แชร์

4. ข้าจะช่วยเจ้าเอง (3)

ผู้เขียน: หมอนบนโซฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-28 14:33:15

สามนายบ่าวสวมผ้าคลุมหน้าคลุมหัว จนเห็นเพียงดวงตา พวกเขาแอบย่องออกจากเรือนมายังจวนนอกวังขององค์ชายหวงหยางจิ้ง

พอมาถึง เกาเยี่ยนฟางก็พาสองบ่าวปีนขึ้นไปเกาะกำแพง แอบมองคนที่อาศัยอยู่ด้านใน

“คะ คุณหนูเจ้าคะ เราจะไม่ถูกจับได้หรือ”

“มิต้องเป็นห่วงไป ที่นี่มิมีผู้ใดเฝ้ายาม องค์ชายอยู่กับขันทีเพียงสองคนเท่านั้น”

“เจ้าค่ะ” แม้จะแปลกใจว่าคุณหนูรู้ได้อย่างไร แต่ลี่จูก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม กลัวจะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสีย

“โอ๊ะ! องค์ชายไร้ค่าอยู่ตรงนั้นขอรับ”

“อาเป่า เหตุใดจึงเรียกองค์ชายเช่นนั้น” เยี่ยนฟางหันมาดุเด็กชายตัวอ้วน

“กะ ก็คุณหนูบอกให้บ่าวเรียกเช่นนั้นนะขอรับ”

“…ต่อไปห้ามเรียกอีก ข้าไม่อนุญาตแล้ว”

“ขอรับ” อาเป่าตอบรับเสียงอ่อย จนเยี่ยนฟางต้องหันไปลูบหลังปลอบเด็กน้อย

“ข้าขอโทษที่ดุเจ้า เอาเป็นว่าจากนี้อย่าเรียกเขาเช่นนั้นอีก หากใครมาได้ยินเข้า เขาจะว่าเจ้าเป็นเด็กไม่ดี”

“บ่าวเข้าใจแล้วขอรับคุณหนู” สองแม่ลูกตกใจอยู่พอควร เพราะก่อนหน้าคุณหนูไม่เคยมีท่าทีเช่นนี้

เมื่อก่อนหากไม่ได้ดั่งใจ พวกเขาแม่ลูกเป็นอันต้องถูกด่าทอรุนแรง บางคราก็ถูกทุบตี จนชาชินไปเสียแล้ว แต่เหตุใดวันนี้คุณหนูจึงเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน

หรือเป็นลมครานั้น ศีรษะคุณหนูจะกระทบกระเทือนกันนะ

ระหว่างที่บ่าวสาวกำลังพิจารณาเจ้านาย เยี่ยนฟางกลับไม่ได้สนใจ เอาแต่เฝ้ามองชายหนุ่มที่กำลังนั่งวาดภาพ อยู่บนศาลาไม้หลังเก่า

นางรู้ดีทีเดียว ว่าภาพวาดเหล่านั้นมิได้เป็นกิจกรรมยามว่าง แต่หยางจิ้งทำเพื่อนำไปขาย หาเงินทองมาใช้จ่าย เพราะนอกจากจวนที่เขาอยู่ ก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเขาอีกเลย

ร่างองอาจในชุดสีหม่น มีรอยปะ รอยขาดให้เห็นอยู่ทั่วตัว ยิ่งทำให้ใจดวงน้อยของเยี่ยนฟางหดเล็กลง สงสารเจ้าหมาโง่จับใจ

จนมีความคิดว่าหากอีกฝ่ายไม่ได้พบชินอ๋องแคว้นจาง ชายหนุ่มจะเป็นอย่างไร จะต้องอยู่อย่างไร้เกียรติ ไร้คนเคียงข้างเช่นนี้หรือ

ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ทั้งที่เป็นความผิดของมารดา แต่บุตรกลับได้รับผลกระทบ ซ้ำร้ายความผิดของอดีตฮองเฮาก็ยังไม่แน่ชัด มีข้อกังขาอยู่มากมาย

