ณ บ้านเศรษฐสิริ
สองสามีภรรยายืนโอบกอดกันยิ้มอย่างมีความสุขมองดู รถยนต์คันคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดก่อนที่ว่าที่ลูกเขยคนโปรดของพวกเขาจะลงมาเปิดประตูรถให้ว่าที่เจ้าสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ผมพาว่าที่เจ้าสาวมาส่งแล้วครับคุณลุงคุณป้า”
“ลุงป้าอะไรกันเรียกพ่อกับแม่ได้แล้วตาจอม”
“ครับคุณพ่อคุณแม่”
“มันต้องอย่างนี้สิ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”
คเชนทร์ยิ้มแล้วเอ่ยถามออกมาทั้งที่รู้ทุกอย่างก่อนที่ทั้งสองคนจะมาถึงบ้านเสียด้วยซ้ำ
“ครับทุกอย่างเรียบร้อยดีขอบคุณมากนะครับคุณพ่อคุณแม่”
“คงเหนื่อยกันมาทั้งวันเลยน่ะสินี่ก็ค่ำแล้วกลับไปพักผ่อนเถอะลูก”
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับสวัสดีครับ”
จอมทัพเอ่ยพูดขึ้นโดยไม่รีรอพร้อมกับยกมือสวัสดีว่าที่พ่อตาแม่ยายทั้งสองคนโดยไม่ลืมที่จะเหล่ตาไปมองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่ทำหน้าเอื่อมระอากับท่าทางที่เขาแสดงออกมา
“เข้าบ้านกันเถอะลูกวันนี้เป็นยังไงบ้าง”
สิริวดีเอ่ยถามลูกสาวคนสวยของตัวเองด้วยรอยยิ้มขณะที่พากันเดินเข้าบ้านหลังจากที่จอมทัพกลับไปแล้ว
“ก็ไม่มีอะไรนี่ค่ะคุณแม่ ก็แค่ไปลองชุดแล้วก็ไปทานข้าวเฉยๆ”
อรฤดีตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและท่าทางที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษเลย
“แม่หมายความว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
“แม่ก็รู้อยู่แล้วนี่คะอรขอ ขึ้นไปอาบน้ำดีกว่าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
พูดจบแล้วเธอก็เดินขึ้นชั้นสองไปโดยไม่ได้หันกลับมามองพ่อและแม่ของเธออีกให้ตายเถอะเหนื่อยจนตาจะปิดอยู่แล้วต้องรับมือทั้งคนตัวโตทั้งพ่อแม่ของเธอจนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว
“เห้อจริงๆ เลยลูกคนนี้โตมาแล้วทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะ”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่คนเป็นแม่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนที่อดจะมีความสุขไม่ได้เมื่อคิดถึงภาพวันที่ลูกสาวของเธอจะได้สวมชุดแต่งงาน …
“ฮัลโหลจอมหายไปไหนมาทั้งวันคะปัดโทรไปหาคุณตั้งหลายสายคุณก็ไม่รับสายปัดเลย”
เสียงหวานปนน้อยใจพูดออดอ้อนออกมาเรียกร้องความสนใจจากคนรักของเธอ
“ผมขอโทษนะวันนี้ผมต้องทำธุระให้พ่อกับแม่ทั้งวันเลยพอว่างผมก็รีบโทรหาคุณนี่แหละผมคิดถึงคุณนะ”
จอมทัพพูดกรอกสายไปตามความรู้สึกของตัวเองเขาใช้เวลาทั้งวันอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่เขาไม่ได้รักแถมยังต้องแสดงความรักกับเธอทั้งวันอีกต่างหากมันทำให้เขารู้สึกผิดอยู่ข้างในไม่น้อยเลย
“ไม่รู้แหละปัดไม่ยอมนะคะพรุ่งนี้คุณต้องให้เวลาปัดหนึ่งวันโอเคไหมคะปัดคิดถึงคุณ ปัดอยากอยู่กับคุณ”
“ได้สิครับ พรุ่งนี้ปัดอยากทำอะไรอยากไปไหนบอกผมมาได้เลย”
“น่ารักที่สุดเลยค่ะงั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
เสียงใสวางสายไปด้วยรอยยิ้มทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะว่าเขาหายไปไหนมาทั้งวันเพียงแต่เธอเลือกที่จะเชื่อใจเขามากกว่าที่จะเก็บมาเป็นอารมณ์ให้ทะเลาะกันเพราะแค่นี้เธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว
“เห้ออออ…”
จอมทัพที่ถอนหายใจหนักๆ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนไปกับเตียงกว้างเขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้นอนคิดไปคิดมาแล้วก็เผลอยิ้มออกมาเสียอย่างนั้นเมื่อนึกถึงใบหน้าของว่าที่ภรรยาของเขาในชุดเข้าพิธีหมั้น..
.
.
.
“ที่นี่แหละอรอาจจะทำให้แกใจเย็นลงมาได้บ้าง”
กรองขวัญพาอรฤดีมาที่ยิมกับเธอด้วยในวันนี้เพราะเมื่อคืนอรฤดีโทรปรึกษาปัญหาชีวิตกับเธออยู่นานสองนานและด้วยความที่ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีทำให้เธอรู้ผ่านน้ำเสียงได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้อรฤดีกำลังเครียดหนักจนต้องหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความเครียดนั้น… ต้องเป็นที่นี่แหละแถมได้สุขภาพด้วย
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
อรฤดีพูดออกมาด้วยท่าทางมุ่งมั่นดีเลยสิ ได้มาออกกำลังกายแก้เครียดแบบนี้ต้องจัดหนักสักหน่อย แล้วสองสาวเพื่อนซี้ก็พากันไปเปลี่ยนชุด คุยกันไปหัวเราะไปตามประสา กรองขวัญเองก็หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาชวนอรฤดีคุยให้เธอได้มีเสียงหัวเราะ
“พลั่ก! ว้ายย/ ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ “
กรองขวัญรีบประคองอรฤดีในทันทีที่ชายหนุ่มแปลกหน้าเดินมาชนเพื่อนของตัวเองจนเซลงไปกับพื้น
ซึ่งคนที่กำลังพิมพ์คุยงานผ่านโทรศัพท์ก็รีบช่วยจับประคองคนตัวเล็กด้วยเช่นกัน
“ไม่ได้เจ็บมากหรอกค่ะ ชั้นไม่เป็นไร “
เมื่ออรฤดีเงิยหน้าขึ้นมาพูดและยืนเต็มความสูงต่อหน้าเขาก็ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกบางอย่างในหัวใจของตัวเองทันที ความสวย ความน่ารักของเธอมันทำให้เขาตกหลุมรักเธอเข้าให้แล้วเต็มๆ
“เอ่อ ผมเดินไม่ดูเองต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ “
เขาพูดออกมาอีกครั้งด้วยแววตาที่จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าแทบไม่ละสายตา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ”
“เอางี้แล้วกันนะครับ ผมรู้สึกไม่ดีถ้างั้นให้ผมเลี้ยงข้าวคุณเพื่อเป็นการขอโทษแล้วกันนะครับ “
เมื่อมีโอกาสแล้วก็ต้องเดินหน้าเท่านั้น เธอตรงสเปกเขาทุกกระเบียดนิ้วขนาดนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ ได้ยังไง
“อย่าเลยค่ะ “
“อย่าปฏิเสธผมเลยครับ ผมเปรมยินดีที่ได้รู้จัก นี่นามบัตรผม”
ตืดดดด ตืดดดดด
ยังไม่ทันที่จะพูดต่อสายสำคัญก็โทรเข้ามาพอดีทำให้เขาต้องจำใจจบบทสนทนากับอรฤดีไว้เพียงเท่านี้ก่อนจะออกไปรับสายสำคัญนั้น
“ยอมใจในความตื้อเลย”
กรองขวัญพูดออกมาเบาๆ ไม่รู้ทำไมรู้สึกคุ้นหน้าเขาแปลกๆ แต่ก็นึกไม่ออก พร้อมๆ กับที่อรฤดีเองก็ใส่หัวแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ มีเรื่องให้ตื่นเต้นแต่เช้าเลยจริงๆ
แล้วสองเพื่อนสนิทก็พากันเข้าไปเดินวอร์มร่างกายก่อนเหมือนทุกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันไปเล่นเครื่องที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง ยิมแห่งนี้เพิ่งเปิดให้บริการมาได้ไม่นานจึงยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ดีว่าอยู่ใกล้กับบ้านของกรองขวัญและส่วนใหญ่คนที่มาใช้บริการก็จะรู้จักที่นี่โดยการบอกแนะนำผ่านปากต่อปากเหมือนเจ้าของยิมเปิดเอาสังคมไม่ได้เปิดเอากำไรอะไรเพราะไม่ว่าจะมาใช้บริการกี่ครั้งก็นับคนได้ทุกทีแต่ก็ดีแบบนี้แหละไม่ต้องแย่งเครื่องกับใครถึงแม้ว่าจะใหญ่โตมีเครื่องให้เล่นครบครันก็เถอะ
“ได้เหงื่อแบบนี้แล้วสมองโล่งดีจัง มีแรงกลับไปสู้อีกอึดใจหนึ่งเผื่อว่าจะได้ไม่ต้องแต่ง”
อรฤดีลงจากเครื่องออกกำลังกายมายืนซับเหงื่อของตัวเองใกล้ๆ กับกรองขวัญที่กำลังวิ่งอยู่
“โอ้โหนี่ยังมีความหวังอยู่อีกเหรอถามจริง คุณพ่อคุณแม่เดินหน้าเต็มที่ขนาดนั้นไม่ต้องแต่งตอนไหนก่อน..”
