เวินซวงซวี่เคยพนันกับแม่ ขอเพียงสวีจ้งจินรักเธอก็จะให้เธอกับสวีจ้งจินได้ครองรักกันสมใจ เมื่อรู้ว่าสวีจ้งจินค่อนข้างชอบผู้หญิงที่เรียบร้อยมั่นคง เธอจึงเข้าหาเขาด้วยบทผู้หญิงยากจน กระทั่งสวีจ้งจินโอบนางในดวงใจ มองเธออย่างไม่นำพาและหัวเราะเยาะเธอว่า “ยัยคนจนที่หวังเกียรติยศเงินทองอย่างเธอจะเทียบกับชูชูได้ยังไง?” เธอพ่ายแพ้ย่อยยับ จำต้องกลับบ้านไปสืบทอดมรดกแสนล้าน ภายหลังเธอใส่ชุดกูตูร์มูลค่าสิบล้าน คล้องแขนบุรุษผู้ครองตัวมีอำนาจล้นฟ้าในข่าวและเจอกับสวีจ้งจินอย่างสะดุดตา สวีจ้งจินกลับเสียใจในที่สุด เขาสารภาพรักอย่างประเจิดประเจ้อในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อก่อนฉันคิดว่าฉันรักผู้หญิงที่พิเศษและมั่นคง ซวงซวี่ หลังจากพบกับเธอ ฉันถึงเข้าใจว่าความรักคือข้อยกเว้น” ในคืนนั้น ทายาทตระกูลลู่ที่ไม่เคยปรากฏโฉมหน้าก็เปิดรูปที่เก็บรักษามาอย่างดีหลายปีกะทันหัน ในรูป ผู้หญิงอิสระสดใส เปิดเผยเป็นธรรมชาติ เขาจูงมือของเวินซวงซวี่อย่างจริงจังและประกาศในที่นั้นว่า “คุณนายลู่ ไม่มีข้อยกเว้น คุณคือคนที่ผมเฝ้าคิดถึงทุกทิวาราตรี และเป็นคนที่ผมรอคอยมานาน”
View Moreการออกแบบธีมของพื้นที่สวนออนเซ็นไม่ใช่สไตล์ญี่ปุ่นซ้ำซากอีกต่อไป ทว่าเป็นการผสมผสานสไตล์เขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และความเป็นมินิมิลของนอร์ดิกเข้าด้วยกันทุกโซนจะมีธีมที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ ‘ออนเซ็นกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว’ ‘ออนเซ็นกลางป่า’ ‘ออนเซ็นกลางทะเลบุปผา’เพิ่มโปรเจกต์การสัมผัสการสัมผัสประสบการณ์การมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเข้าไป อาทิเช่น โยคะในออนเซ็น สวนสนุกบนน้ำเป็นต้นแผนงานการร่วมมือในโซนสปาก็ทำให้สะดุดตาคนยิ่งขึ้นไปอีก ไม่จำกัดเพียงแบรนด์ในประเทศเท่านั้น ทว่าเป็นแผนงานร่วมมือที่ดึงดูดแบรนด์ชื่อดังระดับสากลสองสามแบรนด์เข้ามา ยกระดับให้ยิ่งไฮเอนด์เพิ่มขึ้น และรังสรรค์บริการที่มากขึ้นการออกแบบโซนอาหารเองก็วางแผนให้เป็นแบบพิเศษเฉพาะตัว นอกจากอาหารบำรุงสุขภาพตามต้นตำรับแล้ว ยังเพิ่มอาหารเอกลักษณ์เฉพาะที่เข้าไปอีกด้วย จะได้สนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกันสิ่งอำนวยความสะดวกอัจฉริยะในโซนที่พักก็ทำการยกระดับเช่นกัน ทุกห้องจะเตรียมระบบควบคุมอัจฉริยะเอาไว้ สามารถปรับแสงไฟ อุณหภูมิและเสียงเพลงได้ตามความชอบของลูกค้าการอธิบายของเวินซวงซวี่ชัดเจนและคล่องแคล่ว เข้า
เวินซวงซวี่ปลดเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนจะยื่นมือไปผลักเปิดประตูรถคลื่นความร้อนหอบมาพร้อมคลื่นเสียงของเมืองแสนวุ่นวายพลันเข้ามาภายในรถ แตกต่างจากพื้นที่แสนเงียบสงบภายในรถอย่างชัดเจนเธอค่อย ๆ หรี่ตาปรับตัวกับแสงจ้า ในตอนนี้เองถึงก้าวลงจากรถไปรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นก่อให้เกิดเสียงใสกังวานแว่วดังขึ้นเมื่อยืนได้มั่นคงแล้ว เธอก็หันหน้าไปมองลู่เยี่ยนหุย ผมยาวดำขลับถูกลมอ่อน ๆ พัดปลิวขึ้นมา เผยให้เห็นลำคอขาวเนียนละเอียดเธอพยักหน้าเบา ๆ มุมปากกระตุกรอยยิ้มชืด ๆ ออกมา“ขอบคุณค่ะ”นัยน์ตาอันลึกซึ้งของลู่เยี่ยนหุยจ้องมองแผ่นหลังของเวินซวงซวี่กระทั่งเธอเดินเข้าไปในตึก