“ในเมื่อไม่มีผู้ใดเคียงข้างเจ้า ตัวข้าผู้นี้จะช่วยเจ้าเอง จากนี้จะเป็นยุครุ่งเรืองขององค์ชายใหญ่ หวงหยางจิ้ง” น้ำเสียงหนักแน่น พร้อมกับกำปั้นที่ชูขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น ทำให้คนที่ถูกแอบมอง หันมาดูตามเสียง จนสามนายบ่าวต้องรีบโดดลงจากกำแพง บั้นท้ายกระแทกพื้นไปตามๆ กัน

กว่าสามวันที่เยี่ยนฟางหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตนเอง นั่งคิดแผนการที่จะทำให้ชีวิตของหยางจิ้งดีขึ้น จากที่คิดว่าจะกันไม่ให้หยางจิ้งพบกับชินอ๋องจางปี้ซวน และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม นางกลับทำไม่ได้

เยี่ยนฟางจึงตัดสินใจ จะใช้อำนาจที่บิดามี ให้เป็นประโยชน์ นางจะช่วยให้ทุกคนกลับมาเห็นค่าของหวงหยางจิ้ง ช่วยล้างมลทินให้คนสกุลจ้าว

แต่ติดที่ว่า…นางไม่รู้จะทำอย่างไรให้ชายหนุ่มเชื่อใจ และยอมให้นางช่วยเหลือ

“อาเป่า ยามที่เจ้าอยากได้เพื่อนใหม่ เจ้าทำอย่างไร”

“บ่าวหรือขอรับ อืม~ ก็เอาขนมไปให้ ส่งยิ้มหวานๆ แล้วก็ไปเล่นกับเขาทุกวัน” นิ้วอ้วนหยิบขนมเข้าปากอย่างไม่เกรงใจ จนมารดาอย่างลี่จูส่ายหัว

เด็กชายคงเห็นว่าช่วงนี้คุณหนูใจดี จึงกล้าหยิบกินขนม ครั้นนางจะดุด่าบุตรชาย คุณหนูก็ออกรับแทน อาเป่าจึงได้ใจขึ้นทุกวัน

“ใช้วิธีที่เจ้าว่าไปก่อนแล้วกันนะ อย่างน้อยก็ต้องเข้าหาอย่างจริงใจ”

“เข้าหาผู้ใดหรือเจ้าคะคุณหนู”

“ก็หยางจิ้งอย่างไรเล่า ไปกันเถอะ” ร่างระหงไม่พูดพร่ำทำเพลง ย่างก้าวไปในโรงครัว ลงทุนทำขนมเองกับมือ หวังใช้มันซื้อใจองค์ชายใหญ่ของแคว้น

ความรู้ในเรื่องการเข้าครัว จึงถูกนำมาใช้อย่างสุดความสามารถ แม้ว่าในยามที่อยู่บนสรวงสวรรค์ นางจะไม่เคยเข้าครัว แต่เรื่องนี้นางเคยดูการทำอาหารผ่านม่านชีวิตของเหล่ามนุษย์มานับครั้งไม่ถ้วน

เรื่องเท่านี้ นางย่อมทำได้

“อืม ใช้ได้ๆ เราไปกันเถิด” หลังจากที่ขลุกตัวอยู่ในครัวเป็นนานสองนาน คุณหนูของเรือนก็ได้ขนมเซาปิ่งมาตามต้องการ

แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกจากโรงครัว เยี่ยนฟางก็ดันพบเข้ากับใครบางคนที่ไม่อยากเจอ

“ฟางเอ๋อร์ ออกจากห้องได้แล้วหรือ แม่รองเป็นห่วงเจ้านัก นึกว่าเจ้าจะตรอมใจตาย เพราะองค์ชายสามจะแต่งชายาเสียแล้ว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   10. ที่ต่ำที่สูง (2)

