ตอนที่11
เต้นรำกัน
“แล้วน้องวุ้นรู้ได้อย่าไงไรคะ ว่าธัชเอ่อ...”
ดุจดาวถามต่อด้วยความสงสัยว่าเด็กน้อยไปรู้ความลับของเมธัชได้อย่างไร
“พี่ดาวเคยไปบ้านพี่ชายหรือเปล่าคะ”
วุ้นเย็นแอบถามหยั่งเชิง เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าเมธัชกับดุจดาวจะสนิทกันแค่ไหนเดี๋ยวป้อนข้อมูลผิดไปแผนการก็พังหมด
“ก็เคยนะคะทุกปีที่เป็นวันเกิดของธัชกับคุณลุงวิชัย”
ดุจดาวตอบตามจริงเพราะพ่อของเธอกับวิชัยนั้นเป็นเพื่อนกันมานานทั้งยังร่วมงานกันอีกด้วยทั้งสองครอบครัวจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
“แล้วพี่ดาวเคยเข้าไปในห้องพี่ธัชหรือเปล่าคะ” วุ้นเย็นโพล่งถามออกมา ดุจดาวหน้าแดงพลางยกมือปิดปากของวุ้นเย็น
“น้องวุ้น ถามอะไรแบบนี้ มันไม่ดีรู้ไหมคะพี่ไม่เคยเข้าไปในห้องของธัชหรอกค่ะ”
‘อะไรกันแค่ถามว่าเคยเข้าไปในห้องนอนพี่ชายหรือเปล่าทำไมต้องอายจนหน้าแดงขนาดนั้นกันนะ’
วุ้นเย็นคิดอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อแน่ใจแล้วว่าดุจดาวยังไม่เคยเข้าไปในห้องนอนของเมธัช ซึ่งความจริงแล้วเธอเองก็ไม่เคยเข้าไปเช่นกัน ทั้งที่ห้องนอนอยู่ติดกันเพียงแค่ผนังกั้นเท่านั้น แต่กลับบอกดุจดาวไปอีกอย่าง
“แต่หนูเคยเข้าไป ขอหนังสือพี่ชายมาอ่านน่ะค่ะ แล้วก็บังเอิญเจอรูปถ่ายผู้ชายที่หล่อมากเขียนว่ารักธัชนะ พอพี่ชายเห็นก็รีบแย่งกลับไปเลยค่ะ” ท่าทีและน้ำเสียงนั้นจริงจัง ทั้งที่เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมา แต่ดุจดาวกลับเชื่อเสียสนิทใจ
ในตอนนั้นทั้งคู่ก็เดินมาถึงโต๊ะพอดี ดุจดาวยิ่งมองเมธัชด้วยความเห็นใจและเข้าใจ จนเมธัชรู้สึกแปลก ๆ ที่ดุจดาวมองเขาแบบนั้น
แล้วไฟในงานก็ดับลง เหลือเพียงไฟดวงใหญ่ที่จับอยู่ ที่ร่างของคู่บ่าวสาวกลางฟลอ แล้วเสียงดนตรีหวาน ๆ ก็บรรเลงขึ้น คู่บ่าวสาวจึงเริ่มเต้นรำเพื่อเปิดฟลอ ท่ามกลางเสียงปรบมือของแขกที่มาร่วมงงาน
“โอโฮ หนูไม่เคยเห็นคุณแม่เต้นรำมาก่อนเลย” วุ้นเย็นตาโตมองไปที่คู่บ่าวสาวด้วยความตื่นเต้น
“คืนนี้คุณน้าโสภาสวยมากจริง ๆ เลยค่ะ น้องวุ้นพี่ว่าโตมาต้องสวยเหมือนคุณน้าโสภาแน่ ๆ ว่าไหมธัช” ดุจดาวเปิดประเด็น ก่อนจะถามความเห็นจากเมธัช อีกฝ่ายมองน้องสาว ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ และตอบสั้น ๆ
“ครับ”
วุ้นเย็นเป่าลมออกจากปากเล็กเบา ๆ อุตส่าห์ลุ้นว่าพี่ชายจะชม แต่ก็ไม่เลย แม้ว่าคืนนี้เธอจะแต่งตัวสวยแค่ไหนก็ตาม
แขกเหรื่อต่างเริ่มจับคู่กันเข้าร่วมเต้นรำ วุ้นเย็นเสียใจที่เต้นไม่เป็น ไม่อย่างนั้นจะชวนพี่ชายไปเต้นรำบ้างแล้ว นึกโกรธตัวเอง ที่ครูเคยสอนแต่เธอก็ไม่จำ เพราะไม่ชอบกิจกรรมแบบนี้
จู่ ๆ เมธัชก็ลุกขึ้น แล้วโค้งตัวให้ดุจดาว วุ้นเย็นนั่งมองอย่างงง ๆ
“เต้นรำกันเถอะดาว ถือว่าเป็นการซ้อมไปด้วยในตัว”
ดุจดาวยิ้มหวานพร้อมกับลุกขึ้นส่งมือไปให้เมธัช
“ดีเหมือนกันค่ะ น้องวุ้นเดี๋ยวพี่มานะ” ประโยคท้ายหันไปพูดกับเด็กหญิงที่กำลังเบิกตากว้างมองมา ก่อนที่ทั้งสองจะคล้องแขนกันเข้าไปในฟลอ แล้วเริ่มเต้นรำอย่างสวยงามเละเข้ากันได้ดี ทุกจังหวะพลิ้วไหวราวกับดอกไม้เริงระบำ เมธัชก็สง่างามแข็งแรง
วุ้นเย็นเผลอจินตนาการว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเมธัชนั้นคือเธอไปชั่วคราว แต่เมื่อกระพริบตาก็ปรากฏว่า เธอยังนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว
หัวใจของเด็กน้อยสั่นไหวด้วยความริษยา อุตส่าห์วางแผนใส่ร้ายให้เมธัชไปชอบผู้ชาย แต่กลับไม่ได้ทำให้ดุจดาวละความสนใจจากเมธัชแม้แต่น้อย สรุปว่าแผนของเธอไม่ได้ผล และหากดุจดาวบอกเมธัชว่าเธอใส่ร้ายเขาไปแบบนี้ คงต้องโกรธมากแน่ ๆ
เธอไม่รู้ว่าดุจดาวเป็นใคร รู้แค่ว่า ทั้งคู่ดูดีมาก ๆ ในเวลาที่ได้อยู่เคียงข้างกันต่างกับเวลาที่ได้อยู่กับเธอ
วุ้นเย็นก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ความเป็นเด็กของเธอไม่มีอะไรสวยงามได้เท่ากับดุจดาวเลยสักอย่าง
“สวยก็ไม่สวย เต้นรำก็ไม่เป็น แต่เอาเถอะ สักวันฉันจะเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมยิ่งกว่าพี่ดาวให้ได้”
แล้วเสียงดนตรีและการเต้นรำอันยาวนานในความรู้สึกของวุ้นเย็นก็สิ้นสุดลงเสียที พร้อมกับไฟที่สว่างขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือและคำชื่นชมของคนที่อยู่ในงาน
“แหมคุณหนูเมธัชกับหนูดุจดาวช่างเป็นคู่ที่งดงามเหมาะสมกันจริง ๆ โตขึ้นคงได้แต่งงานกันแน่ ๆ เลยคู่นี้น่ะ”
“นั่นน่ะซิ ได้ยินว่าพ่อของฝ่ายหญิงเป็นกรรมการบริษัท และเป็นเพื่อนกับท่านประทานด้วย แถมยังเป็นลูกคนเดียวของกันและกันแบบนี้ คงไม่ไปไหนแน่ ๆ”
วุ้นเย็นใจหายวาบ เมื่อได้ยินคำว่าแต่งงาน หัวใจดวงน้อยเหี่ยวลีบในทันที ทั้งยังรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนั้น
“ฝันไปเถอะ ฉันไม่มีวันให้พี่ชายได้แต่งงานกับใคร ไม่ว่าพี่ดาวหรือผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น คอยดู!” วุ้นเย็นพูดออกมาเบา ๆ ทำท่าทีและสายตาเลียนแบบตัวร้ายในละคร
ตอนที่33 พี่ชายเป็นคนทำ “พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ” “หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลยโสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดีเสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่งหญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนล
ตอนที่32 หนูขอโทษค่ะแสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้วแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีกความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง “วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของ
ตอนที่31อยากได้พี่เป็นผัววุ้นเย็นขยับได้เพียงก้าวเดียว เอวเล็กคอดกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนากระชากร่างของเธอเข้าไปปะทะกับแผ่น อกกว้างอย่างแรงมือหนาอีกข้ากำหลังคอบางเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนพูดลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาชวนขนลุก “เธอรู้ไหมว่าดุจดาวเป็นคนดีและรักเธอมากแค่ไหน แล้วมันสมควรแล้วหรือที่จะให้คนอย่างเธอ มาพูดถึงแบบนี้ ฮะ”เมธัชตะคอกจนวุ้นเย็นได้กลิ่นมิ้นต์จากปากของเขา เธอตกใจมาก แต่เพราะความริษยาที่เก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ภายใน แทรกขึ้นมาเหนือเหตุผลตามความเป็นจริง ทำให้หญิงสาวลืมกลัว ตะโกนกลับไปอย่างโมโหเช่นกัน “ทำไม พี่ดุจดาวสูงส่งมากอย่างนั้นหรือ แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น หรือว่าติดใจเรื่องบนเตียงมากจนถึงกับ อื้อ..”วุ้นเย็นร้องอู้อี้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด เมื่อถูกริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายบดขยี้ปากเล็กอิ่มด้วยความรุนแรง จูบแรกของเธอช่างไร้ความอ่อนโยน อ่อนหวา
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต