Share

6 - ชอบกลิ่นนี้

last update Last Updated: 2025-10-14 13:49:27

ชอบกลิ่นนี้

“ถ้าฉันพูดออกไป แล้วนายจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า อีกอย่างนายจะไม่ต่อว่าไม่โกรธฉันใช่ไหม แล้วนายจะไม่คิดว่าฉันใส่ร้ายเมย์เหรอ” เธอลองถามดูเชิงขึ้นมาก่อน เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนมาก เธอก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเท่าไหร่นัก

“ก็ลองเล่ามาก่อนสิ” ตอนนี้เขามีท่าทีที่ดูปกติ ไม่ได้แสดงกิริยาอะไรออกมา เหมือนคนที่กำลังอกหักอยู่ก่อนหน้านั้นเลย

“นายเป็นแฟนกันกับเมย์ แล้วที่นายดื่มจนเมาแทบไม่มีสติแบบนี้ ก็เพราะถูกเธอหักอกมาใช่ไหม” ปาณิศาจึงสรุปได้ทันที ว่าที่เขาเมาแทบไม่ได้สติแบบนี้คือคงจะมีปัญหากันแน่นอน ถ้าเธอคิดไม่ผิด

“ทำไมพี่ถึงรู้ อาการผมมันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามเธอกลับไปทันที เมื่อเธอพูดเหมือนกับว่ารู้อะไรมาสักอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องของเขา

ปาณิศามีท่าทางลำบากใจขึ้นมา จึงหันไปมองหน้าเขา เมื่อเขาพยักหน้าบอกให้เธอเล่าออกมา เธอจึงจอมเล่าต่อ

“คือ...ฉันเห็นแฟนนาย เอ่อ เมย์มาเที่ยวกับหนุ่มวิศวะเกือบทุกครั้งที่ฉันไปดื่มกับเพื่อนที่่นั่น” เธอจึงตัดสินใจเล่าบอกเขาต่อ ก็ในเมื่อเล่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องไปให้สุด

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่พี่เจอพวกเขาอยู่ด้วย” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

“เกือบปีได้มั้ง ฉันก็คิดว่าเขาสองคนเป็นแฟนกันเสียอีก แต่ใครจะไปรู้ว่านายจะเป็นแฟนกันกับเมย์” เธอบอกเขาออกไปตามตรง เพราะเธอก็เข้าใจผิดมาตั้งนาน ว่าดาวคณะนิเทศกำลังคบหาอยู่กับหนุ่มฮอตวิศวะ

“หึ...แสดงว่าแอบคั่วกันลับหลังผมมาโดยตลอด ผมนี่มันโง่จริง ๆ” ชนาวิชญ์แค่นหัวเราะเยาะออกมาทันที เมื่อเริ่มประติดประต่อเรื่องราวที่ผ่านมาตามคำบอกเล่าของปาณิศา และท่าทีของหญิงคนรัก ที่แสดงออกกับเขา แล้วก็ต้องรู้สึกสมเพชตัวเองออกมา ที่ถูกสวมเขามาได้ตั้งนาน

เขาเชื่อใจและให้เกียรติเธอมาตลอด นาน ๆ ครั้งจะไปหาเธอที่คอนโดฯแต่ก็ไม่ค่อย และก็ไม่เคยค้างกับเธอ เพราะกลัวว่าคนจะมองเธอไม่ดี แต่เธอกลับทำอะไรต่ออะไรลับหลังเขามาตลอด

“นายยังโอเคอยู่ไหมวิชญ์” เธอได้แต่แตะไหล่เขาอย่างปลอบประโลม ก่อนที่จะถามขึ้น

“โอเค ผมไม่เป็นอะไรมากหรอก ผมนี่ไม่เอาไหนเลย ชีวิตที่เอาแต่ทำงานจนไม่เคยรู้อะไร ถ้าไม่บังเอิญไปเห็นเองกับตา ก็คงถูกหลอกไปตลอด แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรจะไปสู้ผู้ชายคนนั้นได้อยู่แล้ว...” ชนาวิชญ์พูดขึ้นอย่างตัดพ้อ และพยายามทำตัวให้สบายขึ้นยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ เพราะคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ของเขาคงจะไปไม่รอดแน่ และวันนี้ก็มาถึงจริง ๆ

