“มึงลองอ่านตรงนี้! โอ๊ย อีพี่ธีโอแม่งโคตรนุ่มนวล แต่แซ่บแบบคิง! นี่ถ้านายเอกไม่เอา เดี๋ยวกูขอรับไว้เอง!” เสียงสาววายตัวแม่อย่าง ฝน ดังลั่นโต๊ะหลังเลิกเรียนพิเศษ
ภีมถอนหายใจ แล้วเลื่อนข้าวกล่องในมือหนีเพื่อนสาวตัวดีที่กำลังฟาดข้าวเข้าปาก กับเสพวายไปพร้อมกัน “ทุกวันนี้กูไม่รู้แล้วว่ามึงรักคนในนิยายมากกว่ากูรึเปล่า” “แน่นอนว่ามากกว่าดิ! แต่กูรักมึงแบบเพื่อนนะเว้ย อิภีมมม” เธอยิ้มหวานเหวี่ยงพลาสติกห่อหนังสือเล่มหนาไปให้ “นี่ อ่านซะ! นิยายวายเปลี่ยนชีวิต กูคอนเฟิร์ม!” “กูชอบผู้หญิง...” “ก็ในโลกความจริงไง! แต่นี่โลกนิยาย! เปิดใจดิภีม! เปิดใจ!” " เปิดใจมันได้ แต่พระเอกของมึงแม่งชอบคนง่ายเกิ๊นน เห็นน้ำตาเขาก็รักแล้วซะงั้น " ภีมถอนหายใจ " แล้วถ้าแบบนี้พระเอกมันเจอคนอื่นก่อนนายเอกมันจะไม่ชอบคนอื่นก่อนหรอ" ฝนทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ " แหม~ แสดงว่าแอบมาอ่านแล้วอะดิ~ ใช่ม่ะๆ" " กูแค่ไปเจอสปอย! อย่ามาจิ้มดิ๊ " เขาทะหลึ่งตาใส่เพื่อนสาว ที่ทะเล้นจิ้มแขนเขาไม่เลิก " แอบเป็นหนุ่มวายก็บอก~ " ภีมที่ทำท่าจะเถียงกลับเพื่อนตัวดีที่ทำหน้าตากวนบาทาไม่เลิก แต่จู่ๆ ฝนก็เอามือกุมท้องแล้วตัวงอ “โอ๊ย... กูว่าข้าศึกแม่งบุกถึงประตูเมืองแล้ววะ! มึงช่วยถือหนังสือให้ก่อนนะ กูไปห้องน้ำแปบ—!” ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ ฝนก็หายวับไปในอากาศเหมือนตัวละครที่วิ่งไปไกลสุดขอบโลก ราวกับจะอั้นไม่ไหวแล้ว เหลือภีมกับหนังสือนิยายวายเล่มหนา และโต๊ะของห้องเรียนพิเศษที่ภายในนี้เงียบเชียบ เนื่องจากนักเรียนที่เหลือพากันกลับหมดูแล้ว มีเพียงเสียงพัดลมดังครืด กับความเบื่อที่ไม่มีอะไรทำ เขาเปิดมือถือขึ้นกะจะเปิดเล่นฆ่าเวลา พอเลื่อนดูบนแอปฟ้า ก็ขึ้นแจ้งเตือนว่าคืนนี้จะมีฝนดาวตก ห้ามพลาด! เขาเลิกคิ้วแต่ก็กดเข้าไปอ่านในคอมเม้น " ว่ากันว่า ถ้าขอพรตอนที่ฝนดาวตกมา จะสมหวัง" แล้วเม้นนั้นก็ดันมียอดกดใจเกือบพันได้ แต่ในจังหวะที่กำลังจะไถ่อินเตอร์เน็ตต่อ ความซวยก็มาเยือน.. แบตหมด 0% “ชีวิตกูเหมือนจะตายง่ายเกินไปป่ะวะ...” เขาบ่นก่อนจะหยิบหนังสือของฝนขึ้นมา หน้าปกเป็นผู้ชายผมดำตาสีแดงเข้มสไตล์พระเอกเจ้าเล่ห์แววตายั่งกับจิ้งจอกที่หลอกคนอื่นให้มาติดกับ ยืนจ้องผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนหวานละมุนตัวเล็กร่างบางราวกับถ้าแตะต้องแรงไปจะเกิดรอยได้ง่าย... “เชี่ย... มึงชอบอะไรแบบนี้จริงดิ?” เขาเปิดหน้าแรก อ่านแบบไม่หวังอะไรนัก แต่ยิ่งอ่านกลับยิ่งเกาหัวแรงขึ้นทุกบรรทัด —ธีโอ ล็อกวู้ด ค่อยๆ โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูมาเอลด้วยเสียงทุ้มต่ำ “รู้มั้ยครับ ตอนคุณร้องไห้ ..