Share

ตอนที่1

last update Dernière mise à jour: 2025-09-01 13:45:23

และแล้ววันใหม่ของภพชาติใหม่และชีวิตใหม่ของนางก็มาเยือน ซึ่งแน่นอนปัญหาของคนข้ามภพมาเช่นนางร้ายเงินล้านนั้นก็ย่อมบังเกิดอีกครั้ง ทั้งเรื่องขับถ่าย อาบน้ำ ทำความสะอาดช่องปาก ไปจนถึงการแต่งกายช่างยุ่งยากลำบากไปหมด แต่ลำบากเพียงใดเธอก็ต้องปรับตัวให้จงได้

“วันนี้ยังใหม่ ลำบากมากก็ถือว่าปกติ”

คนที่ชอบท่องบทออกเสียงพึมพำกับตนเองหน้าคันฉ่องที่เป็นทองเหลืองไม่กระจ่างแจ่มใสเหมือนกระจกเงาในยุคที่ตายจากมา ทำเอาสาวใช้เช่นฟางปี้เหลียนจับกิริยาที่แปลกประหลาดผิดไปจากคุณหนูก่อนถูกทำร้ายไปอย่างสิ้นเชิง หรือว่าการถูกฟาดศีรษะแล้วยังจมน้ำทำให้สมองของคุณหนูห้านั้นผิดเพี้ยนไปแล้วกันแน่?

...ไม่ได้การแล้ว เรื่องนี้ต้องถึงหูของนายท่านเสียแล้ว...

“แล้วมื้อเช้าปกติข้ารับที่เรือนหรือต้องไปที่โถงใหญ่?”

ภาพในหัวของนางคล้ายกับว่าจางเยว่เซียงต้องเร่งตื่นแต่เช้ามืด ฟ้ายังไม่สว่างดีก็ต้องไปที่ใดสักแห่ง แต่มันค่อนข้างรางเลือน มิอาจทราบได้ว่าเป็นเพราะศีรษะของกายนี้ที่ก่อนหน้าถูกฟาดท้ายทอยจนสิ้นใจไม่พอร่างนี้ยังจมน้ำไปราวชั่วสองก้านธูปหมดดอกอีกด้วย จึงมีผลกระทบกับความทรงจำกว่าจะนึกออกสักสิ่งนั้นก็ต้องใช้สมาธิอย่างหนัก เรียงลำดับต่อภาพในหัวดังคนต่อภาพจิ๊กซอว์ก็ไม่ปานเช่นนี้

ดังนั้นหากนางไม่อยากปวดหัวศีรษะจนหน้ามืดบ่อย ๆ ก็คงต้องใช้วิธีสอบถามเอาจากสาวใช้ใกล้ตัวในภพนี้เท่านั้น เคยดูซีรีส์แนวข้ามภพข้ามมิติมาบ้างไม่ว่าจะเป็นจีน ฝรั่งหรือของไทยเองเพื่อเก็บเอาไว้เป็นแนวทางการแสดง ทว่าการข้ามภพของเธอกลับแตกต่างไปจากนางเอกเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง เพราะเท่าที่ติดตามนั้น

นางเอกจะมีความสามารถพิเศษไม่สิ่งใดก็สิ่งหนึ่ง และที่ทุกคนต้องมีก็คือความทรงจำของร่างใหม่ผสานรวมกับวิญญาณของนางเอกผู้นั้น หากแต่นางนั้นกลับมีปัญหาด้านความทรงจำพอสมควรเลย เมื่อวานกับเมื่อคืนเธอคิดว่าคงเพราะตนเองยังใหม่กับร่างนี้ หากแต่มาจนถึงวันนี้สภาพการณ์ของเธอกลับไม่ดีขึ้นเลย ยังดีที่ความทรงจำต่อเหตุการณ์ใหญ่ของกายนี้ยังมีอยู่ หาไม่เธอคงมีสภาพไม่ต่างจากคนตาบอดเป็นแน่

