共有

ขึ้นเขาล่าสัตว์

作者: zuey
last update 最終更新日: 2025-11-04 12:46:02

เจิ้งซูอี้กับหลิวตงจวิ้นยังคงขึ้นเขาล่าสัตว์เหมือนเดิม สองพ่อลูกมักจะได้สัตว์ใหญ่กลับมาด้วยทุกครั้ง สร้างความอิจฉาให้ใครหลายคนโดยเฉพาะคนตระกูลหลิวที่มักจะตีอกชกตัวทุกครั้งเมื่อหลิวตงจวิ้นนำสัตว์ป่าไปขายในเมือง แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือแม่เฒ่าจางนางไม่ไปตามรังควานบ้านหลิวตงจวิ้นเหมือนแต่ก่อน

จางซานเหนียงที่ทำหน้าที่เป็นกองหนุนให้นางก็ยังรู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกัน ปกติแม่เฒ่าจางจะไม่ยอมเสียเปรียบให้ผู้ใดแต่ครั้งนี้กลับดูเงียบไปเมื่อพูดถึงบ้านของหลิวตงจวิ้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือว่าแผ่นดินกำลังจะตลบพลิกกลับด้าน แม่เฒ่าจางถึงได้เปลี่ยนไปมากเช่นนี้

 

อู๋เซียนเว่ยได้แวะมาหาหลิวตงจวิ้นในเช้ามืดของวันหนึ่ง บุตรชายคนโตของเขากำลังจะหมั้นหมายกับหญิงสาวของอีกหมู่บ้าน แต่ในมือของอู๋เซียนเว่ยมีเงินไม่มากพอที่จะจัดงานแต่งให้บุตรชายได้เขาจึงต้องบากหน้ามาหาสหายสนิทคนนี้

“อาจวิ้นอยู่หรือไม่”

เสียงเรียกดังขึ้นที่หน้าเรือนเจิ้งซูอี้เป็นคนมาเปิดประตู พระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นเหลี่ยมเขาทำให้มองเห็นได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ส่งเสียงเรียกบิดาของนาง

“ท่านอาอู๋ อรุนสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านพ่อกำลังเตรียมเครื่องมือขึ้นเขาอยู่หลังเรือน เชิญเข้ามาก่อน”

อู๋เซียนเว่ยพยักหน้าแล้วเดินตามเจิ้งซูอี้เข้าไปด้านใน เขาสังเกตเด็กสาวที่ตนกำลังเดินตามห่างๆ อู๋เซียนเว่ยรู้สึกเหมือนว่าหลิวอันอันจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่ได้พบกันครั้งสุดท้าย แต่เปลี่ยนไปอย่างไรนั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

“อ้าวอู๋เซียนเว่ยเจ้ามาหาข้าเช้าเพียงนี้มีธุระสำคัญหรือ”

อู๋เซียนเว่ยมีท่าทีอึกอักเหมือนมีเรื่องสำคัญจะพูดกับเขา เจิ้งซูอี้เห็นดังนั้นนางจึงเดินเลี่ยงออกไป

“อาจวิ้นข้ามีเรื่องอยากมาขอร้องเจ้าสักหน่อย เมื่อเจ้าฟังที่ข้าพูดจบแล้ว เจ้าจะตัดสินใจอย่างไรข้าล้วนเคารพการตัดสินใจของเจ้า”

หลิวตงจวิ้นมองสหายสนิทด้วยสายตาสงสัยเหตุใดเขาจึงมีท่าทางดูอึดอัดเช่นนี้ ทั้งสองเติบโตมาพร้อมกันหลิวตงจวิ้นย่อมรู้ว่านิสัยของอู๋เซียนเว่ยเป็นอย่างไร หากไม่มีเรื่องหนักใจจริงๆ วันนี้เขาคงไม่รีบมาหาเขาตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นเช่นนี้