มันสวยมากจน..ทำให้ผมตกหลุมรัก" ภีม “...เวร นี่กูเผลอเม้มปากตอนอ่านทำไมวะ” เขารีบละสายตาจากหนังสือ เหมือนกลัวตัวเองจะหลุดไปไกลกว่านี้ ก่อนจะสบถด้วยน้ำเสียงปนระอา “ถ้ากูหลุดเข้าไปในนิยายแบบนี้จริงๆ มีหวังชักตายตั้งแต่ฉากแรกแน่!” และนั่นคือคำพูดสุดท้าย...ก่อนฝนดาวตกจะพาดผ่านท้องฟ้า ซึ่งเหตุการณ์นี้จะทำให้โลกของภีมจะเปลี่ยนไปตลอดกาล “อิภีม!” “เหี้ยฝน!!” เสียงร้องหลงจากภีมดังลั่นห้องเรียน เมื่อ ฝน ที่หายไปนาน จนคิดว่าจะจมหายไปกับโถส้วมแล้ว เธอโผล่พรวดมาจากด้านหลังแล้วกระโดดเกาะหลังเต็มแรงแบบไม่ให้ภีมตั้งตัว เขาสะดุ้งโหยง รีบตะครุบหนังสือนิยายแล้วปิดปึ้ง! “อ้าววว~ สนุกล่ะสิ~ อ่านไปครึ่งเล่มแล้วมั้งน่ะ” ฝนยิ้มแซว เอียงคอมองเขาเหมือนจะจับโป๊ะ “ปะ เปล่า กูแค่เปิดดูว่าเขาเขียนยังไงเฉยๆ...” ภีมเบือนหน้าหลบ รีบลุกจากโต๊ะ “กลับกันเถอะ ฟ้ามืดแล้ว เดี๋ยวรถติด” ถึงปากจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ใจมันยังแอบสั่นอยู่นิดๆ… ภาพฉากที่พระเอกไทป์จิ้งจอกนั้นหลอกลวงมาเอลไปบ้านตัวเอง..ก่อนที่จะ.... ไอ้ประโยค “ผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ หรอกครับ” มันติดอยู่ในหัวอย่างกับติดบั๊ก ‘ชายแท้แบบกู... มึงจะอินทำไมวะ...’ ระหว่างทางกลับบ้าน ฝนยังคงแว้ดว้ายอะไรบางอย่าง แต่ภีมไม่ได้สนใจแล้ว แล้วจู่ๆด้วยความสงสัยนักเรียนชายตัวสูงเลยเอ่ยขึ้นมาดื้อๆ " มึงว่าพระเอกเบียวป่ะ " เสียงของภีมดังขึ้นขนาดที่ขายาวๆยังก้าวไปข้างหน้า " หืออ " ฝนเอียงคอ " สนใจแล้วอ๋อ~ กูแนะนำได้น้าาา! " เสียงพูดดี๊ด๊าดีใจทำเอาภีมต้องทำหน้ามุ่ย " บ้า..ไอสัสกูแค่ไม่เข้าใจ มึงแค่อยากแต่อ้างว่าตัวเองป่วย เพื่อไปเอามาเอลที่โคตรจะรักแหนเก่าตัวเองอยู่เนี้ยนะ ประสาทป่ะ" คำพูดที่ดูรุ่นแรงกับสีหน้าเอื้อมๆของภีม ถูกจ้องมองกลับมาด้วยสายตาอาฆาตข้างๆ " แบบนี้เขาเรียกว่าคุกคามทางเพศสุดๆไอเหี้ย" " เขาเรียกรัทค่ะ มึงกล้าว่าพี่ธีโอสุดหล่อแสนจะเพอร์เฟคของกูอ๋อ! " ในตะโกนใส่หูภีมแบบหงุดหงิด " แหมๆ ก็แค่พระเอกในนิยาย ตัวจริงอยู่นี้ครับ กูเนี้ยหล่อกว่าตั้งเยอะ แถมจับต้องได้ด้วย " ภีมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ก็จะยิ้มเยาะ " หน้าตาแบบมึงเนี่ยนะหล่อ? " หญิงสาวในชุดนักเรียน มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า " หน้าตาธรรมดาๆก็เป็นได้แค่เบต้าละว่ะ " เธอหัวเราะลั่นพรางตบบ่าของเพื่อนชายเบาๆ " เบต้า? อะไรว่ะ เจนเบต้าอ่ะนะ " ฝนไม่ตอบแต่เธอยิ้มร่าแล้วเดินนำหน้าภีมไปอย่างลั่นลา จนกระทั่ง— “เห้ยฝน อย่าวิ่ง—!!” ฝนวิ่งพรวดลงทางม้าลายโดยไม่ดูรถเลยสักนิด ในเสี้ยววินาทีที่เห็นแสงไฟหน้ารถบรรทุกพุ่งมา ภีมไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว เขาพุ่งเข้าไปกระชากเพื่อนออกจากกลางถนน ก่อนที่— “โครมมมมม!!!” ภาพแสงดาวตกด้านหน้านั้นช่างงดงาม แต่แล้วทุกอย่างดับวูบ เสียงลม เสียงเบรก เสียงตะโกน มันค่อยๆ จางหายไป เหลือแค่เสียงในหัวตัวเองที่ยังดังไม่หยุด " เรายังไม่ทันได้ใช้ชีวิตให้คุ้มเลยนะ..อย่างน้อย ก็ขอมีความรักดีๆบ้างได้ป่ะล่ะชีวิตเฮงซวย" แต่ใครจะรู้ว่าคำอธิษฐานสุดท้ายของเด็กม.ปลาย จะกลายเป็นจริงขึ้นมา...ในโลกที่เขาไม่อยากอยู่ “อืมม...” เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แทรกความมึนเบลอในหัวชายหนุ่มบนเตียง ภีมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ มองเพดานห้องสีขาวสะอาดหรูหรา “อืม... โรงบาลเหรอ...” เขาพึมพำ... ก่อนจะชะงัก “...เดี๋ยว นี่ไม่ใช่โรงบาล!” เพดานสูง หรูหรา วิวด้านนอกหน้าต่างคือเมืองหลวงระดับฟิวเจอร์ลิสต์ “นี่มันคอนโดไฮเอนด์ระดับห้าดาวชัดๆ!!”ภีมดีดตัวขึ้นนั่ง... แล้วก็เบิกตากว้าง “แม่ง... กูไม่ได้ใส่เสื้อ... แล้วนี่กล้ามเหี้ยไรวะ?!” หน้าอกแน่นๆ กับซิกซ์แพ็กที่เหมือนหล่อหลอมมาจากประติมากรรมเทพเจ้ากรีก เขารีบยื่นมือไปแตะหน้าแข้งตัวเอง แล้วก็สะดุด...“เวร มือนี่ก็ไม่ใช่มือกูนิ! เส้นเลือดแน่นไป๊!” ก่อนจะตั้งสติได้ เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นอีกเขาคว้ามันมากด... แล้วเห็นโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ “โห แอปเปิ้ลรุ่นล่าสุด... เหี้ย ของจริงเหรอ?” แต่ทันทีที่หน้าจอดับลง เขาก็เห็นเงาสะท้อนในจอเป็นผู้ชายผมขาว ตาสีทองนวล รูปหน้าหล่อคมเหมือนโมเดล ภีมเบิกตากว้าง “เชี้ยใครวะ!! ไม่ใช่กูแน่นอนอ่ะ!!” เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งแบบสัญชาตญาณ แต่สุดท้ายก็ต้องคว้ามันกลับมาเปิดกล้องหน้าดูให้รู้ชัดๆ ไปเลย กล้องหน้าสะท้อนภาพใบหน้าเทพเจ้าที่มีผมสีเงิน ดวงตาสีทองล้ำลึก สันจมูกคมมีไฝเม็ดจิ๋ว “...โว๊ะ!! ฝนเล่นอะไรกับกูอีกแล้ววะเนี่ย!!!”