Share

บทที่ 19 การเริ่มต้นใหม่

last update Last Updated: 2025-07-08 13:00:48

รุ่งเช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม รินตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของดอกไม้และต้นไม้ภายในสวนรัตติกาล ดอกไม้หลากสีแบ่งบานอยู่รอบ ๆ ส่งกลิ่นหอมอบอวล อากาศที่สดชื่นจากสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเปิดกว้าง เขานอนอยู่บนเตียงอันแสนอบอุ่น สัมผัสนุ่มของผ้าห่มโอบล้อมร่างกาย เหมือนปกป้องเขาจากความหนาวเหน็บในอดีต

จินเจอร์ แมวตัวโปรดขนฟูที่เหมือนเมฆสีส้ม นอนขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มันเงยหน้ามองเขาพร้อมส่งเสียง “เมี้ยว” เบา ๆ ราวกับทักทาย เขายิ้มให้มันก่อนจะทอดสายตามองเพดาน ดวงตาอ่อนล้ากับความทรงจำที่พุ่งเข้ามา

“ทุกอย่างเหมือนฝันร้าย” รินพึมพำเสียงแหบพร่ากับตัวเอง

เขาปิดตาลง ความเงียบในห้องกลับกลายเป็นเสียงสะท้อนของอดีตที่ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ภาพเหตุการณ์ตอนที่เขาวิ่งหนีออกจากสวนในวัยเด็กปรากฏขึ้นในหัว เสียงฝีเท้าของเขาที่สะท้อนในความเงียบยามค่ำคืน เสียงลมหายใจกระชั้นถี่ ใบไม้ที่ปลิวตามแรงลมเย็นยะเยือก ทุกอย่างกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง ความสิ้นหวังที่กัดกินหัวใจในตอนนั้นยังคงฝังแน่นในความทรงจำ ราวกับมันไม่เคยจางหาย

เขาคิดถึงช่วงเวลาที่วิกเตอร์รับอุปการะเขาไว้ มันเริ่มต้นด้วยความหวัง เป็นความรู้สึกว่าได้พบกับที่พักพิง แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นอีกฝันร้ายหนึ่ง การใช้ชีวิตกับวิกเตอร์และมาร์คัสไม่เคยง่าย ในทุกวันเหมือนต้องเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาด เสียงตำหนิและความคาดหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของวิกเตอร์ยังดังก้องในหู รอยแส้ที่เคยฝากไว้ในความทรงจำกลับมาเหมือนรอยแผลเก่า

“แกเป็นแค่เด็กไร้ค่า ไร้อนาคต” คำพูดของมาร์คัสดังขึ้นในหัว เสียงนั้นเย็นชาและเต็มไปด้วยความดูถูก

“แกไม่มีวันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้หรอก” รอยยิ้มเย้ยหยันของมาร์คัส ภาพการข่มเหง การทำให้เขารู้สึกเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีค่า ล้วนแต่ทำให้เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงในฝ่ามือ

“ทำไมเราต้องผ่านอะไรแบบนั้น...ทำไมชีวิตของเราถึงต้องถูกซ้ำเติมซ้ำแล้วซ้ำเล่า” รินสูดลมหายใจเข้าลึก ความขมขื่นท่วมท้นในใจ เสียงเขาแผ่วเบาและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เขานึกถึงความโดดเดี่ยวในบ้านของวิกเตอร์ ห้องที่เย็นเฉียบในฤดูหนาว พื้นหินที่แข็งกระด้าง ความหวังในตอนนั้นดูเหมือนเป็นเพียงประกายไฟที่เลือนรางในความมืด

ภาพของมาร์คัสผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง รอยยิ้มดูแคลน เสียงหัวเราะเยาะเย้ย และสายตาที่มองลงมาเหมือนเขาเป็นเพียงมดปลวก รินรู้สึกถึงความโกรธที่พลุ่งพล่านในอก เขากำหมัดแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากเล็บที่จิกเข้าไป