“เอาเถอะไม่ว่าเจ้ามีเรื่องหนักใจอันใดข้าก็จะรับฟังเจ้าทั้งหมด อาเว่ยเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าทั้งเจ้าและข้าล้วนเป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกันอย่าได้เกรงใจข้าจนเกินไป ที่ผ่านมาเจ้าช่วยเหลือครอบครัวข้ามาตลอดข้าเองก็นึกขอบคุณ หากมีสิ่งใดที่ข้าพอจะช่วยเหลือเจ้าได้เจ้ารีบบอกข้ามาเถอะ”

อู๋เซียนเว่ยสูดหายใจเข้าแรงๆ จากนั้นจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่บุตรชายคนโตของเขากำลังจะหมั้นหมาย แต่ตอนนี้เงินของเขามีไม่พอจึงมาขอร้องให้หลิวตงจวิ้นพาเขาขึ้นเขาล่าสัตว์ด้วยคน เพราะระยะหลังหลิวตงจวิ้นล่าสัตว์ใหญ่ได้ทุกวัน หากเขาติดตามไปด้วยบางทีตัวเขาอาจจะได้ของมีค่าจากป่าใหญ่กลับมาด้วยก็ได้

“ข้าไม่รู้ว่าจะเป็นการขอที่มากเกินไปหรือไม่ อาจวิ้นข้ารู้ว่าเคล็ดลับการล่าสัตว์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันและไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นที่มิใช่ครอบครัวของตนได้ แต่ครั้งนี้ข้าขอร้องเจ้าได้หรือไม่”

หลิวตงจวิ้นยกมือขึ้นตบที่หัวไหล่ของอู๋เซียนเว่ยเบาๆ

“จะต้องมาขอร้องอันใดกันเล่า เจ้าเป็นสหายของข้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หาใช่เรื่องใหญ่อันใด เจ้ากลับไปที่เรือนเตรียมของขึ้นเขาแล้วกลับมาหาข้าที่นี่”

อู๋เซียนเว่ยเหมือนได้รับน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ เขาพยักหน้าทั้งรอยยิ้มจากนั้นจึงรีบหุนหันออกจากเรือนไป เจิ้งซูอี้ช่วยแม่นางหวังมารดาของหลิวอันอันทำเจียนปิ่งไส้เนื้ออยู่ในครัวเพื่อเก็บเอาไว้เป็นเสบียง

“ทำเพิ่มอีกสักห้าอันเถิดเจ้าค่ะ”

เจิ้งซูอี้เดาว่าที่อู๋เซียนเว่ยมาหาหลิวตงจวิ้นคงเพราะต้องการขึ้นเขาล่าสัตว์ไปกับพวกนางด้วย ทำเผื่อเอาไว้สักหน่อยคงไม่เป็นไร ผ่านไปไม่นานอู๋เซียนเว่ยก็กลับมาพร้อมอุปกรณ์ล่าสัตว์ในมือ ด้านหลังของเขามีเด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่งท่าทางขี้อายยืนอยู่ จากความจรงจำของหลิวอันอันบอกว่าเขาคือบุตรชายของคนโตอู๋เซียนเว่ยชื่ออู๋จื่อคุน

“มาแล้วหรือ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะสายมากแล้ว”

ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นสว่างทั่วทั้งท้องฟ้า เสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยและแมลงส่งเสียงดังระงมไปทั่วผืนป่า เจิ้งซูอี้สะพายตะกร้าใบโปรดเอาไว้ด้านหลัง ข้างในมีเสบียงและกระบอกน้ำที่แม่นางหวังใส่เอาไว้ให้พวกเขาพ่อลูกกินระหวางขึ้นเขา

อู๋เซียนเว่ยมองมาที่เจิ้งซูอี้ด้วยท่าทางสงสัย เหตุใดสหายรักของเขาจึงให้บุตรสาวตามมาด้วยมันอันตรายมากเลยเขาไม่รู้หรือ แต่ถึงจะสงสัยอย่างไรเขาก็ไม่ได้ถามออกมา อู๋จื่อคุณที่เดินรั้งท้ายมองเจิ้งซูอี้เป็นระยะนางรู้ว่าเขาแอบมองหากแต่นางแต่ไม่ได้สนใจ ทั้งสี่เดินขึ้นเขามาได้ราวสองชั่วยามก็พบกับกับดักสัตว์ที่พ่อลูกทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ ในหลุมขนาดใหญ่ที่พวกเขาขุดเอาไว้มีหมูป่าขนาดรุ่นๆ สองตัว

