ไร้วาสนา หากไม่ไร้ฝีมือ เก่งกาจเลื่องชื่อ นางคือสตรีผู้ ‘ขย่ม’ บัลลังก์ !! ฟ่านรั่วเจี๋ย รู้ดีว่าบ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะคับขัน แผ่นดินถูกรุกรานโดยอีกฝ่ายมีแม่ทัพใหญ่ เขาเป็นถึงชินอ๋องแห่งแคว้นต้าหลาง มู่ชิงซาน และถูกขนานนามว่า ‘อ๋องปีศาจหรือหมาป่าแห่งรัตติกาล’ คนผู้นี้กระหายสงคราม เป็นบุรุษที่ผีเห็นยังหวั่น ทว่าโชคชะตากลับพลิกผัน เมื่ออ๋องปีศาจต้องตกอยู่ในกำมือหญิงอัปลักษณ์ เขากลายเป็น ‘เจ้าเป็ดน้อย’ ความคิดอ่านเหมือนเด็กที่ยังไม่รู้ความ และเรียกฟ่านรั่วเจี๋ยว่า ‘มารดา’ ภายใต้เหตุการณ์แสนประหลาดนี้ นางจะเลือกชำระแค้นด้วยการสังหารศัตรู หรือกักขังเขาไว้ให้เป็นบุตรชายกำมะลอ แต่รู้ตัวอีกที...ฟ่านรั่วเจี๋ยก็แจ้งใจว่า ความอัปลักษณ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของนาง คือสิ่งที่อ๋องปีศาจปรารถนาอยากครอบครอง!
Lihat lebih banyakเจ้าสาวอัปลักษณ์ก่อนเข้าพิธีวิวาห์กับมู่ชิงซาน เกิดเรื่องที่หวิดทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยต้องถูกหยามเกียรติ เพราะมู่หรูซื่อกลับกลายเป็นคนพยายามเข้ามาตีสนิทนางในช่วงนั้นมู่ชิงซานมีภาระต้องไปประชุมกับรองแม่ทัพที่ค่ายในเมืองอื่นซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ราวๆ สามร้อยลี้ “พี่รองคงไม่ได้สนใจเจ้าดีพอ ข้าจึงพานางรับใช้มามอบให้ อย่างไรช่วงนี้เจ้าต้องดูแลหลายสิ่ง การเป็นสตรีข้างกายชินอ๋องไม่ใช่เรื่องง่าย”ฟ่านรั่วเจี๋ยมองไปยังนางรับใช้สองคนที่ท่าทางเหมือนสตรีชาวบ้านทั่วไป ทั้งคู่เป็นฝาแฝดอายุราวๆ สิบเจ็ดปีเห็นจะได้“รบกวนจวิ้นอ๋องหรูซื่อมากเกินไปแล้ว”“เล็กน้อย เพราะข้าเห็นว่าเจ้าปฏิเสธคนของแคว้นหมิง เลยให้บ่าวสองคนนี้มาช่วยงานแทน”ในครานั้นที่นางปฏิเสธองค์หญิงเล็ก ไม่รับสาวใช้เอาไว้ เพราะฟ่าน-รั่วเจี๋ยไม่รู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นเช่นไร การให้คนที่อยู่ในแคว้นหมิงมาติดตามก็รังแต่จะสร้างภาระมากกว่าคอยรับใช้ สองฝาแฝดหน้าตาไม่ได้เหมือนกัน ทั้งคู่เป็นคนในแคว้นต้าหลางติดตามกองทัพมาตั้งแต่เล็กเพื่อช่วยงานในครัว คนพี่ชื่อจางฉี มีไฝที่มุมปากด้านซ้าย คนน้องชื่อจางหมิ่น ดวงตาโตและชอบยิ้มอยู่เสมอ“เอาละ ธุระข้ามีเพ
“รั่วเจี๋ย ข้าสั่งเจ้าได้ยินหรือไม่”นางส่ายหน้าปฏิเสธ ความกลัวครอบคลุมจิตใจอย่างเร็ว นางจึงถอยหลังหนีเขา แต่ร่างสูงกระโดดออกจากอ่างน้ำและคว้าตัวนางไปกอดรัดในอึดใจต่อมา“ทะ...ท่านอ๋อง อย่าได้ข่มเหงน้ำใจข้าจนเกินไป”“ข่มเหงเจ้า ฮ่าๆ เหลวไหล ทั้งหมดที่ทำ ข้าต้องการช่วยเจ้าต่างหากรั่วเจี๋ย” เขาเอ่ยแล้วก็ค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดใบหน้าครึ่งล่างของนางออก หญิงสาวสะเทือนใจต่อการกระทำนั้น ขอบตาแดงระเรื่อ น้ำตาเอ่อคลอหน่วย“ใครอยากเห็นน้ำตาของเจ้า หยุดร้อง ไม่อย่างนั้นข้าจะกัดจมูกเจ้าเสีย” เขาเอ่ย พอเห็นว่านางเริ่มสะอื้นจึงใช้นิ้วยาวๆ บีบจมูกของฟ่านรั่วเจี๋ยซึ่งเป็นตอนนั้นที่นางต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถึงจะรู้ว่าตนเองมีสมุนไพรปรุงเอาไว้เพื่อช่วยรักษาความอัปลักษณ์และหินจากบ่อน้ำพุในตำหนักเย็นแต่ยามนี้ได้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อไออุ่นจากเรือนกายของมู่ชิงซานมอบความรู้สึกซาบซ่านแก่นาง ซึ่งนอกจากทำให้กายสาวสั่นสะท้าน มันยังช่วยรักษาความน่าเกลียดของฟ่านรั่วเจี๋ยด้วย“คราวนี้เจ้าเข้าใจหรือยังว่าความอัปลักษณ์ที่ติดตัวเจ้านี้ เหตุใดจึงต้องมีข้าคอยดูแล!”ฟ่านรั่วเจี๋ยยังคงปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุมเช่นเดิม แม้จ
“ฮึ แล้วข้าสมควรอยู่ที่ใดถึงจะมีชีวิตรอด อย่าบอกนะว่าข้างกายท่าน”เมื่อคนที่วางสีหน้าขึงขังคำรามออกมาอีกหน นางก็ครั่นคร้ามใจ แต่ถึงขั้นนี้ ชีวิตย่อมต้องกลัวสิ่งใดอีก“ข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าคงไม่เห็นชอบ แต่หากอยากทวงความยุติธรรมคืนให้ตนเองกับมารดา คงเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือเป็นสตรีที่อยู่ข้างกายข้าเท่านั้น”“มะ...มู่ชิงซาน คนเลว! ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะท่านหลอกลวงข้า” นางเจ็บแค้นใจอย่างที่สุด มองร่างสูงใหญ่นี้แล้วอดคิดถึงเจ้าเป็ดน้อยของตนไม่ได้“ฮ่าๆ ข้าหรือจะมีเวลาล้อเล่นกับเจ้าถึงเพียงนั้น กินอาหารพวกนี้เสียแล้วเตรียมทำหน้าที่ของตนให้ดี”“หน้าที่อันใด!” ฟ่านรั่วเจี๋ยถามเขาเสียงเกรี้ยวกราด เป็นตอนนั้นที่ดวงตาคมกริบมองนางราวกับเป็นของหวาน หรือไม่ก็เนื้อสดๆ ที่เขาจะกลืนลงท้องอย่างโอชะ“เจ้าคิดว่าที่ข้ายอมเสียเกียรติไปรับเจ้ามาจากแคว้นหมิงเพื่อการใดหากไม่ใช่...” เสียงทุ้มตั้งใจยั่วแหย่ฟ่านรั่วเจี๋ย“ตะ...ต่ำช้า ทะ...ท่านคิดล่วงเกินข้าหรอกรึ” หญิงสาวหวีดใส่ชายหนุ่มและมิวายดึงปิ่นปักผมของตนออก พอเลื่อนสลักเล็กๆ มันก็กลายเป็นมีดสั้น ซึ่งนางไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา หากใช้มันจี้ลำคอขาวผ่อง
ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจฟ่านรั่วเจี๋ยถูกพามาอยู่ในกระโจมที่พักส่วนตัวซึ่งสร้างขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน โดยอยู่ด้านหลังสุดของค่ายทหารต้าหลาง พื้นที่ตรงนี้เป็นเนินสูงและมีสายลมพัดผ่านเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างรอบทิศถึงแม้ตบแต่งเน้นความเรียบง่ายเข้าไว้ แต่ฟ่านรั่วเจี๋ยก็พึงใจ ด้วยมันสงบมีความเป็นส่วนตัวเมื่อนางสำรวจรอบๆ กระโจมจึงพบว่ามีหลายสิ่งชวนให้ประหลาดใจทั้งกลิ่นกำยานหอมอ่อนๆ พร้อมต้นไม้ ดอกไม้ในกระถาง มองแล้วต้องฉงนมันคล้ายจำลองให้เหมือนในตำหนักเย็น เห็นดังนี้จะให้นางไว้ใจหมาป่ามู่ชิงซานได้อย่างไร น้ำหน้าอย่างเขาคงมีแผนร้ายเอาไว้ล่อลวงนางด้านนอกกระโจมมีทหารยามเฝ้าอยู่ พวกเขาถูกสั่งไม่ให้สื่อสารสิ่งใดเมื่อนางเอ่ยถามต่างพากันปั้นสีหน้านิ่งเฉย และทำได้เพียงแค่ชี้มือบอกว่านางห้ามออกไปไหนยามนี้มีสิ่งที่กังวลใจมาก นางไม่ได้อยู่ที่ตำหนักเย็น ดังนั้นหากไม่ได้รับไอความร้อนจากหินในบ่อน้ำพุและแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อ ความอัปลักษณ์ก็จะอยู่บนใบหน้านางและประจักษ์ต่อสายตาทุกคนกระทั่งบ่ายคล้อยหยวนซางก็มาหานาง อีกฝ่ายเป็นคนสนิทของมู่ชิง-ซาน ฟ่านรั่วเจี๋ยคิดว่าคนเป็นนายกับลูกน้องช่างแตกต่างกันร