    มือเล็กดึงแขนของเอกบุรุษให้ตามออกมาด้วยสีหน้าถมึงทึง เท้าเล็กกระทืบลงพื้นระบายความโมโห“หยุด! เจ้าจะพาข้าไปที่ใด”“เป็นใบ้หรือไร เหตุใดไม่ตอบกลับไปเล่า” เยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่ตรอกไร้คน พลางหันไปต่อว่าอีกฝ่ายนางทั้งโมโห ทั้งอยากหยิกคนตรงหน้า ไม่ว่าเมื่อใดเจ้าหมาโง่ของนางก็ยืนให้คนอื่นด่า ยอมให้คนอื่นหัวเราะเยาะเพราะเหตุนี้อย่างไรเล่า จึงได้เก็บกด พอมีอำนาจก็ไม่เกรงกลัวผู้ใด ทำร้ายผู้คนอย่างเลือดเย็น“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร” หยางจิ้งหรือจะไม่โกรธ เขาแทบอยากพุ่งเข้าไปบีบคอสตรีชั้นต่ำผู้นั้น แต่ในฐานะเช่นเขา จะทำสิ่งใดได้“ก็ด่าพวกเขากลับไป เอาให้หูดับไปเลยยิ่งดี”“อย่างที่เจ้าด่าข้าอยู่นี่น่ะหรือ”“ข้า- เอ่อ หม่อมฉันมิได้ด่านะเพคะ เพียง เพียงบอกองค์ชายเท่านั้น” เยี่ยนฟางอยากตบปากตนเองนัก ทั้งที่ตั้งใจจะตีสนิทอีกฝ่าย แต่นางกลับลืมตัว ด่าเขาว่าเป็นใบ้เสียอย่างนั้น“บอกว่าข้าเป็นใบ้น่ะหรือ”“หึ หยุดใช้สายตากดดันหม่อมฉันนะเพคะ ทีกับผู้อื่นเหตุใดไม่มองเช่นนี้บ้าง”“ข้ามิได้ทำ”“ทำเพคะ มองอย่างกับจะฆ่าแกงกัน อ๊ะ! จะไปที่ใดเพคะ เมื่อครู่เป็นหม่อมฉันที่ช่วยพระองค์ไว้ องค์ชายควรตอบแทนหม่อมฉั

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   9. ที่ต่ำที่สูง (1)

    “อาเป่า เจ้าอยากทานสิ่งใดบอกข้า วันนี้ข้าได้เงินจากพี่ใหญ่และพี่รองมาเต็มถุงเลย”เป็นเวลาเกือบเดือนที่เหล่าคุณชายสกุลเกา รับรู้ว่าน้องสาวล้มป่วย แต่หน้าที่การงานรัดตัว ต้องไปราชการต่างเมือง จึงมิได้มาปลอบใจน้องสาวในทันใดพอเกิงชุนกับจวินอู๋กลับมาเห็นท่าทีของน้องสาวเปลี่ยนไป ก็คิดว่านางคงเสียใจหนักมาก จึงเอาอกเอาใจยกใหญ่ เยี่ยนฟางอยากได้สิ่งใดก็ควักเงินให้ไปซื้ออย่างไม่ลังเล“โอ้โห คุณชายทั้งสองมีเงินทองมากมายเสียจริงขอรับ”“แน่สิ ยังเหลือพี่สามอีกหนึ่งคน ที่ข้ายังไม่ได้ขอ”“เช่นนั้นบ่าวทานเสี่ยวหลงเปาได้หรือไม่ขอรับ กลิ่นหอมมาแต่ไกล”“อาเป่า เจ้าชักจะเกินไปแล้ว” ลี่จูปรามบุตร“เจ้านี่อย่างไรลี่จู ลูกชายเจ้ากินเก่งก็ดีแล้ว ข้าเองก็จะซื้อเสี่ยวหลงเปาไปฝากองค์ชายเช่นกัน”“คะ คุณหนูยังจะไปอีกหรือเจ้าคะ ไปทีไร ก็เจ็บตัวกลับมาทุกครา” ลี่จูว่าเสียงเบา นางกับลูกตามคุณหนูไปจวนองค์ชายมานับครั้งไม่ถ้วน ไปทุกวัน คุณหนูของนางก็ถูกลาก ถูกจับโยนออกมานอกประตูจวนทุกวัน“เอาเถิดๆ อย่างน้อยองค์ชายก็ยอมแตะตัวข้า ก่อนหน้านี้เขาเคยเอาไม้เขี่ยข้าด้วยซ้ำ แสดงว่าเริ่มใจอ่อนแล้ว”“แล้วเหตุใดคุณหนูต้องทำให้องค์

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   8. ความผิดของมารดา (2)