“ปกติคุณหนูจะตื่นในปลายยามอิ๋นจากนั้นพอต้นยามเหม่า ท่านก็จะไปเรือนของเหล่าฮูหยิน ดูแลปรนนิบัติจนเรียบร้อยจึงไปที่เรือนของคุณหนูสี่ดูแลอำนวยความสะดวกแล้วแต่คุณหนูสี่ต้องการ จนถึงต้นยามเฉินคุณหนูก็จะไปรวมกับนายท่านและเสี่ยวฮูหยินกินมื้อเช้าที่เรือนโถงกลางเจ้าค่ะ”

เพราะฟางปี้เหลียนนั้นนับว่าเป็นเด็กสาวเฉลียวฉลาด จึงจับสังเกตผู้เป็นนายสาวได้ว่าอีกฝ่ายดูมึนงงสงสัยอยู่ตลอดเวลาเลยอธิบายรวบรัดให้จางเยว่เซียงนั้นได้เข้าใจกระจ่างในครั้งเดียว และมันได้ผลอย่างยิ่ง เพราะทันทีที่ฟางปี้เหลียนนั้นบอกถึงกิจวัตรในช่วงเช้าที่เจ้าของกายนี้ทำอยู่เป็นประจำ ภาพที่สะเปะสะปะก็พลันมารวมกันจนเมฆหมอกที่จับหนาแน่นค่อยกระจ่างสว่างแจ่มใสขึ้นมาสองในสิบส่วน

“แต่วันนี้คุณหนูยังป่วยอยู่เราไปรวมกับทุกคนที่โถงกลางเลยเจ้าค่ะ”

...หึ!...

ซึ่งถึงจะเป็นสองในสิบส่วน แต่พอนางฟังคำของฟางปี้เหลียน ภาพในแต่ละวันก็ยิ่งแจ่มชัด ความโมโหของจางเยว่เซียงคนใหม่ก็ปะทุเดือด เกลียดเจ้าของกายนี้ทว่ากลับเรียกใช้ราวนางทาส ช่างเป็นพวกเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลแต่ก็ซดน้ำแกงโดยแท้ เหล่าฮูหยินจางผู้นั้น ไม่แปลกเลยที่จางเยว่ซินจะเติบโตมาเป็นเด็กสาวร้ายกาจ ใจร้ายใจดำทำร้ายกันได้แม้นแต่น้องสาวฝาแฝดที่มีใบหน้าและรูปร่างเหมือนกันถึงเก้าส่วนได้ลงคอเช่นที่ผ่านมา

“เดี๋ยวอาเหลียนนั้นจะเปลี่ยนผ้าพันแผลบนศีรษะให้นะเจ้าคะคุณหนูห้า”

พอจัดเก็บที่หลับที่นอนเรียบร้อย ฟางปี้เหลียนก็ไปค้นเอากล่องใส่เครื่องมือทำแผลกับกล่องยาที่ท่านหมอฟางนั้นจัดเอาไว้ให้ตั้งแต่หลายวันก่อนที่จางเยว่เซียงนั้นถูกงมร่างขึ้นมาจากบึงบัวท้ายจวน จากนั้นนางก็แกะผ้าพันแผลออกหวีผมให้ผู้เป็นนายสาว แล้วจึงใส่ยาที่แผลแตกช่วงท้ายทอยแล้วจึงพันปิดแผลเป็นอันเสร็จสิ้นการเปลี่ยนผ้าพันแผลและใส่ยา

“คุณหนูวันนี้รู้สึกเช่นไรบ้างเจ้าคะ ปวดแผลหรือปวดในศีรษะอยู่กี่มากน้อยบอกแก่อาเหลียนได้นะเจ้าคะ”