“ฉันถึงอยากชวนนายไปทำงานกับฉันนี่ไง ลองดูสักตั้งน่ะวิชญ์ นายไม่อยากเห็นคนที่นายรัก ครอบครัวของนายสุขสบายเหรอ ไปทำงานเบื้องหลังดูก่อน เผื่อโชคชะตาเข้าข้าง นายได้เป็นซุปตาร์ดังขึ้นมาใครจะไปรู้” ปาณิศาหว่านล้อมเขาขึ้นมา เพราะอยากเห็นเขามีหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ ไม่อยากให้เขารับงานพาร์ทไทม์อดหลับอดนอนกลางคืนแล้วตอนเช้าไปเรียนนั่งหลับในห้อง

“ผมกลัวว่าตัวเองจะทำไมได้” ชนาวิชญ์รีบถ่อมตัวทันที เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีความสามารถในทางด้านนี้เลย แถมตัวเองยังเป็นคนขี้อายเสียด้วยซ้ำ

“ฉันเห็นความตั้งใจของนายน่ะวิชญ์ ฉันเชื่อว่านายต้องทำได้ พรุ่งนี้ไปดูงานที่กองถ่ายกับฉันน่ะ นายว่างตอนไหนก็บอก เดี๋ยวฉันไปรับที่มหา’ลัยเองน่ะ” เธอเอ่ยขึ้นมาอย่างให้กำลังใจ เพราะเธอเคยเห็นการทำงานของเขาแล้ว ว่ามีศักยภาพมากแค่ไหน

ในสายตาของเธอ ชนาวิชญ์คือผู้ชายที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ถ้าไม่เอาเรื่องฐานะมาเปรียบ คือมีความรับผิดชอบสูง ถึงแม้ว่าจะทำงานดึกมากแค่ไหน แต่เขาไม่เสียการเรียนเลย

“...” เขาพยักหน้ารับให้กับเธอ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

“ถ้านั้นฉันไปนอนแล้วนะ” เธอเอ่ยบอก และกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อนสิพี่ปลา” แต่ถูกเขารั้งเอาไว้เสียก่อน

“มีอะไร?” เธอเลิกคิ้วถามเขากลับไปอย่างสงสัย เพราะว่าเธอเองก็เล่าบอกเขาออกไปหมดแล้ว แต่เขายังรั้งเธอเอาไว้อีก 

“นอนด้วยกันที่นี่แหละ” เขาพูดเพียงแค่นั้น ก็กระชากร่างบางเข้าหาตัว แล้วทิ้งตัวลงนอน กอดเธอเอาไว้ทันที เพราะขืนช้ากว่านี้ กลัวว่าเธอจะปฏิเสธขึ้นมา

“นี่นาย ว้ายยยย” ปาณิศาร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ ที่่จู่ ๆ เขาก็ดึงเธอลงไปนอนกอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังค้านหลังชนฝาอยู่เลย ว่าชายหญิงอยู่ด้วยกันไม่เหมาะ แต่เขากลับเป็นคนทำเสียเอง

“ผมไม่ทำอะไรพี่หรอกน่า ผมแค่อยากลบกลิ่น” และเอากลิ่นพี่เข้าไปแทน ประโยคหลังเขาได้แต่เอ่ยอยู่ในใจ ไม่รู้อะไรดลใจถึงทำให้เขากล้าที่จะทำแบบนี้ลงไป

หากเกิดว่าเธอมีคนรักแล้ว เขาจะไม่ถูกคนรักของเธอมากระทืบใช่ไหม ที่นอนกอดเธอแบบนี้ แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว เธอไม่น่าจะมีใครหรอก ไม่เช่นนั้นคงไม่พาเขาเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอแบบนี้ เขาขอคิดเข้าข้างตัวเอง และขอเห็นแก่ตัวสักคืนแล้วกัน

“ด้วยการดึงฉันเข้าไปแทนที่เนี้ยน่ะ” เธอบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความน้อยใจ ที่เขาดึงเธอเข้าไปแทนที่คน(อดีต)รักของเขาแบบนี้

ไม่นานนักก็ไม่มีเสียงตอบกลับโต้ตอบอะไร มาจากคนตัวโตอีกเลย นอกเสียจากเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอที่เป่ารดหน้าเธอ นั่นแสดงว่าเขาได้เข้าสู้ห้วงนิทราไปแล้ว