“คิดว่าตัวเองอยู่เหนือฉันหรือ มาร์คัส?” รินพึมพำออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเดือดดาล

“แต่สุดท้าย ฉันจะลุกขึ้น...และแกจะไม่มีวันได้เหยียบย่ำฉันอีก”

เขานอนนิ่งอยู่อย่างนั้น สูดลมหายใจลึกเพื่อสงบอารมณ์ ก่อนน้ำตาหยดหนึ่งจะไหลลงมาตามแก้ม เขารีบยกมือเช็ดมันออกทันที หันไปมองจินเจอร์ที่มองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ราวกับมันรู้ว่าเขากำลังต้องการกำลังใจ

“แม่...ผมรู้ว่าพลังของแม่ช่วยปกป้องผมไว้” รินพูดเบา ๆ สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงแดดอ่อน ๆ ทาบทับดอกไม้ที่เริ่มบานสะพรั่ง “ขอบคุณที่ทำให้ผมรอดมาได้ ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่แม่สร้างต้องพังทลาย”

ท่ามกลางความสงบของสวน ภาพของเคียแรนผุดขึ้นมาในหัว ใบหน้าของพี่ชายผู้แสนดีที่เคยปกป้องเขาในวันที่เขาโดดเดี่ยว เขาจำเสียงหัวเราะของเคียแรนได้ เสียงที่คอยปลอบโยนยามที่เขาร้องไห้ในความมืด

“พี่เคียแรน...” รินพึมพำออกมา ดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอ

จินเจอร์กระโดดขึ้นมาบนอกของริน มันเอาหัวไถกับมือเขาเหมือนปลอบใจ รินลูบขนมันเบา ๆ พร้อมถอนหายใจ

“พี่เชื่อว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ ผมจะตามหาพี่ให้เจอ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ความรู้สึกเหล่านี้เหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามา ดูดรินให้จมลงไป รู้สึกถึงแรงกระชากของอดีตที่ดึงเขาลงไปจนแทบหายใจไม่ออก

“แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้...” เขาพูดออกมาเบา ๆ

เขาพลิกตัวนอนนิ่ง ทอดสายตาไปยังเพดาน ราวกับกำลังหาหนทางที่จะสลัดทุกสิ่งที่ตามหลอกหลอนเขา และเริ่มต้นใหม่

รินนอนเอนหลังอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ในห้องที่รายล้อมไปด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา แสงทองอบอุ่นส่องกระทบใบหน้าของเขา ขณะที่เขามองไปยังเพดาน ความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในวัยเด็ก เขาจำได้ราง ๆ ถึงคนคนหนึ่งที่เขาเคยพบก่อนจะวิ่งหนีออกจากสวน คนที่ตัวสูงกว่าเขาเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวสดใสราวกับมรกตที่เปล่งประกาย แม้ในตอนนั้นเขาจะเต็มไปด้วยความกลัวและสับสน แต่เพียงแค่ได้มองชายคนนั้น เขากลับรู้สึกถึงความปลอดภัยที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ราวกับอ้อมแขนของเขาจะสามารถปกป้องเขาจากทุกสิ่งในโลกนี้ได้

“เคล...” รินพึมพำชื่อของเขาเบา ๆ ปล่อยให้มันหลุดออกมาจากริมฝีปากเหมือนสายลมที่อ่อนโยน

เขาเบือนสายตาไปมองเพดาน แต่กลับรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า เมื่อจินตนาการภาพของเคลในชุดอัศวินเต็มยศ แผ่นหลังกว้างกว่าเมื่อตอนยังเด็ก อ้อมกอดที่แข็งแกร่งแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มือเรียวยาวที่เคยแตะไหล่ของเขาเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

และ...ริมฝีปากนั้น รินสะดุ้งนิด ๆ ก่อนจะรีบสะบัดหัวไปมาเหมือนจะปัดความคิดอันตรายนั้นทิ้งไป

