“แล้วพี่ธีร์มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้คะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะ” คำพูดของนลินนาเหมือนน้ำมันราดเข้ากองไฟ ความโกรธของธีรกฤษพุ่งสูงขึ้นทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ใบหน้าของเขาเครียดกว่าทุกครั้งดวงตาคมกริบลุกวาวด้วยโมโห “ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ” “ก็ใช่นะสิ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น พี่ธีร์บอกหน่อยว่าพี่เป็นอะไรกับลิน” หญิงสาวตอบกลับด้วยความโกรธจัด “พี่ก็เป็นผัวเธอไงล่ะ” “มันจะมากเกินไปแล้วนะ” “หรือมันไม่จริงล่ะลิน เรานอนกันไม่รู้กี่ครั้งยังไม่เรียกว่าผัวอีกเหรอ” ธีรกฤษตอบกลับด้วยความโมโหสุดขีด
View Moreเสียงเพลงจากผับดังเป็นจังหวะสนุกสนานกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวรู้สึกคึกคัก ดิสโก้บอลหลากสีเหนือเพดานส่องแสงระยิบระยับไปทั่วบริเวณ
นลินนาหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำตัดขับผิวของเธอให้ดูสว่างท่ามกลางแสงสลัว หญิงสาวกำลังเต้นไปตามจังวะเพลงอย่างสนุกสนาน แก้มเนียนออกสีชมพูระเรื่อเพราะฤทธิ์จากการดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหลายแก้ว ดวงตากลมโตเปล่งประกายไปด้วยแห่งความสุขเพราะเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและจะได้เริ่มทำงานทันที
“ลินพอได้แล้วมั้งแก เมาจนตาเยิ้มแล้วนะ” ธมนวรรณหรือป่านเพื่อนซี้ของนลินนาตะโกนแข่งกับเสียงเพลงแล้วพยายามดึงเพื่อนกลับมานั่งที่เดิม
“นิดหน่อยน่าป่าน นานๆ เมาที” นลินนาตอบเสียงยาน
“อีกแก้วเดียวแล้วเราจะกลับบ้านกัน”
“ก็ได้ๆ อ้าว...ชน....” นลินนายื่นแก้วเหล้าขึ้นชนกับแก้วของเพื่อนหญิงสาวหัวเราะร่วนก่อนจะยกเครื่องดื่มสีสวยเข้าปากอีกอึกใหญ่
ธมนวรรณได้แต่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับความดื้อของเพื่อน แม้จะเตือนแล้วเตือนอีก นลินนาก็ยังคงดื่มต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน
“ป่านพาฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับได้ไหม” นลินนาบอกเพื่อนเพราะเธอมาจนประคองตัวเองแทบไม่ไหว
“เดินช้าๆ” ธมนวรรณพยุงเพื่อนไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็ประคองไปรถด้วยความทุลักทุเล
“อยากนอนแล้ว ไม่หวายยยย...ปวดหัวไปหมด”
“งั้นแกนอนรอที่เบาะหลังไปก่อนนะ ฉันจะไปล้างหน้าสักหน่อย” ธมนวรรณพานลินนาให้ไปนั่งที่เบาะหลังของรถตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลจากผับ
เมื่อพานลินนาเข้าไปในรถแล้วธมนวรรณก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าและเรียกสติให้กลับมาสดชื่นเนื่องจากดื่มไปหลายแก้ว
นลินนานอนอยู่หลังรถได้ไม่นานก็รู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียน เธอจึงลุกขึ้นแล้วรีบเปิดประตูรถลงไปอาเจียนอยู่ข้างทางจนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างหลังจากอาเจียนออกไปจนหมด
ด้วยสติที่เหลือไม่มากเธอพยุงตัวเองให้เดินกลับไปที่รถของธมนวรรณ เมื่อเห็นรถสีดำคุ้นตาที่จอดอยู่หญิงสาวก็เปิดประตูเข้าไปนอนในเบาะหลังอย่างหมดสภาพและผล็อยหลับไปในทันทีโดยไม่ทันสังเกตว่าข้างๆ รถมีผู้ชายคนหนึ่งยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ธีรกฤษนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนุ่มใหญ่วัยสามสิบยืนพิงรถของตัวเองและกำลังคุณโทรศัพท์อยู่เขาจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ที่เบาะหลังมีใครบางคนขึ้นไปนอนอยู่
