️คำโปรย️ ในงานคืนนั้น ธนาได้เจอกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง เกือบเกิดเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง บอกตัวเองว่าต้องกลับไปสานต่อจนจบให้ได้ ทว่าเปิดเทอมวันแรก เธอกลับเข้ามานั่งอยู่ในคาบเรียนที่เขาสอน ️ตัวอย่าง️ "อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่าค่ะ ในเมื่อเมื่อคืนคือความผิดพลาดเพราะเราไม่รู้" "คุณมาจูนติดกับร่างกายของผมให้จดจำคุณแล้ว ผมคงต้องบอกว่าไม่ได้" "ก็อาจารย์เจ้าเล่ห์ ล่อลวงเก่ง" เลยทำให้เธอยอมจูบกับเขาไง "คุณพูดซะผมดูเป็นคนไม่ดีเลย ถ้าไม่ชอบผมบ้าง มีหรือที่คุณจะยอมปล่อยตัวให้ผมทำ..จริงไหม" "หนูไม่ได้ชอบค่ะ!" "จริงเปล่า เด็กขี้โกหกต้องโดนพิสูจน์นะ" "ห้ามทำนะคะ! ห้ามทำแบบนี้กับหนู" "ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นไงครับว่าที่คุณพูดมานั่นมันไม่จริง" -พระเอกคลั่งรัก รุกเก่ง นัวเนียเก่ง
ดูเพิ่มเติม'นักศึกษาเคารพ'
เมื่อมีอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในคาบสอน หัวหน้าห้องบอกเพื่อนนักศึกษาทุกคนทำความเคารพอาจารย์ ก่อนจะมีเสียงเล็กเสียงน้อยกระซิบกันไปมาให้ดูผู้ที่เข้ามาสอน
อาจารย์หนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง รีบรับไหว้กลับก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้หลังแท่นไม้สูงๆ
วางหนังสือที่เป็นอุปกรณ์การสอนลง ก่อนจะเปิดจอโปรเจคเตอร์หนึ่งในสื่อการสอนขึ้น ขณะที่รอก็หันมาทักทายนักศึกษา
"แนะนำตัวก่อนเลยแล้วกันนะครับ อาจารย์ชื่อ 'ธนา' สอนวิชาxxxให้พวกเราในเทอมสุดท้าย"
หลังจากที่นักศึกษาชั้นปวส.ไปฝึกงานกันมาแล้วหนึ่งปี คือฝึกเทอมสองของการเรียนปีแรก และฝึกเทอมแรกของการเรียนในปีที่สอง จากนั้นก็กลับมาเรียนต่อในเทอมสุดท้ายอีกห้าเดือน ก็เป็นอันสิ้นสุดชีวิตในรั้ววิทยาลัยในตัวอำเภอแห่งนี้
วันนี้เขามีสอนคาบเช้าสองวิชา และบ่ายอีกสองวิชา นี่เป็นคาบสุดท้ายของวัน ค่อนข้างล้าพอประมาณ
ทั้งที่เป็นวันแรกของการเปิดเทอม ทว่าตารางการสอนก็จัดเต็มให้เขาเหลือเกิน ไม่รู้ว่าผู้อำนวยการที่นี่จงใจแกล้งเขาหรืออย่างไรกัน
เขาเป็นหลานนะ ให้เขาสอนแบบสบายๆ หน่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวเลิกคลาสต้องมีเข้าไปคุย
"ใครมีคำถามอะไรไหมครับก่อนที่ผมจะเริ่มทำการเรียนการสอน"
"หนูมีค่ะ" สาวประเภทสองคนหนึ่งยกมือขึ้น ธนาจึงพยักหน้าให้พร้อมรอฟัง
"อาจารย์หล่อจังเลยค่ะ มีช่องทางให้ติดตามบ้างไหมคะ เช่น เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม หรือติ๊กตอกอะไรแบบนี้ค่ะ"
ทุกคนที่อยู่ในห้องได้ยินอย่างนั้นก็หลุดขำออกมา แต่ธนาเองทำเพียงอมยิ้ม จะว่าชินก็ไม่ชินสักที เขาโดนนักศึกษาแซวมาแบบนี้ทุกครั้งที่เขาเปิดโอกาสให้ถามได้
"แบบว่าพวกหนูจะเอาไว้ติดต่องานค่ะ" บอกออกไปแล้วเอาผมเหน็บหูทั้งที่ตัวเองผมสั้น ก็คนมันเขินอายต่อสายตาคู่นั้น คนอะไรมีเสน่ห์เหลือร้าย มองมาแต่ละทีใจละลาย
เหมือนจะดูนิ่งๆ หยิ่งๆ แต่ไม่ใช่ พอได้ยิ้มเท่านั้นล่ะ โอ้โห! อยากพลีกายถวายตัว
สูงก็สูง ขาวก็ขาว หล่อก็หล่อ ได้ยินข่าวว่าโสดอีกด้วย อีกทั้งเป็นหลานผอ. รูปหล่อแถมยังบ้านรวย แม่จะเข้าเรียนทุกคาบไม่โดดแน่นอน!
ธนาพยักหน้า เหมือนจะรู้ความจริงว่าอยากมาส่องความเคลื่อนไหวของเขามากกว่าว่าไปที่ไหนทำอะไร เขาเล่นจริง แต่ไม่ได้อัปเดตชีวิตจึงไม่ได้ซีเรียสเลยให้ไป
หยิบปากกาเคมีเขียนชื่อเฟสบุ๊คตัวเองลงบนกระดานไวท์บอร์ด เหลือเชื่อว่าทุกคนต่างก็หยิบมือถือขึ้นมาทำการแอดเพื่อนด้วยความไวแสง
ด้วยความที่แต่ละคนต่างก้มหน้ามองลงในมือถือตัวเอง ทำให้อะไรที่แตกต่างไปจากคนอื่นมักตกเป็นเป้าสายตา
ธนากำลังจะอ้าปากถามนักศึกษาคนนั้นว่าไม่บันทึกเหมือนเพื่อนๆ เหรอ เพราะเทอมสุดท้ายจะจบแล้ว หากติดตรงไหนจะได้ทักมาสอบถาม
ทว่าใบหน้าที่เห็นทำเอาคนตัวสูงถึงกับนิ่ง เมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือสาวสวยคนเมื่อคืนที่เจอในงานหมอลำ ที่พ่อผู้ใหญ่บ้านหมู่หนึ่งจ้างมาให้ชาวบ้านดูเนื่องจากงานแต่งของ'เข้ม'และ'ช้องนาง' แถมเขายังได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้านอีกด้วยเมื่อพี่สาวเธอไหว้วาน
ยอมรับว่าบรรยากาศพาไป เมื่อบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่ และเขารู้ว่าพี่สาวของเธอก็ดูจะเป็นใจให้เขาอยู่กับน้องสาวสองต่อสอง
เขาอ้อนจนเกือบได้มีอะไรกับเธอ แต่เพียงแค่จูบเท่านั้น เธอกลับไม่ยอมให้เขาทำต่อ
ส่วนเขาอารมณ์ค้างเติ่ง หมายหัวเธอเอาไว้ว่าต้องกลับไปสานต่อให้สำเร็จแน่นอน เพราะไม่งั้นเขาคงไปต่อกับใครอีกไม่ได้ เพราะมันคงนึกถึงแต่หน้าเธอ
แต่พอเห็นเธอมานั่งอยู่ในคาบที่เขาสอนแทบไปไม่เป็น ในเมื่อเขารับปากกับอาเอาไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับนักศึกษาของตัวเอง
'คำแพง' สบตาอาจารย์หนุ่มแวบเดียวด้วยหัวใจที่เต้นรัว ไม่คิดว่าคนที่เธอเผลอใจยอมให้เขาจูบเมื่อคืนจะมายืนอยู่ตรงหน้าห้องเรียนแบบนี้
เหตุการณ์ที่ว่าจะลืมมันกลับถาโถมเข้ามาในหัว ทั้งกลิ่นและรสสัมผัสของเขายังตราตรึง ถ้าไม่เพราะเมื่อคืนเธอหยุดเหตุการณ์เอาไว้ตรงนั้นคงได้มีอะไรกับเขาไปแล้ว
เขาปากหวานมาก ออดอ้อนเก่ง ทำเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง ถ้าไม่เจอหน้าเขาเธอก็คิดว่าคงลืมไม่ยาก
แต่นี่เธอคงต้องเจอเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเรียนจบ สัปดาห์ละครั้ง จะสลัดเขาออกไปจากหัวได้ยังไงดี
