Share

บทที่ 19 การเริ่มต้นใหม่

last update Last Updated: 2025-07-08 13:00:48

รุ่งเช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม รินตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของดอกไม้และต้นไม้ภายในสวนรัตติกาล ดอกไม้หลากสีแบ่งบานอยู่รอบ ๆ ส่งกลิ่นหอมอบอวล อากาศที่สดชื่นจากสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเปิดกว้าง เขานอนอยู่บนเตียงอันแสนอบอุ่น สัมผัสนุ่มของผ้าห่มโอบล้อมร่างกาย เหมือนปกป้องเขาจากความหนาวเหน็บในอดีต

จินเจอร์ แมวตัวโปรดขนฟูที่เหมือนเมฆสีส้ม นอนขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มันเงยหน้ามองเขาพร้อมส่งเสียง “เมี้ยว” เบา ๆ ราวกับทักทาย เขายิ้มให้มันก่อนจะทอดสายตามองเพดาน ดวงตาอ่อนล้ากับความทรงจำที่พุ่งเข้ามา

“ทุกอย่างเหมือนฝันร้าย” รินพึมพำเสียงแหบพร่ากับตัวเอง

เขาปิดตาลง ความเงียบในห้องกลับกลายเป็นเสียงสะท้อนของอดีตที่ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ภาพเหตุการณ์ตอนที่เขาวิ่งหนีออกจากสวนในวัยเด็กปรากฏขึ้นในหัว เสียงฝีเท้าของเขาที่สะท้อนในความเงียบยามค่ำคืน เสียงลมหายใจกระชั้นถี่ ใบไม้ที่ปลิวตามแรงลมเย็นยะเยือก ทุกอย่างกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง ความสิ้นหวังที่กัดกินหัวใจในตอนนั้นยังคงฝังแน่นในความทรงจำ ราวกับมันไม่เคยจางหาย

เขาคิดถึงช่วงเวลาที่วิกเตอร์รับอุปการะเขาไว้ มันเริ่มต้นด้วยความหวัง เป็นความรู้สึกว่าได้พบกับที่พักพิง แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นอีกฝันร้ายหนึ่ง การใช้ชีวิตกับวิกเตอร์และมาร์คัสไม่เคยง่าย ในทุกวันเหมือนต้องเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาด เสียงตำหนิและความคาดหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของวิกเตอร์ยังดังก้องในหู รอยแส้ที่เคยฝากไว้ในความทรงจำกลับมาเหมือนรอยแผลเก่า

“แกเป็นแค่เด็กไร้ค่า ไร้อนาคต” คำพูดของมาร์คัสดังขึ้นในหัว เสียงนั้นเย็นชาและเต็มไปด้วยความดูถูก

“แกไม่มีวันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้หรอก” รอยยิ้มเย้ยหยันของมาร์คัส ภาพการข่มเหง การทำให้เขารู้สึกเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีค่า ล้วนแต่ทำให้เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงในฝ่ามือ

“ทำไมเราต้องผ่านอะไรแบบนั้น...ทำไมชีวิตของเราถึงต้องถูกซ้ำเติมซ้ำแล้วซ้ำเล่า” รินสูดลมหายใจเข้าลึก ความขมขื่นท่วมท้นในใจ เสียงเขาแผ่วเบาและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เขานึกถึงความโดดเดี่ยวในบ้านของวิกเตอร์ ห้องที่เย็นเฉียบในฤดูหนาว พื้นหินที่แข็งกระด้าง ความหวังในตอนนั้นดูเหมือนเป็นเพียงประกายไฟที่เลือนรางในความมืด

ภาพของมาร์คัสผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง รอยยิ้มดูแคลน เสียงหัวเราะเยาะเย้ย และสายตาที่มองลงมาเหมือนเขาเป็นเพียงมดปลวก รินรู้สึกถึงความโกรธที่พลุ่งพล่านในอก เขากำหมัดแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากเล็บที่จิกเข้าไป

“คิดว่าตัวเองอยู่เหนือฉันหรือ มาร์คัส?” รินพึมพำออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเดือดดาล

“แต่สุดท้าย ฉันจะลุกขึ้น...และแกจะไม่มีวันได้เหยียบย่ำฉันอีก”

เขานอนนิ่งอยู่อย่างนั้น สูดลมหายใจลึกเพื่อสงบอารมณ์ ก่อนน้ำตาหยดหนึ่งจะไหลลงมาตามแก้ม เขารีบยกมือเช็ดมันออกทันที หันไปมองจินเจอร์ที่มองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋ว ราวกับมันรู้ว่าเขากำลังต้องการกำลังใจ