เพราะฟางปี้เหลียนนั้นก็คือหลานสาวของท่านหมอฟางที่เป็นหมอประจำอำเภอและประจำจวนท่านนายอำเภอจาง ความรู้ทางด้านการแพทย์นางเองเลยพอมีวิชาติดกายอยู่บ้าง แต่พอมองดูความสามารถของเจ้าของร่างนี้ นางร้ายเงินล้านก็ถึงกับท้อ

เพราะจางเยว่เซียงช่างเป็นคุณหนูในห้องหอที่แท้จริง นอกจากงานฝีมือ การดูแลงานบ้านงานเรือน นางก็ทำเป็นเพียงดูสีหน้าของพี่สาวฝาแฝดกับท่านย่ามหาภัยผู้นั้น อย่างอื่นกลับไม่เอาไหนช่างผิดจากนางในอีกภพชาติโดยสิ้นเชิง

...เจริญดีแท้... ช่างเจริญลงฮวบฮาบเลยทีเดียว...

‘หึ! แต่นับจากนี้ไปข้าจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเจ้าเองจางเยว่เซียง’

ก็นางเป็นผู้ใดเล่า นี่นางร้ายเงินล้าน ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่จำความได้ ตบมาแม่ถีบคว่ำมาไม่รู้กี่ราย ท่านย่าก็ท่านย่าเถิด แก่แล้วแก่เลยเช่นนั้นทำตนเป็นร่มมะพร้าวมิใช่ร่มโพธิ์ร่มไทรเช่นนี้นางจะกตัญญูไปเพื่อ? ... แก่แล้วแก่เลยร้ายกาจมาแม่ตบดิ้นนะขอบอก!

“ท่านย่า...ท่านพ่อ...ท่านน้า”

พอเดินมาถึงห้องโถงทุกคนก็มาพร้อมกันแล้ว นางจึงย่อกายทำความเคารพเช่นที่ความทรงจำของร่างนี้พอจะส่งต่อให้แก่นาง จากนั้นก็เดินตรงไปนั่งประจำที่ของตนเอง มองดูกิริยาของท่านย่ามหาภัยแล้วก็รู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อวานพอทราบว่านางฟื้นกลับหยิบไม้หน้าสามสำหรับนางหรือสำหรับที่แห่งนี้มันคือไม้โบยเอาไว้ลงโทษลูกหลานภายในจวนซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะมีเอาไว้ตีจางเยว่เซียงเพียงคนเดียวเท่านั้น แล้ววันนี้ท่าทีหญิงชราสงบเกินไป

จางเยว่เซียงเลยไม่วางใจด้วยทะเลมักสงบก่อนคลื่นลูกใหญ่จะถาโถมฉันใด ท่านย่ามหาภัยสงบเสงี่ยมได้เกรงว่าภัยใหญ่หลวงจะมาถึงนางก็อาจเป็นไปได้

‘ท่านย่าที่เคารพรัก หากท่านย่าพบจดหมายฉบับนี้อาซินคงจากไปไกลแล้ว’

...เหอ...นางคาดเดาเอาไว้ผิดไปเสียเมื่อใดกัน หลังจากมื้อเช้าพร้อมหน้า เหล่าฮูหยินจางก็นำจดหมายของจางเยว่ซินมาเปิดอ่านซึ่งใจความก็ไม่มีอันใดมาก นอกจากขายความตลบตะแลงของยายแฝดร้ายผู้นั้น

“กล่าวมาให้ชัดเจนเถิดเจ้าค่ะท่านย่า ว่าท่านต้องการสิ่งใด”

ทุกคนในห้องถึงกับอ้าปากค้างที่จู่ ๆ คนนุ่มนิ่มที่สุดในจวนกลับลุกขึ้นมาถามด้วยกิริยามั่นคง อาจจะกล้าแกร่งว่าท่านนายอำเภอจางผู้เป็นบิดาเสียด้วยซ้ำไปในวันนี้

“เจ้า...เจ้า...”

