เมื่อร่างบางยืนช้อนแขนไว้หน้าท้อง พร้อมอีกมือถือแก้วไวน์ สายตากลมสุกใสมองออกไปนอกระเบียงในยามราตรี ในความคิดของเธอกำลังไตร่ตรองเรื่องของกรินทร์คืนนี้ ไม่ต่างกับคืนแต่งงานที่ต้องละวางเรื่องร่วมรัก
พลอยทิพย์ถอดถอนหายใจอย่างอ่อนเพลีย และเมื่ออยู่เพียงลำพังทำให้ศัตรูทางความคิดเริ่มมาก่อกวน เงาหน้าจางๆ ของศุภวัฒน์มาป่วนจิตใจเธออีกแล้ว เขาอาจจะเป็นเพียงแค่ฝันดีสำหรับเธอก่อนวันแต่งงาน และกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อเธอรู้ว่าเขาคือเพื่อนเจ้าบ่าว...
ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอแบบนี้ ยิ่งครุ่นคิดมากเท่าไหร่ แก้วไวน์ในมือก็อยากจะกระดกกรอกลงคอตัวเองให้หมดแก้วในคราวเดียว ดวงตาสุกใสถูกปิดด้วยเปลือกตาอีกครั้ง ก่อนเรือนริมฝีปากเจ่อคู่งามจะ อ้าปากผ่อนปรนระบายแอลกอฮอร์ในลำคอแผ่วออกมา
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างสุภาพสามครั้ง ปรากฏเงาใต้ประตูบานนั้นทำให้หญิงสาวได้สติอีกครั้ง หันกายมามองดูบานประตูด้านนอกห้อง เปลือกตาคู่สวยเปิดกว้างเพื่อให้พลอนทิพย์สังเกตได้ชัดๆ ว่ากรินทร์กลับมา หรือมีใครอื่นมาเคาะ... เธอคิดว่ากรินทร์อาจจะกลับมาเร็วก็ได้ จึงก้าวเท้าไปพลางวางแก้วไวน์
เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นระยะๆ จนถึงประตูห้อง เธอปลดโซ่คล้องประตูและเปิดทันที เธอไม่ได้เอะใจเลยว่าเป็นใครอื่นนอกจากกรินทร์... แต่ชายผู้มาหาที่ห้องพัก กลับไม่ใช่สามีในวันแต่งงาน
บันนี่บอยในคืนนั้น เขากลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบช่อใหญ่ ส่งมอบให้เธอจนบดบังเรือนหน้าเขาเอาไว้ สองมือบางเผลอยกรับเอาไว้ พลางลดช่อดอกไม้ให้ต่ำลง เธอเกิดรู้สึกอยากเห็นหน้าเขาชัดๆ ... อีกครั้ง ...
******
“สุขสันต์วันเลนไทน์ พลอยทิพย์!” ศุภวัฒน์ได้พูดออกไปเสียที แม้ว่าจะใกล้วาเลนไทน์แล้ว เขาอยากบอกรักเธอก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูดออกไป
“ศะ...ศุ...ศุภวัฒน์!!! คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน?” น้ำเสียงหญิงสาวแทบจะขาดห้วง ระหว่างกำลังตื่นตันและตกใจ ร่างหนาเดินปรี่เข้าไปในห้องพักซึ่งเป็นห้องสูทธสำหรับคู่แต่งงานใหม่ ประตูห้องปิดลงทันทีโดยมิต้องสนใจกับการลงกลอนล็อคประตู เขาต้องการกอดพลอยทิพย์แทบจะรอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ร่างชายหนุ่มในชุดสูทสุภาพแสนหล่อเหลา แทบจะถลาเข้าประชิดร่างบางตรงหน้า เธอช่างสวยงามและเปราะบางน่าสวมกอดเอาไว้ให้แน่นที่สุด เขาไม่อยากปล่อยให้เธอหลุดมือให้แก่สามีรักอีกต่อไป คืนนี้เขาต้องการเธอมากกว่ากรินทร์
“ไม่...นะ... คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้... ศุภวัฒน์!!! คุณก็รู้ว่าฉันแต่งงานกับเพื่อนรักของคุณแล้ว” พลอยทิพย์รู้สึกสับสนและห้ามเขาระหว่างที่สองแขนหนาเขาสวมกอด สอดเข้าระหว่างเอวเอสที่แสนบาง
ช่อดอกกุหลาบในมือบางร่วงหล่น เมื่อร่างชายอื่นเข้ามาในห้องพักของเธอ เรือนแขนบอบบางเผลอยกสูง แทนที่จะผลักร่างหนาเบื้องหน้าให้ออกห่าง แต่เธอกลับคล้องคอเขา ประคองเรือนหน้าหนุ่มน้อยบันนี่บอยในคืนนั้น ทำให้คืนนี้ไม่ต่างกับครั้งแรกของเธอและเขา
เรือนหน้าชายหนุ่มโน้มต่ำลงเพื่อประทับจุมพิตที่โหยหา ริมฝีปากบางที่แสนบางหวานฉ่ำราวกับน้ำผึ้งฉาบไว้เพื่อเขา กลิ่นไวน์แสนรสเลิศ ทำให้เขาไม่อยากจะละจูบเธอในครั้งนี้
หญิงสาวเผยอริมฝีปากรับการจู่โจมจากเขา แม้จะไม่ใช่สามีในวันแต่ง เธอยังจูบเขาก่อนจะแต่งงานกับกรินทร์เสียด้วยซ้ำ ช่างคิดถึงและโหยหา รู้สึกไม่อยากละวางจูบจากเขา สองมือบางประคองเรือนหน้าเขา ระหว่างเอนเอียงเรือนหน้า แลกลิ้นตวัดเข้าหากันนัวเนียเนิ่นนาน
******
เสียงเนื้อผ้าค่อยๆ ถูกถลกออกทีละชิ้น ฝ่ายชายค่อยๆ ใช้สองมือปลดกระดุมตัวเองปลดเสื้อผ้าออกจากตัว และสองมือหญิงสาวกำลังเลื่อนไปปลดตะขอเข็มขัด และปลดตะขอกางเกงศุภวัฒน์ด้วยมือเธอเอง
เสียงหายใจร้อนรนและตื่นเต้นจากการเต้นของหัวใจ ทำให้พลอยทิพย์ลืมคิดถึงเรื่องของกรินทร์เสียสนิท ตอนนี้เขาไม่อยู่และไม่รู้ว่าอีกนานมั๊ยจะกลับมา... ขอแค่เวลานี้ได้อยู่กับศุภวัฒน์เถอะ เธออยากจะลืมเขาไปจากใจ แต่เมื่อพบหน้าเขา กลับดึงเขามาสวมกอดแทนที่จะผลักไส
ชายหนุ่มถูกเธอเปลื้องผ้าจนหมดตัวก่อน สองมือหนาจึงเริ่มถลกกระโปรงเธอยกขึ้น ดึงออกจากกายเธอหมดในคราวเดียว ปรากฏเรือนหน้าเหลือเพียงชั้นในเพียงสองชิ้น เขาแทบอยากจะอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมอกอีกครั้งเหมือนคืนนั้น
“พลอย...ทิพย์... ขอให้คืนนี้เป็นของผมอีกครั้งเถอะ... ผมไม่อยากอยู่อย่าง...โดดเดี่ยว... อยากได้รับการกอดอันอบอุ่น... เพราะผมรู้สึกว่า... แน่ใจแล้วว่า... ตกหลุมรักคุณ ตั้งแต่ครั้งแรกของเรา...ในคืนนั้น...”