ชายหนุ่มกลับเข้ามาในรถอีกครั้งเขาเปิดประตูรถฝั่งคนขับและก้าวขึ้นมานั่งโดยไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ บนเบาะหลัง เพราะความมืดของยามค่ำคืน
เขาขับรถออกมาอย่างช้าๆ ในมือยังถือโทรศัพท์คุยสายสำคัญบทสนทนาทางธุรกิจกับคู่ค้ายังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“ครับคุณคิม ผมเข้าใจดีเรื่องเงื่อนไขพวกนั้นดี แต่ผมว่าเราคงต้องคุยกันเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง” ธีรกฤษพูดอย่างจริงจัง ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ใช้เวลาไม่นานนักรถคันงามก็เข้ามาจอดในโรงรถของบ้านหลังสองชั้นทรงโมเดิร์นที่เขาเป็นคนออกแบบแล้วสร้างมันขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
ธีรกฤษดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มเปิดประตูที่ด้านหลังเพื่อจะหยิบเอกสารบางอย่างแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้กลิ่น กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาปะทะจมูกเข้าจมูก ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อว่าบนที่นั่งเบาะหลังมีคนนอนอยู่
“เฮ้ย....คุณ...มาได้ยังไง” ธีรกฤษตกใจมากเพราะจำได้ว่าวันนี้เขาไม่ได้พาผู้หญิงคนไหนกลับมาด้วยอย่างแน่นอน ชายหนุ่มเพ่งมองและพยายามคิดว่าเขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้ไหมแต่เท่าที่จำได้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเลย
“นี่ คุณเป็นใครมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตื่นมาคุยกันก่อน คุณ คุณ” เขาทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวของหญิงสาวแต่เธอก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมาคุย
“อย่ากวนสิป่าน คนกำลังง่วง” หญิงสาวพูดแล้วซุกตัวเข้ากับเบาะรถ
“เดี๋ยวคุณ....ลืมตามาคุยกันก่อน นี่คุณ....” เขาพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเพราะอยากเรียกสติของหญิงสาวที่กำลังเมาไม่รู้เรื่องและอยากรู้ว่าเธอมาอยู่ที่เบาะหลังของรถเขาได้ยังไงและขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน
“อ้อ.... สวัสดีค่ะพ่อ....ทำมายยยยวันนี้พ่อหล่อจังคะ....คืนนี้หนูขอนอนกับป่านนะคะ”
“นี่คุณลืมตามาก่อนผมไม่ใช่พ่อคุณนะ” ธีรกฤษพยายามดึงหญิงสาวให้ลุกจากเบาะหลังเพราะอยากจะถามให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นลินนาเมามากและไม่มีแรงจะต่อต้านหญิงสาวเซมาตามแรงดึงแต่เพราะลุกขึ้นเร็วเกินไปจนทำให้กระเพาะเริ่มปั่นป่วน
แหวะ!..
อาเจียนสีข้นพุ่งออกมาจากปากของนลินนาจนมันไปถูกเสื้อเชิ้ตราคาแพงของธีรกฤษ กลิ่นฉุนเปรี้ยวของอาเจียนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ธีรกฤษยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขารู้สึกขยะแขยงและไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวที่หมดสติไปแล้วอยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ทำได้แค่เพียงถอนหายใจ