ท่านย่ามหาภัยของจางเยว่ซินชี้นิ้วสั่นระริกแต่ก็กล่าวออกมาได้เพียง ‘เจ้า...เจ้า...’ แล้วอึกอักราวปลาแก่สำลักน้ำก็มิปาน กายอรชรที่ยังมีผ้าพันแผลพันเอาไว้รอบศีรษะใบหน้าหรือก็ยังซีดเซียวอยู่ถึงหกส่วนระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“มันกล่าวยากหรือเจ้าคะ ที่จะบอกว่า ‘อาซินก่อเรื่องแล้ว เช่นไรอาเซียงช่วยตบแต่งออกไปแทนอาซินได้หรือไม่?...’ น่ะเจ้าคะท่านย่า”

คราวนี้นอกจากทุกคนจะอ้าปากจนคาดว่ากรามอาจค้าง ดวงตายังเบิกโพลงโตเท่าไข่เป็ดกันไปทั่วหน้า แม้นแต่น้องสาวคนเล็กเช่น ‘จางเสียนหนี่ว์’ เด็กน้อยวัยสามขวบปีที่เลิกพยายามจะรื้อเสื้อมารดาเพื่อจะดื่มนมก็ไม่เว้น ที่จะหันไปมองพี่สาวลำดับที่ห้าของตนไปด้วย

“ละ...แล้ว หากข้ากล่าวไปเช่นนั้นเจ้าก็จะตกลงใช่หรือไม่?”

เป็นเหล่าฮูหยินจางที่เป็นขิงแก่เร่งรวบรัดเข้าทางตนเอง เพราะคิดว่าเช่นไรคนนุ่มนิ่มเช่นจางเยว่เซียงจะชี้ไปซ้ายนางย่อมหันไปทางซ้าย กำหนดเส้นทางชี้ไปด้านขวาหลานคนนี้ก็ไม่เกี่ยงงอนทว่า...

“ไม่เจ้าค่ะ!”

“!!!”

“!!!”

“!!!”

“!!!”

“ท่านย่าต้องเข้าใจนะเจ้าคะว่าท่านมีสิทธิ์จะร้องขอ อาเซียงเองก็มีสิทธิ์จะปฏิเสธ สิทธิ์ของพวกเราเท่ากัน ท่านย่าต้องทำใจยอมรับให้ได้ในข้อนี้ ข้าก็คือข้า จางเยว่ซินก็คือจางเยว่ซินจะรับหน้าที่แทนกันได้อย่างไร”  

บรรยากาศภายในห้องโถงกลางบัดนี้หากมีเข็มสักเล่มตกลงพื้นคาดว่าจะได้ยิน เพราะเสียงลมหายใจของทุกคนภายในห้องผู้ใดหายใจผู้ใดลืมหายใจจางเยว่เซียงรับรู้ได้ชัดเจนเลยทีเดียว

...ให้รู้บ้างว่านี่ตัวแม่มาเอง...หึ!...แต่งงานแทนกันเช่นนั้นหรือหากคิดได้ตั้งแต่แรกก็ไม่ลงมือกับกายนี้อย่าเหี้ยมโหดถึงเพียงนั้นแล้ว ถึงนางจะไม่ได้มากำเนิดใหม่ในกายนี้ก็ไม่สำคัญ แต่หญิงแก่ที่ร้ายกาจผู้นี้สมควรรักหลานให้เท่ากันมิใช่หวังสังหารอีกฝ่ายแล้วปล่อยอีกคนไปเช่นนี้ บัดนี้จางเยว่เซียงรอดตาย หญิงชรานางนี้กลับคิดจะใช้ประโยชน์ ช่างน่าชิงชังเสียจริงยายเฒ่า!