อู๋เซียนเว่ยและบุตรชายถึงกับตาเบิกโตด้วยความตกใจ

“นี่มัน!!!แค่นี้ก็ได้แล้วอย่างนั้นหรือ”

เขาไม่คิดว่าการล่าสัตว์มันจะง่ายดายเพียงนี้ ช่างผิดกับพวกเขาที่ต้องเดินตามรอยสัตว์เป็นวันๆ หากใช้ธนูยิงแล้วพลาดพวกสัตว์รู้ตัววิ่งหนีไปได้ เช่นนั้นก็เป็นการตามที่สูญเปล่า

เจิ้งซูอี้ปลดธนูที่ไหล่ของนางแล้วยิงลงไปในหลุม ธนูทั้งสองดอกยิงเข้าที่คอเจ้าหมูป่าอย่างแม่นยำเป็นอีกครั้งที่อู๋เซียนเว่ยและบุตรชายต้องตกตะลึง

“อาจวิ้นบุตรสาวของเจ้า”

เขาไม่รู้เลยว่าหลิวอันอันจะมีความสามารถมากขนาดนี้ หลิวตงจวิ้นยืดอกแสดงท่าทางภาคภูมิใจในตัวบุตรสาวของตน

“นางเก่งกาจได้บิดาอย่างข้าอย่างไรเล่า”

แล้วหลิวตงจวิ้นก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมาเสียงดัง เจิ้งซูอี้ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ นางไม่รู้เลยว่าหลิวตงจวิ้นจะเป็นพวกชอบอวดบุตรสาวขนาดนี้ คนทั้งสี่ทิ้งเจ้าหมูป่าเอาไว้ในหลุมจากนั้นจึงเดินเข้าไปในหุบเขาที่ลึกกว่าเดิม

“ท่านพ่อพวกท่านเดินไปก่อนข้ามีเรื่องที่ต้องทำเจ้าค่ะ”

บุรุษทั้งสามคิดว่าเจิ้งซูอี้ต้องการจะปลดทุกข์พวกเขาจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง

“” ได้สิ เจ้าระวังตัวด้วยแล้วรีบตามมาเล่า”

เจิ้งซูอี้พยักหน้าให้หลิวตงจวิ้น เมื่อพวกเขาเดินหายไปจนลับสายตานางจึงหันมาสนใจสิ่งที่ตนเองจะทำ ความจริงเจิ้งซูอี้พบพืชชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดตุ่มและมีอาการปวดแสบปวดร้อนเมื่อได้สัมผัส นางไม่ต้องการให้พวกเขารู้ว่านางต้องการทำอะไร เจิ้งซูอี้เอาเศษผ้าห่อสมุนไพรต้นนั้นยัดลงไปในกระบอกไม้ไผ่เพราะนางกลัวว่าตนเองจะเผลอไปจับมันเข้า จากนั้นจึงรีบวิ่งตามคนทั้งสามไป