“เฮ้อ....ให้ตายเถอะทำไมถึงได้กินเยอะจนเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ด้วยนะ ถ้าใครเขาพาไปทำเรื่องไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง เป็นผู้หญิงอีกด้วยไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะตามหาอยู่หรือเปล่า” เขาบ่นกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดขีด
ชายหนุ่มตัดสินใจอุ้มหญิงสาวร่างในอ้อมแขนที่เปื้อนอาเจียนเต็มไปหมดแล้วพาเข้ามาในห้องรับแขก
“น้าสมร น้าสมร ออกมาช่วยผมหน่อย” ธีรกฤษตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดังลั่นทันทีที่เปิดประตูห้อง
น้าสมรแม่บ้านวัยกลางคนรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพเจ้านายที่เปื้อนคราบอาเจียนและหญิงสาวในอ้อมแขนก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโต
“คุณธีร์ เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ยแล้วเธอเป็นใครคะทำไมถึงไม่ได้สติแบบนี้” น้าสมรถามด้วยความตกใจ
“ไม่รู้เหมือนกันครับน้า ผมกลับมาถึงบ้านถึงรู้ว่าเธอนอนอยู่ แล้วก็อาเจียนใส่ผมเต็มไปหมดเลย” ธีรกฤษรีบอธิบาย
“ตายจริงดูสิหลับไม่รู้เรื่องเลย”
“น้าช่วยพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยครับ เดี๋ยวผมจะอุ้มเธอไปที่ห้องนอนแขก”
“ได้ค่ะคุณธีร์เดี๋ยวน้าจะรีบตามไปจัดการให้”
น้าสมรพยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้านายไปยังห้องนอนแขกที่อยู่บนชั้นสอง
“ฝากด้วยนะครับน้า”
“อย่าห่วงเลยค่ะ น้าว่าคุณธีร์ก็รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะทิ้งไว้นานเดี๋ยวจะล้างออกยากนะคะ”
ธีรกฤษมองเธออีกครั้งก่อนจะกลับมายังห้องนอนของตนเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหงุดหงิด ขยะแขยง และกังวลเล็กน้อยกับหญิงสาวแปลกหน้าที่จู่ๆ ก็อยู่บนเบาะหลังรถของเขา
ชายหนุ่มไม่รู้เธอเป็นใครแต่ถามตอนนี้คงไม่รู้เรื่องเขาจะรอให้เธอตื่นมาในตอนเช้าแล้วค่อยถามอีกทีว่าเธอเป็นใครและมาอยู่ในรถของเขาได้ยังไง
“ที่รักเหนื่อยไหม” เขากระซิบข้างหู ปากก็พรมจูบไปทั่วใบหน้า หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ“ถ้างั้นพี่ว่าลินน่าจะขย่มพี่บ้างดีไหม”พูดจบเขาก็พลิกร่างของเธอให้ขึ้นมานอนอยู่บนตัวเขานลินนาวางมือบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ สะโพกงอนงามบดขยี้แก่นกายด้วยความเสียวซ่าน“โอ่ว...แน่นอะไรอย่างนี้...ลินจ๋า...อ่าส์...อืมม...ดีจัง”ธีรกฤษมองกลีบกุหลาบที่กลืนกินท่อนเอ็นเข้าออกด้วยความซ่านสยิว แม้ว่าเธอจะตัวเล็กแต่ร่างกายของเธอก็โอบรัดเขาไว้ได้จนหมด หญิงสาววนสะโพกไปมาเป็นวงกลม ด้วยแรงปรารถนาที่ลุกโชน“โอ่วว...เสียวจังที่รัก... ลินเก่งจัง...พี่เสียวไปหมดแล้ว...อ่าส์”เขาแทบคลั่งกับทุกการเคลื่อนไหวของคู่หมั้นสาว นลินนาทำทุกอย่างตามจังหวะที่ร่างกายเรียกร้อง เมื่อเห็นใบหน้าสุขสมของคนรักเธอก็ยิ่งเร่งจังหวะอย่างไม่รู้จักเหนื่อย เนิ่นนานจนเสียงครางของชายหนุ่มดังไม่ขาดสาย“อ่า...โอ่ว...ลินจ๋า...แบบนั้นแหละ...อ่าส์...อื้มมม...อูววซ์”“อ๊ะ...อ่าส์...เสียวจัง”หญิงสาวโยกสะโพกขึ้นลงตามอารมณ์ ทุกจังหวะครอบลงมาบนท่อนเอ็นร้อนเสียวจนเธอต้องจิกเล็บลงบนแผงอกกว้าง ธีรกฤษเอื้อมมือมาบีบคลึงเต้านมเพิ่มความเสียว สองนิ้วบี้