ฝากท้องเสร็จธนาพาว่าที่คุณแม่ไปกินข้าวที่ห้าง ก่อนเราจะไปเดินซื้อของกันอีกนิดหน่อย และเหมือนเดิม หลักๆ คำแพงเลือกซื้อแต่ของกิน เพราะเราจะกลับบ้านของพี่สาวคำแพงกันเขาไม่ขัด เมียอยากไปไหนเขาพาไปได้หมด เข้าใจว่าคำแพงคงคิดถึงพี่สาวและสถานที่ที่เคยอยู่มาเราได้ของกินเต็มไม้เต็มมือแล้วเดินมายังที่จอดรถ เดินทางไปยังหมู่บ้านเนินสามเหลี่ยมคำแพงไม่ได้บอกพี่สาวก่อนว่าจะกลับไปเยี่ยมเพราะกะจะไปเซอร์ไพรส์ และตั้งใจจะไปบอกเรื่องหลานกับพี่ด้วยทว่าพอลงจากรถคำแพงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าพี่สาวไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะตอนนี้มีหนุ่มๆ ที่ไหนก็ไม่รู้กำลังนอนหนุนตักให้พี่คำหล้าหาผมหงอกให้อยู่บนแคร่ไม้"เอื้อยคำหล้า!" (พี่คำหล้า!)คำหล้าเงยหน้าขวับเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตัวเอง ก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าเป็นน้องสาวอย่างคำแพง"คำแพง!" คำหล้าทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะสะกิดให้ฝ่ายนั้นลุกขึ้นนั่ง คำแพงจึงได้เห็นชัดว่าเป็นลูกชายร้านขายหัวอาหารสัตว์ในหมู่บ้านเรานี่เอง"อ้ายอาร์ต" (พี่อาร์ต) คำแพงมองหน้าพี่ชายคนนั้นสลับกันกับพี่สาวตัวเองอย่างขอความเห็น เธอไปนอนบ้านคุณปู่ได้แค่สองวันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น"อ้ายเมือก่อนอ้ายอาร์ต"
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหมูอบสุกเรียบร้อย ธนากะเวลาก่อนหน้าเอาไว้สิบนาทีแล้วตำส้มตำรอ ตักใส่จานเดินออกมาพร้อมกับหมูอบที่ถูกหั่นส่วนคำแพงตักข้าวใส่จานสองใบสำหรับของเขาและของเธอเดินตามออกมา มื้อเช้ามีเพียงเราสองคนที่นั่งกินข้าว"แล้วคุณปู่คุณย่าไม่กินกับเราเหรอคะ" คำแพงถามถึงคนที่อยู่ในบ้านด้วย พวกท่านกลับมาจากไปวัดกันแล้ว"คนแก่ทานสายหน่อยครับ นอกจากช่วงเย็นที่พวกเราจะทานอาหารด้วยกัน ส่วนเช้าฟรีสไตล์ใครหิวก็หากินก่อนได้เลยครับ""อ๋อ" คำแพงพยักหน้าเบาๆ อย่างนี้นี่เอง บ้านเขาอยู่กันแบบสบายๆ จริงๆ"ชิมส้มตำหน่อยครับอร่อยไหม" บอกแล้วใช้ส้อมตักเข้าปากให้เมียสาว คำแพงก็อ้าปากรับเอา สัมผัสแรกคือนัวมากคำแพงพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นให้สามีดู "คุณทำอร่อยมากเลยค่ะ" นัวไม่ติดหวานรสนี้คือใช่เลย"ชิมหมูอบด้วยหน่อยครับ" ใช้ส้อมจิ้มเข้าปากให้เมียอีกที คำแพงก็รีบอ้าปากงับเอา หญิงสาวเคี้ยวตุ้ยๆ สองสามครั้งแล้วบอก"อร่อยค่ะ อร่อยทุกอย่างเลย ขอบคุณที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้ทานนะคะ""ขอบคุณผมให้ทำแบบนี้ครับ" เอ่ยแล้วเอียงหน้าไปหาเมีย คำแพงหอมแก้มสามีฟอดใหญ่ทันที ต่อจากนี้ไปเธอจะหมั่นเติมกำลังใจให้เขาทุกวัน"