“บ้าไปแล้วริน! นายไม่ควรคิดแบบนี้...” แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็ก ๆ

เขาหลับตาลงอีกครั้ง ความคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขายังไม่แน่ใจในตัวเคล ครั้งหนึ่งเขาเคยระแวงและสงสัยว่าชายผู้นั้นอาจเป็นอันตราย ช่วงแรก ๆ ที่เขามาที่สวน เขายังไม่แน่ใจว่าอัศวินหนุ่มคนนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เคล กลับกลายเป็นคนที่เขาเชื่อใจและพึ่งพาได้มากที่สุด

“เคลเนี่ยนะ จะเป็นคนไม่ดี? ริน นายเคยคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน?” เขาหัวเราะเบา ๆ ให้กับตัวเอง พลางดึงหมอนขึ้นมาปิดหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ

“นายไม่ได้ชอบเขาหรอกใช่ไหม?” เสียงในหัวของเขาดังขึ้น รินรีบลุกขึ้นนั่งอย่างฉับพลัน พยายามสลัดความคิดที่ทำให้หัวใจเต้นรัว

“ชอบเขาละสิ ริน!” เขาพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยิ้มและเอามือปัดผมที่ยุ่งเหยิงออกจากหน้า

ดวงตาของเขาเบิกโต รอยยิ้มเริ่มระบายกว้าง “โอ้ ไม่...น่าจะชอบเขาตั้งแต่แรกเห็นเลยสิท่า” รินกัดริมฝีปากของตัวเอง

รินพลิกตัวกลับบนเตียง ดึงหมอนขึ้นมากอดแน่น พลางซุกหน้าลงไปเพื่อซ่อนสีหน้าแดงก่ำของตัวเอง

“ใช่ รูปงามจริง ๆ ด้วย...แผ่นหลังก็...” เขากระซิบกับตัวเองเสียงเบา “อ้อมกอดนั้นอีก...แล้วมือเรียวยาวที่จับดาบอย่างงดงามนั้น...อย่าลืมเสียงที่อบอุ่นและนิ่งสงบเหมือนคลื่นทะเลอีกล่ะ”

จินเจอร์เปลี่ยนไปอยู่บนขอบเตียง มองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย เหมือนมันอยากถามว่า “เจ้าไหวไหมริน? นั่งเขินอยู่คนเดียวแบบนั้น?”

รินเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง “เมี้ยว~” ของจินเจอร์ ราวกับมันกำลังขำเขาอยู่

“อะไร กำลังล้อฉันหรือไง เจ้าจินเจอร์?” รินพูดพลางขยับมือไปลูบหัวของมัน แต่จินเจอร์กลับหันหน้าหนีอย่างยโส แล้วใช้หางฟาดเบา ๆ ใส่เขา

รินหัวเราะออกมาเบา ๆ กับการกระทำของมัน ก่อนจะพูดกับตัวเองอีกครั้ง “แกมีเหตุผลของแกละสิจินเจอร์...แต่ฉันคงต้องยอมรับแล้วละว่า...ชอบเขา ชอบเคลตั้งแต่แรกพบ”

เขาเอามือกุมหน้าอีกครั้ง ความร้อนบนใบหน้าไม่ได้ลดลงเลย ความคิดที่ว่าเคลคือคนที่อยากอยู่เคียงข้างไปตลอด ทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นราวกับจังหวะกลองในงานเฉลิมฉลอง

จินเจอร์กระโดดขึ้นมานั่งข้างกันอีกครั้ง คราวนี้มันถูตัวกับแขนของเขาเหมือนจะให้กำลังใจ รินยิ้มพร้อมลูบขนของมันเบา ๆ

“ขอบใจนะ เจ้าตัวเล็ก...ไม่ว่าแกจะเข้าใจฉันหรือไม่ แต่ฉันต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เพื่อสวน...และเพื่อเขา”

“เมี้ยว~” เสียงของจินเจอร์ดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับมันกำลังบอกว่า “ฉันรู้ ฉันรู้ นายกำลังตกหลุมรักจนโงหัวไม่ขึ้นใช่ไหมล่ะ?”