เขาเสียวจนต้องครางออกมาอย่างไม่อาจควบคุม ปากหยักดูดกินสองเต้า ความเสียวแล่นไปทุกส่วนของกายเขาขบเม้มเต้างามเพื่อบรรเทาความเสียวที่แล่นพล่านไปทั่ว“อ๊ะ!”ร่างบางสะดุ้งตามแรงกัด ความเสียวซ่านทวีคูณ มือน้อยเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนชายหนุ่มต้องพ่นลมหายใจทางปาก“ที่รัก...ผมจะไม่ไหวแล้ว คุณช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ อูซวซซซ์ แบบนั้น...อ่าส์”เขาครางแทบไม่เป็นภาษา เส้นเลือดรอบท่อนเอ็นบวมปูนจนแทบจะปริ“พร้อมนะที่รัก”ตอนนี้ธีรกฤษเสียวจนเกินจะต้านท่อนเอ็นร้อนมันอยากมุดเข้าไปหาร่องแห่งความสุขจนทนต่อไปไม่ไหว นลินนาไม่ตอบ แต่เธอแอ่นสะโพกขึ้นรอความสุขที่เขากำลังจะมอบให้ชายหนุ่มสอดแทรกท่อนเอ็นเข้าเพียงแค่ส่วนหัวก็ต้องสูดปากระบายความเสียว“ลินจ๋า ไม่เกร็งนะครับคนเก่งของพี่”“อ๊ะ!...”นลินนารู้สึกถึงความแข็งร้อนที่พยายามสอดเข้าร่องสาว ความใหญ่โตของเขาบวกกับการขมิบของเธอที่ทำวันละหลายร้อยรอบ ส่งผลให้ทุกอย่างแทบจะคล้ายกับสาวบริสุทธิ์“อื้ม.....ไมมันคับกว่าเดิมที่รัก พี่จะพยายามให้ลินเจ็บน้อยที่สุดนะ”เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ความคับแน่นของเธอนับวันจะยิ่งมากขึ้นแทบจะแตกใส่เธอทันทีเพียงแค่ได้เข้าไปแค่ส่วนปลายหยัก
เครื่องบินแตะรันเวย์ที่นาริตะในเวลาเช้าธีรกฤษก็จับมือหญิงสาวมารอกระเป๋าจากนั้นเขาก็ใช้บริการรถเช้าเพื่อพาหญิงสาวมุ่งหน้าสู่คาวากุจิโกะเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามที่สุด ทั้งสองเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่นลินนากับเขาช่วยกันเลือก“สวยกว่าที่คิดไว้นะคะพี่ธีร์” นลินนามองออกไปนอกหน้าต่างที่เห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจน ยอดเขามีหิมะปกคลุมตัดกับท้องฟ้าสีครามดูแล้วสวยงามราวกับภาพวาด“ชอบไหม” เขากอดเธอจากด้านหลังเกยคางไว้บนไหล่มน“ชอบที่สุดเลยค่ะพี่ธีร์วิวมันสวยมาก”“ลินจะนอนพักก่อนหรือจะไปเที่ยวดีล่ะ”“มาไกลถึงที่นี่แล้วจะเอาแต่นอนได้ยังไงคะ”ทั้งสองพักที่โรงแรมนี้หนึ่งคืนจากนั้นก็ไปเที่ยวต่อที่เมืองหลวงทั้งคู่ก็พากันไปที่ห้าแยกชิบูย่า หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของโตเกียว นลินนาตื่นตาตื่นใจมากกับทุกสถานที่ที่คนรักพาเธอไป ชายหนุ่มพาเธอไปเดินเล่นที่ฮาราจูกุแหล่งรวมแฟชั่น หญิงสาวเพลิดเพลินกับการเดินชมร้านค้าที่หลากลายมีทั้งเสื้อผ้าสีสันสดใสและของกระจุกกระจิกน่ารักๆนอกจากเดินเที่ยวแล้วเขายังพาเธอไปซื้อสินค้าแบรนด์เนมอีกหลายอย่างทั้งที่เธอพยายามจะปฏิเสธแต่ชายหนุ่มก็ไม่เ
หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็วความรักของนลินนาและธีรกฤษ เติบโตและพัฒนาไปอีกขั้น จากคู่รักที่ต้องผ่านบททดสอบและอุปสรรคมากมาย บัดนี้สถานะของทั้งสองได้ขยับจากแฟนมาเป็น คู่หมั้นอย่างเป็นทางการ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้กลับมาเติมเต็มชีวิตของพวกเขา กำหนดวันแต่งงานถูกวางไว้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเวลาที่ทั้งคู่ตั้งใจจะเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบหลังจากพิธีหมั้นผ่านพ้นไปนลินนาก็ตัดสินใจย้ายมาทำงานที่บริษัทของธีรกฤษตามที่เขาเคยเอ่ยปากชวนไว้ แม้ธีรกฤษจะอยากให้เธอมาทำงานในตำแหน่งเลขาของเขาเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา แต่เธอก็ยังคงยืนกรานที่จะทำงานในแผนกจัดซื้ออย่างที่เธอถนัดและคุ้นเคย“พี่ธีร์คะ ลินเข้าใจว่าพี่อยากให้ลินมาเป็นเลขา แต่ลินมีความสุขกับการทำงานในแผนกจัดซื้อมากกว่าค่ะ ลินถนัดงานด้านนั้นจริงๆ” เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาออดอ้อนธีรกฤษถอนหายใจเล็กน้อย เขาอยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆ เขาจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับในเหตุผลของเธอ“ให้ลินทำงานที่แผนกจัดซื้อนั่นแหละดีแล้วธีร์ อย่างน้อยลินก็จะได้ช่วยดูแลแผนกจัดซื้อเพราะแผนกนี้เป็นแผนกที่สำคัญมาก จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนบริษัทของชัยวัฒน์อีก”
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายที่บ่อนของเสี่ยอำนาจสภาพจิตใจของนลินนาดีขึ้นมาก ส่วนบาดแผลบนใบหน้าของธีรกฤษก็เริ่มจางลง แต่เพราะเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ทั้งเขาและเธอมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นธีรกฤษดูแลเอาใจใส่นลินนาอย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้เขากลายเป็นเงาตามตัวของเธอ คอยรับส่งและอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง ทำให้หัวใจของนลินนาเต็มไปด้วยความอบอุ่นวันเสาร์ธีรกฤษก็มาหานลินนาที่บ้านในเวลาบ่ายเพราะวันนี้ชายหนุ่มมีเรื่องสำคัญจะทำ“ป้าสุรีย์ไม่อยู่เหรอลิน”“ป้าออกไปกับเพื่อนค่ะ พี่ธีร์มีอะไรกับป้าหรือเปล่าคะ”“เปล่าหรอกครับ พี่ก็แค่จขอนุญาตพาลินออกไปข้างนอก”“เราจะไปไหนกันคะกลับดึกหรือเปล่า”“พี่จะพาลินไปทานข้าวที่บ้านแม่ของพี่น่ะ คงกลับไม่ดึกลินโทรบอกป้าก่อนนะท่านจะได้ไม่เป็นห่วง”“พี่จะพาลินไปไหนนะคะ” หญิงสาวถามย้ำเพราะไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงครอบครัวมาก่อนเลยและเธอก็ไม่เคยถาม“ไปบ้านแม่พี่ครับ ลินโทรบอกป้าก่อนนะแล้วพี่จะเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังทีหลัง” เขานัดบิดามารดาไว้แล้วว่าวันนี้จะพาคนรักไปกราบท่าน ที่ผ่านมาเขาไม่ได้เล่าเรื่องครอบครัวให้นลินนาฟังเพราะอยากจะมั่นใจก่อนว่าเขาพร
บรรยากาศภายในบ่อนเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม ผู้คนมากมายกำลังมั่วสุมอยู่กับการพนัน ธีรกฤษไม่สนใจสายตาของใคร เขากวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาเจ้าของบ่อนไม่นานนักเขาก็เห็นชายร่างท้วมคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขากำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ธีรกฤษเดินไปด้วยความมั่นใจว่านั่นคือเสี่ยอำนาจที่นัทธมนพูดถึง“มึงเอาแฟนกูไปไว้ที่ไหนวะ” ธีรกฤษตะคอกเสียงดังลั่นจนผู้คนรอบข้างหันมามองแต่เขาก็ไม่สนใจเพราะมีเพียงนลินนาเท่านั้นที่สำคัญสำหรับเขา“มึงพูดอะไรวะ” เสี่ยร่างท้วมถามอย่างหงุดหงิดเพราะเสียงที่ดังของธีรกฤษทำให้นักพนันหันมามองด้วยความสนใจ“กูถามมึงอีกครั้งว่าแฟนกูอยู่ไหน” เขาตะโกนถามอย่างไม่เกรงกลัวแม้ว่าตอนนี้คนของเสี่ยอำนาจเข้ามายืนล้อมเขาไว้“แฟนมึงคือใครวะ” เสี่ยอำนาจถามอย่างไม่สบอารมณ์“ก็ผู้หญิงที่ไอ้มนตรีมันให้คนไปเอามาส่งให้มึงไงล่ะ เธอชื่อลินเป็นและเธอเป็นแฟนกู”“กูไม่แน่ใจหรอกนะว่าผู้หญิงที่นอนรอกูอยู่ในห้องชื่ออะไร ถ้าเธอตื่นกูจะถามให้ก็แล้วกันนะ แต่ตอนนี้มึงต้องกลับไปก่อน” เสี่ยอำนาจเริ่มเบื่อที่จะคุย“กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้ากูไม่ได้ลินกลับไปพร้อมกู” ธีรกฤษตะคอกกลับ เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเอ
Comments