“แม่...ผมรู้ว่าพลังของแม่ช่วยปกป้องผมไว้” รินพูดเบา ๆ สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงแดดอ่อน ๆ ทาบทับดอกไม้ที่เริ่มบานสะพรั่ง “ขอบคุณที่ทำให้ผมรอดมาได้ ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่แม่สร้างต้องพังทลาย”

ท่ามกลางความสงบของสวน ภาพของเคียแรนผุดขึ้นมาในหัว ใบหน้าของพี่ชายผู้แสนดีที่เคยปกป้องเขาในวันที่เขาโดดเดี่ยว เขาจำเสียงหัวเราะของเคียแรนได้ เสียงที่คอยปลอบโยนยามที่เขาร้องไห้ในความมืด

“พี่เคียแรน...” รินพึมพำออกมา ดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอ

จินเจอร์กระโดดขึ้นมาบนอกของริน มันเอาหัวไถกับมือเขาเหมือนปลอบใจ รินลูบขนมันเบา ๆ พร้อมถอนหายใจ

“พี่เชื่อว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ ผมจะตามหาพี่ให้เจอ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ความรู้สึกเหล่านี้เหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามา ดูดรินให้จมลงไป รู้สึกถึงแรงกระชากของอดีตที่ดึงเขาลงไปจนแทบหายใจไม่ออก

“แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้...” เขาพูดออกมาเบา ๆ

เขาพลิกตัวนอนนิ่ง ทอดสายตาไปยังเพดาน ราวกับกำลังหาหนทางที่จะสลัดทุกสิ่งที่ตามหลอกหลอนเขา และเริ่มต้นใหม่

รินนอนเอนหลังอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ในห้องที่รายล้อมไปด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา แสงทองอบอุ่นส่องกระทบใบหน้าของเขา ขณะที่เขามองไปยังเพดาน ความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในวัยเด็ก เขาจำได้ราง ๆ ถึงคนคนหนึ่งที่เขาเคยพบก่อนจะวิ่งหนีออกจากสวน คนที่ตัวสูงกว่าเขาเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวสดใสราวกับมรกตที่เปล่งประกาย แม้ในตอนนั้นเขาจะเต็มไปด้วยความกลัวและสับสน แต่เพียงแค่ได้มองชายคนนั้น เขากลับรู้สึกถึงความปลอดภัยที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ราวกับอ้อมแขนของเขาจะสามารถปกป้องเขาจากทุกสิ่งในโลกนี้ได้

“เคล...” รินพึมพำชื่อของเขาเบา ๆ ปล่อยให้มันหลุดออกมาจากริมฝีปากเหมือนสายลมที่อ่อนโยน

เขาเบือนสายตาไปมองเพดาน แต่กลับรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า เมื่อจินตนาการภาพของเคลในชุดอัศวินเต็มยศ แผ่นหลังกว้างกว่าเมื่อตอนยังเด็ก อ้อมกอดที่แข็งแกร่งแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มือเรียวยาวที่เคยแตะไหล่ของเขาเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

และ...ริมฝีปากนั้น รินสะดุ้งนิด ๆ ก่อนจะรีบสะบัดหัวไปมาเหมือนจะปัดความคิดอันตรายนั้นทิ้งไป

“บ้าไปแล้วริน! นายไม่ควรคิดแบบนี้...” แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็ก ๆ

เขาหลับตาลงอีกครั้ง ความคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขายังไม่แน่ใจในตัวเคล ครั้งหนึ่งเขาเคยระแวงและสงสัยว่าชายผู้นั้นอาจเป็นอันตราย ช่วงแรก ๆ ที่เขามาที่สวน เขายังไม่แน่ใจว่าอัศวินหนุ่มคนนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เคล กลับกลายเป็นคนที่เขาเชื่อใจและพึ่งพาได้มากที่สุด

“เคลเนี่ยนะ จะเป็นคนไม่ดี? ริน นายเคยคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน?” เขาหัวเราะเบา ๆ ให้กับตัวเอง พลางดึงหมอนขึ้นมาปิดหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ

“นายไม่ได้ชอบเขาหรอกใช่ไหม?” เสียงในหัวของเขาดังขึ้น รินรีบลุกขึ้นนั่งอย่างฉับพลัน พยายามสลัดความคิดที่ทำให้หัวใจเต้นรัว