ศุภวัฒน์ค่อยๆ พูดระหว่างใช้สองมือหนาผลักเธอให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ พร่ำบอกเธออย่างประหม่าและจิตใจสั่นไหวไปด้วย เขาแค่อยากบอกความในใจ และอยากให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้หลอกลวงหรือโกหกเรื่องความรู้สึกทั้งหมดที่มี
“ศุภวัฒน์!!! คุณจะบอกอะไรฉันคะ??” หญิงสาวกำลังจรดจ้องเขาให้เต็มดวงตาคู่สวยทั้งสอง แววตาเธอสั่นเครือ และพยายามจดจำใบหน้าของเขายามนี้ กลิ่นกายหอมกรุ่นจากน้ำหอมราคาแพง เขาใส่กลิ่นฟีโรโมนมาเพื่อปลุกกระตุ้นอารมณ์เธอให้คล้อยตาม ดื่มด่ำและค้นหาเขาตามที่ต้องการในยามนี้
“ถึงคุณจะเป็นเจ้าสาวของกรินทร์ แต่คุณจะเป็นวาเลนไทน์ของผม... ผม...รักคุณ” ศุภวัฒน์กล่าวจบในวรรคสุดท้าย มือหนาค่อยๆ ดันร่างเธอให้เอนหงายราบไปกับเตียงนอนแสนหวานสีนวลขาว
เรือนร่างของเธอตัดกับสีผ้าของเตียง และราตรีในคืนนี้ เต็มไปด้วยแสงเทียนสั่นไหวไปกับแรงลม เรือนร่างเธอนวลเนียนและนุ่มอบอุ่น ร่างหนาค่อยๆ ขึ้นไปอยู่บนตัวเธอ พร้อมๆ กับเรือนต้นขาบางกำลังแหวกออกกว้าง ถ่างให้เขาเข้ามาแทรกในร่างเธอ
“โอ้... ไม่รู้จะตอบคุณอย่างไรดี ฉัน... รู้สึกเป็นเมียที่แย่มาก และก็คงจะเป็นผู้หญิงที๋โชคดีที่สุดในวาเลนไทน์อันใกล้... กอดฉันแน่นๆ สิ กอดฉันไว้...”
พลอยทิพย์ไม่อาจหาคำพูดใดมาบอกเขาได้ เธอยิ้มแทบจะร้องไห้ออกมา มันเป็นช่วงเวลาที่สับสน ว้าวุ่นใจ ในขณะที่สามีไม่อยู่ เธออยู่กับเพื่อนรักของสามี และเขาบอกรักเธอ... พลอยทิพย์พร่ำบอกรักกับกรินทร์ไปแล้ว ครั้งนี้เธออยากพูดออกไป แต่มีบางอย่างจุกในลำคอ... ทำให้เธอลังเลใจจะบอกเขา...
สิ่งเดียวที่ทำได้แทนการพูด คือเธอยอมให้เขาเปลื้องชั้นในอีกสองชิ้นออกไป พร้อมกับยอมให้เขาปรนเปรอจูบมิรู้ลืม บดเบียดแลกลิ้นสอดตวัดนัวๆ ให้กัน เรียวนิ้วมือแกร่งจากเรือนแขนหนา ลดต่ำลงเพื่อไปหยอกล้อกับเนินสามเหลี่ยมของหญิงสาว ค่อยๆ ลดต่ำลงไปอีกเพื่อควานหากลีบอวบ บวมตอบโต้กับเรียวนิ้วมือเขา
ร่องสวาทกำลังโหยหา และร่างกายหญิงสาวกำลังสั่นไหว พร้อมๆ กับความร้อนในกายค่อยๆ ปะทุระอุขึ้นเสียหัวใจเต้นระรัว ลมหายใจหญิงสาวติดขัดระหว่างรับจุมพิตอย่างแสนโหยหา เมื่อเรียวนิ้วมือศุภวัฒน์ล้วงลึกสอดนิ้วเข้าร่องสวาท กระดิกนิ้วเร็วๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์หญิงสาวให้เกิดกำหนัด
พลอยทิพย์รู้สึกเผลอถ่างขาให้ออกกว้างอีก เอนแอ่นกายรู้สึกดีเมื่อเคลิ้บเคลิ้มกับรสจูบ และร่องแคบจากกลีบอวบถูกล่วงเกิน เธอควรจะผลักเขาออกมิใช่โอบกอดเขาด้วยสองแขนบาง... ยามนี้เธอลืมสามีไปจากใจ...
******
เพียงศุภวัฒน์ปรือตามองหญิงสาวที่รัก กำลังเคลิบเคลิ้มแทบจะล่องลอยท่ามกลางความสุขสันต์ในคืนนี้ เขาละจูบแผ่วเบาเพื่อลดตัวเองลงต่ำเรื่อยๆ ปล่อยให้เธอทำตัวตามสบายหลังจากเขาทำให้เธอเครียดเกร็งจากการใช้เรียวนิ้วมือ สอดเข้าร่องสวาทเธอเสียน้ำแตกทะลัก
เรือนต้นขาหญิงสาวถูกจับถ่างกว้างออกไปอีก เมื่อศีรษะเขาลดต่ำพลางยื่นหน้าเข้าหากลีบอวบซึ่งกำลังบวมแดงขึ้นเรื่อยๆ ประตูร่องสวาทมีน้ำเปียกหลั่งไหลออกมาทำให้เขาสนใจกับทางเข้าเส้นตรงที่ปิดสนิทยามนี้
ปลายลิ้นหนาค่อยๆ โลมเลียกับกลีบอวบเป็นการทักทาย แทบจะทำให้เรือนร่างหญิงสาวสะดุ้งกระตุกสั่นสะท้าน เพียงปลายลิ้นร้อนหนาค่อยๆ ตวัดขึ้นลง จนกระทั่งเริ่มเล็ดลอดล้วงเข้าไปในร่องสวาท ปลายลิ้นร้อนละเลงระรัวตวัดกับความเป็นสาวของพลอยทิพย์เสียเธอแทบจะครวญครางออกมาอย่างลืมตัว
ริมฝีปากบางเผลอกว้างหอบหายใจเสียวสั่นเสียว เรือนร่างหญิงสาวถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว เพื่อเตรียมตัวรองรับของขวัญจากศุภวัฒน์ชิ้นใหญ่ เขาคือบันนี่บอยของเธอในครานี้ และต่อจากนี้ไป เธอไม่อยากจะนึกเลยว่า ชีวิตแต่งงานของเธอมีสามีแล้ว ยังจะมีเพื่อนรักสามีได้อีก... จะอะไรก็ช่าง ขอได้เสพสุขกับศุภวัฒน์อีก...