ธนาเดินค้ำเอวเข้ามาในตลาดสดคันคายแต่เช้า เมื่อคืนเรานอนที่บ้านของปู่เขากันเขาซื้อที่ดินเอาไว้แปรงนึ่งใกล้บ้านพี่สาวคำแพง แต่กำลังรอทีมช่างก่อสร้าง ทำให้ตอนนี้เราต้องมาอยู่อาศัยที่บ้านของปู่ย่าเขาเสียก่อนเนื่องจากว่าคำแพงบ่นหิวส้มตำแต่เช้า ถ้าจะเอาเงินให้แม่บ้านไปซื้อมาให้ก็ได้ แต่กลัวเมียไม่ประทับใจเขาจะลงมือตำเองก็อยากนอนต่อนะเพราะเมื่อวานร่อนเอวหน้าเวทีจนเมื่อย แต่รับปากคำแพงไปแล้วว่าจะดูแลเธอให้ดีเดินเลือกซื้อของสดในตลาด มะละกอ พริก มะนาว กระเทียม มะเขือเทศ ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ บ้านเรามีครบผมเอาเท่านี้ครับ ธนาบอกกับแม่ค้าขายผักสดแล้วรอคิดตังค์"หกสิบค่ะอาจารย์ แต่คิดสี่สิบพอค่ะ" แม่ค้าขยิบตาให้ ทว่าได้ยินเสียงใครบางคนลอยมาแต่ไกลๆ"แม่งมึงเห็นลูกค้าหล่อๆ ลดให้หมดอีนี่ มิน่ากำไรน้อยลงทุกวันๆ""แน่นอนอยู่แล้ว" คนเป็นเมียไม่เถียงกลับ แต่ยอมรับออกมาหน้าชื่นตาบานธนาอมยิ้มแล้วรับเงินทอนกลับ เดินไปร้านขายหมูต่อ"ผมเอาสันคอสองชิ้นครับ""พริกแกงเผ็ดสิบบาท!" น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากคุ้นหูทำให้ธนาหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นเข้มที่เอามือปิดปากหาวหวอดๆ มายืนอยู่หน้าร้านขายผักเมื่อกี้ กระนั้นแว่นตาก
"สนใจดวลเหล้ากันมั้ยคะผอ."ทุกคนในโต๊ะหันมองขวับ ไม่เว้นแม้แต่ธรรศภาคย์ที่นั่งหันหลังให้อยู่ก็หันกลับไปมองทับทิมมาพร้อมกับเหล้ากลมหนึ่งที่กอดอยู่ในมือแนบอก ส่วนมืออีกข้างมีถุงใส่โซดาประมาณห้าขวด กับกระป๋องใส่น้ำแข็งแบบอะลูมิเนียมใบเล็กมีที่คีบที่ดูเหมือนว่าเพิ่งไปตักจากถังแดงในงานมา"สวัสดีค่ะ" ทับทิมรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกท่านด้วยความนอบน้อมอย่างที่เด็กคนหนึ่งจะสามารถทำความเคารพผู้ใหญ่ได้อย่างสวยงามที่สุดไหว้ย่อจนเข่าแทบถึงพื้นอยู่แล้ว ทำเอาทุกคนหัวเราะร่วนออกมากับท่าทางของเด็กคนนี้ เจอหน้าทีไรมีเรื่องให้ได้ขำทุกที"หนูขออนุญาตชวนผอ.ไปดวลเหล้าได้ไหมคะ"ธรรศภาคย์หันกลับมา กล้ามากเดินมาท้าเขาให้ดื่มต่อหน้าพ่อกับแม่พี่ชายเขา คิดว่าวันนั้นพวกท่านให้ท้ายแล้วอยากทำอะไรก็ได้เหรอ"ป๊อดเหรอคะ"ธรรศภาคย์หันขวับ ท่ามกลางคนที่นั่งร่วมโต๊ะพากันหลุดขำเมื่อได้ยินดังนั้น"นั่นสิ ป๊อดเหรอภาคย์" พี่ชายคนโตถามออกมา"ผมไม่ได้ป๊อด" มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องไปดื่มกับเด็กคนนี้ด้วยล่ะ"งั้นก็เอาหน่อยสิ อย่าให้เสียชื่อบ้านเรา ศึกนี้เพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล" พี่ชายคนโตเป็นคนกระตุ้นน้องชายตัวเองให้รับคำท้