ยังไม่ทันจะตั้งสติ แมวดำตัวอ้วนพุงปลิ้นตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นมาคลอเคลียขาเขา “โอ๋ จั้มมั้มน่ารักวะ มานี่ม๊าาา— อ้าว เฮ้ย!?” แมวตัวนั้นมีสีตาราสกับน้ำทะเลสีอำพัน ที่ทำเอาเขาอึ้งแล้ว มันก็ยังปรากฏแผงจอโปร่งแสงลอยขึ้นกลางอากาศซึ่งแบบนั้นยิ่งทำให้ภีมแทบช็อก เขาไม่อยากเชื่อที่ตาเห็นเลยสักนิด บนจอโปร่งแสง มีข้อมูลเต็มพรืด! ราวกับบอกประวัติของคนร้าย ชื่อ: วิคเตอร์ เฮด ตำแหน่ง: ตัวร้ายสายเลือดอัลฟ่ารุ่นที่ 3 ระดับอัลฟ่า: S บทบาท: ตัวประกอบรูปหล่อ และว่าที่ผัวในมุมมองคนอ่าน สถานะ: ยังไม่ตาย (แต่กำลังโดนเล่นงานในต้นเรื่อง) จากนั้นเจ้าแมวอ้วนก็พูดขึ้นด้วยเสียงกลมๆ นิ่มๆว่า " ฉันชื่อโคโค่ ต่อจากนี้นายเป็นเจ้านายฉัน"อุ้งมือขนฟูถูกยกขึ้นมาลูบปลายหนวดเล่น “โอ๊ะ! แล้วก็..ยินดีต้อนรับสู่โลก Omegaverse นายได้รับสิทธิ์พิเศษจากพรกับดาวตกที่นายอธิษฐานไว้ตอนก่อนตายไงล่ะ~” ภีมอึ้ง ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก “นี่กูฝะ...ฝันอยู่ใช่มั้ย...?” แมวยิ้ม กวาดหางเหมือนจะกลั้วหัวเราะ “ก็แค่ฝันที่นายอาจจะไม่ได้ตื่นอีกต่อไปแล้ว~ ยังไงก็ขอให้ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้ม...อย่าตายรอบสองละ อิอิ” “เชี่ย...! มึงเป็นเอไอแบบตัวร้ายในเกมจีบหนุ่มแน่ๆ!!!” นิ้วชี้ถูก จิ้มซ้ำๆ ไปที่จมูกของแมวดำตัวนั้น " เสียมารยาทนะ.. งับ! " ทันทีที่พูดแบบนั้นไปความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมา เขี้ยวแมวคมๆฝังลงบนนิ้ว " อ้ากก!!? โอ้ยๆๆ ทำบ้าอะไรไอแมวอ้วนนี่! " เขาสะบัดมือออก ก่อนจะเป่ามันซ้ำๆ " ฉันชื่อโคโค่! นายต้องเรียกฉันแบบนั้น แล้วก็ห้ามพูดคำหยาบ กับแมว!! เข้าใจมั้ยห้ะ! " โคโค่ตะหวาดลั่น พร้อมกับเหยียบอยู่บนหัวภีม " แล้วนี่มันคืออะไร ก- ..ผมยังไม่เข้าใจเลยนะ อธิบายทีได้มั้ย.." " หึ..ได้อยู่แล้วเจ้าทาส เพราะนั้นแหละคือหน้าที่ของโคโค่ละ! " " หน้าที่? " ภีมเลิกคิ้ว " หน้าที่ในการดูแลชีวิตของตัวประกอบที่แม่ยายรักมากๆ อย่างเจ้ายังไงละ! " " ห้ะ....""ดูหนังกันมั้ยครับ " ธีโอพูดขึ้นเชิญชวนวิคเตอร์ผู้เป็นเจ้าของบ้านทันทีที่เขาเห็นจอทีวี" เอ่อ..นี่มันก็น่าจะดึกแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไม่ดีกว่าหรอครับ " วิคเตอร์พยายามพูดเพื่อให้แขกยอมกลับบ้าน ทั้งกินมื้อค่ำแล้วยังเดินเล่นในบ้านของเขาราวกับเป็นสนามเด็กเล่นวิคเตอร์เห็นทีว่าต้องส่งแขก แต่ดูเหมือนแขกคนนี้ค่อนข้างดื้อและมึนสุดๆ จนสุดท้ายก็...