Share

บทที่ 94 พานพบเพื่อบอกลา [1]

Penulis: Tuk Kung
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-15 15:28:01

ร่างโปร่งแสงเฝ้าวนเวียนอยู่ข้างกายของแพมอยู่ตลอดเวลา กิจกรรมในแต่ละวันหญิงสาวต้องทำมีอะไรบ้างล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาทุกอย่าง

เบลไม่รู้หนทางกลับไปที่โลกนิยาย เธอทั้งกระวนกระวายใจทั้งรู้สึกกังวลเสียจนนั่งไม่ติด ในตอนที่เธอคลอดลูกคนที่สองได้อย่างปลอดภัย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตนเองได้กลายเป็นวิญญาณโปร่งแสงในห้องห้องหนึ่ง กับผู้หญิงคนหนึ่งในโลกปัจจุบัน

‘คุณ คุณคะ คุณเห็นฉันไหม’ เบลโบกไม้โบกมือตรงหน้าผู้หญิงคนนั้น เพื่อหวังว่าแพมจะมองเห็นเธอและสามารถสื่อกันได้ แต่ว่าสิ่งที่พยายามทำไปทั้งหมดก็ไม่เป็นผลเอาเสียเลย

หลังจากพยายามทำสารพัดวิธีทำอย่างไรก็ไม่ได้ผล เบลกลับมานั่งกอดเข่าจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงเช่นเดิม หญิงสาวเฝ้ามองคนตรงหน้าเขียนนิยายในยามค่ำคืนมากว่าสามวันแล้ว แต่เวลานี้มันดูแตกต่างไปกว่าทุกวัน ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นกำลังอ่านนิยาย โดยปกติแล้วเธอจะเขียนมากกว่าจะมานั่งอ่าน ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นนิยายเก่าที่เคยเขียนเอาไว้

‘บุปผาซ่อนใจ เฮ้ย! นั่นมันนิยายที่ฉันเข้าไปอยู่นี่ ที่แท้เธอก็เป็นคนเขียนหรอกหรือ’ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงได้ถลาลงไปชะโงกหน้ามองจากทางด้านหลังอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เบลเห็นก็ทำให้ตกใจไม่น้อยเลย

เริ่มแรกเธอรู้สึกโกรธเคืองที่แพมเป็นเจ้าของนิยาย เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องไปติดอยู่ในนิยายตั้งนาน ต้องทนความยากลำบอกมากแค่ไหน กว่าจะเอาชีวิตรอดได้ในแต่ละวัน แต่เมื่อนึกได้ว่าถ้าไม่เพราะมีคนแต่งนิยายขึ้นมา เธอและเหลียงเฟิงก็อาจจะไม่ได้พบกัน ไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน และบุตรที่น่ารักทั้งสองที่เบลยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส

เหมือนอย่างตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยากจะกลับมาที่นี่ด้วยซ้ำ เหตุไฉนถึงได้กลับมากันเล่า แล้วจะทำอย่างไรจึงจะได้กลับไปหาครอบครัวได้อีกครั้ง เบลรู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือกลับไปหาพ่อของลูก และลูก ๆ ที่อยู่อีกโลกนึ่ง หญิงสาวน้ำตาไหลพรากเมื่อภาพของคนทั้งสามเข้ามาในความนึกคิด ร่างโปร่งแสงวิ่งเข้าเข้าหาแพมที่กำลังนั่งอ่านนิยายของตนเองด้วยความตั้งใจ

ทว่าแทนที่จะสามารถแตะต้องหมายให้อีกฝ่ายรู้ตัว ร่างของเบลกลับทะลุผ่านไปอย่างง่ายดายเหมือนเช่นทุกครั้ง เบลพยายามอยู่หลายต่อหลายครั้งก็ไม่อาจสัมผัสหรือสื่อสารได้เลย เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าเธอทำได้เพียงแค่วนเวียนอยู่ภายในห้องพักนี้ ออกไปที่ไหนก็ไม่ได้

“เฮ้อ วันนี้เหนื่อยจัง”

เสียงบ่นจากเจ้าของห้องดังแว่วมาจากทางหน้าประตู ก่อนจะมีเสียงเปิดปิดประตูลง ทว่าวันนี้ไม่เหมือนในทุก ๆ วันที่เบลเฝ้ารอ ในตัวของแพมมีอะไรแปลกไป มันให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเหลือเกิน

“ฉันเก็บมันมาด้วยทำไมกันล่ะเนี่ย” แพมล้วงกระเป๋าเสื้อด้านข้าง หยิบเอากำไลข้อมือออกมาดูด้วยความมึนงง ไม่เข้าใจว่าตนเองจะเก็บเอาของหล่นอยู่ข้างทางมาเพื่ออะไร ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวกับตนเองเลยสักนิด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status