เก็นกำลังจะเอื้อมมือไปจับบานประตูไม้เก่าคร่ำคร่าตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วของเขาจะสัมผัสลงบนเนื้อไม้ เสียงนาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะก็ดังขึ้น ราวกับเสียงสัญญาณเตือนภัยอันตราย หน้าปัดดิจิทัลที่ปกติจะแสดงค่าพลังวิญญาณแบบคร่าวๆ บัดนี้กลับกระพริบอย่างรุนแรง ตัวเลขสีแดงสดพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึง ค่าพลังวิญญาณของเหล่าเงาปีศาจที่ชัดเจนและมหาศาล จนน่าตกใจ มันสูงเกินกว่าที่ฟูมิโกะเคยเห็นมาตลอด
“อะไรกันเนี่ย!” ฟูมิโกะเอ่ยด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด เธอชูข้อมือขึ้นมองนาฬิกาที่ส่งเสียงร้องเตือนถี่รัว ราวกับจะบอกว่า “หนีไป!” แสงจากหน้าปัดนาฬิกาสาดกระทบใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เก็นหันกลับมามองนาฬิกาข้อมือของฟูมิโกะ เขาเห็นตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นทันที ความประหลาดใจและความกังวลฉายชัดในแววตา แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียว ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าก็เข้ามาแทนที่ เขาเหลือบมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง แล้วหันกลับไปสบตาฟูมิโกะ “เราไม่มีทางเลือก ฟูมิโกะ” เก็นเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความเด็ดขาด “ถ้ามันอันตรายขนาดนี้ แสดงว่าเรามาถูกที่แล้ว” เขากระชับมือของเธอ แล้วตัดสินใจ ดันฟูมิโกะไปไว้ด้านหลัง อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เธออยู่ห่างจากประตูมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่เขาจะใช้มืออีกข้าง เปิดประตูบานใหญ่นั้นออก อย่างรวดเร็วและเด็ดเดี่ยว พรึ่บ! ทันทีที่บานประตูเปิดออก ลมกระโชกแรงที่ไม่เหมือนลมธรรมชาติก็โหมกระหน่ำเข้ามาในโถงทางเดิน ราวกับพายุที่ถูกกักเก็บไว้นับศตวรรษ มันไม่ใช่แค่ลมที่พัดผ่าน แต่เป็นพลังงานที่มองไม่เห็น พลังงานที่มืดมิดและหนักอึ้งราวกับภูเขาทั้งลูกที่ถูกผลักเข้ามา “เฮ้ย!” เก็นร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างของเขาสั่นสะท้าน เขายังคงกุมมือฟูมิโกะไว้แน่น แต่แรงลมนั้นรุนแรงเกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานไหว ตึง! ตึง! ร่างของทั้งคู่ ปลิวกระเด็นถอยหลังออกไปอย่างแรง ราวกับถูกรถบรรทุกพุ่งชน พวกเขากระแทกเข้ากับผนังฝั่งตรงข้ามอย่างจัง ก่อนจะร่วงลงมากองกับพื้นหินเย็นเฉียบ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเล็ดลอดออกจากปากของฟูมิโกะ “โอ๊ย! เจ็บจัง…” ฟูมิโกะพึมพำ เธอรู้สึกเหมือนกระดูกทุกซี่ในร่างกายจะแตกละเอียด ร่างกายเธอเจ็บระบมไปหมด โดยเฉพาะแผ่นหลังที่กระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง เก็นลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล เขาบ่นพึมพำด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน “อึ่ก… เจ็บชะมัด” เขาพยายามรวบรวมสติ หันไปมองฟูมิโกะด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ? มีแผลตรงไหนไหม?” ฟูมิโกะพยายามลุกขึ้นนั่งช้าๆ เธอยกมือขึ้นลูบหลังที่ยังคงปวดร้าว “ฉันไม่เป็นไร… แต่ว่า… นี่มันพลังอะไรกัน เก็น? มันรุนแรงมาก” เธอจ้องมองไปที่ประตูที่ยังคงเปิดอ้าอยู่ ลมยังคงพัดวนเวียนอยู่รอบๆ บานประตูนั้น แต่เบาลงกว่าตอนแรกมากนัก เก็นมองไปยังประตูบานนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลที่แฝงอยู่ในสายลมนั้น และมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้า “นี่คงเป็นพลังที่ออกมาจากแก่นแท้ของวิญญาณปีศาจที่เราตามหาล่ะมั้ง” เก็นคาดเดา เขายันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แม้จะยังรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย “ไม่ว่ามันคืออะไร เราต้องเข้าไปข้างในกันอีกครั้ง” เสียงของเขาหนักแน่น แสดงถึงความตั้งใจที่ไม่ยอมแพ้ ฟูมิโกะเองก็พยักหน้ารับช้าๆ เธอรู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว พวกเขามาที่นี่เพื่อภารกิจนี้ และการถอยกลับไม่ใช่ทางเลือก