ฟ่านรั่วเจี๋ยทำตาโต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คนสมองทึบไม่รู้มารยาร้อยเล่มเกวียนของบุรุษกลับเป็นนางหรอกหรือ! ความคิดของหญิงสาวสับสนหมุนวนไปมา พลางยกมือเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นอย่างเผลอไผล แล้วสัมผัสริมฝีปากอิ่มสวยของตน ยามนั้นนางคิดถึงรอยจูบที่เขาฝากเอาไว้ มือใหญ่ที่สัมผัสเรือนร่าง ทั้งเนินหน้าอกอวบ เอวคอด รวมถึงบั้นท้ายกลมงอน และพื้นที่แสนหวาน ทั้งที่นางบริสุทธิ์ใจ แต่เจ้าหมาป่าตัวร้ายนั้นคิดคด ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นมู่ชิงซานที่ตั้งใจหยามหมิ่นเกียรตินาง!“คนเลวตัวใหญ่...ทะ...ท่านต่ำช้า ข้าจะไม่ยอมให้ท่านดูแลข้าไม่ว่าในฐานะใด” ฟ่านรั่วเจี๋ยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห สองมือกำหมัดแน่นดวงตาคมกริบเกิดประกายวิบวับ เขาชอบใจที่นางกราดเกรี้ยว ฟ่าน-รั่วเจี๋ยย่อมต้องเป็นสตรีที่กล้าแกร่ง ยอมหักไม่ยอมงอ เช่นนี้นับว่าเขาไม่เสียเวลาเปล่ากับสิ่งที่กระทำมาทั้งหมด“ฮ่าๆ ถ้าไม่ยอมให้ตอบแทนน้ำใจ ฉะนั้นข้าก็จะเอาผิดเจ้าโทษฐานล่วงเกินชินอ๋องแห่งต้าหลาง อย่าลืมว่าเจ้าข่มเหงข้าอย่างไร และเรื่องนี้หากใครล่วงรู้ ข้าก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”ดวงตากลมโตมองคนหน้าด้านอย่างเหลือใจ“ชั่วช้า ท่านไม่สมควรเป็นลูกผู้ชาย”“ถูกต
ภาพเย้าหยอกของมู่ชิงซานกับฟ่านรั่วเจี๋ยทำให้สถานการณ์ที่ดูเหมือนตึงเครียดผ่อนคลายลงไปหลายส่วน กระนั้นหมิงอ๋องกลับคิดไม่ตก ตามที่จ้าวหานรายงาน บุรุษที่ฟ่านรั่วเจี๋ยเรียกว่า ‘เป็ดน้อย’ ย่อมเป็นชายคนนี้มู่ชิงซาน หรือชินอ๋องผู้เก่งกาจของต้าหลางเด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักพลางมองมู่ชิงซานและพี่สาวแสนอัปลักษณ์ของตน มีทางใดที่เขาจะทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้บัลลังก์มังกรของเขาไม่สั่นคลอน จริงอยู่ แคว้นหมิงเป็นแผ่นดินเล็กๆ เทียบไม่ได้กับแคว้นอื่น กระนั้นถึงจะเล็ก ทว่าดินแดนแห่งนี้กลับอุดมสมบูรณ์ด้วยการเพาะปลูกมีการแพทย์ที่เจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งการค้าทั้งทางแม่น้ำและถนน นอกจากนั้นยังมีสมบัติล้ำค่ามากมายจากธรรมชาติ หากผู้ใดคิดทำลายนับว่าโง่เขลา แต่หากต้องการยึดครอบครองก็ใช่ว่าจะกระทำได้ง่าย ดังนั้นแคว้นใหญ่อย่างต้าหลางจึงกระทำเพียงแค่ตั้งทัพมาคุมเชิงเอาไว้ เพื่อป้องกันการรุกรานด้านอื่นๆ พร้อมส่งไส้ศึกเข้ามาอยู่ในแผ่นดินนี้ เพื่อคอยรายงานข่าวและตัดแขนขาไม่ให้คนในแคว้นหมิงติดต่อขอความช่วยเหลือจากสิบสองเผ่าคนเถื่อนด้วยนานมาแล้วฝ่ายนั้นเคยปกครองที่นี่มาก่อนฟ่านเฉิงซีก้าวขามาข้างหน้าหนึ่งก้าว
Komen