“ต่อให้เจ้างดงามเพียงใดเจ้าก็ยังคงเป็นปีศาจน้อยของข้าอยู่ดี ข้าปล่อยให้เจ้าเสพสุขในจวนสกุลเฉินมานานกว่าสิบปีแล้ว ได้เวลาที่เจ้าจะต้องชดใช้คืนข้าบ้างแล้ว......ปีศาจน้อย” “กรี๊ด!!” “เจ้า!!” “ออกไปนะ เจ้าเป็นใครกันเหตุใดจึงได้เข้ามาในห้องอาบน้ำของข้า ออกไปนะ!!” “ปีศาจน้อย นี่ข้าเอง!!” “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่ทราบว่าจะมีคนเข้ามาใน…. ในนี้ท่านรีบสวมชุดก่อนเถอะเจ้าค่ะข้าจะออกไปรอข้างนอก” “เจ้าบอกว่าที่นี่…คือห้องอาบน้ำของเจ้างั้นหรือ” “เรื่องนี้…ทะ ท่านป้าเห็นว่าข้าควรจะแยกห้องอาบน้ำส่วนตัว ก็เลยสร้างห้องอาบน้ำให้ข้าไว้ที่นี่แต่ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะเข้ามา ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าจะกลับไปใช้…” “เดี๋ยว!!” “ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นห้องอาบน้ำของเจ้า เช่นนั้นข้าก็ต้องขออภัยที่เข้ามาโดยมิได้รับอนุญาต” “มะ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ทะ ที่นี่เป็น.... จวนของท่านดังนั้น…” “หือ เจ้าว่าอะไรนะข้าไม่ได้ยินเลย” “ปีศาจน้อย นี่เจ้ากำลังยั่วยวนข้าอยู่งั้นหรือ”
View More"Dua pasien dalam keadaan gawat!"
Shreya--yang baru tiba di rumah sakit untuk melakukan check-up kandungan--mendadak disuguhkan dengan dua mobil ambulan yang sedang menurunkan pasien.
Tenaga medis tampak berjuang mendorong brankar dengan cepat.Entah mengapa, seketika perasaan wanita itu dirundung gelisah.
Ia pun menyipit memperhatikan pakaian yang dikenakan pasien brankar kedua. Bahkan, kakiknya tanpa sadar sampai ikut mendekat ke ruang ICU.
Deg!
Kedua mata Shreya melotot tak percaya ketika melihat sosok pria yang begitu familiar--tampak lemah dengan darah bercucuran."Ya, Tuhan, Mas Alex!"
"Itu suami saya!" lanjutnya berseru sembari mengikuti langkah tim medis.Namun, apalah daya, Shreya harus menunggu di luar.Tangis pun pecah diiringi doa dalam hati. Shreya berharap sang suami selamat meski pria itu sempat menyuruhnya untuk mengugurkan janin yang mereka tunggu selama tiga tahun pernikahan, serta memilih pergi bersama wanita selingkuhannya.
Mengingat wanita itu, Shreya mendadak melangkah menuju ke salah seorang sopir ambulan tak jauh darinya. "Pak, apa korban yang satunya seorang wanita dan berada di mobil yang sama dengan korban pria?" tanyanya.Meski bingung, sang sopir pun menjawab, "Iya, benar, Nyonya."Shreya seketika lemas.'Kalian benar-benar ingin sehidup semati?' ucapnya menertawai diri sendiri dalam hati.
Tak ada kata yang terlontar lagi dari mulut Shreya setelahnya.
Wanita itu memilih duduk di ruang tunggu sembari memijit kening.Namun, tak lama menunggu, Shreya justru mendapat kabar jika Alexander bersama wanita selingkuhannya itu meninggal.Belum kering luka yang Alexander toreh, kini luka itu diiringi duka yang mendalam.
Jujur, Shreya tak pernah inginkan kematian untuk membalas sakit hatinya. Ia masih ingin anaknya merasakan figur seorang ayah.