ถึงนางไม่เก่งเท่าพี่เบลล่าแต่ขอโทษบุพเพสันนิวาสนางดูวนเวียนจนท่องบทของแม่หญิงการะเกดได้แม่นยิ่งกว่าแม่น วันนี้จะยืมองค์แม่หญิงมาลงย่อมมิติดขัดอยู่แล้ว และนอกจากแม่หญิงการะเกดแล้ว บทแม่หญิงปานวาดก็นับว่านางนั้นพอจะถูไถได้อยู่บ้าง

“เช่นไรหากท่านย่า และท่านพ่อหมดเรื่องจะกล่าวแล้วอาเซียงคล้ายจะปวดศีรษะยิ่งนัก คงต้องขอตัวก่อน อาเหลียนมาช่วยประคองข้าสักหน่อยเถิดเวียนหัวเสียจริง...เวียนหัวเสียจริง...”

...บทแม่หญิงปานวาดต้องมาแล้วโอกาสนี้...

นางส่งมือให้ฟางปี้เหลียนจากนั้นก็เสแสร้งเดินนุ่มนิ่มราวกับเมื่อครู่ที่เถียงท่านย่ามหาภัยฉอด ๆ หายไปไม่เคยมีตัวตนอยู่สักน้อยกลายเป็นคุณหนูห้าผู้นุ่มนิ่มอ่อนแอถูกลมสักน้อยก็พร้อมจะแตกสลายลงโดยพลัน

“เร่งตามหมอเร็วเข้า...ใครอยู่แถวนี้เร่งตามท่านหมอฟางโดยเร็ว!!!”

เป็นท่านนายอำเภอจางที่ลุกขึ้นพรวดพราดแล้วร้องเรียกหาคนไปตามท่านหมอประจำตระกูลมาโดยเร็ว เพราะคิดไปแล้วว่าศีรษะบุตรสาวถูกฟาดโดยแรงมิคาดจางเยว่เซียงอาจถึงขั้นฟั่นเฟือนไปแล้วก็เป็นไปได้ หาไม่คนที่ไม่เคยมีปากมีเสียงจะลุกขึ้นมาถกเถียงกับสตรีซึ่งมีอำนาจที่สุดในจวนสกุลจางแห่งนี้ไปได้เช่นไร เขาเองเกิดมาจนสี่สิบแปดหนาวยังไม่กล้าโต้เถียงมารดาแม้นเพียงสักครึ่งคำ พอวันนี้ลูกสาวแสนเรียบร้อยเปลี่ยนไปท่านนายอำเภอจางจึงกลัดกลุ้มแทบเสียสติไปอีกคน!

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายวันเวลานั้นช่างมิเคยหยุดรอผู้ใด บัดนี้ชีวิตใหม่ของอดีตนางร้ายข้ามภพเช่นจางเยว่เซียงหรือก็คือหนานเฉิงกั๋วกงฟูเหรินเผลอไปเล็กน้อย บัดนี้ก็ผ่านมาถึงเจ็ดหนาวเข้าไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นเช่นปุถุชนทั่วไปนั่นก็คือมีทั้งสุข และทุกข์ยากผสานกันไป บุตรชายฝาแฝดทั้งสองคนของนางคลอดออกมาอย่างปลอดภัยหลังจากพิธีแต่งงานของซั่วเจา และฟางปี้เหลียนผ่านไปได้ราวสองเดือน สวีฉีเฟิ่งคือคนที่ดีใจจนน้ำตาไหลในยามที่เขาได้โอบอุ้มเด็กแฝดสองคน และตลาดเจ็ดหนาวที่ผ่านมา 'สวีเฉิงซี' และ 'สวีเฉียวฟ่าน' ก็แข็งแรง และฉลาดเฉลียวสมวัย มิมีสิ่งใดผิดปกติเช่นที่นางกังวลมาตลอดหลังจากตนเองถูกวางยาในคราวนั้น ส่วนฟางปี้เหลียน และซั่วเจาอีกสองหนาวหลังจากแต่งงานกัน พวกเขาก็ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคน และอีกห้าหนาวต่อมาก็เป็นบุตรชายอีกหนึ่งคน ครอบครัวแซ่ซั่วจึงอบอุ่นมีความสุขกันตามประสา ส่วนนางเมื่อหนึ่งหนาวก่อนก็เพิ่งให้กำเนิดบุตรสาวมาเป็นแก้วตาให้กับบุรุษแซ่สวีทั้งสาม และตัวของนางเอง ชีวิตของหนานเฉิงกั๋วกงสวีนั้นเจ็ดหนาวผ่านมาก็ยังคงต้องเดินทางหนึ่งหนาวแทบมิได้หยุดหย่อน ซึ่งในบางครั้งนางก็ติดตามเขาไปบ้าง แต่บางครั้งก็รั้