หญิงสาวนอนหอบครางหายใจหลังจากศุภวัฒน์ละลิ้นร้อนออกห่าง ความเป็นสาวของเธอเปียกฉ่ำสุดๆ หลังจากลงลิ้นหล่อลื่นพร้อมจะถูกความเป็นชายสอดใส่...
เรียวขาของเธอถูกยกพาดไหล่แกร่ง ดวงตาสุกใสเหลือบมองรอยสักปลาคู่ที่หน้าท้องด้านซ้าย เธอยินยอมเขาหมดใจและรอรับการเข้ามาจากศุภวัฒน์
“ผม...รักคุณ!!!” ศุภวัฒน์สวมกอดเธอแนบแน่น พร้อมๆ กับเรือนกายโยกไหว ทั้งรวดเร็วและรุนแรง ทั้งหนักหน่วงและกดกระแทก ร่างกายของชายหญิงที่ได้ใกล้กัน กับเสียงสนั่นหวั่นไหวของก้อนเนื้อตบกระแทกตีต่อเนื่อง เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ และเตียงรองรับร่างของพวกเขาสั่นไหวรุนแรงยิ่งกว่าภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว
******
ผ่านไปกว่าชม. กรินทร์เดินทางมาถึงร.พ.อีกฟากหนึ่งของกรีซ เขารีบเดินทางมาด้วยความร้อนรน ถามหาศุภวัฒน์ซึ่งเกิดอุบัติเหตุ แต่เขากลับไม่พบศุภวัฒน์เลย ทำให้ใจคอเขาไม่ดี มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเมียรักหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้นเมียแต่งของเขาอยู่ห้องพักตามลำพัง เขารู้สึกว่ามันมีอะไรผิดแปลกไป ทำให้กรินทร์รู้สึกว่าต้องรีบเดินทางกับไปยังห้องพักอย่างเร่งด่วน เกรงว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพลอยทิพย์... เขาไม่ควรทิ้งเธอมาแบบนี้...
กรินทร์ได้สติจึงรีบเรียกใช้บริการรถแท็กซี่เร่งด่วน เพื่อเดินทางกลับไปยังโรงแรมที่พัก... เขารู้สึกไม่ชอบมาพากลกับเรื่องแปลกๆ วันนี้ อีกอย่างศุภวัฒน์ก็ทำตัวแปลกๆ ไปบ้าง หลังจากเขาแต่งงาน ใจหนึ่งกรินทร์เกรงว่าจะถูกเขาตีตัวออกห่าง จึงต้องแอบให้ศุภวัฒน์มาที่ซานโตรินี เพราะอยู่ห่างจากพ่อแม่เขา และใกล้เขามากที่สุด
เขาตั้งใจจะไปหาศุภวัฒน์ที่ห้องพักอีกครั้ง ถ้าเขาไม่อยู่ กรินทร์อาจจะต้องรีบมาหาพลอยทิพย์ทันที เขากลัวว่าเธอจะหายไปอีกคน เขาจะต้องลำบากใจเป็นแน่แท้...
******
ร่างหนายังคงโยกไหวอยู่ต่อเนื่อง มิให้หญิงสาวต้องรอหรือขาดห้วงจากอารมณ์ที่ก่อตัว พลอยทิพย์ครวญครางตลอดทุกๆ การจู่โจมจากศุภวัฒน์เสียริมฝีปากบางสั่นระริก ร่างเธอถูกกระแทกเสียสั่นสะท้านไปทั่วกาย ขนลุกตั้งชันหลั่งไหลน้ำแตกทะลักเมื่อถูกกระแทกหนักๆ
“รักผม..มั๊ย?” ศุภวัฒน์ยังคงถามต่อเนื่อง เธอไม่ตอบแต่กลับยอมถ่างขาปล่อยให้เขาแทรกตัวกระแทกหนักหน่วงมาแบบนี้ เขาอยากได้ยินจากปากเธอ ทั้งๆ ที่บอกรักเธอไม่รู้เท่าไหร่ เขาตัดสินใจดีแล้วที่ได้พูดออกไป
หญิงสาวอ้าปากหายใจครางแทนที่จะพูดออกไป ทำให้ศุภวัฒน์ตัดสินใจกระชากความเป็นชายออกมา สองมือหนาจับเธอพลิกคว่ำ เขาจะกระแทกเธอต่อไป จนกว่าเธอจะยอมพูด...