“ไม่ให้กำลังใจกันเลยว่ะ..เออมีอะไรจะบอกทางฝั่งโน้นเขาก็ถูกบังคับแต่งเหมือนกันได้คุยกันแล้วเมื่อวันไปลองชุด”
“อ้าวงั้นก็ดีเลยดิในเมื่อเห็นพ้องต้องการแล้วก็ไม่ต้องแต่ง”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิเรื่องมันเลยเถิดไปไกลจนเกินจะจินตนาการได้แล้วตอนนี้..โอ๊ยพูดแล้วก็เครียดอีกละไปคาร์ดิโอสักหน่อยดีกว่า”
ตื๊ดๆ
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปโทรศัพท์มือถือของอรฤดีก็มีข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาเมื่อเปิดดูแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ กับข้อความที่เห็นไม่น่าเปิดอ่านเลยจริงๆ
“มีอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“วันมะรืนนี้ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง”
“พรืดดด คิก คิก ไม่มีอะไรจะสุดไปกว่านี้แล้วอ่ะ ลองEnjoy Lifeดูไหมเผื่อจะช่วยได้นี่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดสุดๆ ไม่จบไม่สิ้นอ่ะ”
“กรี้ดดดด !!”
อรฤดีกำมือแน่นแล้วทำท่ากรี้ดแบบไม่มีเสียงออกมาจนหัวสั่นกับชีวิตของเธอในช่วงนี้กรองขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อดขำไม่ได้สงสารก็สงสารตลกก็ตลกไม่รู้จะช่วยยังไงดีได้แต่ปลอบใจกันไปทีละเปาะๆ
“คือคุณอร … คุณอรเธอท้องค่ะ”“พรวดดดดด แค่กๆ” ชาจีนอย่างดีถูกพ่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ ให้ตายเถอะแต่ละวัน หัวใจจะวาย“อะไรนะ แล้วเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมถึงพึ่งมาบอก” “ขอโทษค่ะคุณนายแต่คุณอรกำชับไว้เลยไม่กล้าบอกค่ะคุณนาย” พี่ปลารีบก้มหน้าพูดรัวๆ ออกมาด้วยความกลัวเมื่อเห็นท่าทางของทัศนีย์ในตอนนี้“ฮึ่มมมมแกนะแก” ทัศนีย์รีบเดินไปหาสามีของเธอด้วยความดีใจจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมาแล้วรีบพากันไปที่บ้านของสิริวดีอีกครั้งในทันที “จริงเหรอ เรื่องจริงใช่ไหมแน่ใจแล้วใช่ไหม..” สิริวดีเสียงสั่นเครือเมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอกำลังตั้งท้องอยู่สองมือของคนเป็นแม่สั่นเทาด้วยคความดีใจทำอะไรไม่ถูก“เราไปหาลูกกันเถอะคุณ”คเชนทร์เสนอความคิดพร้อมกับโอบไหล่ภรรยาของตนเองเอาไว้“พวกเราไปด้วยเราก็อยากไปหาหลานเหมือนกันนะ” “งั้นก็ไปกันทั้งหมดนี่เลยแล้วกกัน”ตกลงกันได้อย่างนั้นทั้งสี่คนก็ออกเดินทางไปหาอรฤดีที่บ้านสวนในทันทีกว่าจะถึงก็ใช้เวลาเดินทางอยู่นานพอสมควรแต่กลับเป็นการเดินทางที่ทุกคนรู้สึกว่าช้ากว่าครั้งไหนๆ เพราะตอนนี้หัวในของคนแก่ๆ ไปถึงหลานตัวน้อยๆ ตั้งนานแล้ว ...“วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะคุณอร ดอกไม้บ
หลายวันต่อมา ในงานวันหมั้นของลูกปัดและจอมทัพมีเพียงคนจากสองครอบครัวเท่านั้นไม่ได้จัดยิ่งใหญ่อะไรพิธีถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาวแม้แต่เปรมเองที่ไปทำงานต่างจังหวัดก็พึ่งรู้เรื่องงานหมั้นนี้เห็นแต่ว่าน้องสาวของตัวเองประกาศจะแต่งงานยังคิดว่าเป็นเพียงการสร้างเรื่องเมื่อเห็นแบบนี้ทำให้เขาอดที่จะคิดถึงอรฤดีไม่ได้เลยป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ไม่อยู่บ้านเพียงไม่กี่วันไม่คิดว่าน้องสาวของตนเองจะสร้างเรื่องได้ใหญ่โตขนาดนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกคนพร้อมและถึงเวลาที่จะได้เริ่มพิธีการถึงจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่นักแต่ทั้งสุเมธและทัศนีย์ก็ยิ้มแย้มและให้ความร่วมมือทำตามขั้นตอนพิธีการเป็นอย่างดีจะให้ทำยังไงได้ล่ะก็ลูกชายของเธอไปทำลูกเขาท้องนี่เนอะในท้องของเด็กผู้หญิงคนนั้นมีหลานตัวเล็กๆ ของเธอกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกไหนจะของหมั้นทุกอย่างก็ของดองทุกอย่างก็ไม่ได้ให้น้อยหน้าชื่อเสียงครอบครัวตัวเองได้ ภายในงานเต็มไปด้วยความแช่มชื่นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายถึงจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่แต่ก็รักษาหน้าตาของกันและกันไม่ให้อายสื่อได้ ลูกปัดยิ้มร่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ ในที่สุดวันที่เธอรอคอย
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