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ2ราวครึ่งชั่วยามฟางปี้เหลียนก็ก้าวเท้าออกจากห้องอาบน้ำด้านหลังมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนที่พันพันห่อรอบศีรษะ เพราะนางทนไม่ไหวจำต้องสระผมด้วย ชายของเสื้อคลุมตัวที่นางสวมนั้นสั้นเพียงโคนขาเรียวเปิดเผยให้เห็นช่วงขาอ่อนวับแวม ส่วนหัวไหล่นวลเนียนลาดลงมารับกับเนินอกอันอวบอิ่มนั้นถูกเนื้อผ้าของเสื้อคลุมปกปิดมิดชิดเช่นปกติ ฝ่ายเจ้าบ่าวที่นอนรอท่าอยู่แล้ว เมื่อเห็นเจ้าสาวของตนเดินออกมาจากห้องอาบน้ำเกือบจะถึงฉากที่กางกั้นเอาไว้สำหรับแต่งกาย เขาก็ลุกพรวดพราดขึ้นตรงไปประคองร่างงาม พลางโอบกอด และซบจมูกลงตรงช่วงลำคอขาวเนียนแล้วไถลเลยไปถึงลาดไหล่ "อะ!...ดะ...เดี๋ยวสิเจ้าคะ ขออาเหลียนสวมอาภรณ์ และเช็ดผมให้แห้งเสียก่อน" ถึงนางจะอาบน้ำถ่วงเวลาทำใจมาเป็นครึ่งชั่วยามแล้วโดยแท้ ทว่าเพียงเขาจู่โจมนางกลับสะท้านเยือกกับเคราเขียวที่เพิ่งโกนของเจ้าบ่าวซึ่งเสียดสีกับเนื้ออ่อนนุ่มบริเวณลำคอ"มิต้องสวมแล้ว สวมไปก็ถูกข้าถอดออกอยู่ดี" คนอดทนรอให้ถึงราตรีนี้มาหลายเดือนกล่าวทึ่มทื่อมิอ้อมค้อมสักน้อยจนฟางปี้เหลียนนั้นเขินอายใบหน้าร้อนผ่าวจึงอดจะบ่นพึมพำเสียมิได้ "ท่านพี่น่ะ!" ทว่านางพึมพำออกมาได้เพียงเท่านั