ร่างบางสั่นไหวหมดแรงต่อต้าน ถูกจับถ่างขาโก่งโค้ง คุกเข่าชันให้สะโพกอยู่ในองศาของการโจมตีจากความเป็นชายเบื้องหลัง สองแขนแทบจะหมดแรงค้ำกายเบื้องบน ทำให้เสียงของเธอกรีดร้องอยู่บนหมอน และร่างบางยังถูกกระแทกรุนแรง กระทุ้งกับผนังมดลูกเนืองๆ
ขนาดก็มิใช่เล็กๆ รัศมีกว่าสี่นิ้ว และยาวกว่าเกือบแปดนิ้ว เธอรู้สึกว่าร่างกายจะปริแตกอีกครั้ง หลังจากสูญเสียครั้งแรกกับกรินทร์ไป ทั้งเสียวรู้สึกดีสุดๆ และเจ็บจุกแน่นท้องจนหายใจไม่ออก แต่ยิ่งเขากระแทกน้ำหนักแรงๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้เดินทางสู่สรวงสวรรค์ ร่างบางเบาราวกับล่องลอยได้แม้ยังมีชีวิตอยู่
******
ระหว่างการร่วมเพศกับเพื่อนรักสามีที่ร้อนแรง เธอหลงใหลในตัวศุภวัฒน์ และเขาบอกรักเธอล่วงหน้าก่อนวาเลนไทน์อันใกล้ พลอยทิพย์รู้สึกดีเหลือเกิน ไม่เคยรู้สึกเป็นอิสระแบบนี้มาก่อน หลังจากทำตัวเป็นหญิงสาวที่ดี และสุภาพมาโดยตลอด
ชีวิตของเธอดูดีมาก และได้ชายที่เพอเฟ็คสมบูรณ์แบบอย่างกรินทร์มาเป็นสามี มันยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตแบบไม่มีด่างพร้อย เพียงแค่งานปาร์ตี้สละโสดในคืนนั้น มันก็ทำให้ความคิดของเธอเปลี่ยนไป และได้สนุกกับสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไม่นึกเลยว่าบันนี่บอย จากบาร์โฮสจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของเธอ แล้วเขายังจะมาบอกรักเธอในช่วงฮันนีมูนในกรีซได้อีก เธอลืมเหตุผลทั้งมวลว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร นอกจากเขามาบอกรัก พร้อมมอบดอกกุหลาบให้ และจัดดอกหนักๆ ให้เธออีกในระหว่างนี้
เรือนร่างบางสั่นสะท้านทุกๆ การกระแทกจากศุภวัฒน์ พลอยทิพย์ปล่อยกายปล่อยใจให้หลงระเริงไปกับกามราคะแสนร้อนแรงจากบันนี่บอย รูปลักษณ์แกร่งหน้าท้องแบนราบ กับรอยสักปลาคู่ที่หน้าท้อง มันช่างยั่วใจให้เธอรู้สึกแสนหิว
ในระหว่างนั้นเองที่ประตูห้องเปิดกว้างออกทันที ทำให้กิจกรรมในครานี้หยุดในทันใด ศุภวัฒน์ตกใจมากเสียต้องกระชากองคชาตออกมา มือหนาเขารีบหยิบผ้าห่มคลุมกายพลอยทิพย์เอาไว้ เธอยังคงโก่งโค้งตัวเกร็ง และยังไม่ได้สติ
“นายทำแบบนี้ได้ยังไง ศุภวัฒน์!!!” น้ำเสียงดังลั่นไม่ต่างกับเสียงฟ้าผ่า ปลุกภวังค์เคลิบเคลิ้มของพลอยทิพย์ให้รู้สึกตัว เธอคิดว่าได้ยินเสียงของกรินทร์ที่นี่
เขากลับมาแล้ว... และเธอยังอยู่ในร่างเปลือยกำลังอยู่ในอารมณ์ร่วมรักกับศุภวัฒน์ ไม่ได้ละ...เธอต้องตั้งสติ และพยายามเจรจากับสามี จะหาทางอธิบายกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้อย่างไร...
“นายกลับมาเร็ว!!! นายกำลังเข้าใจผิด” ศุภวัฒน์รู้สึกตกใจจนปากสั่น ดวงตากลอกไปมาไม่รู้จะหาข้ออ้างใดมาเคลียร์กับสถานการ์แบบนี้ มันทำให้เขาตื่นเต้นมากจนหัวใจทำงานหนัก
ร่างกายเปลือยเปล่าอันงดงามกำลังหอบหายใจ กับกิจกรรมที่ค้างคา สวรรค์ล่มกลางอากาศเพราะเขาเกือบจะแตกในใส่พลอยทิพย์แล้ว กรินทร์กลับมาเปิดประตูห้องทันควัน
“เกิดอะไรขึ้น...!!!” พลอยทิพย์พลิกกายโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม และพบสามีมายืนพบเธอในสภาพเปลือยพร้อมๆ กับศุภวัฒน์
“ทำไม...!!! ทำไมคุณสองคนถึง... ทำกับผม...แบบนี้” ดวงตากร้าวของกรินทร์จ้องมองมายังพลอยทิพย์อย่างผิดหวัง เขานึกว่าเธอจะเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา และเป็นคนน่ารักที่น่าคบหา เขารู้สึกผิดหวังในตัวเธอมาก ไม่คิดเลยว่า... เมียแต่งของเขาจะมาอยู่กับศุภวัฒน์ เมียรักของเขา
“กรินทร์... เรื่องนี้ฉันอธิบายนายได้นะ แต่นายต้องตั้งสติฟังฉันก่อนนะ” ศุภวัฒน์กำลังจะพยายามไกล่เกลี่ยกับสามีที่รัก แต่ทว่าท่าทางจิตใจของกรินทร์จะสับสนมาก เมื่อเมียรักและเมียแต่งของเขามาทำอะไรด้วยกัน ในห้องสูทธฮันนีมูนของเขากับพลอยทิยพ์เสียเอง
“กะ...รินทร์...คือว่า...ฉัน...” หญิงสาวนึกอะไรไม่ออกระหว่างจะพูดออกไป คำพูดของเธอจุกในลำคอ ระหว่างที่สายตามองสามีกำลังทำดวงตาปวดร้าว และเขาคงจะโกรธเธอมาก ชีวิตหลังแต่งงานแค่สองวัน ก็พังไม่เป็นท่าเสียแล้ว เพราะเขาพบว่าเธออยู่กับชายอื่น ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาเสียเอง
******
ร่างของสามีหนุ่ม ซึ่งกลับมาจากข้างนอก ค่อยๆ ย่างเท้าเดินมาที่เมียแต่ง เขาโกรธเธอมากจนมือสั่น แค่เขาออกไปข้างนอกเพราะโทรศัพท์บอกเกิดเรื่องไม่ดีของศุภวัฒน์ ใจเขารู้สึกเหมือนถูกหักหลังและโดนหลอกลวง ไม่รู้แน่ชัดว่าแผนนี้ของใครกันแน่...
ดวงตาเขาจ้องมองพลอยทิพย์กับศุภวัฒน์อย่างโกรธแค้น และเขาควรทำอะไรสักอย่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองในใจอันร้อนรุ่มระอุผ่าวทั่วหน้าอก
มือหนาของกรินทร์เงื้อง้างสูง หวังจะฟาดมันลงบนหน้าของแก้มนวลๆ เพื่อตบตีพลอยทิพย์ และเพื่อสั่งสอนว่าเขาคือผัวของเธอ
หญิงสาวคิดว่าเธอจะต้องถูกฟาดเข้าที่หน้าแรงๆ เธอต้องหน้าหันแน่ๆ ดวงตาสุกใสกลมโตหลับสนิทแน่น ขอให้เขาลงโทษเธอแรงๆ ขอให้เขาจงเกลียดจงชังเธอ ขอให้เขาหย่ากับเธอ เพื่อให้การผูกมัดครั้งนี้ได้หลุดพ้นไป...แต่ทว่า...