ทีวีจอใหญ่ระดับ IMAX ขนาดเกือบเท่าฝาบ้านฉายแสงสีนวลอุ่นๆ วิคเตอร์นั่งตัวตรงราวกับเป็นบอดี้การ์ด ไม่ได้เอนหลังพิงโซฟาแม้แต่นิด ขณะที่ธีโอนั่งข้างๆ ด้วยท่าทีที่ "ไม่รู้เลยว่านี่นั่งดูหนังหรือจะดูเจ้าของบ้านมากกว่า"ผมเรียกวิคเตอร์ ว่าพี่ได้มั้ยครับ เราน่าจะสนิทกันแล้วนี่น่า~" ธีโอพูดเล่นพร้อมยิ้มกริ่ม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมต “พี่เองก็เรียกผมธีโอจะได้แฟร์ๆกัน”“อ่า ได้สิ…” วิคเตอร์ตอบช้าๆ แอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อธีโอทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอีกครั้ง แบบใกล้เกินระยะปลอดภัยของชาวอัลฟ่าจนหนังเริ่มฉาย...แต่วิคเตอร์ไม่ได้ดูหนังเล เพราะทุกๆ ครั้งที่เขาขยับตัว หรือเงยหน้าขึ้นมองจอ ก็จะเห็นธีโอนั่งหันมาทางเขาแบบ...จ้องจ้องแบบลึก จ้องแบบอยากขอข้อมูลพันธุกร
กลิ่นหอมละมุนแบบกาแฟคั่วสดกับคาราเมลหอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งกลางอากาศ ราวกับเรียกร้องให้ใครบางคนตามมันไปธีโอ หยุดยืนกลางโถง สูดหายใจลึกอีกครั้ง ดวงตาทอประกายสว่างขึ้นในทันที “เขาออกไปแล้ว...แต่กลิ่นยังไม่หาย”เสียงฝีเท้าเขาดังชัดในทางเดินที่ไร้ผู้คน กลิ่นของวิคเตอร์ไม่ชัดเจนเหมือนตอนอยู่ใกล้ แต่มันก็ชัดพอจะพาเขาเดินเลี้ยวออกจากตัวอาคาร มุ่งหน้าสู่โรงจอดรถลมเย็นภายนอกตีกลิ่นจางๆ กระจายไปทั่ว แต่ธีโอกลับตามมันได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ“คุณวิคเตอร์...หนีผมไม่พ้นหรอกครับ” เสียงกระซิบของเขาดังแผ่วเบาเหมือนคำสัญญาในเงามืดในโรงจอดรถ ไฟบางส่วนยังเปิดอยู่ และในความเงียบที่ปกคลุม รถหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างใน ประตูด้านคนขับปิดไม่สนิทดีนัก ราวกับมีใครบางคนรีบหนีเข้าไป ธีโอหยุดยืนตรงหน้า ยกมือแตะฝากระโปรงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาเยือกเย็นกลับกลายเป็นร้อนแรงเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างรถ สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง กลิ่นวิคเตอร์เข้มข้นราวกับเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่“นั่นแหละ… นี่แหละกลิ่นของคุณ” เขาพึมพำภายในรถ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่ในเบาะหลัง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างของธีโอเคลื่อนใ
กลางวันแสกๆ ของห้องทำงานชั้นบนสุด ที่ควรจะสงบเงียบ…แต่กลับมีเสียงพึมพำของโคโค่เจ้าแมวอ้วนลอยมาก่อนใครเพื่อน "นายเห็นไหม พระเอกจ้องจะเล่นนาย… เอ็งหนีไม่พ้นหรอกเว้ย วิคเตอร์"บนโต๊ะทำงานหรูดีไซน์มินิมอลของวิคเตอร์ มีทั้งกาแฟดำที่ใกล้เย็นสนิท กับแผ่นโปร่งแสงของ AI ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโต๊ะ แสดงค่าพารามิเตอร์ความนิยมของตัวละครชื่อ “วิคเตอร์” กำลังขึ้นสูงแบบผิดคาด“นี่มันบ้าไปแล้ว… ตัวละครประกอบอย่างผมควรจะตายตั้งแต่บทที่ 3” วิคเตอร์บ่นพลางจ้องตัวเลขด้วยสีหน้าปลงๆ แต่โคโค่กลับขำแห้งๆ แล้วพ่นออกมาหนึ่งประโยค “นายโดนระบบเรือใหญ่เลือกไปแล้วอะดิ”วิคเตอร์กำลังจะเถียงอะไรกลับ แต่จู่ๆ โคโค่เงียบกริบ ดวงตาเรืองแสงของแมวอ้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างระแวดระวัง “เดี๋ยว มีคนกำลังเดินมา...”แล้วมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแมวทันทีกระโดดกลับไปนอนกลมบนโต๊ะ เสมือนว่าไม่เคยพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยกอุ้งมือขึ้นมาเลียราวกับแมวบ้านธรรมดาแกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวล และกลิ่นหอมของอาหารโฮมเมด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงัก “มาเอล…?”คนที่ปรากฏตัวคือนายเอกของเรื่องในร่างบางผิวขาวนวล สวมเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาด
เสียงประตูล็อกดังแกร๊ก ทำเอาวิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลิ่นหอมบางของน้ำหอมในบ้านผสานกลิ่นไวน์แดง ทำให้เขารู้ทันทีว่า...เกมนี้ไม่ใช่แค่ดื่มธรรมดา ใช่แล้วสุดท้ายเขาก็จำยอมมากับพระเอกทั้งที่รู้ว่าไม่น่าไว้ใจเลยแท้ๆบ้านของธีโอหรูเกินกว่าจะเรียกว่าบ้าน แถมเป็นมากกว่านั้น...เหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเจ้าของเป็นจิ้งจอกแสนร้าย“เดินดูรอบ ๆ ก่อนสิครับคุณวิคเตอร์” ธีโอเอ่ยอย่างใจดีเกินเบอร์ มือเรียวโบกไปทางห้องรับแขก เปิดไฟอุ่น ๆ ที่ทำให้บ้านยิ่งดูอบอุ่นแบบน่าระแวงวิคเตอร์เดินตามอย่างเสียไม่ได้ รองเท้าหนังสะท้อนกับพื้นไม้ขัดมัน แววตาเขากวาดไปทั่วบ้านแบบคนกำลังหาทางหนี ก่อนจะจบลงที่โซฟาหนังวัวนุ่มลึกกลางบ้าน ธีโอลากไวน์ขวดละหลายพันขึ้นมาเทช้า ๆ ก่อนยื่นแก้วให้เขาด้วยรอยยิ้ม“เชิญครับ แขกพิเศษของคืนนี้”วิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะรับแก้วมา มือเย็นเฉียบเพราะเขากำลังคิดถึงแมวบางตัวที่ควรจะโผล่มาช่วยในเวลานี้แทนที่จะปล่อยให้เขาเผชิญด่านบอส“วันนี้ผม...ต้องขอโทษเรื่องมื้อเย็นด้วยจริงๆนะครับ” ธีโอเปิดบทสนทนา เสียงทุ้มนุ่มมีน้ำหนักวิคเตอร์เอียงคอ “หืม.. ครับ?”“ที่ผมอาจจะทำตัวเสียมารยาทน่ะครับ...แ