"ฮักเอื้อยคำแพงหลายจนว่าเพิ่นแต่งงานแล้วยังบ่ตัดใจอยู่เนาะอ้ายโจ้" (ชอบพี่คำแพงมากจนว่าเขาแต่งงานแล้วยังไม่ตัดใจอีกนะพี่โจ้)สีดาที่มางานแต่งเหมือนกัน พอเห็นรุ่นพี่ที่เธอรู้จักมองเจ้าสาวคนสวยไม่วางอดเดินมาแซวไม่ได้"เว่าอิหยัง" (พูดอะไร)โจ้กำลังกรึ่มเมามองหน้าเด็กสาวอายุสิบแปดปีในหมู่บ้านตัวเองเดินมานั่งร่วมโต๊ะ เขานั่งคนเดียวเพราะเพื่อนอีกคนเดินไปเข้าห้องน้ำ"สีเว่าถึงอ้ายนั่นล่ะ เอื้อยคำแพงเพิ่นแต่งงานไปแล้วอ้ายกะยังแนมเพิ่นบ่เซาอยู่เนาะ" (สีพูดถึงพี่นั่นแหละ พี่คำแพงแต่งงานไปแล้วพี่โจ้ยังมองเขาไม่หยุดเลยนะ)กินเหล้าไปด้วย มองไปด้วย แบบนี้เขาเรียกว่ากินย้อมใจตัวเองใช่ไหม"แล้วมีปัญหาหยังคันอ้ายสิแนมคำแพง" (แล้วมีปัญหาอะไรถ้าพี่จะมองคำแพง)"กะบ่ได้มีปัญหาหยังดอกถ้าแนมปกติ แต่นี่เพิ่นแต่งงานแล้ว อ้ายฮู้บ่ว่าแนมคนที่เขามีเจ้าของด้วยสายตาแบบนี้มันบ่ดี ถ้าผัวเพิ่นเห็นอาจสิบ่พอใจได้" (ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกถ้ามองปกติ แต่นี่เขาแต่งงานแล้ว พี่รู้มั้ยว่ามองคนมีเจ้าของด้วยสายตาแบบนี้มันไม่ดี ถ้าผัวเขาเห็นอาจจะไม่พอใจก็ได้)สีดาได้ยินแบบนี้ยอมรับว่าน้อยใจ ขนาดพี่คำแพงแต่งงานไปแล้วพี่โจ้ก็ยังดูร
จากนั้นเป็นการเชิญญาติผู้ใหญ่ออกไปทานข้าวพร้อมทั้งรับฟังดนตรีจากหมอลำซิ่งแถวๆ หมู่บ้าน เวทีไม่ใหญ่มาก แต่นักร้องและหางเครื่องเด็ดเลยทีเดียว"นั่งหน้าๆ" เข้มพยักพเยิดหน้าบอกสิงห์กับแสนที่ผูกข้อต่อแขนธนาเสร็จเหมือนกันให้ไปนั่งโต๊ะแดงตรงด้านหน้า แม่งแดนเซอร์งานดีขนาดนี้นั่งไกลได้ไงตากูยิ่งไม่ดีงานทางฝั่งบ้านเมียไอ้ธนาจ้างหมอลำซิ่งมาดู ถึงจะไม่ใหญ่เหมือนหมอลำหมู่งานของเขากับช้องนาง ทว่าเสียงดนตรีจ๊วดจ๊าดมาก ได้ยินแล้วก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกูเต้นตุบๆ มันอยากไปเต้นหน้าฮ้านแต่อันดับแรกกูควรเมาก่อนจะได้ไม่อายใคร ยกมือเรียกเด็กมาเสิร์ฟเหล้าถึงที่ส่วนเมียกับลูกอย่างช้องนางและข้าวสวยนั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับเมียไอ้คินและเมียไอ้ดนย์ ก็คงคุยกันเรื่องลูก ดี วันนี้ไอ้เข้มจะปล่อยผีในตัว!สองหนุ่มจึงเดินตามหลังเข้มไป และเป็นโต๊ะกลางตรงด้านหน้าเวที พอสาวๆ ที่รับหน้าที่เป็นแดนเซอร์เห็นหนุ่มหล่อมานั่งใกล้เด้งใส่ไม่ยั้ง"เหล้ามาถึงยัง" เข้มเมียงมองหาเด็กเสิร์ฟ ช้าจังวะ! กูเปรี้ยวปากไม่ไหวแล้ว ตั้งแต่มีเมียยังไม่ได้ดื่มเลย กินแต่ชาเย็นจนจะเป็นเบาหวานแล้วแม่ง!ธนาเสร็จจากการผูกข้อต่อแขนมองสามหนุ่มที่นั่งอยู
ความคิดเห็น