รินได้แต่ยิ้มและส่ายหัวให้กับตัวเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 33 วิหารเงาแสงสะท้อนแสงแห่งชีวิต

    ทุกคนเดินไปยังเขต วิหารเงาแสง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวน รินไม่เคยมาเยือนเขตนี้มาก่อน จ้องมองรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น วิหารตั้งอยู่กลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่กิ่งก้านแผ่ขยายทับซ้อนจนแทบไม่เห็นท้องฟ้า ยกเว้นช่องเล็ก ๆ ที่แสงจันทร์ลอดผ่านลงมา แสงเหล่านั้นตกลงบนตัววิหารที่ทำจากหินขาวเรืองรอง ราวกับมีแสงสว่างในตัว“วิหารนี้เหมือนกับ...ลมหายใจของสวน” รินพึมพำ “สมัยเด็ก ผมได้แต่มองมันจากระยะไกล ไม่เคยได้เข้ามาเลย”เคลที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอื้อมมาจับมือรินเบา ๆ “ตอนนี้คุณได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว และคุณก็เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมัน”“หวานกันอีกแล้ว...จินเจอร์ ถ้าเราไม่มีของกิน ให้ไปกัดขาเคลนะ” เอร่าไม่พลาดที่จะแซวจินเจอร์ร้องเหมียวเสียงยาว เหมือนจะเห็นด้วยเคียแรนส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “เอร่า นายจะช่วยสงบสักนิดได้ไหม? ตอนนี้พวกเราจริงจังอยู่นะ”เอร่าหันมามองเคียแรน พร้อมยักคิ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 32 อาณาจักรของสวนรัตติกาล

    เช้าวันใหม่เริ่มต้นพร้อมกับความกระตือรือร้นในสวนรัตติกาล ทุกคนรวมตัวกันที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่กลางสวน ริน เคล เอร่า และเคียแรนล้อมวงฟังเอลดรินที่กำลังเปิดตำราโบราณอย่างระมัดระวัง หน้ากระดาษที่เก่าแก่เปราะบางเหมือนจะขาดได้ทุกเมื่อ เสียงนกร้องเป็นฉากหลังที่สงบ แต่บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง“ตำราเล่มนี้บันทึกเรื่องราวของสวนรัตติกาลอย่างละเอียดที่สุด” เอลดรินเริ่มพูด พร้อมเปิดไปยังหน้าที่มีแผนที่โบราณของสวน ตัวอักษรจางหายไปบางส่วนจากกาลเวลา “นี่เป็นผลงานของอัศวินผู้พิทักษ์สวนคนแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในยุคสร้างหัวใจแห่งอาราเลีย”เคลเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ “นี่คือแผนที่ของสวนทั้งหมดหรือครับ? ดูละเอียดกว่าที่ผมเคยเห็นมาอีก”เอลดรินพยักหน้า “ใช่ มันไม่เพียงแค่บอกทาง แต่ยังอธิบายถึงพลังและความเชื่อมโยงของพื้นที่ในสวนด้วย”เคียแรนที่เพิ่งมาอยู่สวนได้ไม่นานขมวดคิ้วเล็กน้อย “แล้วสวนนี้แบ่งเป็นเขตชัดเจนเลยหรือครับ? ผ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 31 ปัญหาเรื่องเดิมอีกครั้ง

    หลังจากการพูดคุยอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลียและแผนการของมาร์คัส รินที่มองเอลดรินสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของชายชรา เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เอลดริน ท่านดูเหนื่อยมากเลย ท่านเดินทางไกลมาขนาดนี้แล้ว ยังต้องเล่าเรื่องที่หนักหนาอีก ท่านควรพักก่อนดีไหม?”เอลดรินยิ้มอ่อน เมื่อเห็นความกังวลในสายตาของริน “ผมสบายดี แต่ก็ยอมรับว่าร่างกายไม่เหมือนเก่าแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น” รินหันไปมองทุกคน “พวกเราควรพักก่อนดีไหม? การตามหาหัวใจแห่งอาราเลียไม่น่าจะเร่งด่วนถึงขนาดรอไม่ได้ เราเตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มกันพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”“ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง! พูดตรงๆ นะ ตอนนี้ผมหิวสุดๆ ถ้าพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มตามหาทันที โดยที่ไม่มีมื้อเย็นนี่ ผมคงหมดแรงแน่ๆ” เอร่ายกมือขึ้นเห็นด้วยทันทีเคลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รินพยักหน้าเห็นด้วย “ฟังดูเข้าท่า แต่เราต้องเตรียมที่พักให้เอลดรินด้วย มีห้องว่างอยู่ท้ายสวน มันค่อนข้างเงียบสงบและมีข้าวของเครื่องใช้ครบ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 30 หัวใจแห่งอาราเลีย

    เอลดรินนั่งลงข้างโต๊ะหินกลางสวนรัตติกาล ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ริน เคล เคียแรน และเอร่าล้อมรอบเขา บรรยากาศเงียบสงบในสวนดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด“ท่านดูเหมือนคนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ในเวลานี้?” รินมองเอลดรินด้วยความสงสัยเอลดรินถอนหายใจยาว น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความกังวล “ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องรีบเตือนพวกท่าน กลุ่มซินดิเคทกำลังสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลีย และพวกมันไม่สนใจว่าวิธีการนั้นจะชั่วร้ายแค่ไหน คนของผมหลายคนถูกทำร้าย บางคน...ก็ตาย หนังสือโบราณจำนวนมากถูกพวกมันแย่งชิงไป”คำพูดของเอลดรินเหมือนเปลวไฟที่จุดประกายความโกรธ รินลุกขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “มาร์คัสอีกแล้ว! มันเป็นปีศาจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แค่เพราะต้องการอำนาจ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่หยุด”“และตอนนี้พุ่งเป้ามาที่สวน ถ้าเขาคิดว่าพวกเราจะยอมให้เขาได้หัวใจแ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 29 อำนาจที่ไม่เคยได้รับ ความรักที่ไม่เคยได้ชม

    หลังจากคืนกวาดล้างครั้งใหญ่ มาร์คัสยืนอยู่บนยอดของอำนาจ เขามองลงไปยังซากปรักหักพังของกลุ่มคนที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างไอเดนและต่อต้านเขา ความพึงพอใจฉายชัดในแววตา ราวกับว่าเขาได้ปลดปล่อยพันธนาการที่เคยกดขี่มาตลอดชีวิตในห้องโถงใหญ่ของฐานทัพซินดิเคท มาร์คัสจัดงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความหรูหราและมัวเมา บรรดาลูกน้องและพวกขุนนางชั้นต่ำที่หวังเกาะกระแสอำนาจของเขาต่างร่วมยินดี แต่ในใจของทุกคนแฝงไปด้วยความกลัวต่อความโหดเหี้ยมของชายผู้ไร้ความปรานีมาร์คัสไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากกำจัดไอเดนและควบคุมกลุ่มซินดิเคท เขาเริ่มสั่งให้ทำการกวาดล้างทุกคนที่เขาสงสัยว่าอาจทรยศ สายลับและนักฆ่าถูกส่งไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อกำจัดศัตรูเก่าและใหม่ รวมถึงผู้ที่เคยช่วยไอเดนหนีรอดในอดีต“ฉันไม่ต้องการสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ” มาร์คัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ขณะมองดูรายชื่อเป้าหมายการลอบสังหารที่ยาวเหยียดในมือของเขา “หากพวกมันไม่ก้มหัวให้ฉัน ก็ไม่มีความจำเป็นที่พวกมันจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”&nbs

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

    เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตกเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status