การรับรู้ถึงพลังงานอันมหาศาลจากนาฬิกาข้อมืออาคมทำให้เธอเข้าใจว่านี่คือการเผชิญหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทั้งคู่พยายามจะก้าวขาเดินตรงไปยังประตูบานนั้นอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะขยับตัวได้เต็มที่ จู่ๆ ลมที่เคยเบาบางลงก็พัดกระหน่ำขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า เสียงหวีดหวิวของลมก้องกังวานไปทั่วโถงทางเดิน ราวกับเสียงกรีดร้องของสัตว์ร้ายที่กำลังตื่นขึ้น ผนังอาคารสั่นสะท้านราวกับจะพังทลายลงมา พร้อมกันนั้น เงาปีศาจขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นจากความมืดมิดภายในประตู มันทะลุผ่านกรอบประตูออกมาสู่โถงทางเดินอย่างช้าๆ ร่างกายของมันสูงใหญ่ราวกับต้นไม้ที่ยืนต้นตระหง่านอยู่กลางป่าใหญ่ แม้จะเป็นเพียงเงา แต่ฟูมิโกะก็สามารถรับรู้ถึงพลังงานอันดำมืดและชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากมันอย่างชัดเจน รูปทรงของมันดูบิดเบี้ยวและผิดรูปคล้ายมนุษย์ แต่กลับมีแขนขาที่ยาวผิดปกติ และมีเขางอกออกมาจากส่วนหัว ฟูมิโกะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอสัมผัสได้ถึงความกลัวที่เกาะกุมแน่นอยู่ในหัวใจ จนแทบจะขยับตัวไม่ได้ นาฬิกาข้อมือของเธอกรีดร้องเตือนภัยอย่างบ้าคลั่ง หน้าปัดแสดงตัวเลขพลังวิญญาณที่พุ่งขึ้นไปจนสุดขีด ตัวอักษรสีแดงกะพริบคำว่า "อันตรายถึงชีวิต!" ซ้ำไปซ้ำมา เก็นก้าวมายืนบังฟูมิโกะไว้เต็มตัวทันที ดวงตาของเขาจ้องมองเงาปีศาจเบื้องหน้าอย่างไม่ลดละ ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความท้าทาย ไม่มีความกลัวอยู่ในนั้น “ฟูมิโกะ…” เก็นเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “นี่แหละ…คือสิ่งที่แท้จริง” เงาปีศาจขนาดยักษ์หยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาสีแดงฉานสองดวงที่ลุกโชนอยู่ในความมืด ราวกับถ่านไฟที่กำลังคุ มันจ้องมองมาที่พวกเขา แล้วส่งเสียงคำรามต่ำๆ ที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งอาคาร “มัน… มันเห็นเรา…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแทบจะกลืนหายไปในลำคอ “ใช่… และมันกำลังจะโจมตี” เก็นตอบ เขาเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มือของเขากำแน่น พลังงานบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆ ตัวเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่หลับใหลอยู่ภายในกำลังตื่นขึ้นมา เพื่อปกป้องตัวเองและฟูมิโกะ เงาปีศาจก้าวเท้าเข้ามาหนึ่งก้าว เสียงฝีเท้าของมันหนักแน่นราวกับภูเขาถล่ม แรงสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านมาถึงพื้นดินทำให้ฟูมิโกะทรงตัวแทบไม่อยู่ “เก็น! เราจะทำยังไงดี?!” ฟูมิโกะถามด้วยความตื่นตระหนก เก็นยังคงจ้องมองเงาปีศาจนั้นอย่างไม่กะพริบตา เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง “เราต้องสู้มัน… ฟูมิโกะ”แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างที่พังทลายของห้องผ่าตัด สาดไล่ความมืดมิดที่เคยปกคลุมโรงพยาบาลแห่งนี้มานานหลายทศวรรษให้จางหายไป ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ฟูมิโกะและเก็นอย่างหนัก ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนอันยาวนาน แต่ในดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ฟูมิโกะหันไปมองเก็น ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นและมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากกลับเปล่งประกายสดใส เก็นเองก็ยิ้มตอบ ดวงตาของเขายังคงฉายแววอ่อนเพลีย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ“เราทำได้จริงๆ ด้วยนะเก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ใช่ฟูมิโกะ… เราทำได้แล้ว” เก็นตอบ เสียงของเขาเองก็หอบไม่แพ้กัน “มันเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”ฟูมิโกะค่อยๆ หยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่มีแสงสีเหลืองอำพันเรืองรองอยู่ภายในขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม แสงนั้นอบอุ่นและบริสุทธิ์ ไม่ใช่แสงสีดำที่น่าขนลุกเหมือนตอนแรกอีกต่อไป“ในที่สุด… เหล่าวิญญาณก็ไ