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ1เข้าเดือนสี่หิมะเริ่มสลาย กลีบดอกเหมยก็ร่วงโรยใกล้หมดต้น บ่งบอกว่าบัดนี้เข้าสู่ปลายฤดูหนาว และคงกำลังจะเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแผ่นดินต้าเหลียงแล้ว วันที่จวนสวีกลับคึกคักอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยหมู่บัดนี้ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยสีแดงระยิบระยับสดใสแสบตา เพราะวันนี้กำลังจะมีงานมงคลเกิดขึ้นนั่นเอง ซึ่งงานวิวาห์ในวันนี้นั้นจะเป็นของผู้ใดไปมิได้นอกจากท่านหัวหน้าซั่วเจาหนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้เยือกเย็น กับแม่นางฟางปี้เหลียน คนสนิทของทั้งนายท่านสวี และนายหญิงสวีนั่นเอง แขกเหรื่อนั้นคราวแรกทั้งเจ้าบ่าว และเจ้าสาวมิคาดว่าจะมากมายเพราะทั้งคู่มิใช่คนมีฐานันดรอันใด ผู้เป็นฝ่ายเจ้าสาวนั้นนางเป็นเพียงสาวใช้กำพร้า มีญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวคือท่านหมอฟางผู้แก่ชรามากแล้ว ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นคงมิต้องกล่าวเพราะมีเพียงสวีฉีเฟิ่ง พ่อบ้านซูจิ้งเหยา เฉาคุน ติงฮ่าว และเหิงเซา เท่านั้นที่เหลือก็เป็นลูกน้องใต้ปกครองอีกราวสองร้อยกว่าชีวิตที่ยังอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น แต่บัดนี้กลับมีแขกมาร่วมงานนับแล้วคงเกินห้าถึงหกร้อยคน ซึ่งในคราวนี้เพราะเวลาถูกเลื่อนมาจากกำหนดเดิมถึงสามเดือนกว่า ทางสกุ

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่ 50

    ตอนที่ 50และแล้วพ้นผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ข่าวจากวังหลวงก็เริ่มทยอยส่งมาให้สวีฉีเฟิ่งได้ทราบ เริ่มจากตำหนักลี่ฮวาของเฉียนเต๋อเฟยที่อยู่ ๆ ก็เกิดเพลิงไหม้จนวายวอด คนเกือบทั้งตำหนักตายลงสิ้น ทั้งที่นี่คือฤดูหนาวหิมะหนาแน่น แต่ต่อให้เป็นฤดูฝนน้ำมาก แต่หากเป็นพระประสงค์ของฮ่องเต้ อยากให้มอดม้วยมลายสิ้นก็ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนเด็กสาวที่กวนเหยานักฆ่าสาวผู้นั้นฝากฝังเอาไว้ แน่นอนว่าต้องได้รับการช่วยเหลือตามคำพูดที่เขาได้รับปากคนตายไปแล้ว เพียงแต่ช่วยเหลือนางออกมาแล้วเขาก็จัดการส่งไปยังโรงเตี๊ยมของสกุลสวีให้นางเลือกว่าจะทำงานใดเลี้ยงชีพตนเอง แล้วลำดับต่อมาก็เป็นสกุลเฉียนที่ถูกข้อหายั่วยุองค์ชายสี่ทำการก่อกบฏคิดลอบปลงพระชนฮ่องเต้ ห้าร้อยเจ็ดสิบสามคนถูกประหารจนสิ้น ส่วนองค์ชายสี่ถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนฝั่งเยี่ยนเป่ยตลอดชีวิตมิอาจกลับมาเหยียบเมืองหลวงได้อีกต่อไป ส่วนทางด้านเหยียนเหม่ยซินนั้นได้คลอดบุตรออกมาเป็นหญิง และเพื่อความบริสุทธิ์ไร้ข้อกังขา ฮ่องเต้จึงประทานหมอหลวงให้ไปพิสูจน์สายเลือดถึงหกคนว่าที่แท้บิดาของเด็กน้อยนั้นเป็นสวีฉีเฟิ่งจริงหรือไม่ ซึ่งย่อมแน่นอนว่าไม่ใช่ แล้วความจริงที่ว่าเหยีย