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   เจ้าสอบผ่าน

    ซีหยวนไห่หนานพูดอย่างอารมณ์ดีเพราะตอนนี้เจ้านกน้อยที่หลับใหลมาอย่างยาวนานได้ฟื้นคืนสติแล้ว เจิ้งซูอี้ยังไม่หลุดจากภวังค์นางพยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่เขาบอกภายในหัว ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่องค์ชายห้าอีกต่อไปแล้วตอนนี้เขาคือรุ่ยอ๋อง นางหลับไปเพราะบาดเจ็บหนักถึงสิบห้าวัน แล้วครอบครัวของนางล่ะ“คนในครอบครัวของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ศพพวกนั้นอีก”เจิ้งซูอี้เมื่อนึกขึ้นได้จึงรีบถามเขาอย่างร้อนรน นางไม่ต้องการให้ครอบครัวของนางต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้“ศพพวกนั้นได้ถูกจัดการอย่างถูกต้องจากคนของทางการ บิดามารดาและน้องชายของเจ้าก็ปลอดภัยดีพวกเขายังอยู่ที่เดิมแต่ไม่ต้องห่วง ข้าจัดการตัวปัญหาของครอบครัวของเจ้าให้เจ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน”จากนั้นซีหยวนไห่หน่านก็เล่าเรื่องราวหลังจากที่นางสลบไปให้ฟัง เจ้าหน้าที่ทางการเดินทางมาหมู่บ้านตระกูลสือเพื่อยืนยันศพที่นางสังหารและพบว่าพวกมันคือโจรตามใบประกาศจับที่ทางการต้องการตัวมาช้านานจากนั้นมีคนไปแจ้งเบาะแสว่าเห็นหลิวฟู่เฉิงติดต่อกับกลุ่มโจรเหล่านี้เขาจึงถูกจับตัวไป แม่เฒ่าจางเองก็ถูกจับไปข้อหารับเงินจากกลุ่มโจรเช่นกัน หลักฐานคือเงินหนึ่งร้อยตำลึงที่พบในเรือนข

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   บุกปล้นยามวิกาล

    เงาที่ถูกยิงส่งเสียงร้อง อึก!! เพียงเท่านั้นจากนั้นจึงล้มลง เงาเหล่านั้นเมื่อเห็นพรรคพวกของตนถูกสังหารพวกมันก็ตกใจหันรีหันขวางอย่างร้อนรน จากนั้นธนูดอกที่สองสามสี่ก็ตามมา เหล่าเงาที่ต้องการเข้าไปในเรือนของนางล้มลงไปกองที่พื้นดั่งใบไม้ร่วงซีหยวนไห่หนานกับเหล่าองครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่ง เพื่อเฝ้าดูว่าเจ้านกน้อยของเขาจะจัดการกับคนเหล่านั้นอย่างไร ท่าทางของเขาดูคึกคักจนออกนอกหน้าทำให้จื่อรุ่ยที่อยู่ด้านหลังแอบกลอกตาให้กับความสนุกที่ไม่ดูเวลาของเจ้านาย ไม่ยอมช่วยนางแล้วยังมาแอบดูอีก หากนางรู้เข้าคงเอาธนูนั่นยิงแสกหน้านายท่านแน่นอนลูกธนูสิบดอกของนางถูกยิงออกไปจนหมด เจิ้งซูอี้ทิ้งคันธนูไปจากนั้นจึงกระโดดลงมาจากต้นอู๋ถงประจันหน้ากับเงาเหล่านั้น นางดึงมีดสั้นออกมาจากเอวจากนั้นพุ่งเข้าใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญยามวิกาลพวกนี้ ดูเหมือนว่าในเหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้นจะยังมีคนที่พอมีฝีมืออยู่บ้างเขาใช้ดาบใหญ่เข้าปะทะมีดสั้นของนาง ทั้งสองต่อสู้กันหลายกระบวนท่า เสียงการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านที่เข้านอนไปแล้วเริ่มออกจากเรือนมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจิ้งซูอี้ใช้มีดสั้นฟันแขนของชายร่างให