เสียงฟาดลงบนเรือนหน้าดังสนั่นก็จริง แต่กลับเป็นเรือนหน้าหนุ่มของศุภวัฒน์ที่เข้ามารับแทน เขาปกป้องเธอจากกรินทร์ มันทำให้กรินทร์เริ่มสงบใจลงบ้าง เมื่อเมียรักมาปกป้องเมียแต่งของเขา
“นายไม่น่าทำแบบนี้กับฉันเลย มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน นายกับทิพย์รู้จักกันมาก่อนได้ยังไง” กรินทร์เริ่มจะลดแรงอารมณ์โกรธหลังจากฟาดมือลงบนแก้มของศุภวัฒน์ เขาไม่เคยตบตีรุนแรงกับเมียรักเลย แต่ครั้งนี้มันทำให้เขารู้สึกเจ็บใจตัวเองมาก
“ฉันรักนายนะ กรินทร์ แต่ฉันก็รักพลอยทิพย์เหมือนกัน นายควรจะอารมณ์เย็นกว่านี้นะ” แววตามั่นคงหันมาสบตาปะทะกับกรินทร์โดยตรง เขาพูดจากใจและอยากให้กรินทร์เข้าใจความรู้สึกของศุภวัฒน์ด้วย
เรือนร่างสูงใหญ่หนาประจันหน้ากับเมียรัก กายหนาสั่นไหวแทบจะทรุดเข่าอ่อน แต่เขาย่างก้าวเข้ามาผ่านเลยพลอยทิพย์โดยไม่แยแส เขาสวมกอดศุภวัฒน์แนบแน่น พลางหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจ เขารักศุภวัฒน์มากกว่าพลอยทิพย์ซึ่งแต่งงานกันไม่กี่วัน
ทำให้หญิงสาวค่อนข้างจะสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพวกเขาถึงบอกรักกันเสียเอง และเธอก็เป็นหญิงสาวของพวกเขาทั้งสองคนเช่นกัน
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ฉันสับสนไปหมดแล้ว” น้ำเสียงหญิงสาวเกริ่นขึ้นมาพลางค่อยๆ พาร่างตัวเองลงจากเตียง เพื่อควานหาชุดดินเนอร์วันนี้มาสวมใส่ตามเคย แววตาของเธอมองพวกเขาไม่เหมือนเดิม มันให้ความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อน และมากกว่าผู้ชายจะสวมกอดกัน
******
กรินทร์ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาเป็นห่วงเมียรักมาก เขาไม่น่าตบหน้าศุภวัฒน์เลยบ มือหนาที่ตบตีเมียรักยกขึ้นมาตบหน้าตัวเอง เพื่อลงโทษว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้ มันทำให้แววตาของศุภวัฒน์เริ่มสงสารสามีที่รักมาก ถึงกับคว้ามือหนานั้นเอาไว้ เพื่อลูบแก้มที่โดนตบเมื่อสักครู่
เรือนแก้มแกร่งราบเรียบ ถูกประคบด้วยนวลมืออุ่นของกรินทร์ แววตาของพวกเขาสองคนจ้องมองกัน ราวกับจะกลืนกันและกัน ทำให้พลอยทิพย์รู้สึกหัวใจเต้นแรงกับภาพเบื้องหน้า พวกเขาสองคนรักกันเพียงนี้ ทำไมถึงปล่อยให้กรินทร์คบหาและแต่งงานกับเธอ และเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอและเขา... ทั้งที่บ้านและเช้าหลังวันแต่งงานวันแรก...
“อย่าโกรธพลอยทิพย์เลยนะ วันนี้ฉันโกหกนายเอง ว่าเข้าร.พ. ฉันแค่ชอบและรักเมียแต่งนาย ฉันขอโทษนะ กรินทร์” ศุภวัฒน์สารภาพผิดกับสามีที่รัก เขายอมรับผิดทั้งหมดเอง เพราะเขาต้องการเธอจริงๆ
“ไม่นะ... ไม่... มันเป็นความผิดพ่อแม่ฉันเอง นายอย่ามาขอโทษฉันเลยนะ ถ้าพวกเขาไม่มายุ่ง ทิพย์จะไม่ต้องมาลำบากใจแบบนี้ คนที่ควรขอโทษ ควรจะเป็นผมเอง... ที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นมาแบบนี้” กรินทร์รู้สึกเสียใจมาก เขาไม่เคยทำร้ายศุภวัฒน์เลย นอกจากร่วมรักทางทวารและตบก้นเขาให้มันมือ
“นี่มันหมายความว่ายังไง!! ช่วยอธิบายให้หน่อยได้มั๊ยคะ? ทำไมคุณไม่โกรธฉัน...” พลอยทิพย์รู้สึกว่า เธอต้องพลาดเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป เรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับพวกเขาสองคน เรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้ นอกจากพวกเขาเท่านั้น!
ชายหนุ่มทั้งสองคนหันเรือนหน้าไปทางพลอยทิพย์ด้วยกัน เธอยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับดวงตาที่มองมายังพวกเขาราวกับหัวใจแทบแตกสลาย เรียวริมฝีปากบางแห้งผาก กำลังสั่นระริกกับภาพตรงหน้า พวกเขารักกันมากกว่าเธอจะเข้าใจ
มากกว่าคำบอกรักของกรินทร์ และอาจจะมากกว่าคำสารภาพรักจากศุภวัฒน์ พร้อมกับร่วมรักกับเธอจนกระทั่งกรินทร์เข้ามาขัดขวางเมื่อสักครู่... เธอพลาดอะไรไปรึ...
“ทิพย์!! ศุภวัฒน์เป็นเมียผม และผมต้องปกป้องเขาจากพ่อแม่... ผมไม่คิดจะแตะต้องคุณก่อนแต่งงาน แต่ว่า... ผมแค่อยากให้แน่ใจว่า คุณไม่ได้เป็นผู้หญิงถเลถไลหรือชะนีที่ใจง่าย คุณเป็นคนที่แสนดี เสียผมอยากจะปฏิบัติให้ดีกับคุณ...” น้ำเสียงของกรินทร์ขาดห้วงไป เมื่อนึกถึงภาพเมียรัก กำลังเย่อกับเมียแต่งอย่างออกรส เขารู้สึกหึงหวงมาก
“อะไรนะ?” เธอพยายามคิดว่าเธอฟังผิดไป นี่เธอกำลังแต่งงานอยู่กับใคร? ชายที่เพอเฟ็ค หรือพวกแอบเกย์รักร่วมเพศ เธอไม่นึกเลยว่า เขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเธอได้ลงคอ...
“พลอยทิพย์... ได้โปรดฟังผม!” ศุภวัฒน์ละมือหนาที่ประคบเรือนหน้า หลังจากได้ปะทะกับความเจ็บปวด แทบหน้าสั่น ศีรษะมึนงง เขาอยากให้กรินทร์ลงโทษเขา มากกว่าไปลงกับพลอยทิพย์ เธอไม่รู้อะไรเลย นอกจากสิ่งทีเกิดขึ้นตั้งแต่คืนปาร์ตี้สละโสดของเจ้าสาว มันเป็นแรงปรารถนาของเขาทั้งหมดเอง
แววตากลมสุกใสเริ่มสั่นเครือ น้ำตาใสๆ เริ่มเอ่อออกมา ล้นขอบดวงตาที่สวยงามแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างดี นี่พวกเขาทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง... ทำไมถึงทำกันได้ลงคอ... หัวใจหญิงสาวรู้สึกแตกสลาย เมื่อพบว่า สามีที่รักและชายที่หลงใหล พวกเขารักกันและอาจจะมากกว่าที่เธอคิด จนไม่อยากจะนึกภาพของชายเปลือยกายสองคน ร่วมรักกันอยู่...