เสียงทุบประตูห้องผ่าตัดยังคงดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ผนังห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ เก็นและฟูมิโกะนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าเต็มทีจากบาดแผลและจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จบกับ "นายใหญ่" ที่ยังคงกราดเกรี้ยวอยู่ภายนอก“เราจะทำยังไงดีเก็น?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เธอพลิกหน้าหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว ดวงตากวาดไปตามตัวอักษรโบราณพยายามหาวิธีที่จะเอาชนะนายใหญ่ได้เสียทีเก็นมองไปที่ประตูห้องผ่าตัด ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่เริ่มเรืองแสงริบหรี่ลงแล้ว แสดงว่าพลังป้องกันของมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราต้องหาทางหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา ฟูมิโกะ!”ตูม!ประตูห้องผ่าตัดถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนบานประตูเริ่มปริแตกออก เศษไม้กระเด็นเข้ามาในห้อง“มันใกล้จะพังแล้ว!” ฟูมิโกะอุทาน เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เพื่ออ่านหนังสืออาคมให้เร็วที่สุดทันใดนั้น!ดวงตาของฟูมิโกะก็หยุดอยู่ที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง! เธอจำได้ว่าเคยเห็นคาถานี้มาก่อน! มันเป็นคาถาที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ!“เก็น! ฉันเจอแล้ว!” ฟูมิโกะตะ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ผสมปนเปกับความชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งอยู่ในห้องแล็บที่มืดมิด ฟูมิโกะกับเก็นนั่งอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับ "นายใหญ่" บนดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่บนประตูกำลังเรืองแสงจางๆ เป็นเกราะป้องกันที่เปราะบาง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยได้ในตอนนี้“เราต้องหาผ้ายันต์อีกสองผืนให้เจอ” ฟูมิโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าเล็กน้อย เธอเปิดหนังสืออาคมเล่มหนาออกอีกครั้ง พยายามกวาดสายตาหาเบาะแสเก็นพยักหน้า เขายังคงกุมแขนที่บาดเจ็บจากกรงเล็บของนายใหญ่ “ใช่… ยิ่งเราได้ผ้ายันต์ครบเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสโค่นมันได้มากเท่านั้น”“แต่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ฉันสัมผัสบนดาดฟ้า… มันหายไป” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันทำงานยังไง”“อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนั้นเลยฟูมิโกะ” เก็นบอก “ตอนนี้เราต้องหาอีกสองผืนที่เหลือให้เจอ” เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะที่วางอยู่ข้างๆฟูมิโกะเห็นแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “จุดสีแดง! มันอยู่ที่ด้านหลังโรงพยาบาล! ทั้งสองจุดเลย!” เธอกรีดร้องด้วยความดีใจ“ด้านหลังโรงพยาบาลเหร
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากชั้นล่างของโรงพยาบาลร้าง คลอไปกับเสียงฝีเท้าหนักอึ้งของ "นายใหญ่" ที่กำลังไล่ตามฟูมิโกะมาติดๆ บนดาดฟ้า ลมยามค่ำคืนพัดกรรโชกแรงจนเส้นผมของฟูมิโกะปลิวไสวไปตามแรงลม เธอยืนอยู่หน้า เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่หกเรืองแสงสีม่วงเข้มพร้อมกับสายฟ้าเล็กๆ ที่แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังมีชีวิต"ผ้ายันต์ผืนนั้น… มันคงเป็นผ้ายันต์แห่งสายฟ้าแน่ๆ" ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาลจากผ้ายันต์ผืนนั้น พลังงานที่แตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งหมดตุบ! ตุบ! ตุบ!เสียงฝีเท้าหนักๆ ของ "นายใหญ่" ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันกำลังปีนขึ้นมาบนบันไดที่นำไปสู่ดาดฟ้า"ไม่นะ… มันกำลังมาแล้ว!" ฟูมิโกะอุทานด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไปแล้วทันใดนั้น!ร่างของเก็นก็พุ่งพรวดขึ้นมาบนดาดฟ้า! ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อย มีรอยเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วนอยู่หลายแห่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เขากำมีดลงอาคมแน่นในมือ“ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ?!” เก็นตะโกนถาม เสียงของเขาหอบเล็กน้อยจ