Pemeriksaan kandungan pun Shreya urungkan. Ia memilih masuk ke ruang ICU dan segera menghubungi keluarga Alexander.Tiga puluh menit berselang, keluarga Alexander akhirnya tiba. Wajah Ibu mertua Shreya tampak amat cemas."Apa yang terjadi Aya?" tanyanya."Mas Alex kecelakaan, Bu, dan ... Mas Alex meninggal," ucap Shreya sambil terisak."Tidak mungkin!"Shreya menyaksikan sang mertua terduduk di lantai.Namun, tiba-tiba saja wanita paruh baya itu berdiri dan menghardiknya. "Ini pasti gara-gara kamu! Kamu memang pembawa sial. Perusahaan putraku bangkrut dan sekarang ... putra kesayanganku meninggal! Seharusnya, dulu aku tidak merestui kalian!"
Ucapan pedas dari putranya saja belum hilang, ditambah lagi mulut sang mertua yang membuat hati Shreya makin terhimpit rasa sakit.Ditunjuknya brankar di samping Alexander yang hanya terhalang tirai. "Bu, perusahaan itu bangkrut karena memang putra ibu tidak mampu membayar hutang kepada para Mafia," ucap Shreya membela diri, "Dan harus ibu tau ... Mas Alex selingkuh dan wanita yang meninggal itu adalah selingkuhannya."Plak!
Tamparan keras berhasil mendarat di pipi kiri Shreya.Shreya memegang pipinya seiring dengan napasnya yang memburu."Itu tidak mungkin! Pasti gara-gara kamu yang hamburkan uangnya. Dan apa tadi kamu bilang? Selingkuh? Wajar saja dia selingkuh! Toh kamu belum bisa kasih dia keturunan. Atau jangan-jangan ... kamu mandul? Hahahahaha ... kasian!"Shreya memejamkan matanya begitu mendengar hinaan sang mertua lagi.Namun, tanpa kata, ia memilih pergi dengan tangan yang masih memegang pipi.
Tiada guna dirinya berada di sana karena hanya menambah luka dan beban pikiran.
Jikalau saja Alexander masih hidup pun, tidak akan ia dianggap karena tidak ada lagi cinta untuk dirinya.Hanya saja, langkah Shreya terhenti saat melihat seorang gadis remaja meraung menangisi jasad wanita selingkuhan Alexander.Sungguh tangisan yang membuat pilu bagi siapa yang mendengar.
Shreya menarik napasnya dalam, sangat berat.
Tak terasa air mata pun kembali berderai. Namun, ada pemandangan aneh kala Shreya melihat sosok laki-laki di samping jasad si wanita tanpa raut sedih.