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   สัญญาณเตือน

    “คุณชายขอรับท่านกำลังหาอะไรอยู่หรือ”จื่อรุ่ยเอ่ยถามจากทางด้านหลัง ซีหยวนไห่หนานหันกลับมามองเขา จากนั้นทำนิ้วประกบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม“ข้าต้องการกล่องที่งดงามสักหน่อย ขนาดเท่านี้”จื่อรุ่ยเข้าใจในทันที เขาเดินออกไปด้านนอกสักพักจากนั้นกลับมาพร้อมกล่องไม้สลักลวดลายดอกไห่ถังบนฝากล่องยื่นให้ผู้เป็นนายดู“กล่องขนาดเท่านี้ได้หรือไม่ขอรับ”ซีหยวนไห่หนานรับกล่องมาดูจากนั้นนำหยกพกที่เอววางลงไป จื่อรุ่ยตกใจจนตาโตเขาไม่นึกว่าองค์ชายจะลงทุนยกหยกประจำตัวที่สลักคำว่าไห่หนานให้เป็นของขวัญแก่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดา“คุณชายแน่ใจว่าจะใช้หยกนี้จริงๆ หรือขอรับ”จื่อรุ่ยถามนายเหนือหัวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซีหยวนไห่หนานพยักหน้าจื่อรุ่ยได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ช่างเถอะ แม้แต่ฮ่องเต้ที่เป็นถึงผู้ครองแคว้นยังห้ามองค์ชายห้าผู้นี้มิได้ เขาที่เป็นเพียงองครักษ์เล็กๆ เท่านั้นจะทำได้อย่างไร หลิวซีฮันที่ยังยืนอยู่ในห้องมองคนนั้นทีคนนี้ทีแต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา เมื่อรู้สึกเบื่อเขาจึงอุ้มเสี่ยวหลงเดินกลับเรือนไปหลังจากที่หลิวซีฮันกลับมาที่เรือนแล้ว จากนั้นไม่นานซีหยวนไห่หนานเองก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ครอบครัวของหลิวตงจ

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   การกลับมาของหลิวฟู่เฉิง

    คนสกุลหลิวต่างตกใจไม่คิดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาเช่นนี้ อาหารการกินที่มีสำหรับพวกเขาสกุลหลิวยังแทบจะไม่พอ นี่ยังจะเพิ่มชายร่างใหญ่ผู้นี้เข้ามาอีกเห็นทีพวกเขาจะอยู่ไม่พ้นหน้าหนาวแน่“อาเฉิงหลานช่วยมาคุยกับย่าสักหน่อยได้หรือไม่”แม่เฒ่าจางเดินไปหาหลานชายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะข้างกายเขามีชายร่างใหญ่เหมือนยักษ์ปักหลั่นยืนอยู่ แม่เฒ่าจางดึงแขนหลานชายเข้ามาคุยในห้องของนาง“เฉิงเอ๋อย่าไม่ว่าอะไรหรอกที่หลานจะมีผู้ติดตามเพราะอีกหน่อยหากหลานได้เป็นขุนนางในราชสำนักหลานจะมีคนติดตามมากมายแน่นอน แต่ตอนนี้ครอบครัวของเราเกรงว่าจะไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้....หลานช่วยคิดดูอีกครั้งได้หรือไม่”หลิวฟู่เฉิงนึกว่าแม่เฒ่าจางมีปัญญาหาเรื่องฟู่เถี่ยโถวที่ติดตามเขามาเสียอีกที่แท้ก็เรื่องเงิน หลิวฟู่เฉิงหยิบถุงเงินออกมาจากแขนเสื้อวางไว้ด้านหน้าของนาง“นี่คือเงินหนึ่งร้อยตำลึงขอรับท่านย่า ทีนี้คงไม่มีใครมีปัญหากับการที่ฟู่เถี่ยโถวอยู่ที่นี่แล้วนะขอรับ”หลิวฟู่เฉิงพูดกับแม่เฒ่าจางทั้งยังบอกผู้ที่แอบฟังอยู่นอกห้องให้รับรู้โดยทั่วกัน แม่เฒ่าจางรีบตะครุบถุงเงินทันที นางไม่เคยจับเงินมากมายเช่นนี้มาก่อนในชีวิต แม่เฒ่าจาง