กลิ่นหอมของเนื้อย่างและไวน์ชั้นดีลอยฟุ้งปะทะประสาทรับรู้ แต่สิ่งที่กระแทกอารมณ์มากกว่านั้นคือสงครามเย็นระหว่างสองชายหนุ่มที่นั่งขนาบซ้ายขวาของวิคเตอร์หลังคำจิกกัดเผ็ดร้อนแบบมีดโกนของมิเอลกับธีโอ ภีมหรือวิคเตอร์ ก็แทบไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนลูกโซ่ที่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปทำงานใส่ตัวเอง“ว่าแต่…” ธีโอเลิกคิ้ว มองวิคเตอร์ด้วยสายตาสนอกสนใจแบบจงใจ “คุณวิคเตอร์นี่แปลกตาดีนะครับ ผมขาว ตาสีทองอร่าม…เหมือนลูกแก้วเลย งดงามแบบไม่เหมือนใคร”คำพูดนั้นเหมือนลูกศรที่พุ่งเข้ากลางใจมาเอลทันที เขาขยับคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร สายตากลับหันไปมองวิคเตอร์แทน“อ๋อ พอดีผมเป็นลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติน่ะครับ” วิคเตอร์หัวเราะแหะ ๆ มือกำชายเสื้อแน่น “คงได้มารวมกันเยอะไปหน่อย”“ตอนคบกัน นายชอบใส่แว่นไม่ใช่เหรอ?” เสียงเรียบของมิเอลแทรกเข้ามากลางวงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ทำไมตอนนี้ถึงถอดมันล่ะ?”“แว่นมันเกะกะน่ะ” วิคเตอร์ยิ้มแหย “ถอดแล้วมองอะไรชัดขึ้นเยอะเลย”“แต่นายก็ดูดีมากเลยนะตอนนี้” มิเอลยิ้มบาง แต่ดวงตานั้นกลับทอดเงาลึกชวนสงสัย “ใช่มั้ย…เพื่อน(รัก)?”คำว่า เพื่อนรัก ถูกเน้นหนักจนวิคเตอร์รู้สึกได้ถ
เสียงเพลงป๊อปแดนซ์จังหวะกระชากใจดังลั่นไปทั่วคอนโดหรู วิคเตอร์ หรือ ภีม ในชื่อเดิมของเขากำลังสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เดินเต้นลั้ลลาแบบไม่สนโลก ราวกับว่าชีวิตในจักรวาลโอเมก้าเวิร์สนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการเลือกว่าจะกินข้าวหรือกาแฟก่อนดี"ถ้าให้เธอเป็นเสื้อ..คงเป็นเบบี้ที~” เขาหมุนตัวเองหน้าโซฟาอย่างภาคภูมิ ก่อนจะชี้นิ้วฟาดจังหวะเข้ากับเสียงเพลงที่ดังสนั่น…จนกระทั่ง...ปึ้ง! เพลงเงียบลงทันใดวิคเตอร์กะพริบตาปริบ ๆ หันขวับไปมองต้นเสียง แมวดำตัวอ้วนกลมที่ชื่อว่า โคโค่ นั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะกาแฟกลางห้อง แพขนฟู ๆ ยกหูรีโมตขึ้นแล้ววางอย่างช้า ๆ แบบโคตรมีเจตนา“โอ้ย โคโค่! เพลงกำลังมันส์ ทำไมปิดอะ!”“เพลงไม่สำคัญเท่า ‘เนื้อเรื่อง’ นะยะ” โคโค่หรี่ตาเหมือนจะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว “นายรู้มั้ยว่า คะแนนความชอบของแม่ยก ที่ให้กับตัวละคร ‘วิคเตอร์’ ตอนนี้มันหยุดนิ่ง! นาน! แล้ว! เพราะอะไร? เพราะคุณลูกชายเอาแต่นอนเป็นส้มในคอนโด ไม่ไปเข้าเนื้อเรื่องหลักไงล่ะ!”วิคเตอร์ทำท่าจะโวยแต่ก็กลายเป็นแค่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินลากสลิปเปอร์กลับไปที่โซฟาแล้วหยิบหมอนมาฟาดหน้าตัวเองอย่างเซ็ง ๆ “พูดอีกละ พูดทุกวัน หูผมชา