แต่เธอที่ถูกเขากอดเอาไว้นี่สิ มิอาจจะขมตาหลับลงได้ เพราะไม่เคยอยู่ใกล้ชิดหรือนอนกับเพศตรงข้ามมาก่อนเลย นอกเสียจากบิดา แต่ก็ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก เล็ก ๆ อยู่

*

*

*

รุ่งเช้า

ชนาวิชญ์เป็นฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน และก็ต้องพบกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเลย แต่ก็พอจะจำเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนได้ และกลิ่นกายของคนที่เขานอนกอดมาตลอดทั้งคืนนั้นทำให้รู้สึกดีเป็นบ้าเลย เขาชอบกลิ่นนี้จัง มันทำให้เขารู้สึกดีมากเสียจนไม่อยากตื่นเลย แต่ก็ไม่อาจทำตามใจตนเองได้ เพราะหน้าที่ของตัวเองรออยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   6 - ชอบกลิ่นนี้

    ชอบกลิ่นนี้“ถ้าฉันพูดออกไป แล้วนายจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า อีกอย่างนายจะไม่ต่อว่าไม่โกรธฉันใช่ไหม แล้วนายจะไม่คิดว่าฉันใส่ร้ายเมย์เหรอ” เธอลองถามดูเชิงขึ้นมาก่อน เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนมาก เธอก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเท่าไหร่นัก“ก็ลองเล่ามาก่อนสิ” ตอนนี้เขามีท่าทีที่ดูปกติ ไม่ได้แสดงกิริยาอะไรออกมา เหมือนคนที่กำลังอกหักอยู่ก่อนหน้านั้นเลย“นายเป็นแฟนกันกับเมย์ แล้วที่นายดื่มจนเมาแทบไม่มีสติแบบนี้ ก็เพราะถูกเธอหักอกมาใช่ไหม” ปาณิศาจึงสรุปได้ทันที ว่าที่เขาเมาแทบไม่ได้สติแบบนี้คือคงจะมีปัญหากันแน่นอน ถ้าเธอคิดไม่ผิด“ทำไมพี่ถึงรู้ อาการผมมันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามเธอกลับไปทันที เมื่อเธอพูดเหมือนกับว่ารู้อะไรมาสักอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องของเขาปาณิศามีท่าทางลำบากใจขึ้นมา จึงหันไปมองหน้าเขา เมื่อเขาพยักหน้าบอกให้เธอเล่าออกมา เธอจึงจอมเล่าต่อ“คือ...ฉันเห็นแฟนนาย เอ่อ เมย์มาเที่ยวกับหนุ่มวิศวะเกือบทุกครั้งที่ฉันไปดื่มกับเพื่อนที่่นั่น” เธอจึงตัดสินใจเล่าบอกเขาต่อ ก็ในเมื่อเล่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องไปให้สุด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่พี่เจอพวกเขาอยู่ด้วย” เ

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   5 - คนที่เพ้อถึง  

    คนที่เพ้อถึงซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ ชนาวิชญ์ชะงักนิ่ง เมื่อได้ยินชื่อคนที่เขารู้จัก และเป็นคนที่ให้ความเมตตาเขามาตลอด ถึงแม้เป็นเวลาเพียงแค่สั้น ๆ ที่เขาได้ทำงานให้แก่บุคคลนี้ ถือว่าเขามีพระคุณคนหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้“ก็ใช่นะสิ” เธอเสียงยืนยันอีกที“ขอโทษครับ ผมเมามากไปหน่อย...” อาการเมาได้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าคนใต้ร่างที่เขาพยายามทำรุ่มร่ามนี้เป็นใคร ก็รีบขอโทษเธอขึ้นมาทันที อย่างรู้สึกผิด“ลุกขึ้นได้แล้ว ฉันหนักหายใจไม่ออกด้วย” เธอเอ่ยบอกเขาอีกครั้ง เพราะเขายังไม่ยอมลุกขึ้นจากตัวเธอสักที ทั้งที่มีสติแล้ว“หายใจไม่ออก เดี๋ยวผมผายปอดให้นะ” แต่เขากลับแซวหยอกเธอขึ้นมาเสียอย่านั้น พร้อมกับก้มหน้าลงมาหาเธอใกล้ ๆ อีก“ไอ้วิชญ์!!!” เธอขึงตาพร้อมกับตวาดเสียงดุใส่เขา พร้อมกับรวบรวมแรงกำลังที่มี ผลักเขาออกทันที เมื่อเขาเริ่มทำรุ่มร่ามใส่เธออีก แล้วบิดเข้าไปที่สีข้างอย่างแรง“โอ้ยยย...เจ็บน่ะ” ร่างสูงร้องโอดครวญขึ้นมาทันที“เจ็บสะบ้าง จะได้สร่างเมาสักที” เธอต่อว่าเขาออกมาอย่างเหลืออด แล้วลุกขึ้นนั่งจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที“ทำไมถึงพาผมมาที่นี่ล่ะ” ชนาวิชญ์ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อ