และหายไปจากสายตาเขาเขาถึงสตาร์ตรถอีกครั้ง รถไมบัคสีดำแล่นเข้าสู่การจราจรอย่างราบเรียบเวินซวงซวี่เดินเข้าไปในตึกใหญ่ ความเย็นเยียบของห้องโถงทำเอาเธอรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาเธอจัดการเสื้อผ้าบนตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของแม่เธอเธอหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูห้องทำงาน จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูเบา ๆ“เข้ามา” เสียงแม่ของเวินซวงซวี่แว่วดังขึ้นมาจากด้านในเวินซวงซวี่ผลักประตู
ภายในร้านอาหาร มื้อค่ำของเวินซวงซวี่และลู่เยี่ยนหุยไม่ได้รับการรบกวนจากภายนอกแต่อย่างใด“เกี่ยวกับโปรเจกต์พื้นที่สวนออนเซ็นของเยี่ยนหมิงนั่น เธอมีไอเดียยังไงบ้าง?”ลู่เยี่ยนหุยหั่นสเต๊กเนื้อวัวด้วยความสง่า พร้อมทั้งเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่แยแสใด ๆเวินซวงซวี่วางส้อมในมือลง แล้วตอบกลับอย่างจริงจัง “เยี่ยนหมิงกรุ๊ปคิดจะสร้างพื้นที่สวนออนเซ็นระดับไฮเอนด์ที่รวมการรักษาสุขภาพ การพักผ่อน และความบันเทิงเอาไว้ในแห่งเดียวกัน เบื้องต้นฉันออกแบบแผนงานหนึ่งเอาไว้แล้ว โดยเป็นการนำสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่มาผสมผสานกับทิวทัศน์ธรรมชาติ และสร้างพื้นที่ที่ทั้งทันสมัยทั้งเปี่ยมไปด้วยความเรียบง่ายและสงบ”ลู่เยี่ยนหุยเลิกคิ้วอย่างมีทีท่าสนใจ “โอ๊ะ? ไหนลองพูดมาดูสิ”เวินซวงซวี่ล้วงแท็บเล็ตออกมาจากในกระเป๋า แล้วเปิดแผนงานที่ตนออกแบบเอาไว้ออกมา ส่งให้ลู่เยี่ยนหุยไปด้วย พลางขยายความความคิดของตนไปด้วยลู่เยี่ยนหุยอ่านแผนงานไปด้วย พร้อมฟังการบรรยายของเวินซวงซวี่ไปด้วย ในแววตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมไม่ยอมรับไม่ได้ ไอเดียการออกแบบของเวินซวงซวี่มีเอกลักษณ์มากจริง ๆ มิหนำซ้ำยังมีมูลค่าเชิงพาณิชย์อีกด้วย“การออกแบบของ
นอกร้านอาหารสวีจ้งจินก็ยังมีมาดอย่างพ่อพวงมาลัยเช่นเดิม เขากวาดสายตาผ่านเวินซวงซวี่ไปเบา ๆมุมปากกระตุกรอยยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามเขาใช้มือโอบเอวของเสิ่นชูข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งเล่นไฟแช็กที่อยู่ในมืออย่างไม่แยแสคล้ายกลับเพิกเฉยต่อทุกสิ่งเพียงแต่ เมื่อสายตาของเขาตกไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเวินซวงซวี่ แววตากลับค่อย ๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมฉายการสำรวจที่ไม่สามารถสัมผัสได้ง่าย ๆ อีกด้วยเขาเห็นหน้าของชายหนุ่มคนนั้นไม่ชัด เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างขวางทว่าจากรูปร่างสูงตระหง่านและออร่าแสนทรงอำนาจที่แผ่ออกมาโดยรอบเขาก็สัมผัสได้ว่า ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอนเมื่อเสิ่นชูมองไปตามสายตาของสวีจ้งจิน ก็สังเกตเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเวินซวงซวี่เช่นกันแม้จะเห็นเพียงแผ่นหลัง ทว่าเธอก็สัมผัสได้อย่างเฉียบแหลมว่า ออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่มคนนี้ แตกต่างจากสวีจ้งจินและผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเห็นมาในก่อนหน้านี้นั่นคือกลิ่นอายของผู้ที่อยู่เบื้องบนอย่างหนึ่ง สุขุมนุ่มลึก ซ่อนทุกอย่างเอาไว้ข้างใน ทว่าก็ยังแฝงไปด้วยความสามารถที่ไม่สามารถละเลยได้“จ้งจิน นั่นมันเวินซวงซว