“ชอบเขาละสิ ริน!” เขาพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยิ้มและเอามือปัดผมที่ยุ่งเหยิงออกจากหน้า

ดวงตาของเขาเบิกโต รอยยิ้มเริ่มระบายกว้าง “โอ้ ไม่...น่าจะชอบเขาตั้งแต่แรกเห็นเลยสิท่า” รินกัดริมฝีปากของตัวเอง

รินพลิกตัวกลับบนเตียง ดึงหมอนขึ้นมากอดแน่น พลางซุกหน้าลงไปเพื่อซ่อนสีหน้าแดงก่ำของตัวเอง

“ใช่ รูปงามจริง ๆ ด้วย...แผ่นหลังก็...” เขากระซิบกับตัวเองเสียงเบา “อ้อมกอดนั้นอีก...แล้วมือเรียวยาวที่จับดาบอย่างงดงามนั้น...อย่าลืมเสียงที่อบอุ่นและนิ่งสงบเหมือนคลื่นทะเลอีกล่ะ”

จินเจอร์เปลี่ยนไปอยู่บนขอบเตียง มองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย เหมือนมันอยากถามว่า “เจ้าไหวไหมริน? นั่งเขินอยู่คนเดียวแบบนั้น?”

รินเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง “เมี้ยว~” ของจินเจอร์ ราวกับมันกำลังขำเขาอยู่

“อะไร กำลังล้อฉันหรือไง เจ้าจินเจอร์?” รินพูดพลางขยับมือไปลูบหัวของมัน แต่จินเจอร์กลับหันหน้าหนีอย่างยโส แล้วใช้หางฟาดเบา ๆ ใส่เขา

รินหัวเราะออกมาเบา ๆ กับการกระทำของมัน ก่อนจะพูดกับตัวเองอีกครั้ง “แกมีเหตุผลของแกละสิจินเจอร์...แต่ฉันคงต้องยอมรับแล้วละว่า...ชอบเขา ชอบเคลตั้งแต่แรกพบ”

เขาเอามือกุมหน้าอีกครั้ง ความร้อนบนใบหน้าไม่ได้ลดลงเลย ความคิดที่ว่าเคลคือคนที่อยากอยู่เคียงข้างไปตลอด ทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นราวกับจังหวะกลองในงานเฉลิมฉลอง

จินเจอร์กระโดดขึ้นมานั่งข้างกันอีกครั้ง คราวนี้มันถูตัวกับแขนของเขาเหมือนจะให้กำลังใจ รินยิ้มพร้อมลูบขนของมันเบา ๆ

“ขอบใจนะ เจ้าตัวเล็ก...ไม่ว่าแกจะเข้าใจฉันหรือไม่ แต่ฉันต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เพื่อสวน...และเพื่อเขา”

“เมี้ยว~” เสียงของจินเจอร์ดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับมันกำลังบอกว่า “ฉันรู้ ฉันรู้ นายกำลังตกหลุมรักจนโงหัวไม่ขึ้นใช่ไหมล่ะ?”

รินได้แต่ยิ้มและส่ายหัวให้กับตัวเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 20 พร้อมจะทำตามใจตัวเองหรือยัง

    ในยามเช้าของสวนรัตติกาล แสงอาทิตย์แรกแย้มอาบไล้ไปตามพื้นดิน เคลยืนอยู่เงียบ ๆ หน้าหลุมศพสองหลุม หลุมหนึ่งคือหลุมของราชินีโรซาลี และอีกหลุมคือพ่อของเขา อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเป็นทั้งผู้นำและผู้เสียสละชีวิตเพื่อหน้าที่เขาก้มมองแผ่นจารึกของราชินีโรซาลี แผ่นจารึกที่บันทึกความรัก ความเสียสละ และความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมเลือน สายตาของเคลเต็มไปด้วยความเศร้า“ฝ่าบาท...” เขากระซิบเสียงเบา ราวกับไม่ต้องการให้เสียงนั้นรบกวนความสงบของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “ผมทำทุกอย่างเพื่อสวน เพื่อเจ้าชาย แต่ตอนนี้...ผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมทำถูกไหม”เขาหันไปมองหลุมศพของพ่อ ราวกับจะขอคำตอบจากใครสักคน “พ่อ...ท่านเคยบอกผมว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเสียสละ แต่ตอนนี้ผมสงสัย...ว่ามันคือการเสียสละทุกอย่างจริงหรือ? แล้วผมจะเสียสละหัวใจตัวเองเพื่อหน้าที่นี้ได้จริงหรือ?”เคลเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าสางเป็นทองแดง ความทรงจำในวัยเด็กหมุนวนในหัว ราวกับคลื่นทะเลซัดเข้าหา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 19 การเริ่มต้นใหม่