    “ปลดจ้าวหนิงจินลงจากตำแหน่งฮองเฮาให้เป็นเพียงสามัญชน และขังไว้ในคุกหลวงจนกว่าจะสิ้นชีวิต ชดใช้ความผิดที่ปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์”นั่นเป็นพระราชโองการที่หยางจิ้งจดจำได้มิเคยลืม ผู้คนทั้งแคว้นต่างก่นด่าว่าเสด็จแม่ของเขาจิตใจอำมหิต สังหารองค์ชายรอง หวงลู่จิว ที่มีอายุได้เพียงเจ็ดหนาว เพราะกลัวว่าองค์ชายรองที่กำเนิดจากสนมขั้นกุ้ยเฟย สนมกงลี่จิน จะมาแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปจากหยางจิ้งเหตุการณ์นั้นทำให้ชีวิตของหยางจิ้งพลิกผันจนแทบตั้งรับไม่ทัน เสด็จพ่อที่เคยอุ้มชู กลับไม่เคยมาเหลียวแล จะเดินไปที่ใดก็มีแต่คนทำท่ารังเกียจ แม้แต่พวกขันทีนางในก็ยังกล้าดูแคลนหยางจิ้งในวัยสิบเอ็ดหนาวต้องทนกับคำพูดเสียดสี ดุด่า สาปแช่ง ทั้งยังไม่เคยได้ทานอาหารอิ่มท้องเลยสักวัน บางวันถึงขั้นเป็นข้าวบูดเสียด้วยซ้ำไม่ต้องพูดถึงเรื่องออกงานสำคัญกับเสด็จพ่อและเหล่าพี่น้อง หลังจากเสด็จแม่ได้รับโทษ เขาก็ไม่เคยได้รับเชิญอีก ทั้งยังถูกขับให้ออกมาอยู่จวนนอกวังกับเข่อชิงเพียงสองคนหวงหยางจิ้งในวัยนั้นรู้สึกโกรธมารดาเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ตนเองกลายเป็นที่รังเกียจของทุกคน แต่ก็ได้ขันทีเข่อชิงที่คอยสอน และย้ำเตือนว่าอย่างไรเสด

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   7. ความผิดของมารดา (1)

    “เรื่องที่พระองค์คิดจะทำ มีเพียงอำนาจของบิดาหม่อมฉันที่ช่วยได้”“…” คิ้วคมขมวดเข้าหากันเป็นปม เรื่องที่เขาคิดจะทำ สตรีนางนี้จะรับรู้ได้อย่างไรกัน“องค์ชายทรงตรองดูให้ดีเถิด เรื่องพระมารดาของพระองค์ ผู้ใดจะกล้ายื่นมือเข้ามาเสี่ยง”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงกล้าเสี่ยงเล่า ทั้งที่ก่อนหน้าเจ้ามิยินดีจะเฉียดกายเข้าใกล้ข้าด้วยซ้ำ”“นั่นเพราะ…อย่างไรเสียหม่อมฉันก็แต่งให้ท่านแล้ว หากปล่อยให้องค์ชายทำเรื่องใหญ่ด้วยตนเอง แล้วเกิดผิดพลาดขึ้นมา สกุลเกาคงเดือดร้อนไปด้วย” เยี่ยนฟางลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับสวามี นางมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องตอบตกลงยอมรับความช่วยเหลือจากนางแน่เพราะก่อนหน้านี้หยางจิ้งพยายามตามสืบเรื่องของมารดาและสกุลจ้าว แต่ความกลับไม่คืบหน้า อย่างไรเสียเขาย่อมต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้“งั้นหรือ”“ใช่เพคะ ฮึๆ เอาเป็นว่าเรามานั่งทานมื้อกลางวันไป พูดคุยเรื่องนี้ไปดีหรือไม่ องค์ชายต้องการให้หม่อมฉันช่วยอย่างไร ขอเพียงบอกมาเท่านั้น” ใบหน้าหวานพยักให้บ่าวคนสนิทตั้งโต๊ะอาหารรสเลิศหลายจานจึงถูกยกมาจัดเตรียมอย่างสวยงาม รอเพียงชายหญิงมานั่งทานเท่านั้น“…”“มาเพคะ เชิญองค์ชายนั่งตรงนี้ ว๊าย!” ใจดวงน้อยตกไปอ

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   6. ข่มขู่ (2)