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   4 - เมามาย

    เมามายเธอเห็นเขาฟุบแนบลงกับโต๊ะ จึงเรียกให้พนักมาคิดบิล แล้วเธอจึงเข้าไปช่วยพยุงคนร่างสูงออกจากตรงนี้ไปยังรถของเธอที่จอดอยู่ลานจอดรถต่อ“นายเดินให้มันดี ๆ หน่อยสิวิชญ์ ฉันหนักนะ” เธอตำหนิเขาออกไปทันที เมื่อเขาเอาแต่ทิ้งน้ำหนักมาที่เธอ ตั้งแต่ที่เดินออกมาจากโต๊ะแล้ว แต่ยังไม่ถึงลานจอดรถ“จ่มได้แท้ว่ะ เมย์...” (บ่นได้จริง ๆ เลย เมย์...) คนเมาเอ่ยออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดด้วยความหงุดหงิดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แถมยังเปล่งเรียกชื่อหญิงสาวอีกคนออกมาอีก เมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยพยุงร่างของเขานั้นคือผู้หญิง“ช่วยพูดภาษาที่ฉันฟังออกด้วย แล้วฉันก็ไม่ใช่เมย์ของนาย ฉันปลาไง...” เธอตอกกลับทันทีอย่างเหลืออด เมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่ออีกคนออกมา“ปลา ปลาอีหยังละ...ปลาแข่ง ปลาคอ หรือปลาปักเป้า” (ปลา ปลาอะไรละ...ปลาหมอ ปลาช่อน หรือปลาปักเป้า) ไม่เพียงแค่ปากที่ยังคงพูดออกมา มือยังยกขึ้นมาขยี้แก้มของเธออีกด้วย“โอ้ยยย เมาแล้วยังจะกวนตีนอีกนะ ไอ้วิชญ์!” เธอต่อว่าออกมาอย่างเหลืออด แล้วกัดฟันฝืนพาเขาขึ้นรถของเธออย่างทุลักทุเล เพราะเขานั้นตัวใหญ่และสูงกว่าเธอ จากนั้นจึงรีบเดินไปทางฝั่งคนขับทันที“ฮู้จักซื่อบักวิดพ้อม..

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   3 - โดนสวมเขา

    โดนสวมเขา เขากลับมาถึงที่ห้องพักของเขาในเวลาสองทุ่มกว่า ๆ แต่ก็ไม่พบเธอแล้ว นั่นแสดงว่าเธอคงกลับคอนโดฯของเธอไปแล้ว เขาจึงขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจตรงไปยังคอนโดฯเธอทันที เขาไม่ได้บอกว่าจะไปหาเธอ เพราะตั้งใจจะไปง้อ และอยากเซอร์ไพรส์เธอด้วยเขาสามารถเข้าหรือออกคอนโดฯของเธอได้ทุกเมื่อทุกเวลา เพราะเธอนั้นให้คีย์การ์ดไว้ที่เขาด้วย เผื่อว่าเขาอยากไปหาเธอตอนไหนจะได้สะดวก“อ๊ะ พี่เจ แรง ๆ ค่ะ เเรงกว่านี้อีก เมย์ชอบแรง ๆ”“อ่าสสส ได้เลยยัยร่าน ไอ้แฟนเด็กของเธอมันทำไมถึงใจเหรอ เธอถึงเรียกใช้งานฉันอยู่ตลอดเลย”“อยู่กันสองคน อย่าเอ่ยถึงคนอื่นสิคะ พี่มีหน้าที่ทำให้เมย์มีความสุขก็พอแล้ว...”“ได้เลย...อ่า เธอนี่แม่งโคตรเด็ดเลย”เพี๊ยะ!ชนาวิชญ์ไม่อาจยืนดูภาพชายหญิงร่วมรักกันอย่างเร้าร้อนแบบชนิดที่ดุเดือด ภายในห้องนอนที่ประตูไม่ได้ปิดเอาไว้ได้ เขาจึงเดินมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง เผื่อที่จะได้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยเขานั่งรออย่างใจเย็น ใบหน้าคมขบกรามแน่น มือกำหมัดด้วยความเคียดแค้น เขารู้ตัวดีว่าไม่เคยให้ความสุขกับเธอได้ แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะสวมเขาแบบนี้...เมื่อศึกรักจบลง เมยาวีเดินออกมาข้างนอกห้อง บนกา