“ผมรักกรินทร์ก่อนคุณมาหลายปีแล้ว เรามีความสุขกันมากจนกระทั่ง...” เขายังอธิบายไม่หมด พลอยทิพย์ต่อท้ายเองหลังจากเริ่มจะสานเรื่องเข้ากันได้แล้ว
“พ่อแม่ฉันและพ่อแม่เขา... และทุกอย่างก็ผ่านมาด้วยดี... และงานเลี้ยงนั้นเพราะเพื่อนสนิทของฉันเอง... ฉันคนเดียวสินะ ที่ไม่รู้อะไรเลย คิดวาดฝันว่าทุกอย่างจะสวยงาม... ทุกอย่างจะแฮปปี้ลงเอยด้วยดีทุกอย่าง ฉัน... ฉัน...” พลอยทิพย์ไม่รู้จะเอ่ยอะไรต่อได้อีก มันแน่นหน้าอกจุกลำคอเธอเสียจนไม่อยากจะเอ่ยอะไรอีกแล้ว
พลอยทิพย์อยากกลับบ้าน และไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว แทนที่มันจะเป็นสวรรค์สำหรับดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับกรินทร์ แต่เธอก็สับสนตั้งแต่เผลอตัวเผลอใจร่วมรักกับบันนี่บอย และคิดว่าทุกอย่างจะจบลงในงานเลี้ยงสละโสดคืนนั้น
แต่เปล่า... เรื่องวุ่นวายยังคงตามหลอกหลอนเธอได้อีก เมื่อบาร์โฮสบันนี่บอย กลายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของเธอ แล้วเขาก็ยังเป็นเมียรัก...ทำไมเจ้าบ่าวถึงได้หน้า...
หญิงสาวไม่อยากจะต่อว่าอะไรอีกแล้ว เธอเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว คงจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก.. .ตั้งแต่เรื่องการจัดหาคู่หมั้น และแต่งงาน ทุกอย่างเป็นแผนการของพ่อแม่มาโดยตลอด...
******
ความเงียบเข้าครอบงำ ทำให้พวกเขาสามคนต้องมองหน้าจนไม่กล้าจะเอ่ยอะไรอีก... กรินทร์ไม่ต้องการสูญเสียศุภวัฒน์ ถึงจะมารู้ทีหลังว่าพลอยทิพย์มีอะไรกับศุภวัฒน์ เขาไม่แคร์เรื่องเล็กๆ แค่นี้ เขาต้องการให้ศุภวัฒน์ยังอยู่กับเขา
บันนี่บอย บาร์โฮสรูปหล่อ ผู้มีรอยสักปลาคู่อยู่ที่หน้าท้อง และเขายังมีเพียงแค่ผ้าขนหนูพันกายช่วงล่าง เขาไม่อยากผิดใจกับกรินทร์ และไม่อยากถูกพลอยทิพย์เกลียดชัง แต่แววตาเธอฉายความเจ็บปวดออกมาจนเขารู้สึกเจ็บใจไปด้วย
หญิงสาวร้องไห้น้ำตาไหลอาบสองแก้ม เธอเสียใจมาก เมื่อสามีที่รักไม่ใช่ชายแท้ และบันนี่บอย กลายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ที่บอกรักเธอบ่อยมาก และมากกว่ากรินทร์ ซึ่งเป็นสามีแท้ๆ เธอรู้สึกตัดสินใจไม่ถูก... ว่าควรจะจบเรื่องนี้อย่างไรดี
“เราหย่ากันเถอะค่ะ กรินทร์... ฉันรับสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ อีกต่อไปแล้ว” หญิงสาวเอ่ยออกมา เพื่อจบเรื่องสับสนวุ่นวายนี้ให้หมดปัญหา
เธอเผลอทอดกายกับเกย์ที่สามารถมีอะไรได้กับชายและหญิง แต่เธอไม่สามารถทนมีชายหนุ่มสองคนพร้อมกันไม่ได้จริงๆ พ่อแม่เธอจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็สามี อีกคนหนึ่งก็ชายที่หลงใหล เธอกลายเป็นหญิงสองใจไปเสียแล้ว...
“ไม่ได้นะ ถ้าผมหย่ากับคุณ ทุกอย่างจะพังทั้งหมด ผมจะถูกบังคับให้เลิกกับศุภวัฒน์ และสูญเสียคุณ อย่าจากผมไปเลยนะ ผมขอร้องล่ะ ทิพย์!!!” กรินทร์คิดว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเธอ หากทิพย์พูดเรื่องนี้กับพ่อแม่แล้วล่ะก็... เขาจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างทันที หลังจากพยายามอดทนรักษามันมาเป็นเวลานาน
“คุณใจร้าย!!! คุณใจร้ายกับฉันมาก ทั้งสองคนเลย... มันแย่มาก!!!” พลอยทิพย์รู้สึกเป็นฝ่ายโกรธเสียเอง เธอกำลังจะได้ขึ้นสวรรค์ ยามเมื่อได้ร่วมรักกับศุภวัฒน์ลับหลังสามี แต่แล้วเขาก็กลับมา... มันมิใช่เรื่องผัวโกรธเมียนอกใจ แต่มันเป็นเรื่องของชายสองคนที่รักกันก่อนเธอ และพวกเขายังเคยได้อึ๊บกับเธอ อย่างออกรสเร่าร้อนได้อีก...
เธออยากเกลียดตัวเอง เกลียดที่กลายเป็นเครื่องมือต่อรอง เกลียดที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เกี่ยวกับกรินทร์และศุภวัฒน์ พลอยทิพย์รู้สึกไม่อยากเห็นหน้าพวกเขาทั้งสองคนอีกตลอดชาตินี้!!
“พลอยทิพย์!!! ได้โปรดสงบสติอารมณ์และฟังผม...ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ผมรักคุณนะ ได้โปรด...” ศุภวัฒน์พยายามปลอบประโลมหญิงสาว แต่ช้าไปแล้ว พลอยทิพย์ฟิวส์ขาดและโกรธขึ้นมาแทนหลังจากสวรรค์ในความฝันของเธอล่มสลาย
“ไม่... ไม่อีกแล้ว... ไม่ !!! ไม่!!! อย่ามาห้ามฉัน อย่ามาขอร้อง... พอกันที!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ” หญิงสาวโกรธจัดแทบหัวเหวี่ยงเดินละห่างจากศุภวัฒน์ ปัดมือเขาออกไปให้ห่างกาย แม้กรินทร์จะเข้าไปห้ามมิให้เธอเดินออกจากห้อง
เรี่ยวแรงมากมายมหาศาลจากฤทธาแห่งความโกรธ ทำให้พลอยทิพย์ผลักกรินทร์ซึ่งพยายามเข้ามาขวางกระเด็นไกลออกไป โดยไม่แยแสมองเหลียวหลัง เรือนร่างบอบบางเริ่มแข็งแกร่ง จนชายหนุ่มทั้งสองคนต้องตกตะลึง
หญิงสาวคว้ากระเป๋าส่วนตัว และหนังสือเดินทาง เพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ พวกเขาคิดว่าเธอคงจะกลับเมืองไทยทันที หลังจากยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้
“เราจะทำยังไงกันต่อดี... ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ เลย” ศุภวัฒน์เริ่มวิตกกังวล ว่าพลอยทิพย์จะทำอะไรที่เป็นผลเสียกับพวกเขาทั้งสองคน
“สวมเสื้อผ้า แล้วเรารีบเก็บของเดินทางตามทิพย์กลับกันเถอะ ศุภวัฒน์!! นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกัน เราจะต้องตามทิพย์กลับมานะ จะให้เธอไปทำเรื่องหย่ากับผมไม่ได้ ชีวิตนายสำคัญต่อฉันมาก”
กรินทร์ออกความเห็นหลังจากไม่เคยเห็นเมียแต่งออกฤทธิ์โกรธได้มากเพียงนี้ เขาจะต้องหาทางควบคุมเธอ และทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาให้ได้ เขาจะต้องปกป้องศุภวัฒน์จากพ่อแม่ และจะต้องทำให้พลอยทิพย์กลับมาคืนดีกับเขา
******
ตั้งแต่เกิดเรื่อง พลอยทิพย์รู้ความจริงของกรินทร์และศุภวัฒน์ เธอหายไป... ปิดเครื่อง ปิดเฟสบุ๊ค ไม่อัพเดทไลน์ หรือแม้กระทั่งติดต่อกับเพื่อนสนิทสาวทั้งหกคนกรินทร์กับศุภวัฒน์กังวลใจมาก เธอหนีไปจากพวกเขาเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่อารมณ์ก็โกรธหัวเหวี่ยงได้ขนาดนั้น พลอยทิพย์ไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่ กรินทร์ไปตามทุกหนทุกแห่งแม้กระทั่งบ้านญาติของเธอที่เขารู้จัก พลอยทิพย์ก็ไม่ได้อยู่ที่นั้นเขาถูกบรรดาเครือญาติของพลอยทิพย์ถามถึงว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า กรินทร์ตอบอะไรไม่ออก นอกจากว่าติดต่อเธอไม่ได้ เลยมาถามหา ส่วนทางบ้านของพลอยทิพย์คิดว่าให้แจ้งความ เผื่อว่าเธอจะมีเหตุร้าย... กรินทร์คิดว่าขอเวลาเขาตามหาเธอเองดีกว่า เผื่อจะไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ ก็เป็นได้ศุภวัฒน์พยายามคุยกับเพื่อนสนิทของพลอยทิพย์ เท่าที่เขาจะตามได้จากเบอร์โทรของณมน“พลอยทิพย์ติดต่อมารึเปล่าครับ?” ศุภวัฒน์โทรถามณมนโดยตรง“พวกเราไม่ได้พบเธอเลยนะ ไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันแต่งงานกันแล้ว ทิพย์ไปฮันนีมูนกับกรินทร์มิใช่รึ? พวกเขามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” น้ำเสียงของณมนกล่าวถาม เพราะพวกเธอก็รู้สึกแปลกๆ ว่าพลอยทิพย์ไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก
เมื่อร่างบางยืนช้อนแขนไว้หน้าท้อง พร้อมอีกมือถือแก้วไวน์ สายตากลมสุกใสมองออกไปนอกระเบียงในยามราตรี ในความคิดของเธอกำลังไตร่ตรองเรื่องของกรินทร์คืนนี้ ไม่ต่างกับคืนแต่งงานที่ต้องละวางเรื่องร่วมรักพลอยทิพย์ถอดถอนหายใจอย่างอ่อนเพลีย และเมื่ออยู่เพียงลำพังทำให้ศัตรูทางความคิดเริ่มมาก่อกวน เงาหน้าจางๆ ของศุภวัฒน์มาป่วนจิตใจเธออีกแล้ว เขาอาจจะเป็นเพียงแค่ฝันดีสำหรับเธอก่อนวันแต่งงาน และกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อเธอรู้ว่าเขาคือเพื่อนเจ้าบ่าว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอแบบนี้ ยิ่งครุ่นคิดมากเท่าไหร่ แก้วไวน์ในมือก็อยากจะกระดกกรอกลงคอตัวเองให้หมดแก้วในคราวเดียว ดวงตาสุกใสถูกปิดด้วยเปลือกตาอีกครั้ง ก่อนเรือนริมฝีปากเจ่อคู่งามจะ อ้าปากผ่อนปรนระบายแอลกอฮอร์ในลำคอแผ่วออกมาเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างสุภาพสามครั้ง ปรากฏเงาใต้ประตูบานนั้นทำให้หญิงสาวได้สติอีกครั้ง หันกายมามองดูบานประตูด้านนอกห้อง เปลือกตาคู่สวยเปิดกว้างเพื่อให้พลอนทิพย์สังเกตได้ชัดๆ ว่ากรินทร์กลับมา หรือมีใครอื่นมาเคาะ... เธอคิดว่ากรินทร์อาจจะกลับมาเร็วก็ได้ จึงก้าวเท้าไปพลางวางแก้วไวน์เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นระยะๆ