    น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอ ปากเล็กเป่าลมออกจากปาก ยืนทำใจอยู่หน้าประตูจวนหลังเก่า แม้ยามนี้หยางจิ้งจะเป็นเจ้าหมาโง่อยู่ แต่ภาพความโหดเหี้ยมของเขายังติดตานางไม่หาย“ให้บ่าวเคาะประตูเลยหรือไม่เจ้าคะ”“เอาเลย ข้าพร้อมแล้ว” เยี่ยนฟางกระชับปิ่นโตที่เอามาด้วยไว้แน่น รอให้ขันทีคนสนิทขององค์ชายออกมาเปิดประตูสามนายบ่าวยืนรอไม่นาน ประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออก เมื่อขันทีเฒ่าเห็นว่าผู้ใดมา ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจทันที“คำนับท่านขันทีเข่อชิง ข้านำอาหารมาฝากองค์ชาย ไม่ทราบว่าท่านพอจะนำทางข้าไปพบองค์ชายได้หรือไม่เจ้าคะ”“…” สีหน้าโกรธเคืองเปลี่ยนเป็นงุนงงในทันใด ทั้งคำพูด รอยยิ้ม และกิริยาที่อ่อนน้อม ราวเป็นคนละคนกับคุณหนูเล็กสกุลเกาที่เขารู้จัก“ท่านขันทีขอรับ ได้ยินที่คุณหนูของข้าว่าหรือไม่”“เอ่อ ข้าคงต้องนำเรื่องนี้ไปทูลต่อองค์ชายก่อน” เมื่อถูกเด็กอ้วนท้วง ขันทีชราก็หันหลังกลับเข้าไปถามนายเหนือหัวทันทีและคำตอบก็เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้“ไล่นางกลับไป อย่าให้นางเข้ามาเหยียบในจวนเรา” น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้น ทั้งที่เจ้าตัวยังจดจ่ออยู่กับการวาดภาพทิวเขา“แต่…ครานี้นางมีท่าทีแปลกๆ นะพ่ะย่ะค่ะ ดูไม่เหมือนคุณหนูเ

  • ชายาชังของว่าที่ทรราช   5. ข่มขู่ (1)

    “ฟางเอ๋อร์ ออกจากห้องได้แล้วหรือ แม่รองเป็นห่วงเจ้านัก นึกว่าเจ้าจะตรอมใจตาย เพราะองค์ชายสามจะแต่งชายาเสียแล้ว” เสียงของผินฟู่โยว ฮูหยินรองของบิดาเยี่ยนฟาง ทำเอาคนถูกทักกลอกตามองบนบุรุษมากภรรยา ย่อมต้องมีปัญหาตามมา ไม่เว้นแม้แต่สกุลเกา ที่มีฮูหยินรองเป็นพวกมักใหญ่ใฝ่สูง อยากทำตนเทียบชั้นกับฮูหยินเอกของสกุล ระรานเหล่าอนุของแม่ทัพเกา จนมีเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน“เฮ้อ! ไปกันเถิด”“นับวันยิ่งทำตัวไร้มารยาท ไม่รู้ว่าฮูหยินเอกเลี้ยงดูบุตรสาวอย่างไร สู้เหรินเอ๋อร์ของป้าก็มิได้” เหรินเอ๋อร์ที่ว่า คือผินอี้เหรินหลานสาวของฮูหยินรอง ที่มาอาศัยอยู่เรือนสกุลเกามาตั้งแต่เล็กๆด้วยเหตุที่ว่าฮูหยินเอกมีบุตรชายมาแล้วถึงสองคน ฮูหยินรองเองก็คลอดบุตรชายอีกสองคน แม่ทัพเกาจึงอยากได้บุตรสาวช่างออดช่างอ้อน ผินฟู่โยวจึงพยายามอย่างหนักเพื่อเอาใจสามี ทว่าก็ไม่ทันฮูหยินเอกที่คลอดเยี่ยนฟางมาก่อนนางจึงได้แต่พาหลานสาวมาเลี้ยงดู หวังให้สามีหันมาสนใจ แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ แม้เกากั๋วเฉียงจะเมตตา ให้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่ก็ไม่เท่าบุตรสาวคนเล็ก“…”“ท่านป้า อย่าทำให้คุณหนูโมโหเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าก็ดูเถิดเหรินเอ๋อร์

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status