Mata mereka tak sengaja bertemu dan tiba-tiba saja ...Bruk!Shreya jatuh pingsan.“ท่านพี่!!”“อะไรอีกงั้นหรือ”“ท่าน…ต้องทำพิธีเปิดหน้าเจ้าสาวก่อนเจ้าค่ะ”“นั่นสิข้าลืมไปเลยหากเจ้าหายใจไม่สะดวกจะแย่เอานะ ไหนล่ะไม้เปิดนั่น อ้อ อยู่นี่เอง ทำไมพิธีการถึงได้เยอะเช่นนี้กันนะ”“เฉินจวินเซียวท่านบ่นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้า มาในตอนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่นอีก เช่นนั้นไม่แต่งดีหรือไม่เจ้าคะ”“ไม่นะ!! ลี่หลินวันนี้เป็นวันมงคลใหญ่เจ้าจะพูดเช่นนี้หาได้ไม่ ข้าไม่ยอมนะ ”“ท่านเอาแต่บ่นจนข้าคิดว่าท่านไม่เต็มใจจะแต่งงาน”“ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าจะเปิดแล้วนะ”จวินเซียวมือสั่นเล็กน้อยเมื่อใช้ไม้มงคลที่ผูกโบสีแดงเอาไว้ค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในผ้าสีแดงและค่อย ๆ เปิดหน้าเจ้าสาวเอาไว้ เจียงลี่หลินที่ถูกแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าที่จัดจ้านกว่าเดิมด้วยสีแดงสดแต่กลับงดงามราวดอกโบตั๋นในฤดูหนาวที่เลอค่ายิ่งกว่าบุปผาใดในใต้หล้าสำหรับเฉินจวินเซียว“เจ้า…ช่างงามยิ่งนัก งามจนข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นของข้า เจียงลี่หลินข้าควรรู้มานานแล้วว่าข้ารักเจ้าและไม่สามารถปล่อยเจ้าไปที่ใดได้นับตั้งแต่เจ้าก้าวเข้ามายังสกุลเฉินแห่งนี้”“ท่านพี่ข้าเองก็เช่นกันเจ้าค่ะ วันนี้ท่านดูสง่างามในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสดนี้ ช่างรูปงามยิ่งนัก
“เปล่านะขอรับ ข้าเพียงแค่ได้ยินมาว่าผู้ที่ตั้งครรภ์ควรนอนพักให้มาก ๆ จึงปล่อยให้นางนอนพักต่ออีกสักหน่อยเพราะก่อนหน้านี้นางไปทัพคงอ่อนเพลียมากอย่าไปรบกวนนางเลยขอรับ”“เช่นนั้นก็รีบไปเถอะ”“ท่านแม่ข้าฝากดูแลลี่หลินก่อนนะขอรับแล้วลูกจะรีบกลับ”“เจ้ารีบไปเถอะทางนี้แม่ดูแลให้เองไม่ต้องห่วง”จวินเซียวและใต้เท้าเฉินลู่เดินทางออกจากจวนทันที พวกเขาพบกับหย่งเล่อหานที่เข้าวังมาเช่นกันก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าเฝ้าท่านอ๋องในห้องทรงงานเล็ก“อาการขององค์ชายรองดีขึ้นมากแล้ว เขารู้เรื่องขององค์หญิงและไม่ได้คิดติดใจเอาโทษกับเราเพราะทราบสถานการณ์ครั้งนี้ดี อีกอย่างเขารู้ตั้งแต่คืนที่นางถูกพาตัวไปแล้วแม้ว่าอยากจะช่วยก็คงสุดกำลังเพราะรู้ดีว่าข้าศึกคงไม่มีทางปล่อยนางเอาไว้เป็นแน่”“เช่นนั้นเงื่อนไขการเจรจาที่ต้องสมรส…”“องค์ชายรองยอมรับเงื่อนไขที่ข้าส่งมอบให้แล้ว เขาตกลงจะครองเมืองเสิ่นที่อยู่ติดกับอี้โจวของเรา ส่วนแคว้นเว่ยก็ตกลงลงนามสัญญาสงบศึกสามสิบปีและส่งมอบค่าธรรมเนียมพ่ายทัพให้กับแคว้นข่านเล่อและชิงโจวตามที่เรียกแลกกับการส่งองค์ชายเพียงคนเดียวกลับแคว้น”“ท่านอ๋อง กระหม่อมยังอยากให้ทางเราตกลงกับข่านเล่ออี
“ถูกต้อง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องยอมรับข้อเสนออีกทั้งต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียมพ่ายศึกอีกสองเท่าทั้งตอนแพ้ที่อี้โจวและชิงโจว”“หากเลือกจะยอมแพ้ตั้งแต่ที่อี้โจวพวกเขาคงไม่สูญเสียมากถึงเพียงนี้”“เพราะความละโมบของฮ่องเต้แคว้นเว่ยที่เกือบจะลืมศึกภายในที่รออยู่ข้างหลังดังนั้นครั้งนี้เขาคงคิดอะไรได้ ยอมเสียน้อยเพื่อได้มาก ดังนั้นชิงโจวและข่านเล่อจึงได้รับประโยชน์จากการศึกในครั้งนี้ ว่าแต่แผลของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“เกือบหายดีแล้วขอรับท่านพ่อ อีกสองสามวันก็ฝึกดาบได้แล้วขอรับ”“เจ้าก็ยังใจร้อนอีกเช่นเคย ไม่ควรหุนหันพุ่งเข้าโจมตีหนึ่งต่อสามสิบเช่นนั้นอีก ลืมไปแล้วหรือว่ามิได้ตัวคนเดียวแล้วยังมีหลินเอ๋อร์และลูกของเจ้ารออยู่”“ขอรับท่านพ่อ ท่านสั่งสอนได้ถูกต้องแล้วลูกไม่กล้าใจร้อนอีกแล้วขอรับ”“เอาเถอะ ยังดีที่เจ้าส่งม้าเร็วมาแจ้งแผนสำรองให้ท่านอ๋องได้ทันเวลา”“แต่แผนที่จะให้ลี่หลินไปที่นั่นข้ามิได้บอกเอาไว้นะขอรับ”“กุนซือของเจ้าทูลท่านอ๋องเอาไว้น่ะสิ คุณชายหย่งบอกว่าหากว่าแคว้นเว่ยใช้แผนสกปรกถึงที่สุด เราเองก็ต้องใช้แผนการที่พวกเขาคาดไม่ถึงเช่นกัน ดังนั้นจึงได้มาขอร้องหลินเอ๋อร์ด้วยพระองค์เองอีกทั้
“ฮูหยินเจ้าคะ”“ช่างเถอะ เร็วเข้ารีบเอาดอกไม้มาข้าจะโปรยรับนายท่านกับ…”“ฮูหยิน ท่านแม่ทัพกับฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ”“เซียวเอ๋อร์…. หลินเอ๋อร์กลับมากันแล้ว พวกเขากลับมาแล้ว”""ท่านแม่""จวินเซียวและลี่หลินที่เปลี่ยนมานั่งม้าของจวินเซียวค่อย ๆ บังคับบังเหียนม้ามายังหน้าประตูจวนสกุลเฉินก่อนที่จวินเซียวจะลงม้ามาก่อนและพยุงลี่หลินลงมาและคุกเข่าตรงหน้าเฉินฮูหยิน“ลูกกลับมาแล้วขอรับท่านแม่”“เซียวเอ๋อร์ เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับชัยชนะ ยอดเยี่ยมยิ่งนักแม่ภูมิใจในตัวเจ้า”“ท่านแม่ ครั้งนี้หากมิได้ลี่หลินไปช่วยลูกไว้ชิงโจวอาจจะไม่ชนะรวดเร็วเช่นนี้ขอรับ”“ท่านแม่”“เจ้านะเจ้า หากมิใช่เป็นท่านอ๋องที่เสด็จมาขอร้องถึงจวนมีหรือแม่จะยอมให้เจ้าออกไปตรากตรำข้างนอก ลุกขึ้นเร็ว ๆ เข้า ลุกขึ้น แม่นมเร็วเข้าพยุงฮูหยินน้อยเข้าไปข้างในจวนก่อนอย่าให้กระทบ…”“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าขี่ลี่เยว่มาช้า ๆ ไม่กระทบกระเทือนหลานของท่านแม่แน่ขอรับ”“เจ้า…. รู้แล้วอย่างนั้นหรือ ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียวว่าหลินเอ๋อร์คงอยากจะบอกเจ้าด้วยตัวเองไปเถอะรีบเข้าไปข้างในกันก่อนข้าจะรอท่านพ่อของเจ้า”“ท่านพ่อเข้าวังไปกับท่านอ๋องขอรับท่