พลอยทิพย์เผลอหลับไประหว่างนอนรอกรินทร์กลับมา เธอไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ไปทำธุระสำคัญอะไร ภายในความมืดมิดที่เงียบสงบ พลอยทิพย์ยังคงหลับใหลอยู่โดยไม่รู้สึกตัวเพียงบางเสียงดังขึ้น เมื่อประตูห้องเปิดออก ปรากฏร่างในเงามืดค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า เสียงแผ่ว เงาหนาซึ่งเป็นเรือนร่างของชายหนุ่มก้มหน้ามองดูหญิงสาวนอนหลับลึกชายในเงามืดมิได้เปิดไฟ เขาค่อยๆ ถลกเสื้อนอกออก และค่อยๆ เปลื้องผ้าจนเหลือเพียงตัวเปลือยเปล่า เขาเหนื่อยเกินกว่าจะร่วมรักกับพลอยทิพย์ จึงทำได้เพียงแค่หย่อนก้นลงขอบเตียง ค่อยๆ เปิดผ้าห่มเบามือที่สุด พลางสอดตัวเข้าไปนอนสวมกอดเธอพลอยทิพย์รู้สึกตัวเล็กน้อย เหมือนมีอะไรมาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ดวงตาค่อยๆ กะพริบตาถี่ๆ ปรือตื่น พยายามลืมตามองข้างๆ ว่ากรินทร์กลับมาแล้วใช่รึเปล่า... เธอพบว่าเขานอนหลับไป ราวกับคนเหน็ดเหนื่อยมามาก บางทีธุระของเขาอาจจะทำให้เขาไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในคืนนี้ต่อไปได้“ฝันดีนะ ทิพย์” น้ำเสียงนวลนุ่มของกรินทร์กล่าวกับเธอก่อนจะหลับตาลง และนอนหลับไปอย่างเหนื่อยล้า หญิงสาวยิ้มหวานและสวมกอดสามีภายใต้ผ้าห่ม แทนที่จะได้มีการร่วมรักสืบพันธ์“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ที่รัก
พิธีแต่งงานได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมด้วยขบวนเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวขนาบอยู่ไม่ไกลมาก รวมไปถึงแขกผู้มีเกียรติมากมายต่างตรบมือต้อนรับยินดีกับคู่บ่าวสาวท่ามกลางการแสดงความยินดีของผู้คนมากมาย อวยพรให้แก่กรินทร์และพลอยทิพย์ ต่างเป็นช่วงเวลาสาธารณะและเชื้อเชิญให้ทุกๆ คนร่วมรับประทานอาหาร และสนุกกับแสงสีเสียง เพลงบรรเลงบรรยากาศอบอุ่นกรินทร์มอบแหวนอันเลอค่า สวมใส่ในนิ้วนางของพลอยทิพย์ พลางหอมแก้มเธอประโลมหวานด้วยคำบอกรัก ต่อหน้าสาธารณะชนมากมาย เสียงยินดีโห่ร้องกึกก้องจากเพื่อนเจ้าสาว ส่งเสียงร่วมแสดงความยินดีกับพลอยทิพย์มากมายแค่ไหนแต่ภายในจิตใจของหญิงสาวกลับรู้สึกข่มขืน เมื่อแววตาของเธอมองสบกับกรินทร์แล้ว เพียงแวบหนึ่งเมื่อเขาละสายตาเธอ ดวงตากลมใสเป็นประกายเหลือบมองข้ามเจ้าบ่าวของตัวเอง สบตากับศุภวัฒน์พอดีเพื่อนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรินทร์ ต้องรีบหันกายเลี่ยงหนี เกรงว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่า เจ้าสาวแสนสวยแอบปันใจให้เขา แม้ว่าศุภวัฒน์จูบเธอก่อนกรินทร์จะสวมแหวนแต่งงานให้พลอยทิพย์ไปก่อนล่วงหน้านี้... เขาเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ฝืนยิ้มปรบมือร่วมยินดี ราวกับอุปทาหมู่ กับธีมเพื่อนเจ้าบ่า
ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา พลอยทิพย์มิได้พบกับกรินทร์อีกเลย นับตั้งแต่วันนั้นที่เสียความบริสุทธิ์ไป เธอไม่ค่อยได้คิดถึงกรินทร์ แต่กลับคิดถึงบันนี่บอยที่แสนหวาน เขาทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวมากมายเพียงใด ทำให้เธอลืมความคิดถึงกรินทร์ไปเสียสนิทหญิงสาวค่อนข้างซึมเศร้า และไม่เป็นอันกินอันนอน เธอยังเฝ้าถามตัวเองว่าการแต่งงานกับกรินทร์ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วรึ การหมั้นหมายซึ่งฝ่ายผู้ใหญ่จัดหามาให้ และเธอกับกรินทร์ก็เข้ากันได้ดี เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็ค มีหน้าที่การงานดี รูปลักษณ์ดี บุคลิกดี มีอัธยาศัยดี เขาเป็นผู้ชายที่ใฝ่ฝันของเหล่าสาวๆ ทั้งปวงแม้เพื่อนสาวแสนสนิททั้งหก ได้พบกับกรินทร์ครั้งแรก พวกเธอยังอยากจะอ่อย ทำนกใส่เพื่อทำให้กรินทร์หวั่นไหว แต่เขายังมุ่งมั่นที่จะมีเพียงพลอยทิพย์ รอวันที่ดี และเรื่องราวดีๆ กับครั้งแรกของเธอกับเขาพลอยทิพย์ล้มตัวลงนอนบนเตียงเดี่ยวขอตัวเอง นอนกอดหมอนข้าง ดวงตากลมสวยเหม่อมองเพดาน เธอยอมรับว่ารักในความดีของกรินทร์ แต่เธอกลับไปคิดถึงชายอื่น ซึ่งพบกันแค่ไม่กี่ชม. ร่วมรักกับเขาอย่างเร่าร้อน มันช่างเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ และยอดเยี่ยมมากเพียงแค่คิดถึง หญิงสาว
กางเกงในตัวจิ๋วสีชมพูตัวเล็กๆ ยังถูกเกี่ยวดึงให้หลุดจากเรือนขาเรียวบางทั้งสอง มือหนาทั้งสองจับสะโพกเธอตั้งชัน เพื่อปล่อยให้ช่วงล่างของเธอลอยตั้งให้ได้ตำแหน่งหญิงสาวรู้สึกเลือนรางว่าถูกจัดท่าให้ถ่างขาออก จะอะไรตอนนี้ก็ช่าง เธอรู้สึกเร่าร้อนและอารมณ์แปรปรวนอย่างบอกไม่ถูก กระวนกระวายและอึดอัด รู้สึกไม่สบายตัวไปเสียหมดบางอย่างที่นวลนุ่มเปียกฉ่ำ กำลังตวัดรัวๆ ใกล้ยอดเม็ดแข็ง และสองแขนแกร่งกำลังเกาะเรือนต้นขาของเธอเอาไว้แน่น บันนี่บอยนอนหงาย สอดกายช่วงบนเข้าไปใต้ร่างของเธอช่วงล่างพลางใช้ลิ้นเลียของหวานใต้ร่างของเธอซึ่งตั้งชันหัวเข่ายกช่วงล่างลอยสูง พลอยทิพย์รู้สึกดีสุดๆ เคลิบเคลิ้มเหม่อลอยเพลิดเพลินจนเสียวตัวเกร็ง และหลงระเริงไปกับอารมณ์มากมาย ซึ่งบันนี่บอยกำลังปรนเปรอให้แก่เธอ“อ้า!!! ...” พลอยทิพย์ครวญครางอย่างลืมตัว เธอรู้สึกดีอีกครั้งแบบเดียวกับกรินทร์ มันทำให้เธอลืมตัวไปเสียสนิทว่า ยามนี้เธอมิได้มีอะไรกับกรินทร์ และกำลังอยู่กับบันนี่บอย ของขวัญสุดพิเศษจากเพื่อนเจ้าสาวมอบไว้ให้...บันนี่บอยรู้สึกชอบและใช้ลิ้นตวัดโลมเลียเจ้าสาวซึ่งคร่อมร่างเหนือศีรษะเขา มันเป็นอารมณ์ที่วิเศษสุด เพราะเ