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   ยั่วยวนคุณชายรูปงาม

    “ฝากเจ้าไปขอบใจพี่ใหญ่แทนข้าด้วยนะ เมื่ออาเฉิงสอบได้จีว์เหรินเมื่อใดรับรองว่าตระกูลหลิวจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้แน่”นี่เป็นสิ่งที่จางเมิ่งเสวี่ยอยากได้ยิน เมื่อพี่ฟู่เฉิงสอบได้จีว์เหรินท่านปู่ก็จะมาคุยเรื่องแต่งงานของนางกับเขา ถึงแม้สองตระกูลจะรู้กันเรื่องนี้อยู่แล้วก็ตามแต่นางก็อยากประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าพี่ฟู่เฉิงเป็นของนาง แม่พวกดอกท้อที่หวังจะมาเป็นสะใภ้ตระกูลหลิวจะได้เลิกล้มความคิดนั้นซะจางเมิ่งเสวี่ยอยู่คุยกับแม่เฒ่าจางสักพัก เมื่อรู้ว่าวันนี้ตนไม่สามารถพบหน้าพี่ฟู่เฉิงได้นางจึงไม่อยากอยู่ต่อ จางเมิ่งเสวี่ยขอตัวลาแม่เฒ่าจางจากนั้นจึงเดินออกจากตระกูลหลิวไป นางเดินยังไม่ถึงหน้าหมู่บ้านสายตาก็ไปสะดุดบางสิ่งเข้า ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวกำลังยืนชมบรรยากาศยามเช้าที่กำลังมีหมอกลงหนาอย่างเพลิดเพลินเมื่อก่อนนางคิดว่าหลิวฟู่เฉิงเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่นางเคยพบมา แต่หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น หลิวฟู่เฉิงเทียบไม่ติดเลยสักนิดเดียว เหตุใดหมู่บ้านตระกูลสือถึงได้มีชายหนุ่มรูปงานเกลื่อนกลาดเช่นนี้จางเมิ่งเสวี่ยแสร้งเดินไปใกล้ชายหนุ่มผู้นั้นจากนั้นจึงแสร้งล้มลงใกล้ๆ กับที่

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   หลานสาวแม่เฒ่าจาง

    “นี่ท่านป้าสือท่านบอกว่าจะไปหาบ้านของชายหนุ่มมาให้ข้าเลือกไม่ใช่หรือ ผ่านไปหลายวันแล้วเหตุใดท่านยังไม่มาหาข้าสักที”หลิวตงจิ้นถามแม่สื่อแซ่สือที่ทำหน้าที่เป็นผู้หาบ้านชายหนุ่มหญิงสาวที่เหมาะสมให้แต่งงานกัน นางเป็นคนที่เชื่อถือได้ในหมู่บ้านตระกูลสือและหมู่บ้านใกล้เคียง หากถึงเวลาที่บุตรสาวหรือบุตรชายแต่งงานแล้วล่ะก็ไม่ว่าบ้านไหนก็ล้วนมาหานาง แม่สื่อสือที่อายุราวห้าสิบกว่าถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ“ไม่ใช่ว่าข้าไม่หา แต่ละแวกหมู่บ้านใกล้เคียงไม่มีใครต้องการแต่งงานกับบุตรสาวเจ้าเลยสักคน”หลิวตงจวิ้นขมวดคิ้วมุ่นด้วยท่าทางไม่เข้าใจ“ก็เรื่องที่บุตรสาวของเจ้ามีวิญญาณร้ายคอยตามติด บ้านฝ่ายชายบ้านไหนก็ไม่กล้าแต่งบุตรสาวเจ้าเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ พวกเขาบอกว่ามันเป็นลางไม่ดี”แม่สื่อสืออธิบายเสียงอ่อย“เหลวไหลทั้งเพ ท่านไปได้ยินเรื่องพวกนี้มาจากที่ไหน”หลิวตงจวิ้นโพลงออกมาด้วยความโมโห จริงอยู่ที่บุตรสาวของเขาเคยฝันเห็นท่านพ่อของเขา แต่ท่านพ่อหาใช่วิญญาณร้ายอย่างที่พวกเขาลือกัน“จะที่ไหนซะอีกก็ทุกที่ที่ข้าไปน่ะสิ เรื่องของลูกสาวเจ้าเล่าลือกันไปหลายหมู่บ้านแล้วไม่รู้หรือ เห็นทีครั้งนี้ข้าคงจะช่วยเหลือเจ้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status