“คือว่า เรื่องของสกุลเจียง…. เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น เจ้า…”“เจ้าคะ??”“สาเหตุที่แคว้นเว่ยที่ลักลอบเข้ามาขโมยตำรับยาของสกุลเจียงนั่นก็เพราะ…. สกุลเจียงสามารถช่วยเหลือกองทัพของสกุลเฉินเอาไว้ได้ ดังนั้นจึงบุกสกุลเจียงเพื่อข่มขู่เอาตำรับยาไปรักษาฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยแต่ว่า….”“พ่อข้ามิได้ให้ไปและพวกมันก็ทำทุกวิถีทาง ทั้งยื่นข้อเสนอและเงินจำนวนมากแต่เพราะคำมั่นสัญญาที่มีกับสกุลเฉินและความจงรักภักดีกับฝ่าบาทจึงไม่ยอมมอบให้ ดังนั้นสกุลเจียงของข้าจึงถูกโจมตีเพื่อแย่งตำรับยานั้น”“เจ้ารู้ทั้งหมดเลยงั้นหรือ”ลี่หลินหันมายิ้มให้จวินเซียว และนี่คงเป็นสิ่งที่จวินเซียวทราบมาก่อนแล้วและคิดว่านางคงจะไม่ทราบเพราะในครั้งนั้นนางยังเด็กมาก เขาจึงพยายามไม่เข้าใกล้นางและหาเรื่องนางเพื่อจะให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดกับลี่หลินเพราะเขายอมรับไม่ได้ว่าสกุลเจียงต้องถูกฆ่าเพราะสกุลเฉินเป็นต้นเหตุนั่นเอง แต่ที่จริงตั้งแต่เริ่มจนจบเจียงลี่หลินรับรู้มาโดยตลอด“รู้เจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่ไม่เคยปิดบังเรื่องนี้กับข้าด้วยที่สกุลเจียงทุกคนมีวิชาแพทย์ติดตัวตั้งแต่เด็ก ทุกคนรู้ว่าชีวิตของหมอล้วนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเสมอ บางครั้งการช่วย
ลี่หลินหันไปมองแม่ทัพเฉินที่ยังทำหน้าโมโหและไม่สนใจนางอีกครั้งพร้อมกับส่ายหัวให้กับคนหัวดื้ออย่างจวินเซียวอีกครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะในเมื่อท่านไม่ให้ข้าเช็ดตัวให้ ข้าก็จะออกไปเรียกจางเต๋อมาจัดการต่อเอง”“เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อนสิ!! เจ้าจะไปจริง ๆ หรือ”ลี่หลินลุกขึ้นเพื่อลองใจเขา จวินเซียวเห็นว่านางลุกขึ้นจะไปจึงรีบดึงแขนนางเอาไว้ เขาก็แค่ปากแข็งไปอย่างนั้นเองแม้ว่าจะโกรธนางมากแต่ก็ดีใจที่ได้เห็นนางในวันนี้“ท่านแม่ทัพมีสิ่งใดจะพูดอีก ท่านต้องรีบเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดเพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ”“ข้า…ยอมแล้วเจ้าเช็ดตัวให้ข้าไม่ต้องออกไปเรียกจางเต๋อ”“ขออภัยท่านแม่ทัพแต่ว่าข้างนอกนั่นมีคนบาดเจ็บอีกมากและยังต้องการหมอ”“แต่ข้าเป็นแม่ทัพแล้วเจ้าก็เป็นฮูหยินของข้านะ!! ต้องดูแลข้าก่อนสิ ทหารคนอื่น ๆ พวกเขามีแพทย์สนามดูแลอยู่แล้ว”จวินเซียวดึงนางลงมานั่งที่ตักพร้อมกับสูดกลิ่นกายของนางที่ห่างหายเกือบสามเดือนจนสุดลมหายใจ ลี่หลินมิได้เบี่ยงกายหนี นางรู้ดีว่าจวินเซียวก็ทำปากดีไปเช่นนั้นเองและในตอนนี้นางเองก็รู้วิธีการจัดการคนปากดีอย่างเขาได้เรียบร้อยแล้ว“เช่นนั้นก็อยู่เฉย ๆ ข้าจะไปเตรียมของมาเช็ดตัวให้ท่าน”
Comments