    รุ่งเช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม รินตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของดอกไม้และต้นไม้ภายในสวนรัตติกาล ดอกไม้หลากสีแบ่งบานอยู่รอบ ๆ ส่งกลิ่นหอมอบอวล อากาศที่สดชื่นจากสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเปิดกว้าง เขานอนอยู่บนเตียงอันแสนอบอุ่น สัมผัสนุ่มของผ้าห่มโอบล้อมร่างกาย เหมือนปกป้องเขาจากความหนาวเหน็บในอดีตจินเจอร์ แมวตัวโปรดขนฟูที่เหมือนเมฆสีส้ม นอนขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มันเงยหน้ามองเขาพร้อมส่งเสียง “เมี้ยว” เบา ๆ ราวกับทักทาย เขายิ้มให้มันก่อนจะทอดสายตามองเพดาน ดวงตาอ่อนล้ากับความทรงจำที่พุ่งเข้ามา“ทุกอย่างเหมือนฝันร้าย” รินพึมพำเสียงแหบพร่ากับตัวเองเขาปิดตาลง ความเงียบในห้องกลับกลายเป็นเสียงสะท้อนของอดีตที่ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ภาพเหตุการณ์ตอนที่เขาวิ่งหนีออกจากสวนในวัยเด็กปรากฏขึ้นในหัว เสียงฝีเท้าของเขาที่สะท้อนในความเงียบยามค่ำคืน เสียงลมหายใจกระชั้นถี่ ใบไม้ที่ปลิวตามแรงลมเย็นยะเยือก ทุกอย่างกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง ความสิ้นหวังที่กัดกินหัวใจในตอนนั้นยังคงฝังแน่นใน

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 18 วันแห่งการสูญเสีย

    เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่ดังมาจากนอกโกดัง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในนั้นชะงักไปชั่วครู่ แต่แทนที่จะเป็นความช่วยเหลือ กลับเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่เลวร้ายกว่าเดิม มาร์คัสยืนอยู่บนที่สูง มือขวายกขึ้นส่งสัญญาณ ลูกน้องของเขาที่เหลือถอยฉากอย่างรวดเร็ว ไอเดนมองความเคลื่อนไหวนั้นอย่างสับสน‘จะทำอะไรอีก?’ เขาคิดด้วยความระแวดระวังความเงียบที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากนั้น กลิ่นไหม้ของดินระเบิดลอยมาในอากาศ สัญชาตญาณเตือนภัยดังขึ้นในใจของไอเดน“ระเบิด! ทุกคนถอยออกไปเดี๋ยวนี้!” ไอเดนตะโกนสุดเสียง เสียงสะท้อนนั้นดังไปทั่วโกดังพ่อของเคลเงยหน้าขึ้น เสียงของดินระเบิดที่ถูกจุดทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง“พวกมันกำลังวางระเบิด! หนีไป ริน! ท่านไม่มีเวลามากนัก!” เขาตะโกนออกมาพร้อมผลักไอเดนไปทางประตูที่ยังเปิดอยู่เล็กน้อย แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทันได้ขยับ ร่างของพ่อเคลก็พุ่งเข้ามาปกป้องไอเดน ขณะที่แรงระเบิดระเบิดขึ้นพร้อมเสียงดังสนั่นแรงระเบิดกระแทกเข้ามา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 17 ความชั่วร้ายเป็นฝ่ายชนะ