หัวใจของเวินซวงซวี่ยิ่งเต้นระรัวขึ้น เธอรู้สึกว่าแก้มของตัวเองร้อยฉ่าจนเหมือนกับไฟเธอเบือนหน้าหนี แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ ก็แค่แผลเล็ก ๆ เท่านั้น”“แผลเล็ก ๆ?” ในน้ำเสียงของลู่เยี่ยนหุยแฝงไปด้วยความเดือดดาลสายหนึ่ง“บวมจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว ยังบอกว่าแค่แผลเล็ก ๆ อยู่อีก? บอกฉันมา นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”ในตอนนี้เองเวินซวงซวี่ถึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่บริษัทกับเขาอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบเมื่อลู่เยี่ยนหุยฟังจบ สีหน้าก็ขึงขังจนน่ากลัวเขาล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วต่อสายโทรหาผู้ชาย “ไปสืบเรื่องของคนที่ชื่อหลี่ซวินมาหน่อย”น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามอย่างไม่ต้องสงสัย ราวกับเป็นคนละคนกับภาพลักษณ์สุภาพอ่อนโยนดุจหยกโดยสิ้นเชิงเวินซวงซวี่มองเขา ในใจพลางผุดความสับสนขึ้นมา“ลู่เยี่ยนหุย...” เธอดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้เบา ๆ ท้ายที่สุดเวินซวงซวี่ก็ยังส่ายศีรษะ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความอ่อนล้า“เรื่องยิ่งน้อยก็ยิ่งดี ถึงยังไงฉันก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไร”เธอไม่อยากให้ลู่เยี่ยนหุยเป็นห่วงตัวเธอลู่เยี่ยนหุยมองเธอ ในแววตาฉายอารมณ์ซับซ้อนออกมาเขาเคารพกา
เขาบึ่งรถไปยังร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดเขาไปกว้านซื้อยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อทั้งหมดที่ร้านขายยา แล้วยัดใส่เต็มที่เก็บของท้ายรถเมื่อเขามาถึงบ้านของเมิ่งชิง เวินซวงซวี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ในมือกำลังถือน้ำเย็นแก้วหนึ่ง สีหน้าอ่อนล้าลู่เยี่ยนหุยรีบสาวเท้ามาตรงหน้าเธอ เมื่อเห็นแก้มที่บวมแดงของเธอ ก็ปวดใจจนคล้ายกลับถูกเข็มทิ่มแทง“เกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนตบ? เจ็บหรือเปล่า?”น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนจนไม่เป็นคำ เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับประธานแห่งลู่ซื่อที่ทำอะไรเฉียบขาดเด็ดเดี่ยวอย่างปกติคนนั้นโดยสิ้นเชิงเวินซวงซวี่ถูกความเป็นห่วงที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดของเขาทำเอาทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย เธอเบือนหน้าหนีตามสัญชาตญาณ หลบหลีกสายตาของเขา“ไม่เป็นไร ก็แค่แผลเล็ก ๆ เท่านั้น”“แผลเล็ก ๆ?! นี่เรียกแผลเล็ก ๆ เหรอ?!” เมิ่งชิงที่อยู่ข้าง ๆ ร้องเรียกอย่างเกินจริงขึ้นมา“เธอดูหน้าบวมเป่งนี่สิ อย่างกับหัวหมู! ถ้าไม่ใช่เพราะฉันประคบเย็นให้เธอทันเวลา ยังไม่รู้ว่าจะบวมจนอยู่ในสภาพไหน!”สีหน้าของลู่เยี่ยนหุยยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปใหญ่ ในแววตาเปี่ยมไปด้วยความปวดใจ “ทำไมถึงไม่ระวังขนาดนี้? เจ็บหรือเปล่า? ให้ฉันดูหน่อย
Comments