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่ 49

    ตอนที่ 49...ตำหนักฉางชุน... กายแกร่งของหนานเฉิงกั๋วกงหนุ่มก้าวผ่านโค้งประตูของตำหนักใหญ่ที่มีทหารองครักษ์ และขันทีมากมายคุ้มกันแข็งขันสมกับเป็นตำหนักของมังกรแห่งต้าเหลียง “ฝ่าบาท หนานเฉิงกั๋วกงมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีคนสนิทเร่งเข้าไปโค้งกายกระซิบกระซาบบุรุษในอาภรณ์ลำลองมิได้เต็มพิธีการเช่นในยามออกว่าราชการยังท้องพระโรงใหญ่ของมหาราชวัง “อืม…ให้เขาเข้ามาได้” ผู้กำลังเคร่งเครียดอยู่กับม้วนฎีกามากล้นเอ่ยอนุญาตโดยมิได้ละสายตาจากงานในมือแม้แต่น้อย “ฉีเฟิ่งถวายพระพรฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” กายสูงใหญ่ของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเอ็ดหนาวผู้อยู่ด้านหลังโต๊ะทรงงานเงยหน้าขึ้นจากกองฏีกามากมายตรงหน้าได้ในท้ายที่สุด เมื่อคนที่เขาทราบดีอยู่แล้วว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งสวีฉีเฟิ่งนั้นจะต้องมาเข้าเฝ้าเป็นแน่ เพราะข่าวคราวการสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขไปมิใช่อันใดที่บุรุษจะยอมรับได้ “แวะมาพบข้าได้สักครานะเฟิ่งเอ๋อร์ มานั่งตรงนี้พูดจากันให้ดีเถิด” หากเรียกกันเช่นนี้ย่อมหมายความว่าฮ่องเต้มิต้องการพูดคุยกันอย่างฮ่องเต้กับขุนนาง แต่เขาคงต้องการพูดคุยกันอย่างญาติสนิทมากกว่า แต่จะฐานะใดวันนี้สวีฉีเฟิ่งจะมิอ่อนข้อเด็ดข

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่ 48

    ตอนที่ 48พอเขาขยับกายโอบอุ้มผู้เป็นภรรยา ก็สัมผัสได้กับความเปียกชื้นบ่งบอกชัดเจนถึงของเหลวจึงยกมือขึ้นมาดู ภาพหยาดโลหิตสีเข้มพร้อมกลิ่นคาวกลับทำเอาเขาอุทานลั่นพลางหน้าตาซีดเซียว ส่วนหัวใจนั้นเจ็บปวดราวกับถูกมือขนาดยักษ์ยื่นมาบีบบี้ขยี้จนแหลกเหลวกลายเป็นน้ำเสียแล้ว …ไม่นะเจ้าก้อนขนมทังหยวน (ขนมบัวลอย) ของบิดา เจ้าอย่าเป็นอันใดไปนะ!… “นายท่านเร่งพานายหญิงไปด้านในก่อนเถิดขอรับ อาเหลียนเร่งไปตามท่านพ่อบ้านใหญ่มาเร็วเข้า” เป็นซั่วเจาที่มีสติมากกว่าผู้เป็น ‘นายท่าน’ เขาจึงร้องเตือนทางสวีฉีเฟิ่ง เสร็จแล้วหันไปร้องบอกให้ฟางปี้เหลียนเร่งไปตามผู้มีความรู้ทางการแพทย์เช่นซูจิ้งเหยามาดูอาการของจางเยว่เซียงก่อนที่ท่านหมอจะมาถึงจวน “ท่านพี่…” จางเยว่เซียงนั้นเกร็งมือกำหน้าอกเสื้อของสามีเอาไว้แน่นจนเห็นข้อนิ้วขาว พยายามกัดฟันอดทนต่อสู้กับความเจ็บปวดที่บีบรัดรุนแรงในช่องท้อง นางพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วปล่อยออกสุด หวังบรรเทาอาการปวดนั้นมิให้กัดกินสติของนางจนสิ้นนั่นเอง ส่วนภายในใจนั้นจางเยว่เซียงนั้นกลับกังวลห่วงใยลูกน้อยที่นางเพิ่งทราบว่ามีเขามาอยู่ด้วยเพียงสองเดือนเท่านั้น แต่บัดนี้นางกำลัง

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status