    เสียงฝีเท้าอันน่าเกรงขามของมาร์คัสดังก้องภายในโกดังร้างพร้อมด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยัน ใบหน้าของมาร์คัสเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจที่เขาไม่อาจเก็บซ่อน“แกสองคนไม่รู้เลยใช่ไหมว่ากำลังอยู่ในกับดักของฉัน” มาร์คัสเอ่ยขึ้น ขณะเดินออกมาจากเงามืด เขาโบกมือให้กลุ่มลูกน้องที่ติดอาวุธหนักเข้ามาล้อมวงไอเดนและพ่อของเคลอย่างไม่เปิดโอกาสให้หลบหนีไอเดนที่ยังคงบาดเจ็บจากการปะทะกับพ่อของเคลมองมาร์คัสด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและโกรธ “นี่นายกำลังทำอะไร มาร์คัส?”มาร์คัสหัวเราะลั่น “ฉันกำลังทำในสิ่งที่ควรทำตั้งนานแล้ว ฉันจะกำจัดแก ไอ้เด็กกำพร้าจอมแสแสร้ง และแก อัศวินเฒ่าจอมอวดดี พวกแกไม่มีทางรอดไปจากที่นี่แน่!”มาร์คัสยืนเด่นเป็นสง่า ราวกับนักแสดงหลักบนเวทีที่มีแสงสปอร์ตไลต์ส่องลงมา เขายกมือขึ้นเบา ๆ ราวกับเชิญชวนให้ทุกสายตาในโกดังนี้จับจ้องมาที่เขา ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เสียงรองเท้าบูตกระทบพื้นซีเมนต์อย่างจงใจ ท่วงท่าของเขาราวกับราชาผู้กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในวาระสำคัญ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 16 เสียงสะท้อนของความเศร้า

    ในช่วงเวลาเดียวกันที่มาร์คัสเริ่มวางยาพิษวิกเตอร์ การเคลื่อนไหวในเงามืดก็เริ่มต้นขึ้น เขาปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับสวนรัตติกาลและซินดิเคทผ่านสายลับที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มอัศวิน โดยเป้าหมายคือสร้างสถานการณ์ให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาร์คัสนั่งอยู่ในห้องประชุมลับ ไฟในห้องถูกปรับให้มืดลงสร้างบรรยากาศที่กดดัน ลูกน้องของเขารายล้อมโต๊ะยาวสีเข้ม ดวงตาทุกคู่จับจ้องมาร์คัสที่กำลังอธิบายแผนการ“ฉันปล่อยข่าวลือออกไปแล้ว” มาร์คัสเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่เลื่อนสายตาไปมองลูกน้องทีละคน “อัศวินแห่งสวนจะได้ยินว่าซินดิเคทกำลังเตรียมการโจมตีสวน ส่วนไอเดน...เจ้าหนูผู้ทะเยอทะยานนั่น มันจะถูกล่อให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองด้วยคำบอกเล่าลวงๆ เกี่ยวกับเบาะแสของสวน”“แต่ถ้าท่านไอเดนเอาชนะสถานการณ์นี้ได้ล่ะครับ เขาอาจพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะ” หนึ่งในลูกน้องยกมืออย่างระมัดระวังมาร์คัสหัวเราะในลำคอ “ไม่มีใครรอดกลับมาได้ ไม่ว่าอัศวินหรือไอเดน ฉันมีคนเตรียมพร้อมที่

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 15 การปลดปล่อยความชั่วร้าย

    แสงไฟริบหรี่สะท้อนภาพเงาบิดเบี้ยวของมาร์คัสบนกำแพงห้อง เหมือนปีศาจที่คอยล่าเหยื่อ ความเงียบในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของวิกเตอร์ที่แทบจะสิ้นแรง มาร์คัสเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ดวงตาเยือกเย็นแต่เปล่งประกายด้วยความกระหายอำนาจเขาหยุดยืนข้างเตียง มองวิกเตอร์อย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเริ่มพูดเสียงแผ่ว “ท่าน...ท่านไม่เคยคิดเลยสินะ ว่าวันนี้จะมาถึง วันที่ข้าคือคนที่อยู่เหนือกว่า วันที่ข้าคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง”ดวงตาที่อ่อนแรงของวิกเตอร์พยายามลืมขึ้นมาสบตากับลูกชาย ความตกใจและความโกรธเกรี้ยวฉายชัด “มาร์คัส...หมายความว่าอย่างไร?”มาร์คัสหัวเราะเบา ๆ แต่เสียงนั้นเยียบเย็นพอที่จะทำให้เลือดของใครก็ตามที่ได้ยินแข็งตัว เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบที่หูของวิกเตอร์ “พ่ออยากรู้ไหมว่าทำไมถึงอ่อนแอลงทุกวัน? มันไม่ใช่ชะตากรรม มันไม่ใช่โรคภัย...มันคือฝีมือผมเอง ผมแค่วางยาพิษในอาหารทุกมื้อของพ่อ ทุกสิ่งที่พ่อดื่มเข้าไปล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผมเลือกเฟ้นอย่างดีให้มันกัดกร่อนร่างกายพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status