว
กางเกงในตัวจิ๋วสีชมพูตัวเล็กๆ ยังถูกเกี่ยวดึงให้หลุดจากเรือนขาเรียวบางทั้งสอง มือหนาทั้งสองจับสะโพกเธอตั้งชัน เพื่อปล่อยให้ช่วงล่างของเธอลอยตั้งให้ได้ตำแหน่งหญิงสาวรู้สึกเลือนรางว่าถูกจัดท่าให้ถ่างขาออก จะอะไรตอนนี้ก็ช่าง เธอรู้สึกเร่าร้อนและอารมณ์แปรปรวนอย่างบอกไม่ถูก กระวนกระวายและอึดอัด รู้สึกไม่สบายตัวไปเสียหมดบางอย่างที่นวลนุ่มเปียกฉ่ำ กำลังตวัดรัวๆ ใกล้ยอดเม็ดแข็ง และสองแขนแกร่งกำลังเกาะเรือนต้นขาของเธอเอาไว้แน่น บันนี่บอยนอนหงาย สอดกายช่วงบนเข้าไปใต้ร่างของเธอช่วงล่างพลางใช้ลิ้นเลียของหวานใต้ร่างของเธอซึ่งตั้งชันหัวเข่ายกช่วงล่างลอยสูง พลอยทิพย์รู้สึกดีสุดๆ เคลิบเคลิ้มเหม่อลอยเพลิดเพลินจนเสียวตัวเกร็ง และหลงระเริงไปกับอารมณ์มากมาย ซึ่งบันนี่บอยกำลังปรนเปรอให้แก่เธอ“อ้า!!! ...” พลอยทิพย์ครวญครางอย่างลืมตัว เธอรู้สึกดีอีกครั้งแบบเดียวกับกรินทร์ มันทำให้เธอลืมตัวไปเสียสนิทว่า ยามนี้เธอมิได้มีอะไรกับกรินทร์ และกำลังอยู่กับบันนี่บอย ของขวัญสุดพิเศษจากเพื่อนเจ้าสาวมอบไว้ให้...บันนี่บอยรู้สึกชอบและใช้ลิ้นตวัดโลมเลียเจ้าสาวซึ่งคร่อมร่างเหนือศีรษะเขา มันเป็นอารมณ์ที่วิเศษสุด เพราะเ