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   2 - แฟนคนแรก

    แฟนคนแรกหนึ่งปีต่อมาจนเวลาล่วงเลยมาเขาขึ้นปีที่สอง อายุถึงยี่สิบปีเขาสามารถเข้าสถานบันเทิงได้แล้ว จึงไปรับงานพาร์ทไทม์ และย้ายออกมาเช่าห้องพักอยู่นอกมหาวิทยาลัยแทน เพื่อที่จะสะดวกต่อการไปทำงาน และอีกอย่างตอนนี้ลุงหมานและป้าสะใภ้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดแล้ว เพราะมีอายุที่เพิ่มขึ้น และสู้ค่าครองชีพไม่ไหว“วิชญ์ พักที่ไหนเหรอ” เสียงหวานของร่างบอบบางที่เดินมาตามหลังถามเขาขึ้นมาทันทีเมยาวี หรือ เมย์ หญิงสาวคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่สาม รุ่นพี่ที่คณะและควบตำแหน่งของดาวคณะไปด้วยเพราะความสวยที่ไม่มีใครเทียบติด“รู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ” ชนาวิชญ์มองหญิงสาวอย่างพิจารณา แล้วถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ เพราะส่วนน้อยนักที่จะมีคนเข้ามาทักเขา และเขาแทบจะไม่มีเพื่อนเลย เพราะไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ แต่หญิงสาวรุ่นพี่ดีกรีดาวคณะคนนี้กลับเข้ามาทัก แถมยังรู้จักชื่อเขาอีก“รู้จักสิ ฉันเมย์ปีสามไง ไม่รู้จักเหรอ เหมือนเราจะอยู่คณะเดียวกันนะถ้าจำไม่ผิด”“ผมรู้จักพี่ดีครับ ดาวคณะใครจะไม่รู้จัก”“เรียกเมย์ก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องเรียกพี่หรอก แล้วนี่จะไปไหน เห็นนายรีบกลับเร็วกว่าคนอื่น ๆ ทุกวันเลย”“ต้องรีบไปทำง

  • กรงขังรัก ซุปตาร์   1 - หนุ่มบ้านนา

    หนุ่มบ้านนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือที่ขนานเรียกกันติดปากว่า ‘ภาคอีสาน’ นั่นเอง ในพื้นที่ของถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในชนบท ปลายฤดูหนาว มีเพียงฝูงวัวควาย ที่ชาวบ้านต่างนำออกมาเลี้ยงที่กลางทุ่งนา เพราะเป็นช่วงที่ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วบ้างก็ขุดปูหาปลาตามหนองน้ำ และน้ำที่พอยังขอดอยู่ตามซอกหลุมเล็ก ๆ (ปลาข่อน) เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้มีชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ส่วนคนหนุ่มสาวนั้น ส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งหน้าสู่เมืองกรุงกัน เพื่อหางานทำเลี้ยงชีพต่อไป...“บักหล่า แน่ใจแล้วบ้อลูก ว่าสิไปเรียนต่อกรุงเทพฯอีหลี” (ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯจริง ๆ) เสียงหญิงวัยสี่สิบปีเอ่ยถาม เมื่อลูกชายในวัยเพียงสิบแปดปี ซึ่งเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในบ้าน และเป็นลูกชายคนโต ยื่นรายชื่อนักศึกษาใหม่ที่ลูกชายสอบติดมาให้ดูคำนาง หญิงวัย 40 ปี ตอนนี้กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อผู้เป็นสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยอุบัติเหตุ นับจากนั้นมาคำนางจึงทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้แก่ลูก ๆ ทั้งสอง และผ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status